More Related Content
Similar to ใบงานท 3 ขอบข_ายและประเภทของโครงงาน
Similar to ใบงานท 3 ขอบข_ายและประเภทของโครงงาน (16)
More from Film'film Kachamad
More from Film'film Kachamad (11)
ใบงานท 3 ขอบข_ายและประเภทของโครงงาน
- 1. ใบงานที่3 ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ายของโครงงาน
ดำเนินงำนโดยนักเรียนเป็นผู้ริเริ่มสร้ำงสรรค์ และครูอำจำรย์เป็นผู้ให้คำแนะนำปรึกษำ
มีองค์ประกอบดังนี้
1. เป็นกิจกรรมกำรเรียนให้นักเรียนศึกษำ ค้นคว้ำ
ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอำศัยหลักวิชำกำรทำงทฤษฎีตำมเนื้อหำโครงงำนนั้นๆ
หรือจำกประสบกำรณ์และกิจกรรมต่ำงๆ ที่ได้พบเห็นมำกแล้ว
2. นักเรียนทุกคนพิจำรณำจัดทำโครงงำนด้วยตนเอง
หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลำสั้นๆ เป็นภำคเรียน หรือมำกว่ำก็ได้
แล้วแต่โครงงำนเล็กหรือใหญ่
3. นักเรียนเป็นผู้พิจำรณำริเริ่มสร้ำงสรรค์
คัดเลือกโครงงำนที่จะศึกษำค้นคว้ำปฏิบัติด้วยตนเองตำมควำมถนัด สนใจ และควำมพร้อม
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงำน รำยละเอียดของโครงงำน
แผนปฏิบัติงำนและกำรแปลผล รำยงำนผลต่ออำจำรย์ที่ปรึกษำ
เพื่อดำเนินงำนร่วมกันให้บรรลุตำมจุดหมำยที่กำหนดไว้
5. เป็นโครงงำนที่เหมำะสมกับควำมรู้ ควำมสำมำรถของนักเรียนตำมวัยและสติปัญญำ
รวมทั้งกำรใช้จ่ำยเงินดำเนินงำนด้วย
ประเภทของโครงงาน
1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ลักษณะเด่นของโครงงำนประเภทนี้คือ
เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ในกำรผลิตสื่อเพื่อกำรศึกษำโดยกำรสร้ำงโปรแกรมบทเ
รียนหรือหน่วยกำรเรียน ซึ่งอำจจะต้องมีภำคแบบฝึกหัด บททบทวน
และคำถำมคำตอบไว้พร้อม
ผู้เรียนสำมำรถเรียนแบบรำยบุคคลหรือรำยกลุ่มกำรสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน
นี้ถือว่ำคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์กำรสอน ซึ่งอำจเป็นกำรพัฒนำบทเรียนแบบออนไลน์
ให้ผู้เรียนเข้ำมำศึกษำด้วยตนเองก็ได้ โครงงำน
ประเภทนี้สำมำรถพัฒนำขึ้นเพื่อใช้ประกอบกำรสอนในวิชำต่ำงๆ
โดยผู้เรียนอำจคัดเลือกเนื้อหำที่เข้ำใจยำก มำเป็นหัวข้อในกำรพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ
- 2. ตัวอย่ำงโครงงำน เช่น กำรเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวำล ตัวแปรต่ำงๆ
ที่มีผลต่อกำรชำกิ่งกุหลำบ หลักภำษำไทย และสถำนที่สำคัญของประเทศไทย เป็นต้น
2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ โครงงำนประเภทนี้เป็นโครงงำนเพื่อพัฒนำเครื่องมือช่วย
สร้ำงงำนประยุกต์ต่ำงๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วำดรูป
ซอฟต์แวร์พิมพ์งำน และซอฟต์แวร์ช่วยกำรมองวัตถุในมุมต่ำงๆ เป็นต้น
สำหรับซอฟต์แวร์เพื่อกำรพิมพ์งำนนั้นสร้ำงขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคำ
ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เรำใช้ในกำรพิมพ์งำนต่ำงๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์
ส่วนซอฟต์แวร์กำรวำดรูป
พัฒนำขึ้นเพื่ออำนวยควำมสะดวกให้กำรวำดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้
โดยง่ำย สำหรับซอฟต์แวร์ช่วยกำรมองวัตถุในมุมต่ำงๆ
ใช้สำหรับช่วยกำรออกแบบสิ่งของ อำทิเช่น ผู้ใช้วำดแจกันด้ำนหน้ำ
และต้องกำรจะดูว่ำด้ำนบนและด้ำนข้ำงเป็นอย่ำงไร
ก็ให้ซอฟต์แวร์คำนวณค่ำและภำพที่ควรจะเป็นมำให้
เพื่อพิจำรณำและแก้ไขภำพแจกันที่ออกแบบไว้ได้อย่ำงสะดวก
3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี โครงงำนประเภทนี้เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอ
ร์ช่วยในกำร จำลองกำรทดลองของสำขำต่ำงๆ
- 3. ซึ่งเป็นงำนที่ไม่สำมำรถทดลองด้วยสถำนกำรณ์จริงได้ เช่น กำรจุดระเบิด เป็นต้น
และเป็นโครงงำนที่ผู้ทำต้องศึกษำรวบรวมควำมรู้ หลักกำร ข้อเท็จจริง
และแนวคิดต่ำงๆ อย่ำงลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องกำรศึกษำแล้วเสนอเป็นแนวคิด
แบบจำลอง หลักกำร ซึ่งอำจอยู่ในรูปของสูตร สมกำร หรือคำอธิบำย
พร้อมทั้งำรจำลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมำเป็นภำพ
ภำพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตำมสูตรหรือสมกำรนั้น
ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนมีควำมเข้ำใจได้ดียิ่งขึ้น
กำรทำโครงงำนประเภทนี้มีจุดสำคัญอยู่ที่ผู้ทำต้องมีควำมรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่ำงดี
ตัวอย่ำงโครงงำนจำลองทฤษฎี เช่น กำรทดลองเรื่องกำรไหลของของเหลว
กำรทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลำปิรันย่ำ
และกำรทดลองเรื่องกำรมองเห็นวัตถุแบบสำมมิติ เป็นต้น
4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน โครงงำนประยุกต์ใช้งำนเป็นโครงงำนที่ใช้คอม
- 4. พิวเตอร์ในกำร สร้ำงผลงำนเพื่อประยุกต์ใช้งำนจริงในชีวิตประจำวัน อำทิเช่น
ซอฟต์แวร์สำหรับกำรออกแบบและตกแต่งภำยในอำคำร ซอฟต์แวร์สำหรับกำรผสมสี
และซอฟต์แวร์สำหรับกำรระบุคนร้ำย เป็นต้น
โครงงำนประเภทนี้จะมีกำรประดิษฐ์ฮำร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่ำงๆ
ซึ่งอำจเป็นกำรคิดสร้ำงสิ่งของขึ้นใหม่
หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภำพสูงขึ้น โครงงำนลักษ
ณะนี้จะต้องศึกษำและวิเครำะห์ควำมต้องกำรของผู้ใช้ก่อน
แล้วนำข้อมูลที่ได้มำใช้ในกำรออกแบบ และพัฒนำสิ่งของนั้นๆ
ต่อจำกนั้นต้องมีกำรทดสอบกำรทำงำนหรือทดสอบคุณภำพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ
ปรุงแก้ไขให้มีควำมสมบูรณ์
โครงงำนประเภทนี้ผู้เรียนต้องใช้ควำมรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภำษำโปรแกรม
และเครื่องมือต่ำงๆ ที่เกี่ยวข้อง
5. โครงงานการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
โครงงำนประเภทนี้เป็นโครงงำนพัฒนำซอฟต์แวร์เกมเพื่อควำมรู้หรือเพื่อควำม
เพลิดเพลิน เกมที่พัฒนำควรจะเป็นเกมที่ไม่รุนแรง
เน้นกำรใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่ำงมีหลักกำร
โครงงำนประเภทนี้จะมีกำรออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์กำรเล่น
เพื่อให้น่ำสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ควำมรู้สอดแทรกไปด้วย
ผู้พัฒนำควรจะได้ทำกำรสำรวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่ำงๆ ที่มีอยู่ทั่วไป
และนำมำปรับปรุงหรือพัฒนำขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่
และน่ำสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่ำงๆ