SlideShare a Scribd company logo
1 of 74
Download to read offline
AD EA
เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน
4
CEO TALK
สวัสดีครับ ผู้อ่านทุกท่าน
ในวาระที่ทางบริษัท ออนไลน์แอสเซ็ท จ�ำกัด หรือ กลุ่ม efin ครบรอบปีที่ 22 และก้าวขึ้นปีที่
23 ทางกลุ่ม efin ขอต้อนรับท่านสู่งานสัมมนาใหญ่ประจ�ำปี Better Trade 2023 ภายใต้หัวข้อ
“HIGH RISK HIGH RICH กล้าเสี่ยงอย่างมีความรู้ สู่อิสรภาพทางการเงิน” ที่จัดขึ้นในวันที่
11 พฤศจิกายน 2566 ณ สถานที่จัดงาน True Digital Park
โดยวัตถุประสงค์ของงาน เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจในเรื่องของสินทรัพย์ที่มีความ
เสี่ยงสูงให้กับนักลงทุนจากการคัดสรรวิทยากรที่มีความรู้ความช�ำนาญในแต่ละด้านมาให้ความรู้
ค�ำแนะน�ำและแบ่งปันประสบการณ์จริง โดยมุ่งหวังว่านักลงทุนจะได้รับความรู้และเทคนิคที่สามารถ
น�ำไปวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพบริหารความเสี่ยงได้และได้ผลตอบแทนที่ต้องการ
หนังสือ “เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน” ที่ท่านอ่านอยู่นี้ เป็นสิทธิ์พิเศษที่สงวนไว้ให้
ผู้ที่เข้าร่วมงานได้อ่านก่อนใคร หนังสือนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานที่เราจัดท�ำขึ้นเพื่อเป็นแหล่งความรู้
และแนวทางในการลงทุนที่มีคุณภาพ ทั้งในหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ คริปโตเคอร์เรนซี่ และอื่น ๆ
อีกมากมาย
หนังสือนี้รวบรวมบทสัมภาษณ์จากผู้เชี่ยวชาญและนักลงทุนที่มีชื่อเสียงในแต่ละด้านทั้งนี้เพื่อ
ให้ท่านได้รับความรู้และเทคนิคที่จ�ำเป็นในการลงทุนและการจัดการความเสี่ยง
หนังสือนี้จะเป็นเครื่องมือที่ท่านไม่ควรพลาด และจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างความส�ำเร็จใน
การลงทุนของท่าน ขอให้ท่านสนุกกับการอ่านและได้รับความรู้มากมายจากหนังสือนี้ครับ
ขอให้ท่านสนุกและได้รับความรู้ ความส�ำเร็จ และความรวยระดับเซียนจากหนังสือ
นี้ และขอให้งาน Better Trade 2023 นี้เป็นแรงบันดาลใจให้ท่านก้าวไปสู่ความส�ำเร็จและ
ความรวยอย่างยั่งยืน
ขอแสดงความนับถืออย่างสูง
สาส์นจากผู้บริหาร
พรเลิศ เตชะรัตโนภาส
ประธานกรรมการบริหาร
บริษัท ออนไลน์แอสเซ็ท จ�ำกัด
เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน 5
เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน
6
“เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน” เป็นชื่อหนังสือประจ�ำปี ส�ำหรับงาน Better
Trade ปี 2023 ที่กองบรรณาธิการ ส�ำนักข่าวอีไฟแนนซ์ จัดท�ำขึ้นเพื่อเป็นคู่มือให้
กับ ผู้ร่วมงาน และนักลงทุนที่สนใจ ส�ำหรับการลงทุนในปี 2567 ที่ก�ำลังจะถึงในอีก
ไม่กี่เดือนนี้ เพื่อจะได้เข้าใจว่า “ท�ำไมจึงต้องเสี่ยงอย่างเทพ และรวยอย่างเซียน”
เกือบ 1 ขวบปีที่ก�ำลังจะผ่านไป มีเรื่องราวหลากหลายจริงๆ ส�ำหรับประเทศไทย
โดยเฉพาะเรื่องของเหตุบ้าน การเมือง เศรษฐกิจ การลงทุน ที่แม้จะไม่ได้หนักหนา
สาหัสสากรรจ์ เท่ากับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ง่ายที่นักลงทุนจะสามารถท�ำก�ำไร
ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเพราะปัจจัยทั้งในและต่างประเทศยังคงมีอิทธิพลต่อการ
ลงทุนค่อนข้างสูง
ในส่วนของเศรษฐกิจโลกปีนี้นั้น ต้องยอมรับว่าหลังจากผ่านพ้นสถานการณ์การ
ระบาดของโควิด 19 แล้ว เติบโตได้ช้าลงมาก จนหลายฝ่ายประเมินว่าเศรษฐกิจฯ ปี
นี้จะถดถอย โดยเฉพาะเศรษฐกิจประเทศหลัก ทั้ง สหรัฐอเมริกา ยุโรป หรือแม้แต่จีน
ที่ก็เติบโตลดลง และก็ไม่แน่ว่าในปีหน้า หรือปี 2567 เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยักษ์
ใหญ่เหล่านี้จะฟื้นตัวได้เร็วขึ้นหรือไม่ เนื่องจากความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก ที่มาจาก
ราคาสินค้าที่ยังคงอยู่ในระดับสูงถึงแม้เงินเฟ้อจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้วรวมไปถึงอัตรา
ดอกเบี้ยที่ยังคงเป็นขาขึ้น ตลอดจนเรื่องค่าเงิน
เพราะฉะนั้นเมื่อเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยง จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่บ้านเราจะได้รับ
ผลกระทบไปด้วยอย่างล่าสุดที่หลายหน่วยงานได้ทยอยออกมาปรับลดเป้าจีดีพีเพราะ
มูลค่าส่งออกที่ชะลอลง สืบเนื่องจากก�ำลังซื้อของกลุ่มประเทศหลักๆที่ลดลง เพราะ
ภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวดี
ท�ำให้ปีนี้เราจ�ำเป็นต้องหันไปผลักดันการท่องเที่ยวเป็นตัวชูโรงโดยล่าสุดรัฐบาล
ใหม่ ได้ประกาศฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีนถึง 5 เดือน เพื่อหวังจะให้การท่องเที่ยง
เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก และน�ำเม็ดเงินเข้าประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน
เพราะอย่าลืมว่า หลังเลิอกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยเสียเวลาไป
กับการตั้งรัฐบาลใหม่นานเกือบ 4 เดือน กว่าจะได้รัฐบาลปัจจุบันมาได้
ขณะที่ในส่วนของแนวโน้มตลาดทุนไทยพูดแบบไม่เข้าข้างตัวเองภูมิภาคเอเซีย
ของเราถือว่าเนื้อหอมที่สุดแล้วเพราะหากมองเรื่องการขยายตัวทางเศรษฐกิจเอเซียยัง
คงเป็นภูมิภาคที่ยังเติบโตอยู่ไม่ได้ถดถอยเหมือนภูมิภาคอื่นแถมยังน่าจะดูโดดเด่นกว่า
ด้วยซ�้ำดังนั้นแนวโน้มการลงทุนของนักลงทุนส่วนใหญ่จึงน่าจะเข้ามาที่ตลาดหุ้นไทยอยู่
ดังนั้น ในปี 2567 ที่ก�ำลังจะมาถึงนี้ และเมื่อประเมินสถานการณ์ต่างๆ ที่กล่าว
มาข้างต้น จึงเชื่อว่าหลายคนคงเตรียมตัว เตรียมใจ และเตรียมพร้อม แล้วว่าจะเลือก
เดินทางไหน เพราะการลงทุนแน่นอนว่ามีความเสี่ยง และเราพร้อมจะรับความเสี่ยง
ในระดับใด
และแน่นอนว่าหากได้อ่านหนังสือเล่มนี้ เป็นคู่มือควบคู่ไปด้วย ตั้งแต่หน้า
แรกจนถึงหน้าสุดท้าย ทีมงานกองบรรณาธิการส�ำนักข่าวอีไฟแนนซ์ ก็หวังเป็น
อย่างยิ่งว่าทุกท่านจะได้ รวยอย่างเซียน และเสี่ยงให้เป็นเหมือนเทพ”
ด้วยความเคารพ
บทบรรณาธิการ
EDITOR’S TALK
พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน
บรรณาธิการ บริหารส�ำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
ทรู ประกาศเจตนารมณแรงกลาในการกาวไปเปนผูนําดานความเปนสวนตัว
กาวทันกับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอยาง AI, IoT และบิ๊กดาตา
เพื่อปกปองสิทธิของผูบร�โภค
ทรู ประเมินถึงผลกระทบของเทคโนโลยีใหมๆ และบร�การอัจฉร�ยะที่เขาไป
อยูในช�ว�ตสวนตัวลูกคาตอการปกปองขอมูลสวนบุคคลอยางตอเนื่อง
เพื่อการใหบร�การ
ดานโทรคมนาคม
ไดรับความยินยอม
อยางชัดแจงจากลูกคา
นํามาซ�่งประโยชน
สําหรับลูกคา
Privacy by Design เพื่อประเมิน
การใชขอมูลใหเปนไปตามกฎหมาย
และวัตถุประสงค
เพื่อนํามาพัฒนาคุณภาพ
สัญญาณและการบร�การ
ใหดียิ่งข�้น
กลไก (control point) ในการปกปองขอมูลสวนบุคคล
(เปนทางเลือก)
(สัญญาการใหบร�การ)
รับสิทธิประโยชน เพื่อตอบสนอง
ความตองการเฉพาะบุคคล
ผูใชงานขอมูลภายใน
คําขอจาก
หนวยงานภาครัฐ
เพื่อนําเสนอสิทธิพิเศษ
และแลกสิทธิประโยชน
ผานชองทาง เชน
#Transformation
ผูใชบร�การมือถือสามารถเลือกใหความยินยอมดานความเปนสวนตัวได 2 ระดับ
เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน
8
• บทบรรณาธิการ
• บทน�ำ
หุ้น
• “เซียนมี่”แจกเข็มทิศพิชิตความรวย ก้าวแรกเริ่มที่ Mindset
• “อาร์ต Club VI” หุ้นพื้นฐานคือยานพาหนะสู่ความมั่งคั่ง
• “เสี่ยป๋อง” แนะเทรดหุ้นแบบ Hybrid พื้นฐาน+เทนนิค เอาตัวรอดจาก AI
• เปิดสูตรรวยยั่งยืนกับสายเทรด “โค้ชเป๊ก ปุณยวีร์ จันทรขจร”
• “ดร.นิเวศน์” สร้างพอร์ตมั่นคง ผ่านการลงทุนหุ้นต่างประเทศ
• “ตราวุทธิ์” จิตตะ เวลธ์ เชียร์ลงทุนยาว ฝ่าฟันความผันผวนระยะสั้น
ฟิวเจอร์
• ลงทุนฟิวเจอร์สแบบ “ม้าเฉียว” ต้องเข้าใจสินค้า รู้เทคนิค และแพ้เป็น
• 15 นาทีทองค�ำ สร้างก�ำไรจาก DW สม�่ำเสมอ
กองทุน
• เปิดกลยุทธ์ผู้จัดการกองทุน บริหารพอร์ตอย่างไรให้งอกเงย
• “กองทุนรวม” โอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มกับ Thematic Fund
ทองค�ำ
• “รู้พื้นฐาน-เข้าใจเทคนิค” กลยุทธ์ส�ำคัญท�ำก�ำไรจาก“ทองค�ำ”
• “ณพวีร์ พุกกะมาน” นักลงทุนผู้ชื่นชอบ XAU/USD ในตลาด FOREX
IPO
• แชร์หลักสแกนหุ้น IPO เลือกถูกตัวก�ำไรสูง จิ้มผิดบาดเจ็บหนัก
คริปโท
• Value at Risk (VAR) คือหัวใจของเทรดเดอร์ทุกระดับ
รู้ทันวางแผนการเงิน/การลงทุน
• “วางแผนการเงิน” เพิ่มความสุข ในยุคที่มีแต่ความไม่แน่นอน
• แก๊งหลอกลงทุนระบาดหนัก ระวังติดกับดักยากจะได้เงินคืน!
• ความท้าทายของธุรกิจธนาคาร ท่ามกลาง“ภัยไซเบอร์การเงิน”
• เครดิตผู้จัดท�ำหนังสือ
สารบัญ
CONTENT
6
9
14
17
20
24
28
30
34
38
42
44
48
50
54
60
64
66
70
72
หน้า
เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน 9
“การลงทุนกับความเสี่ยงเป็นของคู่กัน”นักลงทุนคงเคย
ได้ยินประโยคนี้บ่อยๆจึงไม่แปลกที่อาจท�ำให้เรารู้สึกไม่มั่นใจ
ที่จะน�ำเงินออมที่มีไปลงทุน
แต่จริงๆแล้วความเสี่ยงจากการลงทุนไม่ได้น่ากลัวขนาด
นั้น ถ้าเราเข้าใจและจ�ำกัดความเสี่ยงได้ การลงทุนจะช่วยให้
เงินของเรางอกเงยได้มากกว่า
ในทางกลับกันการไม่ยอมลงทุนอะไรเลยอาจท�ำให้เงิน
ของเราเผชิญความเสี่ยงสูงสุดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้โดยเฉพาะ
ความเสี่ยงที่มูลค่าจะลดลงจากเงินเฟ้อ
ปัจจุบันสินทรัพย์ในการลงทุนมีให้เลือกหลากหลายเช่นหุ้น
ตราสารหนี้ ทองค�ำ อนุพันธ์ สินค้าโภคภัณฑ์ คริปโทฯ เป็นต้น
ขณะที่ช่องทางลงทุนก็เปิดกว้างมีทั้งการลงทุนด้วยตัวเองหรือ
ให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยบริหาร
แต่ต้องค�ำนึงเสมอว่า สินทรัพย์แต่ละประเภทมีลักษณะ
เฉพาะตัว ผลตอบแทนกับความเสี่ยงก็แตกต่างกัน ดังนั้นจึง
จ�ำเป็นต้องศึกษาทางเลือกต่างๆให้ดีเลือกสินทรัพย์และแนวทาง
ที่สอดคล้องกับความต้องการของเรามากที่สุด และท�ำให้เงิน
ออมสร้างความมั่งคั่งอย่างคุ้มค่า
โดยหลักการ “ความเสี่ยงกับผลตอบแทน” แปรผัน
ตรงกัน กล่าวคือ หากลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง
ผลตอบแทนก็ควรจะสูงด้วยเช่นกัน(HighRisk,HighReturn)
แต่ในความเป็นจริงไม่มีอะไรที่เป็นหลักประกันได้เลยว่า การ
ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง จะต้องให้ผลตอบแทนที่
สูงกลับคืนมาเสมอไปเราอาจได้รับผลตอบแทนที่สูง-ต�่ำหรือ
อาจไม่ได้รับอะไรเลยก็เป็นได้
ดังนั้น เราจึงควรต้องมีทักษะในการบริหารจัดการความ
เสี่ยง ซึ่งไม่ได้หมายถึงการ “ก�ำจัด” ความเสี่ยงหรือความ
เสียหายให้หมดไป แต่หมายถึงการ “จ�ำกัด” ความเสี่ยงหรือ
ความเสียหายให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด ซึ่งจะท�ำให้พอร์ตของเรา
สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้
พูดง่ายๆก็คือ มีความเสี่ยงอยู่ในระดับที่เรารับได้ ขณะ
เดียวกันก็มีผลตอบแทนที่ดีพอที่จะท�ำให้เราบรรลุเป้าหมาย
ทางการเงินที่วางไว้ได้
ในวาระที่ “ส�ำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย” มีอายุครบ 22 ปี
และก�ำลังก้าวเข้าสู่ปีที่23ทางส�ำนักข่าวได้จัดท�ำหนังสือดิจิทัล
ภายใต้ชื่อธีม “เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน” แจกจ่ายฟรี
ให้กับผู้มีอุปการะคุณ เพื่อเป็นการตอบแทนทุกท่านที่ให้การ
สนับสนุนอีไฟแนนซ์ไทย มาโดยตลอด
โดยหนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมมุมมองประสบการณ์เทคนิค
การลงทุน การบริหารความเสี่ยง ของนักลงทุนรายใหญ่
ที่มีชื่อเสียง รวมถึงกูรูผู้มีความเชี่ยวชาญในสินทรัพย์ที่หลาก
หลาย มีรูปแบบลงทุนเฉพาะตัวที่น่าสนใจและล�้ำค่า เพื่อ
ให้ผู้อ่านได้น�ำไปใช้พัฒนาตัวเองให้กลายเป็นนักลงทุนที่
เก่งขึ้นตลอดจนต่อยอดแนวทางลงทุนของตัวเองสู่ระดับเศรษฐี
ต่อไป
คณะผู้จัดท�ำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็น
ประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกท่าน และรู้สึกยินดีที่ได้ช่วยกลั่นกรอง
ส่งต่อข้อมูลให้กับนักลงทุนโดยหวังว่าทุกท่านจะประสบความ
ส�ำเร็จในโลกแห่งการลงทุนและกลายเป็นผู้มีอิสรภาพทางการ
เงินเหมือนดังที่ตั้งใจไว้
บทน�ำ
INTRODUCTION
ด้วยจิตคารวะ
คณะผู้จัดท�ำ
หุ้น
“เซียนมี่”แจกเข็มทิศพิชิตความรวย ก้าวแรกเริ่มที่ Mindset
“อาร์ต Club VI” หุ้นพื้นฐานคือยานพาหนะสู่ความมั่งคั่ง
“เสี่ยป๋อง” แนะเทรดหุ้นแบบ Hybrid พื้นฐาน+เทนนิค เอาตัวรอดจาก AI
เปิดสูตรรวยยั่งยืนกับสายเทรด “โค้ชเป๊ก” ปุณยวีร์ จันทรขจร
“ดร.นิเวศน์” สร้างพอร์ตมั่นคง ผ่านการลงทุนหุ้นต่างประเทศ
“ตราวุทธิ์” จิตตะ เวลธ์ เชียร์ลงทุนยาว ฝ่าฟันความผันผวนระยะสั้น
เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน
14
ปัจจุบันมีนักลงทุนจ�ำนวนมากที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักลงทุนสายหุ้นคุณค่า หรือ Value Investor (VI)
ซึ่งนักลงทุนประเภทนี้ มักจะมองภาพในระยะกลางถึงระยะยาว มีการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การ
เติบโตของบริษัทที่ลงทุน รวมถึงต้องมีความอดทนต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ผันผวนในระยะสั้น
แจกเข็มทิศพิชิตความรวย
ก้าวแรกเริ่มที่ Mindset
“เซียนมี่”
หัวใจหลักของนักลงทุนสาย VI คือ การเลือกลงทุนใน
หุ้นคุณค่า (Value Stock) การประเมินมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น
(IntrinsicValue)เพื่อหาจุดเข้าซื้อหรือขายรวมถึงการประเมิน
การแข่งขันและโอกาสของธุรกิจที่จะเติบโตต่อไปในอุตสาหกรรม
โอกาสนี้“ทิวา ชินธาดาพงศ์”เซียนหุ้นสายVIชื่อดังของ
เมืองไทย หรือที่รู้จักกันในนาม “เซียนมี่” ซึ่งเป็นผู้คร�่ำหวอดใน
วงการลงทุนในตลาดหุ้นมามากกว่า10ปีจะมาเปิดเผยเทคนิค
หรือ Trick ส�ำหรับนักลงทุนที่อยากจะประสบความส�ำเร็จใน
สาย VI จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
ตัดสินใจด้วยเหตุผล ไม่ผันผวนไปกับอารมณ์ของตลาด
“เซียนมี่” แนะน�ำว่า โดยธรรมชาติของนักลงทุนสาย VI
ส่วนใหญ่จะใช้Logicน�ำหรือเรียกว่าตัดสินใจด้วยเหตุผลไม่
ผันผวนกับอารมณ์ของตลาดโดยมักจะดูว่าแนวโน้มธุรกิจเป็น
อย่างไร เติบโตอย่างไร ปันผลเท่าไหร่ และจะดู fundamental
หรือ พื้นฐานของตัวธุรกิจมากกว่าราคาหุ้น โดยจะพิจารณา
ราคาหุ้นเป็นเรื่องท้ายๆ
“สายอื่นจะเน้นที่จังหวะ คือ ซื้อหรือลงทุน โดยหวังว่า
ราคาจะขึ้นเลย แต่ได้น้อยไม่เป็นไร ถือว่า เป็นกลุ่มที่เก็งก�ำไร
หรือเล่นกับสตอรี่ในบางช่วงแต่สายVIจะใจเย็นนิดหนึ่งอาจ
จะเป็นวิธีการวิเคราะห์ หรือ ศึกษาธุรกิจที่ดี และรอจังหวะใน
การเข้า โดยช่วงเวลาปกติ สาย VI จะเน้นดู ศึกษา Business
Modelดีๆมองระยะยาวมีการรอจังหวะที่เหมาะสมในการเข้า
ซื้อและจะศึกษาว่าความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นมีอะไรบ้างและเรา
จะจ�ำกัดความเสี่ยงอย่างไรในการเข้าไปลงทุน”
สาย VI โอกาสอาจไม่ได้สูงที่สุด แต่จ�ำกัดความเสี่ยงได้
“เซียนมี่”กล่าวต่อว่ากลยุทธ์ของนักลงทุนสายVIคือการ
พยายามหาช่องทางลงทุน แม้โอกาสอาจไม่ได้สูงที่สุด ซึ่งจะ
ไม่เหมือนกับสายเก็งก�ำไร ที่พอร์ตอาจจะโตเร็วกว่า ในจังหวะ
ที่ตลาดเป็นขาขึ้น แต่หากมองในระยะยาว นักลงทุนสาย VI ก็
จะมีความเสี่ยงที่จ�ำกัดกว่า
เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน 15
ในปัจจุบันจะพบว่ามีตัวเร่งเยอะที่ท�ำให้
นักลงทุนยุคใหม่สนุกกับการเก็งก�ำไรมากกว่า
แต่ความยากของสายVIคือจะต้องเป็นคน
ที่มุ่งมั่นและทุ่มเทศึกษาให้รู้ข้อเท็จจริงไม่
เช่นนั้นการที่เราเข้าไปแห่เก็งก�ำไรและเรา
ได้เก็งก�ำไรและหลงคิดว่านี่คือกระบวนการ
ที่ถูกต้อง แต่มันจะกลายเป็นว่า พอลงทุน
ไปเรื่อยๆ จะมีบางครั้งที่เราถูกเอาคืน ซึ่ง
จะค่อนข้างรุนแรง
Long pond the life lesson ย่อมดี
กว่า Life for the long lesson
“เซียนมี่” บอกว่า ในสาย VI จะเชื่อ
เรื่อง Long pond the life lesson (บทเรียน
ชีวิตที่ยาวนาน)ย่อมดีกว่าLifeforthelong
lesson(ชีวิตส�ำหรับบทเรียนที่ยาวนาน)คือ
มันจะต้องให้มันถูกบนเหตุผลที่ถูก ไม่ใช่ถูก
บนเหตุผลที่ผิด เช่น เราอาจจะคิดว่าบริษัท
โต แต่มันอาจจะไม่ได้โตเลย แต่อยู่ๆตลาด
ดีและมีคนไล่หุ้นกลุ่มนี้และท�ำให้เราได้ก�ำไร
แต่ส�ำหรับสาย VI วิธีแบบนี้ อาจจะไม่ยั่งยืน
เราไม่ได้ดูที่ผลลัพธ์ แต่ต้องดูที่กระบวนการ
มากกว่า
การลงทุนแบบ VI ถ้าเราได้กำ�ไร
เราจะรู้ว่ากำ�ไรเพราะอะไร ทุกครั้ง
ที่เราขาดทุน ก็จะเข้าใจเหตุและ
ผลว่า ขาดทุนเพราะอะไร แต่หาก
ลงทุนด้วยวิธีอื่น ต่อให้เรากำ�ไร
ก็อาจจะไม่รู้ว่าเพราะอะไร มาจาก
อะไร และจะทำ�ซ้ำ�ได้อย่างไร เวลาที่
หุ้นลง จะเอายังไงต่อ จะซื้อถัวเพิ่ม
หรือจะปล่อยไป หรือจะทำ�อย่างไร
เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน
16
“การลงทุนแบบVIเป็นวิถีเดียวที่สามารถเปลี่ยนชีวิตจาก
100 ล้านบาท เป็นหลายพันล้านบาทได้ ถามว่าสายอื่นมีหรือ
ไม่ก็มีแต่จ�ำนวนคนที่ประสบความส�ำเร็จเมื่อเทียบกับคนที่ใช้
กลยุทธ์แบบVIต่างกันเยอะมากคนที่ประสบความส�ำเร็จจาก
แนวVIอาจจะเจอสัก30-40%ที่เปลี่ยนชีวิตได้แต่สายอื่นอาจ
จะมีแค่ 2% เพราะมีความเก่ง มีความ unique มีทักษะที่ลอก
เลียนแบบยาก แต่ VI เป็นเรื่องของหลักเหตุและผล สามารถ
เรียนรู้ได้ สามารถฝึก และพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆได้”
“เซียนมี่” อธิบายว่า การลงทุนแบบ VI ถ้าเราได้ก�ำไร เรา
จะรู้ว่าก�ำไรเพราะอะไรทุกครั้งที่เราขาดทุนก็จะเข้าใจเหตุและ
ผลว่า ขาดทุนเพราะอะไร แต่หากลงทุนด้วยวิธีอื่น ต่อให้เรา
ก�ำไร ก็อาจจะไม่รู้ว่าเพราะอะไร มาจากอะไร และจะท�ำซ�้ำได้
อย่างไรเวลาที่หุ้นลงจะเอายังไงต่อจะซื้อถัวเพิ่มหรือจะปล่อย
ไป หรือจะท�ำอย่างไร
แต่เข้าใจว่า ทุกคนอยากรวยเร็ว ไม่มีใครอยากรวยช้า
จริงๆต้องตั้งค�ำถามถัดไปว่า ท�ำไมคนส่วนใหญ่พยายามจะ
รวยเร็วแต่ท�ำไมท�ำไม่ได้มันมีความลับอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า
ไม่มีใครร�่ำรวย โดยไม่ขยัน ไม่ท�ำงานหนัก
“เซียนมี่” เชื่อว่า การจะเป็นสาย VI สิ่งแรกที่ต้องมี คือ
ทัศนคติ(Mindset)ที่ถูกต้อง ทัศนคติ เป็นพื้นฐานของทุกอย่าง
ทั้งการลงทุน การใช้ชีวิตให้มีความสุข การมีครอบครัว
ส�ำหรับทัศนคติในการลงทุนที่ถูกต้องต้องเริ่มจากเราซื้อ
หุ้นอย่างมีเหตุผลการซื้อหุ้นเหมือนซื้อธุรกิจหากเรามีทัศนคติ
แบบนี้ ชีวิตการลงทุนก็จะลดความเครียดลงไป และจะรู้
เป้าหมาย รู้ว่าจะต้องขยันหมั่นเพียรเพราะอะไร
ผมเชื่อว่าการเดินในทางที่ถูกต้องตั้งแต่วันแรก หรือการ
เดินในหลักเหตุและผล ไม่ให้ค�ำว่า ตรรกะวิบัติมาท�ำให้ชีวิต
ผันผวนและเปลี่ยนแปลงไป น่าจะเป็นกลยุทธ์ที่ดี
ความขยันซื่อสัตย์ประหยัดอดทนสอดคล้องกับแนวทาง
ของ VI แต่ส�ำหรับเด็กรุ่นใหม่ที่โตขึ้นมาท่ามกลางชีวิตที่สบาย
แล้ว ความขยันอาจไม่เต็มที่เหมือนคนรุ่นเก่าที่ยากล�ำบากมา
ก่อน ไม่มีใครที่ร�่ำรวย โดยไม่ขยัน ไม่ท�ำงานหนัก ผมยังเชื่อ
เรื่องของการท�ำงานหนัก อย่างน้อยก็ในช่วงแรกของการท�ำ
ทุกสิ่งทุกอย่าง
Work life balance มีจริงไหม ค�ำตอบคือมีจริง แต่อาจ
ไม่ใช่ 2-3 ปีแรกที่เราเริ่มท�ำอะไรสักอย่าง มันจะต้อง Work
Hard เท่านั้นในช่วง 3-4 ปีแรก ไม่ว่าจะเริ่มต้นสร้างพอร์ตการ
ลงทุน หรือ เริ่มต้นท�ำธุรกิจ หลังจากนั้นเมื่อทุกอย่างลงตัว มัน
จะเป็น work life balance
เปิดใจศึกษา รับรองไม่เสียเวลาเปล่า
“เซียนมี่” ฝากถึงนักลงทุนว่า อยากให้ลองเปิดใจ ตั้งใจ
ศึกษาดูให้เวลาสักปีก็ได้อ่านให้เต็มที่ศึกษาให้เต็มที่พยายาม
เรียนรู้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่คน VI บอก ถ้าพบว่า มันใช่ เราก็เดิน
ต่อ แต่ถ้าพบว่ามันไม่ใช่ เราอาจจะปรับเปลี่ยน แต่ผมรับรอง
ว่าจะไม่เสียเวลาเปล่า เพราะความรู้ทางธุรกิจ การลงทุนที่เรา
ได้ มันจะน�ำไปสร้างโอกาสใหม่ๆ สร้างมุมมองใหม่ๆ ท�ำให้เรา
มองโลกธุรกิจ โลกการเงินเปลี่ยนไป
ตอนผมเลือกเส้นทางสาย VI หุ้นไทย 10 ปีไม่ไปไหน
เลย จะมองว่าแย่ก็ได้ หรือ มองว่าเป็นโอกาสก็ได้ ลองให้
เวลาตั้งใจและศึกษาจะได้ค�ำตอบที่ไม่ต้องไปตามหาจาก
ใครเลยว่า “เราเหมาะสมจากอะไร แนวทางนี้จะดีหรือไม่
ตัวเราจะเป็นคนตอบได้ดีที่สุด และมั่นใจด้วย”
เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน 17
การลงทุนในรูปแบบนักลงทุนเน้นคุณค่า หรือ
Value Investor (VI) หลายคนอาจเข้าใจว่า
เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต�่ำกว่าการลงทุน
ในหุ้นรูปแบบอื่นๆ เนื่องจากเป็นการลงทุน
ในหุ้นที่พื้นฐานดี และมีแนวโน้มการเติบโต
เฉพาะตัวที่ชัดเจน หรือรับผลกระทบจาก
วิกฤตต่างๆ จ�ำกัด
หุ้นพื้นฐานคือ
ยานพาหนะ
สู่ความมั่งคั่ง
“อาร์ต Club VI”
แต่ความจริงแล้วการลงทุนแบบVIก็ถือว่ามี
ความเสี่ยงอยู่ไม่น้อยซึ่งหากนักลงทุนไม่เข้าใจหลัก
การของ VI อย่างถ่องแท้ ก็อาจจะยอมยกธงขาวไป
ตั้งแต่ยกแรกๆ ก็เป็นได้
“ชัชวนันท์สันธิเดช”หรือ“อาร์ต”ผู้ก่อตั้งเพจClub
VIถือเป็นผู้ที่คร�่ำหวอดในวงการลงทุนแบบVIมาหลายสิบ
ปี ถือเป็นอีกหนึ่งนักลงทุนในวงการ VI ที่ได้รับการยอมรับ
จากวงการตลาดทุนเป็นอย่างมาก จนมีผู้ติดตามเพจแล้ว
กว่า 1.5 แสนคน จะมาถ่ายทอดประสบการณ์ให้เข้าใจ
การลงทุนแบบ VI พร้อมกับเทคนิคและวิธีการรับมือกับ
ความเสี่ยงให้นักลงทุนได้เข้าใจกมากขึ้น
หลักของ VI ใช้ได้ตลอดกาล
“เซียนอาร์ต” อธิบายว่า หลักของ VI สามารถ
ใช้ได้ตลอดกาล โดย 2 สิ่งที่ต้องใช้ในการหาหุ้น
คือ การเลือกคุณภาพและปริมาณ โดยเชิงคุณภาพ
ก็ต้องเลือกหุ้นที่กิจการได้เปรียบจากการแข่งขัน ควบคู่กับ
ความยั่งยืน ส่วนในเชิงปริมาณ ก็คือหุ้นที่ราคาต�่ำกว่ามูลค่า
วิธีที่นิยมสุดก็คือการหากระแสเงินสดของบริษัทนั้นๆ เป็นต้น
เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน
18
ซึ่ง 2 เรื่องนี้เป็นจุดส�ำคัญที่สุด จากนั้นต้องมาดูตัวเองว่า
ชอบลงทุนแบบไหน จะเป็นนักลงทุนที่เน้นการเติบโต หรือ
จะเป็นนักลงทุนที่ชอบของถูก
ซึ่งแบบแรก จะให้ความส�ำคัญกับเรื่องการเติบโตของ
ธุรกิจในอนาคตเป็นหลัก ส่วนเรื่องราคาหุ้นจะเป็นเรื่องรอง
เพราะอาจจะซื้อที่ราคาสูงหน่อยแต่มั่นใจว่าในอนาคตทิศทาง
ธุรกิจและราคาจะเติบโตขึ้นมาเองส่วนแบบที่2คือนักลงทุน
ที่เน้นของถูกแต่กลุ่มนี้จะมีข้อจ�ำกัดคือในช่วงที่ภาวะตลาด
เป็นของแพงจะท�ำให้เราเสียโอกาสในการลงทุนและซื้อหุ้น
อะไรไม่ได้เลยในหลายๆ ปี
และหากเข้าใจรูปแบบดังกล่าวแล้ว ยังสามารถต่อย
อดออกมาในการหาหุ้น “ผู้ชนะ” หรือ Winning Stock ที่จะ
เป็นหุ้นมูลค่าเติบโตระยะยาวไปได้ในระดับ 20-30 ปี ซึ่ง
มีอยู่มากมายทั่วโลก เพียงแต่ต้องหาหุ้นผู้ชนะ และอยู่ใน
ประเทศผู้ชนะให้เจอ
“หุ้นไทยหลายตัวเคยเติบโตโดดเด่นในหลายปีก่อนแต่
ปัจจุบันก็เริ่มทรงตัว เพราะเต็มที่ก็โตได้แค่กรอบเศรษฐกิจ
หลายคนเลือกหุ้นผิด แต่ยังทนถือ
รอให้ราคากลับมาเท่าทุน แต่หุ้นที่
แย่มันก็คือหุ้นแย่ ถ้าปัญหามาจาก
พื้นฐาน ก็ต้องตัดใจขาย แต่ถ้าเป็น
ปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งเดียวอย่าง
เศรษฐกิจมหภาค ไม่ได้กระทบพื้น
ฐานอย่างถาวร อันนี้เราต้องซื้อ
เพิ่ม ซึ่งจุดสำ�คัญเราต้องวิเคราะห์
ปัญหาให้ออกแล้ววิกฤตจะกลาย
เป็นโอกาสเอง
เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน 19
ไทย แต่หุ้นต่างประเทศยังมีอีกหลายตัว หลาย
ประเทศที่ยังเติบโตได้อีกในระยะยาว การเข้ามา
ลงทุนในหุ้นต่างประเทศ ท�ำให้ผมตื่นเต้นกับการ
ลงทุนอีกครั้ง เพราะเมื่อก้าวออกจากตลาดหุ้นไทย
ท�ำให้ผมเจอของถูกอยู่ทั่วโลก ซึ่งธุรกิจที่มองว่าจะ
เติบโตได้ระยะยาวถึง 20-30 ปีนั้น ต้องเป็นเทรนด์
ระดับโลก ที่ตอนนี้ทั่วโลกก�ำลังให้ความส�ำคัญ คือ
ธุรกิจสีเขียวอย่างพลังงานสะอาดพลังงานทดแทน
หรือยานยนต์ไฟฟ้า “
วิเคราะห์ปัญหาให้ออก ว่ากระทบหุ้นเราแค่ไหน
“เซียนอาร์ต”แชร์ประสบการณ์บริหารความเสี่ยง
ให้ฟังว่าต้องยกตัวอย่างการบริหารพอร์ตในปี2008
ซึ่งเป็นปีที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะเจอผล
กระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ซึ่งหลายคน
อาจจะเลือกวิธีล้างพอร์ต แล้วถือเงินสด แต่ตัว
“อาร์ต” กลับเลือกใช้วิธีการคัดกรองหุ้นที่มีอยู่ใน
พอร์ตประมาณ30ตัวด้วยการขายหุ้นที่คุณภาพไม่
ดีออกไปและเหลือหุ้นคุณภาพติดพอร์ตไว้ประมาณ
5 ตัวเท่านั้น และหาจังหวะซื้อเพิ่ม ก็สามารถท�ำให้
พอร์ตจากที่เคยติดลบหนักกับมาเติบโตได้หลายเท่า
ตัว หรือในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ในประเทศจนตลาด
หุ้นลงหนักก็ยังใช้วิธีนี้บริหารความเสี่ยงมาต่อเนื่อง
หรืออีกหนึ่งวิกฤตคือโควิด 19 ที่เกิดขึ้นสดๆ
ร้อนๆก็ต้องมาประเมินดูว่าหุ้นกลุ่มไหนรับผลกระทบ
มาก-น้อยต่างกันไปยกตัวอย่างหุ้นสายการบินกับ
หุ้นสนามบินแม้ว่าธุรกิจจะได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน
แต่กลุ่มสายการบินจะเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงกว่า
เพราะไม่ว่าอย่างไรสนามบินก็ยังคงอยู่ อย่างกรณี
นี้ก็ต้องเลือกหุ้นสนามบินติดไว้ในพอร์ต
“เซียนอาร์ต” ย�้ำเตือนว่า อีกหนึ่งความเสี่ยงที่
เกิดขึ้นก็คือการเลือกหุ้นผิดซึ่งเราจะรู้ก็ต่อเมื่อราคา
หุ้นปรับลดลงอย่างผิดสังเกตุหรือมีข่าวร้ายออกมา
กระทบกับราคาหุ้นแบบมีนัยส�ำคัญหรืองบการเงิน
มีปัญหา ตรงนี้ก็ต้องใช้วิธีตัดใจ รีบตัดใจขายหุ้นออกมา
“หลายคนเลือกหุ้นผิดแต่ยังทนถือรอให้ราคากลับมาเท่า
ทุน แต่หุ้นที่แย่มันก็คือหุ้นแย่ ถ้าปัญหามาจากพื้นฐาน ก็ต้อง
ตัดใจขาย แต่ถ้าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งเดียวอย่างเศรษฐกิจ
มหภาค ไม่ได้กระทบพื้นฐานอย่างถาวร อันนี้เราต้องซื้อเพิ่ม
ซึ่งจุดส�ำคัญเราต้องวิเคราะห์ปัญหาให้ออกแล้ววิกฤตจะ
กลายเป็นโอกาสเอง หรือหลายคนมองการถือหุ้น 100% มัน
อาจจะเสี่ยงไปแต่การออกไปลงทุนในต่างประเทศมันคือการ
กระจายความเสี่ยงในตัวอยู่แล้วเพราะภาวะเศรษฐกิจในแต่ละ
ประเทศต่างกัน”
อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นความเสี่ยง คือการเข้าถึงข้อมูลหุ้นต่าง
ประเทศ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องภาษา เช่นหุ้นประเทศที่เรา
ไม่เข้าใจภาษา แม้ว่าจะเห็นตัวเลขงบการเงิน และสามารถ
ประเมินแนวโน้มได้แต่บางครั้งจะมีข้อมูลเสริมจากผู้บริหารหรือ
นักวิเคราะห์ แต่เป็นภาษาที่เราไม่เข้าใจ ตรงนี้ก็ถือเป็นอีกข้อ
จ�ำกัด ที่อาจจะท�ำให้พลาดโอกาสในการลงทุนไปได้
หุ้นพื้นฐาน ยานพาหนะที่ดีที่สุดที่จะพาสู่ความมั่งคั่ง
“เซียนอาร์ต” ฝากบอกนักลงทุนว่า ใครที่จะใช้แนวทาง
VI ในการบริหารจัดการพอร์ต ขอให้คุณเชื่อมั่นว่าตลาดหุ้นจะ
เป็นยานพาหนะที่ดีที่สุดที่จะพาคุณสู่ความมั่งคั่ง โดยเฉพาะ
หุ้นพื้นฐาน กรอบของ VI เป็นวิธีที่กลุ่มนักลงทุนที่รวยที่สุดใน
โลกใช้กัน จึงไม่มีเหตุที่จะต้องไปใช้แนวทางอื่นในการลงทุน
เพราะมีการพิสูจน์มาแล้วว่าให้ผลตอบแทนดีสุดในระยะยาว
และเป็นวิทยาศาสตร์ที่สุด
“ผมไม่เคยนอกใจหุ้น เพราะผมเชื่อในวิทยาศาสตร์ และ
สถิติหลายร้อยปีก็ชี้ชัดว่าการลงทุนในหุ้นให้ผลตอบแทนในระยะ
ยาวดีกว่ากการลงทุนทุกประเภท แน่นอนว่าการลงทุนของผม
อาจจะผิดพลาดในการเลือกหุ้นบ้างแต่ที่ผมไม่พลาดคือผมไม่
เคยหันหลังให้ตลาดหุ้นเพราะบางช่วงที่เป็นตลาดขาขึ้นหรือยุค
ทองของตลาด ผลตอบแทนผมก็ได้ถึงระดับ 20% ปลายๆ แต่
ตอนนี้ช่วง 7-8 ปี ผมก้าวมาลงทุนในหุ้นต่างประเทศยังไม่ได้
ค�ำนวณออกมาว่าผลตอบแทนเป็นอย่างไรแต่ที่ได้มากกว่าผล
ตอบแทนคือความสนุกในการเปิดโลกใหม่ในการลงทุนมากกว่า”
เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน
20
“เสี่ยป๋อง” วัชระ แก้วสว่าง เทรดเดอร์บิ๊กเนมของไทย แนะ
สายเสี่ยงต้องปรับตัวถึงจะอยู่รอดในยุคที่ AI ก�ำลังจะครอง
ตลาดหุ้น ผนวกพื้นฐาน+เทคนิค เป็น “Hybrid Investor”
เพื่อหาหุ้นที่ใช่ในเวลาที่เหมาะสม หมั่นสะสมความรู้และ
ทบทวนความผิดพลาด ที่ส�ำคัญต้องมีวินัยในการเทรด
แนะเทรดหุ้นแบบ Hybrid
พื้นฐาน+เทคนิค เอาตัวรอดจาก AI
“เสี่ยป๋อง”
ความรู้และวินัยส�ำคัญสุด
“เสี่ยป๋อง” ให้มุมมองว่า “เทรดเดอร์” ต้องรับมือกับ
ความผันผวนสูงตลอดเวลา ดังนั้น การหาข้อมูลความรู้เป็น
สิ่งส�ำคัญที่สุดต้องศึกษาทั้งความรู้ด้านเทคนิคอลและพื้นฐาน
รวมถึงติดตามข่าวสารต่าง ๆ สม�่ำเสมอ ทั้งในประเทศและ
ต่างประเทศปัจจัยบวกหรือลบที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น
เพื่อการเลือกลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ทุกวันนี้ผมจะนั่งดูกราฟแทบทั้งวัน ตั้งแต่ 7
โมงเช้า อ่านข่าวเสร็จท�ำธุระส่วนตัวเสร็จ 10 โมง
ตลาดเปิดเที่ยงครึ่งปิดแล้วก็ภาคบ่ายสองโมง
ครึ่ง เล่นจนถึง 4 โมงครึ่ง +/- 10-15 นาที ก็
อยู่จนจบแล้วท�ำการบ้านต่อถึงหนึ่งทุ่มผม
ท�ำแบบนี้ทุกวันไม่มีใครรวยเพราะคนอื่น
หรอก ต้องลงมือท�ำเอง หมั่นฝึกฝนเข้า
ไว้ หากไม่ฝึกฝนก็จะไม่เกิดชัยชนะ”
ขณะเดียวกันวินัยในการลงทุนก็
ส�ำคัญไม่แพ้กันหากข้อมูลด้านเทคนิคอล
ส่งสัญญาณ“ซื้อ”หรือ“ขาย”ก็ควรด�ำเนิน
การตามนั้นเพราะมุมเทรดเดอร์กราฟคือ
เครื่องมือบันทึกพฤติกรรมของนักลงทุน
เหมือนผลเลือด หากเป็นเบาหวานหรือ
คอเลสเทอรอลสูงมันจะมีผลออกมา เช่น
เดียวกัน หุ้นพอคนซื้อกราฟก็จะค่อย ๆ
พล็อตขึ้นท�ำนองเดียวกันถ้ามีคนขายออก
มาหุ้นก็พล็อตลงทุกอย่างต่อสู้กันให้เห็นใน
กราฟอยู่แล้วว่าตอนนี้คนซื้อหรือคนขายชนะ
“เสี่ยป๋อง”อธิบายว่า“แม้การดูกราฟจะ
ไม่ช่วย100%แต่จะสะท้อนทางที่ถูกมากกว่า
ผิดอย่างน้อยเป็นเครื่องมือที่ช่วยตัดสินใจคน
เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน 21
มีวินัยเท่านั้นถึงจะรอดกราฟไม่เคยหลอกใครก็จริงแต่อยู่ที่การ
ตีความและประสบการณ์ เช่น หากไม่เห็นกราฟ มีคนบอกให้
ซื้อหุ้นราคา2บาทและจะไป10บาทคนที่ฟังมักจะเกิดความ
โลภแต่หารู้ไม่ว่าเดือนก่อนหุ้นตัวนี้อยู่ที่0.50บาทดังนั้นกราฟ
ช่วยได้มาก จะโชว์ทิศทางการขยับของราคา แบบไหนเป็นขา
ขึ้นหรือขาลง โดยต้องมีวินัยอย่างเคร่งครัด หากเป็นสัญญาณ
ซื้อก็ต้องซื้อ หรือเจอสัญญาณขายก็ต้องขาย”
ลดความเสี่ยงด้วยการทบทวนความผิดพลาด
“เสี่ยป๋อง” ให้ข้อคิดว่า สายเทรดความเสี่ยงสูงกว่า
นักลงทุนระยะยาวเสมอดังนั้นสิ่งส�ำคัญที่ต้องท�ำคือหมั่นทบทวน
ความผิดพลาด วันนี้แพ้เพราะอะไร พลาดตรงไหน แล้วน�ำมา
แก้ไขและปรับปรุง จนกว่าจะหาวิธีที่แม่นย�ำของตนเองให้เจอ
“หากทุกคนเอาจริงเอาจังสุดท้ายจะค้นพบสิ่งที่น�ำพาเรา
ไปสู่ความส�ำเร็จที่ส�ำคัญต้องทบทวนความผิดพลาดเสมอเพื่อ
ลดความเสี่ยงในครั้งต่อไปต้องมีวินัยต้องเชื่อในสัญญาณกราฟ
อย่าหลอกตัวเองเพราะความโลภหรือความกลัว
ส่วนเทคนิคในการดูกราฟ “เสี่ยป๋อง” บอกว่า กราฟสวย
คือ ทรงทะลุไฮ, ทรงเบรกสามเหลี่ยม และทรงไซด์เวย์อัพ แต่
ถ้าทรงลงอย่างเดียวเหมือนตกหน้าผาตาย ต้องขายตอนหลุด
เทรนด์ แค่เราเห็นควันไม่ต้องรอเปลวไฟก็ต้องหนีตายก่อน
อย่างตอนก่อนเกิดวิกฤติโควิด ผมสังเกตเห็นเส้นค่าเฉลี่ย 75
เดือน ถูกทดสอบมาหลายครั้ง ปรากฏว่ามันหลุด เลยโพสต์
เฟซบุ๊กเตือนคนล่วงหน้าเป็นเดือนท�ำให้หลายคนรอดจากวิกฤติ
หากเราหมั่นทบทวนจะจ�ำกัดความเสี่ยงได้เพราะกราฟมักจะ
ส่งสัญญาณบอกเสมอทั้งขาขึ้นและลง”
“Hybrid Investor” ถึงจะรอด
“เสี่ยป๋อง” ให้ค�ำนิยามเทรดเดอร์ยุคใหม่ว่า ต้องเป็น
นักลงทุนแบบผสมผสานทั้งปัจจัยเทคนิคและพื้นฐานควบคู่กัน
ไปหรือเรียกว่า“HybridInvestor”เพื่อจะได้ซื้อหุ้นที่ดีในเวลา
ที่ถูกต้อง เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนว่าแม้จะเป็น
หุ้นที่ดีแต่ซื้อผิดจังหวะก็ไม่สามารถท�ำก�ำไรจากหุ้นนั้นได้ โดย
หุ้นที่ดีนั้นสามารถศึกษาได้จากปัจจัยทางพื้นฐานว่าบริษัทนั้น
เป็นบริษัทที่ดีมีการเติบโตอย่างแท้จริงหรือไม่ส่วนปัจจัยทาง
เทคนิคช่วยเรื่องการตัดสินใจในจังหวะซื้อขาย
โดยเฉพาะยุคปัจจุบันที่นักลงทุนต่างชาติใช้ระบบAIเข้า
มาช่วยซื้อขาย ซึ่งเก่งกว่ามนุษย์หลายเท่า ท�ำให้การลงทุน
ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งจะชนะได้ยากต้องผสมผสานต้องปรับตัว
มิเช่นนั้นจะอยู่รอดในตลาดหุ้นสมัยนี้ได้ล�ำบาก
“ผมคิดว่าปีนี้อาจจะเป็นปีสุดท้ายที่เทรดสั้น ๆ ปีหน้า
อาจจะต้องลดวอลุ่มลง เน้นเทรดระยะกลาง-ยาวมากขึ้น
เพราะพอมี AI เข้ามาสู้ได้ยาก เราไม่ไวเท่า ส่วนจะปรับ
ยังไงยังตอบไม่ได้ ต้องรอดูหน้างาน
ปีที่แล้วลองใช้วิธีเดิมแล้วสู้ AI ไม่ได้จริง เพราะเป็น
คอมพิวเตอร์ ไม่มีจิตใจ สามารถตัดสินใจได้รวดเร็ว จึง
คิดว่าคงถึงเวลาปรับตัว เปลี่ยนวิธีการที่เคยใช้แล้วส�ำเร็จเมื่อ
หลายปีก่อน(หมายถึงเดย์เทรด)เป็นแนวทางอื่นๆดูบ้างเพื่อ
ลดความเสี่ยง”
ลดพอร์ตเดย์เทรดเหลือ 30%
ปัจจุบันพอร์ตเดย์เทรดของ “เสี่ยป๋อง” อยู่ในสัดส่วน
ประมาณ 30% จากปกติเกิน 40% แล้วแต่บางช่วงของตลาด
โดยจะเน้นการเติบโตของพอร์ตรวมที่ผสมผสานการลงทุนระยะ
กลางยาวตามเทรนด์มากกว่า
ขณะที่ผลตอบแทนจากการลงทุนปีนี้อาจจะไม่สู้ดีนัก
ใกล้เคียงกับตลาดฯ ต่างจากที่ผ่านมาชนะตลาดฯ เสมอ บาง
ปีเติบโต 2 หลัก หรืออย่างน้อยก็ระดับ 7-8% ซึ่งเป็นสาเหตุที่
มีแผนในการปรับตัวในปีหน้า
หุ้นไทยยังเล่นยาก
“เสี่ยงป๋อง” ปิดท้ายว่า เชิงเทคนิคช่วงที่เหลือของปี หาก
ดัชนียืนเหนือ 1,522 - 1,545 จุดได้ น่าจะพอไหว แต่แค่ยืน
อาจจะไม่พอ ถ้าหากไม่สามารถขึ้นไปถึง 1,600 จุด ก็จะ
แสดงว่าตลาดไม่ดี เพราะไม่รับข่าวเลย แม้นโยบายกระตุ้น
เศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่จะออกมาหลายอย่างเช่นฟรีวีซ่าเชิญ
นักท่องเที่ยวจีน แต่ตลาดกลับไม่รับข่าว
กลับกันพอเป็นนโยบายที่บริษัทจดทะเบียนจะเสีย
ประโยชน์ หุ้นที่เกี่ยวข้องปรับตัวลดลงทันที ต่างจากปกติ
หลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ตลาดหุ้นมักจะตอบสนองเชิงบวก
แบบมีนัยได้บ้าง แม้จะระยะสั้น แต่ตอนนี้ไม่มีเลย ต้อง
รอดูว่ามีอะไรมากกว่านั้นหรือไม่
ต้องเป็นนักลงทุนแบบผสม
ผสานทั้งปัจจัยเทคนิคและพื้นฐาน
ควบคู่กันไป หรือ เรียกว่า
“Hybrid Investor” เพื่อจะได้ซื้อ
หุ้นที่ดีในเวลาที่ถูกต้อง เพราะจาก
ประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนว่าแม้
จะเป็นหุ้นที่ดีแต่ซื้อผิดจังหวะก็ไม่
สามารถทำ�กำ�ไรจากหุ้นนั้นได้
เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน
24
“โค้ชเป๊ก” ปุณยวีร์ จันทรขจร หนึ่งในผู้คร�่ำหวอดแห่งวงการเทรดเดอร์ตลาดหุ้นไทยกว่า 10 ปี เจ้าของ
หนังสือขายดีหลายเล่ม และเป็นมาสเตอร์โค้ชรายการการแข่งขัน “Super Trader Thailand” 4 ซีซั่น
รวมถึงเป็นวิทยากรด้านการลงทุนชื่อดังอีกรายหนึ่งของไทย นอกจากนี้”โค้ชเป๊ก”ยังเป็นที่ปรึกษาการ
ลงทุนของ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ควอนตัม เว็ลธ์ จ�ำกัด อีกด้วย
เปิดสูตรรวยยั่งยืนกับสายเทรด
“โค้ชเป๊ก”
ปุณยวีร์ จันทรขจร
ซึ่งบทความนี้ได้น�ำส่วนหนึ่งของประสบการณ์การเป็น
เทรดเดอร์และแนวคิดด้านการลงทุนในตลาดหุ้นของ“โค้ชเป๊ก”
มาถ่ายทอด ว่าควร “เสี่ยง” อย่างไร ? ให้ “รอด” และ “รวย”
เทรดเดอร์ คือ “ผู้หาก�ำไรจากความผันผวน”
“โค้ชเป๊ก” มองว่า เทรดเดอร์ หรือ “นักเก็งก�ำไร” ต่างจาก
นักลงทุนเน้นคุณค่าหรือVIในมิติของเวลาโดยVIจะเชื่อเรื่อง
ของการเลือกหุ้นที่ดีแล้วลงทุนระยะยาว เพราะมั่นใจใน “พลัง
ผลตอบแทนทบต้น”แต่“เทรดเดอร์”จะฝืนธรรมชาติของเวลา
หรือสามารถใช้ค�ำว่า “เร่งรอบ” ในการเปลี่ยนความผันผวน
เป็นก�ำไร ซึ่งไม่มีผิดไม่มีถูก อยู่ที่ใครถนัดแบบไหน แต่สาย
“เทรดเดอร์” จะมีความเสี่ยงมากกว่า เพราะในระยะสั้นความ
ผันผวนย่อมสูงต้องบริหารความไม่แน่นอนให้ได้ถึงจะอยู่รอด
ต้องวางแผนการเงินก่อนลงทุน
“โค้ชเป๊ก” เล่าว่า “ความนิ่ง” ถือเป็นสิ่งส�ำคัญที่สุดของ
อาชีพ “เทรดเดอร์” โดยเฉพาะการท�ำให้ “ปัจจัยภายนอก” นิ่ง
กล่าวคือ สถานะทางการเงินต้องพร้อม มีการวางแผนสภาพ
คล่องด้านรายรับ-รายจ่ายล่วงหน้าในระดับที่สามารถรองรับ
ความผันผวนต่างๆ ได้ เพราะเส้นทางนี้ต้องเจอกับความไม่
แน่นอนตลอดเวลา ควรแยกส่วนเงินทุนที่จะน�ำมาใช้เทรดหุ้น
กับเงินที่จะใช้ด�ำรงชีวิตให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบใน
ยามที่มีปัญหา
หากบริหารตรงนี้ได้จะส่งผลดีต่อ “ความนิ่งจากภายใน”
นั่นคือ “จิตใจ” ซึ่งจะท�ำให้ตัดสินใจได้มั่นคงขึ้น เฉียบคมขึ้น
ในทางตรงกันข้าม หากไม่จัดการปัจจัยภายนอกให้ดี ก็จะส่ง
ผลต่อความมั่นคงของใจด้วย อาจท�ำให้ลังเลหรือตัดสินใจผิด
พลาดทั้งที่ข้อมูลด้านเทคนิคอลประมวลผลออกมาแล้วว่าต้อง
“ซื้อ”หรือ“ขาย”แต่ไม่สามารถท�ำได้เพราะกังวลว่าการตัดสินใจ
นั้นจะส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงินรวม
หมั่นศึกษาหาความรู้
อีกประการส�ำคัญที่จะท�ำให้เรา “นิ่ง” เพิ่มขึ้นไปอีก คือ
“การศึกษาข้อมูล” โดยนอกจากข้อมูลด้านเทคนิคอลที่ต้อง
เรียนรู้และฝึกฝนตลอดเวลาแล้ว ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับ
ตลาดหุ้นทั้งในระดับโลก, ระดับประเทศ, ระดับอุตสาหกรรม
จนถึงข้อมูลหุ้นรายตัว ก็ต้องติดตามสม�่ำเสมอด้วย เพราะจะ
ช่วยให้หูตากว้างมากขึ้น
ซึ่งนั่นจะท�ำให้เราเข้าถูกแต่แรกว่าหุ้นกลุ่มไหนเป็นขาขึ้น
กลุ่มไหนเป็นขาลงหรือไซด์เวย์หากเราเลือกได้ดีก็ถือว่าชนะไป
แล้วกว่าครึ่ง แน่นอนว่าการเลือกที่ดีต้องมาจากการคัดกรอง
ข้อมูลที่ท�ำให้เราได้เปรียบ
“โค้ชเป๊ก”ย�้ำว่า“เทรดเดอร์”มักจะจดจ่ออยู่กับกราฟและ
ข้อมูลด้านเทคคนิคอลก็จริงแต่ข่าวสารด้านพื้นฐานจะช่วยให้
เราเพิ่มหรือลดน�้ำหนักเงินลงทุนได้ดียิ่งขึ้น เช่น พอร์ตเรา 10
ล้านบาท ก�ำลังจะซื้อหุ้นตัวหนึ่ง อะไรจะเป็นปัจจัยที่ท�ำให้เรา
เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน 25
ใส่เงิน 1 ล้านบาท, 2 ล้านบาท, 5 ล้าน
บาท หรือ 10 ล้านบาท นั่นไม่ใช่กราฟ
อย่างเดียว แต่ต้องประเมินพื้นฐานที่ดี
ด้วย เพื่อให้เรามั่นใจในการใส่เงินลง
ไปในหุ้นตัวนั้นๆ
หุ้น “ภาชนะรองรับปัญหา”
ตัวเลือกท�ำก�ำไรช่วงวิกฤติ
“โค้ชเป๊ก”อธิบายต่อไปว่าการชนะ
ตั้งแต่เลือกในตอนแรกถือเป็นปัจจัยส�ำคัญ
ที่สุดเพราะหุ้นนั้นๆจะอยู่ในเทรนด์ไป
อย่างต่อเนื่อง...
“ส�ำหรับผม ชอบเลือกหุ้นที่เป็น
ภาชนะรองรับปัญหาอะไรบางอย่าง
เช่น สงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังไงต้อง
มีการย้ายห่วงโซ่อุปทาน (Supply
Chain) แน่นอน 1,000,000% นี่นับ
ว่าเป็นปัญหาดังนั้นภาชนะคืออะไรก็
คือพวกกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่รองรับ
Supply Chain นั้นได้ ซึ่งหุ้นไทยเราก็
มีหลายบริษัทที่ Outperform ตลาดฯ
มาก เช่น WHA หรือ AMATA
อีกกรณีเมื่อราว 2 ปีก่อนที่มี
ปัญหาเรื่องขนส่งทางเรือเพราะดีมานด์
เท่าเดิมแต่ซัพพลายลดลงอย่างมีนัย
ส�ำคัญหลังจากนั้นหุ้นเรือก็เลยPerform
มากๆขณะที่วันนี้เศรษฐกิจโลกมีปัญหา
นอกจากข้อมูลด้านเทคนิคอลที่
ต้องเรียนรู้และฝึกฝนตลอดเวลา
แล้ว ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับ
ตลาดหุ้นทั้งในระดับโลก, ระดับ
ประเทศ, ระดับอุตสาหกรรม จนถึง
ข้อมูลหุ้นรายตัว ก็ต้องติดตาม
สม่ำ�เสมอด้วย เพราะจะช่วยให้
หูตากว้างมากขึ้น
เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน
26
มากมาย เงินวิ่งไปไหนครับ ไปหาเงินดอลลาร์สหรัฐฯ นั่นก็คือ
ภาชนะในการรองรับปัญหา
ดังนั้นเราต้องวิเคราะห์ถึงปัญหาก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วมา
หาหุ้นที่เป็นภาชนะรองรับปัญหาซึ่งหลายครั้งที่ผมเจอสามารถ
สร้างผลตอบแทนให้พอร์ตได้อย่างมีนัยส�ำคัญ...
ทั้งหมดที่กล่าวมาก็ต้องย้อนไปตอนศึกษาข้อมูลข่าวสาร
ให้รอบด้านเพื่อจะได้รับรู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นและจะได้เลือก
ถูกตั้งแต่แรก หากเลือกเทรนด์ถูก เลือกภาชนะถูก คุณใช้
เทคนิคอลที่ง่ายที่สุดก็สามารถสร้างก�ำไรได้เพียบแบบไม่ต้อง
ซับซ้อนเลย
สรุปคืออะไรก็ตามที่ท�ำให้เราหาเงินได้เยอะขึ้นใช้ให้หมด
ไม่ว่าจะกราฟหรือพื้นฐาน...”
รู้จักปรับตัว แพ้ได้แต่ต้องไม่ตาย
“โค้ชเป๊ก” ให้หลักการว่า “เทรดเดอร์” ที่เข้ามาในตลาด
หุ้นมักพกแนวคิดที่หวังจะ“PlaytoWin”มาด้วยเสมอแต่บาง
จังหวะ“PlaytoStay”บ้างก็ได้คือควรเทรดเพื่อให้อยู่รอดบาง
ช่วงที่ตลาดยากมากก็ไม่จ�ำเป็นต้องWinเสมอไปแต่เวลาแพ้
“ต้องไม่ตาย”หมายถึงว่าไม่ใช่พลาดไม้นี้คือหมดตัวหรือถ้าได้
ไม้นี้ถอยซุปเปอร์คาร์ได้เลยคือต้องบริหารไปอย่างต่อเนื่องเช่น
หากพลาดจะเสียเต็มที่แค่เท่านี้ แต่ถ้าชนะจะได้ประมาณนั้น
เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน 27
เป็นการบริหารความเสี่ยงให้สามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์
และเงินจากตลาดได้ตลอดไปมากกว่า
“ผมเคยเจ็บมาก่อนจากการปล่อยให้พอร์ตเทรดใหญ่เกิน
ไปแต่มันจับต้องไม่ได้เช่นวันหนึ่งท�ำก�ำไรได้20-30ล้านบาท
อีก 2-3 เดือนถัดมาไม่มีอะไรการันตีได้เลยว่าก�ำไรก้อนนั้นจะ
ยังอยู่เหมือนเดิมหรือเติบโตขึ้นแค่ไหน อาจจะหายไปเลยก็ได้
จุดเปลี่ยนส�ำคัญคือปี2017ที่หุ้นไทยวิ่งBullishมากพอร์ต
โตที่สุดในชีวิตครั้งหนึ่งเลย แต่พอมาปี 2018 - 2019 ตลาดไม่
Performจังหวะนั้นก�ำไรที่ท�ำได้ในปี2017หายไปหมดเลยในปี
2018-2019ที่ส�ำคัญในช่วงเวลาสั้นๆด้วยคือปั้นพอร์ตเติบโต
มาระดับหนึ่งใช้เวลา 6 เดือน แต่หายไปกว่า 50% ในเวลา 2
เดือน ตอนนั้น Panic หนักมาก เลยได้แง่คิด
นั่นแสดงว่าเราวางแผนผิดเราเข้าใจอะไรผิดแน่ๆ วิธีเดิมๆ
อาจจะไม่ใช่อีกต่อไปแม้บางช่วงเราอาจจะก�ำไรเยอะแต่ไม่ได้
แปลว่าก�ำไรนั้นจะท�ำให้มันอยู่ได้เท่าเดิมต้องจัดการอะไรใหม่
ซึ่งโชคดีมากที่ตื่นรู้ก่อนจังหวะโควิด เพราะได้ก�ำไรจาก
จังหวะShortมามหาศาลผมจึงเปลี่ยนวิธีการใหม่น�ำก�ำไรจาก
พอร์ตเทรดระยะสั้นไปเติมพอร์ตลงทุนระยะยาวเน้นเพิ่มฐาน
AUM รวมต่อปีให้เติบโตราว 7-10% ก็ถือว่าน่าพอใจมากแล้ว
ปัจจุบันบันพอร์ตเทรดอยู่สัดส่วนประมาณ20-30%แล้ว
แต่ช่วงของภาวะตลาดฯแต่จะโฟกัสAUMรวมมากกว่าเพราะ
มั่นคงและยั่งยืน แถมยังให้อิสระภาพด้านเวลาในการไปท�ำ
อย่างอื่นที่อยากท�ำได้มากขึ้น
แต่ก็ไม่ได้ทิ้งพอร์ตเทรดนะครับเพราะบางช่วงบางจังหวะ
การเทรดมีศักยภาพในการท�ำก�ำไรได้ในระยะสั้นๆเพื่อเอาตรง
นั้นไปเติมพอร์ตระยะยาวให้แแข็งแรงขึ้นไปอีก
หลักการส�ำคัญตอนนี้ส�ำหรับผมคือ เมื่อปั้นพอร์ตไปถึง
ระดับหนึ่งแล้ว จะไม่กลับไปที่เดิมอีกแน่นอน”
ระยะสั้นตลาดหุ้นเล่นยาก แต่กลาง-ยาว แจ่ม
“โค้ชเป๊ก” วิเคราะห์ว่า ภาพรวมการลงทุนระยะสั้น จาก
นี้ถึงสิ้นปี เมื่อไหร่ก็ตามที่บอนด์ยีลด์ยังเป็นขาขึ้น ดอลลาร์ยัง
แข็งค่าจะท�ำให้สินทรัพย์เสี่ยงไม่Performเท่าไหร่เพราะท�ำให้
Real Yield หรือผลตอบแทนที่แท้จริงเป็นบวก ตอนนี้ราว 2%
แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่RealYieldลดลงเหลือ1%ซึ่งต้องเกิดจาก
การลดดอกเบี้ยของสหรัฐฯเป็นหลักจังหวะนั้นเงินจากทั่วโลก
จะเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นเพราะตอนนี้เงินอยู่ในMoney
MarketFundเพราะให้ผลตอบแทน4-5%โดยไม่มีความเสี่ยง
ซึ่งไม่มีความจ�ำเป็นต้องซื้อหุ้นเลย เพราะมีความเสี่ยงและ
อาจจะได้ผลตอบแทนไม่ถึง 4-5% ด้วยซ�้ำ ผันผวนกว่าด้วย
ส่วนใหญ่จึงไปซื้อพันธบัตรดีกว่า
การลงทุนต้องมองเป็น Relative Value หรือต้องมอง
ในเชิงเปรียบเทียบเสมอ วันนี้ถ้าตลาดหุ้นไทยลงไปแถว
1,400 - 1,450 จุด ก็จะท�ำให้ผลตอบแทนน่าสนใจมาก เพราะ
ในเชิงพื้นฐานถือว่าถูกมาก แต่วันนี้หุ้นไทยอาจจะมีพื้นฐานที่
ดูใช้ได้มีสตอรี่ที่ดีในระยะยาวก็จริงแต่ในเชิงRelativeValue
ให้ผลตอบแทนแค่2%ดังนั้นไปลงในพันธบัตรอาจจะดีกว่าซึ่ง
มองว่าอาจจะยังไม่ใช่จังหวะเวลาหุ้นไทยจึงไม่ไปไหนแต่หาก
RealYieldลดลงหุ้นมาแน่โดยเฉพาะหุ้นไทยเพราะเข้าสู่เฟส
ก�ำลังลงทุนและจะเติบโตในระยะยาว
ทั้งนี้ “โค้ชเป๊ก” เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะเป็นภาชนะที่ดีใน
การ Enjoy Growth รอบใหม่ของ Fund Flow เพราะไทยดีกว่า
เพื่อนบ้านในอาเซียนหลายประเทศ หากมีการลงทุนพัฒนา
โครงสร้างพื้นฐาน กระตุ้นซัพพลาย จะดึงเงินจากต่างประเทศ
ได้มหาศาล และจะเป็นภาชนะได้แน่นอน กลุ่มหุ้นโครงสร้าง
พื้นฐานและโลจิสติกส์ จะน่าลงทุนมาก ยิ่งหุ้นที่ปันผลดีถือได้
ยาว ๆ เลย แต่สายลงทุนสั้นต้องวิเคราะห์ธีมแต่ละช่วงให้ดี
ผมเคยเจ็บมาก่อนจากการปล่อย
ให้พอร์ตเทรดใหญ่เกินไป แต่มันจับ
ต้องไม่ได้ เช่น วันหนึ่งทำ�กำ�ไรได้
20 - 30 ล้านบาท อีก 2-3 เดือนถัด
มาไม่มีอะไรการันตีได้เลยว่ากำ�ไร
ก้อนนั้นจะยังอยู่เหมือนเดิมหรือ
เติบโตขึ้นแค่ไหน
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

More Related Content

What's hot

11.วิธีสร้างระบบเทรด เพจ กัปตัน เทรดดิ้ง.pdf
11.วิธีสร้างระบบเทรด เพจ กัปตัน เทรดดิ้ง.pdf11.วิธีสร้างระบบเทรด เพจ กัปตัน เทรดดิ้ง.pdf
11.วิธีสร้างระบบเทรด เพจ กัปตัน เทรดดิ้ง.pdf
Micro4you
 
Rewind Pitch Deck
Rewind Pitch DeckRewind Pitch Deck
Rewind Pitch Deck
Malcolm Lewis
 

What's hot (20)

SET.pdf
SET.pdfSET.pdf
SET.pdf
 
Note CANSLIM By WaveRiders
Note CANSLIM By WaveRidersNote CANSLIM By WaveRiders
Note CANSLIM By WaveRiders
 
OurSong pitch deck: $7.5M for John Legend's music NFT platform
OurSong pitch deck: $7.5M for John Legend's music NFT platformOurSong pitch deck: $7.5M for John Legend's music NFT platform
OurSong pitch deck: $7.5M for John Legend's music NFT platform
 
Yuga Labs Pitch Deck: BAYC founders raised $450M from Andreesen Horowitz
Yuga Labs Pitch Deck: BAYC founders raised $450M from Andreesen HorowitzYuga Labs Pitch Deck: BAYC founders raised $450M from Andreesen Horowitz
Yuga Labs Pitch Deck: BAYC founders raised $450M from Andreesen Horowitz
 
Shihtzu Exchange, NFT Minting & Metaverse Platform
Shihtzu Exchange, NFT Minting & Metaverse PlatformShihtzu Exchange, NFT Minting & Metaverse Platform
Shihtzu Exchange, NFT Minting & Metaverse Platform
 
Bolt pitch deck: $393M Series D, $6B+ valuation
Bolt pitch deck: $393M Series D, $6B+ valuationBolt pitch deck: $393M Series D, $6B+ valuation
Bolt pitch deck: $393M Series D, $6B+ valuation
 
TradingView Presentation
TradingView PresentationTradingView Presentation
TradingView Presentation
 
Square Pitch Deck
Square Pitch DeckSquare Pitch Deck
Square Pitch Deck
 
Fibonacci Trading for DW Traders
Fibonacci Trading for DW TradersFibonacci Trading for DW Traders
Fibonacci Trading for DW Traders
 
Staking Cryptocurrency Explained (with Platform List)
Staking Cryptocurrency Explained (with Platform List)Staking Cryptocurrency Explained (with Platform List)
Staking Cryptocurrency Explained (with Platform List)
 
YC Pitch Deck Template
YC Pitch Deck TemplateYC Pitch Deck Template
YC Pitch Deck Template
 
(Pitch Deck): How FTX raised over $1 billion
(Pitch Deck): How FTX raised over $1 billion(Pitch Deck): How FTX raised over $1 billion
(Pitch Deck): How FTX raised over $1 billion
 
ModernPicnic's $900k pre-seed pitch deck for vegan-leather lunchbags
ModernPicnic's $900k pre-seed pitch deck for vegan-leather lunchbagsModernPicnic's $900k pre-seed pitch deck for vegan-leather lunchbags
ModernPicnic's $900k pre-seed pitch deck for vegan-leather lunchbags
 
HowGood Pitch Deck - $12.5M Series B for sustainable food
HowGood Pitch Deck - $12.5M Series B for sustainable foodHowGood Pitch Deck - $12.5M Series B for sustainable food
HowGood Pitch Deck - $12.5M Series B for sustainable food
 
Stablecoin
StablecoinStablecoin
Stablecoin
 
11.วิธีสร้างระบบเทรด เพจ กัปตัน เทรดดิ้ง.pdf
11.วิธีสร้างระบบเทรด เพจ กัปตัน เทรดดิ้ง.pdf11.วิธีสร้างระบบเทรด เพจ กัปตัน เทรดดิ้ง.pdf
11.วิธีสร้างระบบเทรด เพจ กัปตัน เทรดดิ้ง.pdf
 
Anfin pitch deck
Anfin pitch deckAnfin pitch deck
Anfin pitch deck
 
Rewind Pitch Deck
Rewind Pitch DeckRewind Pitch Deck
Rewind Pitch Deck
 
Session 6: Deal Sourcing
Session 6: Deal SourcingSession 6: Deal Sourcing
Session 6: Deal Sourcing
 
Peter Thiel's Venture Capital Pitch Deck Template
Peter Thiel's Venture Capital Pitch Deck TemplatePeter Thiel's Venture Capital Pitch Deck Template
Peter Thiel's Venture Capital Pitch Deck Template
 

E-Book "เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน" โดยสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

  • 1.
  • 3.
  • 4. เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน 4 CEO TALK สวัสดีครับ ผู้อ่านทุกท่าน ในวาระที่ทางบริษัท ออนไลน์แอสเซ็ท จ�ำกัด หรือ กลุ่ม efin ครบรอบปีที่ 22 และก้าวขึ้นปีที่ 23 ทางกลุ่ม efin ขอต้อนรับท่านสู่งานสัมมนาใหญ่ประจ�ำปี Better Trade 2023 ภายใต้หัวข้อ “HIGH RISK HIGH RICH กล้าเสี่ยงอย่างมีความรู้ สู่อิสรภาพทางการเงิน” ที่จัดขึ้นในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 ณ สถานที่จัดงาน True Digital Park โดยวัตถุประสงค์ของงาน เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจในเรื่องของสินทรัพย์ที่มีความ เสี่ยงสูงให้กับนักลงทุนจากการคัดสรรวิทยากรที่มีความรู้ความช�ำนาญในแต่ละด้านมาให้ความรู้ ค�ำแนะน�ำและแบ่งปันประสบการณ์จริง โดยมุ่งหวังว่านักลงทุนจะได้รับความรู้และเทคนิคที่สามารถ น�ำไปวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพบริหารความเสี่ยงได้และได้ผลตอบแทนที่ต้องการ หนังสือ “เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน” ที่ท่านอ่านอยู่นี้ เป็นสิทธิ์พิเศษที่สงวนไว้ให้ ผู้ที่เข้าร่วมงานได้อ่านก่อนใคร หนังสือนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานที่เราจัดท�ำขึ้นเพื่อเป็นแหล่งความรู้ และแนวทางในการลงทุนที่มีคุณภาพ ทั้งในหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ คริปโตเคอร์เรนซี่ และอื่น ๆ อีกมากมาย หนังสือนี้รวบรวมบทสัมภาษณ์จากผู้เชี่ยวชาญและนักลงทุนที่มีชื่อเสียงในแต่ละด้านทั้งนี้เพื่อ ให้ท่านได้รับความรู้และเทคนิคที่จ�ำเป็นในการลงทุนและการจัดการความเสี่ยง หนังสือนี้จะเป็นเครื่องมือที่ท่านไม่ควรพลาด และจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างความส�ำเร็จใน การลงทุนของท่าน ขอให้ท่านสนุกกับการอ่านและได้รับความรู้มากมายจากหนังสือนี้ครับ ขอให้ท่านสนุกและได้รับความรู้ ความส�ำเร็จ และความรวยระดับเซียนจากหนังสือ นี้ และขอให้งาน Better Trade 2023 นี้เป็นแรงบันดาลใจให้ท่านก้าวไปสู่ความส�ำเร็จและ ความรวยอย่างยั่งยืน ขอแสดงความนับถืออย่างสูง สาส์นจากผู้บริหาร พรเลิศ เตชะรัตโนภาส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ออนไลน์แอสเซ็ท จ�ำกัด
  • 6. เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน 6 “เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน” เป็นชื่อหนังสือประจ�ำปี ส�ำหรับงาน Better Trade ปี 2023 ที่กองบรรณาธิการ ส�ำนักข่าวอีไฟแนนซ์ จัดท�ำขึ้นเพื่อเป็นคู่มือให้ กับ ผู้ร่วมงาน และนักลงทุนที่สนใจ ส�ำหรับการลงทุนในปี 2567 ที่ก�ำลังจะถึงในอีก ไม่กี่เดือนนี้ เพื่อจะได้เข้าใจว่า “ท�ำไมจึงต้องเสี่ยงอย่างเทพ และรวยอย่างเซียน” เกือบ 1 ขวบปีที่ก�ำลังจะผ่านไป มีเรื่องราวหลากหลายจริงๆ ส�ำหรับประเทศไทย โดยเฉพาะเรื่องของเหตุบ้าน การเมือง เศรษฐกิจ การลงทุน ที่แม้จะไม่ได้หนักหนา สาหัสสากรรจ์ เท่ากับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ง่ายที่นักลงทุนจะสามารถท�ำก�ำไร ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเพราะปัจจัยทั้งในและต่างประเทศยังคงมีอิทธิพลต่อการ ลงทุนค่อนข้างสูง ในส่วนของเศรษฐกิจโลกปีนี้นั้น ต้องยอมรับว่าหลังจากผ่านพ้นสถานการณ์การ ระบาดของโควิด 19 แล้ว เติบโตได้ช้าลงมาก จนหลายฝ่ายประเมินว่าเศรษฐกิจฯ ปี นี้จะถดถอย โดยเฉพาะเศรษฐกิจประเทศหลัก ทั้ง สหรัฐอเมริกา ยุโรป หรือแม้แต่จีน ที่ก็เติบโตลดลง และก็ไม่แน่ว่าในปีหน้า หรือปี 2567 เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยักษ์ ใหญ่เหล่านี้จะฟื้นตัวได้เร็วขึ้นหรือไม่ เนื่องจากความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก ที่มาจาก ราคาสินค้าที่ยังคงอยู่ในระดับสูงถึงแม้เงินเฟ้อจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้วรวมไปถึงอัตรา ดอกเบี้ยที่ยังคงเป็นขาขึ้น ตลอดจนเรื่องค่าเงิน เพราะฉะนั้นเมื่อเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยง จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่บ้านเราจะได้รับ ผลกระทบไปด้วยอย่างล่าสุดที่หลายหน่วยงานได้ทยอยออกมาปรับลดเป้าจีดีพีเพราะ มูลค่าส่งออกที่ชะลอลง สืบเนื่องจากก�ำลังซื้อของกลุ่มประเทศหลักๆที่ลดลง เพราะ ภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวดี ท�ำให้ปีนี้เราจ�ำเป็นต้องหันไปผลักดันการท่องเที่ยวเป็นตัวชูโรงโดยล่าสุดรัฐบาล ใหม่ ได้ประกาศฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีนถึง 5 เดือน เพื่อหวังจะให้การท่องเที่ยง เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก และน�ำเม็ดเงินเข้าประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน เพราะอย่าลืมว่า หลังเลิอกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยเสียเวลาไป กับการตั้งรัฐบาลใหม่นานเกือบ 4 เดือน กว่าจะได้รัฐบาลปัจจุบันมาได้ ขณะที่ในส่วนของแนวโน้มตลาดทุนไทยพูดแบบไม่เข้าข้างตัวเองภูมิภาคเอเซีย ของเราถือว่าเนื้อหอมที่สุดแล้วเพราะหากมองเรื่องการขยายตัวทางเศรษฐกิจเอเซียยัง คงเป็นภูมิภาคที่ยังเติบโตอยู่ไม่ได้ถดถอยเหมือนภูมิภาคอื่นแถมยังน่าจะดูโดดเด่นกว่า ด้วยซ�้ำดังนั้นแนวโน้มการลงทุนของนักลงทุนส่วนใหญ่จึงน่าจะเข้ามาที่ตลาดหุ้นไทยอยู่ ดังนั้น ในปี 2567 ที่ก�ำลังจะมาถึงนี้ และเมื่อประเมินสถานการณ์ต่างๆ ที่กล่าว มาข้างต้น จึงเชื่อว่าหลายคนคงเตรียมตัว เตรียมใจ และเตรียมพร้อม แล้วว่าจะเลือก เดินทางไหน เพราะการลงทุนแน่นอนว่ามีความเสี่ยง และเราพร้อมจะรับความเสี่ยง ในระดับใด และแน่นอนว่าหากได้อ่านหนังสือเล่มนี้ เป็นคู่มือควบคู่ไปด้วย ตั้งแต่หน้า แรกจนถึงหน้าสุดท้าย ทีมงานกองบรรณาธิการส�ำนักข่าวอีไฟแนนซ์ ก็หวังเป็น อย่างยิ่งว่าทุกท่านจะได้ รวยอย่างเซียน และเสี่ยงให้เป็นเหมือนเทพ” ด้วยความเคารพ บทบรรณาธิการ EDITOR’S TALK พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน บรรณาธิการ บริหารส�ำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
  • 7. ทรู ประกาศเจตนารมณแรงกลาในการกาวไปเปนผูนําดานความเปนสวนตัว กาวทันกับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอยาง AI, IoT และบิ๊กดาตา เพื่อปกปองสิทธิของผูบร�โภค ทรู ประเมินถึงผลกระทบของเทคโนโลยีใหมๆ และบร�การอัจฉร�ยะที่เขาไป อยูในช�ว�ตสวนตัวลูกคาตอการปกปองขอมูลสวนบุคคลอยางตอเนื่อง เพื่อการใหบร�การ ดานโทรคมนาคม ไดรับความยินยอม อยางชัดแจงจากลูกคา นํามาซ�่งประโยชน สําหรับลูกคา Privacy by Design เพื่อประเมิน การใชขอมูลใหเปนไปตามกฎหมาย และวัตถุประสงค เพื่อนํามาพัฒนาคุณภาพ สัญญาณและการบร�การ ใหดียิ่งข�้น กลไก (control point) ในการปกปองขอมูลสวนบุคคล (เปนทางเลือก) (สัญญาการใหบร�การ) รับสิทธิประโยชน เพื่อตอบสนอง ความตองการเฉพาะบุคคล ผูใชงานขอมูลภายใน คําขอจาก หนวยงานภาครัฐ เพื่อนําเสนอสิทธิพิเศษ และแลกสิทธิประโยชน ผานชองทาง เชน #Transformation ผูใชบร�การมือถือสามารถเลือกใหความยินยอมดานความเปนสวนตัวได 2 ระดับ
  • 8. เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน 8 • บทบรรณาธิการ • บทน�ำ หุ้น • “เซียนมี่”แจกเข็มทิศพิชิตความรวย ก้าวแรกเริ่มที่ Mindset • “อาร์ต Club VI” หุ้นพื้นฐานคือยานพาหนะสู่ความมั่งคั่ง • “เสี่ยป๋อง” แนะเทรดหุ้นแบบ Hybrid พื้นฐาน+เทนนิค เอาตัวรอดจาก AI • เปิดสูตรรวยยั่งยืนกับสายเทรด “โค้ชเป๊ก ปุณยวีร์ จันทรขจร” • “ดร.นิเวศน์” สร้างพอร์ตมั่นคง ผ่านการลงทุนหุ้นต่างประเทศ • “ตราวุทธิ์” จิตตะ เวลธ์ เชียร์ลงทุนยาว ฝ่าฟันความผันผวนระยะสั้น ฟิวเจอร์ • ลงทุนฟิวเจอร์สแบบ “ม้าเฉียว” ต้องเข้าใจสินค้า รู้เทคนิค และแพ้เป็น • 15 นาทีทองค�ำ สร้างก�ำไรจาก DW สม�่ำเสมอ กองทุน • เปิดกลยุทธ์ผู้จัดการกองทุน บริหารพอร์ตอย่างไรให้งอกเงย • “กองทุนรวม” โอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มกับ Thematic Fund ทองค�ำ • “รู้พื้นฐาน-เข้าใจเทคนิค” กลยุทธ์ส�ำคัญท�ำก�ำไรจาก“ทองค�ำ” • “ณพวีร์ พุกกะมาน” นักลงทุนผู้ชื่นชอบ XAU/USD ในตลาด FOREX IPO • แชร์หลักสแกนหุ้น IPO เลือกถูกตัวก�ำไรสูง จิ้มผิดบาดเจ็บหนัก คริปโท • Value at Risk (VAR) คือหัวใจของเทรดเดอร์ทุกระดับ รู้ทันวางแผนการเงิน/การลงทุน • “วางแผนการเงิน” เพิ่มความสุข ในยุคที่มีแต่ความไม่แน่นอน • แก๊งหลอกลงทุนระบาดหนัก ระวังติดกับดักยากจะได้เงินคืน! • ความท้าทายของธุรกิจธนาคาร ท่ามกลาง“ภัยไซเบอร์การเงิน” • เครดิตผู้จัดท�ำหนังสือ สารบัญ CONTENT 6 9 14 17 20 24 28 30 34 38 42 44 48 50 54 60 64 66 70 72 หน้า
  • 9. เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน 9 “การลงทุนกับความเสี่ยงเป็นของคู่กัน”นักลงทุนคงเคย ได้ยินประโยคนี้บ่อยๆจึงไม่แปลกที่อาจท�ำให้เรารู้สึกไม่มั่นใจ ที่จะน�ำเงินออมที่มีไปลงทุน แต่จริงๆแล้วความเสี่ยงจากการลงทุนไม่ได้น่ากลัวขนาด นั้น ถ้าเราเข้าใจและจ�ำกัดความเสี่ยงได้ การลงทุนจะช่วยให้ เงินของเรางอกเงยได้มากกว่า ในทางกลับกันการไม่ยอมลงทุนอะไรเลยอาจท�ำให้เงิน ของเราเผชิญความเสี่ยงสูงสุดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้โดยเฉพาะ ความเสี่ยงที่มูลค่าจะลดลงจากเงินเฟ้อ ปัจจุบันสินทรัพย์ในการลงทุนมีให้เลือกหลากหลายเช่นหุ้น ตราสารหนี้ ทองค�ำ อนุพันธ์ สินค้าโภคภัณฑ์ คริปโทฯ เป็นต้น ขณะที่ช่องทางลงทุนก็เปิดกว้างมีทั้งการลงทุนด้วยตัวเองหรือ ให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยบริหาร แต่ต้องค�ำนึงเสมอว่า สินทรัพย์แต่ละประเภทมีลักษณะ เฉพาะตัว ผลตอบแทนกับความเสี่ยงก็แตกต่างกัน ดังนั้นจึง จ�ำเป็นต้องศึกษาทางเลือกต่างๆให้ดีเลือกสินทรัพย์และแนวทาง ที่สอดคล้องกับความต้องการของเรามากที่สุด และท�ำให้เงิน ออมสร้างความมั่งคั่งอย่างคุ้มค่า โดยหลักการ “ความเสี่ยงกับผลตอบแทน” แปรผัน ตรงกัน กล่าวคือ หากลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนก็ควรจะสูงด้วยเช่นกัน(HighRisk,HighReturn) แต่ในความเป็นจริงไม่มีอะไรที่เป็นหลักประกันได้เลยว่า การ ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง จะต้องให้ผลตอบแทนที่ สูงกลับคืนมาเสมอไปเราอาจได้รับผลตอบแทนที่สูง-ต�่ำหรือ อาจไม่ได้รับอะไรเลยก็เป็นได้ ดังนั้น เราจึงควรต้องมีทักษะในการบริหารจัดการความ เสี่ยง ซึ่งไม่ได้หมายถึงการ “ก�ำจัด” ความเสี่ยงหรือความ เสียหายให้หมดไป แต่หมายถึงการ “จ�ำกัด” ความเสี่ยงหรือ ความเสียหายให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด ซึ่งจะท�ำให้พอร์ตของเรา สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้ พูดง่ายๆก็คือ มีความเสี่ยงอยู่ในระดับที่เรารับได้ ขณะ เดียวกันก็มีผลตอบแทนที่ดีพอที่จะท�ำให้เราบรรลุเป้าหมาย ทางการเงินที่วางไว้ได้ ในวาระที่ “ส�ำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย” มีอายุครบ 22 ปี และก�ำลังก้าวเข้าสู่ปีที่23ทางส�ำนักข่าวได้จัดท�ำหนังสือดิจิทัล ภายใต้ชื่อธีม “เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน” แจกจ่ายฟรี ให้กับผู้มีอุปการะคุณ เพื่อเป็นการตอบแทนทุกท่านที่ให้การ สนับสนุนอีไฟแนนซ์ไทย มาโดยตลอด โดยหนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมมุมมองประสบการณ์เทคนิค การลงทุน การบริหารความเสี่ยง ของนักลงทุนรายใหญ่ ที่มีชื่อเสียง รวมถึงกูรูผู้มีความเชี่ยวชาญในสินทรัพย์ที่หลาก หลาย มีรูปแบบลงทุนเฉพาะตัวที่น่าสนใจและล�้ำค่า เพื่อ ให้ผู้อ่านได้น�ำไปใช้พัฒนาตัวเองให้กลายเป็นนักลงทุนที่ เก่งขึ้นตลอดจนต่อยอดแนวทางลงทุนของตัวเองสู่ระดับเศรษฐี ต่อไป คณะผู้จัดท�ำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็น ประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกท่าน และรู้สึกยินดีที่ได้ช่วยกลั่นกรอง ส่งต่อข้อมูลให้กับนักลงทุนโดยหวังว่าทุกท่านจะประสบความ ส�ำเร็จในโลกแห่งการลงทุนและกลายเป็นผู้มีอิสรภาพทางการ เงินเหมือนดังที่ตั้งใจไว้ บทน�ำ INTRODUCTION ด้วยจิตคารวะ คณะผู้จัดท�ำ
  • 10.
  • 11.
  • 12.
  • 13. หุ้น “เซียนมี่”แจกเข็มทิศพิชิตความรวย ก้าวแรกเริ่มที่ Mindset “อาร์ต Club VI” หุ้นพื้นฐานคือยานพาหนะสู่ความมั่งคั่ง “เสี่ยป๋อง” แนะเทรดหุ้นแบบ Hybrid พื้นฐาน+เทนนิค เอาตัวรอดจาก AI เปิดสูตรรวยยั่งยืนกับสายเทรด “โค้ชเป๊ก” ปุณยวีร์ จันทรขจร “ดร.นิเวศน์” สร้างพอร์ตมั่นคง ผ่านการลงทุนหุ้นต่างประเทศ “ตราวุทธิ์” จิตตะ เวลธ์ เชียร์ลงทุนยาว ฝ่าฟันความผันผวนระยะสั้น
  • 14. เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน 14 ปัจจุบันมีนักลงทุนจ�ำนวนมากที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักลงทุนสายหุ้นคุณค่า หรือ Value Investor (VI) ซึ่งนักลงทุนประเภทนี้ มักจะมองภาพในระยะกลางถึงระยะยาว มีการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การ เติบโตของบริษัทที่ลงทุน รวมถึงต้องมีความอดทนต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ผันผวนในระยะสั้น แจกเข็มทิศพิชิตความรวย ก้าวแรกเริ่มที่ Mindset “เซียนมี่” หัวใจหลักของนักลงทุนสาย VI คือ การเลือกลงทุนใน หุ้นคุณค่า (Value Stock) การประเมินมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น (IntrinsicValue)เพื่อหาจุดเข้าซื้อหรือขายรวมถึงการประเมิน การแข่งขันและโอกาสของธุรกิจที่จะเติบโตต่อไปในอุตสาหกรรม โอกาสนี้“ทิวา ชินธาดาพงศ์”เซียนหุ้นสายVIชื่อดังของ เมืองไทย หรือที่รู้จักกันในนาม “เซียนมี่” ซึ่งเป็นผู้คร�่ำหวอดใน วงการลงทุนในตลาดหุ้นมามากกว่า10ปีจะมาเปิดเผยเทคนิค หรือ Trick ส�ำหรับนักลงทุนที่อยากจะประสบความส�ำเร็จใน สาย VI จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ตัดสินใจด้วยเหตุผล ไม่ผันผวนไปกับอารมณ์ของตลาด “เซียนมี่” แนะน�ำว่า โดยธรรมชาติของนักลงทุนสาย VI ส่วนใหญ่จะใช้Logicน�ำหรือเรียกว่าตัดสินใจด้วยเหตุผลไม่ ผันผวนกับอารมณ์ของตลาดโดยมักจะดูว่าแนวโน้มธุรกิจเป็น อย่างไร เติบโตอย่างไร ปันผลเท่าไหร่ และจะดู fundamental หรือ พื้นฐานของตัวธุรกิจมากกว่าราคาหุ้น โดยจะพิจารณา ราคาหุ้นเป็นเรื่องท้ายๆ “สายอื่นจะเน้นที่จังหวะ คือ ซื้อหรือลงทุน โดยหวังว่า ราคาจะขึ้นเลย แต่ได้น้อยไม่เป็นไร ถือว่า เป็นกลุ่มที่เก็งก�ำไร หรือเล่นกับสตอรี่ในบางช่วงแต่สายVIจะใจเย็นนิดหนึ่งอาจ จะเป็นวิธีการวิเคราะห์ หรือ ศึกษาธุรกิจที่ดี และรอจังหวะใน การเข้า โดยช่วงเวลาปกติ สาย VI จะเน้นดู ศึกษา Business Modelดีๆมองระยะยาวมีการรอจังหวะที่เหมาะสมในการเข้า ซื้อและจะศึกษาว่าความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นมีอะไรบ้างและเรา จะจ�ำกัดความเสี่ยงอย่างไรในการเข้าไปลงทุน” สาย VI โอกาสอาจไม่ได้สูงที่สุด แต่จ�ำกัดความเสี่ยงได้ “เซียนมี่”กล่าวต่อว่ากลยุทธ์ของนักลงทุนสายVIคือการ พยายามหาช่องทางลงทุน แม้โอกาสอาจไม่ได้สูงที่สุด ซึ่งจะ ไม่เหมือนกับสายเก็งก�ำไร ที่พอร์ตอาจจะโตเร็วกว่า ในจังหวะ ที่ตลาดเป็นขาขึ้น แต่หากมองในระยะยาว นักลงทุนสาย VI ก็ จะมีความเสี่ยงที่จ�ำกัดกว่า
  • 15. เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน 15 ในปัจจุบันจะพบว่ามีตัวเร่งเยอะที่ท�ำให้ นักลงทุนยุคใหม่สนุกกับการเก็งก�ำไรมากกว่า แต่ความยากของสายVIคือจะต้องเป็นคน ที่มุ่งมั่นและทุ่มเทศึกษาให้รู้ข้อเท็จจริงไม่ เช่นนั้นการที่เราเข้าไปแห่เก็งก�ำไรและเรา ได้เก็งก�ำไรและหลงคิดว่านี่คือกระบวนการ ที่ถูกต้อง แต่มันจะกลายเป็นว่า พอลงทุน ไปเรื่อยๆ จะมีบางครั้งที่เราถูกเอาคืน ซึ่ง จะค่อนข้างรุนแรง Long pond the life lesson ย่อมดี กว่า Life for the long lesson “เซียนมี่” บอกว่า ในสาย VI จะเชื่อ เรื่อง Long pond the life lesson (บทเรียน ชีวิตที่ยาวนาน)ย่อมดีกว่าLifeforthelong lesson(ชีวิตส�ำหรับบทเรียนที่ยาวนาน)คือ มันจะต้องให้มันถูกบนเหตุผลที่ถูก ไม่ใช่ถูก บนเหตุผลที่ผิด เช่น เราอาจจะคิดว่าบริษัท โต แต่มันอาจจะไม่ได้โตเลย แต่อยู่ๆตลาด ดีและมีคนไล่หุ้นกลุ่มนี้และท�ำให้เราได้ก�ำไร แต่ส�ำหรับสาย VI วิธีแบบนี้ อาจจะไม่ยั่งยืน เราไม่ได้ดูที่ผลลัพธ์ แต่ต้องดูที่กระบวนการ มากกว่า การลงทุนแบบ VI ถ้าเราได้กำ�ไร เราจะรู้ว่ากำ�ไรเพราะอะไร ทุกครั้ง ที่เราขาดทุน ก็จะเข้าใจเหตุและ ผลว่า ขาดทุนเพราะอะไร แต่หาก ลงทุนด้วยวิธีอื่น ต่อให้เรากำ�ไร ก็อาจจะไม่รู้ว่าเพราะอะไร มาจาก อะไร และจะทำ�ซ้ำ�ได้อย่างไร เวลาที่ หุ้นลง จะเอายังไงต่อ จะซื้อถัวเพิ่ม หรือจะปล่อยไป หรือจะทำ�อย่างไร
  • 16. เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน 16 “การลงทุนแบบVIเป็นวิถีเดียวที่สามารถเปลี่ยนชีวิตจาก 100 ล้านบาท เป็นหลายพันล้านบาทได้ ถามว่าสายอื่นมีหรือ ไม่ก็มีแต่จ�ำนวนคนที่ประสบความส�ำเร็จเมื่อเทียบกับคนที่ใช้ กลยุทธ์แบบVIต่างกันเยอะมากคนที่ประสบความส�ำเร็จจาก แนวVIอาจจะเจอสัก30-40%ที่เปลี่ยนชีวิตได้แต่สายอื่นอาจ จะมีแค่ 2% เพราะมีความเก่ง มีความ unique มีทักษะที่ลอก เลียนแบบยาก แต่ VI เป็นเรื่องของหลักเหตุและผล สามารถ เรียนรู้ได้ สามารถฝึก และพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆได้” “เซียนมี่” อธิบายว่า การลงทุนแบบ VI ถ้าเราได้ก�ำไร เรา จะรู้ว่าก�ำไรเพราะอะไรทุกครั้งที่เราขาดทุนก็จะเข้าใจเหตุและ ผลว่า ขาดทุนเพราะอะไร แต่หากลงทุนด้วยวิธีอื่น ต่อให้เรา ก�ำไร ก็อาจจะไม่รู้ว่าเพราะอะไร มาจากอะไร และจะท�ำซ�้ำได้ อย่างไรเวลาที่หุ้นลงจะเอายังไงต่อจะซื้อถัวเพิ่มหรือจะปล่อย ไป หรือจะท�ำอย่างไร แต่เข้าใจว่า ทุกคนอยากรวยเร็ว ไม่มีใครอยากรวยช้า จริงๆต้องตั้งค�ำถามถัดไปว่า ท�ำไมคนส่วนใหญ่พยายามจะ รวยเร็วแต่ท�ำไมท�ำไม่ได้มันมีความลับอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า ไม่มีใครร�่ำรวย โดยไม่ขยัน ไม่ท�ำงานหนัก “เซียนมี่” เชื่อว่า การจะเป็นสาย VI สิ่งแรกที่ต้องมี คือ ทัศนคติ(Mindset)ที่ถูกต้อง ทัศนคติ เป็นพื้นฐานของทุกอย่าง ทั้งการลงทุน การใช้ชีวิตให้มีความสุข การมีครอบครัว ส�ำหรับทัศนคติในการลงทุนที่ถูกต้องต้องเริ่มจากเราซื้อ หุ้นอย่างมีเหตุผลการซื้อหุ้นเหมือนซื้อธุรกิจหากเรามีทัศนคติ แบบนี้ ชีวิตการลงทุนก็จะลดความเครียดลงไป และจะรู้ เป้าหมาย รู้ว่าจะต้องขยันหมั่นเพียรเพราะอะไร ผมเชื่อว่าการเดินในทางที่ถูกต้องตั้งแต่วันแรก หรือการ เดินในหลักเหตุและผล ไม่ให้ค�ำว่า ตรรกะวิบัติมาท�ำให้ชีวิต ผันผวนและเปลี่ยนแปลงไป น่าจะเป็นกลยุทธ์ที่ดี ความขยันซื่อสัตย์ประหยัดอดทนสอดคล้องกับแนวทาง ของ VI แต่ส�ำหรับเด็กรุ่นใหม่ที่โตขึ้นมาท่ามกลางชีวิตที่สบาย แล้ว ความขยันอาจไม่เต็มที่เหมือนคนรุ่นเก่าที่ยากล�ำบากมา ก่อน ไม่มีใครที่ร�่ำรวย โดยไม่ขยัน ไม่ท�ำงานหนัก ผมยังเชื่อ เรื่องของการท�ำงานหนัก อย่างน้อยก็ในช่วงแรกของการท�ำ ทุกสิ่งทุกอย่าง Work life balance มีจริงไหม ค�ำตอบคือมีจริง แต่อาจ ไม่ใช่ 2-3 ปีแรกที่เราเริ่มท�ำอะไรสักอย่าง มันจะต้อง Work Hard เท่านั้นในช่วง 3-4 ปีแรก ไม่ว่าจะเริ่มต้นสร้างพอร์ตการ ลงทุน หรือ เริ่มต้นท�ำธุรกิจ หลังจากนั้นเมื่อทุกอย่างลงตัว มัน จะเป็น work life balance เปิดใจศึกษา รับรองไม่เสียเวลาเปล่า “เซียนมี่” ฝากถึงนักลงทุนว่า อยากให้ลองเปิดใจ ตั้งใจ ศึกษาดูให้เวลาสักปีก็ได้อ่านให้เต็มที่ศึกษาให้เต็มที่พยายาม เรียนรู้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่คน VI บอก ถ้าพบว่า มันใช่ เราก็เดิน ต่อ แต่ถ้าพบว่ามันไม่ใช่ เราอาจจะปรับเปลี่ยน แต่ผมรับรอง ว่าจะไม่เสียเวลาเปล่า เพราะความรู้ทางธุรกิจ การลงทุนที่เรา ได้ มันจะน�ำไปสร้างโอกาสใหม่ๆ สร้างมุมมองใหม่ๆ ท�ำให้เรา มองโลกธุรกิจ โลกการเงินเปลี่ยนไป ตอนผมเลือกเส้นทางสาย VI หุ้นไทย 10 ปีไม่ไปไหน เลย จะมองว่าแย่ก็ได้ หรือ มองว่าเป็นโอกาสก็ได้ ลองให้ เวลาตั้งใจและศึกษาจะได้ค�ำตอบที่ไม่ต้องไปตามหาจาก ใครเลยว่า “เราเหมาะสมจากอะไร แนวทางนี้จะดีหรือไม่ ตัวเราจะเป็นคนตอบได้ดีที่สุด และมั่นใจด้วย”
  • 17. เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน 17 การลงทุนในรูปแบบนักลงทุนเน้นคุณค่า หรือ Value Investor (VI) หลายคนอาจเข้าใจว่า เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต�่ำกว่าการลงทุน ในหุ้นรูปแบบอื่นๆ เนื่องจากเป็นการลงทุน ในหุ้นที่พื้นฐานดี และมีแนวโน้มการเติบโต เฉพาะตัวที่ชัดเจน หรือรับผลกระทบจาก วิกฤตต่างๆ จ�ำกัด หุ้นพื้นฐานคือ ยานพาหนะ สู่ความมั่งคั่ง “อาร์ต Club VI” แต่ความจริงแล้วการลงทุนแบบVIก็ถือว่ามี ความเสี่ยงอยู่ไม่น้อยซึ่งหากนักลงทุนไม่เข้าใจหลัก การของ VI อย่างถ่องแท้ ก็อาจจะยอมยกธงขาวไป ตั้งแต่ยกแรกๆ ก็เป็นได้ “ชัชวนันท์สันธิเดช”หรือ“อาร์ต”ผู้ก่อตั้งเพจClub VIถือเป็นผู้ที่คร�่ำหวอดในวงการลงทุนแบบVIมาหลายสิบ ปี ถือเป็นอีกหนึ่งนักลงทุนในวงการ VI ที่ได้รับการยอมรับ จากวงการตลาดทุนเป็นอย่างมาก จนมีผู้ติดตามเพจแล้ว กว่า 1.5 แสนคน จะมาถ่ายทอดประสบการณ์ให้เข้าใจ การลงทุนแบบ VI พร้อมกับเทคนิคและวิธีการรับมือกับ ความเสี่ยงให้นักลงทุนได้เข้าใจกมากขึ้น หลักของ VI ใช้ได้ตลอดกาล “เซียนอาร์ต” อธิบายว่า หลักของ VI สามารถ ใช้ได้ตลอดกาล โดย 2 สิ่งที่ต้องใช้ในการหาหุ้น คือ การเลือกคุณภาพและปริมาณ โดยเชิงคุณภาพ ก็ต้องเลือกหุ้นที่กิจการได้เปรียบจากการแข่งขัน ควบคู่กับ ความยั่งยืน ส่วนในเชิงปริมาณ ก็คือหุ้นที่ราคาต�่ำกว่ามูลค่า วิธีที่นิยมสุดก็คือการหากระแสเงินสดของบริษัทนั้นๆ เป็นต้น
  • 18. เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน 18 ซึ่ง 2 เรื่องนี้เป็นจุดส�ำคัญที่สุด จากนั้นต้องมาดูตัวเองว่า ชอบลงทุนแบบไหน จะเป็นนักลงทุนที่เน้นการเติบโต หรือ จะเป็นนักลงทุนที่ชอบของถูก ซึ่งแบบแรก จะให้ความส�ำคัญกับเรื่องการเติบโตของ ธุรกิจในอนาคตเป็นหลัก ส่วนเรื่องราคาหุ้นจะเป็นเรื่องรอง เพราะอาจจะซื้อที่ราคาสูงหน่อยแต่มั่นใจว่าในอนาคตทิศทาง ธุรกิจและราคาจะเติบโตขึ้นมาเองส่วนแบบที่2คือนักลงทุน ที่เน้นของถูกแต่กลุ่มนี้จะมีข้อจ�ำกัดคือในช่วงที่ภาวะตลาด เป็นของแพงจะท�ำให้เราเสียโอกาสในการลงทุนและซื้อหุ้น อะไรไม่ได้เลยในหลายๆ ปี และหากเข้าใจรูปแบบดังกล่าวแล้ว ยังสามารถต่อย อดออกมาในการหาหุ้น “ผู้ชนะ” หรือ Winning Stock ที่จะ เป็นหุ้นมูลค่าเติบโตระยะยาวไปได้ในระดับ 20-30 ปี ซึ่ง มีอยู่มากมายทั่วโลก เพียงแต่ต้องหาหุ้นผู้ชนะ และอยู่ใน ประเทศผู้ชนะให้เจอ “หุ้นไทยหลายตัวเคยเติบโตโดดเด่นในหลายปีก่อนแต่ ปัจจุบันก็เริ่มทรงตัว เพราะเต็มที่ก็โตได้แค่กรอบเศรษฐกิจ หลายคนเลือกหุ้นผิด แต่ยังทนถือ รอให้ราคากลับมาเท่าทุน แต่หุ้นที่ แย่มันก็คือหุ้นแย่ ถ้าปัญหามาจาก พื้นฐาน ก็ต้องตัดใจขาย แต่ถ้าเป็น ปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งเดียวอย่าง เศรษฐกิจมหภาค ไม่ได้กระทบพื้น ฐานอย่างถาวร อันนี้เราต้องซื้อ เพิ่ม ซึ่งจุดสำ�คัญเราต้องวิเคราะห์ ปัญหาให้ออกแล้ววิกฤตจะกลาย เป็นโอกาสเอง
  • 19. เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน 19 ไทย แต่หุ้นต่างประเทศยังมีอีกหลายตัว หลาย ประเทศที่ยังเติบโตได้อีกในระยะยาว การเข้ามา ลงทุนในหุ้นต่างประเทศ ท�ำให้ผมตื่นเต้นกับการ ลงทุนอีกครั้ง เพราะเมื่อก้าวออกจากตลาดหุ้นไทย ท�ำให้ผมเจอของถูกอยู่ทั่วโลก ซึ่งธุรกิจที่มองว่าจะ เติบโตได้ระยะยาวถึง 20-30 ปีนั้น ต้องเป็นเทรนด์ ระดับโลก ที่ตอนนี้ทั่วโลกก�ำลังให้ความส�ำคัญ คือ ธุรกิจสีเขียวอย่างพลังงานสะอาดพลังงานทดแทน หรือยานยนต์ไฟฟ้า “ วิเคราะห์ปัญหาให้ออก ว่ากระทบหุ้นเราแค่ไหน “เซียนอาร์ต”แชร์ประสบการณ์บริหารความเสี่ยง ให้ฟังว่าต้องยกตัวอย่างการบริหารพอร์ตในปี2008 ซึ่งเป็นปีที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะเจอผล กระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ซึ่งหลายคน อาจจะเลือกวิธีล้างพอร์ต แล้วถือเงินสด แต่ตัว “อาร์ต” กลับเลือกใช้วิธีการคัดกรองหุ้นที่มีอยู่ใน พอร์ตประมาณ30ตัวด้วยการขายหุ้นที่คุณภาพไม่ ดีออกไปและเหลือหุ้นคุณภาพติดพอร์ตไว้ประมาณ 5 ตัวเท่านั้น และหาจังหวะซื้อเพิ่ม ก็สามารถท�ำให้ พอร์ตจากที่เคยติดลบหนักกับมาเติบโตได้หลายเท่า ตัว หรือในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ในประเทศจนตลาด หุ้นลงหนักก็ยังใช้วิธีนี้บริหารความเสี่ยงมาต่อเนื่อง หรืออีกหนึ่งวิกฤตคือโควิด 19 ที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆก็ต้องมาประเมินดูว่าหุ้นกลุ่มไหนรับผลกระทบ มาก-น้อยต่างกันไปยกตัวอย่างหุ้นสายการบินกับ หุ้นสนามบินแม้ว่าธุรกิจจะได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน แต่กลุ่มสายการบินจะเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงกว่า เพราะไม่ว่าอย่างไรสนามบินก็ยังคงอยู่ อย่างกรณี นี้ก็ต้องเลือกหุ้นสนามบินติดไว้ในพอร์ต “เซียนอาร์ต” ย�้ำเตือนว่า อีกหนึ่งความเสี่ยงที่ เกิดขึ้นก็คือการเลือกหุ้นผิดซึ่งเราจะรู้ก็ต่อเมื่อราคา หุ้นปรับลดลงอย่างผิดสังเกตุหรือมีข่าวร้ายออกมา กระทบกับราคาหุ้นแบบมีนัยส�ำคัญหรืองบการเงิน มีปัญหา ตรงนี้ก็ต้องใช้วิธีตัดใจ รีบตัดใจขายหุ้นออกมา “หลายคนเลือกหุ้นผิดแต่ยังทนถือรอให้ราคากลับมาเท่า ทุน แต่หุ้นที่แย่มันก็คือหุ้นแย่ ถ้าปัญหามาจากพื้นฐาน ก็ต้อง ตัดใจขาย แต่ถ้าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งเดียวอย่างเศรษฐกิจ มหภาค ไม่ได้กระทบพื้นฐานอย่างถาวร อันนี้เราต้องซื้อเพิ่ม ซึ่งจุดส�ำคัญเราต้องวิเคราะห์ปัญหาให้ออกแล้ววิกฤตจะ กลายเป็นโอกาสเอง หรือหลายคนมองการถือหุ้น 100% มัน อาจจะเสี่ยงไปแต่การออกไปลงทุนในต่างประเทศมันคือการ กระจายความเสี่ยงในตัวอยู่แล้วเพราะภาวะเศรษฐกิจในแต่ละ ประเทศต่างกัน” อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นความเสี่ยง คือการเข้าถึงข้อมูลหุ้นต่าง ประเทศ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องภาษา เช่นหุ้นประเทศที่เรา ไม่เข้าใจภาษา แม้ว่าจะเห็นตัวเลขงบการเงิน และสามารถ ประเมินแนวโน้มได้แต่บางครั้งจะมีข้อมูลเสริมจากผู้บริหารหรือ นักวิเคราะห์ แต่เป็นภาษาที่เราไม่เข้าใจ ตรงนี้ก็ถือเป็นอีกข้อ จ�ำกัด ที่อาจจะท�ำให้พลาดโอกาสในการลงทุนไปได้ หุ้นพื้นฐาน ยานพาหนะที่ดีที่สุดที่จะพาสู่ความมั่งคั่ง “เซียนอาร์ต” ฝากบอกนักลงทุนว่า ใครที่จะใช้แนวทาง VI ในการบริหารจัดการพอร์ต ขอให้คุณเชื่อมั่นว่าตลาดหุ้นจะ เป็นยานพาหนะที่ดีที่สุดที่จะพาคุณสู่ความมั่งคั่ง โดยเฉพาะ หุ้นพื้นฐาน กรอบของ VI เป็นวิธีที่กลุ่มนักลงทุนที่รวยที่สุดใน โลกใช้กัน จึงไม่มีเหตุที่จะต้องไปใช้แนวทางอื่นในการลงทุน เพราะมีการพิสูจน์มาแล้วว่าให้ผลตอบแทนดีสุดในระยะยาว และเป็นวิทยาศาสตร์ที่สุด “ผมไม่เคยนอกใจหุ้น เพราะผมเชื่อในวิทยาศาสตร์ และ สถิติหลายร้อยปีก็ชี้ชัดว่าการลงทุนในหุ้นให้ผลตอบแทนในระยะ ยาวดีกว่ากการลงทุนทุกประเภท แน่นอนว่าการลงทุนของผม อาจจะผิดพลาดในการเลือกหุ้นบ้างแต่ที่ผมไม่พลาดคือผมไม่ เคยหันหลังให้ตลาดหุ้นเพราะบางช่วงที่เป็นตลาดขาขึ้นหรือยุค ทองของตลาด ผลตอบแทนผมก็ได้ถึงระดับ 20% ปลายๆ แต่ ตอนนี้ช่วง 7-8 ปี ผมก้าวมาลงทุนในหุ้นต่างประเทศยังไม่ได้ ค�ำนวณออกมาว่าผลตอบแทนเป็นอย่างไรแต่ที่ได้มากกว่าผล ตอบแทนคือความสนุกในการเปิดโลกใหม่ในการลงทุนมากกว่า”
  • 20. เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน 20 “เสี่ยป๋อง” วัชระ แก้วสว่าง เทรดเดอร์บิ๊กเนมของไทย แนะ สายเสี่ยงต้องปรับตัวถึงจะอยู่รอดในยุคที่ AI ก�ำลังจะครอง ตลาดหุ้น ผนวกพื้นฐาน+เทคนิค เป็น “Hybrid Investor” เพื่อหาหุ้นที่ใช่ในเวลาที่เหมาะสม หมั่นสะสมความรู้และ ทบทวนความผิดพลาด ที่ส�ำคัญต้องมีวินัยในการเทรด แนะเทรดหุ้นแบบ Hybrid พื้นฐาน+เทคนิค เอาตัวรอดจาก AI “เสี่ยป๋อง” ความรู้และวินัยส�ำคัญสุด “เสี่ยป๋อง” ให้มุมมองว่า “เทรดเดอร์” ต้องรับมือกับ ความผันผวนสูงตลอดเวลา ดังนั้น การหาข้อมูลความรู้เป็น สิ่งส�ำคัญที่สุดต้องศึกษาทั้งความรู้ด้านเทคนิคอลและพื้นฐาน รวมถึงติดตามข่าวสารต่าง ๆ สม�่ำเสมอ ทั้งในประเทศและ ต่างประเทศปัจจัยบวกหรือลบที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น เพื่อการเลือกลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ “ทุกวันนี้ผมจะนั่งดูกราฟแทบทั้งวัน ตั้งแต่ 7 โมงเช้า อ่านข่าวเสร็จท�ำธุระส่วนตัวเสร็จ 10 โมง ตลาดเปิดเที่ยงครึ่งปิดแล้วก็ภาคบ่ายสองโมง ครึ่ง เล่นจนถึง 4 โมงครึ่ง +/- 10-15 นาที ก็ อยู่จนจบแล้วท�ำการบ้านต่อถึงหนึ่งทุ่มผม ท�ำแบบนี้ทุกวันไม่มีใครรวยเพราะคนอื่น หรอก ต้องลงมือท�ำเอง หมั่นฝึกฝนเข้า ไว้ หากไม่ฝึกฝนก็จะไม่เกิดชัยชนะ” ขณะเดียวกันวินัยในการลงทุนก็ ส�ำคัญไม่แพ้กันหากข้อมูลด้านเทคนิคอล ส่งสัญญาณ“ซื้อ”หรือ“ขาย”ก็ควรด�ำเนิน การตามนั้นเพราะมุมเทรดเดอร์กราฟคือ เครื่องมือบันทึกพฤติกรรมของนักลงทุน เหมือนผลเลือด หากเป็นเบาหวานหรือ คอเลสเทอรอลสูงมันจะมีผลออกมา เช่น เดียวกัน หุ้นพอคนซื้อกราฟก็จะค่อย ๆ พล็อตขึ้นท�ำนองเดียวกันถ้ามีคนขายออก มาหุ้นก็พล็อตลงทุกอย่างต่อสู้กันให้เห็นใน กราฟอยู่แล้วว่าตอนนี้คนซื้อหรือคนขายชนะ “เสี่ยป๋อง”อธิบายว่า“แม้การดูกราฟจะ ไม่ช่วย100%แต่จะสะท้อนทางที่ถูกมากกว่า ผิดอย่างน้อยเป็นเครื่องมือที่ช่วยตัดสินใจคน
  • 21. เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน 21 มีวินัยเท่านั้นถึงจะรอดกราฟไม่เคยหลอกใครก็จริงแต่อยู่ที่การ ตีความและประสบการณ์ เช่น หากไม่เห็นกราฟ มีคนบอกให้ ซื้อหุ้นราคา2บาทและจะไป10บาทคนที่ฟังมักจะเกิดความ โลภแต่หารู้ไม่ว่าเดือนก่อนหุ้นตัวนี้อยู่ที่0.50บาทดังนั้นกราฟ ช่วยได้มาก จะโชว์ทิศทางการขยับของราคา แบบไหนเป็นขา ขึ้นหรือขาลง โดยต้องมีวินัยอย่างเคร่งครัด หากเป็นสัญญาณ ซื้อก็ต้องซื้อ หรือเจอสัญญาณขายก็ต้องขาย” ลดความเสี่ยงด้วยการทบทวนความผิดพลาด “เสี่ยป๋อง” ให้ข้อคิดว่า สายเทรดความเสี่ยงสูงกว่า นักลงทุนระยะยาวเสมอดังนั้นสิ่งส�ำคัญที่ต้องท�ำคือหมั่นทบทวน ความผิดพลาด วันนี้แพ้เพราะอะไร พลาดตรงไหน แล้วน�ำมา แก้ไขและปรับปรุง จนกว่าจะหาวิธีที่แม่นย�ำของตนเองให้เจอ “หากทุกคนเอาจริงเอาจังสุดท้ายจะค้นพบสิ่งที่น�ำพาเรา ไปสู่ความส�ำเร็จที่ส�ำคัญต้องทบทวนความผิดพลาดเสมอเพื่อ ลดความเสี่ยงในครั้งต่อไปต้องมีวินัยต้องเชื่อในสัญญาณกราฟ อย่าหลอกตัวเองเพราะความโลภหรือความกลัว ส่วนเทคนิคในการดูกราฟ “เสี่ยป๋อง” บอกว่า กราฟสวย คือ ทรงทะลุไฮ, ทรงเบรกสามเหลี่ยม และทรงไซด์เวย์อัพ แต่ ถ้าทรงลงอย่างเดียวเหมือนตกหน้าผาตาย ต้องขายตอนหลุด เทรนด์ แค่เราเห็นควันไม่ต้องรอเปลวไฟก็ต้องหนีตายก่อน อย่างตอนก่อนเกิดวิกฤติโควิด ผมสังเกตเห็นเส้นค่าเฉลี่ย 75 เดือน ถูกทดสอบมาหลายครั้ง ปรากฏว่ามันหลุด เลยโพสต์ เฟซบุ๊กเตือนคนล่วงหน้าเป็นเดือนท�ำให้หลายคนรอดจากวิกฤติ หากเราหมั่นทบทวนจะจ�ำกัดความเสี่ยงได้เพราะกราฟมักจะ ส่งสัญญาณบอกเสมอทั้งขาขึ้นและลง” “Hybrid Investor” ถึงจะรอด “เสี่ยป๋อง” ให้ค�ำนิยามเทรดเดอร์ยุคใหม่ว่า ต้องเป็น นักลงทุนแบบผสมผสานทั้งปัจจัยเทคนิคและพื้นฐานควบคู่กัน ไปหรือเรียกว่า“HybridInvestor”เพื่อจะได้ซื้อหุ้นที่ดีในเวลา ที่ถูกต้อง เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนว่าแม้จะเป็น หุ้นที่ดีแต่ซื้อผิดจังหวะก็ไม่สามารถท�ำก�ำไรจากหุ้นนั้นได้ โดย หุ้นที่ดีนั้นสามารถศึกษาได้จากปัจจัยทางพื้นฐานว่าบริษัทนั้น เป็นบริษัทที่ดีมีการเติบโตอย่างแท้จริงหรือไม่ส่วนปัจจัยทาง เทคนิคช่วยเรื่องการตัดสินใจในจังหวะซื้อขาย โดยเฉพาะยุคปัจจุบันที่นักลงทุนต่างชาติใช้ระบบAIเข้า มาช่วยซื้อขาย ซึ่งเก่งกว่ามนุษย์หลายเท่า ท�ำให้การลงทุน ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งจะชนะได้ยากต้องผสมผสานต้องปรับตัว มิเช่นนั้นจะอยู่รอดในตลาดหุ้นสมัยนี้ได้ล�ำบาก “ผมคิดว่าปีนี้อาจจะเป็นปีสุดท้ายที่เทรดสั้น ๆ ปีหน้า อาจจะต้องลดวอลุ่มลง เน้นเทรดระยะกลาง-ยาวมากขึ้น เพราะพอมี AI เข้ามาสู้ได้ยาก เราไม่ไวเท่า ส่วนจะปรับ ยังไงยังตอบไม่ได้ ต้องรอดูหน้างาน ปีที่แล้วลองใช้วิธีเดิมแล้วสู้ AI ไม่ได้จริง เพราะเป็น คอมพิวเตอร์ ไม่มีจิตใจ สามารถตัดสินใจได้รวดเร็ว จึง คิดว่าคงถึงเวลาปรับตัว เปลี่ยนวิธีการที่เคยใช้แล้วส�ำเร็จเมื่อ หลายปีก่อน(หมายถึงเดย์เทรด)เป็นแนวทางอื่นๆดูบ้างเพื่อ ลดความเสี่ยง” ลดพอร์ตเดย์เทรดเหลือ 30% ปัจจุบันพอร์ตเดย์เทรดของ “เสี่ยป๋อง” อยู่ในสัดส่วน ประมาณ 30% จากปกติเกิน 40% แล้วแต่บางช่วงของตลาด โดยจะเน้นการเติบโตของพอร์ตรวมที่ผสมผสานการลงทุนระยะ กลางยาวตามเทรนด์มากกว่า ขณะที่ผลตอบแทนจากการลงทุนปีนี้อาจจะไม่สู้ดีนัก ใกล้เคียงกับตลาดฯ ต่างจากที่ผ่านมาชนะตลาดฯ เสมอ บาง ปีเติบโต 2 หลัก หรืออย่างน้อยก็ระดับ 7-8% ซึ่งเป็นสาเหตุที่ มีแผนในการปรับตัวในปีหน้า หุ้นไทยยังเล่นยาก “เสี่ยงป๋อง” ปิดท้ายว่า เชิงเทคนิคช่วงที่เหลือของปี หาก ดัชนียืนเหนือ 1,522 - 1,545 จุดได้ น่าจะพอไหว แต่แค่ยืน อาจจะไม่พอ ถ้าหากไม่สามารถขึ้นไปถึง 1,600 จุด ก็จะ แสดงว่าตลาดไม่ดี เพราะไม่รับข่าวเลย แม้นโยบายกระตุ้น เศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่จะออกมาหลายอย่างเช่นฟรีวีซ่าเชิญ นักท่องเที่ยวจีน แต่ตลาดกลับไม่รับข่าว กลับกันพอเป็นนโยบายที่บริษัทจดทะเบียนจะเสีย ประโยชน์ หุ้นที่เกี่ยวข้องปรับตัวลดลงทันที ต่างจากปกติ หลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ตลาดหุ้นมักจะตอบสนองเชิงบวก แบบมีนัยได้บ้าง แม้จะระยะสั้น แต่ตอนนี้ไม่มีเลย ต้อง รอดูว่ามีอะไรมากกว่านั้นหรือไม่ ต้องเป็นนักลงทุนแบบผสม ผสานทั้งปัจจัยเทคนิคและพื้นฐาน ควบคู่กันไป หรือ เรียกว่า “Hybrid Investor” เพื่อจะได้ซื้อ หุ้นที่ดีในเวลาที่ถูกต้อง เพราะจาก ประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนว่าแม้ จะเป็นหุ้นที่ดีแต่ซื้อผิดจังหวะก็ไม่ สามารถทำ�กำ�ไรจากหุ้นนั้นได้
  • 22.
  • 23.
  • 24. เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน 24 “โค้ชเป๊ก” ปุณยวีร์ จันทรขจร หนึ่งในผู้คร�่ำหวอดแห่งวงการเทรดเดอร์ตลาดหุ้นไทยกว่า 10 ปี เจ้าของ หนังสือขายดีหลายเล่ม และเป็นมาสเตอร์โค้ชรายการการแข่งขัน “Super Trader Thailand” 4 ซีซั่น รวมถึงเป็นวิทยากรด้านการลงทุนชื่อดังอีกรายหนึ่งของไทย นอกจากนี้”โค้ชเป๊ก”ยังเป็นที่ปรึกษาการ ลงทุนของ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ควอนตัม เว็ลธ์ จ�ำกัด อีกด้วย เปิดสูตรรวยยั่งยืนกับสายเทรด “โค้ชเป๊ก” ปุณยวีร์ จันทรขจร ซึ่งบทความนี้ได้น�ำส่วนหนึ่งของประสบการณ์การเป็น เทรดเดอร์และแนวคิดด้านการลงทุนในตลาดหุ้นของ“โค้ชเป๊ก” มาถ่ายทอด ว่าควร “เสี่ยง” อย่างไร ? ให้ “รอด” และ “รวย” เทรดเดอร์ คือ “ผู้หาก�ำไรจากความผันผวน” “โค้ชเป๊ก” มองว่า เทรดเดอร์ หรือ “นักเก็งก�ำไร” ต่างจาก นักลงทุนเน้นคุณค่าหรือVIในมิติของเวลาโดยVIจะเชื่อเรื่อง ของการเลือกหุ้นที่ดีแล้วลงทุนระยะยาว เพราะมั่นใจใน “พลัง ผลตอบแทนทบต้น”แต่“เทรดเดอร์”จะฝืนธรรมชาติของเวลา หรือสามารถใช้ค�ำว่า “เร่งรอบ” ในการเปลี่ยนความผันผวน เป็นก�ำไร ซึ่งไม่มีผิดไม่มีถูก อยู่ที่ใครถนัดแบบไหน แต่สาย “เทรดเดอร์” จะมีความเสี่ยงมากกว่า เพราะในระยะสั้นความ ผันผวนย่อมสูงต้องบริหารความไม่แน่นอนให้ได้ถึงจะอยู่รอด ต้องวางแผนการเงินก่อนลงทุน “โค้ชเป๊ก” เล่าว่า “ความนิ่ง” ถือเป็นสิ่งส�ำคัญที่สุดของ อาชีพ “เทรดเดอร์” โดยเฉพาะการท�ำให้ “ปัจจัยภายนอก” นิ่ง กล่าวคือ สถานะทางการเงินต้องพร้อม มีการวางแผนสภาพ คล่องด้านรายรับ-รายจ่ายล่วงหน้าในระดับที่สามารถรองรับ ความผันผวนต่างๆ ได้ เพราะเส้นทางนี้ต้องเจอกับความไม่ แน่นอนตลอดเวลา ควรแยกส่วนเงินทุนที่จะน�ำมาใช้เทรดหุ้น กับเงินที่จะใช้ด�ำรงชีวิตให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบใน ยามที่มีปัญหา หากบริหารตรงนี้ได้จะส่งผลดีต่อ “ความนิ่งจากภายใน” นั่นคือ “จิตใจ” ซึ่งจะท�ำให้ตัดสินใจได้มั่นคงขึ้น เฉียบคมขึ้น ในทางตรงกันข้าม หากไม่จัดการปัจจัยภายนอกให้ดี ก็จะส่ง ผลต่อความมั่นคงของใจด้วย อาจท�ำให้ลังเลหรือตัดสินใจผิด พลาดทั้งที่ข้อมูลด้านเทคนิคอลประมวลผลออกมาแล้วว่าต้อง “ซื้อ”หรือ“ขาย”แต่ไม่สามารถท�ำได้เพราะกังวลว่าการตัดสินใจ นั้นจะส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงินรวม หมั่นศึกษาหาความรู้ อีกประการส�ำคัญที่จะท�ำให้เรา “นิ่ง” เพิ่มขึ้นไปอีก คือ “การศึกษาข้อมูล” โดยนอกจากข้อมูลด้านเทคนิคอลที่ต้อง เรียนรู้และฝึกฝนตลอดเวลาแล้ว ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับ ตลาดหุ้นทั้งในระดับโลก, ระดับประเทศ, ระดับอุตสาหกรรม จนถึงข้อมูลหุ้นรายตัว ก็ต้องติดตามสม�่ำเสมอด้วย เพราะจะ ช่วยให้หูตากว้างมากขึ้น ซึ่งนั่นจะท�ำให้เราเข้าถูกแต่แรกว่าหุ้นกลุ่มไหนเป็นขาขึ้น กลุ่มไหนเป็นขาลงหรือไซด์เวย์หากเราเลือกได้ดีก็ถือว่าชนะไป แล้วกว่าครึ่ง แน่นอนว่าการเลือกที่ดีต้องมาจากการคัดกรอง ข้อมูลที่ท�ำให้เราได้เปรียบ “โค้ชเป๊ก”ย�้ำว่า“เทรดเดอร์”มักจะจดจ่ออยู่กับกราฟและ ข้อมูลด้านเทคคนิคอลก็จริงแต่ข่าวสารด้านพื้นฐานจะช่วยให้ เราเพิ่มหรือลดน�้ำหนักเงินลงทุนได้ดียิ่งขึ้น เช่น พอร์ตเรา 10 ล้านบาท ก�ำลังจะซื้อหุ้นตัวหนึ่ง อะไรจะเป็นปัจจัยที่ท�ำให้เรา
  • 25. เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน 25 ใส่เงิน 1 ล้านบาท, 2 ล้านบาท, 5 ล้าน บาท หรือ 10 ล้านบาท นั่นไม่ใช่กราฟ อย่างเดียว แต่ต้องประเมินพื้นฐานที่ดี ด้วย เพื่อให้เรามั่นใจในการใส่เงินลง ไปในหุ้นตัวนั้นๆ หุ้น “ภาชนะรองรับปัญหา” ตัวเลือกท�ำก�ำไรช่วงวิกฤติ “โค้ชเป๊ก”อธิบายต่อไปว่าการชนะ ตั้งแต่เลือกในตอนแรกถือเป็นปัจจัยส�ำคัญ ที่สุดเพราะหุ้นนั้นๆจะอยู่ในเทรนด์ไป อย่างต่อเนื่อง... “ส�ำหรับผม ชอบเลือกหุ้นที่เป็น ภาชนะรองรับปัญหาอะไรบางอย่าง เช่น สงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังไงต้อง มีการย้ายห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) แน่นอน 1,000,000% นี่นับ ว่าเป็นปัญหาดังนั้นภาชนะคืออะไรก็ คือพวกกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่รองรับ Supply Chain นั้นได้ ซึ่งหุ้นไทยเราก็ มีหลายบริษัทที่ Outperform ตลาดฯ มาก เช่น WHA หรือ AMATA อีกกรณีเมื่อราว 2 ปีก่อนที่มี ปัญหาเรื่องขนส่งทางเรือเพราะดีมานด์ เท่าเดิมแต่ซัพพลายลดลงอย่างมีนัย ส�ำคัญหลังจากนั้นหุ้นเรือก็เลยPerform มากๆขณะที่วันนี้เศรษฐกิจโลกมีปัญหา นอกจากข้อมูลด้านเทคนิคอลที่ ต้องเรียนรู้และฝึกฝนตลอดเวลา แล้ว ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับ ตลาดหุ้นทั้งในระดับโลก, ระดับ ประเทศ, ระดับอุตสาหกรรม จนถึง ข้อมูลหุ้นรายตัว ก็ต้องติดตาม สม่ำ�เสมอด้วย เพราะจะช่วยให้ หูตากว้างมากขึ้น
  • 26. เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน 26 มากมาย เงินวิ่งไปไหนครับ ไปหาเงินดอลลาร์สหรัฐฯ นั่นก็คือ ภาชนะในการรองรับปัญหา ดังนั้นเราต้องวิเคราะห์ถึงปัญหาก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วมา หาหุ้นที่เป็นภาชนะรองรับปัญหาซึ่งหลายครั้งที่ผมเจอสามารถ สร้างผลตอบแทนให้พอร์ตได้อย่างมีนัยส�ำคัญ... ทั้งหมดที่กล่าวมาก็ต้องย้อนไปตอนศึกษาข้อมูลข่าวสาร ให้รอบด้านเพื่อจะได้รับรู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นและจะได้เลือก ถูกตั้งแต่แรก หากเลือกเทรนด์ถูก เลือกภาชนะถูก คุณใช้ เทคนิคอลที่ง่ายที่สุดก็สามารถสร้างก�ำไรได้เพียบแบบไม่ต้อง ซับซ้อนเลย สรุปคืออะไรก็ตามที่ท�ำให้เราหาเงินได้เยอะขึ้นใช้ให้หมด ไม่ว่าจะกราฟหรือพื้นฐาน...” รู้จักปรับตัว แพ้ได้แต่ต้องไม่ตาย “โค้ชเป๊ก” ให้หลักการว่า “เทรดเดอร์” ที่เข้ามาในตลาด หุ้นมักพกแนวคิดที่หวังจะ“PlaytoWin”มาด้วยเสมอแต่บาง จังหวะ“PlaytoStay”บ้างก็ได้คือควรเทรดเพื่อให้อยู่รอดบาง ช่วงที่ตลาดยากมากก็ไม่จ�ำเป็นต้องWinเสมอไปแต่เวลาแพ้ “ต้องไม่ตาย”หมายถึงว่าไม่ใช่พลาดไม้นี้คือหมดตัวหรือถ้าได้ ไม้นี้ถอยซุปเปอร์คาร์ได้เลยคือต้องบริหารไปอย่างต่อเนื่องเช่น หากพลาดจะเสียเต็มที่แค่เท่านี้ แต่ถ้าชนะจะได้ประมาณนั้น
  • 27. เสี่ยงอย่างเทพ รวยอย่างเซียน 27 เป็นการบริหารความเสี่ยงให้สามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และเงินจากตลาดได้ตลอดไปมากกว่า “ผมเคยเจ็บมาก่อนจากการปล่อยให้พอร์ตเทรดใหญ่เกิน ไปแต่มันจับต้องไม่ได้เช่นวันหนึ่งท�ำก�ำไรได้20-30ล้านบาท อีก 2-3 เดือนถัดมาไม่มีอะไรการันตีได้เลยว่าก�ำไรก้อนนั้นจะ ยังอยู่เหมือนเดิมหรือเติบโตขึ้นแค่ไหน อาจจะหายไปเลยก็ได้ จุดเปลี่ยนส�ำคัญคือปี2017ที่หุ้นไทยวิ่งBullishมากพอร์ต โตที่สุดในชีวิตครั้งหนึ่งเลย แต่พอมาปี 2018 - 2019 ตลาดไม่ Performจังหวะนั้นก�ำไรที่ท�ำได้ในปี2017หายไปหมดเลยในปี 2018-2019ที่ส�ำคัญในช่วงเวลาสั้นๆด้วยคือปั้นพอร์ตเติบโต มาระดับหนึ่งใช้เวลา 6 เดือน แต่หายไปกว่า 50% ในเวลา 2 เดือน ตอนนั้น Panic หนักมาก เลยได้แง่คิด นั่นแสดงว่าเราวางแผนผิดเราเข้าใจอะไรผิดแน่ๆ วิธีเดิมๆ อาจจะไม่ใช่อีกต่อไปแม้บางช่วงเราอาจจะก�ำไรเยอะแต่ไม่ได้ แปลว่าก�ำไรนั้นจะท�ำให้มันอยู่ได้เท่าเดิมต้องจัดการอะไรใหม่ ซึ่งโชคดีมากที่ตื่นรู้ก่อนจังหวะโควิด เพราะได้ก�ำไรจาก จังหวะShortมามหาศาลผมจึงเปลี่ยนวิธีการใหม่น�ำก�ำไรจาก พอร์ตเทรดระยะสั้นไปเติมพอร์ตลงทุนระยะยาวเน้นเพิ่มฐาน AUM รวมต่อปีให้เติบโตราว 7-10% ก็ถือว่าน่าพอใจมากแล้ว ปัจจุบันบันพอร์ตเทรดอยู่สัดส่วนประมาณ20-30%แล้ว แต่ช่วงของภาวะตลาดฯแต่จะโฟกัสAUMรวมมากกว่าเพราะ มั่นคงและยั่งยืน แถมยังให้อิสระภาพด้านเวลาในการไปท�ำ อย่างอื่นที่อยากท�ำได้มากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทิ้งพอร์ตเทรดนะครับเพราะบางช่วงบางจังหวะ การเทรดมีศักยภาพในการท�ำก�ำไรได้ในระยะสั้นๆเพื่อเอาตรง นั้นไปเติมพอร์ตระยะยาวให้แแข็งแรงขึ้นไปอีก หลักการส�ำคัญตอนนี้ส�ำหรับผมคือ เมื่อปั้นพอร์ตไปถึง ระดับหนึ่งแล้ว จะไม่กลับไปที่เดิมอีกแน่นอน” ระยะสั้นตลาดหุ้นเล่นยาก แต่กลาง-ยาว แจ่ม “โค้ชเป๊ก” วิเคราะห์ว่า ภาพรวมการลงทุนระยะสั้น จาก นี้ถึงสิ้นปี เมื่อไหร่ก็ตามที่บอนด์ยีลด์ยังเป็นขาขึ้น ดอลลาร์ยัง แข็งค่าจะท�ำให้สินทรัพย์เสี่ยงไม่Performเท่าไหร่เพราะท�ำให้ Real Yield หรือผลตอบแทนที่แท้จริงเป็นบวก ตอนนี้ราว 2% แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่RealYieldลดลงเหลือ1%ซึ่งต้องเกิดจาก การลดดอกเบี้ยของสหรัฐฯเป็นหลักจังหวะนั้นเงินจากทั่วโลก จะเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นเพราะตอนนี้เงินอยู่ในMoney MarketFundเพราะให้ผลตอบแทน4-5%โดยไม่มีความเสี่ยง ซึ่งไม่มีความจ�ำเป็นต้องซื้อหุ้นเลย เพราะมีความเสี่ยงและ อาจจะได้ผลตอบแทนไม่ถึง 4-5% ด้วยซ�้ำ ผันผวนกว่าด้วย ส่วนใหญ่จึงไปซื้อพันธบัตรดีกว่า การลงทุนต้องมองเป็น Relative Value หรือต้องมอง ในเชิงเปรียบเทียบเสมอ วันนี้ถ้าตลาดหุ้นไทยลงไปแถว 1,400 - 1,450 จุด ก็จะท�ำให้ผลตอบแทนน่าสนใจมาก เพราะ ในเชิงพื้นฐานถือว่าถูกมาก แต่วันนี้หุ้นไทยอาจจะมีพื้นฐานที่ ดูใช้ได้มีสตอรี่ที่ดีในระยะยาวก็จริงแต่ในเชิงRelativeValue ให้ผลตอบแทนแค่2%ดังนั้นไปลงในพันธบัตรอาจจะดีกว่าซึ่ง มองว่าอาจจะยังไม่ใช่จังหวะเวลาหุ้นไทยจึงไม่ไปไหนแต่หาก RealYieldลดลงหุ้นมาแน่โดยเฉพาะหุ้นไทยเพราะเข้าสู่เฟส ก�ำลังลงทุนและจะเติบโตในระยะยาว ทั้งนี้ “โค้ชเป๊ก” เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะเป็นภาชนะที่ดีใน การ Enjoy Growth รอบใหม่ของ Fund Flow เพราะไทยดีกว่า เพื่อนบ้านในอาเซียนหลายประเทศ หากมีการลงทุนพัฒนา โครงสร้างพื้นฐาน กระตุ้นซัพพลาย จะดึงเงินจากต่างประเทศ ได้มหาศาล และจะเป็นภาชนะได้แน่นอน กลุ่มหุ้นโครงสร้าง พื้นฐานและโลจิสติกส์ จะน่าลงทุนมาก ยิ่งหุ้นที่ปันผลดีถือได้ ยาว ๆ เลย แต่สายลงทุนสั้นต้องวิเคราะห์ธีมแต่ละช่วงให้ดี ผมเคยเจ็บมาก่อนจากการปล่อย ให้พอร์ตเทรดใหญ่เกินไป แต่มันจับ ต้องไม่ได้ เช่น วันหนึ่งทำ�กำ�ไรได้ 20 - 30 ล้านบาท อีก 2-3 เดือนถัด มาไม่มีอะไรการันตีได้เลยว่ากำ�ไร ก้อนนั้นจะยังอยู่เหมือนเดิมหรือ เติบโตขึ้นแค่ไหน