SlideShare a Scribd company logo
1 of 7
Download to read offline
ปลาฉลามขาว
ปลาฉลามขาว (อังกฤษ: Great white shark) จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง มี
ขนาดตัวที่ค่อนข้างใหญ่ พบได้ตามเขตชายฝั่งแถบทะเลใหญ่ มีความยาวประมาณ 6 เมตร
น้าหนักประมาณ 2250 กิโลกรัม ทาให้ปลาฉลามขาวเป็นปลากินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใน
โลก รวมถึงเป็นสัตว์กินเนื้อที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย และเป็นสิ่งมีชีวิตสปีชี่ส์เดียวใน
สกุล Carcharodon ที่ยังคงสืบทอดเผ่าพันธุ์อยู่ในปัจจุบัน[3]
โดยเป็นปลาที่ถือกาเนิด
มาแล้วนานกว่า 16 ล้านปี
วิวัฒนาการ
ปลาฉลามขาวมีความสามารถคล้ายกับปลาฉลามสายพันธุ์อื่นๆ ที่มีอวัยวะรับสัมผัสพิเศษ
ที่สามารถตรวจจับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่แผ่ออกมาจากปลาที่มีชีวิต ที่เคลื่อนไหวอยู่ในน้า ทุก
ครั้งที่สิ่งมีชีวิตเคลื่อนไหวอยู่ใต้ผิวน้า จะสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าออกมา และปลาฉลามขาวมี
สัมผัสไวเป็นพิเศษ ที่สามารถตรวจจับได้แม้มีความแรงเพียง 1/1000,000,000 โวลท์
ซึ่งเปรียบเทียบได้กับสามารถตรวจจับแสงแฟลชได้ในระยะ 1600 กิโลเมตร ปลาชนิดอื่นๆ
ส่วนมากไม่มีพัฒนาการถึงระดับนี้ แต่มีความสามารถที่คล้ายๆ กันนี้ ที่ลายด้านข้างลาตัว
การที่ปลาฉลามขาวจะประสบความสาเร็จในการล่าเหยื่อ ที่มีความว่องไวสูงอย่าง
สิงโตทะเลได้ปลาฉลามขาวถือว่าเป็นปลาฉลามที่มีเลือดอุ่นหนึ่งในหกชนิดที่เป็นที่รู้จัก โดย
ปลาฉลามขาวมีระบบการเผาผลาญแต่งตากไปจากปลาฉลามทั่วไป ที่ความร้อนจะสูญเสียไปใน
เหงือกและผิวหนัง แต่ปลาฉลามขาวมีการวางตัวของเส้นเลือดแดงและเส้นเลือดดาที่มี
ลักษณะเฉพาะช่วยให้การถ่ายเทความร้อนระหว่างเลือดอุ่นและเลือดเย็น ทาให้แกนกลางลาตัว
รักษาความร้อนไว้ได้กอรปกับมีการวางตัวกล้ามเนื้อแดงที่อุ่นที่บริเวณกลางลาตัว โดยมีระบบ
แลกเปลี่ยนความร้อนเป็นตัวช่วยลดการสูญเสียความร้อนผ่านผิวหนังลง ช่วยให้ปลาฉลามขาวมี
อุณหภูมิร่างกายอยู่ที่ 26 องศาเซลเซียส อย่างคงที่แม้ว่าสภาวะแวดล้อมจะเป็นอย่างไรก็ตาม
จึงสามารถทาให้ว่ายน้าและล่าเหยื่อในที่ ๆ ลึกหรือมีอุณหภูมิต่าจนเย็นยะเยือกอย่างเขตอาร์กติก
ได้
ขนาด
ปลาฉลามขาวตัวเต็มวัย จะมีขนาดประมาณ 4-4.8 เมตร หนักประมาณ 880-
1100 กิโลกรัม ตัวเมียมักจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ขนาดที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบ ยังเป็นที่
สงสัยอยู่ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้พยายามรวบรวมข้อมูลเท่าทีมี แต่ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ทุกวันนี้
ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า ขนาดตัวปกติของปลาฉลามขาวที่โตเต็มที่ จะอยู่ราวๆ 6
เมตร หนักประมาณ 1900 กิโลกรัม ในช่วง 10 ปีนี้ กินเนสบุ๊ค ออฟ เวิลด์เรคค
อร์ด (Guinness Book of World Records) ได้บันทึกปลาฉลามขาวที่ตัว
ใหญ่ที่สุดไว้ได้2 ตัวซึ่งตัวหนึ่งยาว 11 เมตรจับได้ที่ทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย ใกล้
กับพอท แฟร์รี่ (Port Fairy) ในปี 1870 และอีกตัวหนึ่ง ยาว 11.3 เมตร ติดอวน
ชาวประมงที่เมือง New Brunswick ประเทศแคนาดา ในปี 1930
จากข้อมูลนี้เอง จึงนามาประเมินขนาดมาตรฐานของ ปลาฉลามขาวปกติที่โตเต็มวัย
นักวิทยาศาสตร์บางท่านได้ตั้งคาถาม เกี่ยวกับความน่าเชื่อถือในการวัทั้งสองครั้งนั้น ซึ่งไม่มี
บันทึกใด มีขนาดที่ใกล้เคียงกับ 2 กรณีที่พบนี้เลย ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา จึงมีข้อสงสัยที่ว่า
การบันทึกที่เมือง New Brunswick อาจเป็นการบันทึกที่มีการเข้าใจผิดในสายพันธุ์ ซึ่ง
สงสัยว่าน่าจะเป็นปลาฉลามสายพันธุ์อื่น (Basking shark) มากกว่า และทั้งสองตัวที่
ถูกบันทึกก่อนหน้านี้ ก็มีขนาดที่ใกล้เคียงกัน ข้อสงสัยนี้ด้รับการพิสูจน์โดย เจ.อี.
โรนัลด์ (J.E. Reynolds) การประเมินขนาดด้วยกราม ซึ่งหลักฐานที่เหลือจากค้นพบ
ครั้งนั้นคือ กระดูกกรามที่เก็บรักษาไว้ซึ่งผลการประเมินคาดว่าขนาดของฉลามที่พบใน พอท
เฟอร์รี่ น่าจะยาวประมาณ 5 เมตร ซึ่งสันนิษฐานว่าจะมีการบันทึกขนาดผิดพลาด ในบันทึก
ต้นฉบับ
ถิ่นที่อยู่อาศัย
ปลาฉลามขาวอาศัยอยู่ตามแถบทะเลชายฝั่งเกือบทั่วทุกมุมโลก ที่มีอุณหภูมิระหว่าง
12ํC - 24ํC แต่จะอาศัยอยู่หนาแน่นบริเวณอ่าวประเทศออสเตรเลีย ทางตอนใต้ของ
ทวีปแอฟริกา แคลิฟอเนีย และตอนกลางของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แต่ที่หนึ่งที่หนาแน่นที่สุดอยู่
ที่ ไดร์เออร์ ไอร์แลนด์ (Dyer Island, South Africa) ที่แอฟริกาใต้ทั้งยังสามาร
พบได้ในเขตร้อนแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ปลาฉลามขาวเป็นปลาน้าลึก แต่ที่บันทึกจานวน ส่วนมากจะมาจากการสารวจแถบทะเล
ชายฝั่ง บริเวณที่มีสิงโตทะเล แมวน้า โลมาอาศัยอยู่ ได้มีความพยายามที่จะสารวจในบริเวณน้า
ลึก ถึงระดับ 1280 เมตร ผลปรากฏว่าจะพบมากบริเวณผิวน้ามากกว่า
พฤติกรรมการล่า
ปลาฉลามขาวเป็นสัตว์กินเนื้อ เหยื่อที่มันเลือกจะล่ามีปลา (รวมทั้งปลากระเบนและฉลาม
ที่ตัวเล็กกว่า) ปลาโลมา แมวน้า สิงโตทะเล เต่าทะเล และเต่าตะหนุ ทั้งยังมีชื่อในเรื่องกินไม่
เลือก แม้กระทั่งของที่กินไม่ได้ปลาฉลามขาวที่ยาวประมาณ 3.4 เมตร จะเลือกเหยื่อที่เป็น
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่มีคุณค่าทางอาหารสูงกว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านฉลาม ปีเตอร์ คลิมลี (Peter
Klimley) ได้ทาการทดสอบโดยใช้เหยื่อเป็นซากแมวน้า หมูและแกะ ผลปรากฏว่าฉลามจู่
โจมทุกครั้ง แต่กลับปฏิเสธซากเหยื่อที่ทั้ง 3 ชนิดที่ให้พลังงานน้อยกว่า ยังมีข้อถกเถียงว่า
ระหว่างปลาฉลามขาวกับวาฬเพชฌฆาต ว่าตัวไหนจู่โจมมนุษย์มากกว่ากัน
ปลาฉลามขาวจะใช้สัมผัสพิเศษในการหาตาแหน่งเหยื่อจากระยะไกล และใช้สัมผัสใน
ด้านการดมกลิ่น และการฟังเพื่อยืนยันตาแหน่งอีกที ในระยะประชิดฉลามจะใช้สายตาเป็นหลัก
ปลาฉลามขาวมีชื่อเสียงในเรื่องเป็นนักล่าที่โหดร้าย เป็นเครื่องจักรสังหาร และมีเทคนิคในการ
ซุ่มโจมตี โดยจู่โจมเหยื่อจากด้านล่าง จากการศึกษาพฤติกรรมพบว่า ปลาฉลามขาวจะจู่โจม
บ่อยครั้งในช่วงตอนเช้า ภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากพระอาทิตย์ขึ้น ด้วยเหตุผลที่ว่ามีการพบเห็น
ปลาฉลามขาวน้อยลง หลังจากผ่านช่วงเวลานั้นไป อัตราความสาเร็จในการล่าช่วงเช้าอยู่ที่
55% ในช่วง 2 ชั่วโมงแรก แล้วตกลงเหลือ 40% ในช่วงต่อมา หลังจากพ้นช่วงเช้าไป
แล้วก็จะหยุดล่า
เทคนิคการล่าของปลาฉลามขาวแตกต่างกันไปตามแต่ชนิดของเหยื่อ ในการล่าแมว
น้าปลาฉลามขาวจะจู่โจมแมวน้าจากด้านล่างด้วยความเร็วสูง เล็งตรงกลางลาตัว ซึ่งความเร็วใน
การจู่โจมจะสูง จนกระทั่งฉลามกระโจนขึ้นเหนือผิวน้าได้และยังจะตามล่าต่อหลังจากที่จู่โจม
ครั้งแรกพลาดเป้าอีกด้วย สาหรับแมวน้าบางชนิดปลาฉลามขาวจะใช้วิธีลากลงมาใต้น้า
จนกระทั่งแมวน้าหมดแรงดิ้น สาหรับสิงโตทะเลจะใช้วิธีจู่โจมที่ลาตัว แลวค่อยๆ ลากมากิน ทั้ง
ยังมีวิธีกัดส่วนสาคัญที่ใช้ในการเคลื่อนไหว แล้วรอให้เลือดไหลจนตายอีกด้วย ซึ่งวิธีนี้ใช้จู่โจม
แมวน้าบางชนิด ส่วนในการล่าโลมา ปลาฉลามขาวจะจู่โจมจากด้านบน หรือด้านล่างเพื่อหลบ
หลีกการตรวจจับด้วยโซนาร์ของโลมา
พฤติกรรมทั่วไป
พฤติกรรมและรูปแบบสังคมของปลาฉลามขาวยังไม่เป็นที่แน่ชัด จากการทดลองล่าสุด
พบว่า ปลาฉลามขาวเป็นสัตว์สังคมมากกว่าที่เราคาด ที่แอฟริกาใต้ปลาฉลามขาวจะเหมือนมี
ลาดับชั้นทางสังคม ขึ้นอยู่กับขนาด เพศ และตาแหน่งจ่าฝูง ตัวเมียจะมีอานาจมากกว่า ตัวผู้ตัว
ใหญ่กว่าจะมีอานาจมากกว่าตัวเล็กกว่า เจ้าถิ่นจะมีอานาจมากกว่าผู้มาเยือน เมื่อมีการล่าจะสั่ง
การกันอย่างเป็นระบบ และเมื่อมีความขัดแย้งก็จะมีวิธีการ เพื่อหาทางออก แทนที่จะสู้กันถึงตาย
ฉลามที่สู้กันเองพบเห็นน้อยมาก แต่บางครั้งก็พบฉลามตัว ที่มีรอยกัดซึ่งเป็นขนาดรอยฟันฉลาม
ตัวอื่น ทาให้สันนิษฐานได้ว่าปลาฉลามขาวเป็นสัตว์ที่หวงแหนอาณาเขต เมื่อมีผู้รุกราน ก็จะทา
การเตือนด้วยการกัดเบาๆ เพื่อแสดงถึงความเป็นเจ้าของอาณาเขต
ปลาฉลามขาวเป็นฉลามไม่กี่สายพันธุ์ ที่พบว่าสามารถโผล่หัวขึ้นมาเหนือน้าและมองหา
เหยื่อได้และยังสามารถกระโจนขึ้นเหนือน้าได้ (spy-hopping) มีข้อสงสัยว่า
พฤติกรรมนี้ อาจเป็นพฤติกรรมที่เรียนรู้มาจากมนุษย์เพราะว่าฉลามมีประสาทรับรู้กลิ่นที่ไว
มาก เมื่อปลาฉลามขาวพบกับนักท่องเที่ยวที่มีกลิ่นตัวแรง มันก็มีความอยากรู้อยากเห็น และ
แสดงความฉลาดของมันออกมา เมื่อสถานการณ์อานวย
ฉลามขาวมีจมูกที่ไวต่อกลิ่นเลือดเป็นอย่างมาก เพราะฉลามขาวสามารถได้กลิ่นเลือดเพียง
1หยดที่อยู่ไกลออกไปถึง 3 กิโลเมตร
ปลาฉลามขาวกับมนุษย์
เรื่องของปลาฉลามขาวจู่โจมมนุษย์เป็นที่รู้จักกันมากผ่านทางภาพยนตร์ อย่างเช่นเรื่อง
จอร์ (Jaws) ผลงานของสตีเว่น สปิวเบอร์ก (Steven Spielberg) แสดงให้เห็น
ถึงภาพฉลามที่โหดร้าย กินคน และเป็นอันตรายอย่างยิ่งกับมนุษย์ให้ฝังในใจของผู้ชม ซึ่งอันที่
จริงแล้วมนุษย์ไม่ใช่เหยื่อของฉลามตามธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มี
รายงานยืนยันฉลามจู่โจมมนุษย์เพียง 31 รายในรอบ 200 ปี และเป็นส่วนน้อยที่เสียชีวิต
กรณีที่เสียชีวิตจะเป็นกรณีที่ฉลามลองกัดดูมากกว่า เพราะอยากรู้อยากเห็น ปลาฉลามขาวยังลอง
กัดพวกสิ่งของอื่นๆ เช่น ทุ่นลอยน้า และของที่มันไม่คุ้นเคยอื่นๆ และบางครั้งก็จะใช้เพียงริม
ฝีปากกัดโดนนักเล่นเซิร์ฟ เพราะอยากรู้ว่ามันเป็นอะไรกันแน่
ในกรณีอื่นๆ อาจเกิดขึ้นมาจากความเข้าใจผิด ที่จู่โจมนักเล่นเซิร์ฟจากด้านล่างเพราะเห็น
เพียงเงา ดูแล้วคล้ายกับแมวน้า หลายกรณีเกิดขึ้นในช่วงที่ทัศนะวิสัย ไม่เอื่ออานวยกับการ
มองเห็น และในกรณีที่ประสาทสัมผัสด้านอื่นมีประสิทธิภาพลดลง หรืออาจเป็นเพราะว่า สาย
พันธุ์ของปลาฉลามขาวไม่ค่อยถูกปากกับรสชาติของมนุษย์หรือรสชาติไม่ค่อยคุ้นเคย
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์มีทฤษฎีที่ว่า ทาไมอัตราการจู่โจมมนุษย์ที่ร้ายแรงถึงต่า มัน
ไม่ใช่เพราะว่าปลาฉลามขาวไม่ชอบเนื้อมนุษย์แต่เป็นเพราะมนุษย์สามารถหนีขึ้นจากน้าได้
หลังจากถูกจู่โจมครั้งแรก ในปี 1980 มีรายงานของ จอห์น แม็คคอสเกอร์ (John
McCosker) บันทึกไว้ว่า นักดาน้าที่ดาเดี่ยวคนหนึ่ง ถูกปลาฉลามขาวจู่โจมจนสูญเสีย
อวัยวะบางส่วนไป แต่ยังว่ายน้าหนีมาจนได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ให้ขึ้นมาจากน้าได้
ก่อนที่จะถูกปลาฉลามขาวเผด็จศึก จึงสันนิษฐานได้ว่ารูปแบบการจู่โจมของปลาฉลามขาว คือ จู่
โจมสร้างบาดแผลสาหัสก่อนในครั้งแรก แล้วรอให้เหยื่อหมดแรงหรือเสียเลือดจนตาย แล้วค่อย
เข้าไปกิน แต่มนุษย์สามารถขึ้นจากน้าได้(อาจหนีขึ้นเรือ) ด้วยความช่วยเหลือของคนอื่น ซึ่งเป็น
พฤติกรรมที่ไม่คุ้นเคยสาหรับเหยื่อของปลาฉลามขาว ทาให้การจู่โจมครั้งนั้นล้มเหลวไป
อีกสันนิษฐานหนึ่งก็คือ มนุษย์ไม่มีคุณค่าทางอาหารมากพอสาหรับปลาฉลามขาว
เพราะว่าปลาฉลามขาวมีระบบการย่อยที่ค่อยข้างช้า และร่างกายของมนุษย์มีกระดูก กล้ามเนื้อ
และไขมันมากเกินไป ส่วนใหญ่ปลาฉลามขาวจะเป็นฝ่ายหมดความสนใจ มนุษย์ที่ถูกโจมตีครั้ง
แรกก่อนเอง และเหตุที่มนุษย์สียชีวิต ก็เพราะสูญเสียเลือดมากเกินไปจากการสูญเสียอวัยวะ
บางส่วน มากกว่าที่จะเป็นการสูญเสียอวัยวะสาคัญ หรือถูกกินทั้งตัว
นักชีววิทยาบางคนให้ความเห็นว่า จานวนผู้เสียชีวิตที่มีสาเหตุมาจากถูกปลาฉลามขาวจู่
โจมในรอบ 100 ปี มีน้อยกว่าจานวนผู้เสียชีวิตที่ถูกสุนัขกัดเสียอีก แต่ความเห็นนี้ยังไม่ค่อย
ถูกต้องนัก เพราะว่ามนุษย์มีสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับสุนัขมากกว่าปลาฉลามขาว จึงมีโอกาส
มากกว่าเมื่อเทียบกับฉลาม มนุษย์ได้มีความพยายามที่จะประดิษฐ์ชุดป้องกันฉลาม แต่ใน
ปัจจุบันอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ในการป้องกันปลาฉลามขาว คือ อิเล็กทรอนิค บี
คอน (electronic beacon) ซึ่งนักประดาน้าและนักเล่นเซิร์ฟจะใช้กัน โดยมันจะส่ง
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปรบกวนสัมผัสพิเศษของปลาฉลามขาว
ทัวร์ปลาฉลามขาว
การดาน้าในกรง กลายเป็นธุรกิจทัวร์ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ที่ต้องการความตื่นเต้น
แบบใหม่ และผู้ที่ต้องการศึกษาปลาฉลามขาวอย่างใกล้ชิด ผู้มาชมปลาฉลามขาว จะอยู่ในกรงที่
มั่นคงแข็งแรง ซึ่งจะเป็นจุดที่เห็นปลาฉลามขาวได้ชัดเจนที่สุด โดยที่ยังปลอดภัยอยู่ และเมื่อ
ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์นักล่าที่ตัวใหญ่ และดุร้ายอย่างปลาฉลามขาว ย่อมเป็นสถานการณ์ที่ทา
ให้อดรีนาลีนฉีดพล่านไปทั่วร่างกาย เป็นประสบการณ์ที่น่าค้นหา ทาให้ธุรกิจนี้เติบโตขึ้นอย่าง
มาก ในแถบอ่าวของออสเตรเลียที่มีพบปลาฉลามขาวบ่อยครั้ง วิธีการล่อปลาฉลามขาว คือ การ
ใช้เหยื่อที่ชุ่มไปด้วยเลือดไปเป็นเป้าล่อ เรียกความสนใจของปลาฉลามขาว ซึ่งการกระทา
ดังกล่าว กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมาก ว่าจาทาให้ปลาฉลามขาวเริ่มคุ้นเคยกับมนุษย์มากขึ้น
และจะมีพฤติกรรมเข้าหามนุษย์แลกกับอาหาร ซึ่งจะเป็นสถานการณ์ที่อันตราย มีการกล่าวหาว่า
การใช้เหยื่อที่ชุ่มด้วยเลือด ล่อให้ปลาฉลามขาวเข้ามาใกล้กรง อาจเป็นการยั่วโมโหให้ปลาฉลาม
ขาวจู่โจมกรง จึงได้มีการเลี่ยงให้ใช้เหยื่อล่อให้ค่อนข้างห่างกรงออกไป เพื่อที่ปลาฉลามขาวจะ
ได้ว่ายผ่านไปเฉยๆ
บริษัทที่ทาธุรกิจทัวร์ประเภทนี้ กล่าวว่า พวกเขาต้องตกเป็นแพะรับบาป ด้วยเหตุที่ผู้คน
พยายามหาเหตุผลใส่ร้าย ว่าทาไมปลาฉลามขาวจึงจู่โจมมนุษย์และยังบอกอีกว่า มีอัตราคนถูก
ฟ้าผ่าตาย มากกว่าอัตราคนที่ถูกฉลามเล่นงานเสียอีก ดังนั้นจึงจาเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยใน
ประเด็นนี้อย่างจริงจัง และสรุปผลให้ได้ว่าการล่อฉลามแบบนี้ จะทาให้พฤติกรรมของปลา
ฉลามขาวเปลี่ยนไป ก่อนที่จะออกกฎหมายห้ามการกระทาเช่นนี้
ด้วยเหตุนี้เอง จึงมีคาแนะนาให้ผู้ที่ต้องการดาน้าเพื่อชมปลาฉลามขาว ต้องทาการล่อใน
เขตที่ปลาฉลามขาวจะออกล่าเหยื่อเท่านั้น และต้องห่างจากเขตของคนทั่วไป ไม่ใช่ล่อให้ฉลาม
มาหาถึงที่ โดยฉลามที่มาจะเป็นเพียงฉลามที่ต้องการล่าซากที่เหลือเท่านั้น และเมื่อมันไม่ได้รับ
อาหาร มันก็จะจากไปเอง และจะไม่คิดว่าการล่อแบบนี้จะทาให้มันได้อาหาร เพื่อตัดสาย
สัมพันธ์ระหว่างคนกับปลาฉลามขาวออกจากกัน ซึ่งนโยบายนี้ได้ถูกนาเสนอไปที่ทางรัฐบาล
ธุรกิจทัวร์ปลาฉลามขาวทากาไรได้อย่างเป็นกอบเป็นกา เมื่อเทียบกับการทาประมงที่มี
รายได้จากัด กรามของปลาฉลามขาวคู่เดียว มีค่าถึง 20000 ยูโร เป็นรายได้ที่สูงมากเมื่อ
เทียบกับการทาประมงต่อวัน อย่างไรก็ตามสัตว์ที่ตายแล้ว ก็ทาได้เพียงเศษเงินเมื่อเทียบกับสัตว์
ที่ยังมีชีวิตอยู่ ทัวร์ปลาฉลามขาวเป็นธุรกิจที่มั่นคงกว่า และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น
ตัวอย่าง ของบริษัททัวร์บริษัทหนึ่ง ซึ่งมีเรืออยู่ในสังกัด 6 ลา เรือแต่ละลาบรรทุกคนได้ราว
30 คนต่อวัน ถ้าคนหนึ่งต้องจ่ายค่าชมราวๆ 50 ยูโรถึง 150 ยูโร ดังนั้นในเวลา 1 วัน
บรรดาฉลามที่มาแวะเวียนที่เรือนี้ จะทากาไรให้พวกเขามากถึง 9000 ยูโรถึง 27000 ยูโร
ต่อเรือแต่ละลา

More Related Content

More from peetchinnathan

คอมโปรเจควอลเลยืบอล
คอมโปรเจควอลเลยืบอลคอมโปรเจควอลเลยืบอล
คอมโปรเจควอลเลยืบอลpeetchinnathan
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์peetchinnathan
 
งานคอมโครงงานสมบูรณ์
งานคอมโครงงานสมบูรณ์งานคอมโครงงานสมบูรณ์
งานคอมโครงงานสมบูรณ์peetchinnathan
 
โครงร่างคอม
โครงร่างคอมโครงร่างคอม
โครงร่างคอมpeetchinnathan
 
คอมสมบูรณ์ 3
คอมสมบูรณ์ 3คอมสมบูรณ์ 3
คอมสมบูรณ์ 3peetchinnathan
 
คอมสมบูรณ์ 2
คอมสมบูรณ์ 2คอมสมบูรณ์ 2
คอมสมบูรณ์ 2peetchinnathan
 
ใบงาน แบบสำรวจและประวัติของ-นายจิตรกร-บุญ
ใบงาน แบบสำรวจและประวัติของ-นายจิตรกร-บุญใบงาน แบบสำรวจและประวัติของ-นายจิตรกร-บุญ
ใบงาน แบบสำรวจและประวัติของ-นายจิตรกร-บุญpeetchinnathan
 
แบบสำรวจตนเอง
แบบสำรวจตนเองแบบสำรวจตนเอง
แบบสำรวจตนเองpeetchinnathan
 

More from peetchinnathan (10)

คอมโปรเจควอลเลยืบอล
คอมโปรเจควอลเลยืบอลคอมโปรเจควอลเลยืบอล
คอมโปรเจควอลเลยืบอล
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
งานคอมโครงงานสมบูรณ์
งานคอมโครงงานสมบูรณ์งานคอมโครงงานสมบูรณ์
งานคอมโครงงานสมบูรณ์
 
โครงร่างคอม
โครงร่างคอมโครงร่างคอม
โครงร่างคอม
 
24
2424
24
 
คอมสมบูรณ์ 3
คอมสมบูรณ์ 3คอมสมบูรณ์ 3
คอมสมบูรณ์ 3
 
คอมสมบูรณ์ 2
คอมสมบูรณ์ 2คอมสมบูรณ์ 2
คอมสมบูรณ์ 2
 
Thatchaphon
ThatchaphonThatchaphon
Thatchaphon
 
ใบงาน แบบสำรวจและประวัติของ-นายจิตรกร-บุญ
ใบงาน แบบสำรวจและประวัติของ-นายจิตรกร-บุญใบงาน แบบสำรวจและประวัติของ-นายจิตรกร-บุญ
ใบงาน แบบสำรวจและประวัติของ-นายจิตรกร-บุญ
 
แบบสำรวจตนเอง
แบบสำรวจตนเองแบบสำรวจตนเอง
แบบสำรวจตนเอง
 

ปลาฉลามขาว

  • 1. ปลาฉลามขาว ปลาฉลามขาว (อังกฤษ: Great white shark) จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง มี ขนาดตัวที่ค่อนข้างใหญ่ พบได้ตามเขตชายฝั่งแถบทะเลใหญ่ มีความยาวประมาณ 6 เมตร น้าหนักประมาณ 2250 กิโลกรัม ทาให้ปลาฉลามขาวเป็นปลากินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใน โลก รวมถึงเป็นสัตว์กินเนื้อที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย และเป็นสิ่งมีชีวิตสปีชี่ส์เดียวใน สกุล Carcharodon ที่ยังคงสืบทอดเผ่าพันธุ์อยู่ในปัจจุบัน[3] โดยเป็นปลาที่ถือกาเนิด มาแล้วนานกว่า 16 ล้านปี วิวัฒนาการ ปลาฉลามขาวมีความสามารถคล้ายกับปลาฉลามสายพันธุ์อื่นๆ ที่มีอวัยวะรับสัมผัสพิเศษ ที่สามารถตรวจจับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่แผ่ออกมาจากปลาที่มีชีวิต ที่เคลื่อนไหวอยู่ในน้า ทุก ครั้งที่สิ่งมีชีวิตเคลื่อนไหวอยู่ใต้ผิวน้า จะสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าออกมา และปลาฉลามขาวมี สัมผัสไวเป็นพิเศษ ที่สามารถตรวจจับได้แม้มีความแรงเพียง 1/1000,000,000 โวลท์ ซึ่งเปรียบเทียบได้กับสามารถตรวจจับแสงแฟลชได้ในระยะ 1600 กิโลเมตร ปลาชนิดอื่นๆ ส่วนมากไม่มีพัฒนาการถึงระดับนี้ แต่มีความสามารถที่คล้ายๆ กันนี้ ที่ลายด้านข้างลาตัว การที่ปลาฉลามขาวจะประสบความสาเร็จในการล่าเหยื่อ ที่มีความว่องไวสูงอย่าง สิงโตทะเลได้ปลาฉลามขาวถือว่าเป็นปลาฉลามที่มีเลือดอุ่นหนึ่งในหกชนิดที่เป็นที่รู้จัก โดย ปลาฉลามขาวมีระบบการเผาผลาญแต่งตากไปจากปลาฉลามทั่วไป ที่ความร้อนจะสูญเสียไปใน เหงือกและผิวหนัง แต่ปลาฉลามขาวมีการวางตัวของเส้นเลือดแดงและเส้นเลือดดาที่มี ลักษณะเฉพาะช่วยให้การถ่ายเทความร้อนระหว่างเลือดอุ่นและเลือดเย็น ทาให้แกนกลางลาตัว รักษาความร้อนไว้ได้กอรปกับมีการวางตัวกล้ามเนื้อแดงที่อุ่นที่บริเวณกลางลาตัว โดยมีระบบ แลกเปลี่ยนความร้อนเป็นตัวช่วยลดการสูญเสียความร้อนผ่านผิวหนังลง ช่วยให้ปลาฉลามขาวมี อุณหภูมิร่างกายอยู่ที่ 26 องศาเซลเซียส อย่างคงที่แม้ว่าสภาวะแวดล้อมจะเป็นอย่างไรก็ตาม จึงสามารถทาให้ว่ายน้าและล่าเหยื่อในที่ ๆ ลึกหรือมีอุณหภูมิต่าจนเย็นยะเยือกอย่างเขตอาร์กติก ได้
  • 2. ขนาด ปลาฉลามขาวตัวเต็มวัย จะมีขนาดประมาณ 4-4.8 เมตร หนักประมาณ 880- 1100 กิโลกรัม ตัวเมียมักจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ขนาดที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบ ยังเป็นที่ สงสัยอยู่ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้พยายามรวบรวมข้อมูลเท่าทีมี แต่ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ทุกวันนี้ ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า ขนาดตัวปกติของปลาฉลามขาวที่โตเต็มที่ จะอยู่ราวๆ 6 เมตร หนักประมาณ 1900 กิโลกรัม ในช่วง 10 ปีนี้ กินเนสบุ๊ค ออฟ เวิลด์เรคค อร์ด (Guinness Book of World Records) ได้บันทึกปลาฉลามขาวที่ตัว ใหญ่ที่สุดไว้ได้2 ตัวซึ่งตัวหนึ่งยาว 11 เมตรจับได้ที่ทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย ใกล้ กับพอท แฟร์รี่ (Port Fairy) ในปี 1870 และอีกตัวหนึ่ง ยาว 11.3 เมตร ติดอวน ชาวประมงที่เมือง New Brunswick ประเทศแคนาดา ในปี 1930 จากข้อมูลนี้เอง จึงนามาประเมินขนาดมาตรฐานของ ปลาฉลามขาวปกติที่โตเต็มวัย นักวิทยาศาสตร์บางท่านได้ตั้งคาถาม เกี่ยวกับความน่าเชื่อถือในการวัทั้งสองครั้งนั้น ซึ่งไม่มี บันทึกใด มีขนาดที่ใกล้เคียงกับ 2 กรณีที่พบนี้เลย ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา จึงมีข้อสงสัยที่ว่า การบันทึกที่เมือง New Brunswick อาจเป็นการบันทึกที่มีการเข้าใจผิดในสายพันธุ์ ซึ่ง สงสัยว่าน่าจะเป็นปลาฉลามสายพันธุ์อื่น (Basking shark) มากกว่า และทั้งสองตัวที่ ถูกบันทึกก่อนหน้านี้ ก็มีขนาดที่ใกล้เคียงกัน ข้อสงสัยนี้ด้รับการพิสูจน์โดย เจ.อี. โรนัลด์ (J.E. Reynolds) การประเมินขนาดด้วยกราม ซึ่งหลักฐานที่เหลือจากค้นพบ ครั้งนั้นคือ กระดูกกรามที่เก็บรักษาไว้ซึ่งผลการประเมินคาดว่าขนาดของฉลามที่พบใน พอท เฟอร์รี่ น่าจะยาวประมาณ 5 เมตร ซึ่งสันนิษฐานว่าจะมีการบันทึกขนาดผิดพลาด ในบันทึก ต้นฉบับ ถิ่นที่อยู่อาศัย ปลาฉลามขาวอาศัยอยู่ตามแถบทะเลชายฝั่งเกือบทั่วทุกมุมโลก ที่มีอุณหภูมิระหว่าง 12ํC - 24ํC แต่จะอาศัยอยู่หนาแน่นบริเวณอ่าวประเทศออสเตรเลีย ทางตอนใต้ของ ทวีปแอฟริกา แคลิฟอเนีย และตอนกลางของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แต่ที่หนึ่งที่หนาแน่นที่สุดอยู่ ที่ ไดร์เออร์ ไอร์แลนด์ (Dyer Island, South Africa) ที่แอฟริกาใต้ทั้งยังสามาร พบได้ในเขตร้อนแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
  • 3. ปลาฉลามขาวเป็นปลาน้าลึก แต่ที่บันทึกจานวน ส่วนมากจะมาจากการสารวจแถบทะเล ชายฝั่ง บริเวณที่มีสิงโตทะเล แมวน้า โลมาอาศัยอยู่ ได้มีความพยายามที่จะสารวจในบริเวณน้า ลึก ถึงระดับ 1280 เมตร ผลปรากฏว่าจะพบมากบริเวณผิวน้ามากกว่า พฤติกรรมการล่า ปลาฉลามขาวเป็นสัตว์กินเนื้อ เหยื่อที่มันเลือกจะล่ามีปลา (รวมทั้งปลากระเบนและฉลาม ที่ตัวเล็กกว่า) ปลาโลมา แมวน้า สิงโตทะเล เต่าทะเล และเต่าตะหนุ ทั้งยังมีชื่อในเรื่องกินไม่ เลือก แม้กระทั่งของที่กินไม่ได้ปลาฉลามขาวที่ยาวประมาณ 3.4 เมตร จะเลือกเหยื่อที่เป็น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่มีคุณค่าทางอาหารสูงกว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านฉลาม ปีเตอร์ คลิมลี (Peter Klimley) ได้ทาการทดสอบโดยใช้เหยื่อเป็นซากแมวน้า หมูและแกะ ผลปรากฏว่าฉลามจู่ โจมทุกครั้ง แต่กลับปฏิเสธซากเหยื่อที่ทั้ง 3 ชนิดที่ให้พลังงานน้อยกว่า ยังมีข้อถกเถียงว่า ระหว่างปลาฉลามขาวกับวาฬเพชฌฆาต ว่าตัวไหนจู่โจมมนุษย์มากกว่ากัน ปลาฉลามขาวจะใช้สัมผัสพิเศษในการหาตาแหน่งเหยื่อจากระยะไกล และใช้สัมผัสใน ด้านการดมกลิ่น และการฟังเพื่อยืนยันตาแหน่งอีกที ในระยะประชิดฉลามจะใช้สายตาเป็นหลัก ปลาฉลามขาวมีชื่อเสียงในเรื่องเป็นนักล่าที่โหดร้าย เป็นเครื่องจักรสังหาร และมีเทคนิคในการ ซุ่มโจมตี โดยจู่โจมเหยื่อจากด้านล่าง จากการศึกษาพฤติกรรมพบว่า ปลาฉลามขาวจะจู่โจม บ่อยครั้งในช่วงตอนเช้า ภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากพระอาทิตย์ขึ้น ด้วยเหตุผลที่ว่ามีการพบเห็น ปลาฉลามขาวน้อยลง หลังจากผ่านช่วงเวลานั้นไป อัตราความสาเร็จในการล่าช่วงเช้าอยู่ที่ 55% ในช่วง 2 ชั่วโมงแรก แล้วตกลงเหลือ 40% ในช่วงต่อมา หลังจากพ้นช่วงเช้าไป แล้วก็จะหยุดล่า เทคนิคการล่าของปลาฉลามขาวแตกต่างกันไปตามแต่ชนิดของเหยื่อ ในการล่าแมว น้าปลาฉลามขาวจะจู่โจมแมวน้าจากด้านล่างด้วยความเร็วสูง เล็งตรงกลางลาตัว ซึ่งความเร็วใน การจู่โจมจะสูง จนกระทั่งฉลามกระโจนขึ้นเหนือผิวน้าได้และยังจะตามล่าต่อหลังจากที่จู่โจม ครั้งแรกพลาดเป้าอีกด้วย สาหรับแมวน้าบางชนิดปลาฉลามขาวจะใช้วิธีลากลงมาใต้น้า จนกระทั่งแมวน้าหมดแรงดิ้น สาหรับสิงโตทะเลจะใช้วิธีจู่โจมที่ลาตัว แลวค่อยๆ ลากมากิน ทั้ง ยังมีวิธีกัดส่วนสาคัญที่ใช้ในการเคลื่อนไหว แล้วรอให้เลือดไหลจนตายอีกด้วย ซึ่งวิธีนี้ใช้จู่โจม แมวน้าบางชนิด ส่วนในการล่าโลมา ปลาฉลามขาวจะจู่โจมจากด้านบน หรือด้านล่างเพื่อหลบ หลีกการตรวจจับด้วยโซนาร์ของโลมา
  • 4. พฤติกรรมทั่วไป พฤติกรรมและรูปแบบสังคมของปลาฉลามขาวยังไม่เป็นที่แน่ชัด จากการทดลองล่าสุด พบว่า ปลาฉลามขาวเป็นสัตว์สังคมมากกว่าที่เราคาด ที่แอฟริกาใต้ปลาฉลามขาวจะเหมือนมี ลาดับชั้นทางสังคม ขึ้นอยู่กับขนาด เพศ และตาแหน่งจ่าฝูง ตัวเมียจะมีอานาจมากกว่า ตัวผู้ตัว ใหญ่กว่าจะมีอานาจมากกว่าตัวเล็กกว่า เจ้าถิ่นจะมีอานาจมากกว่าผู้มาเยือน เมื่อมีการล่าจะสั่ง การกันอย่างเป็นระบบ และเมื่อมีความขัดแย้งก็จะมีวิธีการ เพื่อหาทางออก แทนที่จะสู้กันถึงตาย ฉลามที่สู้กันเองพบเห็นน้อยมาก แต่บางครั้งก็พบฉลามตัว ที่มีรอยกัดซึ่งเป็นขนาดรอยฟันฉลาม ตัวอื่น ทาให้สันนิษฐานได้ว่าปลาฉลามขาวเป็นสัตว์ที่หวงแหนอาณาเขต เมื่อมีผู้รุกราน ก็จะทา การเตือนด้วยการกัดเบาๆ เพื่อแสดงถึงความเป็นเจ้าของอาณาเขต ปลาฉลามขาวเป็นฉลามไม่กี่สายพันธุ์ ที่พบว่าสามารถโผล่หัวขึ้นมาเหนือน้าและมองหา เหยื่อได้และยังสามารถกระโจนขึ้นเหนือน้าได้ (spy-hopping) มีข้อสงสัยว่า พฤติกรรมนี้ อาจเป็นพฤติกรรมที่เรียนรู้มาจากมนุษย์เพราะว่าฉลามมีประสาทรับรู้กลิ่นที่ไว มาก เมื่อปลาฉลามขาวพบกับนักท่องเที่ยวที่มีกลิ่นตัวแรง มันก็มีความอยากรู้อยากเห็น และ แสดงความฉลาดของมันออกมา เมื่อสถานการณ์อานวย ฉลามขาวมีจมูกที่ไวต่อกลิ่นเลือดเป็นอย่างมาก เพราะฉลามขาวสามารถได้กลิ่นเลือดเพียง 1หยดที่อยู่ไกลออกไปถึง 3 กิโลเมตร ปลาฉลามขาวกับมนุษย์ เรื่องของปลาฉลามขาวจู่โจมมนุษย์เป็นที่รู้จักกันมากผ่านทางภาพยนตร์ อย่างเช่นเรื่อง จอร์ (Jaws) ผลงานของสตีเว่น สปิวเบอร์ก (Steven Spielberg) แสดงให้เห็น ถึงภาพฉลามที่โหดร้าย กินคน และเป็นอันตรายอย่างยิ่งกับมนุษย์ให้ฝังในใจของผู้ชม ซึ่งอันที่ จริงแล้วมนุษย์ไม่ใช่เหยื่อของฉลามตามธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มี รายงานยืนยันฉลามจู่โจมมนุษย์เพียง 31 รายในรอบ 200 ปี และเป็นส่วนน้อยที่เสียชีวิต กรณีที่เสียชีวิตจะเป็นกรณีที่ฉลามลองกัดดูมากกว่า เพราะอยากรู้อยากเห็น ปลาฉลามขาวยังลอง กัดพวกสิ่งของอื่นๆ เช่น ทุ่นลอยน้า และของที่มันไม่คุ้นเคยอื่นๆ และบางครั้งก็จะใช้เพียงริม ฝีปากกัดโดนนักเล่นเซิร์ฟ เพราะอยากรู้ว่ามันเป็นอะไรกันแน่
  • 5. ในกรณีอื่นๆ อาจเกิดขึ้นมาจากความเข้าใจผิด ที่จู่โจมนักเล่นเซิร์ฟจากด้านล่างเพราะเห็น เพียงเงา ดูแล้วคล้ายกับแมวน้า หลายกรณีเกิดขึ้นในช่วงที่ทัศนะวิสัย ไม่เอื่ออานวยกับการ มองเห็น และในกรณีที่ประสาทสัมผัสด้านอื่นมีประสิทธิภาพลดลง หรืออาจเป็นเพราะว่า สาย พันธุ์ของปลาฉลามขาวไม่ค่อยถูกปากกับรสชาติของมนุษย์หรือรสชาติไม่ค่อยคุ้นเคย อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์มีทฤษฎีที่ว่า ทาไมอัตราการจู่โจมมนุษย์ที่ร้ายแรงถึงต่า มัน ไม่ใช่เพราะว่าปลาฉลามขาวไม่ชอบเนื้อมนุษย์แต่เป็นเพราะมนุษย์สามารถหนีขึ้นจากน้าได้ หลังจากถูกจู่โจมครั้งแรก ในปี 1980 มีรายงานของ จอห์น แม็คคอสเกอร์ (John McCosker) บันทึกไว้ว่า นักดาน้าที่ดาเดี่ยวคนหนึ่ง ถูกปลาฉลามขาวจู่โจมจนสูญเสีย อวัยวะบางส่วนไป แต่ยังว่ายน้าหนีมาจนได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ให้ขึ้นมาจากน้าได้ ก่อนที่จะถูกปลาฉลามขาวเผด็จศึก จึงสันนิษฐานได้ว่ารูปแบบการจู่โจมของปลาฉลามขาว คือ จู่ โจมสร้างบาดแผลสาหัสก่อนในครั้งแรก แล้วรอให้เหยื่อหมดแรงหรือเสียเลือดจนตาย แล้วค่อย เข้าไปกิน แต่มนุษย์สามารถขึ้นจากน้าได้(อาจหนีขึ้นเรือ) ด้วยความช่วยเหลือของคนอื่น ซึ่งเป็น พฤติกรรมที่ไม่คุ้นเคยสาหรับเหยื่อของปลาฉลามขาว ทาให้การจู่โจมครั้งนั้นล้มเหลวไป อีกสันนิษฐานหนึ่งก็คือ มนุษย์ไม่มีคุณค่าทางอาหารมากพอสาหรับปลาฉลามขาว เพราะว่าปลาฉลามขาวมีระบบการย่อยที่ค่อยข้างช้า และร่างกายของมนุษย์มีกระดูก กล้ามเนื้อ และไขมันมากเกินไป ส่วนใหญ่ปลาฉลามขาวจะเป็นฝ่ายหมดความสนใจ มนุษย์ที่ถูกโจมตีครั้ง แรกก่อนเอง และเหตุที่มนุษย์สียชีวิต ก็เพราะสูญเสียเลือดมากเกินไปจากการสูญเสียอวัยวะ บางส่วน มากกว่าที่จะเป็นการสูญเสียอวัยวะสาคัญ หรือถูกกินทั้งตัว นักชีววิทยาบางคนให้ความเห็นว่า จานวนผู้เสียชีวิตที่มีสาเหตุมาจากถูกปลาฉลามขาวจู่ โจมในรอบ 100 ปี มีน้อยกว่าจานวนผู้เสียชีวิตที่ถูกสุนัขกัดเสียอีก แต่ความเห็นนี้ยังไม่ค่อย ถูกต้องนัก เพราะว่ามนุษย์มีสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับสุนัขมากกว่าปลาฉลามขาว จึงมีโอกาส มากกว่าเมื่อเทียบกับฉลาม มนุษย์ได้มีความพยายามที่จะประดิษฐ์ชุดป้องกันฉลาม แต่ใน ปัจจุบันอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ในการป้องกันปลาฉลามขาว คือ อิเล็กทรอนิค บี คอน (electronic beacon) ซึ่งนักประดาน้าและนักเล่นเซิร์ฟจะใช้กัน โดยมันจะส่ง คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปรบกวนสัมผัสพิเศษของปลาฉลามขาว
  • 6. ทัวร์ปลาฉลามขาว การดาน้าในกรง กลายเป็นธุรกิจทัวร์ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ที่ต้องการความตื่นเต้น แบบใหม่ และผู้ที่ต้องการศึกษาปลาฉลามขาวอย่างใกล้ชิด ผู้มาชมปลาฉลามขาว จะอยู่ในกรงที่ มั่นคงแข็งแรง ซึ่งจะเป็นจุดที่เห็นปลาฉลามขาวได้ชัดเจนที่สุด โดยที่ยังปลอดภัยอยู่ และเมื่อ ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์นักล่าที่ตัวใหญ่ และดุร้ายอย่างปลาฉลามขาว ย่อมเป็นสถานการณ์ที่ทา ให้อดรีนาลีนฉีดพล่านไปทั่วร่างกาย เป็นประสบการณ์ที่น่าค้นหา ทาให้ธุรกิจนี้เติบโตขึ้นอย่าง มาก ในแถบอ่าวของออสเตรเลียที่มีพบปลาฉลามขาวบ่อยครั้ง วิธีการล่อปลาฉลามขาว คือ การ ใช้เหยื่อที่ชุ่มไปด้วยเลือดไปเป็นเป้าล่อ เรียกความสนใจของปลาฉลามขาว ซึ่งการกระทา ดังกล่าว กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมาก ว่าจาทาให้ปลาฉลามขาวเริ่มคุ้นเคยกับมนุษย์มากขึ้น และจะมีพฤติกรรมเข้าหามนุษย์แลกกับอาหาร ซึ่งจะเป็นสถานการณ์ที่อันตราย มีการกล่าวหาว่า การใช้เหยื่อที่ชุ่มด้วยเลือด ล่อให้ปลาฉลามขาวเข้ามาใกล้กรง อาจเป็นการยั่วโมโหให้ปลาฉลาม ขาวจู่โจมกรง จึงได้มีการเลี่ยงให้ใช้เหยื่อล่อให้ค่อนข้างห่างกรงออกไป เพื่อที่ปลาฉลามขาวจะ ได้ว่ายผ่านไปเฉยๆ บริษัทที่ทาธุรกิจทัวร์ประเภทนี้ กล่าวว่า พวกเขาต้องตกเป็นแพะรับบาป ด้วยเหตุที่ผู้คน พยายามหาเหตุผลใส่ร้าย ว่าทาไมปลาฉลามขาวจึงจู่โจมมนุษย์และยังบอกอีกว่า มีอัตราคนถูก ฟ้าผ่าตาย มากกว่าอัตราคนที่ถูกฉลามเล่นงานเสียอีก ดังนั้นจึงจาเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยใน ประเด็นนี้อย่างจริงจัง และสรุปผลให้ได้ว่าการล่อฉลามแบบนี้ จะทาให้พฤติกรรมของปลา ฉลามขาวเปลี่ยนไป ก่อนที่จะออกกฎหมายห้ามการกระทาเช่นนี้ ด้วยเหตุนี้เอง จึงมีคาแนะนาให้ผู้ที่ต้องการดาน้าเพื่อชมปลาฉลามขาว ต้องทาการล่อใน เขตที่ปลาฉลามขาวจะออกล่าเหยื่อเท่านั้น และต้องห่างจากเขตของคนทั่วไป ไม่ใช่ล่อให้ฉลาม มาหาถึงที่ โดยฉลามที่มาจะเป็นเพียงฉลามที่ต้องการล่าซากที่เหลือเท่านั้น และเมื่อมันไม่ได้รับ อาหาร มันก็จะจากไปเอง และจะไม่คิดว่าการล่อแบบนี้จะทาให้มันได้อาหาร เพื่อตัดสาย สัมพันธ์ระหว่างคนกับปลาฉลามขาวออกจากกัน ซึ่งนโยบายนี้ได้ถูกนาเสนอไปที่ทางรัฐบาล ธุรกิจทัวร์ปลาฉลามขาวทากาไรได้อย่างเป็นกอบเป็นกา เมื่อเทียบกับการทาประมงที่มี รายได้จากัด กรามของปลาฉลามขาวคู่เดียว มีค่าถึง 20000 ยูโร เป็นรายได้ที่สูงมากเมื่อ เทียบกับการทาประมงต่อวัน อย่างไรก็ตามสัตว์ที่ตายแล้ว ก็ทาได้เพียงเศษเงินเมื่อเทียบกับสัตว์ ที่ยังมีชีวิตอยู่ ทัวร์ปลาฉลามขาวเป็นธุรกิจที่มั่นคงกว่า และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น
  • 7. ตัวอย่าง ของบริษัททัวร์บริษัทหนึ่ง ซึ่งมีเรืออยู่ในสังกัด 6 ลา เรือแต่ละลาบรรทุกคนได้ราว 30 คนต่อวัน ถ้าคนหนึ่งต้องจ่ายค่าชมราวๆ 50 ยูโรถึง 150 ยูโร ดังนั้นในเวลา 1 วัน บรรดาฉลามที่มาแวะเวียนที่เรือนี้ จะทากาไรให้พวกเขามากถึง 9000 ยูโรถึง 27000 ยูโร ต่อเรือแต่ละลา