ปีนี้เป็นปีที่หนังอิหร่านแข็งแรงมากอีกปีหนึ่ง มีผู้กำกับหน้าใหม่ๆเริ่มถูกพูดถึงมากขึ้น และแน่นอนว่าหนังความหลากหลายทางเพศ ประเด็นความเป็นหญิงถูกเชิดชู รวมไปถึงคุณภาพหนังที่โดดเด่นค่อนข้างมาก
สำหรับปีนี้หนังที่ได้ที่หนึ่งคือหนังเรื่อง
Call Me by Your Name ของ Luca Guadagnino
สำหรับปีก่อนๆเป็นดังนี้
2016 : Toni Erdmann ของผู้กำกับ Maren Ade
2015 : The Assassin ของผู้กำกับ Hou Hsiao-hsien
2014 : Li'l Quinquin ของผู้กำกับ Bruno Dumont
2013 : Beyond the Hills ของผู้กำกับ Cristian Mungiu
2012 : Amour ของผู้กำกับ Michael Haneke
Long Live Cinema!
5. 5. The Other Side of Hope (2017, Aki Kaurismäki)
บริบทของมิติของการอพยพ ทั้งผู้ที่พยายามจะอพยพเข้าในประเทศหนึ่ง หรือคนในประเทศหนึ่งพยายามจะอพยพออกไปที่อื่นมันมี
มิติเชิงตัวละคร หรือการตั้งคำถามที่หนังเองเอามาพาดผ่านกันได้อย่างน่าสนใจ และติดความสัมพันธ์ของบริบทที่แตกต่างตรงข้าม
กันในการสร้างคำถามถามกันและกันออกมาได้อย่างน่าสนใจ การวางโครงสร้างทางสังคม วัฒนธรรม และการเมืองโดยเลือกที่จะผูก
เชื่อมโยงมันด้วยคำว่าความหวัง หรือความคาดหวังหนังกลายเป็นจุดแข็งของเรื่องที่ทำให้มันสามารถขยายขอบเขตของความรู้สึกที่
เกิดขึ้นที่ส่งมาหาคนดูได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น
6. Sleep Has Her House (2017, Scott Barley)
ความฝันเมื่อยามหลับไหลไม่ได้มีเพียงความนิ่งงันของเหตุการณ์เกิดขึ้นรายล้อมตัวเราเท่านั้น เมื่อเราเพ่งพินิจไปถึงพื้นที่ของความดำ
มืดที่ซ่อนตัวอยู่ในระยะสายตาที่ห่างไกลออกไป เราจะได้ยินเสียงของลมที่พัด เมื่อเรามองให้ลึกเข้าไปลมจะพัดแรงมากยิ่งขึ้น มีการ
ขยับของเส้นเงาไม้ในความมืดพริ้วไหวไปตามสายลมที่เข้ามาปะทะ อยู่เพียงครู่หนึ่งทุกอย่างก็นิ่งงันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีแต่ตัว
เราและความเงียบงันที่รายล้อมเราในความมืดมิด หรือในแสงสลัวของดวงจันทร์สาดส่องมาเท่านั้น มันเป็นหนังทดลองที่เล่นกับการ
รับรู้ และมุมมองของการรับรู้ผ่านเสียงและภาพได้อย่างยอดเยี่ยม