SlideShare a Scribd company logo
1 of 18
Download to read offline
กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 1 จาก 18
เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath /
วิธีทํา
พิจารณาแบงยานคาของ x จาก
3 7
3 2 0 , 3 7 0
2 3
x x x x− = → = − = → = เปน 3 ยาน
1.
3
: | 3 2 | | 3 7 | 0 3 2 (3 7) 0 4
2
x x x x x x< − − − ≥ → − + − ≥ → ≥ ยานคานี้แยงกันจงใชไมได
2.
3 7 7
: | 3 2 | | 3 7 | 0 (3 2 ) (3 7) 0 2 2
2 3 3
x x x x x x x≤ < − − − ≥ → − − + − ≥ → ≥ → ≤ <
3.
7 7
: | 3 2 | | 3 7 | 0 2 3 (3 7) 0 4 4
3 3
x x x x x x x≥ − − − ≥ → − − − ≥ → ≤ → ≤ ≤
จากยาน 2. และ 3. ไดผลรวมของคา x โดยการ union กันไดยานตอเนื่องเปน [2,4] ดังนั้น
[ , ] [2,4] 2 4 6a b a b= + = + = ตอบ 6
วิธีทํา
ค.ร.น. ของเลข 2 จํานวน n และ 720 = 10800
4 3 2
1080 8 1350 8 25 54 8 25 2 27 2 3 5= × = × × = × × × = × ×
2 4 4 2
720 9 80 9 16 5 3 2 5 2 3 5= × = × × = × × = × × ดังนั้น
3 2 2
3 5 3 15 3 225 675n = × = × = × =
ตอบ 675
( )
2
22
2 1 2 1
22
2tan 2 2 2 2
sec (2tan 2) 1 tan (2tan 2) 1 1 1 1 8 9
1 tan 1 21 2
θ
θ
− −
 
    = + = + = + = + = + =     − −     −
 
ตอบ 9
กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 2 จาก 18
เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath /
เนื่องจาก C เปนจุดบน OB ดังนั้น OC มี vector ทิศทางเดียวกัน แตขนาดตางกัน และสามารถกําหนดจุด C =(3m,-6m,2m) ได
OC ตั้งฉากกับ AC ดังนั้นจะได
2 2 2 2
0 . (3 6 2 ) [(3 1) ( 6 4) (2 2) ]
3 (3 1) ( 6 )( 6 4) (2 )(2 3)
(9 3 ) (36 24 ) (4 6 ) 49 21 7 (7 3)
OC AC m OB AC mi mj mk m i m j m k
m m m m m m
m m m m m m m m m m
= • = • = − + • − + − + + −
= − + − − + + +
= − + − + + = − = −
ดังนั้น
3
7
m = . ดังนั้น 2 2 23 3
| | | | 3 ( 6) 2 9 36 4 3
7 7
OC m OB= = + − + = + +=
2 2 2
2
1 3
2 2
3 3 4 3 3 3 4 3 3
3 4 3 3 9 0
(3 3 3)(3 3) 0 3 3,3 3 3 ,3
x x x x
x x
x x x
−
+ = → + = × →
− × + =
− − = → = =
1 3
,
2 2
x = ตอบ
1 3
2
2 2
+ =
วิธีทํา
33log 2 log 23 31 33 3log 2 log 2
log( 27 10 27 3 3 2 8 2) 1 log10x x x x x x x+ → = + = + = + = + = + → == =
ตอบ 2
กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 3 จาก 18
เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath /
วิธีทํา
พจนที่ r+1 =
( ) ( ) ( )
( )
10
10 10 1 10
2 2 2 2
3 3 3
10
2 20 5 4
3
102 2 2
10 ..
10 10 102 10 9 8 7
2 20 5 0 4 2 16 3360
4 24
r
r
r
r
r r
x x x x
rx x x
x x r r
r rx
− −
−
−
      
+ = + + +       
      
      × × × 
= → − = → = → = × =      
      
นั่นคือพจนที่ 5 จะมี 0
x และมีคา 3360 ตอบ 3360
ถาการสอบครั้งที่ 5 ตองได x %
เปอรเซ็นตสอบเฉลี่ย
86% 4 2 % 540 344
90% 90 6 540 344 2 98%
4 2 2
x
x x
× + −
= → × = = + → = =
+
ตอบ 98%
ความชันของเสนตรง =
4
3
=
8
2
3
dy
x
dx
= − 2
4 8
8 73 3 2 (2) 2 (2) 1
2 3 3
x y
+
∴ = = → = − + = ดังนั้นจุดสัมผัสคือที่(2,1)
ระยะหางระหวางจุดสัมผัส กับ เสนตรงที่กําหนด 2 2 2 2
8 3 10| | | 4(2) 3(1) 10 |
3
54 3
ax by c
d
a b
− ++ + − +
= = = =
+ +
ตอบ 3 หนวย
2 2
2 2 3 2
00 0
6 | 2 | (12 6 ) 6 2 | 6(4) 2(8) 8x x dx x x dx x x− = − = − = − =∫ ∫
กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 4 จาก 18
เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath /
วิธีทํา
( )
3 2
3 2
3 2
3 2
( ) 1 ( 1)( 2)( 3) ( 6 11 6)
( ) ( 6 11 6) 1
1
(4) 0 4 6 4 11 4 6 1 (64 96 44 6) 1 6 1
6
1 1 24
( ) ( 6 11 6) 1 (5) (125 150 55 6) 1 1 3
6 6 6
p x A x x x A x x x
p x A x x x
p A A A A
p x x x x p
−= − − − = − + −
= − + − +
 
= = − × + × − + = − + − + = + → =− 
 
=− − + − + → =− − + − + =− + =−
ตอบขอ 1
2
3 1 3 1
2 4 2 2
z z i
 
+ =− → + =±  
 
แตจากโจทย Im( ) 0Z > ดังนั้น
3 1 5
1
2 2 6
z i
π
=− + =∠
8 40 2 1 3
1 1 6
6 3 2 2
z i
π π
π=∠ =∠ + =− + ตอบขอ 5.
กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 5 จาก 18
เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath /
วิธีทํา
5 เปน ห.ร.ม. ของเลข 2 จํานวน a,b ฉะนั้นให 5 , 5a k b l= = จะได
1575 25 25 25 125 125 63 5 5 ( 5)( 5) 25ab a b kl k l kl k l k l= − − = − − → = − − = − − − →
( 5)( 5) 63 25 88 11 8 16, 13 80, 65k l k l a b− − = + = = × → = = → = =
เช็คคําตอบ
25 25 80 65 25 80 25 65 1575ab a b ok− − = × − × − × =
80 65 15a b− = − = ตอบขอ 1
23 4
| | | || | sin 1 5sin 5sin 3 sin cos 1 sin
5 5
u v u v θ θ θ θ θ θ× = =× = =→ = → =− − =−
 
มุมปานคา cosθ เปนลบ
2 2 2 24
(2 ) ( ) 2 . . . 2 | | | || | cos | | 2(1) 1(5) 5 2 4 25 19
5
u v u v u v u v v v u u v vθ
 
+ ⋅ − = − − = − − = − − − = + − =− 
 
             
ตอบขอ 2
กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 6 จาก 18
เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath /
2 2
2 2
2 2
2 2
2 2
9 72 16 32 16
9( 8 16) 16( 2 1) 16 9 16 16 1 16 144 16
( 4) ( 1)
9( 4) 16( 1) 144 1
4 3
x x y y
x x y y
x y
x y
− − − =
− + − + + = + × − × = + −
− +
− − + = → − =
ดังนั้น H=Hyperbola มีศูนยกลางอยูที่ (4,-1) แกนสมมาตรอยูบนแกน X มีความยาว a=4, และ b=3
ความยาวโพกัส 2 2 2 2
4 3 5c a b= + = + =
E เปนวงรี มีจุดยอดอยูที่จุดโฟกัสของ H ดังนั้น 5a = และมีศูนยกลางอยูที่เดียวกัน ที่จุด (4,-1)
รูปสมการ E:
2 2 2 2
2 2 2 2
( 4) ( 1) ( 4) ( 1)
1
5
x y x y
a b b
− + − +
+ = + =
ความเยื้องศูนย ของ E คือ
2 2 2 2 2
2
2 2
1 1 5 1 4
5 5 55
c a b a b b
e e
a a a a
− − −
= = = → = = → = =
2 2 24 4
5 20
5 5
b a= = = ดังนั้นสมการของ E:
2 2
( 4) ( 1)
1
25 20
x y− +
+ =ตอบขอ 3
กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 7 จาก 18
เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath /
วิธีทํา
2 2 2 2 2
2
2 cos2 3cos2 (2cos 1) 3(2cos 1) (4cos 1) 6cos 3) 10cos 4
1 2
10cos 2 0 cos cos 2 cos
55
cos cos[180 ( )] cos( ) cos cos sin sin
A B A B B B B
B B A B
C A B A B A B A B
−= + = − + −= − + −= − →
− =→ = → = =
= − + =− + =− +
2 1 5 2 5 1 2 2 3
5 5 5 5 55
− −
=− + =− + ตอบขอ 3
กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 8 จาก 18
เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath /
2 1 2
24 2 2 4 (4 4 4 ) (4 8 2 ) 12 6
2 1 2
1 1 1
3 2 2
2 1 2
| | 1 1 1 ( 4 3 4) ( 6 4 2) 3
3
2
2 2
4c a b a b c b c
a b c
x a
AX B y b
z
A
b
c
c
− − 
 = = − − + − + =− + → 
  
     
     == − =     
     −     
= − = − − + + − +
=
+
+
= −
−
−
จะหาเฉพาะคา x ใชการแทนที่ column แรกของ A จะงายสุด
1 2
1 1
2 2 2 4 ( 2 2 2 ) 6 3
| |
4
3 3
2
a
b
c a c b c a
b c
b b c
x
A
−
− − − + + − + + −
= = −
−
+= =
−
ตอบขอ 5
กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 9 จาก 18
เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath /
1 1
1 0 0
1
0 1 0 | | | |
| |
0 0 1
AX B
AX I A X A X
X
− −
=
 
 = = → = → = = 
  
1
1 1 1
1 1
0 2 3 2 15 0 ( 10 15 0) 8 | | | |
| | 8
5 5 1
X A X
X
−
= = + + + − − + =− → = = =− ตอบขอ 2
2
2
1 1 1 1 11
2 4 2 2 22
1
1 1 1 1 1
2 2 2 2 2
log ( 1) 2log ( 2) log (9 3) log ( 1) log ( 2) log (9 3)
( 1)( 2) 1
log ( 1) log ( 2) log (9 3) log 0 log
9 3 2
x x x x x x
x x
x x x
x
 
 
 
≥
+ + + − −= + + + − −
+ +  
= + + + − −= ≤=  
−  
ดังนั้น
( 1)( 2)
1
9 3
x x
x
+ +
≥
−
จะได 2 2( 1)( 2)
1 3 2 9 3 6 5 ( 1)( 5) 0
9 3
x x
x x x x x x x
x
+ +
≥ + + ≥ − → − + = − − ≥
−
ดังนั้น 1 ( ,1] [5, )S = −∞ ∞ แตเรามีเงื่อนไข log y ที่ 0y > นั่นคือ 1 0, 2 0, 9 3 0x x x+ > + > − > สรุปคือ
1
3
x >
ดังนั้น ภายใตเงื่อนไขเพิ่มเติมนี้ 1
1
( ,1] [5, )
3
S= ∞ จะได 1 2 {1,5,6,7,8,9,10}S S∩ = มีสมาชิก 7 จํานวน ตอบขอ 3
กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 10 จาก 18
เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath /
วิธีทํา
เริ่มจาก
เด็กอายุ 7 ป จะนั่งเกาอี้ หมายเลข 6 หรือ 7 ได รวม 2 วิธี
เด็กอายุ 6 ป จะนั่งเกาอี้ หมายเลข 5,6 หรือ 7 ได แตหมายเลข 6 หรือ 7 โดนยึดไป 1 ตัว จึงเหลือ เพียง 2 วิธี
เด็กอายุ 5 ป จะนั่งเกาอี้ หมายเลข 4,5,6 หรือ 7 ได แตหมายเลข 5 - 7 โดนยึดไป 2 ตัว จึงเหลือ เพียง 2 วิธี
เด็กอายุ 4 ป จะนั่งเกาอี้ หมายเลข 3,4,5,6 หรือ 7 ได แตหมายเลข 4 - 7 โดนยึดไป 3 ตัว จึงเหลือ เพียง 2 วิธี
เด็กอายุ 3 ป จะนั่งเกาอี้ หมายเลข 2,3,4,5,6 หรือ 7 ได แตหมายเลข 3 - 7 โดนยึดไป 4 ตัว จึงเหลือ เพียง 2 วิธี
เด็กอายุ 2 ป จะนั่งเกาอี้ หมายเลข 1,2,3,4,5,6 หรือ 7 ได แตหมายเลข 2 - 7 โดนยึดไป 5 ตัว จึงเหลือ เพียง 2 วิธี
เด็กอายุ 1 ป จะนั่งเกาอี้ หมายเลข 1,2,3,4,5,6 หรือ 7 ได แตหมายเลข 1 - 7 โดนยึดไป 6 ตัว จึงเหลือ เพียง 1 วิธี
ดังนั้นจํานวนวิธีทั้งหมดที่เด็กทั้ง 7 คนจะนั่งได 6
2 1 64= × = วิธี ตอบ ขอ3
กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 11 จาก 18
เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath /
1. สวนเบี่ยงเบนเฉลี่ย
1 1
1 1
( 3) ( 3)
n n
i i
i i
X X X X
n n= =
= + − += −∑ ∑ เทาเดิม ผิด
2. สัมประสิทธิ์พิสัยใหม =
_ max _ min max min max min max min
_ max _ min max min max min max min
( 3) ( 3)
( 3) ( 3) 6
new new
new new
X X X X X X X X
X X X X X X X X
− + − + − −
= = <
+ + + + + + +
ถูก
3. คาเฉลี่ย
1 1
1 1
( 3) 3 3
n n
new i i
i i
X X X X
n n= =
= + = + = +∑ ∑ เพิ่มขึ้น ผิด
4. มัธยฐาน และตําแหนงตางๆเรียงตามเดิมเพราะเพิ่มเทาๆกันหมด ไมเปลี่ยน ผิด
5. 2 2 2 2
1 1
1 1
[( 3) ( 3)] ( )
n n
new i i
i i
S X X X X S
n n=
= + − += −=∑ ∑ S→ คงเดิม ผิด
ตอบขอ 2.
กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 12 จาก 18
เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath /
117.8
0.44 (1)
126.7
1.34 (2)
126.7 117.8
1.78 (2) (1)
8.9
(2) 5 126.7 1.34 5 120
1.78
X
S
X
S
S
S X
−
= −
−
=
−
= −
→ = = → = − × =
ตําแหนงขอมูล 125 คํานวณจาก
125 125 120
1
5
X
S
− −
= = =Z จากจุดกึ่งกลางได พื้นที่ 0.3413 คิดรวมจากครึ่งแรกจะได
0.5 0.3413 0.8413 84.13%+ = = ตอบขอ 1
กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 13 จาก 18
เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath /
จากรูปสมการทั่วไปของ พาราโบลาที่แกนสมมาตรขนานกับแกน Y คือ
2 2 2
( ) 4 ( ) ( 3) 4 ( 9)x h p y k x p y− = − = − = − แทนคาจุดผาน(1,5)จะได
2 1
(1 3) 4 (5 9) 4 4 ( 4)
4
p p p− = − = = − → =− ดังนั้นสมการคือ 2
( 3) ( 9)x y− =− − จัดรูปแบบเปน 2
6y x x=− +
เมื่อ 0y = ได 0,6x = และเปนจุดตัดบนแกน x ของพาราโบลารูปคว่ํา
ดังนั้น
6 6
2 3 2 6 3 2
00 0
1 1
( 6 ) 3 | 6 3(6 ) 36
3 3
ydx x x dx x x= − + =− + =− + =∫ ∫ ตอบขอ 4.
กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 14 จาก 18
เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath /
2
2
( ) 2 ( ( ) ( )
(2) 2 2 (2) 2 (2) 4 ( 1) 4 (0) 4
d d
f x cx g x cx g x
dx dx
d d
f c g c g c c c
dx dx
= +
= + = − + =−
คํานวณหาคา C ที่จะทําให ( )f x มีความตอเนื่องที่จุด x=1 จาก 2
( ) 2 ( ( ) ( )
d d
f x cx g x cx g x
dx dx
= +
2
(2) 2 2 (2) 2 (2) 4 ( 1) 4 (0) 4
d d
f c g c g c c c
dx dx
= + = − + =−
2 12
(1) ( (1) 1) (1) 2(1) 10 ( 1)4 12 1 2
4
f c g c c= + = + = + = → = − =
(2) 4 4(2) 8
d
f c
dx
=− =− =− ตอบขอ 1
40
1
(1 3 5 .. 39) 2(2 4 6 .. 40)n
n
a
=
= + + + + + + + + +∑
1 39 2 40
20 2 20
2 2
+ +
= × + × × ผลบวกของอนุกรมเลขคณิต = จํานวนพจน x คาเฉลี่ยของพจนแรกกับพจนสุดทาย
20 20 40 21 400 840 1240= × + × = + = ตอบขอ 4
กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 15 จาก 18
เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath /
2 2 2 2 2 2 2 2
2 3 5 7
[(2 ) ( 1)][(3 ) ( 1)][(5 ) ( 1)][(7 ) ( 1)]
A I A I A I A I
a a a a a a a a
− − − −
= − + − − + − − + − − + −
1 2 4 6 48= × × × = ตอบ ขอ5
วิธีทํา
1
1 1
2 2 2 2
2 1 1 1
2
2 2 2
3 2 2 2
1
1
2, 1
2
2 1 3
3 3 3
( 3) 3
2 4 2
3 1 1 2 2 4 4(2 3)
2 3 ... 2 4(2 3)
2 1 1 1 4 33 2 3
1
2
n
i
i
a
a b
a c a b
a c a b
r r
a a
r r r
∞∞
=
= = =
= = − = − =
 
= = − = − = − =  
 
− − +
= + + + = × = × = = = = = +
− − − −−
−
∑
ตอบขอ 2
กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 16 จาก 18
เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath /
2 2
2 2 2 2
2 2
( ), '( )
1. ( 1), 2 1 ( 1), 2 1
1 1
2. , ,
( 1) ( 1) ( 1) ( 1)
3. ( 1), 2 1 ( 1), 2 1
4. ( 1)
( ), '
, 3 2 ( 1),
( ) '(0 ) '
3 2
1
1
1
0
0
(0 )
1
1
1
0
0
5. , 2 , 2
x x oo
f x f x
x x x x x x
x x
x x x x
x x x x
f x f x f
x x
x x x x x x x x
x
f
x x x
−
= −
+
= +
=
+ += + −=
= =
+ + + +
+ += − + − −=
+ += − + − −=
= − −
=
=
−
จากตารางการคํานวณอนุพันธของขอตางๆขางบนนี้จะเห็นไดวา '(0 )f +
และ '(0 )f −
มีคาตางกันเฉพาะขอ 3 คือ 1 และ-1 จึงถือวาไม
สามารถมีคาอนุพันธที่จุด 0x = ตอบขอ 3
กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 17 จาก 18
เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath /
วิธีทํา จากการทดลองพบวาเริ่มจํานวนพจนเทากับ 7 ซึ่งเปนเลขคี่ซึ่งได มัธยฐานเปนพจนที่ 1 ซึ่งมีคา 3 4 1 7= + × =
(ตัวอยางการจัดเรียงตําแหนงพจนกรณี 7 พจน 2,4,6,1,3,5,7 ซึ่งมีคา 2,4,6,7,15,31 ตามลําดับ)
และพบวาจํานวนพจนที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 10 มัธยฐานจะเปนพจนคี่ ในลําดับถัดไป เปนพจนที่ 3, 5,7,.. ตามลําดับ
ดังนั้นถาจํานวนพจนเปน 7 10 8 87+ × = มัธยฐานจะเปนพจนที่ 1 8 2 17+ × = ซึ่งมีคา 3 4 17 71= + × =
ถาเพิ่มจํานวนพจนอีก 2, หรือ 4 เปน 87 2 89+ = หรือ 87 4 91+ = ซึ่งเปนตามที่โจทยตองการ
ก็ตองเพิ่มพจนที่ 88,89 หรือ ,88,89,90 และ 91 ซึ่งมีคาเปน 88, 3+4x89, 90, 3+4x91ลวนมีคามากกวา พจนที่ 17(71)
ซึ่งทําใหตําแหนงของมัธยฐานก็จะเลื่อนขึ้นไปเปนลําดับของการจัดเรียงคาลดหรือเพิ่มขึ้น ครึ่งหนึ่งของจํานวนพจนที่ลดหรือเพิ่มขึ้น
สําหรับคาใกลเคียงกับพจนที่ 17(71) ลวนเปนพจนคู โดยมีลําดับพจนเปน 70,17,72,74 ดังนั้นถา
จํานวนพจนเปน 85,89,และ 91 ตําแหนงมัธยฐานจะอยูที่ พจนที่ 70 มีคาเปน 70,72, และ 74 ตามลําดับ
ดังนั้นสําหรับ 1 2 91, ,..,a a a มัธยฐานคือ 74a ตอบขอ 4
กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 18 จาก 18
เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath /
ตัวแปร 4 ตัว คือ a,b,c,d แตละตัวมีคาได 3 คา ดังนั้น จํานวนวิธีทั้งหมด =3x3x3x3 = 81 วิธี
คา 0M ad bc= − = ที่จะทําใหหาคา อินเวอรส ไมได มี 3 กรณี คือ เมื่อ 1,0,1ad bc= = −
กรณี 1ad bc= = − คือกรณีแตละคูเปน -1,1 หรือ 1,-1 เปน 2 วิธี นั่นคือรวม 2 2 4= × = วิธี
กรณี 0ad bc= = คือกรณีแตละคูเปน 0,0 0,-1 หรือ 0,1 -1,0 1,0 เปน 5วิธี นั่นคือ รวม 5 5 25× = วิธี
กรณี 1ad bc= = − คือกรณีแตละคูเปน 1,1 หรือ -1,-1 เปน 2 วิธี นั่นคือรวม 2 2 4= × = วิธี
รวม 3 กรณีที่ 0M ad bc= − = ได 4 25 4 33+ + = วิธี ดังนั้น 0M ad bc= − ≠ จะมี 81 33 48− = วิธี
ความนาจะเปนที่ M สามามารถหา inverse ได คือเมื่อ 0M ad bc= − ≠ ไดเทากับ
48
81
ตอบขอ 4.

More Related Content

Viewers also liked

งานที่ 1 8
งานที่ 1 8งานที่ 1 8
งานที่ 1 8Pop Nattakarn
 
ใบงานที่ 15 เรื่อง การวิเคราะห์โครงงาน
ใบงานที่ 15 เรื่อง การวิเคราะห์โครงงานใบงานที่ 15 เรื่อง การวิเคราะห์โครงงาน
ใบงานที่ 15 เรื่อง การวิเคราะห์โครงงานPop Nattakarn
 
7 สามัญ คณิต
7 สามัญ คณิต7 สามัญ คณิต
7 สามัญ คณิตPop Nattakarn
 
ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2Pop Nattakarn
 
ใบงานที่ 4
ใบงานที่ 4ใบงานที่ 4
ใบงานที่ 4Pop Nattakarn
 
งานที่ 9 16
งานที่ 9 16งานที่ 9 16
งานที่ 9 16Pop Nattakarn
 
ใบงานที่ 15
ใบงานที่ 15ใบงานที่ 15
ใบงานที่ 15Pop Nattakarn
 
ใบงานท 11
ใบงานท   11ใบงานท   11
ใบงานท 11Pop Nattakarn
 
ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2Pop Nattakarn
 

Viewers also liked (9)

งานที่ 1 8
งานที่ 1 8งานที่ 1 8
งานที่ 1 8
 
ใบงานที่ 15 เรื่อง การวิเคราะห์โครงงาน
ใบงานที่ 15 เรื่อง การวิเคราะห์โครงงานใบงานที่ 15 เรื่อง การวิเคราะห์โครงงาน
ใบงานที่ 15 เรื่อง การวิเคราะห์โครงงาน
 
7 สามัญ คณิต
7 สามัญ คณิต7 สามัญ คณิต
7 สามัญ คณิต
 
ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2
 
ใบงานที่ 4
ใบงานที่ 4ใบงานที่ 4
ใบงานที่ 4
 
งานที่ 9 16
งานที่ 9 16งานที่ 9 16
งานที่ 9 16
 
ใบงานที่ 15
ใบงานที่ 15ใบงานที่ 15
ใบงานที่ 15
 
ใบงานท 11
ใบงานท   11ใบงานท   11
ใบงานท 11
 
ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2
 

More from Pop Nattakarn

ทำไมวัยรุ่นไทยถึงใส่บิ๊กอา2
ทำไมวัยรุ่นไทยถึงใส่บิ๊กอา2ทำไมวัยรุ่นไทยถึงใส่บิ๊กอา2
ทำไมวัยรุ่นไทยถึงใส่บิ๊กอา2Pop Nattakarn
 
ทำไมวัยรุ่นไทยถึงใส่บิ๊กอา2
ทำไมวัยรุ่นไทยถึงใส่บิ๊กอา2ทำไมวัยรุ่นไทยถึงใส่บิ๊กอา2
ทำไมวัยรุ่นไทยถึงใส่บิ๊กอา2Pop Nattakarn
 
ทำไมวัยรุ่นไทยถึงใส่บิ๊กอา2
ทำไมวัยรุ่นไทยถึงใส่บิ๊กอา2ทำไมวัยรุ่นไทยถึงใส่บิ๊กอา2
ทำไมวัยรุ่นไทยถึงใส่บิ๊กอา2Pop Nattakarn
 
203386109 o-net-54-ปีการศึกษา-2553
203386109 o-net-54-ปีการศึกษา-2553203386109 o-net-54-ปีการศึกษา-2553
203386109 o-net-54-ปีการศึกษา-2553Pop Nattakarn
 
203385462 o-net-53-ปีการศึกษา-2552
203385462 o-net-53-ปีการศึกษา-2552203385462 o-net-53-ปีการศึกษา-2552
203385462 o-net-53-ปีการศึกษา-2552Pop Nattakarn
 
203385325 o-net-52-ปีการศึกษา-2551
203385325 o-net-52-ปีการศึกษา-2551203385325 o-net-52-ปีการศึกษา-2551
203385325 o-net-52-ปีการศึกษา-2551Pop Nattakarn
 
203384796 o-net-51-ปีการศึกษา-2550
203384796 o-net-51-ปีการศึกษา-2550203384796 o-net-51-ปีการศึกษา-2550
203384796 o-net-51-ปีการศึกษา-2550Pop Nattakarn
 
203384796 o-net-51-ปีการศึกษา-2550
203384796 o-net-51-ปีการศึกษา-2550203384796 o-net-51-ปีการศึกษา-2550
203384796 o-net-51-ปีการศึกษา-2550Pop Nattakarn
 
ใบงานที่ 14 เรื่อง การศึกษาข้อมูลโครงงาน
ใบงานที่ 14 เรื่อง การศึกษาข้อมูลโครงงานใบงานที่ 14 เรื่อง การศึกษาข้อมูลโครงงาน
ใบงานที่ 14 เรื่อง การศึกษาข้อมูลโครงงานPop Nattakarn
 
ใบงานที่ 12
ใบงานที่ 12ใบงานที่ 12
ใบงานที่ 12Pop Nattakarn
 
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภทใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภทPop Nattakarn
 
ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท
ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภทใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท
ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภทPop Nattakarn
 
ใบงานที่ 3 เรื่องขอบข่ายและประเภท
ใบงานที่ 3 เรื่องขอบข่ายและประเภทใบงานที่ 3 เรื่องขอบข่ายและประเภท
ใบงานที่ 3 เรื่องขอบข่ายและประเภทPop Nattakarn
 
ใบงานที่ 16
ใบงานที่ 16ใบงานที่ 16
ใบงานที่ 16Pop Nattakarn
 
ใบงานที่14
ใบงานที่14ใบงานที่14
ใบงานที่14Pop Nattakarn
 
ใบงานที่ 13
ใบงานที่ 13ใบงานที่ 13
ใบงานที่ 13Pop Nattakarn
 
ใบงานที่ 12
ใบงานที่ 12ใบงานที่ 12
ใบงานที่ 12Pop Nattakarn
 
ใบงานท 11
ใบงานท   11ใบงานท   11
ใบงานท 11Pop Nattakarn
 
ใบงานท 10
ใบงานท   10ใบงานท   10
ใบงานท 10Pop Nattakarn
 
ใบงานท 9
ใบงานท   9ใบงานท   9
ใบงานท 9Pop Nattakarn
 

More from Pop Nattakarn (20)

ทำไมวัยรุ่นไทยถึงใส่บิ๊กอา2
ทำไมวัยรุ่นไทยถึงใส่บิ๊กอา2ทำไมวัยรุ่นไทยถึงใส่บิ๊กอา2
ทำไมวัยรุ่นไทยถึงใส่บิ๊กอา2
 
ทำไมวัยรุ่นไทยถึงใส่บิ๊กอา2
ทำไมวัยรุ่นไทยถึงใส่บิ๊กอา2ทำไมวัยรุ่นไทยถึงใส่บิ๊กอา2
ทำไมวัยรุ่นไทยถึงใส่บิ๊กอา2
 
ทำไมวัยรุ่นไทยถึงใส่บิ๊กอา2
ทำไมวัยรุ่นไทยถึงใส่บิ๊กอา2ทำไมวัยรุ่นไทยถึงใส่บิ๊กอา2
ทำไมวัยรุ่นไทยถึงใส่บิ๊กอา2
 
203386109 o-net-54-ปีการศึกษา-2553
203386109 o-net-54-ปีการศึกษา-2553203386109 o-net-54-ปีการศึกษา-2553
203386109 o-net-54-ปีการศึกษา-2553
 
203385462 o-net-53-ปีการศึกษา-2552
203385462 o-net-53-ปีการศึกษา-2552203385462 o-net-53-ปีการศึกษา-2552
203385462 o-net-53-ปีการศึกษา-2552
 
203385325 o-net-52-ปีการศึกษา-2551
203385325 o-net-52-ปีการศึกษา-2551203385325 o-net-52-ปีการศึกษา-2551
203385325 o-net-52-ปีการศึกษา-2551
 
203384796 o-net-51-ปีการศึกษา-2550
203384796 o-net-51-ปีการศึกษา-2550203384796 o-net-51-ปีการศึกษา-2550
203384796 o-net-51-ปีการศึกษา-2550
 
203384796 o-net-51-ปีการศึกษา-2550
203384796 o-net-51-ปีการศึกษา-2550203384796 o-net-51-ปีการศึกษา-2550
203384796 o-net-51-ปีการศึกษา-2550
 
ใบงานที่ 14 เรื่อง การศึกษาข้อมูลโครงงาน
ใบงานที่ 14 เรื่อง การศึกษาข้อมูลโครงงานใบงานที่ 14 เรื่อง การศึกษาข้อมูลโครงงาน
ใบงานที่ 14 เรื่อง การศึกษาข้อมูลโครงงาน
 
ใบงานที่ 12
ใบงานที่ 12ใบงานที่ 12
ใบงานที่ 12
 
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภทใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท
ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท
 
ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท
ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภทใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท
ใบงานที่ 6 เรื่อง โครงงานประเภท
 
ใบงานที่ 3 เรื่องขอบข่ายและประเภท
ใบงานที่ 3 เรื่องขอบข่ายและประเภทใบงานที่ 3 เรื่องขอบข่ายและประเภท
ใบงานที่ 3 เรื่องขอบข่ายและประเภท
 
ใบงานที่ 16
ใบงานที่ 16ใบงานที่ 16
ใบงานที่ 16
 
ใบงานที่14
ใบงานที่14ใบงานที่14
ใบงานที่14
 
ใบงานที่ 13
ใบงานที่ 13ใบงานที่ 13
ใบงานที่ 13
 
ใบงานที่ 12
ใบงานที่ 12ใบงานที่ 12
ใบงานที่ 12
 
ใบงานท 11
ใบงานท   11ใบงานท   11
ใบงานท 11
 
ใบงานท 10
ใบงานท   10ใบงานท   10
ใบงานท 10
 
ใบงานท 9
ใบงานท   9ใบงานท   9
ใบงานท 9
 

7 สามัญ คณิต เฉลย

  • 1. กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 1 จาก 18 เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath / วิธีทํา พิจารณาแบงยานคาของ x จาก 3 7 3 2 0 , 3 7 0 2 3 x x x x− = → = − = → = เปน 3 ยาน 1. 3 : | 3 2 | | 3 7 | 0 3 2 (3 7) 0 4 2 x x x x x x< − − − ≥ → − + − ≥ → ≥ ยานคานี้แยงกันจงใชไมได 2. 3 7 7 : | 3 2 | | 3 7 | 0 (3 2 ) (3 7) 0 2 2 2 3 3 x x x x x x x≤ < − − − ≥ → − − + − ≥ → ≥ → ≤ < 3. 7 7 : | 3 2 | | 3 7 | 0 2 3 (3 7) 0 4 4 3 3 x x x x x x x≥ − − − ≥ → − − − ≥ → ≤ → ≤ ≤ จากยาน 2. และ 3. ไดผลรวมของคา x โดยการ union กันไดยานตอเนื่องเปน [2,4] ดังนั้น [ , ] [2,4] 2 4 6a b a b= + = + = ตอบ 6 วิธีทํา ค.ร.น. ของเลข 2 จํานวน n และ 720 = 10800 4 3 2 1080 8 1350 8 25 54 8 25 2 27 2 3 5= × = × × = × × × = × × 2 4 4 2 720 9 80 9 16 5 3 2 5 2 3 5= × = × × = × × = × × ดังนั้น 3 2 2 3 5 3 15 3 225 675n = × = × = × = ตอบ 675 ( ) 2 22 2 1 2 1 22 2tan 2 2 2 2 sec (2tan 2) 1 tan (2tan 2) 1 1 1 1 8 9 1 tan 1 21 2 θ θ − −       = + = + = + = + = + =     − −     −   ตอบ 9
  • 2. กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 2 จาก 18 เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath / เนื่องจาก C เปนจุดบน OB ดังนั้น OC มี vector ทิศทางเดียวกัน แตขนาดตางกัน และสามารถกําหนดจุด C =(3m,-6m,2m) ได OC ตั้งฉากกับ AC ดังนั้นจะได 2 2 2 2 0 . (3 6 2 ) [(3 1) ( 6 4) (2 2) ] 3 (3 1) ( 6 )( 6 4) (2 )(2 3) (9 3 ) (36 24 ) (4 6 ) 49 21 7 (7 3) OC AC m OB AC mi mj mk m i m j m k m m m m m m m m m m m m m m m m = • = • = − + • − + − + + − = − + − − + + + = − + − + + = − = − ดังนั้น 3 7 m = . ดังนั้น 2 2 23 3 | | | | 3 ( 6) 2 9 36 4 3 7 7 OC m OB= = + − + = + += 2 2 2 2 1 3 2 2 3 3 4 3 3 3 4 3 3 3 4 3 3 9 0 (3 3 3)(3 3) 0 3 3,3 3 3 ,3 x x x x x x x x x − + = → + = × → − × + = − − = → = = 1 3 , 2 2 x = ตอบ 1 3 2 2 2 + = วิธีทํา 33log 2 log 23 31 33 3log 2 log 2 log( 27 10 27 3 3 2 8 2) 1 log10x x x x x x x+ → = + = + = + = + = + → == = ตอบ 2
  • 3. กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 3 จาก 18 เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath / วิธีทํา พจนที่ r+1 = ( ) ( ) ( ) ( ) 10 10 10 1 10 2 2 2 2 3 3 3 10 2 20 5 4 3 102 2 2 10 .. 10 10 102 10 9 8 7 2 20 5 0 4 2 16 3360 4 24 r r r r r r x x x x rx x x x x r r r rx − − − −        + = + + +                     × × ×  = → − = → = → = × =              นั่นคือพจนที่ 5 จะมี 0 x และมีคา 3360 ตอบ 3360 ถาการสอบครั้งที่ 5 ตองได x % เปอรเซ็นตสอบเฉลี่ย 86% 4 2 % 540 344 90% 90 6 540 344 2 98% 4 2 2 x x x × + − = → × = = + → = = + ตอบ 98% ความชันของเสนตรง = 4 3 = 8 2 3 dy x dx = − 2 4 8 8 73 3 2 (2) 2 (2) 1 2 3 3 x y + ∴ = = → = − + = ดังนั้นจุดสัมผัสคือที่(2,1) ระยะหางระหวางจุดสัมผัส กับ เสนตรงที่กําหนด 2 2 2 2 8 3 10| | | 4(2) 3(1) 10 | 3 54 3 ax by c d a b − ++ + − + = = = = + + ตอบ 3 หนวย 2 2 2 2 3 2 00 0 6 | 2 | (12 6 ) 6 2 | 6(4) 2(8) 8x x dx x x dx x x− = − = − = − =∫ ∫
  • 4. กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 4 จาก 18 เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath / วิธีทํา ( ) 3 2 3 2 3 2 3 2 ( ) 1 ( 1)( 2)( 3) ( 6 11 6) ( ) ( 6 11 6) 1 1 (4) 0 4 6 4 11 4 6 1 (64 96 44 6) 1 6 1 6 1 1 24 ( ) ( 6 11 6) 1 (5) (125 150 55 6) 1 1 3 6 6 6 p x A x x x A x x x p x A x x x p A A A A p x x x x p −= − − − = − + − = − + − +   = = − × + × − + = − + − + = + → =−    =− − + − + → =− − + − + =− + =− ตอบขอ 1 2 3 1 3 1 2 4 2 2 z z i   + =− → + =±     แตจากโจทย Im( ) 0Z > ดังนั้น 3 1 5 1 2 2 6 z i π =− + =∠ 8 40 2 1 3 1 1 6 6 3 2 2 z i π π π=∠ =∠ + =− + ตอบขอ 5.
  • 5. กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 5 จาก 18 เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath / วิธีทํา 5 เปน ห.ร.ม. ของเลข 2 จํานวน a,b ฉะนั้นให 5 , 5a k b l= = จะได 1575 25 25 25 125 125 63 5 5 ( 5)( 5) 25ab a b kl k l kl k l k l= − − = − − → = − − = − − − → ( 5)( 5) 63 25 88 11 8 16, 13 80, 65k l k l a b− − = + = = × → = = → = = เช็คคําตอบ 25 25 80 65 25 80 25 65 1575ab a b ok− − = × − × − × = 80 65 15a b− = − = ตอบขอ 1 23 4 | | | || | sin 1 5sin 5sin 3 sin cos 1 sin 5 5 u v u v θ θ θ θ θ θ× = =× = =→ = → =− − =−   มุมปานคา cosθ เปนลบ 2 2 2 24 (2 ) ( ) 2 . . . 2 | | | || | cos | | 2(1) 1(5) 5 2 4 25 19 5 u v u v u v u v v v u u v vθ   + ⋅ − = − − = − − = − − − = + − =−                  ตอบขอ 2
  • 6. กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 6 จาก 18 เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath / 2 2 2 2 2 2 2 2 2 2 9 72 16 32 16 9( 8 16) 16( 2 1) 16 9 16 16 1 16 144 16 ( 4) ( 1) 9( 4) 16( 1) 144 1 4 3 x x y y x x y y x y x y − − − = − + − + + = + × − × = + − − + − − + = → − = ดังนั้น H=Hyperbola มีศูนยกลางอยูที่ (4,-1) แกนสมมาตรอยูบนแกน X มีความยาว a=4, และ b=3 ความยาวโพกัส 2 2 2 2 4 3 5c a b= + = + = E เปนวงรี มีจุดยอดอยูที่จุดโฟกัสของ H ดังนั้น 5a = และมีศูนยกลางอยูที่เดียวกัน ที่จุด (4,-1) รูปสมการ E: 2 2 2 2 2 2 2 2 ( 4) ( 1) ( 4) ( 1) 1 5 x y x y a b b − + − + + = + = ความเยื้องศูนย ของ E คือ 2 2 2 2 2 2 2 2 1 1 5 1 4 5 5 55 c a b a b b e e a a a a − − − = = = → = = → = = 2 2 24 4 5 20 5 5 b a= = = ดังนั้นสมการของ E: 2 2 ( 4) ( 1) 1 25 20 x y− + + =ตอบขอ 3
  • 7. กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 7 จาก 18 เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath / วิธีทํา 2 2 2 2 2 2 2 cos2 3cos2 (2cos 1) 3(2cos 1) (4cos 1) 6cos 3) 10cos 4 1 2 10cos 2 0 cos cos 2 cos 55 cos cos[180 ( )] cos( ) cos cos sin sin A B A B B B B B B A B C A B A B A B A B −= + = − + −= − + −= − → − =→ = → = = = − + =− + =− + 2 1 5 2 5 1 2 2 3 5 5 5 5 55 − − =− + =− + ตอบขอ 3
  • 8. กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 8 จาก 18 เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath / 2 1 2 24 2 2 4 (4 4 4 ) (4 8 2 ) 12 6 2 1 2 1 1 1 3 2 2 2 1 2 | | 1 1 1 ( 4 3 4) ( 6 4 2) 3 3 2 2 2 4c a b a b c b c a b c x a AX B y b z A b c c − −   = = − − + − + =− + →                == − =           −      = − = − − + + − + = + + = − − − จะหาเฉพาะคา x ใชการแทนที่ column แรกของ A จะงายสุด 1 2 1 1 2 2 2 4 ( 2 2 2 ) 6 3 | | 4 3 3 2 a b c a c b c a b c b b c x A − − − − + + − + + − = = − − += = − ตอบขอ 5
  • 9. กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 9 จาก 18 เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath / 1 1 1 0 0 1 0 1 0 | | | | | | 0 0 1 AX B AX I A X A X X − − =    = = → = → = =     1 1 1 1 1 1 0 2 3 2 15 0 ( 10 15 0) 8 | | | | | | 8 5 5 1 X A X X − = = + + + − − + =− → = = =− ตอบขอ 2 2 2 1 1 1 1 11 2 4 2 2 22 1 1 1 1 1 1 2 2 2 2 2 log ( 1) 2log ( 2) log (9 3) log ( 1) log ( 2) log (9 3) ( 1)( 2) 1 log ( 1) log ( 2) log (9 3) log 0 log 9 3 2 x x x x x x x x x x x x       ≥ + + + − −= + + + − − + +   = + + + − −= ≤=   −   ดังนั้น ( 1)( 2) 1 9 3 x x x + + ≥ − จะได 2 2( 1)( 2) 1 3 2 9 3 6 5 ( 1)( 5) 0 9 3 x x x x x x x x x x + + ≥ + + ≥ − → − + = − − ≥ − ดังนั้น 1 ( ,1] [5, )S = −∞ ∞ แตเรามีเงื่อนไข log y ที่ 0y > นั่นคือ 1 0, 2 0, 9 3 0x x x+ > + > − > สรุปคือ 1 3 x > ดังนั้น ภายใตเงื่อนไขเพิ่มเติมนี้ 1 1 ( ,1] [5, ) 3 S= ∞ จะได 1 2 {1,5,6,7,8,9,10}S S∩ = มีสมาชิก 7 จํานวน ตอบขอ 3
  • 10. กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 10 จาก 18 เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath / วิธีทํา เริ่มจาก เด็กอายุ 7 ป จะนั่งเกาอี้ หมายเลข 6 หรือ 7 ได รวม 2 วิธี เด็กอายุ 6 ป จะนั่งเกาอี้ หมายเลข 5,6 หรือ 7 ได แตหมายเลข 6 หรือ 7 โดนยึดไป 1 ตัว จึงเหลือ เพียง 2 วิธี เด็กอายุ 5 ป จะนั่งเกาอี้ หมายเลข 4,5,6 หรือ 7 ได แตหมายเลข 5 - 7 โดนยึดไป 2 ตัว จึงเหลือ เพียง 2 วิธี เด็กอายุ 4 ป จะนั่งเกาอี้ หมายเลข 3,4,5,6 หรือ 7 ได แตหมายเลข 4 - 7 โดนยึดไป 3 ตัว จึงเหลือ เพียง 2 วิธี เด็กอายุ 3 ป จะนั่งเกาอี้ หมายเลข 2,3,4,5,6 หรือ 7 ได แตหมายเลข 3 - 7 โดนยึดไป 4 ตัว จึงเหลือ เพียง 2 วิธี เด็กอายุ 2 ป จะนั่งเกาอี้ หมายเลข 1,2,3,4,5,6 หรือ 7 ได แตหมายเลข 2 - 7 โดนยึดไป 5 ตัว จึงเหลือ เพียง 2 วิธี เด็กอายุ 1 ป จะนั่งเกาอี้ หมายเลข 1,2,3,4,5,6 หรือ 7 ได แตหมายเลข 1 - 7 โดนยึดไป 6 ตัว จึงเหลือ เพียง 1 วิธี ดังนั้นจํานวนวิธีทั้งหมดที่เด็กทั้ง 7 คนจะนั่งได 6 2 1 64= × = วิธี ตอบ ขอ3
  • 11. กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 11 จาก 18 เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath / 1. สวนเบี่ยงเบนเฉลี่ย 1 1 1 1 ( 3) ( 3) n n i i i i X X X X n n= = = + − += −∑ ∑ เทาเดิม ผิด 2. สัมประสิทธิ์พิสัยใหม = _ max _ min max min max min max min _ max _ min max min max min max min ( 3) ( 3) ( 3) ( 3) 6 new new new new X X X X X X X X X X X X X X X X − + − + − − = = < + + + + + + + ถูก 3. คาเฉลี่ย 1 1 1 1 ( 3) 3 3 n n new i i i i X X X X n n= = = + = + = +∑ ∑ เพิ่มขึ้น ผิด 4. มัธยฐาน และตําแหนงตางๆเรียงตามเดิมเพราะเพิ่มเทาๆกันหมด ไมเปลี่ยน ผิด 5. 2 2 2 2 1 1 1 1 [( 3) ( 3)] ( ) n n new i i i i S X X X X S n n= = + − += −=∑ ∑ S→ คงเดิม ผิด ตอบขอ 2.
  • 12. กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 12 จาก 18 เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath / 117.8 0.44 (1) 126.7 1.34 (2) 126.7 117.8 1.78 (2) (1) 8.9 (2) 5 126.7 1.34 5 120 1.78 X S X S S S X − = − − = − = − → = = → = − × = ตําแหนงขอมูล 125 คํานวณจาก 125 125 120 1 5 X S − − = = =Z จากจุดกึ่งกลางได พื้นที่ 0.3413 คิดรวมจากครึ่งแรกจะได 0.5 0.3413 0.8413 84.13%+ = = ตอบขอ 1
  • 13. กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 13 จาก 18 เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath / จากรูปสมการทั่วไปของ พาราโบลาที่แกนสมมาตรขนานกับแกน Y คือ 2 2 2 ( ) 4 ( ) ( 3) 4 ( 9)x h p y k x p y− = − = − = − แทนคาจุดผาน(1,5)จะได 2 1 (1 3) 4 (5 9) 4 4 ( 4) 4 p p p− = − = = − → =− ดังนั้นสมการคือ 2 ( 3) ( 9)x y− =− − จัดรูปแบบเปน 2 6y x x=− + เมื่อ 0y = ได 0,6x = และเปนจุดตัดบนแกน x ของพาราโบลารูปคว่ํา ดังนั้น 6 6 2 3 2 6 3 2 00 0 1 1 ( 6 ) 3 | 6 3(6 ) 36 3 3 ydx x x dx x x= − + =− + =− + =∫ ∫ ตอบขอ 4.
  • 14. กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 14 จาก 18 เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath / 2 2 ( ) 2 ( ( ) ( ) (2) 2 2 (2) 2 (2) 4 ( 1) 4 (0) 4 d d f x cx g x cx g x dx dx d d f c g c g c c c dx dx = + = + = − + =− คํานวณหาคา C ที่จะทําให ( )f x มีความตอเนื่องที่จุด x=1 จาก 2 ( ) 2 ( ( ) ( ) d d f x cx g x cx g x dx dx = + 2 (2) 2 2 (2) 2 (2) 4 ( 1) 4 (0) 4 d d f c g c g c c c dx dx = + = − + =− 2 12 (1) ( (1) 1) (1) 2(1) 10 ( 1)4 12 1 2 4 f c g c c= + = + = + = → = − = (2) 4 4(2) 8 d f c dx =− =− =− ตอบขอ 1 40 1 (1 3 5 .. 39) 2(2 4 6 .. 40)n n a = = + + + + + + + + +∑ 1 39 2 40 20 2 20 2 2 + + = × + × × ผลบวกของอนุกรมเลขคณิต = จํานวนพจน x คาเฉลี่ยของพจนแรกกับพจนสุดทาย 20 20 40 21 400 840 1240= × + × = + = ตอบขอ 4
  • 15. กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 15 จาก 18 เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath / 2 2 2 2 2 2 2 2 2 3 5 7 [(2 ) ( 1)][(3 ) ( 1)][(5 ) ( 1)][(7 ) ( 1)] A I A I A I A I a a a a a a a a − − − − = − + − − + − − + − − + − 1 2 4 6 48= × × × = ตอบ ขอ5 วิธีทํา 1 1 1 2 2 2 2 2 1 1 1 2 2 2 2 3 2 2 2 1 1 2, 1 2 2 1 3 3 3 3 ( 3) 3 2 4 2 3 1 1 2 2 4 4(2 3) 2 3 ... 2 4(2 3) 2 1 1 1 4 33 2 3 1 2 n i i a a b a c a b a c a b r r a a r r r ∞∞ = = = = = = − = − =   = = − = − = − =     − − + = + + + = × = × = = = = = + − − − −− − ∑ ตอบขอ 2
  • 16. กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 16 จาก 18 เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath / 2 2 2 2 2 2 2 2 ( ), '( ) 1. ( 1), 2 1 ( 1), 2 1 1 1 2. , , ( 1) ( 1) ( 1) ( 1) 3. ( 1), 2 1 ( 1), 2 1 4. ( 1) ( ), ' , 3 2 ( 1), ( ) '(0 ) ' 3 2 1 1 1 0 0 (0 ) 1 1 1 0 0 5. , 2 , 2 x x oo f x f x x x x x x x x x x x x x x x x x f x f x f x x x x x x x x x x x f x x x − = − + = + = + += + −= = = + + + + + += − + − −= + += − + − −= = − − = = − จากตารางการคํานวณอนุพันธของขอตางๆขางบนนี้จะเห็นไดวา '(0 )f + และ '(0 )f − มีคาตางกันเฉพาะขอ 3 คือ 1 และ-1 จึงถือวาไม สามารถมีคาอนุพันธที่จุด 0x = ตอบขอ 3
  • 17. กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 17 จาก 18 เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath / วิธีทํา จากการทดลองพบวาเริ่มจํานวนพจนเทากับ 7 ซึ่งเปนเลขคี่ซึ่งได มัธยฐานเปนพจนที่ 1 ซึ่งมีคา 3 4 1 7= + × = (ตัวอยางการจัดเรียงตําแหนงพจนกรณี 7 พจน 2,4,6,1,3,5,7 ซึ่งมีคา 2,4,6,7,15,31 ตามลําดับ) และพบวาจํานวนพจนที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 10 มัธยฐานจะเปนพจนคี่ ในลําดับถัดไป เปนพจนที่ 3, 5,7,.. ตามลําดับ ดังนั้นถาจํานวนพจนเปน 7 10 8 87+ × = มัธยฐานจะเปนพจนที่ 1 8 2 17+ × = ซึ่งมีคา 3 4 17 71= + × = ถาเพิ่มจํานวนพจนอีก 2, หรือ 4 เปน 87 2 89+ = หรือ 87 4 91+ = ซึ่งเปนตามที่โจทยตองการ ก็ตองเพิ่มพจนที่ 88,89 หรือ ,88,89,90 และ 91 ซึ่งมีคาเปน 88, 3+4x89, 90, 3+4x91ลวนมีคามากกวา พจนที่ 17(71) ซึ่งทําใหตําแหนงของมัธยฐานก็จะเลื่อนขึ้นไปเปนลําดับของการจัดเรียงคาลดหรือเพิ่มขึ้น ครึ่งหนึ่งของจํานวนพจนที่ลดหรือเพิ่มขึ้น สําหรับคาใกลเคียงกับพจนที่ 17(71) ลวนเปนพจนคู โดยมีลําดับพจนเปน 70,17,72,74 ดังนั้นถา จํานวนพจนเปน 85,89,และ 91 ตําแหนงมัธยฐานจะอยูที่ พจนที่ 70 มีคาเปน 70,72, และ 74 ตามลําดับ ดังนั้นสําหรับ 1 2 91, ,..,a a a มัธยฐานคือ 74a ตอบขอ 4
  • 18. กสพท 2555 (คณิต ในกลุมสามัญ 7 วิชา มค 55) เครดิต ตรวจทานแกไขคําตอบ โดย อ. Sila Sookrasamee หนา 18 จาก 18 เฉลยโดย Boonchuay Pataralertsiri (เครือขายผูปกครอง รร ศึกษานารี, แสงอรุณ ,ทวีธาภิเศก) http://www.facebook.com/groups/HighSchoolMath / ตัวแปร 4 ตัว คือ a,b,c,d แตละตัวมีคาได 3 คา ดังนั้น จํานวนวิธีทั้งหมด =3x3x3x3 = 81 วิธี คา 0M ad bc= − = ที่จะทําใหหาคา อินเวอรส ไมได มี 3 กรณี คือ เมื่อ 1,0,1ad bc= = − กรณี 1ad bc= = − คือกรณีแตละคูเปน -1,1 หรือ 1,-1 เปน 2 วิธี นั่นคือรวม 2 2 4= × = วิธี กรณี 0ad bc= = คือกรณีแตละคูเปน 0,0 0,-1 หรือ 0,1 -1,0 1,0 เปน 5วิธี นั่นคือ รวม 5 5 25× = วิธี กรณี 1ad bc= = − คือกรณีแตละคูเปน 1,1 หรือ -1,-1 เปน 2 วิธี นั่นคือรวม 2 2 4= × = วิธี รวม 3 กรณีที่ 0M ad bc= − = ได 4 25 4 33+ + = วิธี ดังนั้น 0M ad bc= − ≠ จะมี 81 33 48− = วิธี ความนาจะเปนที่ M สามามารถหา inverse ได คือเมื่อ 0M ad bc= − ≠ ไดเทากับ 48 81 ตอบขอ 4.