SlideShare a Scribd company logo
บทที่ 2

                                       เอกสารทีเ่ กียวข้ อง
                                                    ่

         ในการจัดทําโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress
เรื่ องเทคโนโลยี 3G นี้ ผูจดทําโครงงานได้ศึกษาเอกสารและจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
                          ้ั
ดังต่อไปนี้

         2.1 ความสําคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์ เน็ต
         2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่ อสังคม Social Media
         2.3 เว็บบล็อก (WebBlog)




2.1 ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์ เน็ต


ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ

       1. การศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศ ช่วยในด้านการค้นคว้าศึกษาแหล่งข้อมูล ทําให้
การศึกษาง่ายขึ้นและไร้ขีดจํากัด ผูเ้ รี ยนมีความสะดวกในการค้นคว้าวิจย
                                                                    ั

          2. การดํารงชีวตประจําวัน ทําให้มีความสะดวกคล่องตัวและรวดเร็ วในการทํากิจกรรม
                          ิ
ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจําวัน สามารถทํางานได้หลายอย่างในเวลาเดียวกันได้หรื อทํางานใช้
เวลาน้อยลง

         3. การดําเนิ นธุ รกิจ ทําให้มีการแข่งขันระหว่างธุ รกิจมากขึ้น ทําให้ตองมีการพัฒนา
                                                                              ้
                                        ่
องค์กรเพื่อให้ทนกับข้อมูลข่าวสารอยูตลอดเวลา
               ั
อันส่ งผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่ อง
4. อัตราการขยายตัวทุก ๆ ด้านที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ ว เพราะมีการติดต่อสื่ อสารที่
เจริ ญก้าวหน้าทันสมัย รวดเร็ วถูกต้องและ ทําให้
เป็ นโลกที่ไร้พรหมแดน

        5. ระบบการทํางานมีคอมพิวเตอร์ มาใช้ซื่อสามารถทํางานได้มากขึ้น งานบางอย่างมนุษย์
ทําไม่ได ้้ก็ใช้คอมพิวเตอร์ ช่วยทํางานแทนซึ่ งได้ผลถูกต้องรวดเร็ ว

ความสาคัญของอินเทอร์ เน็ต

          ในปั จจุบนอินเทอร์ เน็ตมีบทบาทและมีความสําคัญต่อชีวตประจําวันของคนเราเป็ นอย่าง
                   ั                                              ิ
มาก เพราะทําให้วถีชีวตเราทันสมัยและทันเหตุการณ์อยูเ่ สมอ เนื่องจากอินเทอร์เน็ตจะมีการเสนอ
                     ิ ิ
ข้อมูลข่าวปั จจุบน และสิ่ งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ผใช้ทราบเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน สารสนเทศที่เสนอ
                 ั                               ู้
ในอินเทอร์เน็ตจะมีมากมายหลายรู ปแบบเพื่อสนองความสนใจและความต้องการของผูใช้ทุก       ้
กลุ่ม อินเทอร์ เน็ตจึงเป็ นแหล่งสารสนเทศสําคัญสําหรับทุกคนเพราะสามารถค้นหาสิ่ งที่ตนสนใจ
ได้ในทันทีโดยไม่ตองเสี ยเวลาเดินทางไปค้นคว้าในห้องสมุด หรื อแม้แต่การรับรู ้ข่าวสารทัวโลกก็
                      ้                                                                ่
                                               ่
สามารถอ่านได้ในอินเทอร์ เน็ตจากเว็บไซต์ตาง ๆ ของหนังสื อพิมพ์
      ดังนั้นอินเทอร์ เน็ตจึงมีความสําคัญกับวิถีชีวตของคนเราในปั จจุบนเป็ นอย่างมากในทุก ๆ
                                                     ิ               ั
           ่                  ่
ด้าน ไม่วาจะเป็ นบุคคลที่อยูในวงการธุ รกิจ การศึกษา ต่างก็ได้รับประโยชน์จากอินเทอร์ เน็ต
ด้วยกันทั้งนั้น

        1. ด้ านการศึกษา อินเทอร์ เน็ตมีความสําคัญ ดังนี้
                                                             ่
               1. สามารถใช้เป็ นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่วาจะเป็ นข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้าน
การบันเทิง ด้านการแพทย์ และอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
               2. ระบบเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ต จะทําหน้าที่เปรี ยบเสมือนเป็ นห้องสมุดขนาดใหญ่
               3. นักเรี ยนนักศึกษาสามารถใช้อินเทอร์ เน็ตติดต่อกับมหาวิทยาลัยหรื อโรงเรี ยนอื่น ๆ
                      ํ           ่
เพื่อค้นหาข้อมูลที่กาลังศึกษาอยูได้ ทั้งที่ขอมูลที่เป็ นข้อความเสี ยง ภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ
                                            ้

      2. ด้ านธุรกิจและการพาณิชย์ อินเทอร์ เน็ตมีความสําคัญดังนี้
             1. ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสิ นใจทางธุ รกิจ
             2. สามารถซื้ อขายสิ นค้า ทําธุ รกรรมผ่านระบบเครื อข่าย
             3. เป็ นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ โฆษณาสิ นค้า ติดต่อสื่ อสารทางธุ รกิจ
             4. ผูใช้ที่เป็ นบริ ษท หรื อองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิ ดให้บริ การ และสนับสนุนลูกค้า
                  ้               ั
ของตนผ่านระบบเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตได้ เช่น การให้คาแนะนํา สอบถามปั ญหาต่าง ๆ ให้แก่
                                                    ํ
ลูกค้า แจกจ่ายตัวโปรแกรมทดลองใช้ (Shareware) โปรแกรมแจกฟรี (Freeware)

       3. ด้ านการบันเทิง อินเทอร์ เน็ตมีความสําคัญดังนี้
              1. การพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เช่น การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านระบบ
เครื อข่ายอินเทอร์ เน็ต ที่เรี ยกว่า Magazine Online รวมทั้งหนังสื อพิมพ์และข่าวสารอื่น ๆ โดยมี
ภาพประกอบที่จอคอมพิวเตอร์ เหมือนกับวารสารตามร้านหนังสื อทัว ๆ ไป    ่
                                                        ่
              2. สามารถฟังวิทยุหรื อดูรายการโทรทัศน์ผานระบบเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตได้
              3. สามารถดึงข้อมูล (Download) ภาพยนตร์มาดูได้



2.2 ข้ อมูลเกียวกับสื่ อสั งคม Social Media
                ่
            2.2.1 ความหมายของ Social Media
                      SMO คือ แนวทางเกี่ยวกับ social media ที่ต้ งใจจะดึงดูดความสนใจผูที่มาชม
                                                                   ั                      ้
                  ่                                                             ั
เว็บไซต์ ไม่วาจะเป็ นการไป Bookmark เอาไว้, Share Link หรื อว่าส่ งลิงค์ให้กบเพื่อนๆ, การเพิม    ่
RSS Feeds การเข้าไปคอมเม้นต์ในบล็อกของคนอื่นๆ หรื อว่า เขียนบทความในบล็อกต่างๆ ของ
ตัวเอง (ทั้งสิ่ งที่เห็นด้วย หรื อไม่เห็นด้วย) เพื่อที่จะนําไปต่อยอดทางความคิด จากบทความของเรา
โดยที่คนเขียนบทความต่างๆ ในกลุ่มพวกนี้ ก็มกจะมีพวกแฟนพันธุ์แท้ หรื อที่เรี ยกว่า Followers ที่
                                                       ั
มักจะเข้ามาตามอ่านบทความในสิ่ งที่คนเหล่านี้เขียนถึงอยูเ่ สมอๆ ทําให้เว็บไซต์ของเรา สร้างลิงค์
เชื่อมกับ Social network ได้ง่ายขึ้น, ถูกค้นเจอง่ายขึ้นใน Search engine ที่เจาะจงใช้เพื่อค้นหา
Social media (เช่น Technorati) และเพื่อให้บล็อกเกอร์ อื่นๆ อ้างถึงบ่อยขึ้นในบล็อก, พอดคาสท์
                                                                ่
หรื อ วิดีโอบล็อก (vlogs) ของเขา เพราะฉะนั้นจะเห็นได้วา บทความหรือว่าเรื่องทีจะเขียนถึง นั้น
                                                                                    ่
ถือว่ าเป็ นส่ วนประกอบทีสาคัญมากทีสุดในเรื่องของ SMO
                             ่              ่
SMO คือ 1 ใน 2 วิธีการออนไลน์ของการปรับแต่งเว็ปไซต์ อีกวิธีหนึ่งก็คือ SEO
วิธีการของ SMO มี 2 ประเภท
           1.ทักษะsocial mediaได้ถูกเพิมเข้าไปในตัวเว็บของมันเอง เช่น RSS feeds , ข่าวสังคม ,ปุ่ ม
                                          ่
แชร์ และมีการให้ผใช้โหวตและสํารวจความคิดเห็นต่างๆ รวมถึงพวกรู ปภาพและวีดีโอภายในเว็บ
                        ู้
เรา (เครื่ องมือภายในเว็บที่เป็ น Tools ที่ให้คนอื่นนําไปใช้งานหรื อบริ การข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับเว็บ
ของเรา)
2. กิจกรรมใน social media ที่เป็ นเนื้ อหาให้คนอื่นมีส่วนร่ วมในการโปรโมท รวมถึงพวก
บล็อก ข้อคิดเห็นในบล็อกต่าง ๆ การเข้าร่ วมแสดงความคิดเห็น และการโพสอัพเดตสถานะใน
social media (เป็ นเครื่ องมือที่ให้คนอื่นช่วยโปรโมทให้เราไม่ตองทําเอง)
                                                               ้




2.2.2 ประวัติความเป็ นมาและพัฒนาการของ Social Media




                                      พูดถึงกันมากเหลือเกินสาหรั บ สื่ อสั งคมออนไลน์ (Social
Media) ซึ่งเรียกได้ ว่าเป็ นตัวกลาง เป็ นเครื่องมือ สาหรับการสื่ อสารระหว่ างกัน โดยปัจจุบันได้ ขยาย
ผลกว้ างครอบคลุมไปถึง การทางานร่ วมกัน ทั้งภายใน และ ภายนอกองค์ กร โดยอาศัยเว็บ และ โม
บายเทคโนโลยี เป็ นตัวช่ วย ถ้ าจะเปรียบเทียบก็น่าจะเป็ นคู่แฝดแห่ งยุคดิจิตอล อย่ างเมื่อกว่ า 200 ปี
ก่อน มีแฝดอินจัน ทีไปสร้ างชื่ อเสี ยงในต่ างประเทศ จนมีการตั้งชื่อแฝดลักษณะทีมีลาตัวติดกัน
                           ่                                                           ่
เช่ นนีว่า แฝดสยาม
       ้

ถ้ าว่ าไปแล้ ว แฝดสยามในยุคดิจิตอล ก็คงหนีไม่ พ้น สื่ อสั งคมออนไลน์ (Social Media) กับ สมาร์ ท
โฟน (Smartphone) ทีมักจะไปเป็ นคู่ยากทีจะแยกออกจากกันได้ เมื่อศึกษาถึงคาจากัดความของ
                            ่                 ่
สั งคมออนไลน์ (Social Media) จะพบว่ าคือกลุ่มของแอพพลิเคชั่ น บนอินเทอร์ เน็ต ทีสร้ างขึนมา
                                                                                     ่      ้
บนพืนฐานแนวคิด และเทคโนโลยี Web 2.0 ซึ่งรองรับให้ มีการสร้ าง และ แลกเปลี่ยน คอนเทนต์ ที่
         ้
ผู้ใช้ เป็ นผู้สร้ างเอง (User-generated content) เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว สามารถเรียกได้ ว่า สื่ อ
สั งคมออนไลน์ (Social Media) เป็ นการผสมผสานกันระหว่าง เทคโนโลยี กับ การสื่ อสารระหว่าง
กันในสั งคม เพือสร้ างเสริมมูลค่ าให้ เพิมขึน
                     ่                    ่ ้
            เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป โดยเฉพาะยุคดิจิตอลอย่างทุกวันนี้ การแสดงความคิดเห็นดูจะเป็ น
เรื่ องง่าย บนสื่ อสังคมออนไลน์ เป็ นหนึ่งตัวอย่างที่ทาให้พนักงานรายหนึ่งในอเมริ กา ถูกไล่ออก
                                                           ํ
                        ิ                             ๊                            ่
หลังจากที่เธอได้วจารณ์เจ้านายของเธอบน เฟชบุก (Facebook) เรื่ องเกิดขึ้นเมื่อปี ที่ผานมา พนักงาน
หญิงรายนี้ได้เขียนข้อคิดเห็นของเธอ บนหน้าเฟชบุก ด้วยคําพูดที่หยาบคาย คดีน้ ีถูกจับตามองทัว
                                                        ๊                                         ่
จากทุกวงการ ด้วยความกังขาว่า นายจ้างมีสิทธิ ที่จะลงโทษพนักงานที่เขียนข้อคิดเห็นบน สังคม
ออนไลน์ หรื อไม่ เท่าที่ทราบในเมืองไทยเรายังไม่เคยได้ยน เหตุการณ์ลกษณะนี้เกิดขึ้น
                                                      ิ           ั
                                                                         ่
        เกมในเฟซบุก น่าจะเป็ นตัวสร้างความสัมพันธ์ได้อย่างดี ด้วยกลยุทธ์วาใครมีเพื่อนเยอะก็
                     ๊
จะได้อะไรเพิ่มขึ้นในเกม นอกจากนั้น ยังมีการหลอกล่อให้ตองมีเพื่อนมาร่ วมกันเป็ นส่ วนหนึ่งใน
                                                        ้
                                                                              ั
เกม ปลูกผักเลี้ยงปลากันใหญ่ วันก่อนมีโอกาสไปบรรยายเรื่ องสังคมออนไลน์ให้กบกรมส่ งเสริ ม
การเกษตร ก็เล่าไปว่าบ้านเราน่าจะทําเกมลักษณะนี้ในรู ปแบบไทยๆ บ้านเรามีเกษตรกร กว่าครึ่ ง
ค่อนประเทศ นี่ยงไม่นบรวมท่านที่ชอบทําการเกษตรบนโลกออนไลน์
                 ั     ั
          ในทางกลับกัน บางประเทศกลับห้ามใช้งานเว็บนี้ บางบริ ษทก็หามใช้เนื่องจากเสี ยเวลา
                                                                    ั ้
การทํางานของพนักงาน เฟซบุคได้รับการจัดอันดับเป็ นเว็บสังคมออนไลน์ที่มีผใช้มากที่สุดในปี
                                 ๊                                             ู้
ค.ศ. 2009 จํานวนผูใช้เพิ่มขึ้นเป็ นเท่าตัว และที่น่าสนใจก็คือจํานวนผูเ้ ล่นอินเทอร์ เน็ตในสหรัฐฯ
                    ้
เข้าใช้งานมากกว่ากูเกิลเป็ นครั้งแรกช่วงต้นปี 2010 อีกด้วย
               ล่าสุ ดมีข่าวการใช้เฟซบุก เพื่อช่วยเหลือชีวิต ปกติเรามักจะได้ยนการใช้สังคมออนไลน์
                                       ๊                                     ิ
เป็ นสื่ อ เป็ นเครื่ องมือทางการตลาด แต่ล่าสุ ดมีข่าวจากสํานักข่าวต่างประเทศได้รายงานเกี่ยวกับการ
ประกาศรับบริ จาคไตในเฟซบุก เรื่ องเกิดที่สหรัฐฯ มีผป่วยที่ตองการปลูกถ่ายไต ต้องเปลี่ยนไตใหม่
                                   ๊                      ู้    ้
ภายในเวลาจํากัด เมื่อปรึ กษากับแพทย์ที่ดูแลอยู่ จึงได้ตดสิ นใจลองประกาศลงในเฟซบุ๊ก แล้วก็มีผที่
                                                             ั                                   ู้
ประสงค์จะบริ จาคไตให้ โดยไม่ได้มีความสนิทสนมกันเป็ นพิเศษแต่อย่างใด เป็ นเพียงเพื่อนในเฟ
ซบุก ผูรับบริ จาคเมื่อได้รับข้อความแสดงความจํานงจะบริ จาคไตให้ ในตอนแรกยังคิดว่าเป็ นเรื่ อง
     ๊ ้
ล้อเล่นกัน แต่เมื่อต้นเดือนเมษายน 2010 แพทย์ก็ได้เปลี่ยนไตที่บริ จาคให้ไปเป็ นที่เรี ยบร้อยแล้ว
           การศึกษาล่าสุ ดพบว่าหญิงสาววัยรุ่ น ที่นงจ้องเฟชบุคทั้งวัน อาจเป็ นสาเหตุให้เกิดอาการ
                                                   ั่        ๊
ผิดปกติในเรื่ องการทานอาหาร จากการศึกษาพบว่าสองสาเหตุหลักที่ทาให้เกิด อาการการทาน
                                                                       ํ
อาหารผิดปกติ คือ การใช้เวลามากเกินไปกับ พฤติกรรมการบริ โภคสื่ อ และ การเป็ นตัวของตัวเอง
มากเกินไป ผลจากการสํารวจเด็กวัยรุ่ นช่วงอายุ 12 ถึง 19 ปี พบว่าพฤติกรรมการบริ โภคสื่ อ
อินเทอร์ เน็ต และ โทรทัศน์ มีผลกระทบต่อพฤติกรรมของแต่ละคนโดยตรง
          จากผลการสํารวจพบว่า ยิงใช้เวลากับเฟชบุก มากเท่าไหร่ ก็จะมีโอกาสจะพบอาการ
                                ่               ๊
อยากอาหารมากผิดปกติ ภาวะเบื่ออาหาร ไม่พึงพอใจในสรี ระของตัวเอง และ ความต้องการอยาก
ลดนํ้าหนัก มากขึ้น
เมื่อมีจานวนผูใช้ สื่ อสังคมออนไลน์ (Social Media) มากขึ้นเท่าใร ย่อมเป็ นโอกาสในการ
                   ํ       ้
ทําธุ รกิจ จึงเกิดคําว่า Social Commerce ขึ้น และได้รับความสนใจมากในช่วงนี้ หรื อถ้าลองค้นหา
คําว่า “e-mail vs. Social Media” ในกูเกิล จะพบผลลัพธ์มากเป็ นหลายหมื่น จึงเป็ นสิ่ งที่ชดเจนว่า
                                                                                          ั
เป็ นหัวข้อร้อน จนบางที คนนิยามว่าเป็ นการทําสงครามบนโลกดิจิตอล บ้างก็กล่าวว่าคงเป็ นจุดจบ
ของ อีเมล์ และคลื่นลูกใหม่ที่มาก็คือ สื่ อสังคมออนไลน์ (Social Media)
             อีกแง่มุมหนึ่งที่ดูเข้าท่าก็คือ ทั้งอีเมล์ และ สื่ อสังคมออนไลน์ จะเป็ นตัวเสริ มกันและกัน
เพื่อการตัดสิ นใจทางธุ รกิจ เราควรที่จะโฟกัสสองเรื่ องใหญ่ๆ คือ กลุ่มเป้ าหมาย และ เจตนา มาเริ่ ม
ด้วยกลุ่มเป้ าหมาย
* ถ้ากลุ่มเป้ าหมายอายุต่ากว่า 20 ปี น่าจะค่อนข้างชัดเจนว่า การใช้ส่ื อสังคมออนไลน์ จะเป็ น
                          ํ
ทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด
*ถ้ากลุ่มธุ รกิจเป็ นกลุ่มเป้ าหมายของเรา การใช้อีเมล์ ถูกมองว่าเราจะได้ผลเร็ วกว่า ในทางกลับกัน
ถ้าลูกค้าทัวไปเป็ นกลุ่มเป้ าหมายของธุ รกิจ การใช้ สื่ อสังคมออนไลน์ น่าจะได้ผลที่ดีกว่า เนื่องจาก
            ่
ลูกค้าจะเชื่อ และฟัง ความเห็นของคนอื่นๆ ที่ให้ไว้บนสื่ อสังคมออนไลน์
*สําหรับกลุ่มเป้ าหมายที่อยูที่ทางาน อีเมล์เป็ นคําตอบของเรา แต่ถาต้องการมุ่งไปที่อยูที่บาน สื่ อ
                            ่ ํ                                  ้                   ่ ้
สังคมออนไลน์ น่าจะให้ผลตอบรับที่ดีกว่า
          จะเห็นได้วาการวิเคราะห์กลุ่มเป้ าหมายทั้งทาง ประชากรศาสตร์ (Demographic) และเชิง
                         ่
จิตวิทยา เป็ นสิ่ งที่สาคัญทั้งคู่ ในการเลือกว่า อีเมล์ หรื อ สื่ อสังคมออนไลน์ จะเหมาะสมกับธุ รกิจ
                       ํ
อย่างไรก็ตามในหลายกรณี เราควรใช้ท้ งสองช่องทาง ในการติดต่อสื่ อสาร
                                           ั




         2.2.3 ประเภทเว็บไซต์ ทให้ บริการ Social Media
                               ี่
                ocial Network
      myFri3nd มีรูปแบบคล้ายเว็บ Social Network ทัวไป เป็ นเว็บไซต์ในเครื อ sanook.com
                                                     ่
      D-Looks เว็บไซต์ Social Network แนว ๆ hi5 แต่มีสโลแกนว่า เว็บไซต์ดูดี สําหรับคนดี ๆ
      BangkokSpace เป็ น Social Network สําหรับคนชอบเที่ยวกลางคืน
Blogging
                        ้                                                           ่
             exteen เว็บผูให้บริ การ blog อันดับหนึ่งของไทย สู สีเบียดกับ bloggang อยูตลอด แต่หลัง ๆ
      ดูเหมือนยอดสมาชิกจะแซงแล้ว ตัวระบบ exteen เองพัฒนาได้ดี
            BlogGang ผูให้บริ การพื้นที่ blog ในเครื อ pantip.com ซึ่ งสมาชิกส่ วนใหญ่ จะเป็ นแฟน
                            ้
      คลับ หรื อขาประจําของ pantip.com อยูแล้ว     ่
Micro Blogging
            NokNok เว็บแบบเดียวกับ twitter แต่พฒนาโดยคนไทย (ในเครื อ sanook.com เช่นกัน) แต่
                                                     ั
                                         ่
      ดูมีแนวโน้มการพัฒนาที่ดี ไม่วาจะเป็ นการเชื่อมให้อพเดทกับ twitter ได้ หรื อการอัพเดท
                                                               ั
      noknok ผ่านมือถือเป็ นต้น
Social Bookmarking
                                                                      ั
             Zickr เว็บ social bookmark อันดับหนึ่งของไทย คนใช้กนเพียบ เป็ นที่รวมข้อมูลบทความ
      ทันสมัย ที่มีคนมาช่วยกันใส่ เรื่ องใหม่ ทุกวัน
            Duocore เว็บที่รายงานข่าวเกี่ยวกับวงการไอทีไทย ในรู ปแบบวีดีโอ โดยใช้ระบบ Social
      Bookmark มาให้ผชม ช่วยกันส่ งเรื่ องราวไอทีที่น่าสนใจเข้ามา ในแต่ละสัปดาห์จะมีการเลือก
                              ู้
      เรื่ องราวที่น่าสนใจ ไปทํารายการเป็ นรู ปแบบวีดีโอ
            Siam Collective เว็บ Social Bookmark อีกแห่งหนึ่งของไทย
            iam in Thai Social Bookmark ของไทยที่เก็บรวบรวมงานอีเว้นต์ และเทศกาลสําคัญ
            Techkr เว็บ Social Bookmark ที่เก็บแต่เรื่ องราวเทคโนโลยี
Social Mailbox
            Fwdder.com เว็บที่ให้คุณสามารถ forward email ต่าง ๆ ที่ได้รับมาจากคนอื่น แล้วนํามา
      ขึ้นแสดงในเว็บไซต์ได้ทนที เรี ยกได้วาเป็ นเว็บไซต์ที่รวมพวก forward email ไว้ให้อ่านกัน
                                   ั             ่
      นันเอง
           ่
เราจะอัพเดทหน้านี้ไปเรื่ อย ๆ นะครับ สําหรับเจ้าของเว็บ Social Network ของไทย ที่ตองการ   ้
แนะนําเว็บของตัวเองเข้ามา หรื อแม้กระทังผูอ่าน ที่ไปพบว่ามีเว็บ Social Network ของไทยเว็บ
                                               ่ ้
                              ่
ไหน ที่ยงไม่มีรายชื่ออยูในหน้านี้ ก็สามารถแนะนํากันเข้ามาได้ ผ่านทาง comment ในหน้านี้เลย
             ั
ครับ ทางทีมงานขอสงวนสิ ทธิ์ ในการพิจารณา นําเว็บขึ้นอยูในรายชื่อ โดยเลือกเว็บที่เหมาะสม และ
                                                                 ่
เป็ นเว็บที่พฒนาโดยคนไทยครับ
                ั

ที่มา http://keng.com/2009/01/07/thailand-social-media-list
2.3 เว็บบล็อก (WebBlog)
             2.3.1 ความหมายของเว็บบล็อก (WebBlog)
                     Web Blog คือ Blog มาจากศัพท์คาว่า WeBlog บางคนอ่านคํา ๆ นี้วา We Blog
                                                      ํ                                          ่
บางคนอ่านว่า Web Log แต่ท้ งนี้ท้ งนั้น ทั้งสองคําบ่งบอกถึงความหมายเดียวกัน ว่านันคือบล็อก
                                   ั ั                                                         ่
(Blog)
ความหมายของคําว่า Blog ก็คือการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบนเว็บไซต์
                                                         ่
โดยเนื้ อหาของ blog นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่ อง ไม่วาจะเป็ นเรื่ องราวส่ วนตัว หรื อเป็ นบทความ
เฉพาะด้านต่าง ๆ เช่น เรื่ องการเมือง เรื่ องกล้องถ่ายรู ป เรื่ องกีฬา เรื่ องธุ รกิจ เป็ นต้น โดยจุดเด่นที่ทา
                                                                                                            ํ
ให้บล็อกเป็ นที่นิยมก็คือ ผูเ้ ขียนบล็อก จะมีการแสดงความคิดเห็นของตนเอง ใส่ ลงไปในบทความ
นั้น ๆ โดยบล็อกบางแห่ง จะมีอิทธิ พลในการโน้มน้าวจิตใจผูอ่านสู งมาก แต่ในขณะเดียวกัน บาง
                                                                   ้
บล็อกก็จะเขียนขึ้นมาเพื่อให้อ่านกันในกลุ่มเฉพาะ เช่นกลุ่มเพื่อน ๆ หรื อครอบครัวตนเอง
มีหลายครั้งที่เกิดความเข้าใจกันผิดว่า Blog เป็ นได้แค่ไดอารี่ ออนไลน์ แต่ในความเป็ นจริ งแล้ว
ไดอารี่ ออนไลน์เปรี ยบเสมือน เนื้ อหาประเภทหนึ่งของบล็อกเท่านั้น เพราะบล็อกมีเนื้ อหาที่
หลากหลายประเภท ตั้งแต่การบันทึกเรื่ องส่ วนตัวอย่างเช่นไดอารี่ หรื อการบันทึกบทความที่ผเู้ ขียน
บล็อกสนใจในด้านอื่นด้วย ที่เห็นชัดเจนคือ เนื้อหาบล็อกประเภท วิจารณ์การเมือง หรื อการรี วว               ิ
ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ตวเองเคยใช้ หรื อซื้ อมานันเอง อีกทั้งยังสามารถ แตกแขนงไปในเนื้ อหาใน
                        ั                     ่
ประเภทต่าง ๆ อีกมากมาย ตามแต่ความถนัดของเจ้าของบล็อก ซึ่งมักจะเขียนบทความเรื่ องที่ตนเอง
ถนัด หรื อสนใจเป็ นต้น
จุดเด่นที่สุดของ Blog ก็คือ มันสามารถเป็ นเครื่ องมือสื่ อสารชนิดหนึ่ง ที่สามารถสื่ อถึงความเป็ น
กันเองระหว่างผูเ้ ขียนบล็อก และผูอ่านบล็อกที่เป็ นกลุ่มเป้ าหมาย ที่ชดเจนของบล็อกนั้น ๆ ผ่านทาง
                                        ้                                    ั
ระบบ comment ของบล็อกนันเอง      ่
ในอดีตแรกเริ่ ม คนที่เขียน Blog นั้นยังทํากันในระบบ Manual คือเขียนเว็บเองทีละหน้า แต่ใน
ปั จจุบนนี้ มีเครื่ องมือหรื อซอฟท์แวร์ให้เราใช้ในการเขียน Blog ได้มากมาย
        ั
เช่น WordPress, Movable Type เป็ นต้น
ผูคนหลายล้านคนจากทัวทุกมุมโลก หันมาเขียน Blog กันอย่างแพร่ หลาย ตั้งแต่นกเรี ยน อาจารย์
   ้                       ่                                                                ั
นักเขียน ตลอดจนถึงระดับบริ ษทยักษ์ใหญ่ในตลาดหุ ้น NasDaq
                                    ั
เมื่อสองสามปี ที่ผานมา Blog เริ่ มต้นมาจาก การเขียนเป็ นงานอดิเรก ของกลุ่มสื่ ออิสระต่าง ๆ หลาย
                      ่
                                          ั
ๆ แห่งกลายเป็ นแหล่งข่าวสําคัญ ให้กบหนังสื อพิมพ์หรื อสํานักข่าวชั้นนํา จวบจนกระทังปี 2004         ่
คนเขียน Blog ก็ได้รับการยอมรับจากสื่ อและสํานักข่าวต่าง ๆ ถึงความรวดเร็ วในการให้ขอมูล               ้
ตั้งแต่เรื่ องการเมือง ไปจนกระทัง เรื่ องราวของการประชุม ระดับชาติ
                                      ่
และจากเหตุการณ์เหล่านี้ นับได้วา Blog เป็ นสื่ อชนิดหนึ่งที่ไม่ต่างจาก วีดีโอ , สิ่ งพิมพ์ , โทรทัศน์
                                   ่
                ่                         ่
หรื อแม้กระทังวิทยุ เราสามารถเรี ยกได้วา Blog ได้เข้ามาเป็ นสื่ อชนิดใหม่ ที่สาคัญอย่างแท้จริ ง
                                                                              ํ
สรุ ปให้ง่าย ๆ สั้น ๆ ก็คือ Blog คือเว็บไซต์ ที่มีรูปแบบเนื้อหา เป็ นเหมือนบันทึกส่ วนตัวออนไลน์ มี
ส่ วนของการ comments และก็จะมี link ไปยังเว็บอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
ใช้ อย่างไร
1.หาเว็บที่ให้สามารถให้เช่า blog ได้
2.สมักรเป็ นสมาชิกของเว็บนั้น
3.เมื่อเราเป็ นสมาชิกแล้วก็สามารตกแต่ง blog ของเราได้


2.3.2 ประเภทของเว็บบล็อก

                  ประเภทของ Blog
                   ่
บล็อกที่เราเห็นอยูในปั จจุบนนี้ ใช่มีเพียงแค่บล็อกที่เป็ นตัวหนังสื อและรู ปภาพเท่านั้น หรื อ มีแค่
                              ั
ออนไลน์ไดอารี่ เราแบ่งบล็อกออกได้ ดังต่อไปนี้
1. แบ่งตามลักษณะของมีเดียที่มีในบล็อกได้แก่1.1. Linklog บล็อกแบบนี้น่าจะเป็ นบล็อกรุ่ นแรก ๆ
                                                               ้ ํ
เป็ นบล็อกที่รวมลิ๊งก์ที่เจ้าของบล็อกสนใจเอาไว้ ถ้าคณยังจําผูให้กาเนิดคําว่า “บล็อก” ที่ชื่อ จอห์น
บาจเจอร์ ได้ นันแหล่ะครับ robotwisdom.com ของเขาคือตัวอย่างของ linklog นันเอง แม้วาจะ
                ่                                                               ่           ่
บล็อกแบบนี้จะเป็ นการรวมลิ๊งก์เท่านั้น แต่ก็ไม่เรี ยงเหมือนว็บไดเร็ กทอรี่ เพราะเจ้าของบล็อกจะ
โพสต์ลิ๊งก์ของเขา 1 – 2 ลิ๊งก์ต่อโพสต์เท่านั้นครับ ใครที่อยากมีบล็อกเป็ นของตนเองแต่ยงนึกไม่
                                                                                          ั
ออกว่าจะทําบล็อกแบบไหน linklog น่าจะเป็ นการเริ่ มต้นการทําบล็อกได้เป็ นอย่างดี1.2 Photoblog
              ่
ชื่อก็บอกอยูแล้วครับว่า Photo บล็อกประเภทนี้ เน้นในโพสต์ภาพถ่ายที่เจ้าของบล็อกอยากนําเสนอ
                                                                 ่
และมักจะไม่เน้นที่จะเขียนข้อความมากนัก บางบล็อกเรี ยกได้วาภาพโดยเจ้าของบล็อกล้วน ๆ เลย
ครับ1.3. Vlog ย่อมาจาก Videoblog เป็ นบล็อกที่รวมวิดีโอคลิปไว้ในบล็อก Vlog เป็ นบล็อกที่เรี ยก
     ่
ได้วาเป็ นบล็อกที่นิยมทํากันมากในอนาคต เพราะการเจริ ญเติบโตของไฮสปี ด อินเตอร์ เน็ต หรื อ
อินเตอร์ เน็ตบอร์ ดแบนด์ ที่ทาให้การถ่ายทอดเสี ยง ภาพเคลื่อนไหว movie […]
                                ํ
2. แบ่งตามประเภทเนื้ อหา ได้แก่2.1 บล็อกส่ วนตัว(Personal Blog) นําแสนอความคิดเห็น กิจวัตร
ประจําวันของเจ้าของบล็อกเป็ นหลัก2.2 บล็อกข่าว(News Blog) บล็อกที่นาเสนอข่าวเป็ นหลัก2.3
                                                                            ํ
บล็อกกลุ่ม(Collaborative Blog) เป็ นบล็อกที่เขียนกันเป็ นกลุ่ม เช่น blognone.com2.4 บล็อก
การเมือง(Politic Blog) ว่าด้วยเรื่ องการเมืองล้วน ๆ2.5 บล็อกเพื่อสิ่ งแวดล้อม(Environment Blog)
พูดถึงเรื่ องราวของธรรมชาติและการรักษาสิ่ งแวดล้อม2.6 มีเดียบล็อก(Media Blog) เป็ นบล็อกที่
วิเคราะห์สื่อต่างๆ สารคดีและสิ่ งที่เกี่ยวกับสื่ อ เช่น oknation.net/blog/black ของสุ ทธิ ชย หยุน2.7
                                                                                           ั ่
บล็อกบันเทิง(Entertainment Blog) บล็อกที่นาเสนอเรื่ องราวบันเทิงทั้งทางจอแก้ว และจอเงิน เรื่ อง
                                                  ํ
ซุ บซุ ดารา กองถ่าย ฯลฯ2.8 บล็อกเพื่อการศึกษา(Educational Blog) ในโรงเรี ยน หรื อมหาวิทยาลัย
ในต่างประเทศมักจะใช้บล็อกเป็ นสื่ อในการสอนหรื อ แลกเปลี่ยนความคิดกัน2.9 ติวเตอร์บล็อก
(Tutorial Blog) เป็ นบล็อกที่นาเสนอวิธีการต่าง
                              ํ
http://witwang.blogspot.com/2007_07_01_archive.html




2.3.3 เว็บไซต์ ทให้ บริการเว็บบล็อก
                ี่
        www.blogger.com
        www.exteen.com
        www.mapandy.com
        www.buddythai.com
        www.imigg.com
        www.5iam.com
        www.blogprathai.com
        www.ndesignsblog.com
        www.idatablog.com
        www.inewblog.com
        www.onblogme.com
        www.freeseoblogs.com
        www.sumhua.com
        www.diaryi.net
        www.istoreblog.com
        www.skypream.com
        www.thailandspace.com
        www.sungson.com
        www.gujaba.com
        www.sabuyblog.com
        www.ugetblog.com
        www.jaideespace.com
        www.maxsiteth.com
www.my2blog.com




        2.3.4ประวัติของเว็บไซต์ Wordpress


      WordPress คือ โปรแกรมสําเร็ จรู ปตัวหนึ่ง ที่เอาไว้สาหรับสร้าง บล็อก หรื อ เว็บไซต์
                                                             ํ
                                ่
สามารถใช้งานได้ฟรี ถูกจัดอยูในประเภท CMS (Contents Management System) ซึ่งหมายถึง
โปรแกรมสําเร็ จรู ปที่มีไว้สาหรับสร้างและบริ หารจัดการเนื้อหาและข้อมูลบนเว็บไซต์
                            ํ

WordPress ได้รับการพัฒนาและเขียนชุดคําสั่งมาจากภาษา PHP (เป็ นภาษาโปรแกรมมิ่งตัวหนึ่ง)
ทํางานบนฐานข้อมูล MySQL ซึ่ งเป็ นโปรแกรมสําหรับจัดการฐานข้อมูล มีหน้าที่เก็บ เรี ยกดู แก้ไข
                                                         ่
เพิมและลบข้อมูล การใช้งานWordPress ร่ วมกับ MySQL อยูภายใต้สัญญาอนุญาตใช้งานแบบ
   ่
GNU General Public License

WordPress ปรากฏโฉมครั้งแรกในโลกเมื่อปี พ.ศ. 2546 (2003) เป็ นความร่ วมมือกันระหว่าง Matt
                                                   ่
Mullenweg และ Mike Littlej มีเว็บไซต์หลักอยูที่ http://wordpress.org และยังมีบริ การ Free
Hosting (พื้นที่สาหรับเก็บทุกอย่างของเว็บ/บล็อก) โดยขอใช้บริ การได้ที่ http://wordpress.com
                 ํ

ปั จจุบนนี้ WordPress ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ ว จนมีผใช้งานมากกว่า 200 ล้านเว็บ
       ั                                                        ู้
                                            ่
บล็อกไปแล้ว แซงหน้า CMS ตัวอื่น ๆ ไม่วาจะเป็ น Drupal , Mambo และ Joomla สาเหตุเป็ นเพราะ
ใช้งานง่าย ไม่จาเป็ นต้องมีความรู ้ในเรื่ อง Programing มีรูปแบบที่สวยงาม อีกทั้งยังมีผพฒนา
                ํ                                                                      ู้ ั
Theme (รู ปแบบการแสดงผล) และ Plugins (โปรแกรมเสริ ม) ให้เลือกใช้ฟรี อย่างมากมาย

นอกจากนี้ สําหรับนักพัฒนา WordPress ยังมี Codex เอาไว้ให้เราได้เป็ นไกด์ไลน์ เพื่อศึกษา
                               ่
องค์ประกอบส่ วนต่าง ๆ ที่อยูภายใน สําหรับพัฒนาต่อยอด หรื อ นําไปสร้าง Theme และ Plugins
ขึ้นมาเองได้อีกด้วย หนําซํ้า ยังมีรุ่นพิเศษ คือ WordPress MUสําหรับไว้ให้ผนาไปใช้ สามารถเปิ ด
                                                                          ู้ ํ
ให้บริ การพื้นที่ทาเว็บบล็อกเป็ นของตนเอง เพื่อให้ผอื่นมาสมัครขอร่ วมใช้บริ การในการสร้างเว็บ
                  ํ                                 ู้
บล็อก ภายใต้ชื่อโดเมนของเขา หรื อที่เรี ยกว่า Sub-Domain

จากที่ได้เกริ่ นนําไปในบทความนี้ คงจะทําให้รู้จก และได้ทราบประวัติความเป็ นมา รวมถึง
                                                ั
ความหมายกันไปบ้างแล้วว่า WordPress คือ อะไร ในบทความหน้า เราจะได้เริ่ มเรี ยนรู ้ถึงรู ปแบบ
และวิธีการใช้งาน ไปจนถึงการเพิ่มลูกเล่นต่าง ๆ ต่อไป


ความเป็ นมาของ wordpress


          wordpress หลายคนรู ้จกกันดีและบางคนก็อาจจะกําลังใช้งานอยูก็ได้แต่จะมีสกกี่คนที่รู้
                               ั                                   ่            ั
                                                      ั
ว่า wordpress มีประวัติความเป็ นมายังไงเดี๋ยวจะได้รู้กนครับ
                                                               ํ
ความเป็ นมาของ wordpres เริ่ มจาก B2 หรื อ cafelog คือผูที่ให้กาเนิดการทํางานของเว็บบล๊อกที่ชื่อ
                                                        ้
ว่า wordpress ได้การผลิตบล็อกชนิดนี้ข้ ึนครั้งแรกประมาณปี 2003 ตอนนั้นมีบล็อก wordpress
   ่                                                                               ั
อยูประมาณ 2000 บล็อก บล็อกที่ชื่อว่า wordpress นี้ เขียนด้วยภาษา PHP เพื่อที่จะใช้กบ MySQL
โดยผูเ้ ขียน wordpress ก็คือ Michel Valdrighi เป็ นผูร่วมพัฒนาwordpress ตอนนั้น wordpress ยัง
                                                     ้
   ่
อยูใน B2evolution
wordpress ได้ปรากฏสู่ โลกในปี 2003 โดยเป็ นความพยายามของ Matt Mullenweg และ Mike little
ในปี 2004 ได้ถูกเปลี่ยนแปลงโดย six apart ทําให้มีผงาน wordpress จํานวนมากขึ้น และเริ่ มก่อเกิด
                                                  ู้
แบรนด์ wp หรื อ wordpress ขึ้นมาและมีการใช้งานมากขึ้นและการพัฒนาอย่างต่อเนื่ องจนมาถึง
ปัจจุบน
      ั
ในปี 2007 wordpress ได้รับรางวัลชนะเลิศในเรื่ องของ Packt open source CMS award

More Related Content

What's hot

02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องM'suKanya MinHyuk
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมรแบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมรM'suKanya MinHyuk
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องSirintip Kongchanta
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องTanyarad Chansawang
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องWilaiporn Seehawong
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2She's Ning
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง1
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง102 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง1
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง1Thanggwa Taemin
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
Tewit Chotchang
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานแบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานShe's Mammai
 
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เนื้อหา
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาบทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เนื้อหา
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาVisiene Lssbh
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องShe's Mammai
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องKot สุรศักดิ์
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2teeraratWI
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องRung Sensabe
 

What's hot (16)

02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมรแบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
 
2
22
2
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่2
บทที่2บทที่2
บทที่2
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง1
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง102 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง1
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง1
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานแบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
 
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เนื้อหา
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาบทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เนื้อหา
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เนื้อหา
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 

Similar to 02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง

บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องNew Tomza
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องKittichai Pinlert
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องWilaiporn Seehawong
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องKittipong Suwannachai
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องRung Sensabe
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องRung Sensabe
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องKot สุรศักดิ์
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องSupaporn Pakdeemee
 
บทที่2
บทที่2บทที่2
บทที่2Tangkwa Tom
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2teerarat55
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องChalita Vitamilkz
 

Similar to 02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง (20)

บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
บทที่2
บทที่2บทที่2
บทที่2
 
บทที่ 22
บทที่ 22บทที่ 22
บทที่ 22
 
บทที่ 22
บทที่ 22บทที่ 22
บทที่ 22
 
บทที่ 22
บทที่ 22บทที่ 22
บทที่ 22
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 

02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง

  • 1. บทที่ 2 เอกสารทีเ่ กียวข้ อง ่ ในการจัดทําโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Wordpress เรื่ องเทคโนโลยี 3G นี้ ผูจดทําโครงงานได้ศึกษาเอกสารและจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ้ั ดังต่อไปนี้ 2.1 ความสําคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์ เน็ต 2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่ อสังคม Social Media 2.3 เว็บบล็อก (WebBlog) 2.1 ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์ เน็ต ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ 1. การศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศ ช่วยในด้านการค้นคว้าศึกษาแหล่งข้อมูล ทําให้ การศึกษาง่ายขึ้นและไร้ขีดจํากัด ผูเ้ รี ยนมีความสะดวกในการค้นคว้าวิจย ั 2. การดํารงชีวตประจําวัน ทําให้มีความสะดวกคล่องตัวและรวดเร็ วในการทํากิจกรรม ิ ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจําวัน สามารถทํางานได้หลายอย่างในเวลาเดียวกันได้หรื อทํางานใช้ เวลาน้อยลง 3. การดําเนิ นธุ รกิจ ทําให้มีการแข่งขันระหว่างธุ รกิจมากขึ้น ทําให้ตองมีการพัฒนา ้ ่ องค์กรเพื่อให้ทนกับข้อมูลข่าวสารอยูตลอดเวลา ั อันส่ งผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่ อง
  • 2. 4. อัตราการขยายตัวทุก ๆ ด้านที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ ว เพราะมีการติดต่อสื่ อสารที่ เจริ ญก้าวหน้าทันสมัย รวดเร็ วถูกต้องและ ทําให้ เป็ นโลกที่ไร้พรหมแดน 5. ระบบการทํางานมีคอมพิวเตอร์ มาใช้ซื่อสามารถทํางานได้มากขึ้น งานบางอย่างมนุษย์ ทําไม่ได ้้ก็ใช้คอมพิวเตอร์ ช่วยทํางานแทนซึ่ งได้ผลถูกต้องรวดเร็ ว ความสาคัญของอินเทอร์ เน็ต ในปั จจุบนอินเทอร์ เน็ตมีบทบาทและมีความสําคัญต่อชีวตประจําวันของคนเราเป็ นอย่าง ั ิ มาก เพราะทําให้วถีชีวตเราทันสมัยและทันเหตุการณ์อยูเ่ สมอ เนื่องจากอินเทอร์เน็ตจะมีการเสนอ ิ ิ ข้อมูลข่าวปั จจุบน และสิ่ งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ผใช้ทราบเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน สารสนเทศที่เสนอ ั ู้ ในอินเทอร์เน็ตจะมีมากมายหลายรู ปแบบเพื่อสนองความสนใจและความต้องการของผูใช้ทุก ้ กลุ่ม อินเทอร์ เน็ตจึงเป็ นแหล่งสารสนเทศสําคัญสําหรับทุกคนเพราะสามารถค้นหาสิ่ งที่ตนสนใจ ได้ในทันทีโดยไม่ตองเสี ยเวลาเดินทางไปค้นคว้าในห้องสมุด หรื อแม้แต่การรับรู ้ข่าวสารทัวโลกก็ ้ ่ ่ สามารถอ่านได้ในอินเทอร์ เน็ตจากเว็บไซต์ตาง ๆ ของหนังสื อพิมพ์ ดังนั้นอินเทอร์ เน็ตจึงมีความสําคัญกับวิถีชีวตของคนเราในปั จจุบนเป็ นอย่างมากในทุก ๆ ิ ั ่ ่ ด้าน ไม่วาจะเป็ นบุคคลที่อยูในวงการธุ รกิจ การศึกษา ต่างก็ได้รับประโยชน์จากอินเทอร์ เน็ต ด้วยกันทั้งนั้น 1. ด้ านการศึกษา อินเทอร์ เน็ตมีความสําคัญ ดังนี้ ่ 1. สามารถใช้เป็ นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่วาจะเป็ นข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้าน การบันเทิง ด้านการแพทย์ และอื่น ๆ ที่น่าสนใจ 2. ระบบเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ต จะทําหน้าที่เปรี ยบเสมือนเป็ นห้องสมุดขนาดใหญ่ 3. นักเรี ยนนักศึกษาสามารถใช้อินเทอร์ เน็ตติดต่อกับมหาวิทยาลัยหรื อโรงเรี ยนอื่น ๆ ํ ่ เพื่อค้นหาข้อมูลที่กาลังศึกษาอยูได้ ทั้งที่ขอมูลที่เป็ นข้อความเสี ยง ภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ ้ 2. ด้ านธุรกิจและการพาณิชย์ อินเทอร์ เน็ตมีความสําคัญดังนี้ 1. ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสิ นใจทางธุ รกิจ 2. สามารถซื้ อขายสิ นค้า ทําธุ รกรรมผ่านระบบเครื อข่าย 3. เป็ นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ โฆษณาสิ นค้า ติดต่อสื่ อสารทางธุ รกิจ 4. ผูใช้ที่เป็ นบริ ษท หรื อองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิ ดให้บริ การ และสนับสนุนลูกค้า ้ ั
  • 3. ของตนผ่านระบบเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตได้ เช่น การให้คาแนะนํา สอบถามปั ญหาต่าง ๆ ให้แก่ ํ ลูกค้า แจกจ่ายตัวโปรแกรมทดลองใช้ (Shareware) โปรแกรมแจกฟรี (Freeware) 3. ด้ านการบันเทิง อินเทอร์ เน็ตมีความสําคัญดังนี้ 1. การพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เช่น การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านระบบ เครื อข่ายอินเทอร์ เน็ต ที่เรี ยกว่า Magazine Online รวมทั้งหนังสื อพิมพ์และข่าวสารอื่น ๆ โดยมี ภาพประกอบที่จอคอมพิวเตอร์ เหมือนกับวารสารตามร้านหนังสื อทัว ๆ ไป ่ ่ 2. สามารถฟังวิทยุหรื อดูรายการโทรทัศน์ผานระบบเครื อข่ายอินเทอร์ เน็ตได้ 3. สามารถดึงข้อมูล (Download) ภาพยนตร์มาดูได้ 2.2 ข้ อมูลเกียวกับสื่ อสั งคม Social Media ่ 2.2.1 ความหมายของ Social Media SMO คือ แนวทางเกี่ยวกับ social media ที่ต้ งใจจะดึงดูดความสนใจผูที่มาชม ั ้ ่ ั เว็บไซต์ ไม่วาจะเป็ นการไป Bookmark เอาไว้, Share Link หรื อว่าส่ งลิงค์ให้กบเพื่อนๆ, การเพิม ่ RSS Feeds การเข้าไปคอมเม้นต์ในบล็อกของคนอื่นๆ หรื อว่า เขียนบทความในบล็อกต่างๆ ของ ตัวเอง (ทั้งสิ่ งที่เห็นด้วย หรื อไม่เห็นด้วย) เพื่อที่จะนําไปต่อยอดทางความคิด จากบทความของเรา โดยที่คนเขียนบทความต่างๆ ในกลุ่มพวกนี้ ก็มกจะมีพวกแฟนพันธุ์แท้ หรื อที่เรี ยกว่า Followers ที่ ั มักจะเข้ามาตามอ่านบทความในสิ่ งที่คนเหล่านี้เขียนถึงอยูเ่ สมอๆ ทําให้เว็บไซต์ของเรา สร้างลิงค์ เชื่อมกับ Social network ได้ง่ายขึ้น, ถูกค้นเจอง่ายขึ้นใน Search engine ที่เจาะจงใช้เพื่อค้นหา Social media (เช่น Technorati) และเพื่อให้บล็อกเกอร์ อื่นๆ อ้างถึงบ่อยขึ้นในบล็อก, พอดคาสท์ ่ หรื อ วิดีโอบล็อก (vlogs) ของเขา เพราะฉะนั้นจะเห็นได้วา บทความหรือว่าเรื่องทีจะเขียนถึง นั้น ่ ถือว่ าเป็ นส่ วนประกอบทีสาคัญมากทีสุดในเรื่องของ SMO ่ ่ SMO คือ 1 ใน 2 วิธีการออนไลน์ของการปรับแต่งเว็ปไซต์ อีกวิธีหนึ่งก็คือ SEO วิธีการของ SMO มี 2 ประเภท 1.ทักษะsocial mediaได้ถูกเพิมเข้าไปในตัวเว็บของมันเอง เช่น RSS feeds , ข่าวสังคม ,ปุ่ ม ่ แชร์ และมีการให้ผใช้โหวตและสํารวจความคิดเห็นต่างๆ รวมถึงพวกรู ปภาพและวีดีโอภายในเว็บ ู้ เรา (เครื่ องมือภายในเว็บที่เป็ น Tools ที่ให้คนอื่นนําไปใช้งานหรื อบริ การข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับเว็บ ของเรา)
  • 4. 2. กิจกรรมใน social media ที่เป็ นเนื้ อหาให้คนอื่นมีส่วนร่ วมในการโปรโมท รวมถึงพวก บล็อก ข้อคิดเห็นในบล็อกต่าง ๆ การเข้าร่ วมแสดงความคิดเห็น และการโพสอัพเดตสถานะใน social media (เป็ นเครื่ องมือที่ให้คนอื่นช่วยโปรโมทให้เราไม่ตองทําเอง) ้ 2.2.2 ประวัติความเป็ นมาและพัฒนาการของ Social Media พูดถึงกันมากเหลือเกินสาหรั บ สื่ อสั งคมออนไลน์ (Social Media) ซึ่งเรียกได้ ว่าเป็ นตัวกลาง เป็ นเครื่องมือ สาหรับการสื่ อสารระหว่ างกัน โดยปัจจุบันได้ ขยาย ผลกว้ างครอบคลุมไปถึง การทางานร่ วมกัน ทั้งภายใน และ ภายนอกองค์ กร โดยอาศัยเว็บ และ โม บายเทคโนโลยี เป็ นตัวช่ วย ถ้ าจะเปรียบเทียบก็น่าจะเป็ นคู่แฝดแห่ งยุคดิจิตอล อย่ างเมื่อกว่ า 200 ปี ก่อน มีแฝดอินจัน ทีไปสร้ างชื่ อเสี ยงในต่ างประเทศ จนมีการตั้งชื่อแฝดลักษณะทีมีลาตัวติดกัน ่ ่ เช่ นนีว่า แฝดสยาม ้ ถ้ าว่ าไปแล้ ว แฝดสยามในยุคดิจิตอล ก็คงหนีไม่ พ้น สื่ อสั งคมออนไลน์ (Social Media) กับ สมาร์ ท โฟน (Smartphone) ทีมักจะไปเป็ นคู่ยากทีจะแยกออกจากกันได้ เมื่อศึกษาถึงคาจากัดความของ ่ ่ สั งคมออนไลน์ (Social Media) จะพบว่ าคือกลุ่มของแอพพลิเคชั่ น บนอินเทอร์ เน็ต ทีสร้ างขึนมา ่ ้ บนพืนฐานแนวคิด และเทคโนโลยี Web 2.0 ซึ่งรองรับให้ มีการสร้ าง และ แลกเปลี่ยน คอนเทนต์ ที่ ้ ผู้ใช้ เป็ นผู้สร้ างเอง (User-generated content) เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว สามารถเรียกได้ ว่า สื่ อ สั งคมออนไลน์ (Social Media) เป็ นการผสมผสานกันระหว่าง เทคโนโลยี กับ การสื่ อสารระหว่าง กันในสั งคม เพือสร้ างเสริมมูลค่ าให้ เพิมขึน ่ ่ ้ เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป โดยเฉพาะยุคดิจิตอลอย่างทุกวันนี้ การแสดงความคิดเห็นดูจะเป็ น เรื่ องง่าย บนสื่ อสังคมออนไลน์ เป็ นหนึ่งตัวอย่างที่ทาให้พนักงานรายหนึ่งในอเมริ กา ถูกไล่ออก ํ ิ ๊ ่ หลังจากที่เธอได้วจารณ์เจ้านายของเธอบน เฟชบุก (Facebook) เรื่ องเกิดขึ้นเมื่อปี ที่ผานมา พนักงาน หญิงรายนี้ได้เขียนข้อคิดเห็นของเธอ บนหน้าเฟชบุก ด้วยคําพูดที่หยาบคาย คดีน้ ีถูกจับตามองทัว ๊ ่
  • 5. จากทุกวงการ ด้วยความกังขาว่า นายจ้างมีสิทธิ ที่จะลงโทษพนักงานที่เขียนข้อคิดเห็นบน สังคม ออนไลน์ หรื อไม่ เท่าที่ทราบในเมืองไทยเรายังไม่เคยได้ยน เหตุการณ์ลกษณะนี้เกิดขึ้น ิ ั ่ เกมในเฟซบุก น่าจะเป็ นตัวสร้างความสัมพันธ์ได้อย่างดี ด้วยกลยุทธ์วาใครมีเพื่อนเยอะก็ ๊ จะได้อะไรเพิ่มขึ้นในเกม นอกจากนั้น ยังมีการหลอกล่อให้ตองมีเพื่อนมาร่ วมกันเป็ นส่ วนหนึ่งใน ้ ั เกม ปลูกผักเลี้ยงปลากันใหญ่ วันก่อนมีโอกาสไปบรรยายเรื่ องสังคมออนไลน์ให้กบกรมส่ งเสริ ม การเกษตร ก็เล่าไปว่าบ้านเราน่าจะทําเกมลักษณะนี้ในรู ปแบบไทยๆ บ้านเรามีเกษตรกร กว่าครึ่ ง ค่อนประเทศ นี่ยงไม่นบรวมท่านที่ชอบทําการเกษตรบนโลกออนไลน์ ั ั ในทางกลับกัน บางประเทศกลับห้ามใช้งานเว็บนี้ บางบริ ษทก็หามใช้เนื่องจากเสี ยเวลา ั ้ การทํางานของพนักงาน เฟซบุคได้รับการจัดอันดับเป็ นเว็บสังคมออนไลน์ที่มีผใช้มากที่สุดในปี ๊ ู้ ค.ศ. 2009 จํานวนผูใช้เพิ่มขึ้นเป็ นเท่าตัว และที่น่าสนใจก็คือจํานวนผูเ้ ล่นอินเทอร์ เน็ตในสหรัฐฯ ้ เข้าใช้งานมากกว่ากูเกิลเป็ นครั้งแรกช่วงต้นปี 2010 อีกด้วย ล่าสุ ดมีข่าวการใช้เฟซบุก เพื่อช่วยเหลือชีวิต ปกติเรามักจะได้ยนการใช้สังคมออนไลน์ ๊ ิ เป็ นสื่ อ เป็ นเครื่ องมือทางการตลาด แต่ล่าสุ ดมีข่าวจากสํานักข่าวต่างประเทศได้รายงานเกี่ยวกับการ ประกาศรับบริ จาคไตในเฟซบุก เรื่ องเกิดที่สหรัฐฯ มีผป่วยที่ตองการปลูกถ่ายไต ต้องเปลี่ยนไตใหม่ ๊ ู้ ้ ภายในเวลาจํากัด เมื่อปรึ กษากับแพทย์ที่ดูแลอยู่ จึงได้ตดสิ นใจลองประกาศลงในเฟซบุ๊ก แล้วก็มีผที่ ั ู้ ประสงค์จะบริ จาคไตให้ โดยไม่ได้มีความสนิทสนมกันเป็ นพิเศษแต่อย่างใด เป็ นเพียงเพื่อนในเฟ ซบุก ผูรับบริ จาคเมื่อได้รับข้อความแสดงความจํานงจะบริ จาคไตให้ ในตอนแรกยังคิดว่าเป็ นเรื่ อง ๊ ้ ล้อเล่นกัน แต่เมื่อต้นเดือนเมษายน 2010 แพทย์ก็ได้เปลี่ยนไตที่บริ จาคให้ไปเป็ นที่เรี ยบร้อยแล้ว การศึกษาล่าสุ ดพบว่าหญิงสาววัยรุ่ น ที่นงจ้องเฟชบุคทั้งวัน อาจเป็ นสาเหตุให้เกิดอาการ ั่ ๊ ผิดปกติในเรื่ องการทานอาหาร จากการศึกษาพบว่าสองสาเหตุหลักที่ทาให้เกิด อาการการทาน ํ อาหารผิดปกติ คือ การใช้เวลามากเกินไปกับ พฤติกรรมการบริ โภคสื่ อ และ การเป็ นตัวของตัวเอง มากเกินไป ผลจากการสํารวจเด็กวัยรุ่ นช่วงอายุ 12 ถึง 19 ปี พบว่าพฤติกรรมการบริ โภคสื่ อ อินเทอร์ เน็ต และ โทรทัศน์ มีผลกระทบต่อพฤติกรรมของแต่ละคนโดยตรง จากผลการสํารวจพบว่า ยิงใช้เวลากับเฟชบุก มากเท่าไหร่ ก็จะมีโอกาสจะพบอาการ ่ ๊ อยากอาหารมากผิดปกติ ภาวะเบื่ออาหาร ไม่พึงพอใจในสรี ระของตัวเอง และ ความต้องการอยาก ลดนํ้าหนัก มากขึ้น
  • 6. เมื่อมีจานวนผูใช้ สื่ อสังคมออนไลน์ (Social Media) มากขึ้นเท่าใร ย่อมเป็ นโอกาสในการ ํ ้ ทําธุ รกิจ จึงเกิดคําว่า Social Commerce ขึ้น และได้รับความสนใจมากในช่วงนี้ หรื อถ้าลองค้นหา คําว่า “e-mail vs. Social Media” ในกูเกิล จะพบผลลัพธ์มากเป็ นหลายหมื่น จึงเป็ นสิ่ งที่ชดเจนว่า ั เป็ นหัวข้อร้อน จนบางที คนนิยามว่าเป็ นการทําสงครามบนโลกดิจิตอล บ้างก็กล่าวว่าคงเป็ นจุดจบ ของ อีเมล์ และคลื่นลูกใหม่ที่มาก็คือ สื่ อสังคมออนไลน์ (Social Media) อีกแง่มุมหนึ่งที่ดูเข้าท่าก็คือ ทั้งอีเมล์ และ สื่ อสังคมออนไลน์ จะเป็ นตัวเสริ มกันและกัน เพื่อการตัดสิ นใจทางธุ รกิจ เราควรที่จะโฟกัสสองเรื่ องใหญ่ๆ คือ กลุ่มเป้ าหมาย และ เจตนา มาเริ่ ม ด้วยกลุ่มเป้ าหมาย * ถ้ากลุ่มเป้ าหมายอายุต่ากว่า 20 ปี น่าจะค่อนข้างชัดเจนว่า การใช้ส่ื อสังคมออนไลน์ จะเป็ น ํ ทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด *ถ้ากลุ่มธุ รกิจเป็ นกลุ่มเป้ าหมายของเรา การใช้อีเมล์ ถูกมองว่าเราจะได้ผลเร็ วกว่า ในทางกลับกัน ถ้าลูกค้าทัวไปเป็ นกลุ่มเป้ าหมายของธุ รกิจ การใช้ สื่ อสังคมออนไลน์ น่าจะได้ผลที่ดีกว่า เนื่องจาก ่ ลูกค้าจะเชื่อ และฟัง ความเห็นของคนอื่นๆ ที่ให้ไว้บนสื่ อสังคมออนไลน์ *สําหรับกลุ่มเป้ าหมายที่อยูที่ทางาน อีเมล์เป็ นคําตอบของเรา แต่ถาต้องการมุ่งไปที่อยูที่บาน สื่ อ ่ ํ ้ ่ ้ สังคมออนไลน์ น่าจะให้ผลตอบรับที่ดีกว่า จะเห็นได้วาการวิเคราะห์กลุ่มเป้ าหมายทั้งทาง ประชากรศาสตร์ (Demographic) และเชิง ่ จิตวิทยา เป็ นสิ่ งที่สาคัญทั้งคู่ ในการเลือกว่า อีเมล์ หรื อ สื่ อสังคมออนไลน์ จะเหมาะสมกับธุ รกิจ ํ อย่างไรก็ตามในหลายกรณี เราควรใช้ท้ งสองช่องทาง ในการติดต่อสื่ อสาร ั 2.2.3 ประเภทเว็บไซต์ ทให้ บริการ Social Media ี่ ocial Network  myFri3nd มีรูปแบบคล้ายเว็บ Social Network ทัวไป เป็ นเว็บไซต์ในเครื อ sanook.com ่  D-Looks เว็บไซต์ Social Network แนว ๆ hi5 แต่มีสโลแกนว่า เว็บไซต์ดูดี สําหรับคนดี ๆ  BangkokSpace เป็ น Social Network สําหรับคนชอบเที่ยวกลางคืน Blogging
  • 7. ้ ่ exteen เว็บผูให้บริ การ blog อันดับหนึ่งของไทย สู สีเบียดกับ bloggang อยูตลอด แต่หลัง ๆ ดูเหมือนยอดสมาชิกจะแซงแล้ว ตัวระบบ exteen เองพัฒนาได้ดี  BlogGang ผูให้บริ การพื้นที่ blog ในเครื อ pantip.com ซึ่ งสมาชิกส่ วนใหญ่ จะเป็ นแฟน ้ คลับ หรื อขาประจําของ pantip.com อยูแล้ว ่ Micro Blogging  NokNok เว็บแบบเดียวกับ twitter แต่พฒนาโดยคนไทย (ในเครื อ sanook.com เช่นกัน) แต่ ั ่ ดูมีแนวโน้มการพัฒนาที่ดี ไม่วาจะเป็ นการเชื่อมให้อพเดทกับ twitter ได้ หรื อการอัพเดท ั noknok ผ่านมือถือเป็ นต้น Social Bookmarking  ั Zickr เว็บ social bookmark อันดับหนึ่งของไทย คนใช้กนเพียบ เป็ นที่รวมข้อมูลบทความ ทันสมัย ที่มีคนมาช่วยกันใส่ เรื่ องใหม่ ทุกวัน  Duocore เว็บที่รายงานข่าวเกี่ยวกับวงการไอทีไทย ในรู ปแบบวีดีโอ โดยใช้ระบบ Social Bookmark มาให้ผชม ช่วยกันส่ งเรื่ องราวไอทีที่น่าสนใจเข้ามา ในแต่ละสัปดาห์จะมีการเลือก ู้ เรื่ องราวที่น่าสนใจ ไปทํารายการเป็ นรู ปแบบวีดีโอ  Siam Collective เว็บ Social Bookmark อีกแห่งหนึ่งของไทย  iam in Thai Social Bookmark ของไทยที่เก็บรวบรวมงานอีเว้นต์ และเทศกาลสําคัญ  Techkr เว็บ Social Bookmark ที่เก็บแต่เรื่ องราวเทคโนโลยี Social Mailbox  Fwdder.com เว็บที่ให้คุณสามารถ forward email ต่าง ๆ ที่ได้รับมาจากคนอื่น แล้วนํามา ขึ้นแสดงในเว็บไซต์ได้ทนที เรี ยกได้วาเป็ นเว็บไซต์ที่รวมพวก forward email ไว้ให้อ่านกัน ั ่ นันเอง ่ เราจะอัพเดทหน้านี้ไปเรื่ อย ๆ นะครับ สําหรับเจ้าของเว็บ Social Network ของไทย ที่ตองการ ้ แนะนําเว็บของตัวเองเข้ามา หรื อแม้กระทังผูอ่าน ที่ไปพบว่ามีเว็บ Social Network ของไทยเว็บ ่ ้ ่ ไหน ที่ยงไม่มีรายชื่ออยูในหน้านี้ ก็สามารถแนะนํากันเข้ามาได้ ผ่านทาง comment ในหน้านี้เลย ั ครับ ทางทีมงานขอสงวนสิ ทธิ์ ในการพิจารณา นําเว็บขึ้นอยูในรายชื่อ โดยเลือกเว็บที่เหมาะสม และ ่ เป็ นเว็บที่พฒนาโดยคนไทยครับ ั ที่มา http://keng.com/2009/01/07/thailand-social-media-list
  • 8. 2.3 เว็บบล็อก (WebBlog) 2.3.1 ความหมายของเว็บบล็อก (WebBlog) Web Blog คือ Blog มาจากศัพท์คาว่า WeBlog บางคนอ่านคํา ๆ นี้วา We Blog ํ ่ บางคนอ่านว่า Web Log แต่ท้ งนี้ท้ งนั้น ทั้งสองคําบ่งบอกถึงความหมายเดียวกัน ว่านันคือบล็อก ั ั ่ (Blog) ความหมายของคําว่า Blog ก็คือการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบนเว็บไซต์ ่ โดยเนื้ อหาของ blog นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่ อง ไม่วาจะเป็ นเรื่ องราวส่ วนตัว หรื อเป็ นบทความ เฉพาะด้านต่าง ๆ เช่น เรื่ องการเมือง เรื่ องกล้องถ่ายรู ป เรื่ องกีฬา เรื่ องธุ รกิจ เป็ นต้น โดยจุดเด่นที่ทา ํ ให้บล็อกเป็ นที่นิยมก็คือ ผูเ้ ขียนบล็อก จะมีการแสดงความคิดเห็นของตนเอง ใส่ ลงไปในบทความ นั้น ๆ โดยบล็อกบางแห่ง จะมีอิทธิ พลในการโน้มน้าวจิตใจผูอ่านสู งมาก แต่ในขณะเดียวกัน บาง ้ บล็อกก็จะเขียนขึ้นมาเพื่อให้อ่านกันในกลุ่มเฉพาะ เช่นกลุ่มเพื่อน ๆ หรื อครอบครัวตนเอง มีหลายครั้งที่เกิดความเข้าใจกันผิดว่า Blog เป็ นได้แค่ไดอารี่ ออนไลน์ แต่ในความเป็ นจริ งแล้ว ไดอารี่ ออนไลน์เปรี ยบเสมือน เนื้ อหาประเภทหนึ่งของบล็อกเท่านั้น เพราะบล็อกมีเนื้ อหาที่ หลากหลายประเภท ตั้งแต่การบันทึกเรื่ องส่ วนตัวอย่างเช่นไดอารี่ หรื อการบันทึกบทความที่ผเู้ ขียน บล็อกสนใจในด้านอื่นด้วย ที่เห็นชัดเจนคือ เนื้อหาบล็อกประเภท วิจารณ์การเมือง หรื อการรี วว ิ ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ตวเองเคยใช้ หรื อซื้ อมานันเอง อีกทั้งยังสามารถ แตกแขนงไปในเนื้ อหาใน ั ่ ประเภทต่าง ๆ อีกมากมาย ตามแต่ความถนัดของเจ้าของบล็อก ซึ่งมักจะเขียนบทความเรื่ องที่ตนเอง ถนัด หรื อสนใจเป็ นต้น จุดเด่นที่สุดของ Blog ก็คือ มันสามารถเป็ นเครื่ องมือสื่ อสารชนิดหนึ่ง ที่สามารถสื่ อถึงความเป็ น กันเองระหว่างผูเ้ ขียนบล็อก และผูอ่านบล็อกที่เป็ นกลุ่มเป้ าหมาย ที่ชดเจนของบล็อกนั้น ๆ ผ่านทาง ้ ั ระบบ comment ของบล็อกนันเอง ่ ในอดีตแรกเริ่ ม คนที่เขียน Blog นั้นยังทํากันในระบบ Manual คือเขียนเว็บเองทีละหน้า แต่ใน ปั จจุบนนี้ มีเครื่ องมือหรื อซอฟท์แวร์ให้เราใช้ในการเขียน Blog ได้มากมาย ั เช่น WordPress, Movable Type เป็ นต้น ผูคนหลายล้านคนจากทัวทุกมุมโลก หันมาเขียน Blog กันอย่างแพร่ หลาย ตั้งแต่นกเรี ยน อาจารย์ ้ ่ ั นักเขียน ตลอดจนถึงระดับบริ ษทยักษ์ใหญ่ในตลาดหุ ้น NasDaq ั เมื่อสองสามปี ที่ผานมา Blog เริ่ มต้นมาจาก การเขียนเป็ นงานอดิเรก ของกลุ่มสื่ ออิสระต่าง ๆ หลาย ่ ั ๆ แห่งกลายเป็ นแหล่งข่าวสําคัญ ให้กบหนังสื อพิมพ์หรื อสํานักข่าวชั้นนํา จวบจนกระทังปี 2004 ่ คนเขียน Blog ก็ได้รับการยอมรับจากสื่ อและสํานักข่าวต่าง ๆ ถึงความรวดเร็ วในการให้ขอมูล ้ ตั้งแต่เรื่ องการเมือง ไปจนกระทัง เรื่ องราวของการประชุม ระดับชาติ ่
  • 9. และจากเหตุการณ์เหล่านี้ นับได้วา Blog เป็ นสื่ อชนิดหนึ่งที่ไม่ต่างจาก วีดีโอ , สิ่ งพิมพ์ , โทรทัศน์ ่ ่ ่ หรื อแม้กระทังวิทยุ เราสามารถเรี ยกได้วา Blog ได้เข้ามาเป็ นสื่ อชนิดใหม่ ที่สาคัญอย่างแท้จริ ง ํ สรุ ปให้ง่าย ๆ สั้น ๆ ก็คือ Blog คือเว็บไซต์ ที่มีรูปแบบเนื้อหา เป็ นเหมือนบันทึกส่ วนตัวออนไลน์ มี ส่ วนของการ comments และก็จะมี link ไปยังเว็บอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย ใช้ อย่างไร 1.หาเว็บที่ให้สามารถให้เช่า blog ได้ 2.สมักรเป็ นสมาชิกของเว็บนั้น 3.เมื่อเราเป็ นสมาชิกแล้วก็สามารตกแต่ง blog ของเราได้ 2.3.2 ประเภทของเว็บบล็อก ประเภทของ Blog ่ บล็อกที่เราเห็นอยูในปั จจุบนนี้ ใช่มีเพียงแค่บล็อกที่เป็ นตัวหนังสื อและรู ปภาพเท่านั้น หรื อ มีแค่ ั ออนไลน์ไดอารี่ เราแบ่งบล็อกออกได้ ดังต่อไปนี้ 1. แบ่งตามลักษณะของมีเดียที่มีในบล็อกได้แก่1.1. Linklog บล็อกแบบนี้น่าจะเป็ นบล็อกรุ่ นแรก ๆ ้ ํ เป็ นบล็อกที่รวมลิ๊งก์ที่เจ้าของบล็อกสนใจเอาไว้ ถ้าคณยังจําผูให้กาเนิดคําว่า “บล็อก” ที่ชื่อ จอห์น บาจเจอร์ ได้ นันแหล่ะครับ robotwisdom.com ของเขาคือตัวอย่างของ linklog นันเอง แม้วาจะ ่ ่ ่ บล็อกแบบนี้จะเป็ นการรวมลิ๊งก์เท่านั้น แต่ก็ไม่เรี ยงเหมือนว็บไดเร็ กทอรี่ เพราะเจ้าของบล็อกจะ โพสต์ลิ๊งก์ของเขา 1 – 2 ลิ๊งก์ต่อโพสต์เท่านั้นครับ ใครที่อยากมีบล็อกเป็ นของตนเองแต่ยงนึกไม่ ั ออกว่าจะทําบล็อกแบบไหน linklog น่าจะเป็ นการเริ่ มต้นการทําบล็อกได้เป็ นอย่างดี1.2 Photoblog ่ ชื่อก็บอกอยูแล้วครับว่า Photo บล็อกประเภทนี้ เน้นในโพสต์ภาพถ่ายที่เจ้าของบล็อกอยากนําเสนอ ่ และมักจะไม่เน้นที่จะเขียนข้อความมากนัก บางบล็อกเรี ยกได้วาภาพโดยเจ้าของบล็อกล้วน ๆ เลย ครับ1.3. Vlog ย่อมาจาก Videoblog เป็ นบล็อกที่รวมวิดีโอคลิปไว้ในบล็อก Vlog เป็ นบล็อกที่เรี ยก ่ ได้วาเป็ นบล็อกที่นิยมทํากันมากในอนาคต เพราะการเจริ ญเติบโตของไฮสปี ด อินเตอร์ เน็ต หรื อ อินเตอร์ เน็ตบอร์ ดแบนด์ ที่ทาให้การถ่ายทอดเสี ยง ภาพเคลื่อนไหว movie […] ํ 2. แบ่งตามประเภทเนื้ อหา ได้แก่2.1 บล็อกส่ วนตัว(Personal Blog) นําแสนอความคิดเห็น กิจวัตร ประจําวันของเจ้าของบล็อกเป็ นหลัก2.2 บล็อกข่าว(News Blog) บล็อกที่นาเสนอข่าวเป็ นหลัก2.3 ํ บล็อกกลุ่ม(Collaborative Blog) เป็ นบล็อกที่เขียนกันเป็ นกลุ่ม เช่น blognone.com2.4 บล็อก การเมือง(Politic Blog) ว่าด้วยเรื่ องการเมืองล้วน ๆ2.5 บล็อกเพื่อสิ่ งแวดล้อม(Environment Blog) พูดถึงเรื่ องราวของธรรมชาติและการรักษาสิ่ งแวดล้อม2.6 มีเดียบล็อก(Media Blog) เป็ นบล็อกที่
  • 10. วิเคราะห์สื่อต่างๆ สารคดีและสิ่ งที่เกี่ยวกับสื่ อ เช่น oknation.net/blog/black ของสุ ทธิ ชย หยุน2.7 ั ่ บล็อกบันเทิง(Entertainment Blog) บล็อกที่นาเสนอเรื่ องราวบันเทิงทั้งทางจอแก้ว และจอเงิน เรื่ อง ํ ซุ บซุ ดารา กองถ่าย ฯลฯ2.8 บล็อกเพื่อการศึกษา(Educational Blog) ในโรงเรี ยน หรื อมหาวิทยาลัย ในต่างประเทศมักจะใช้บล็อกเป็ นสื่ อในการสอนหรื อ แลกเปลี่ยนความคิดกัน2.9 ติวเตอร์บล็อก (Tutorial Blog) เป็ นบล็อกที่นาเสนอวิธีการต่าง ํ http://witwang.blogspot.com/2007_07_01_archive.html 2.3.3 เว็บไซต์ ทให้ บริการเว็บบล็อก ี่ www.blogger.com www.exteen.com www.mapandy.com www.buddythai.com www.imigg.com www.5iam.com www.blogprathai.com www.ndesignsblog.com www.idatablog.com www.inewblog.com www.onblogme.com www.freeseoblogs.com www.sumhua.com www.diaryi.net www.istoreblog.com www.skypream.com www.thailandspace.com www.sungson.com www.gujaba.com www.sabuyblog.com www.ugetblog.com www.jaideespace.com www.maxsiteth.com
  • 11. www.my2blog.com 2.3.4ประวัติของเว็บไซต์ Wordpress WordPress คือ โปรแกรมสําเร็ จรู ปตัวหนึ่ง ที่เอาไว้สาหรับสร้าง บล็อก หรื อ เว็บไซต์ ํ ่ สามารถใช้งานได้ฟรี ถูกจัดอยูในประเภท CMS (Contents Management System) ซึ่งหมายถึง โปรแกรมสําเร็ จรู ปที่มีไว้สาหรับสร้างและบริ หารจัดการเนื้อหาและข้อมูลบนเว็บไซต์ ํ WordPress ได้รับการพัฒนาและเขียนชุดคําสั่งมาจากภาษา PHP (เป็ นภาษาโปรแกรมมิ่งตัวหนึ่ง) ทํางานบนฐานข้อมูล MySQL ซึ่ งเป็ นโปรแกรมสําหรับจัดการฐานข้อมูล มีหน้าที่เก็บ เรี ยกดู แก้ไข ่ เพิมและลบข้อมูล การใช้งานWordPress ร่ วมกับ MySQL อยูภายใต้สัญญาอนุญาตใช้งานแบบ ่ GNU General Public License WordPress ปรากฏโฉมครั้งแรกในโลกเมื่อปี พ.ศ. 2546 (2003) เป็ นความร่ วมมือกันระหว่าง Matt ่ Mullenweg และ Mike Littlej มีเว็บไซต์หลักอยูที่ http://wordpress.org และยังมีบริ การ Free Hosting (พื้นที่สาหรับเก็บทุกอย่างของเว็บ/บล็อก) โดยขอใช้บริ การได้ที่ http://wordpress.com ํ ปั จจุบนนี้ WordPress ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ ว จนมีผใช้งานมากกว่า 200 ล้านเว็บ ั ู้ ่ บล็อกไปแล้ว แซงหน้า CMS ตัวอื่น ๆ ไม่วาจะเป็ น Drupal , Mambo และ Joomla สาเหตุเป็ นเพราะ ใช้งานง่าย ไม่จาเป็ นต้องมีความรู ้ในเรื่ อง Programing มีรูปแบบที่สวยงาม อีกทั้งยังมีผพฒนา ํ ู้ ั Theme (รู ปแบบการแสดงผล) และ Plugins (โปรแกรมเสริ ม) ให้เลือกใช้ฟรี อย่างมากมาย นอกจากนี้ สําหรับนักพัฒนา WordPress ยังมี Codex เอาไว้ให้เราได้เป็ นไกด์ไลน์ เพื่อศึกษา ่ องค์ประกอบส่ วนต่าง ๆ ที่อยูภายใน สําหรับพัฒนาต่อยอด หรื อ นําไปสร้าง Theme และ Plugins ขึ้นมาเองได้อีกด้วย หนําซํ้า ยังมีรุ่นพิเศษ คือ WordPress MUสําหรับไว้ให้ผนาไปใช้ สามารถเปิ ด ู้ ํ
  • 12. ให้บริ การพื้นที่ทาเว็บบล็อกเป็ นของตนเอง เพื่อให้ผอื่นมาสมัครขอร่ วมใช้บริ การในการสร้างเว็บ ํ ู้ บล็อก ภายใต้ชื่อโดเมนของเขา หรื อที่เรี ยกว่า Sub-Domain จากที่ได้เกริ่ นนําไปในบทความนี้ คงจะทําให้รู้จก และได้ทราบประวัติความเป็ นมา รวมถึง ั ความหมายกันไปบ้างแล้วว่า WordPress คือ อะไร ในบทความหน้า เราจะได้เริ่ มเรี ยนรู ้ถึงรู ปแบบ และวิธีการใช้งาน ไปจนถึงการเพิ่มลูกเล่นต่าง ๆ ต่อไป ความเป็ นมาของ wordpress wordpress หลายคนรู ้จกกันดีและบางคนก็อาจจะกําลังใช้งานอยูก็ได้แต่จะมีสกกี่คนที่รู้ ั ่ ั ั ว่า wordpress มีประวัติความเป็ นมายังไงเดี๋ยวจะได้รู้กนครับ ํ ความเป็ นมาของ wordpres เริ่ มจาก B2 หรื อ cafelog คือผูที่ให้กาเนิดการทํางานของเว็บบล๊อกที่ชื่อ ้ ว่า wordpress ได้การผลิตบล็อกชนิดนี้ข้ ึนครั้งแรกประมาณปี 2003 ตอนนั้นมีบล็อก wordpress ่ ั อยูประมาณ 2000 บล็อก บล็อกที่ชื่อว่า wordpress นี้ เขียนด้วยภาษา PHP เพื่อที่จะใช้กบ MySQL โดยผูเ้ ขียน wordpress ก็คือ Michel Valdrighi เป็ นผูร่วมพัฒนาwordpress ตอนนั้น wordpress ยัง ้ ่ อยูใน B2evolution wordpress ได้ปรากฏสู่ โลกในปี 2003 โดยเป็ นความพยายามของ Matt Mullenweg และ Mike little ในปี 2004 ได้ถูกเปลี่ยนแปลงโดย six apart ทําให้มีผงาน wordpress จํานวนมากขึ้น และเริ่ มก่อเกิด ู้ แบรนด์ wp หรื อ wordpress ขึ้นมาและมีการใช้งานมากขึ้นและการพัฒนาอย่างต่อเนื่ องจนมาถึง ปัจจุบน ั ในปี 2007 wordpress ได้รับรางวัลชนะเลิศในเรื่ องของ Packt open source CMS award