ความรู้เกี่ยวกับ การใส่เสียง
- 2. เราสามารถนาไฟล์เสียงมาใช้ในโปรแกรม Adobe Flash เพื่อช่วยเพิ่มความ
น่าสนใจให้กับภาพยนตร์ หรือเพื่อประกอบกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้โดยไฟล์เสียงที่นาเข้ามาจะ
ถูกเก็บไว้ในไลบรารี (Library) โดยสามารถนามาใช้กับลักษณะต่าง ๆ ตามความเหมาะสม
เช่น ถ้าเป็นเพลงบรรเลงประกอบก็ให้เล่นคลอไปกับภาพยนตร์กราฟิกแอนนิเมชั่นไปเรื่อย ๆ
แต่ถ้าเป็นเสียงที่เกี่ยวข้องกับภาพเคลื่อนไหวช่วงใดช่วงหนึ่งของภาพยนตร์กราฟิกเคลื่อนไหวก็
ให้เล่นเสียงตรงกับการเคลื่อนไหวของภาพ เช่น เสียง ติ๊ก ๆ เป็นเสียงของนาฬิกาเดินเป็นต้น
นอกจากนี้เราสามารถปรับแต่งเสียง ได้หลายรูปแบบ เช่น การปรับระดับความ ดัง – เบาของ
เสียง แต่ช่วง หรือ ปรับ ช่องสัญญาณซ้าย – ขวา หรือปรับแอฟเฟ็คต์ความต้องการ
- 3. เนื่องจากไฟล์เสียงมักมีขนาดใหญ่โดยเฉพาะไฟล์ WAV และ AIFF แต่สาหรับ
ไฟล์ MP3 นั้นมีขนาดเล็กกว่ามาก ดังนั้นเมื่อจะนาไปใช้จิงจาเป็นต้องเลือกให้เหมาะสม
รวมทั้งจะต้องบีบอัดข้อมูล หรือลดคุณภาพของเสียงลงบ้าง คุณสมบัติของไฟล์เสียงที่
ควรใช้ก็คือ Mono ขนาด 16-bit 22 kHz (ถ้าเป็นเสียงชนิด Stereo จะมีปริมาณข้อมูล
มากกว่า Mono ถึง 2 เท่า) อย่างไรก็ดี Adobe Flash สามารถจะใช้ไฟล์เสียงแบบ 8-bit
หรือ 16-bit ซึ่งมีอัตราสุ่ม (sample rete หน่วยเป็น kHz) ที่ 11,12 หรือ 44 kHz เข้ามา
ใช้ได้ด้วยเช่นกัน ในกรณีที่ไฟล์ต้นฉบับมีอัตราสุ่มสูง ๆ สามารถสั่งโปรแกรมแปลงเสียง
ดังกล่าว ให้มีคุณภาพต่าลง (ซึ่งจะทาให้ปริมาณข้อมูลลดลงด้วย) เพื่อให้เหมาะสม
สาหรับนาไปใช้
ไฟล์เสียงที่มามารถใช้ในโปรแกรม Adobe Flash คือไฟล์ประเภท WAV และ
MP3 นอกจากนี้หากเครื่องคอมพิวเตอร์ติดตั้งโปรแกรม Quick Time 4 ขึ้นไป ก็สามารถ
ใช้ไฟล์เสียงประเภทอื่น ได้อีกหลายชนิด คือ AIFF (.aif),AU,Quick Time,System 7
และ Sound Designer 11
- 4. ประเภทไฟล์เสียงในโปรแกรม Adobe Flash แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
Event Sound หมายถึงเสียงที่ต้องดาวน์โหลดมาครบสมบูรณ์ก่อน จึงจะเริ่มเล่น
ได้และเล่นอย่างต่อเนื่องไปจนกว่าจะสั่งให้หยุด
Steram Sound หมายถึงเสียงที่จะเริ่มเล่นทันทีที่ข้อมูลของเฟรมแรก ๆ ถูกดาวน์
โหลดเข้ามามากพอที่จะเล่นได้
ขั้นตอนการใส่ไฟล์เสียงในภาพยนตร์กราฟิกเคลื่อนไหวด้วยโปรแกรม Adobe Flash
ขั้นตอนการใส่เสียงสามารถทาได้ดังนี้
คลิกคาสั่ง File > Import to Library
- 5. เลือกโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์ > คลิกเลือกไฟล์เสียง > กดปุ่ม Open
ไฟล์เสียงจะถูกนาเข้ามาเก็บไว้ในไลบรารี (Library) โดยมีไอคอนเป็นรูป เมือ
คลิกเลือกชื่อไฟล์เสียงในไลบรารี (Library) จะมีภาพคลื่นแสดงในช่องด้านบน พร้อม
ทั้งมีปุ่มควบคุมปรากฏ ซึ่งสามารถให้ฟังเสียงได้ โดยคลิกปุ่ม Play เสียงจะถูกเล่น 1
ครั่ง และเมื่อต้องการหยุดเล่นก็คลิกปุ่ม Stop
ภาพคลื่นเสียงจะมี 2 แบบ คือถ้าเป็นเสียงชนิด Mono จะมีเพียงช่องสัญญาณ
เดียวแต่หากเป็นชนิด Stereo จะมี 2 ช่องสัญญาณ
- 6. ไฟล์เสียงที่มีอัตราสุ่ม (Simple Rate)ไม่เป็นจานวนเท่าของ 11 เช่น 8,16,32 หรือ
48 kHz เมื่อนามาใช้ในโปรแกรม Adobe Flash จะถูกแปลงค่าให้เป็น 5,11,22,44 kHz วึ่ง
อาจจะทาให้คุณภาพของเสียงเปลี่ยนไป
การนาไฟล์เสียงเสียงมาใช้มาใช้ในภาพยนตร์เคลื่อนไหวด้วยโปรแกรม Adobe
Flash ควรใส่เสียงไว้ในเลเยอร์ที่แยกต่างหากจากเนื้อหาอื่น ๆและแต่ละเสียงควรอยู่ในเล
เยอร์ของตนเองไม่ปะปนกัน และต้องคานึงถึงเวลาของการเล่นเสียงแต่ละเสียงด้วย เพราะ
หากกาหนดตาแหน่งหรือซ้อนเหลื่อมกัน อาจทาให้เสียงในแต่ละเลเยอร์เล่นซ้อนกันจนฟัง
ไม่รู้เรื่องได้
ใส่เสียงมูฟวี่เพียงบางช่วง(กาหนดจุดเริ่มต้นและจุดจบของเสียง)
มักใช้กรณีที่ต้องการให้มีเสียงประกอบภาพยนตร์กราฟิกเคลื่อนไหว ขึ้นมาเป็นช่วง ๆ โดย
ให้เริ่มเล่นเสียงเมื่อภาพยนตร์กราฟิกเคลื่อนไหวเล่นถึงตาแหน่งที่ต้องการ แล้วจบเสียงเมื่อ
ผ่านไปสักพัก วิธีนี้เป็นการใส่เสียงเพื่อให้สอดคล้องกับภาพโดยยึดตาแหน่งเฟรมเป็นหลัก
เช่น เมื่อภาพยนตร์การฟิกเคลื่อนไหวเล่นมาถึงจุดที่มีนักศึกษาชายนั่งทาการบ้านอยู่แล้วทา
ไม่ได้ให้เล่นเสียงว่า “ยากจังหาของคนอื่นมาลอกดีกว่า” ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้