SlideShare a Scribd company logo
1 of 566
ชีวา
ณ เคหาสน์
ณ อาศรม
ณ อารมณ์
ณ อาลัย
เรียบเรียงโดย เมทนี แสงธรรม
Complied by: Martin Chan
编制者: 马丁 陈
17/03/2566
๑
๑
11.15 AM.
มาตั้งเป้าหมายนิยาย
ให้ตอบโจทย์นักอ่าน
ด้วยแนวคิด The Golden Circle
กันเถอะ!
สวัสดีค่ะนักเขียนชาวเด็กดีทุกคน
มีใครรู้จักไซม่อน ซิเน็ค (Simon
Sinek)
ผู้เขียนหนังสือ
เรื่อง Start with Why กันบ้างไหมคะ
พี่แนนนี่เพน
ชื่นชอบแนวคิดของเขามากๆ เลยค่ะ
โดยเฉพาะแนวคิด
เรื่อง The Golden Circle
ที่ชวนให้เราตั้งคาถามถึงสิ่งที่เรากาลัง
ทาอยู่
โดยตั้งคาถาม
จากข้างในออกไปข้างนอก
แบบ Why > How > What
ที่เน้นตั้งเป้าหมายก่อน
เป็นอันดับแรก
จากนั้น
ค่อยหาวิธีการเพื่อให้ได้มา
ซึ่งสิ่งที่ต้องการ
เป็นอันดับสุดท้ายนั่นเอง
แนวคิดนี้
แม้ว่าส่วนใหญ่จะนาไปใช้ในแง่ของการ
ทาธุรกิจ
และเป็นแนวคิดของนักการตลาดมากก
ว่า
แต่ว่าในมุมของนักเขียน
ซึ่งเป็นผู้สร ้างผลงานคนหนึ่งเหมือนกัน
พี่คิดว่าเราสามารถเอามาปรับใช ้ได้แน่
นอนค่ะ
เพราะว่ามีโควทหนึ่งของซิเน็คที่ดังไปทั่
วบ้านทั่วเมืองบอกเอาไว้ว่า
“People don’t buy what you do;
they buy why you do it.
And what you do simply proves
what you believe”
คนเขาไม่ได้ซื้อสิ่งที่คุณทาหรอกนะ
พวกเขาซื้อ
เพราะเหตุผลที่คุณทามันขึ้นมาต่างหาก
และสิ่งที่คุณทาออกมา
มันก็พิสูจน์ในสิ่งที่คุณเชื่อนั่นแหละ
ถ้าหากลองเทียบ
กับการเขียนนิยายดู
เราจะพบว่า
นิยายที่มีเป้าหมาย
หรือมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน
จะมีการสร้างพล็อต
หรือโครงเรื่องที่ค่อนข้างสมบูรณ์
และกลายเป็นนิยาย
ที่ตอบโจทย์ทั้งตัวเราและนักเอ่านได้ใน
ที่สุด
หากใคร
ยังไม่ได้คิดเลยว่า
เราเขียนนิยายไปเพราะอะไร
พี่ก็อยากชวนทุกคน
มาลองตั้งเป้าหมายให้นิยายของเรา
ด้วยวิธีเหล่านี้ดูค่ะ
หากใครทาได้
นิยายของเราจะดาเนินเรื่องแบบมีมิติ
และเข้าถึงนักอ่านมากขึ้นแน่นอน!
The Golden Circle:
แนวคิดของคนชอบตั้งคาถาม
ก่อนจะไปตั้งเป้าหมายกัน
หลายคนอาจจะสงสัยว่าพูดถึงไซม่อน
ซิเน็คอยู่ดีๆ
ทาไมโผล่มาเรื่องการตั้งเป้าหมายตัวละ
ครได้ล่ะ
อย่างที่พี่ได้พูด
เกริ่นเรื่อง The Golden Circle
ไปแล้วคร่าวๆ
ใจความสาคัญของแนวคิดนี้
ก็คือ การตั้งคาถาม
ในสิ่งที่เรากาลังทาอยู่ยังไงล่ะคะ
คาถามของ The Golden Circle
ก็คือ การตั้งเป้าหมายให้สิ่งที่เราทา
เราต้องรู้จุดมุ่งหมายในสิ่งที่เราทาก่อน
สิ่งที่เราทาออกมา
จึงจะตอบโจทย์ทั้งตัวเราและคนที่ได้รับส
าร
ส่วนวิธีการนั้นก็ต้องตามมาหลังจากเรา
มีเป้าหมายแล้ว
แนวคิด The Golden Circle
ในหนังสือ Start with Why
จะเน้นไปที่
การตั้งคาถามว่า Why, How, What
เป็นการตั้งคาถามจากตัวเราก่อน
ตอนแรกที่เห็น
พี่ก็แอบงงอยู่เหมือนกันว่า
ทาไม อย่างไร และอะไร
จะสามารถตอบโจทย์การทาสิ่งต่างๆ
ได้ยังไง
จนพี่
ลองคิดพลิกแพลงหลายๆ แบบดู
ถึงเข้าใจว่า
สิ่งที่แนวคิด The Golden Circle
ต้องการสื่อ
ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้น
แต่เป็ น “เหตุผล”
ที่ทาให้เกิดสิ่งเหล่านั้นขึ้นมา
ต่างหาก
ดังนั้น
พี่ขอสรุปสั้นๆ ให้เข้าใจกันแบบง่ายๆ
เลยว่า
แนวคิดนี้
ใช้ความเชื่อของผู้สร้าง
ทาให้ผู้คนสนใจ
ในสิ่งที่กาลังเกิดขึ้นนั่นเอง
โดยการเริ่มคาถามแรกด้วย Why
ว่า จุดมุ่งหมาย
หรือความเชื่อของเราคืออะไร
(Belief)
ทาไมเราถึงอยากทาสิ่งๆ นี้ขึ้นมา
เช่น
เราอยากเขียนนิยายเรื่องนี้เพราะอะไร
ไม่ใช่ในแง่ของนักเขียน
ว่าอยากเขียน
ก็เลยเขียนนะคะ
แต่เป็ นเหตุผลในแง่ของความเชื่อ
ว่าฉันอยากเขียนนิยายเรื่องนี้ขึ้นม
า
เพราะต้องการสื่อสารอะไรออกมา
มากกว่า
ต่อมาคือ How
การลงมือทา (Action)
ให้เป้าหมายของเราสาเร็จนั่นเอง
ขั้นตอนในข้อนี้
คือการสรรหาวิธีการต่างๆ
ทั้งการศึกษาหาข้อมูล
หาไอเดียแรงบันดาลใจใหม่ๆ
วางพล็อตเรื่อง โครงเรื่อง
ให้เห็นภาพที่ชัดเจน
เพียงเท่านี้ การเขียนออกนอกทะเล
ก็แทบจะไม่เกิดขึ้นกับนิยายของเราแล้ว
ค่ะ
สุดท้ายคือ What
ผลลัพธ์ที่ได้มาคืออะไร (Result)
ก็คือ การเขียนนิยาย
หรือนิยายที่เขียนจบแล้วนั่นเองค่ะ
ถ้าหากเรามองกระบวนการทั้งหมด
ผ่านสามคาถามนี้
สองขั้นตอนที่สาคัญที่สุด
ก็คือ Why และ How
ซึ่งเป็นแนวคิด
และกระบวนการที่สื่อให้เห็นถึงความใส่ใ
จ
และผลลัพธ์ที่ได้คือสิ่งที่เราทาออกมาด้ว
ยความตั้งใจ
แม้นักอ่านจะไม่ได้รับรู้เป้าหมาย
หรือกระบวนการแรกเริ่มของนิยายที่เรา
เขียน
แต่เนื้อเรื่องและแนวคิดที่สอดแทรกเอาไ
ว้
จะแสดงให้เห็นถึง
ความตั้งใจของนักเขียนได้อย่างดีแน่นอ
น
ลองตั้งเป้าหมายนิยายด้วยแนวคิดนี้กัน!
ปัญหาของในนิยาย
ที่หลายคนอาจจะนึกไม่ถึง
ก็คือ การกระทาของตัวละคร
ในพล็อตเรื่องที่แสดงออกมาได้ซ้าซาก
และชวนให้รู้สึกเบื่อได้ง่าย
เช่น ฮีโร่ที่ต้องการเป็นวีรบุรุษ
และคนเลวที่กระทาแต่เรื่องชั่วช ้า
ตัวละครเหล่านี้
เหมือนแสดงออกมาแค่เรื่องขาวกับดา
ชี้แค่ผิดกับถูก
และชูว่าการกระทาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ก็คือการเสียสละ ไม่เห็นแก่ตัว
และสร ้างสันติภาพให้โลกอะไรทานองนั้
น
ซึ่งการมีตัวละครและพล็อตเรื่องแบบนี้
ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใดนะคะ
พี่เพียงอยากให้ทุกคน
ได้เห็นว่านิยายเดี๋ยวนี้
เล่าเรื่องยังไง
และอยากลองชวนทุกคน
มาตั้งเป้าหมายที่แตกต่างดูบ้าง
เท่านั้นเองค่ะ
ตัวอย่าง
ที่อยากนามาเล่าให้เห็นภาพในวันนี้
อยู่ในหนังสงครามปี 1998
เรื่อง Saving Private Ryan ค่ะ
หนังเรื่องนี้ มีเนื้อหา
เกี่ยวกับการสูญเสียกาลังทหารและชีวิต
ของผู้คนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
โดยเป้าหมายของหนัง
ไม่ใช่การเอาชนะสงคราม
ไม่ใช่การยึดฐานที่มั่นของศัตรู
หรือมีเรื่องโหดร ้าย
เกี่ยวกับนักโทษสงครามแต่อย่างใด
เพราะหนังเรื่องนี้
มีเป้าหมายคือ
การช่วยให้ชายคนหนึ่งได้กลับบ้านอย่า
งปลอดภัยเท่านั้นเองค่ะ
ภารกิจของตัวละครแทบทั้งเรื่อง
ผูกโยงกับพล็อตได้อย่างน่าสนใจเ
ลยค่ะ
เป้าหมายเฉพาะกิจ
ของทหารทั้งแปดคนในเรื่อง
คือ การเข้าไปในสนามรบ
เพื่อพาทหารคนหนึ่งกลับมาให้ได้
โดยที่ทหารแต่ละคน
ต่างไม่เข้าใจว่าทาไมพวกเขาต้องเสี่ยง
ชีวิต
คนส่วนใหญ่เพื่อชีวิตของคนๆ
เดียวด้วย
ซึ่งในท้ายที่สุด
เหล่าทหารก็ทาภารกิจจนตาย
และคนที่พวกเขาเข้าไปช่วยเหลือ
ก็ได้กลับบ้านโดยสวัสดิภาพ
จากตัวอย่าง
เหตุผลที่ทหารเหล่านี้
ต้องไปช่วยเหลือทหารคนหนึ่งกลับบ้าน
ให้ได้ เพราะว่าลูกชายของครอบครัวนี้
ต่างเป็นทหาร
และตายในสงครามทุกคน
เหลือเพียงทหารคนดังกล่าวที่ยังไม่รู้ชะ
ตาชีวิต
ดังนั้น
นี่จึงเป็นภารกิจที่มีเป้าหมาย
เพื่อชดเชยความสูญเสีย
ที่เกิดขึ้นจากสงคราม
ให้กับครอบครัวของทหารที่ยังเหลืออยู่
แม้จะเป็นการตั้งเป้าหมาย
ที่ค่อนข้างเป็นนามธรรม
แต่ก็สามารถสื่อ
ให้เห็นว่าความสูญเสียระหว่างสงครามนั้
น
กระทบจิตใจของคนที่เกี่ยวข้องได้ดี
เรามาลองถอด
เรื่องราวตามแนวคิด The Golden
Circle กันค่ะ
Why - ผลกระทบที่เกิดจากสงคราม
ความสูญเสียของผู้คนที่เกี่ยวข้องกับสง
คราม
How -
สิ่งที่สื่อถึงความสูญเสียได้ดีที่สุด
ก็คือ
คนที่ยังรอคอยการกลับมาของผู้เป็นที่รั
ก
และชีวิตของทหารที่ต้องทาตามคาสั่งผู้
บังคับบัญชา
What - หนังเรื่อง Saving Private
Ryan
การช่วยเหลือชายคนหนึ่ง
ให้กลับบ้านไปหาครอบครัวอย่างปลอด
ภัย
ในท้ายที่สุดนี้
เราสามารถตั้งเป้าหมายได้ง่ายๆ ดังนี้
1. เป้าหมายนามธรรม (แนวคิด)
ที่ต้องการสื่อสารออกไปคืออะไร
2. วิธีการวางพล็อต และโครงเรื่อง
เพื่อให้เห็นนามธรรมที่ชัดเจน
3.
ใครคือตัวละครที่จะทาเป้าหมายของเรา
ให้สาเร็จ
4. เขียนนิยายของคุณออกมาให้จบ
เป็นยังไงบ้างคะ
พอจะเอาไปปรับใช้กันได้ใช่ไหม
จริงๆ
มันเป็นวิธีที่เหมาะสาหรับนักเขียนที่กาลั
งจะสร ้างนิยายเรื่องใหม่ขึ้นมามากที่สุด
แต่หากใครมีนิยายของตัวเองอยู่แล้ว
ก็ลองเอาเป้าหมายเหล่านี้
ไปเพิ่มให้ตัวละครของเราทา
เป็นพล็อตย่อยดู
ก็น่าสนใจไปอีกแบบนะคะ
พี่แนนนี่เพน
หวังว่า
บทความนี้จะทาให้นักอยากเขียน
ทุกคนค้นพบจุดมุ่งหมายในการเขียนนิ
ยาย
และสามารถนาเทคนิควิธีการเหล่านี้
ไปใช้กับตัวละครในนิยายของเราได้นะค
ะ
หากใครอยากได้เทคนิค
หรือทริคเกี่ยวกับอะไรเพิ่มเติม
สามารถคอมเมนต์ไว้ในบทความนี้ได้เล
ยค่ะ
พี่จะพยายามหาเรื่องราวดีๆ มาบอกต่อ
นักเขียนทุกคน
ให้สุดความสามารถเลยค่ะ
^^พี่แนนนี่เพน
33 จัดฮวงจุ้ยบ้านเสริมมงคล รับ
“ตรุษจีนปีขาล”
60 อ.มาศ เผยสูตร หาทิศไตรอสูร
80 ตัวอย่างวิธีดูทิศร้าย
90 วิธีคานวณองศาบ้านออนไลน์ แม่นยายิ่งกว่าเข็มทิศ
113 เลขศาสตร ์: ความหมายของตัวเลข และดาว 9 ยุค
130 พลิกวิกฤติ...ลิขิตดวงดาว 2566
145 โหราศาสตร ์จีน-ความลับในปฏิกิริยา 5 ธาตุของจีน
ตอน 1- Pentagram พลังงานแห่งจักรวาล
193 ปรากฏการณ์พระอาทิตย์ตกตรง 15 ช่องประตู
ปราสาทพนมรุ้ง ปี 2566 นทท.ห้ามพลาด
200 ไขความลับที่ซ่อนในเว็บ ดูดวงจีน ซินแสหลัว
229 การปฏิวัติของโครนอส
243 ดูโหวงเฮ้งจากสีสันของผู้ป่วย
252 เทคนิคการเลือกบ้านอย่างไรให้เฮง
272 กัวหมิง หมายเลขประจาตัวฮวงจุ้ย
287 “คุณเป็ นคนธาตุอะไร???”
302 แต่งเติมสีสันของห้อง ให้ถูกโฉลก ตามธาตุปีเกิด
สารบัญ
318 ฮวงจุ้ย
337 ประวัติฮวงจุ้ยในจีน
346
พาไปส่องเคล็ดลับการจัดฮวงจุ้ยโต๊ะทางานใหม่ให้ถูกทิศ
363 รายงานลักษณะอากาศทั่วไป วันนี้ (20 มี.ค. 66)
367 ตานานเทศกาลบ๊ะจ่าง
370 ความสัมพันธ์ระหว่าง หยิน-หยาง ตามทฤษฎี
แพทย์แผนจีน
415 ฉินจิ๋นซีเป็ นฮ่องเต้องค์แรกของราชวงศ์ฉิน by
DrPK
472 เลือกบ้านหลังสุดท้าย ต้องดูตั้งแต่ดิน
477 “5 เทคนิค” การตัดสินใจ‼
498 เลือกตั้ง วันใด❓
ส่งเสริมดวง พล.อ.ประยุทธ์มากที่สุด
จัดฮวงจุ้ยบ้านเสริมมงคล
รับ “ตรุษจีนปี ขาล”
https://www.bangkokbiznews.com/business/984134
ต้อนรับปีขาล
หรือปีเสือในปี 65
ว่าด้วยศาสตร ์ฮวงจุ้ย
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ธาตุดิน ,
ทิศใต้ ธาตุไฟ จัดบ้าน
ปลูกต้นไม้อะไรถึงจะดีต่อชีวิต
ขณะทิศร ้าย ต้องปรับปรุงพื้นที่อย่างไร?
ให้ชีวิตราบลื่น
เพื่อเสริมมงคลรับตรุษจีนปีขาล
ก้าวย่างเข้าสู่ปี ขาล
ได้เพียงไม่นาน
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-
19
ก็เริ่มกลับมารุนแรงอีกครั้ง
สะท้อนจากจานวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่
างรวดเร็ว
สร ้างกระแสตื่นตัวให้กับผู้คนไม่น้อย
ขณะที่ค่าฝุ่นละออง PM 2.5
ยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง
การใช้ชีวิตท่ามกลางโรคภัย
และมลพิษทางอากาศเช่นนี้
การเสริมมงคล
ให้การอยู่อาศัยภายในบ้าน
คงหนีไม่พ้น
เรื่องการแก้ไข
ให้อากาศที่หายใจกันอยู่ทุกวัน
บริสุทธิ์เพียงพอ
เพื่อให้มีสุขภาพที่ดีห่างไกลโรคภั
ยไข้เจ็บ
ซึ่งถือได้ว่าเป็ นมงคลกับชีวิตยิ่งกว่
าสิ่งใด
ว่าด้วยเรื่องทิศ
และการเสริมมงคลนั้น
ปรมาจารย์
ทางด้านศาสตร ์ฮวงจุ้ย
หลายท่าน
เห็นตรงกันว่าในปี 2565
ซึ่งปีนักษัตรตรงกับปีขาล
ทิศที่ดี ได้แก่ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ธาตุดิน
ส่งเสริมด้านการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร
การเสริมพลังในทิศนี้
ท่านแนะนาให้ปลูกต้นไม้สีเขียวให้ร่มเง
า
สร ้างความร่มเย็นให้กับชีวิต
ทิศใต้ ธาตุไฟ
ส่งเสริมด้านชื่อเสียง
การยอมรับจากคนรอบข้าง
แนะนาให้
จัดเป็ นที่นั่งทางานใช้ความคิด
ควรตกแต่งด้วยสีโทนร ้อน
เช่น สีแดง
หรือติดตั้งโคมไฟให้แสงสว่างเพิ่มพลังห
ยาง
เพื่อให้เกิดความเคลื่อนไหวโดยตลอด
การเลือกใช ้สอยพื้นที่บ้านในสองทิศนี้
ให้มีความสอดคล้องกับกิจกรรมในด้าน
ดังกล่าว
จะช่วยให้งานราบรื่น ได้ผลดี
ตามหลักการออกแบบอาคาร
จากข้อมูลเอสซีจี โฮม
ระบุว่า ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
จัดเป็นทิศรับกระแสลมเย็นตามธรรมชา
ติ
ในช่วงฤดูหนาวของไทย
เพื่อเพิ่มการหมุนเวียนอากาศ
ภายในบ้านตามปกติ
จึงควรเปิดประตูหน้าต่างรับลมทางทิศนี้
อาจปลูกต้นไม้
ช่วยสร ้างร่มเงาบังแสงแดดร ้อน
ในช่วงสาย
เพิ่มความชื้นให้กับอากาศที่แห้ง
และดักจับฝุ่นละอองบางส่วน
ซึ่งปัจจุบันการเปิดรับลมธรรมชาติโดย
ตรง
อาจมีความเสี่ยงกับเชื้อโรค
รวมทั้งฝุ่นละอองขนาดเล็ก
ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
ในวันที่แอปพลิเคชั่น
แสดงค่าฝุ่นละอองในอากาศสูง
ดังนั้น หากต้องการเปิดรับลมธรรมชาติ
จึงควรปรับปรุง
คุณภาพอากาศที่จะนาเข้ามาใช ้ภายใน
บ้าน
ให้เป็นอากาศบริสุทธิ์เสียก่อน
ด้วยการดูดอากาศจากภายนอก
นามาผ่าน
ระบบกรองฝุ่นของเครื่อง ERV
(Energy Recovery Ventilation)
และผ่านการดักจับเชื้อโรค
ของเครื่องสร ้างประจุอิออนลบ (Ionizer
Air Purifier)
นอกจากนี้
เครื่อง ERV
ยังสามารถระบายอากาศเสียออกจากบ้
านได้อีกด้วย
เมื่ออากาศภายในบ้านบริสุทธิ์
ไร ้ฝุ่น ไร ้เชื้อโรค
สมาชิกภายในบ้านย่อมมีสุขภาพที่ดี
ถือเป็นมงคลชีวิต
ทิศใต้
จัดเป็ นทิศรับแสงแดด
เกือบตลอดทั้งวัน
การปรับปรุงพื้นที่บ้านส่วนนี้
ให้สามารถนั่งทางานได้ยาวนานขึ้
น
จึงจาเป็ นต้องลดความร้อน
และความสว่างจ้าจากแสงแดด
ช่วงสายจนถึงช่วงเย็น
ด้วยการติดตั้งหลังคากันสาด
ที่มุงด้วยแผ่นโปร่งแสง
ยื่นยาวออกมาปกคลุม
พื้นที่ภายนอกบ้าน
ร่วมกับการติดตั้งไม้ระแนง
หรือแผ่นไม้เทียมฉลุลวดลาย
เพื่อลดปริมาณแสงแดด
ที่จะส่องผ่านประตูหน้าต่าง
เข้ามายังพื้นที่นั่งทางาน
ทาให้ยังคงได้
ทั้งแสงสว่างธรรมชาติที่พอเหมาะกับกา
รใช้งาน
และลดความร ้อนไปพร ้อม ๆ กัน
นอกจาก
การเสริมมงคลในทิศที่กล่าวมาแล้วนั้น
ปรมาจารย์
ทางด้านศาสตร ์ฮวงจุ้ย
หลายท่าน
ลงความเห็นว่า
ยังมีทิศร ้าย
ที่ควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปใช ้งาน
วิธีลดพลังร้ายของทิศทาง
คือควรปรับปรุงพื้นที่นั้น ๆ
เพื่อให้ส่งผลเสียน้อยลง
สาหรับทิศร ้าย
ได้แก่ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ธาตุดิน
ส่งเสริมด้านการปกป้องคุ้มครอง
การอุปถัมภ์ครอบครัว การเสริมมงคล
โดยทิศนี้
ท่านแนะนาให้จัดพื้นที่ให้สะอาด
เป็นระเบียบเรียบร้อย
และควรติดตั้งโคมไฟเปิดให้สว่างอยู่เสม
อ
และอีกทิศที่ถือว่าเป็นทิศร ้าย
ในปี 2565 นี้
คือ ทิศเหนือ ธาตุน้า
ส่งเสริมด้านการงานอาชีพ ธุรกิจ
ในทิศนี้
แนะนาไม่ให้ทาการทุบรื้อ
ปรับปรุง ต่อเติมใด ๆ
ที่จะเป็นการทาให้เกิดการกระทบกระเทื
อน
ควรทิ้งให้สิ่งร ้ายตั้งอยู่นิ่ง ๆ และ
ควรจัดพื้นที่ให้สะอาด
และสว่างอยู่เสมอเช่นกัน
หากพูดกัน
ตามหลักการออกแบบอาคาร
ทิศตะวันตกเฉียงใต้
จัดเป็นทิศรับลมร ้อนชื้น
ในช่วงฤดูร ้อนถึงฤดูฝนของไทย
การเปิดประตูหน้าต่าง
รับลมทางทิศนี้
จาเป็นจะต้องเก็บกวาด
พื้นที่บริเวณนั้นให้สะอาด
และไม่มีสิ่งของตั้งกีดขวางทางลม
เพื่อให้การหมุนเวียนอากาศคล่องตัว
และได้รับอากาศดีเข้าบ้าน
ส่วน ทิศเหนือ
จัดเป็นทิศที่ได้รับความร ้อน
จากแสงแดดน้อย
มีแสงสว่างตามธรรมชาติ
ตลอดทั้งวัน
จึงเหมาะกับ
การใช ้งานเป็นพื้นที่นั่งอ่านหนังสือ
หรือทากิจกรรม
ที่ต้องการความถูกต้องแม่นยาของสี
เช่น การเพ้นท์สีรูปวาด เป็นต้น
ดังนั้น
พื้นที่บ้านทั้งสองทิศนี้
ยังคงสามารถเข้าไปใช้สอยได้ตามปกติ
ซึ่งถือว่าสอดคล้องตามหลักของของฮว
งจุ้ย
ตามที่ปรมาจารย์หลาย ๆ
ท่านได้กล่าวมา
การปรับบ้านเสริมมงคล
ตามศาสตร ์ฮวงจุ้ย
ไม่ได้พิจารณา
เพียงแค่ทิศทางเท่านั้น
แต่ยังทาการพิจารณา
ในมุมมองของที่ตั้งรูปลักษณ์
ดวงชะตา และฤกษ์ยาม ควบคู่ไปพร ้อม
ๆ กัน
ดังที่ปรมาจารย์ทางด้านศาสตร ์ฮวงจุ้ยท่
านหนึ่ง
ได้กล่าวสรุปเป็นหลักการ
ในการปรับบ้านเพื่อเสริมมงคลเอาไว้สั้น
ๆ
อย่างน่าสนใจว่า "หลีกเลี่ยงเคราะห์ภัย
มุ่งหามงคล"
อ.มาศ เผยสูตร
หาทิศไตรอสูร
https://www.facebook.com/MasFengShui/?locale=th_TH
ในทุกๆปี
มีทิศร ้ายแรงประจาปี
ซึ่งไม่ควรไปละเมิด กระทบกระเทือน
ก่อให้เกิดการสั่นสะเทือน หรือเสียงดัง
ณ ทิศดังกล่าว
ซึ่งทิศร ้ายในทางฮวงจุ้ย
ที่ควรทาความรู้จักและระวังไว้
ก็คือ "ทิศไตรอสูร"
หรือ "ซานซา / ซาสัวะ"
• ถ้าปีใดเป็นปีวอก ชวด มะโรง
คือ...ทิศใต้
• ถ้าปีใดเป็นปีกุน เถาะ มะแม
คือ...ตะวันตก
• ถ้าปีใดเป็นปีขาล มะเมีย จอ
คือ...ทิศเหนือ
• ถ้าปีใดเป็นปีมะเส็ง ระกา ฉลู ...คือ
ตะวันออก
คาว่า....ซาสัวะ
ซา แปลว่า...3
สัวะ แปลว่า...อสูร
ตั้งชื่อแบบไทยๆ ว่า...ทิศไตรอสูร
หรือเรียกสั้นๆว่า ทิศอสูรประจาปี
(จริงๆแล้ว พลังร้ายประจาเดือน, วัน,
ยาม
ก็คานวณแบบเดียวกัน)
เงื่อนไขที่จะไปรบกวนพลังของทิศ
นี้
มี 2 ประการ คือ
1. ในปีใดที่บ้านของเรามีทิศหลังบ้าน
...เป็นทิศอสูรประจาปี ก็จะไม่เป็นมงคล
ส่วนถ้าเป็นบ้านปัจจุบันซึ่งอยู่มานานแล้
ว
ก็ห้ามเริ่มซ่อมแซม ต่อเติม ตอก เจาะ
ตอกตะปู
รื้อถอน ตกแต่ง ทาพื้น ปูกระเบื้อง
ขัดหิน
ปรับปรุง หรือ ซ่อมแซมสิ่งของ
ที่ทาให้เกิดเสียงดังหรือสั่นสะเทือน
ทั้งภายนอกและภายในตัวบ้าน
รวมไปถึง
การโยกย้ายเฟอร ์นิเจอร ์โต๊ะ ตู้ เตียง
เปลี่ยนทิศหัวนอน
การตั้งน้าพุ ตู้ปลา ขุดบ่อน้า
ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ พัดลม
ติดรูปภาพ เดินสายไฟ ขุดลอกท่อน้า
ติดวอล์เปเปอร ์
ตอกเสาเข็ม ติดป้าย เปลี่ยนหลังคา
ขุดดิน เปิดร ้านใหม่
(หมายเหตุ
แต่ถ้ากาลังสร้างอยู่แล้ว
ต่อเนื่องมาจากปี ก่อน
ก็จะถือว่าไม่เป็ นอะไร)
จะมีภัยนานาประการ
เช่น เจ้าบ้านตายจาก อุบัติเหตุ
พิการ อัมพาต เจ็บป่วยรักษายาก
โรคเรื้อรัง เสียทรัพย์โจรภัย
โดยหากเป็นบ้านที่สร ้างเสร็จใหม่
และทิศหลังบ้านพิงทิศอสูรประจาปี
ก็ห้ามย้ายเข้าบ้านในปีนี้
ต้องรอไปถึงหลัง 22 ธ.ค. เข้าสู่ปีใหม่
จึงจะสามารถย้ายเข้าอยู่ได้
นอกจากนี้...
ก็ยังห้ามการฝังศพ
ที่หันศีรษะคนที่เสียชีวิต
พิงชี้ไปทางทิศนี้
จะส่งผลต่อชะตาชีวิตของลูกหลานอย่า
งรุนแรง
2. สาหรับบ้านที่หันทิศอื่นนั้น
ก็แค่...ห้ามกระทาเฉพาะทิศที่เป็นทิศอสู
รของบ้าน
ไม่ว่าจะเป็นภายนอกหรือภายในตัวบ้าน
ทั้งการซ่อมแซม ต่อเติม ตอก เจาะ
รื้อถอน ขุดดิน
ตัดต้นไม้ ตัดกิ่งไม้ใหญ่
ซ่อมท่อ ถนน กาแพง หรือผนังบ้าน
หากทาโดยไม่ได้ดูฤกษ์
อาจไปกระตุ้นพลังไม่ดีประจาปี
ซึ่งจะทาให้เกิดผลร ้ายขึ้นมาได้
อย่างรวดเร็วภายใน 1-7 วัน
และผลร ้ายจะยังคงอยู่อย่างน้อย 4 เดือน
บางทิศทาง
อาจส่งผลร ้ายต่อเนื่องถึง 12 ปี
และเกิดเหตุอย่างน้อย 3 เรื่อง
ถ้าอยู่ในช่วงดวงชะตาอ่อน
หรือดวงตก
อาจถึงแก่ชีวิต ก่อนวัยอันสมควร
ซึ่งหากจาเป็นต้องกระทา
ให้สอบถามเรื่องฤกษ์ยามก่อนเสมอ
หมายเหตุ :
ถ้าช่วงไหนรู้สึกว่ามีปัญหา
หรือเรื่องร ้ายต่างๆนานาเข้ามาในชีวิต
หรือมีเหตุผิดปกติกับสุขภาพ การงาน
การเงิน
โดยไม่ทราบสาเหตุ
ลองคิดย้อนกลับไปว่า
รอบๆบ้านของท่านทางทิศร ้ายประจาปีนี้
ก่อนที่จะเกิดเหตุเลวร ้ายไม่เกิน 1-2
สัปดาห์
ได้มีการกระทาใดๆในข้อ 1 และ 2
ที่เป็นการรบกวนพลังงานของทิศนี้
โดยไม่ได้ดูฤกษ์ยามหรือไม่
ท่านอาจได้ละเมิด...ทิศร ้ายแรง
ในทางฮวงจุ้ย...โดยไม่รู้ตัว
จึงควรปรึกษาท่านผู้รู้ผู้ชานาญ
เพื่อหาวิธีการแก้ไข
หากตรวจสอบ
จนมั่นใจแล้วว่า
ภายในบ้านของเราไม่ได้ทา
ให้ลองเช็คว่า
บ้านอื่นรอบข้างทุกๆทิศ
มีการกระทาใดๆ ที่
ทาให้เกิดกระทบกระเทือน
หรือเสียงดัง
(แม้ว่าจะอยู่นอกรั้วบ้านเรา)
ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นพลังร ้าย
ให้ส่งเข้ามายังบ้านของเราหรือไม่
เช่น อาจเกิดจากทางราชการ
มาซ่อมถนน ท่อน้า ตัดต้นไม้
ข้างบ้านกาลังซ่อม
หรืออื่นๆ
หากพบแล้ว
ก็ให้เช็คว่า
จุดที่เขากระทาเป็นทิศใดของบ้านท่าน
ให้รีบโทรศัพท์
ไปสอบถามซินแสที่รู้จัก
เพื่อหาวิธีการแก้ไข
(จาเอาไว้ว่า : ไม่ทาทิศร ้าย
จะไม่เกิดเรื่องร ้าย !)
โดยในปีพ.ศ.2566 นี้
พลังของทิศไตรอสูร
จะอยู่ทางทิศตะวันตก
โดยกินพื้นที่
เลยไปทางตะวันตกเฉียงใต้
และตะวันตกเฉียงเหนือด้วย
อีกอย่างละครึ่งทิศ ‼
หากไปรบกวนส่วนใดส่วนหนึ่งของทิศนี้
ก็จะทาให้เรื่องร ้ายๆ
ที่ไม่คาดฝัน
เกิดขึ้นมาติดๆกันถึง 3
เรื่องเป็นอย่างน้อย
เพราะคาว่า"ซานซา หรือ ซาสัวะ" นั้น
หมายถึงพลังร ้ายทั้ง 3 นั่นเอง
ถ้าจาเป็น
จะต้องกระทาการทุบเคาะตอกเจาะ
ซ่อมแซมหรืออื่นๆ
ก็ให้เริ่มจากทิศทางที่ดีที่ปลอดภัย
เคาะแรงๆอย่างน้อย 5-10 นาที
แล้วเคาะไล่ต่อเนื่องไปถึงทิศที่ต้องการซ่
อมจริง
ค่อยลงมือทา
(18 มี.ค.2566)
กรมอุตุนิยมวิทยา
พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า
ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคกลาง
รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
และภาคตะวันออก
มีอุณหภูมิสูงขึ้น
โดยมีอากาศร ้อนกับมีฟ้ าหลัว
ในตอนกลางวัน
ทั้งนี้ เนื่องจากความกดอากาศต่า
ความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน
ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉี
ยงใต้
ยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน
ทาให้บริเวณดังกล่าว
มีฝนฟ้ าคะนองบางแห่งเกิดขึ้นได้
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอน
บน
ดูแลรักษาสุขภาพ
เนื่องจากสภาพอากาศที่ร ้อนขึ้น
ในระยะนี้ไว้ด้วย
ตัวอย่างวิธีดูทิศร้าย
http://bit.ly/3FxMUVq
เดือนสิงหาคม 2562
ทิศตะวันตกเฉียงใต้
มีดาวจร 2 + 5
ในวิชาดาวเหิน
ถือว่าเป็ น คู่ดาวอันตรายที่สุด
ประตูบ้านทางทิศนี้ต้องระวังเหตุร ้าย 💥
ผมมีทาตัวอย่างวิธีการใช้ผังดาวจร
และ ผังทิศอสูร
มีข้อสงสัยสอบถามในคอมเมนต์หรือแน
ะนาได้ครับ
ทานายดวงบ้านจากทิศประตู
ระหว่างวันที่ 8 ส.ค. – 8 ก.ย. 62
🚪
เบื้องต้นให้ยืนกลางบ้านหรือกลางห้องน
อน…
ถือเข็มทิศหันหน้าไปประตู ได้ทิศแล้ว
ก็ดูความหมายในผัง
🛡 วิธีป้ องกันและแก้ไข
บทบาทดาวไม่ดี
(E) ตะวันออก
ดาว 3 ทะเลาะ 💢
ประตูทางทิศนี้จะมีเรื่องวิวาทะ วุ่นวาย
วิธีแก้ไข
บ้านเรือนติดสัญลักษณ์กั้วดาว 4
(ปัญญา)
ร ้านค้า สานักงาน ไม่ต้องแก้ไข
(SW) ทิศตะวันตกเฉียงใต้
ดาว 2 ป่วย (+ วิบัติ) 💉💥
ประตูทางทิศนี้
ระวังเหตุเลวร้าย เจ็บป่วย มีอุปสรรค
วิธีแก้ไข
ติดสัญลักษณ์กั้วดาว 9
ติดสัญลักษณ์กั้ว (โลหะ)
ดาว 1 บริเวณประตู (ถึงต้นปีหน้า)
ให้ราดน้า 5 ถัง (ขัน)
บริเวณดังกล่าวทุกต้นสัปดาห์
(W) ตะวันตก
ดาว 7 ขุนโจร 💂♂
ประตูทางทิศนี้
บ้านอยู่อาศัย
ระวังเรื่องเสียหาย สูญหาย แย่งชิง
วิธีแก้ไข
บ้านเรือนติดกั้วดาว 6
ร ้านค้า สานักงาน ติดกั้วดาว 9
🗓
ฤกษ์ติดและยกเลิกแผ่นดาวกาเนิด
กั้ว
วันพฤหัสที่ 8 สิงหาคม 2562 เวลา
11.30 – 12.30 น.
วันเสาร ์ที่ 14 กันยายน 2562 เวลา
07.30 – 08.30 น.
Jo@sinsae.com
วิธีคานวณองศาบ้านออ
นไลน์
แม่นยายิ่งกว่าเข็มทิศ
https://www.banidea.com/set-compass-by-punplan/
วิธีตรวจวัดองศาที่ดิน
คานวณองศาง่าย ๆ
แม่นยายิ่งกว่าเข็มทิศ
ในงานออกแบบบ้าน
หากต้องการคานวณทิศทางองศา
อย่างละเอียด
การดูพระอาทิตย์ขึ้นลง
เพียงอย่างเดียว
อาจทาให้เกิดความคลาดเคลื่อนได้
โดยเฉพาะ
การออกแบบ
ที่มีศาสตร ์ฮวงจุ้ย
เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ยิ่งต้องใช ้ความละเอียดสูง
ซึ่งปกติ ซินแส
จะเลือกใช้หล่อแก
มาตรวจวัดจุดต่าง ๆ ของบ้าน
เพื่อให้องศาทิศทาง
เหมาะสมลงตัวกับการจัดวางองค์ประกอ
บ
ตามหลักธาตุทั้ง 5 ในทางฮวงจุ้ย
แต่การวัดด้วยหล่อแก
ในบางครั้ง
อาจถูกสนามแม่เหล็กรบกวน
เช่น ตาแหน่งเสา, ตาแหน่งที่มีโลหะ
เป็นผลให้การคานวณ
มีค่าที่ผิดเพี้ยน
ไปจากความเป็นจริง
เนื้อหาชุดนี้
“บ้านไอเดีย”
ได้พูดคุยกับนักออกแบบ
จาก บริษัท ปันแปลน
ซึ่งปกติมีบริการออกแบบบ้านออนไลน์
จึงสอบถามรายละเอียด
ถึงวิธีวัดองศา
วัดด้วยวิธีไหนโดยไม่ต้องไปดูหน้างานจ
ริง
สนับสนุนโดย : Punplan
ผู้เขียน : อภิสิทธิ์สุธาประดิษฐ ์
ในยุคปัจจุบันนี้
สามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า
เทคโนโลยี
มีผลต่อชีวิตประจาวันเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะ
เทคโนโลยี
ที่ช่วยให้การติดต่อสื่อสาร
เป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว
อีกทั้งยังมีความแม่นยาสูง
ดังตัวอย่าง
การทางานของทีมออกแบบปันแป
ลน
ที่ปัจจุบัน
มีผลงานออกแบบบ้านอย่างน่าสนใจ
และมีหลาย ๆ หลัง
ที่ทีมงานไม่เคยเจอเจ้าของบ้าน
และไม่เคยไปไซด์งานจริงเลย
บางหลัง
เจ้าของบ้านอยู่ไกลถึงประเทศอิตาลี
และวางแผนกลับมาสร้างบ้านที่ไทย
แล้วจึงให้บริษัท ปันแปลน
ออกแบบบ้านรอไว้ กลับมาไทยเมื่อไหร่
จะได้เริ่มสร้างทันที
ผู้จัดการงานออกแบบ
บ.ปันแปลน
เล่าถึงขั้นตอนการสารวจหน้างาน
ให้กับทีมงาน
ฟังว่า
ก่อนอื่นต้องทราบเลขโฉนดที่ดินก่อน
จากนั้น
ทาการค้นหาตาแหน่งที่ดิน
บนระบบค้นหารูปแปลงที่ดินของกรมที่ดิ
น [https://dolwms.dol.go.th]
ซึ่งจะได้พิกัด GPS มาด้วย
หากได้พิกัด GPS มาแล้ว
สามารถนาไปต่อยอดงานอื่น ๆ
ได้อีกมากเลยครับ
เช่น
สามารถดูภาพรวมปัจจุบัน
ผ่านแผนที่ทางดาวเทียม,
ดูหน้างานผ่าน Google Street
View,
และเช็คองศาทิศทางได้อย่างแม่น
ยา
โดยองศาดังกล่าว
สามารถนาไปวิเคราะห์ทิศทางลม
แสงแดด
และตาแหน่งในการวางผังฮวงจุ้ย
เริ่มวัดองศาที่ดินกันเลย
1.เข้าเว็บไซต์
[https://setcompass.com]
เว็บไซต์ดังกล่าว
ออกแบบ
มาเพื่อใช ้สาหรับงานแผนที่โดยเฉพาะ
หนึ่งในฟังก์ชันสาคัญ
คือ การวัดค่าองศาทิศทางออนไลน์
ข้อดีของการวัดออนไลน์
จะให้ค่าองศาที่แม่นยาสูงมากครับ
อีกทั้งยังได้ภาพถ่ายทางดาวเทียม
ที่มีการอัพเดทอยู่เสมอ
มาใช้ประกอบในงานออกแบบได้อย่างส
ะดวก
หลังจากเข้าเว็บแล้ว
จะพบกับหน้าแรก
ซึ่งมีเมนูหลายอย่างให้เราได้เลือกใช ้งา
น
ในขั้นตอนนี้
ให้เลือก Draw Single Leg Route
2. ป้ อนข้อมูลพิกัด GPS
หลังจากเลือก Draw Single Leg
Route แล้ว
ระบบจะนาเข้าสู่แผนที่
โดยค่าเริ่มต้นอยู่ที่ประเทศ Spain ครับ
ให้ทาการป้อนพิกัด GPS
ตาแหน่งที่ดิน ที่ต้องการวัด
จากนั้นกดปุ่ม Submit
3. เลือกการแสดงผลแบบ
Satellite Map
สาหรับการใช ้งานเกี่ยวกับที่ดิน
แนะนาให้เลือกการแสดงผลภาพถ่ายดา
วเทียม [Satellite Map]
จะช่วยให้ใช ้งานสะดวกยิ่งขึ้น
เพราะค่าเริ่มต้นเป็นเพียงแผนที่สีขาว
ยากที่จะทราบขอบเขตของที่ดินจริง
ส่วนภาพถ่ายดาวเทียม
สามารถมองเห็นถนน
มองเห็นที่ดินได้อย่างชัดเจน
4. โชว์เข็มทิศ เลือก Show
Compass
มาถึงขั้นตอนที่รอคอย
กับเครื่องมือเข็มทิศออนไลน์
ที่จะช่วยให้เราสามารถวัดองศาทิศทางไ
ด้
โดยไม่ต้องเดินทางไปหน้าที่ดิน
แต่สามารถวัดและคานวณ
ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร ์ได้อย่างสะดวก
คลิกที่ปุ่ม Show Compass
ได้เลยครับ
5. ปรับเลื่อนตามต้องการ
หลังจากเข็มทิศแสดงให้เห็นแล้ว
ค่าเริ่มต้นเข็มทิศ
จะถูกวางในตาแหน่งทิศเหนือเสมอ
ผู้ใช ้สามารถเลื่อนหมุนตามเครื่องมือ
หมายเลข 6
และปรับระยะเข็มให้ยาวขึ้นได้ในเลข 7
เพื่อใช ้สาหรับอ้างอิงตาแหน่งที่ต้องการ
วัด
เพียงไม่กี่ขั้นตอน
ก็สามารถหาองศาทิศทางได้อย่าง
สะดวก
ตัวอย่างดังกล่าว
หากสร้างบ้านหันหน้าเข้าถนน
บ้านจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออก
ทามุม 110.42 °
ทาให้วิเคราะห์รายละเอียดงานสถาปัตย
กรรม
จัดวางตาแหน่งช่องลมเข้า ช่องลมออก
ทิศทางแสงได้อย่างเหมาะสม
ในงานของปันแปลน
จะมีการวิเคราะห์ฮวงจุ้ยให้ด้วย
จากการใช้งานจริง
การวัดออนไลน์แม่นยายิ่งกว่าวัดเองครั
บ
เนื่องจากการวัดออนไลน์
ผู้ใช้จะมองเห็นแกนอ้างอิงได้อย่างแม่น
ยา
ส่วนการวัดจริง
เพียงแค่เลื่อนมือเอียงเล็กน้อย
หรือบริเวณดังกล่าวมีสนามแม่เหล็กรบ
กวน
องศาย่อมคลาดเคลื่อน
ยิ่งหากใครใช ้แอปเข็มทิศบน Smart
Phone มาวัด
ยิ่งอาจผิดพลาดได้
เพราะจากการทดสอบจริง Smart
Phone แต่ละรุ่น
ให้ค่าที่แตกต่างกัน
และนี่คือตัวอย่างผลงานบางส่วน
จากเพจ Punplan
ที่เกิดจากการใช ้เข็มทิศออนไลน์
ช่วยงานออกแบบครับ
สาหรับบทความชุดนี้
บ้านไอเดีย
ขอขอบคุณทีมออกแบบปันแปลนอย่างยิ่งครับ
ท่านใดต้องการออกแบบบ้านใหม่
กาลังมองหาสถาปนิก
แต่ไม่สะดวกกับการไปพูดคุยถึงออฟฟิศ
ทางปันแปลนมีบริการออกแบบออนไลน์
คุยงานผ่าน Line ได้อย่างสะดวก
แถมยังสามารถชวนสมาชิกภายในครอบครัว
มาร่วมวงสนทนา
เพื่อบอกโจทย์ความต้องการได้อีกด้วยครับ
ปรึกษางานออกแบบได้ที่
แฟนเพจ : fb.punplan | Line ID :
@Punplan
เลขศาสตร ์:
ความหมายของตัวเลข
และดาว 9 ยุค
https://thaiza.com/horoscope/belief/302891/
ความหมายของตัวเลข
มีความสาคัญอย่างไรบ้าง?
จากข้อมูล
ตามหลักการของตาราฮวงจุ้ย
ที่เราเรียกว่า ดาว 9 ยุค
โดยคนจีน
ได้กาหนดตาแหน่งของตัวเลข
ความหมายของตัวเลข
ดังต่อไปนี้
ดวงวันนี้
ความหมายของตัวเลข
มีความสาคัญอย่างไรบ้าง?
จากข้อมูล
ตามหลักการของตาราฮวงจุ้ย
ที่เราเรียกว่า ดาว 9 ยุค
โดยคนจีน
ได้กาหนดตาแหน่งของตัวเลข
ความหมายของตัวเลข
และกาหนดโซนนิ่งของแต่ละโซน
ประกบคู่ไว้กับตัวเลขต่างๆ ทั้ง 9 ตัว
ดังต่อไปนี้
ความหมายของเลข 1
เป็นเลขตัวแทนแห่งการเปลี่ยนแปลง
การเริ่มต้นใหม่ การกาเนิด
การไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
การปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น
ดาวยุค 1 นี้
คือช่วง ปี 2407 -2426
ซึ่งจะเป็นดาวประจา
อยู่ในแถบประเทศ มหาสมุทรแปซิฟิก
ดังนั้นในช่วงปีดังกล่าว
ประเทศ ไซบีเรีย นิวซีแลนด์
จะมีบทบาทสาคัญต่อโลก
ถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงและการเริ่มต้น
ต่างๆ
ความหมายของเลข 2
เป็นเลขตัวแทนแห่งอานาจ
การเจ็บป่วย ความทุกข์ความขมขื่น
ดาวยุค 2 นี้
คือช่วงปี 2427- 2446
ซึ่งจะเป็นดาวประจา
อยู่ในแถบประเทศอเมริกาใต้
ดังนั้นในช่วง 20 ปีนั้น
ประเทศ เวเนซุเอลา บราซิล เปรู
จะมีบทบาทสาคัญต่อโลก
ถึงเรื่องความวุ่นวาย ต้นตอของโรค
และความป่วยไข้
ความหมายของเลข 3
เป็นเลขตัวแทนแห่ง พละกาลัง
การใช้กาลัง การแย่งชิง
สงคราม การยึดครอง
ดาวยุค 3 นี้
คือช่วงปี 2447 – 2466
ซึ่งจะเป็นดาวประจา
อยู่ในแถบประเทศเอเชียตะวันออกเฉียง
ใต้
ซึ่งก็ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5
ของพวกเรา
ที่ทาให้เราเสียดินแดนไปจานวนมาก
แต่ประเทศรอบข้างทั้งหมด
ตกเป็นอาณานิคมของต่างชาติ
ในทางกลับกัน
ประเทศสยาม
ซึ่งได้รับอานิสงค์จากดาวดวงนี้
ก็ทาให้สยามเจริญถึงขีดสุดเช่นกัน
ความหมายของเลข 4
เป็นเลขตัวแทนแห่ง บัณฑิต
ปัญญา นักคิด นักปราชญ์ผู้รู้
ความสร ้างสรรค์
ดาวยุค 4 นี้
คือช่วงปี 2467 – 2486
ซึ่งจะเป็นดาวประจา
อยู่ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง
และยุโรป 20 ปี
ดังนั้นประเทศ สวีเดน ฟินแลนด์
โปรแลนด์
อิรัก อิหร่าน ซาอุดิอาระเบีย
จะมีบทบาทสาคัญในการนาของโลก
จะมีแนวคิดต่างๆเกิดขึ้นมากมาย
ความเจริญรุ่งเรือง
จะอยู่ในกลุ่มประเทศดังกล่าวในช่วงเวล
านั้น
ความหมายของเลข 5
เป็นเลขตัวแทนแห่ง ความนิ่งเฉย
ดื้อเงียบ
สงบแต่พร ้อมจะระเบิด อุดตัน สับสน
วุ่นวาย
เลข 5 นี้
เป็นประเภทอารมณ์แปรปรวน
เหมือนสาววัยทอง
ต้องระวังเป็นอย่างมาก
ช่วงปีของดาว 5 ที่มีบทบาทคือช่วงปี
2487 – 2506
ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 10 ปีแรก
บทบาทจะอยู่ที่แถบประเทศในกลุ่มดาว
4
และอีก 10 ปีถัดมา
บทบาทของดาวจะส่งผลต่อประเทศ
ในกลุ่มประเทศ แคนนาดา
อเมริกาฝั่งตะวันตก
ความหมายของเลข 6
เป็นเลขตัวแทนของ ขุนนาง ยศศักดิ์
ตารวจ ทหาร อานาจ ผู้ปกครอง
เจ้าเมือง การใช้อานาจ
ดาวยุค 6
มีบทบาทในช่วงปี 2507 – 2526
ซึ่งดาวนี้
จะประจาอยู่ในกลุ่มประเทศอเมริกาฝั่งต
ะวันตก
ได้แก่ แคนนาดา โคลัมเบีย
และอเมริกาฝั่งตะวันตกทั้งหมด
จะมีอานาจในการกาหนดทิศทางของโล
ก
โดยการวางตัวเป็นตารวจโลกควบคุมผู้
อื่น
ความหมายของเลข 7
เป็นเลขตัวแทนของ การแย่งชิง
การปล้นทรัพย์
การแตกแยก ทหารแตกทัพ
ความวุ่นวาย ว้าวุ่น
ดาวยุค 7
คือช่วงปี 2527 – 2546
ซึ่งดาวนี้
จะประจาอยู่ในกลุ่มประเทศอเมริกา
แคนนาดา
ซึ่งในช่วงปีดังกล่าว
อเมริกา จะรุ่งเรืองสุดขีด
จนส่งผลให้ อเมริกาเป็นมหาอานาจ
ในการกาหนดทิศทางของโลกทั้งการเมื
อง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน
การทหาร ความวุ่นวาย
ความหมายของเลข 8
เป็นเลขตัวแทนของ ผลประโยชน์
การเงิน การค้า
ลาภผล การได้มา เศรษฐกิจ
ความรุ่งเรือง ความก้าวหน้า
ดาวยุค 8
จะอยู่ในช่วงปี 2547 – 2566
ซึ่งดาวนี้จะประจาอยู่ในกลุ่มประเทศเอเ
ชีย
และเอเชียตะวันออก
อันได้แก่ประเทศจีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง
ไต้หวัน เกาหลี เวียดนาม ลาว
ฟิลิปปินส์อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย
ดังนั้น
บทบาทการกาหนดทิศทางของโลก
จะมาอยู่ที่จีน และญี่ปุ่นเป็นหลัก
ซึ่งได้รับอิทธิพลจากดาวนี้โดยตรง
และก็จะทาให้กลุ่มประเทศที่ผมได้พูดมา
แล้วนั้นเจริญก้าวหน้าเป็นอย่างมากเช่น
กัน
ความหมายของเลข 9
เป็นเลขตัวแทนของ ความยินดี ปีติ
อิ่มเอิบ สุขใจ ความสุข ความสมหวัง
ดาวยุค 9 คือช่วงปี 2567 – 2586
ซึ่งดาวดวงนี้
จะประจาอยู่ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโร
ป นอร ์เวย์สวีเดน อังกฤษ ฝรั่งเศส
เป็นต้น
ซึ่งในยุคหน้าที่กาลังจะเกิดขึ้น
กลุ่มประเทศเหล่านี้
จะเป็นผู้นาในการแสวงหาความสุขให้แ
ก่โลกนี้
ความพอเพียง
การใช ้ชีวิตที่ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไ
ป
และจะเปลี่ยนวิธีการจากการแสวงหาด้ว
ยทุนนิยมมาเป็นความสุขนิยม
เปลี่ยนวิธีการวัดผลประเทศด้วย GDP
เป็นการวัดด้วย GHP
เหมือนกับประเทศภูฐาน
เราก็ทราบแล้วนะครับ
ว่าความหมายของเลขแต่ละตัวเป็นอย่าง
ไร
ทีนี้ก็ลองดูนะครับ
ว่ามันจริงตามนี้หรือเปล่า
สรุปง่ายๆ ว่า
ตัวเลขที่อยู่ในกลุ่มตัวเลขที่ดี ได้แก่
เลข 1 , 4 , 8 และ 9
ส่วนตัวเลขที่อยู่ในกลุ่มกลางๆ ได้แก่ 3
, 6 และ 7
ส่วนตัวเลขที่อยู่ในกลุ่มที่ไม่ดี ได้แก่ 2
และ 5 ครับ
คาแนะนา
ก็คือว่าในยุคนี้ ประเทศจีน
และกลุ่มประเทศในยุค 8 มีบทบาทมาก
ดังนั้น
ถ้าเราจะทาธุรกิจหรือการค้าอะไร
ก็ควรจับตามกระแส
กลุ่มลูกค้าที่มาจากประเทศเหล่านี้
รับรองได้เงินใช้แน่นอน
สุดท้ายนี้
ผมก็อยากจะบอกว่า ลิขิตฟ้ า
ไม่สู้ลงมือทาครับ
พลิกวิกฤติ...ลิขิตดวงดา
ว 2566
http://www.fengshuibizdesigner.com/request.php?id=254&&sub=aus
picious
ถึงแม้ว่าการจัดวางฮวงจุ้ยตามหลักที่ตั้ง
ชัยภูมิ กระแสทิศทาง กระแสทางน้า
หรือแม้แต่ยุคกาลเวลาสมัย ฯลฯ
จะเป็นปัจจัยหลักเบื้องต้นที่จะต้องคานึง
ถึง
แต่การจัดวางฮวงจุ้ยปีต่อปี
หรือการจัดฮวงจุ้ยประจาปี
“流年風水”(หลิ่วนี้ฮวงจุ้ย)
เป็นอีกหนึ่งวิธี
ที่จะช่วยในการจัดการบริหารชีวิตให้ผ่า
นพ้นวิกฤติหรือเสริมส่งความสาเร็จให้เ
ป็นไปได้อย่างราบรื่นตลอดทั้งปีได้
การจัดฮวงจุ้ยประจาปี
“流年風水”(หลิ่วนี้ฮวงจุ้ย)
เป็นการประสานความสัมพันธ์ระหว่างทิ
ศทั้ง 8 กับตาแหน่งการโคจร ของกลุ่ม
9 ดาวเหนือ
ก่อเกิดปฏิกิริยามหามงคลหรืออวมงคล
ตามอิทธิพลของดาวจรประจาปีที่สลับสั
บเปลี่ยนหมุนเวียนโคจรตามวงรอบวัฎจั
กรของระบบจักรวาลผูกพันกับผู้ที่ใช ้ชีวิ
ตประจาในทิศทางนั้นๆ
โดยใช้หลักคัมภีร ์ดาวเหินม่วงขาว
“紫白飛星”(จี๋แป๊ ะปวยแช)
ในศาสตร ์วิชาฮวงจุ้ยจีนโบราณขั้นสูง
ที่เหล่าบรรดาซินแสชั้นนา
ใช ้เป็นเครื่องมือวิเคราะห์และปรับเสริมทิ
ศทางประจาตาแหน่งในแต่ละปี
ปีพ.ศ.2566นี้
โหราศาสตร ์จีน
จะนับตั้งแต่วันเสาร ์ที่ 4 กุมภาพันธ์
เวลา 10:42 น.ถึง วันอาทิตย์ที่ 4
กุมภาพันธ์พ.ศ.2567 เวลา 16.26 น.
เป็นปีเถาะน้า 癸卯(กุ๊ยเบ้า) ธาตุทอง
ที่มีกระแสพลังแห่งทิศมงคล
ไหลหลั่งมา 2 ทิศทางด้วยกัน
คือ ทิศเหนือและทิศใต้
โดยมีกระแสพลังทิศ 3 อสูร
“三煞”(ซาสั่วะ)
มาทางทิศตะวันตก
และมีกระแสปะทะทิศแตกหักประจาปี
“歲破”(ส่วยผั่ว) ที่ทิศตะวันตก
ตาแหน่ง 262.5 ถึง 277.5 องศา
พร ้อมทั้งมีกระแสดาวห้าเหลือง
“五黄”(โหงวอึ๊ง)
อยู่ที่ทิศตะวันตก/เหนือ
โดยมีดาวสี่เขียว “四綠”(ซี๊เล็ก)
เข้ากลาง
กระจายกระแสพลังดี/ร ้าย
ประจาตาแหน่งภูมิเดิมทั้ง 9 ทิศ
ส่งผลกระทบต่อชีวิตที่ผูกพันกับทิศทาง
นั้นๆตลอดทั้งปี
โดยจะเริ่มคานวณ
ตาแหน่งดาวเหินม่วงขาว
“紫白飛星”(จี๋แป๊ ะปวยแช)
ที่จุดศูนย์กลางของอาคาร บ้าน
หรือห้องพักต่างๆ กระจายกระแส
พลังประจาตาแหน่งทั้ง 8 ทิศที่เหลือ
ทิศละ 45 องศารวม 360 องศา
กาหนดเป็นทิศรุ่งเรือง ทิศอานาจ
ทิศโชคลาภ
ทิศวิบัติ ทิศเคราะห์ร ้าย ทิศโรคภัย
ทิศภัยโจร ฯลฯ
เพื่อหลีกเลี่ยงและปรับแก้ทิศอวมงคล
ตลอดจนเลือกสรรและเสริมส่งทิศมหาม
งคล
ด้วยการเลื่อนปรับ
ขยับขยายเคลื่อนย้าย
ตาแหน่งสาคัญๆที่ผูกพันในชีวิตประจา
วัน
ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ เตียง ตู้เก็บเงิน
หรือแม้แต่ประตู ฯลฯ
เพื่อเปิดรับโชคลาภโภคทรัพย์
ณ ตาแหน่งทิศทางนั้นๆได้อย่างเต็มที่
หรือหากไม่สามารถดาเนินการดังกล่าว
ได้
ก็จะจัดหาเครื่องรางที่เป็นสื่อพลังเบญจ
ธาตุ
เพื่อบั่นทอนหรือเสริมส่ง
ธาตุประจาดาวเหิน
ที่สถิตในทิศทางนั้นๆ
ทิศกลางบ้าน (ทิศมงคล)
ปีนี้มีดาวสี่เขียว “四綠”(ซี๊เล็ก)
แทนสัญลักษณ์ด้วยดาวเลข 4 ธาตุไม้
เป็นดาวมงคล ดาวแห่งบัณฑิต นักคิด
นักปัญญา นักปราชญ์วิชาการความรู้
ความสร ้างสรรค์ความสาเร็จ
มีโชคลาภทางความรู้มีข่าวดี มีชื่อเสียง
บุญวาสนา จรมาเยือนสถิตที่ใจกลาง
ส่งผลดีต่อนักปราชญ์นักวิชาการ
นักเรียน นักศึกษา
จะมีสติปัญญาที่ดีเลิศบังเกิดความคิดริเ
ริ่มสร ้างสรรค์เชี่ยวชาญในสรรพวิชา
การเรียนดี การศึกษากว้างไกล
จะเกิดการพัฒนาก้าวหน้าด้วยประสิทธิ
ผลเจริญรุ่งเรืองเป็นพิเศษ
กระตือรือร ้นจนได้ปรับเลื่อนขั้นตาแหน่ง
หน้าที่การงานที่สูงขึ้น
มีเหตุมีผล
คงความสดใสแลดูมีชีวิตชีวา
เสริมสร ้างเสน่ห์เมตตา
จนคนรอบข้างนิยมชมชอบ
ถึงแม้ว่าโสดอยู่บนคานมานานก็จะพบคู่
ผู้รู้ใจ
ทั้งยังมีฝีปากในการเจรจาให้ลูกค้า
ผู้อุดหนุนเนืองแน่น
ได้รับแรงส่งเสริมสนับสนุน
จากคนรอบข้างมากยิ่งขึ้น
ส่งผลดีต่อการทาการค้า
หรือประกอบธุรกิจส่วนตัวเป็นพิเศษ
ช่วยให้โดดเด่นตัวเลขขยับรายรับ
เพิ่มพูนอย่างเป็นกอบเป็นกา
โชคลาภเงินทองหลั่งไหลเพิ่มพูนตลอดเ
วลา
ยิ่งหากรับราชการ
ยิ่งโดดเด่นกว่าผู้อื่น
จะโชคดีมีความสุขเงินทอง
รุมล้อมมั่งคั่งร่ารวย
หากต้องการผลลัพธ์ที่เพิ่มพูนยิ่งๆขึ้นใน
ตาแหน่งประจาที่ผูกพันทางทิศกลางบ้า
น
ควรจัดวางไม้ดอก ไม้ประประดับ
ใส่แจกันทรงกระบอกทรงสูง
หรือเครื่องหอมสมุนไพรใบหญ้า
เพื่อช่วยเสริมพลังดาวมงคลดาวสี่เขียว
“四綠”(ซี๊เล็ก) ให้ก่อเกิดผลพวงที่ดี
ส่งผลให้อุปสรรคน้อยใหญ่
ปัญหาคลี่คลาย
จากร ้ายกลายเป็นดีทุกสิ่งทุกอย่างจะสาเ
ร็จลุล่วงด้วยดีตลอดทั้งปี 2566
ทิศตะวันตก/เหนือ (ทิศอวมงคล)
ปี 2566 นี้
มีดาวห้าเหลือง “五黃”(โหงวอึ๊ง)
แทนสัญลักษณ์ด้วยดาวเลข 5 ธาตุดิน
เป็นดาวอวมงคล
ดาววิบัติ ความสับสนวุ่นวาย ตีบตัน
โรคร ้ายภัยเวร สูญเสีย แตกแยก
ความนิ่งเฉย
ดื้อเงียบ สงบแต่พร ้อมจะระเบิด
เสมือนเป็นชนวนแห่งการทาลายล้าง
ที่พร ้อมจะจุดปะทุขึ้นได้ทุกขณะ
เมื่อจรมาประจา
อยู่ทางทิศตะวันตก/เหนือ
ส่งผลแต่ในด้านลบกระทบให้เสียหาย
การเงินตึงตัว
จนกลายเป็นวิกฤติขาดสภาพคล่องหนั
ก
การงานจะติดๆขัดๆเกิดอุปสรรคปัญหา
หนทางตีบตันไม่ราบรื่น
มีแต่เรื่องหงุดหงิดสับสนวุ่นวาย
สร ้างความกดดันต่อระบบประสาท
กระทบถึงระบบสมองตื้อให้คิดอะไรไม่ค่
อยออก
จนกลายเป็นโรคเครียดให้สุขภาพร่างก
ายย่าแย่เจ็บป่วยง่าย
ที่แข็งแรงก็จะเจ็บป่วย
ที่อ่อนแอก็จะคงๆทรุดๆ
บางรายเคราะห์ซ้ากรรมซัด
อาจเจ็บหนักจนถึงแก่ชีวิต
ควรหลีกเลี่ยงบริเวณทิศทางดังกล่าว
ที่ผูกพันประจาชีวิต
พร ้อมละเว้นการกระทบถึงดิน
ไม่ว่าจะตอก ทุบ ขุด เจาะ รื้อถอน
หรือต่อเติม
ทั้งควรปล่อยให้โล่ง โปร่ง สะอาด
จัดเป็นระเบียบเรียบร้อย
ตลอดจน
แขวนกระดิ่งลมโมบายโลหะคู่เลข 4-9
พร ้อมยันต์8 ทิศ
จะช่วยบั่นทอนกระแสพลังดาวห้าเหลือง
“五黃”(โหงวอึ๊ง) ได้
เมื่อแท่งโลหะคู่เลข 4-9 กระทบต้องลม
จะก่อเกิดเป็นพลังเสียงสะท้อนก้องกังวา
น
หลายจังหวะแปรเปลี่ยนสภาพเสียง
เป็นกระแสพลังธาตุทองที่แข็งแกร่ง
คลี่คลายสลายกระแสพลังร ้ายให้อ่อนกา
ลัง
ทุเลาเบาลงจนสลายไป
ทั้งยันต์8 ทิศจะสะกดพลังอัปมงคล
กระจายสลายพลังด้านลบให้ทุเลาเบาบ
างลง
พร ้อมขับไล่ภยันตรายให้แคล้วคลาด
และปัดเปาเคราะห์ร ้ายภัยเวร
ให้ปราศจากโรคร้ายภัยเวร
เสริมส่งทรัพย์สินเงินทอง
ครอบครองความสาเร็จ
บรรลุผลในสิ่งที่มุ่งหวังไว้
ชีวิตประสบแต่ความสาเร็จราบรื่นรุ่งเรือง
บังเกิดแต่ความสิริมงคล
ตลอดทั้งปี 2566 นี้
โหราศาสตร ์จีน
ความลับในปฏิกิริยา 5 ธาตุของจีน
ตอน 1- Pentagram
พลังงานแห่งจักรวาล
https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-50/2016-09-26-02-33-02/73-2010-01-16-14-
52-47/1596-5-1-pentagram.html
ในหลักปรัชญาของจีน
รวมถึงโหราศาสตร ์ดวงจีน ฮวงจุ้ย
แพทย์แผนจีน
มักกล่าวถึง
หลักการก่อเกิด(ส่งเสริม)
และหักล้าง(ควบคุม)พลังซึ่งกันและกัน
ของ ธาตุ(พลัง)ทั้ง 5 ธาตุ อยู่เสมอๆ
ซึ่งหลายๆท่านอยากจะรู้ที่มาที่ไป
ว่ามากจากไหน
คิดคานวนกันอย่างไร
ให้ติดตามอ่านบทความนี้ไปจนครบทุก
ๆตอน
ซึ่งจะช่วยให้ท่านเข้าใจอภิปรัชญาขั้นสู
งนี้ได้มากยิ่งขึ้นตลอดจนนาไปปรับใช ้ร่
วมกับแนวคิดที่ในศาสตร ์ที่ท่านกาลังศึ
กษาอยู่
รูปทรงเรขาคณิตของเพนตาแกรม
เพื่อที่จะได้เข้าใจ
รากฐานของปรัชญา 5 ธาตุนี้
ท่านจะต้องค่อยๆทาความเข้าใจ
ไปทีละขั้นตอน
ซึ่งคนจานวนมาก
เข้าใจว่าหลักปรัชญา 5 ธาตุของจีน
เป็นระบบอีกระบบหนึ่ง
เป็นของเฉพาะตัว
และไม่เหมือนกับ
หลักปรัชญาของศาตร ์ตะวันออกอื่นๆ
ซึ่งเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากค
วามเป็นจริง กรุณาอ่าบทความ
สองบทความนี้ประกอบ
ดวงจีน-ดวงไทย ใช่อื่นไกลพี่น้องกัน
–วิเคราะห์ทฤษฎี หลักฮะ ซาฮะ
地支六合,三合与泰式命理学。
https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-50/2016-09-26-02-33-02/73-2010-01-16-14-
52-47/1592-2014-04-18-06-55-03.html
ความแตกต่างเรื่อง “ธาตุ” ทั้ง 5 ของจีน
กับ ธาตุ 4 แบบไทยและฮินดู
https://www.astroneemo.net/index.php/2016-08-07-05-21-50/2016-09-26-02-33-02/73-2010-01-16-14-
52-47/1590-5-4.html
ในกรณีนี้
เราจะมาอธิบาย
ที่มาที่ไปของระบบปฏิกิริยา 5 ธาตุ
กันก่อน
บทความที่แล้ว
ได้อ้างถึง 5 ธาตุ
ว่ามาจากดาวเคราะห์5 ดวง
ในระบบจักราศี
นั่นก็คือ
1.ดาวเสาร ์(ดาวพลังธาตุดิน)
2.ดาวศุกร ์(ดาวพลังธาตุทอง)
3.ดาวพุธ (ดาวพลังธาตุน้า)
4.ดาวพฤหัส (ดาวพลังธาตุไม้)
5. ดาวอังคาร (ดาวพลังธาตุไฟ)
ซึ่งเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า
ทั้ง 5
มีลักษณะส่งเสริมกันและควบคุมกันซึ่งกั
น
จนเกิดความสมดุล
และเกิดพลังงานขึ้นมาได้
แผนภูมิอธิบายความสัมพันธ์ระบบ 5
ธาตุ
ก.ในด้านส่งเสริมและก่อเกิด
1) (พลังดาว) ธาตุดินก่อเกิด/ส่งเสริม
ธาตุทอง หรือ ดาวเสาร ์土星
เสริมพลังให้กับ ดาวศุกร ์金星
2) (พลังดาว) ธาตุทองก่อเกิด/ส่งเสริม
ธาตุน้า หรือ ดาวศุกร ์金星
เสริมพลังให้กับ ดาวพุธ水星
3) (พลังดาว) ธาตุน้าก่อเกิด/ส่งเสริม
ธาตุไม้ หรือ
ดาวพุธ水星เสริมพลังให้กับ ดาวพฤหัส
木星
4) (พลังดาว) ธาตุไม้ก่อเกิด/ส่งเสริม
ธาตุไฟ หรือ
ดาวพฤหัส木星เสริมพลังให้กับ
ดาวอังคาร火星
5) (พลังดาว) ธาตุไฟก่อเกิด/ส่งเสริม
ธาตุดิน หรือ
ดาวอังคาร火星เสริมพลังให้กับ
ดาวเสาร ์土星
***หมายเหตุ***
ในขั้นนี้กรุณาอย่าแปลว่า การทาให้เกิด
หรือ การก่อเกิด
จะทาให้ความหมายเพี้ยนไป
ควรจะแปลว่า harmonic
หรือการกลมกลืนกัน หรือการเข้ากันได้
หรือการส่งเสริมกันระหว่างสองพลังดาว
ข.ในด้านจากัดและควบคุม
1) (พลังดาว) ธาตุดินควบคุมธาตุน้า
คือ ดาวเสาร ์土星
จากัด/ควบคุมพลัง ดาวพุธ 水星
2) (พลังดาว) ธาตุน้าควบคุมธาตุไฟ
คือ ดาวพุธ 水星
จากัด/ควบคุมพลัง ดาวอังคาร 火星
3) (พลังดาว) ธาตุไฟควบคุมธาตุทอง
คือ ดาวอังคาร 火星
จากัด/ควบคุมพลัง ดาวศุกร ์金星
4) (พลังดาว) ธาตุทองควบคุมธาตุไม้
คือ ดาวศุกร ์金星
จากัด/ควบคุมพลัง ดาวพฤหัส 木星
5) (พลังดาว) ธาตุไม้ควบคุมธาตุดิน
คือ ดาวพฤหัส 木星
จากัด/ควบคุมพลัง ดาวเสาร ์土星
***หมายเหตุ***
ในขั้นนี้
กรุณาอย่าแปลว่า การพิฆาต หรือ
การทาลาย
จะทาให้ความหมายเพี้ยนไป
ควรจะแปลว่า การจากัดพลัง หรือ
ควมคุม พลังงาน
ระยะเชิงมุมควินไทน์-ไบควินไทน์
อธิบายแผนภูมิปฏิกิริยา 5 ธาตุ
แผนภูมิอธิบายความสัมพันธ์ข้างต้น
เป็นแผนภูมิ
ที่อธิบายพลังงานของจักรวาลที่มีผลต่อ
โลก
ชีวิตและทุกๆสรรพสิ่งในจักรวาลนี้
ท่านจะต้องเข้าใจว่า
ไม่ควรแยกออกจากกัน
ระหว่าง ขั้นตอนการส่งเสริมและควบคุม
เพราะทั้งสองคือระบบอันเดียวกัน
หากจะแยกออกเป็นส่วน
ที่เป็นฝ่ายส่งเสริมด้านเดียว
จะไม่เกิดพลังงานใดใดขึ้น
แผนภูมิอันนี้
มาจากดาวเคราะห์ทั้ง 5
สัมพันธ์กันอย่างเป็นระบบ
ในรูปแบบระยะเชิงมุม
ที่โหราศาสตร ์ตะวันตก
เรียกว่า มุม The quintile aspect
(ควินไทน์ -อักษรย่อใช้Q)
ซึ่งมีระยะเชิงมุมระหว่างกัน
ของ 2 ดาวเคราะห์
เท่ากับ 72 องศา
ซึ่งถือว่าเป็นระยะเชิงมุมแห่งการสร ้างสร
รค์
ก่อให้เกิดกาลังในทางดุลยภาพ
(harmonic)
หรือ การกลมกลืนกัน
หรือการเข้ากันได้ ระหว่างสองพลังดาว
ดังนั้น
ความหมายนี้
จะไม่ใช่การก่อเกิด แบบที่เราเข้าใจ
ภาษาจีน
ใช้คาว่า 生เซิง-การเกิด
ไม่ใช่การก่อเกิด
เพราะหาก 生เซิงแปลว่าเกิด
ก็ต้องคู่กับคาว่า “ดับ” (灭เมี่ย-ดับ)
หรือไม่ก็ต้องคู่กับคาว่า “ตาย” (死สื่อ-
ตาย)
ในบริบทนี้
โหราศาสตร ์จีน
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx
ชีวา ณ 11.docx

More Related Content

More from SunnyStrong

How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docxHow to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
SunnyStrong
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docx
SunnyStrong
 
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docxฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
SunnyStrong
 
ฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docxฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docx
SunnyStrong
 
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docxไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
SunnyStrong
 
พื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptxพื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptx
SunnyStrong
 
พื้นฐานชีวิต 42.pptx
พื้นฐานชีวิต 42.pptxพื้นฐานชีวิต 42.pptx
พื้นฐานชีวิต 42.pptx
SunnyStrong
 
พื้นฐานชีวิต 35.pptx
พื้นฐานชีวิต 35.pptxพื้นฐานชีวิต 35.pptx
พื้นฐานชีวิต 35.pptx
SunnyStrong
 
พื้นฐานชีวิต 41.pptx
พื้นฐานชีวิต 41.pptxพื้นฐานชีวิต 41.pptx
พื้นฐานชีวิต 41.pptx
SunnyStrong
 
พื้นฐานชีวิต 44.pptx
พื้นฐานชีวิต 44.pptxพื้นฐานชีวิต 44.pptx
พื้นฐานชีวิต 44.pptx
SunnyStrong
 
พื้นฐานชีวิต 38.pptx
พื้นฐานชีวิต 38.pptxพื้นฐานชีวิต 38.pptx
พื้นฐานชีวิต 38.pptx
SunnyStrong
 
พื้นฐานชีวิต 39.pptx
พื้นฐานชีวิต 39.pptxพื้นฐานชีวิต 39.pptx
พื้นฐานชีวิต 39.pptx
SunnyStrong
 
พื้นฐานชีวิต 43.pptx
พื้นฐานชีวิต 43.pptxพื้นฐานชีวิต 43.pptx
พื้นฐานชีวิต 43.pptx
SunnyStrong
 
พื้นฐานชีวิต 45.pptx
พื้นฐานชีวิต 45.pptxพื้นฐานชีวิต 45.pptx
พื้นฐานชีวิต 45.pptx
SunnyStrong
 

More from SunnyStrong (20)

12 Poems.docx
12 Poems.docx12 Poems.docx
12 Poems.docx
 
Mom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxMom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docx
 
12 Poems.docx
12 Poems.docx12 Poems.docx
12 Poems.docx
 
100 words for people.docx
100 words for people.docx100 words for people.docx
100 words for people.docx
 
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docxHow to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
How to Write a Novel Writing a Book in 4 Steps.docx
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docx
 
characterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docxcharacterdevelopmentquestions.docx
characterdevelopmentquestions.docx
 
ฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docxฟาร์มสุข 1.docx
ฟาร์มสุข 1.docx
 
ฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docxฟาร์มสุข 2.docx
ฟาร์มสุข 2.docx
 
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docxไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
ไหว้ฟ้ากราบดิน1.docx
 
Mom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docxMom's Telling Stories1.docx
Mom's Telling Stories1.docx
 
พื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptxพื้นฐานชีวิต 40.pptx
พื้นฐานชีวิต 40.pptx
 
พื้นฐานชีวิต 42.pptx
พื้นฐานชีวิต 42.pptxพื้นฐานชีวิต 42.pptx
พื้นฐานชีวิต 42.pptx
 
พื้นฐานชีวิต 35.pptx
พื้นฐานชีวิต 35.pptxพื้นฐานชีวิต 35.pptx
พื้นฐานชีวิต 35.pptx
 
พื้นฐานชีวิต 41.pptx
พื้นฐานชีวิต 41.pptxพื้นฐานชีวิต 41.pptx
พื้นฐานชีวิต 41.pptx
 
พื้นฐานชีวิต 44.pptx
พื้นฐานชีวิต 44.pptxพื้นฐานชีวิต 44.pptx
พื้นฐานชีวิต 44.pptx
 
พื้นฐานชีวิต 38.pptx
พื้นฐานชีวิต 38.pptxพื้นฐานชีวิต 38.pptx
พื้นฐานชีวิต 38.pptx
 
พื้นฐานชีวิต 39.pptx
พื้นฐานชีวิต 39.pptxพื้นฐานชีวิต 39.pptx
พื้นฐานชีวิต 39.pptx
 
พื้นฐานชีวิต 43.pptx
พื้นฐานชีวิต 43.pptxพื้นฐานชีวิต 43.pptx
พื้นฐานชีวิต 43.pptx
 
พื้นฐานชีวิต 45.pptx
พื้นฐานชีวิต 45.pptxพื้นฐานชีวิต 45.pptx
พื้นฐานชีวิต 45.pptx
 

ชีวา ณ 11.docx