SlideShare a Scribd company logo
1 of 24
Download to read offline
การสร้างเว็บเพจด้วยภาษา HTML
HTML ย่อมาจากคาว่า "HyperText Markup Language" เป็นภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมภาษาหนึ่งของคอมพิวเตอร์
ที่แสดงผลในลักษณะของเว็บเพจ ซึ่งสามารถแสดงผลได้ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าเป็นภาพกราฟิก ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว
เสียง หรือการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่นๆ
ภาษา HTML เป็นภาษาที่มีลักษณะของโค้ด กล่าวคือ จะเป็นไฟล์ที่เก็บข้อมูลที่เป็นตัวอักษรในมาตรฐานของรหัสแอสกี
(ASCII Code) โดยเขียนอยู่ในรูปแบบของเอกสารข้อความ จึงสามารถกาหนดรูปแบบและโครงสร้างได้ง่าย
การสร้างเว็บเพจ
เราสามารถสร้างเว็บเพจได้ 2 ทาง คือ
1. TextEditor โดยเราต้องรู้คาสั่งของภาษา HTML แล้วพิมพ์โปรแกรมเข้าไปทางTextEditor เช่น Notepad เป็นต้น
2. ตัวช่วยสร้าง โดยใช้โปรแกรมที่มีความสามารถในการสร้างเว็บเพจโดยเราไม่จาเป็นต้องรู้ภาษา HTML เพราะ
โปรแกรมเหล่านี้จะทาการแปลงให้เราอัตโนมัติ
ขั้นตอนในการสร้างเว็บเพจ
1. เปิดโปรแกรม TextEditor แล้วทาการพิมพ์คาสั่ง HTML แล้วเซฟเป็นไฟล์นามสกุล .htm หรือ .html
2. เปิดโปรแกรม WebBrowser เพื่อใช้ในการดูผลลัพธ์ที่ได้จากการเขียนภาษา HTML จากที่ได้เขียนจาก
TextEditor
โครงสร้างภาษา HTML
การเขียนภาษา HTML นั้นมีส่วนประกอบหลักอยู่ 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นเนื้อหา และส่วนที่เป็นคาสั่ง ส่วนที่เป็นคาสั่งนั้นจะ
อยู่ในรูปของ Tag ซึ่งจะเขียนอยู่ในเครื่องหมาย มากกว่า และ น้อยกว่า < > แต่ละ Tag มีหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะ
กล่าวในบทต่อไป
Tag แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. แท็กเดี่ยว คือ คาสั่งที่มีคาสั่งเพียงอย่างเดียว ซึ่งสามารถใช้และสิ้นสุดคาสั่งได้ด้วยตัวของมันเอง เช่น
ข้อความ.... <br>
<hr>
<! - ข้อความ - >
2. แท็กคู่ คือ คาสั่งที่ต้องมีส่วนเริ่มต้นและส่วนจุดจบของคาสั่งนั้นๆ โดยแท็กที่เป็นส่วนจบนั้นจะมีเครื่องหมาย slash
/ ติดเอาไว้ เช่น
<html> ส่วนของเนื้อหา ..... </html>
<center> ข้อความ..... </center>
<p> ข้อความ.... </p>
*** ถ้าหากมีการใช้แท็กคู่หลายๆ คาสั่ง เช่น คาสั่งตัวขีดเส้นใต้ <U> .... </U> และตามด้วย คาสั่ง ตัวเอียง <I>....</I>
จะต้องปิดคาสั่งตัวเอียงก่อน แล้วจึงจะมาปิดคาสั่งตัวหนา***
<I> U> ข้อความ.... </U> </I>
การกาหนดโครงสร้างหลัก
การจัดวางที่เห็นเป็นการจัดวางแบบมาตรฐาน ซึ่งประกอบไปด้วย 4 ส่วน ซึ่ง
เวลาเริ่มเขียนภาษาHTML ควรเริ่มจากตรงนี้ก่อนทุกครั้ง
 คาสั่งหลัก <HTML> .... </HTML> เป็นคาสั่งที่ไว้กาหนดจุดเริ่มต้นและจุดจบของเอกสาร
 คาสั่งหลัก <HEAD> .... </HEAD> เป็นคาสั่งที่ทาหน้าที่กาหนดส่วนหัวเรื่อง โดยภายในคาสั่งนี้จะประกอบไปด้วย
o คาสั่งหลัก <TITLE> .... </TITLE> เป็นคาสั่งที่ใช้กาหนดข้อความที่ต้องการให้ขึ้นอยู่ในส่วนของ Title Bar
โดยสามารถพิมพ์ได้ยาว 64 ตัวอักษร
 คาสั่งหลัก <BODY> .... </BODY> เป็นคาสั่งที่ใช้ในการกาหนดรูปแบบของเอกสารทั้งหมด ว่าจะให้มีลักษณะ
อย่างไร
ตัวอย่าง
การจัดรูปแบบเอกสาร
การกาหนดหัวข้อ (Heading)
คาอธิบาย
ใช้ในการกาหนดขนาดให้กับข้อความที่เป็นหัวข้อเรื่อง ในเอกสารที่มีหัวข้อเป็นปลีกย่อย สามารถแยกเป็นลาดับของหัว
เรื่องได้อย่างชัดเจน
รูปแบบ
<hx> ..... </hx>
ตัวอย่าง
<html>
<head>
<title> Education Technology </title>
</head>
<body>
<h1>Test Heading if x=1</h1>
<h2>Test Heading if x=2 </h2>
<h3> Test Heading if x=3 </h3>
<h4> Test heading if x=4 </h4>
<h5> Test heading if x=5 </h5>
<h6> Test heading if x=6 </h6>
</body>
</html>
การกาหนดจุดสิ้นสุดบรรทัด (Break Rule)
คาอธิบาย
ใช้ในการกาหนดจุดสิ้นสุดบรรทัด และขึ้นบรรทัดใหม่ คาสั่งนี้เหมือนการกด Enter บน keyboard นั่นเอง
รูปแบบ
..... <br>
ตัวอย่าง
<html>
<head>
<title> Break Rule Tag </title>
</head>
<body>
Test Normal Message
Test Normal Message
Test Break Rule Tag <br>
Test Break Rule Tag <br>
</body>
</html>
การขึ้นย่อหน้าใหม่ (Paragraph)
คาอธิบาย
ใช้แสดงข้อความในลักษณะพารากราฟ หรือย่อหน้าในเว็บเพจ และยังสามารถใช้ในการขึ้นบรรทัดใหม่ครั้งละ 2 บรรทัด
รูปแบบ
<p> ... </p>
<p align="left/center/right"> ... </p>
ตัวอย่าง
<html>
<head>
<title> Paragraph Tag </title>
</head>
<body>
<p> Test Normal Paragraph Tag
<p align="right"> Test Righ Paragraph Tag
<p align="center"> Test Center Paragraph Tag
<p align="left"> Test Left Paragraph Tag
</body>
</html>
แสดงข้อความแบบจัดกึ่งกลาง (Center)
คาอธิบาย
ใช้แสดงข้อความหรือรูปภาพใช้จัดกึ่งกลางเว็บเพจ
รูปแบบ
<center> ... </center>
ตัวอย่าง
<html>
<head>
<title> Paragraph Tag </title>
</head>
<body>
Test Normal Message
<center> Test Center Message </center>
</body>
</html>
การแสดงเส้นคั่นทางแนวนอน (Horizontal Rule)
คาอธิบาย
ใช้แสดงเส้นคั่นแนวนอน โดยใช้ในการแบ่งเนื้อหาหรือคั่นเพื่อความสวยงามและความเป็นระเบียบของเนื้อหา
รูปแบบ
<hr>
<hr align="left/center/right"> กาหนดตาแหน่งเส้น
<hr width="pixels or %"> กาหนดความยาวเส้น
<hr size="pixels"> กาหนดขนาดเส้น
<hr noshade> กาหนดลักษณะเส้น
ตัวอย่าง
<html>
<head>
<title> Horizontal Rule Tag </title>
</head>
<body>
<hr>
<hr width="100%">
<hr width="50%">
<hr width="200">
<hr size="3">
<hr size="7">
<hr align="right">
<hr align="center" width="75% size="3">
<hr noshade>
</body>
</html>
การกาหนดรูปแบบตัวอักษร (FONT)
คาอธิบาย
ใช้กาหนดรูปแบบตัวอักษร ในข้อความที่อยู่ภายใน เช่น ฟอนต์สี และ ขนาดตัวอักษร
รูปแบบ
<font face="text"> ..... </font> กาหนดแบบอักษร
<font size="number"> ..... </font> กาหนดขนาดอักษร
<font color="color"> ..... </font> กาหนดสีอักษร
ตัวอย่าง
<html>
<head>
<title>Font Tag</title>
</head>
<body>
<font size="3"> Font Tag</font> <br>
<font color="blue"> Font Tag</font> <br>
<font face="JasmineUPC"> Font Tag</font> <br>
<font size="5" color="#0000ff"> Font Tag</font> <br>
<font face="AngsanaUPC" color="green"> Font Tag</font> <br>
<font face="CordiaUPC" size="4" color="yellow"> Font Tag</font> <br>
</body>
</html>
การกาหนดข้อความแบบตัวหนา (Bold)
คาอธิบาย
ใช้กาหนดข้อความที่อยู่ภายใจคาสั่งให่แสดงผลด้วยตัวอักษร ตัวหนา โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อเน้นข้อความในประโยคนั้นๆ
รูปแบบ
<b>....</b>
ตัวอย่าง
<html>
<head>
<title>Bold Tag</title>
</head>
<body>
<font size="7">
Normal Text <br>
<b> Bold Text</b>
</font>
</body>
</html>
การกาหนดข้อความแบบตัวเอียง (Italic)
คาอธิบาย
ใช้กาหนดข้อความให้ตัวอักษรเอน โดยมีจุดประสงค์เพื่อเน้นข้อความนั้นๆ
รูปแบบ
<i> ... </i>
ตัวอย่าง
<html>
<head>
<title>Italic Tag</title>
</head>
<body>
<font size="7">
Normal Text <br>
<i> ItalicText</i>
</font>
</body>
</html>
การกาหนดข้อความขีดเส้นใต้ (Underline)
คาอธิบาย
ใช้แสดงความแบบขีดเส้นใต้เพื้อเน้นข้อความในประโยคนั้นๆ
รูปแบบ
<u> ... </u>
ตัวอย่าง
<html>
<head>
<title>Underline Tag</title>
</head>
<body>
<font size="7">
Normal Text <br>
<u> Underline Text</u>
</font>
</body>
</html>
การกาหนดข้อความตัวขีดเส้นทับ (Strikeout)
คาอธิบาย
ใช้แสดงข้อความแบบมีเส้นขีดฆ่า โดยใช้เมื่อต้องการยกเลิกข้อความที่ไม่ใช้แล้ว โดยคาสั่งนี้สามารถใช้แทนคาสั่ง
STRIKE ได้
รูปแบบ
<s> .... </s> or <strike> .... </strike>
ตัวอย่าง
<html>
<head>
<title>Strikeout Tag</title>
</head>
<body>
<font size="7">
Normal Text <br>
<s> Strikeout Text</s>
</font>
</body>
</html>
การแสดงรายการแบบไม่มีเลขลาดับ (Unorder List)
คาอธิบาย
ใช้แสดงรายการข้อมูลแบบแจกแจงเป็นข้อๆ โดยไม่มีเลขลาดับ จะมีสัญลักษณ์นาหน้าข้อมูลแต่ละหัวข้อแทน โดยใช้คาสั่ง
<LI> ในการสร้างหัวข้อแต่ละหลายรายการ
รูปแบบ
<ul> ข้อความส่วนหัว
<li> ข้อความย่อย
<li> ข้อความย่อย
<li> ข้อความย่อย
</ul>
ตัวอย่าง
<html>
<head>
<title>Unnorder List Tag</title>
</head>
<body>
<ul> Unnorder List
<li> First Item
<li> Second Item
<li> Third Item
</ul>
</body>
</html>
การแสดงรายการแบบไดเรคทอรี่ (DIRectory)
คาอธิบาย
ใช้แสดงข้อมูลแบบแจกแจงเป็นข้อๆ ที่มีความยาวไม่เกิน 20 ตัวอักษรต่อ 1 รายการ และใช้กับคาสั่ง <LI> เพื่อใช้
แสดงแถวรายการ
รูปแบบ
<dir> ข้อความส่วนหัว
<li> ข้อความย่อย
<li> ข้อความย่อย
<li> ข้อความย่อย
</dir>
ตัวอย่าง
<html>
<head>
<title>Directory Tag</title>
</head>
<body>
<b>HARDWARE</b>
<dir>
<li>ROM
<li>RAM
<li>CD-ROM
<li>HardDisk
</dir>
</body>
</html>
การแสดงรายการแบบเมนูลิสต์ (MENU)
คาอธิบาย
ใช้แสดงรายการข้อมูลแบบแจกแจงเป็นข้อๆ ที่ไม่ซับซ้อน มีลักษณะคล้ายกับคาสั่ง <UL> แต่มีซับซ้อนน้อยกว่า ใช้
คาสั่ง <LI> เช่นเดียวกับคาสั่งอื่นๆ
รูปแบบ
<menu> ข้อความส่วนหัว
<li> ข้อความย่อย
<li> ข้อความย่อย
<li> ข้อความย่อย
</menu>
ตัวอย่าง
<html>
<head>
<title>Menu Tag</title>
</head>
<body>
<u>Software</u>
<menu>
<li>Word
<li>Excel
<li>PowerPoint
<li>Access
</menu>
</body>
</html>
การแสดงรายการแบบใช้ตัวเลข (Order List)
คาอธิบาย
การแสดงรายการแบบแจกแจงเป็นข้อๆ โดยใช้หมายเลขกากับในการเรียงลาดับ โดยสร้างรายการจากคาสั่ง <LI> และยัง
สามารถกาหนดรูปแบบของหมายเลขกากับได้ด้วยให้เป็นเลขอารบิก, เลขโรมัน หรือตัวอักษร
รูปแบบ
<ol type="1 / a / A / i / I" start="number"> ข้อความส่วนหัว
<li> ข้อความย่อย
<li> ข้อความย่อย
<li> ข้อความย่อย
</ol>
ตัวอย่าง
<html>
<head>
<title>Order List Tag</title>
</head>
<body>
<h1>Order List</h1>
<ol>
<li>Item One<li>Item Two<li>Item Three
</ol>
<ol type="A" start="5">
<li>Item Four<li>Item Five
<ol type="i">
<li>Item Six<li>Item Seven
</ol></ol>
</body>
</html>
การแสดงรายการโดยกาหนดหัวข้อ (Definition List)
คาอธิบาย
ใช้แสดงรายการแบบให้คานิยาม โดยแบ่งองค์ประกอบเป็น 2 ส่วน ส่วนที่อยู่บนคือหัวข้อ (Definition Term) โดย
ใช้คาสั่ง <DT> ส่วนที่อยู่ล่างคือ คาอธิบาย (Definition Description) ใช้คาสั่ง <DD> โดยหากจะให้
ส่วนหัวข้ออยู่ทางซ้าย แล้วคาอธิบายอยู่ทางขวาก็ให้ใช้attribute COMPACT ในกรณีที่รายการเป็นข้อความ
สั้นๆ
รูปแบบ
<dl> ข้อความส่วนหัว
<dt> หัวข้อ <dd> คาอธิบาย
<dt> หัวข้อ <dd> คาอธิบาย
<dt> หัวข้อ <dd> คาอธิบาย
</ol>
ตัวอย่าง
<html>
<head>
<title>Definition Tag</title>
</head>
<body>
<h1> Definition List</h1>
<dl>
<dt>com<dd>องค์การเอกชน (Commercial Organization)
<dt>edu<dd>สถาบันการศึกษา (Education Organization)
<dt>net<dd>องค์กรให้บริการเคลือข่าย (Network Organization)
</dl>
<p>
<dl compact>
<dt>org<dd>องค์กรไม่แสวงผลกาไร (Non-Commercial Organization)
<dt>gov<dd>องค์การของรัฐ (Government Organization)
<dt>mil<dd>องค์กรทางทหราร (Millitary Organization)
</dl>
</body>
</html>
การสร้างตาราง (TABLE)
คาอธิบาย
ใช้ในการสร้างตารางข้อมูล โดยจะมีคาสั่งที่ใช้ร่วมกันคือ คาสั่ง <TR> ในการสร้างแถวเซลล์ข้อมูล, คาสั่ง <TD> ในการ
สร้างเซลล์ข้อมูล, คาสั่ง <TH> ในการสร้างหัวตาราง
รูปแบบ
<table> .... </table>
<table bgcolor="color"> .... </table> กาหนดสีพื้นในตาราง
<table border="pixels"> .... </table> กาหนดขนาดของขอบตาราง
<table width="pixels/%"> .... </table> กาหนดความกว้างของตาราง
ตัวอย่าง
<html>
<head>
<title> Table Tags </title>
</head>
<body>
<table>
<tr>
<th>หัวข้อ</th>
<th>หัวข้อ</th>
<th>หัวข้อ</th>
</tr>
<tr>
<td>ข้อมูล</td>
<td>ข้อมูล</td>
<td>ข้อมูล</td>
</tr>
<tr>
<td>ข้อมูล</td>
<td>ข้อมูล</td>
<td>ข้อมูล</td>
</tr>
</table>
</body>
</html>
การกาหนดข้อความกากับตาราง (table CAPTION)
คาอธิบาย
ใช้แสดงคาอธิบาย หรือ ข้อความประกอบตารางไว้บนส่วนบนหรือส่วนล่างของตารางข้อมูล
รูปแบบ
<caption align=" top | bottom | left | right "> กาหนดตาแหน่งของคาอธิบายตาราง
ตัวอย่าง
<html>
<head>
<title> Table Tags </title>
</head>
<body>
<table border>
<caption align="bottom">ตารางรายรับรายจ่ายประจาเดือน</caption>
<tr>
<th>เดือน</th>
<th>มกราคม</th>
<th>กุมภาพันธ์</th>
<th>มีนาคม</th>
</tr>
<tr>
<td>รายรับ</td>
<td>25000</td>
<td>23000</td>
<td>24500</td>
</tr>
<tr>
<td>รายจ่าย</td>
<td>21000</td>
<td>22500</td>
<td>23100</td>
</tr>
</table>
</body>
</html>
การสร้างแถวของตาราง (Table Row)
คาอธิบาย
เป็นการสร้าง แถวเซล์ข้อมูล เพื่อไว้สร้าง เซล์ข้อมูล และ การสร้างหัวเรื่องของตาราง
รูปแบบ
<tr align=" left | center | right "> .... </tr> กาหนดตาแหน่งของข้อความ
<tr bgcolor="color"> .... </tr> กาหนดสีของพื้นหลังในตาราง
ตัวอย่าง
<html>
<head>
<title> Table Tags </title>
</head>
<body>
<table border>
<tr align="center" bgcolor="green">
<th>สินค้า</th>
<th>โทรทัศน์</th>
<th>วิทยุ</th>
<th>ตู้เย็น</th>
</tr>
<tr align="right" bgcolor="orange">
<td>ราคา</td>
<td>7000</td>
<td>1750</td>
<td>9500</td>
</tr>
</table>
</body>
</html>
การสร้างหัวเรื่องของตาราง (Table Heading)
คาอธิบาย
เป็นการสร้างเซลล์หัวตาราง ซึ่งทาหน้าที่กากับเซล์ข้อมูลในแนวคอลัมน์ที่กาหนด
รูปแบบ
<th align="left | right | center | justify | char"> .... </th> กาหนดตาแหน่งของข้อความใน
ตารางตามแนวนอน
<th valign="top | middle | bottom | baseline"> .... </th> กาหนดตาแหน่งของข้อความใน
ตารางตามแนวตั้ง
<th bgcolor="color"> .... </th> กาหนดสีพื้นของตาราง
<th height="pixels | %"> .... </th> กาหนดความสูงของตาราง
<th width="pixels | %"> .... </th> กาหนดความกว้างของตาราง
<th rowspan="number"> .... </th> กาหนดการรวมช่องเซลล์ในแนวตั้ง
<th colspan="number"> .... </th> กาหนดการรวมช่องเซลล์ในแนวนอน
การสร้างเซลล์ข้อมูล (Table Data)
คาอธิบาย
ใช้สร้างเซลล์ข้อมูลเพื่อใช้ในการแสดงข้อมูลรายละเอียดต่างๆของเอกสาร
รูปแบบ
<td align="left | right | center | justify | char"> .... </td> กาหนดตาแหน่งของข้อความใน
ตารางตามแนวนอน
<th valign="top | middle | bottom | baseline"> .... </td> กาหนดตาแหน่งของข้อความใน
ตารางตามแนวตั้ง
<td bgcolor="color"> .... </td> กาหนดสีพื้นของตาราง
<td height="pixels | %"> .... </td> กาหนดความสูงของตาราง
<td width="pixels | %"> .... </td> กาหนดความกว้างของตาราง
<td rowspan="number"> .... </td> กาหนดการรวมช่องเซลล์ในแนวตั้ง
<td colspan="number"> .... </td> กาหนดการรวมช่องเซลล์ในแนวนอน
ตัวอย่าง
<html>
<head>
<title> Table Tags </title>
</head>
<body>
<table border>
<tr>
<th colspan="2" bgcolor="#ffffe0">CPU</th>
<th colspan="2">RAM</th>
</tr>
<tr>
<td rowspan="2">Mhz</td>
<td>450</td>
<td>500</td>
<td>550</td>
</tr>
<tr>
<td>600</td>
<td>700</td>
<td>750</td>
</tr>
</table>
</body>
</html>
การใส่รูปภาพลงไปในเอกสาร (IMaGe)
คาอธิบาย
ใช้ในการแสดงรูปภาพกราฟฟิก โดยจะต้องเป็นไฟล์กราฟฟิกที่เว็บบราวเซอร์รู้จัก เช่น GIF,JPEG,XPM,XBM เป็น
ต้น
รูปแบบ
<img src="url">
ตัวอย่าง
<html>
<head>
<title> Image Tags</title>
</head>
<body>
<img src="love.jpg">
</body>
</html>
รูปแบบ (ต่อ)
<img align="top | middle | bottom | left | right"> การกาหนดตาแหน่งให้กับรูปภาพ
<img width="pixels"> การกาหนดความกว้างรูปภาพ
<img height="pixels"> การกาหนดความสูงรูปภาพ
<img border="number"> การกาหนดความสูงรูปภาพ
<img hspace="number"> การกาหนดช่องว่างแนวนอนระหว่างรูปภาพกับข้อความ
<img vspace="number"> การกาหนดช่องว่างแนวตั้งระหว่างรูปภาพกับข้อความ
ตัวอย่าง
<html>
<head>
<title> Image Tags</title>
</head>
<body>
<img src="love.jpg" width="100" height="80">
<p><p>
<img src="love.jpg" align="top" hspace="2">TEST IMAGE TAG
</body>
</html>
การทาพื้นฉากหลัง (body BACKGROUND)
คาอธิบาย
การนารูปภาพนามาทาเป็น วอลเปเปอร์
รูปแบบ
<body background="url">
ตัวอย่าง
<html>
<head>
<title> Image Tags</title>
</head>
<body background="love.jpg">
<h1>TEST Wallpaper</h1>
</body>
</html>
การสร้างจุดเชื่อมโยง (A)
คาอธิบาย
ทาหน้าที่กาหนดข้อความหรือภาพกราฟฟิกที่อยู่ภายในให้ทาหน้าที่เป็นจุดเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจอื่น หรือข้อมูลชนิดต่างๆ
รูปแบบ
<a href="url"> .... </a>
ตัวอย่าง
<html>
<head>
<title> Image Tags</title>
</head>
<body>
<a href="page06c.html">Click Here</a><br>
<a href="love.jpg"><img src="love.jpg"></a>
</body>
</html>
การกาหนดสีให้จุดเชื่อมโยง
คาอธิบาย
เป็นการกาหนดสีอักษรที่จุดเชื่อมโยง โดย
 link คือสีจุดเชื่อมโยงที่ยังไม่ได้ทาการคลิ๊กเป้ าหมาย
 vlink คือสีจุดเชื่อมโยงที่ไปยังเป้ าหมายแล้ว
 alink คือสีจุดเชื่อมโยงที่ไปอยู่ขณะนั้น
นอกจากนี้ยังมี
 text สีตัวหนังสือธรรมดา
 bgcolor คือสีพื้นหลังของเอกสาร
รูปแบบ
<body tag="color">
ตัวอย่าง
<html>
<head>
<title> Image Tags</title>
</head>
<body bgcolor="black" text="write" link="yellow" vlink="lime" alink="aqua">
<a href="page06c.html">Click Here</a>
<a href="page06d.html">Click Here</a>
</body>
</html>
แหล่งอ้างอิงข้อมูล ขอขอบคุณ http://www.yupparaj.ac.th/CAI/create_web/

More Related Content

What's hot

Css คืออะไร
Css คืออะไรCss คืออะไร
Css คืออะไรkongdang
 
การนำข้อมูลเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ต
การนำข้อมูลเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ต
การนำข้อมูลเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตguestf5f1f0
 
เริ่มต้นการสร้าง Home page ด้วยคำสั่งเบื้องต้น
เริ่มต้นการสร้าง Home page ด้วยคำสั่งเบื้องต้นเริ่มต้นการสร้าง Home page ด้วยคำสั่งเบื้องต้น
เริ่มต้นการสร้าง Home page ด้วยคำสั่งเบื้องต้นKhon Kaen University
 
บทที่ 2 html introduction
บทที่ 2 html introductionบทที่ 2 html introduction
บทที่ 2 html introductionNattipong Siangyen
 
บทที่ 2 html introduction
บทที่ 2 html introductionบทที่ 2 html introduction
บทที่ 2 html introductionNattipong Siangyen
 
รายงาน PHP - Know2pro.com
รายงาน PHP - Know2pro.comรายงาน PHP - Know2pro.com
รายงาน PHP - Know2pro.comKnow Mastikate
 
การสอนเขียนHtml
การสอนเขียนHtmlการสอนเขียนHtml
การสอนเขียนHtmlchukiat008
 
KMUTNB - Internet Programming 7/7
KMUTNB - Internet Programming 7/7KMUTNB - Internet Programming 7/7
KMUTNB - Internet Programming 7/7phuphax
 
หน่วยที่ 04
หน่วยที่ 04หน่วยที่ 04
หน่วยที่ 04Nuytoo Naruk
 
บทที่ 5 การจัดการข้อความ
บทที่ 5 การจัดการข้อความบทที่ 5 การจัดการข้อความ
บทที่ 5 การจัดการข้อความNattipong Siangyen
 

What's hot (14)

Css คืออะไร
Css คืออะไรCss คืออะไร
Css คืออะไร
 
Html
HtmlHtml
Html
 
Pai01
Pai01Pai01
Pai01
 
การนำข้อมูลเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ต
การนำข้อมูลเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ต
การนำข้อมูลเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ต
 
เริ่มต้นการสร้าง Home page ด้วยคำสั่งเบื้องต้น
เริ่มต้นการสร้าง Home page ด้วยคำสั่งเบื้องต้นเริ่มต้นการสร้าง Home page ด้วยคำสั่งเบื้องต้น
เริ่มต้นการสร้าง Home page ด้วยคำสั่งเบื้องต้น
 
บทที่ 2 html introduction
บทที่ 2 html introductionบทที่ 2 html introduction
บทที่ 2 html introduction
 
บทที่ 2 html introduction
บทที่ 2 html introductionบทที่ 2 html introduction
บทที่ 2 html introduction
 
รายงาน PHP - Know2pro.com
รายงาน PHP - Know2pro.comรายงาน PHP - Know2pro.com
รายงาน PHP - Know2pro.com
 
ทดสอบการอัพโหลด
ทดสอบการอัพโหลดทดสอบการอัพโหลด
ทดสอบการอัพโหลด
 
การสอนเขียนHtml
การสอนเขียนHtmlการสอนเขียนHtml
การสอนเขียนHtml
 
Cai html
Cai htmlCai html
Cai html
 
KMUTNB - Internet Programming 7/7
KMUTNB - Internet Programming 7/7KMUTNB - Internet Programming 7/7
KMUTNB - Internet Programming 7/7
 
หน่วยที่ 04
หน่วยที่ 04หน่วยที่ 04
หน่วยที่ 04
 
บทที่ 5 การจัดการข้อความ
บทที่ 5 การจัดการข้อความบทที่ 5 การจัดการข้อความ
บทที่ 5 การจัดการข้อความ
 

Similar to Webpage by html

รายงาน
รายงานรายงาน
รายงานkongdang
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงานpim1122
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงานpim1122
 
รายงาน เรื่อง css
รายงาน เรื่อง cssรายงาน เรื่อง css
รายงาน เรื่อง cssnongnan
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงานkongdang
 
ใบความรู้ที่ 2.3 รู้จักภาษาhtml
ใบความรู้ที่ 2.3 รู้จักภาษาhtmlใบความรู้ที่ 2.3 รู้จักภาษาhtml
ใบความรู้ที่ 2.3 รู้จักภาษาhtmlSamorn Tara
 
ใบความรู้ที่ 2.3 รู้จักภาษาhtml
ใบความรู้ที่ 2.3 รู้จักภาษาhtmlใบความรู้ที่ 2.3 รู้จักภาษาhtml
ใบความรู้ที่ 2.3 รู้จักภาษาhtmlSamorn Tara
 
บทที่ 5 การจัดการข้อความ
บทที่ 5 การจัดการข้อความบทที่ 5 การจัดการข้อความ
บทที่ 5 การจัดการข้อความNattipong Siangyen
 
การสร้่างเว็บด้วยภาษา html
การสร้่างเว็บด้วยภาษา htmlการสร้่างเว็บด้วยภาษา html
การสร้่างเว็บด้วยภาษา htmlCC Nakhon Pathom Rajabhat University
 
คู่มือการใช้งาน
คู่มือการใช้งานคู่มือการใช้งาน
คู่มือการใช้งาน0882324871
 
Html wordpress
Html wordpressHtml wordpress
Html wordpressungpao
 
การขึ้นบรรทัดใหม่ของข้อความ
การขึ้นบรรทัดใหม่ของข้อความการขึ้นบรรทัดใหม่ของข้อความ
การขึ้นบรรทัดใหม่ของข้อความ30082527
 
รายงาน กลุ่ม คอม ฟ้า
รายงาน กลุ่ม คอม ฟ้ารายงาน กลุ่ม คอม ฟ้า
รายงาน กลุ่ม คอม ฟ้าPoppy Love
 
องค์ประกอบของวิชวลเบสิก
องค์ประกอบของวิชวลเบสิกองค์ประกอบของวิชวลเบสิก
องค์ประกอบของวิชวลเบสิกpisan kiatudomsak
 
รายงาน กลุ่ม คอม ป๊อบ
รายงาน กลุ่ม คอม ป๊อบรายงาน กลุ่ม คอม ป๊อบ
รายงาน กลุ่ม คอม ป๊อบPoppy Love
 
รายงาน กลุ่ม คอม ป๊อบ
รายงาน กลุ่ม คอม ป๊อบรายงาน กลุ่ม คอม ป๊อบ
รายงาน กลุ่ม คอม ป๊อบPoppy Love
 
สร้าง Style ด้วย css 3
สร้าง Style ด้วย css 3สร้าง Style ด้วย css 3
สร้าง Style ด้วย css 3Samart Phetdee
 

Similar to Webpage by html (20)

รายงาน
รายงานรายงาน
รายงาน
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงาน
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงาน
 
รายงาน เรื่อง css
รายงาน เรื่อง cssรายงาน เรื่อง css
รายงาน เรื่อง css
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงาน
 
ใบความรู้ที่ 2.3 รู้จักภาษาhtml
ใบความรู้ที่ 2.3 รู้จักภาษาhtmlใบความรู้ที่ 2.3 รู้จักภาษาhtml
ใบความรู้ที่ 2.3 รู้จักภาษาhtml
 
ใบความรู้ที่ 2.3 รู้จักภาษาhtml
ใบความรู้ที่ 2.3 รู้จักภาษาhtmlใบความรู้ที่ 2.3 รู้จักภาษาhtml
ใบความรู้ที่ 2.3 รู้จักภาษาhtml
 
HTML
HTMLHTML
HTML
 
บทที่ 5 การจัดการข้อความ
บทที่ 5 การจัดการข้อความบทที่ 5 การจัดการข้อความ
บทที่ 5 การจัดการข้อความ
 
Html
HtmlHtml
Html
 
การสร้่างเว็บด้วยภาษา html
การสร้่างเว็บด้วยภาษา htmlการสร้่างเว็บด้วยภาษา html
การสร้่างเว็บด้วยภาษา html
 
คู่มือการใช้งาน
คู่มือการใช้งานคู่มือการใช้งาน
คู่มือการใช้งาน
 
ใบความรู้
ใบความรู้ใบความรู้
ใบความรู้
 
Html wordpress
Html wordpressHtml wordpress
Html wordpress
 
การขึ้นบรรทัดใหม่ของข้อความ
การขึ้นบรรทัดใหม่ของข้อความการขึ้นบรรทัดใหม่ของข้อความ
การขึ้นบรรทัดใหม่ของข้อความ
 
รายงาน กลุ่ม คอม ฟ้า
รายงาน กลุ่ม คอม ฟ้ารายงาน กลุ่ม คอม ฟ้า
รายงาน กลุ่ม คอม ฟ้า
 
องค์ประกอบของวิชวลเบสิก
องค์ประกอบของวิชวลเบสิกองค์ประกอบของวิชวลเบสิก
องค์ประกอบของวิชวลเบสิก
 
รายงาน กลุ่ม คอม ป๊อบ
รายงาน กลุ่ม คอม ป๊อบรายงาน กลุ่ม คอม ป๊อบ
รายงาน กลุ่ม คอม ป๊อบ
 
รายงาน กลุ่ม คอม ป๊อบ
รายงาน กลุ่ม คอม ป๊อบรายงาน กลุ่ม คอม ป๊อบ
รายงาน กลุ่ม คอม ป๊อบ
 
สร้าง Style ด้วย css 3
สร้าง Style ด้วย css 3สร้าง Style ด้วย css 3
สร้าง Style ด้วย css 3
 

Webpage by html

  • 1. การสร้างเว็บเพจด้วยภาษา HTML HTML ย่อมาจากคาว่า "HyperText Markup Language" เป็นภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมภาษาหนึ่งของคอมพิวเตอร์ ที่แสดงผลในลักษณะของเว็บเพจ ซึ่งสามารถแสดงผลได้ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าเป็นภาพกราฟิก ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียง หรือการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ภาษา HTML เป็นภาษาที่มีลักษณะของโค้ด กล่าวคือ จะเป็นไฟล์ที่เก็บข้อมูลที่เป็นตัวอักษรในมาตรฐานของรหัสแอสกี (ASCII Code) โดยเขียนอยู่ในรูปแบบของเอกสารข้อความ จึงสามารถกาหนดรูปแบบและโครงสร้างได้ง่าย การสร้างเว็บเพจ เราสามารถสร้างเว็บเพจได้ 2 ทาง คือ 1. TextEditor โดยเราต้องรู้คาสั่งของภาษา HTML แล้วพิมพ์โปรแกรมเข้าไปทางTextEditor เช่น Notepad เป็นต้น 2. ตัวช่วยสร้าง โดยใช้โปรแกรมที่มีความสามารถในการสร้างเว็บเพจโดยเราไม่จาเป็นต้องรู้ภาษา HTML เพราะ โปรแกรมเหล่านี้จะทาการแปลงให้เราอัตโนมัติ ขั้นตอนในการสร้างเว็บเพจ 1. เปิดโปรแกรม TextEditor แล้วทาการพิมพ์คาสั่ง HTML แล้วเซฟเป็นไฟล์นามสกุล .htm หรือ .html 2. เปิดโปรแกรม WebBrowser เพื่อใช้ในการดูผลลัพธ์ที่ได้จากการเขียนภาษา HTML จากที่ได้เขียนจาก TextEditor โครงสร้างภาษา HTML การเขียนภาษา HTML นั้นมีส่วนประกอบหลักอยู่ 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นเนื้อหา และส่วนที่เป็นคาสั่ง ส่วนที่เป็นคาสั่งนั้นจะ อยู่ในรูปของ Tag ซึ่งจะเขียนอยู่ในเครื่องหมาย มากกว่า และ น้อยกว่า < > แต่ละ Tag มีหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะ กล่าวในบทต่อไป Tag แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. แท็กเดี่ยว คือ คาสั่งที่มีคาสั่งเพียงอย่างเดียว ซึ่งสามารถใช้และสิ้นสุดคาสั่งได้ด้วยตัวของมันเอง เช่น ข้อความ.... <br> <hr> <! - ข้อความ - > 2. แท็กคู่ คือ คาสั่งที่ต้องมีส่วนเริ่มต้นและส่วนจุดจบของคาสั่งนั้นๆ โดยแท็กที่เป็นส่วนจบนั้นจะมีเครื่องหมาย slash / ติดเอาไว้ เช่น <html> ส่วนของเนื้อหา ..... </html> <center> ข้อความ..... </center> <p> ข้อความ.... </p> *** ถ้าหากมีการใช้แท็กคู่หลายๆ คาสั่ง เช่น คาสั่งตัวขีดเส้นใต้ <U> .... </U> และตามด้วย คาสั่ง ตัวเอียง <I>....</I> จะต้องปิดคาสั่งตัวเอียงก่อน แล้วจึงจะมาปิดคาสั่งตัวหนา*** <I> U> ข้อความ.... </U> </I>
  • 2. การกาหนดโครงสร้างหลัก การจัดวางที่เห็นเป็นการจัดวางแบบมาตรฐาน ซึ่งประกอบไปด้วย 4 ส่วน ซึ่ง เวลาเริ่มเขียนภาษาHTML ควรเริ่มจากตรงนี้ก่อนทุกครั้ง  คาสั่งหลัก <HTML> .... </HTML> เป็นคาสั่งที่ไว้กาหนดจุดเริ่มต้นและจุดจบของเอกสาร  คาสั่งหลัก <HEAD> .... </HEAD> เป็นคาสั่งที่ทาหน้าที่กาหนดส่วนหัวเรื่อง โดยภายในคาสั่งนี้จะประกอบไปด้วย o คาสั่งหลัก <TITLE> .... </TITLE> เป็นคาสั่งที่ใช้กาหนดข้อความที่ต้องการให้ขึ้นอยู่ในส่วนของ Title Bar โดยสามารถพิมพ์ได้ยาว 64 ตัวอักษร  คาสั่งหลัก <BODY> .... </BODY> เป็นคาสั่งที่ใช้ในการกาหนดรูปแบบของเอกสารทั้งหมด ว่าจะให้มีลักษณะ อย่างไร ตัวอย่าง
  • 3. การจัดรูปแบบเอกสาร การกาหนดหัวข้อ (Heading) คาอธิบาย ใช้ในการกาหนดขนาดให้กับข้อความที่เป็นหัวข้อเรื่อง ในเอกสารที่มีหัวข้อเป็นปลีกย่อย สามารถแยกเป็นลาดับของหัว เรื่องได้อย่างชัดเจน รูปแบบ <hx> ..... </hx> ตัวอย่าง <html> <head> <title> Education Technology </title> </head> <body> <h1>Test Heading if x=1</h1> <h2>Test Heading if x=2 </h2> <h3> Test Heading if x=3 </h3> <h4> Test heading if x=4 </h4> <h5> Test heading if x=5 </h5> <h6> Test heading if x=6 </h6> </body> </html>
  • 4. การกาหนดจุดสิ้นสุดบรรทัด (Break Rule) คาอธิบาย ใช้ในการกาหนดจุดสิ้นสุดบรรทัด และขึ้นบรรทัดใหม่ คาสั่งนี้เหมือนการกด Enter บน keyboard นั่นเอง รูปแบบ ..... <br> ตัวอย่าง <html> <head> <title> Break Rule Tag </title> </head> <body> Test Normal Message Test Normal Message Test Break Rule Tag <br> Test Break Rule Tag <br> </body> </html> การขึ้นย่อหน้าใหม่ (Paragraph) คาอธิบาย ใช้แสดงข้อความในลักษณะพารากราฟ หรือย่อหน้าในเว็บเพจ และยังสามารถใช้ในการขึ้นบรรทัดใหม่ครั้งละ 2 บรรทัด รูปแบบ <p> ... </p>
  • 5. <p align="left/center/right"> ... </p> ตัวอย่าง <html> <head> <title> Paragraph Tag </title> </head> <body> <p> Test Normal Paragraph Tag <p align="right"> Test Righ Paragraph Tag <p align="center"> Test Center Paragraph Tag <p align="left"> Test Left Paragraph Tag </body> </html> แสดงข้อความแบบจัดกึ่งกลาง (Center) คาอธิบาย ใช้แสดงข้อความหรือรูปภาพใช้จัดกึ่งกลางเว็บเพจ รูปแบบ <center> ... </center> ตัวอย่าง <html> <head>
  • 6. <title> Paragraph Tag </title> </head> <body> Test Normal Message <center> Test Center Message </center> </body> </html> การแสดงเส้นคั่นทางแนวนอน (Horizontal Rule) คาอธิบาย ใช้แสดงเส้นคั่นแนวนอน โดยใช้ในการแบ่งเนื้อหาหรือคั่นเพื่อความสวยงามและความเป็นระเบียบของเนื้อหา รูปแบบ <hr> <hr align="left/center/right"> กาหนดตาแหน่งเส้น <hr width="pixels or %"> กาหนดความยาวเส้น <hr size="pixels"> กาหนดขนาดเส้น <hr noshade> กาหนดลักษณะเส้น ตัวอย่าง <html> <head> <title> Horizontal Rule Tag </title> </head> <body> <hr>
  • 7. <hr width="100%"> <hr width="50%"> <hr width="200"> <hr size="3"> <hr size="7"> <hr align="right"> <hr align="center" width="75% size="3"> <hr noshade> </body> </html> การกาหนดรูปแบบตัวอักษร (FONT) คาอธิบาย ใช้กาหนดรูปแบบตัวอักษร ในข้อความที่อยู่ภายใน เช่น ฟอนต์สี และ ขนาดตัวอักษร รูปแบบ <font face="text"> ..... </font> กาหนดแบบอักษร <font size="number"> ..... </font> กาหนดขนาดอักษร <font color="color"> ..... </font> กาหนดสีอักษร ตัวอย่าง <html> <head> <title>Font Tag</title> </head> <body> <font size="3"> Font Tag</font> <br>
  • 8. <font color="blue"> Font Tag</font> <br> <font face="JasmineUPC"> Font Tag</font> <br> <font size="5" color="#0000ff"> Font Tag</font> <br> <font face="AngsanaUPC" color="green"> Font Tag</font> <br> <font face="CordiaUPC" size="4" color="yellow"> Font Tag</font> <br> </body> </html> การกาหนดข้อความแบบตัวหนา (Bold) คาอธิบาย ใช้กาหนดข้อความที่อยู่ภายใจคาสั่งให่แสดงผลด้วยตัวอักษร ตัวหนา โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อเน้นข้อความในประโยคนั้นๆ รูปแบบ <b>....</b> ตัวอย่าง <html> <head> <title>Bold Tag</title> </head> <body> <font size="7"> Normal Text <br> <b> Bold Text</b> </font> </body> </html>
  • 9. การกาหนดข้อความแบบตัวเอียง (Italic) คาอธิบาย ใช้กาหนดข้อความให้ตัวอักษรเอน โดยมีจุดประสงค์เพื่อเน้นข้อความนั้นๆ รูปแบบ <i> ... </i> ตัวอย่าง <html> <head> <title>Italic Tag</title> </head> <body> <font size="7"> Normal Text <br> <i> ItalicText</i> </font> </body> </html> การกาหนดข้อความขีดเส้นใต้ (Underline) คาอธิบาย ใช้แสดงความแบบขีดเส้นใต้เพื้อเน้นข้อความในประโยคนั้นๆ รูปแบบ <u> ... </u> ตัวอย่าง <html> <head>
  • 10. <title>Underline Tag</title> </head> <body> <font size="7"> Normal Text <br> <u> Underline Text</u> </font> </body> </html> การกาหนดข้อความตัวขีดเส้นทับ (Strikeout) คาอธิบาย ใช้แสดงข้อความแบบมีเส้นขีดฆ่า โดยใช้เมื่อต้องการยกเลิกข้อความที่ไม่ใช้แล้ว โดยคาสั่งนี้สามารถใช้แทนคาสั่ง STRIKE ได้ รูปแบบ <s> .... </s> or <strike> .... </strike> ตัวอย่าง <html> <head> <title>Strikeout Tag</title> </head> <body> <font size="7"> Normal Text <br> <s> Strikeout Text</s> </font> </body> </html>
  • 11. การแสดงรายการแบบไม่มีเลขลาดับ (Unorder List) คาอธิบาย ใช้แสดงรายการข้อมูลแบบแจกแจงเป็นข้อๆ โดยไม่มีเลขลาดับ จะมีสัญลักษณ์นาหน้าข้อมูลแต่ละหัวข้อแทน โดยใช้คาสั่ง <LI> ในการสร้างหัวข้อแต่ละหลายรายการ รูปแบบ <ul> ข้อความส่วนหัว <li> ข้อความย่อย <li> ข้อความย่อย <li> ข้อความย่อย </ul> ตัวอย่าง <html> <head> <title>Unnorder List Tag</title> </head> <body> <ul> Unnorder List <li> First Item <li> Second Item <li> Third Item </ul> </body> </html> การแสดงรายการแบบไดเรคทอรี่ (DIRectory) คาอธิบาย ใช้แสดงข้อมูลแบบแจกแจงเป็นข้อๆ ที่มีความยาวไม่เกิน 20 ตัวอักษรต่อ 1 รายการ และใช้กับคาสั่ง <LI> เพื่อใช้
  • 12. แสดงแถวรายการ รูปแบบ <dir> ข้อความส่วนหัว <li> ข้อความย่อย <li> ข้อความย่อย <li> ข้อความย่อย </dir> ตัวอย่าง <html> <head> <title>Directory Tag</title> </head> <body> <b>HARDWARE</b> <dir> <li>ROM <li>RAM <li>CD-ROM <li>HardDisk </dir> </body> </html> การแสดงรายการแบบเมนูลิสต์ (MENU) คาอธิบาย ใช้แสดงรายการข้อมูลแบบแจกแจงเป็นข้อๆ ที่ไม่ซับซ้อน มีลักษณะคล้ายกับคาสั่ง <UL> แต่มีซับซ้อนน้อยกว่า ใช้ คาสั่ง <LI> เช่นเดียวกับคาสั่งอื่นๆ
  • 13. รูปแบบ <menu> ข้อความส่วนหัว <li> ข้อความย่อย <li> ข้อความย่อย <li> ข้อความย่อย </menu> ตัวอย่าง <html> <head> <title>Menu Tag</title> </head> <body> <u>Software</u> <menu> <li>Word <li>Excel <li>PowerPoint <li>Access </menu> </body> </html> การแสดงรายการแบบใช้ตัวเลข (Order List) คาอธิบาย การแสดงรายการแบบแจกแจงเป็นข้อๆ โดยใช้หมายเลขกากับในการเรียงลาดับ โดยสร้างรายการจากคาสั่ง <LI> และยัง สามารถกาหนดรูปแบบของหมายเลขกากับได้ด้วยให้เป็นเลขอารบิก, เลขโรมัน หรือตัวอักษร รูปแบบ
  • 14. <ol type="1 / a / A / i / I" start="number"> ข้อความส่วนหัว <li> ข้อความย่อย <li> ข้อความย่อย <li> ข้อความย่อย </ol> ตัวอย่าง <html> <head> <title>Order List Tag</title> </head> <body> <h1>Order List</h1> <ol> <li>Item One<li>Item Two<li>Item Three </ol> <ol type="A" start="5"> <li>Item Four<li>Item Five <ol type="i"> <li>Item Six<li>Item Seven </ol></ol> </body> </html> การแสดงรายการโดยกาหนดหัวข้อ (Definition List) คาอธิบาย ใช้แสดงรายการแบบให้คานิยาม โดยแบ่งองค์ประกอบเป็น 2 ส่วน ส่วนที่อยู่บนคือหัวข้อ (Definition Term) โดย ใช้คาสั่ง <DT> ส่วนที่อยู่ล่างคือ คาอธิบาย (Definition Description) ใช้คาสั่ง <DD> โดยหากจะให้
  • 15. ส่วนหัวข้ออยู่ทางซ้าย แล้วคาอธิบายอยู่ทางขวาก็ให้ใช้attribute COMPACT ในกรณีที่รายการเป็นข้อความ สั้นๆ รูปแบบ <dl> ข้อความส่วนหัว <dt> หัวข้อ <dd> คาอธิบาย <dt> หัวข้อ <dd> คาอธิบาย <dt> หัวข้อ <dd> คาอธิบาย </ol> ตัวอย่าง <html> <head> <title>Definition Tag</title> </head> <body> <h1> Definition List</h1> <dl> <dt>com<dd>องค์การเอกชน (Commercial Organization) <dt>edu<dd>สถาบันการศึกษา (Education Organization) <dt>net<dd>องค์กรให้บริการเคลือข่าย (Network Organization) </dl> <p> <dl compact> <dt>org<dd>องค์กรไม่แสวงผลกาไร (Non-Commercial Organization) <dt>gov<dd>องค์การของรัฐ (Government Organization) <dt>mil<dd>องค์กรทางทหราร (Millitary Organization) </dl> </body> </html> การสร้างตาราง (TABLE) คาอธิบาย
  • 16. ใช้ในการสร้างตารางข้อมูล โดยจะมีคาสั่งที่ใช้ร่วมกันคือ คาสั่ง <TR> ในการสร้างแถวเซลล์ข้อมูล, คาสั่ง <TD> ในการ สร้างเซลล์ข้อมูล, คาสั่ง <TH> ในการสร้างหัวตาราง รูปแบบ <table> .... </table> <table bgcolor="color"> .... </table> กาหนดสีพื้นในตาราง <table border="pixels"> .... </table> กาหนดขนาดของขอบตาราง <table width="pixels/%"> .... </table> กาหนดความกว้างของตาราง ตัวอย่าง <html> <head> <title> Table Tags </title> </head> <body> <table> <tr> <th>หัวข้อ</th> <th>หัวข้อ</th> <th>หัวข้อ</th> </tr> <tr> <td>ข้อมูล</td> <td>ข้อมูล</td> <td>ข้อมูล</td> </tr> <tr> <td>ข้อมูล</td> <td>ข้อมูล</td> <td>ข้อมูล</td> </tr> </table>
  • 17. </body> </html> การกาหนดข้อความกากับตาราง (table CAPTION) คาอธิบาย ใช้แสดงคาอธิบาย หรือ ข้อความประกอบตารางไว้บนส่วนบนหรือส่วนล่างของตารางข้อมูล รูปแบบ <caption align=" top | bottom | left | right "> กาหนดตาแหน่งของคาอธิบายตาราง ตัวอย่าง <html> <head> <title> Table Tags </title> </head> <body> <table border> <caption align="bottom">ตารางรายรับรายจ่ายประจาเดือน</caption> <tr> <th>เดือน</th> <th>มกราคม</th> <th>กุมภาพันธ์</th> <th>มีนาคม</th> </tr> <tr> <td>รายรับ</td> <td>25000</td> <td>23000</td> <td>24500</td>
  • 18. </tr> <tr> <td>รายจ่าย</td> <td>21000</td> <td>22500</td> <td>23100</td> </tr> </table> </body> </html> การสร้างแถวของตาราง (Table Row) คาอธิบาย เป็นการสร้าง แถวเซล์ข้อมูล เพื่อไว้สร้าง เซล์ข้อมูล และ การสร้างหัวเรื่องของตาราง รูปแบบ <tr align=" left | center | right "> .... </tr> กาหนดตาแหน่งของข้อความ <tr bgcolor="color"> .... </tr> กาหนดสีของพื้นหลังในตาราง ตัวอย่าง <html> <head> <title> Table Tags </title> </head> <body> <table border> <tr align="center" bgcolor="green"> <th>สินค้า</th> <th>โทรทัศน์</th>
  • 19. <th>วิทยุ</th> <th>ตู้เย็น</th> </tr> <tr align="right" bgcolor="orange"> <td>ราคา</td> <td>7000</td> <td>1750</td> <td>9500</td> </tr> </table> </body> </html> การสร้างหัวเรื่องของตาราง (Table Heading) คาอธิบาย เป็นการสร้างเซลล์หัวตาราง ซึ่งทาหน้าที่กากับเซล์ข้อมูลในแนวคอลัมน์ที่กาหนด รูปแบบ <th align="left | right | center | justify | char"> .... </th> กาหนดตาแหน่งของข้อความใน ตารางตามแนวนอน <th valign="top | middle | bottom | baseline"> .... </th> กาหนดตาแหน่งของข้อความใน ตารางตามแนวตั้ง <th bgcolor="color"> .... </th> กาหนดสีพื้นของตาราง <th height="pixels | %"> .... </th> กาหนดความสูงของตาราง <th width="pixels | %"> .... </th> กาหนดความกว้างของตาราง <th rowspan="number"> .... </th> กาหนดการรวมช่องเซลล์ในแนวตั้ง <th colspan="number"> .... </th> กาหนดการรวมช่องเซลล์ในแนวนอน การสร้างเซลล์ข้อมูล (Table Data) คาอธิบาย
  • 20. ใช้สร้างเซลล์ข้อมูลเพื่อใช้ในการแสดงข้อมูลรายละเอียดต่างๆของเอกสาร รูปแบบ <td align="left | right | center | justify | char"> .... </td> กาหนดตาแหน่งของข้อความใน ตารางตามแนวนอน <th valign="top | middle | bottom | baseline"> .... </td> กาหนดตาแหน่งของข้อความใน ตารางตามแนวตั้ง <td bgcolor="color"> .... </td> กาหนดสีพื้นของตาราง <td height="pixels | %"> .... </td> กาหนดความสูงของตาราง <td width="pixels | %"> .... </td> กาหนดความกว้างของตาราง <td rowspan="number"> .... </td> กาหนดการรวมช่องเซลล์ในแนวตั้ง <td colspan="number"> .... </td> กาหนดการรวมช่องเซลล์ในแนวนอน ตัวอย่าง <html> <head> <title> Table Tags </title> </head> <body> <table border> <tr> <th colspan="2" bgcolor="#ffffe0">CPU</th> <th colspan="2">RAM</th> </tr> <tr> <td rowspan="2">Mhz</td> <td>450</td> <td>500</td> <td>550</td> </tr> <tr> <td>600</td> <td>700</td>
  • 21. <td>750</td> </tr> </table> </body> </html> การใส่รูปภาพลงไปในเอกสาร (IMaGe) คาอธิบาย ใช้ในการแสดงรูปภาพกราฟฟิก โดยจะต้องเป็นไฟล์กราฟฟิกที่เว็บบราวเซอร์รู้จัก เช่น GIF,JPEG,XPM,XBM เป็น ต้น รูปแบบ <img src="url"> ตัวอย่าง <html> <head> <title> Image Tags</title> </head> <body> <img src="love.jpg"> </body> </html> รูปแบบ (ต่อ) <img align="top | middle | bottom | left | right"> การกาหนดตาแหน่งให้กับรูปภาพ <img width="pixels"> การกาหนดความกว้างรูปภาพ <img height="pixels"> การกาหนดความสูงรูปภาพ <img border="number"> การกาหนดความสูงรูปภาพ <img hspace="number"> การกาหนดช่องว่างแนวนอนระหว่างรูปภาพกับข้อความ <img vspace="number"> การกาหนดช่องว่างแนวตั้งระหว่างรูปภาพกับข้อความ ตัวอย่าง <html> <head>
  • 22. <title> Image Tags</title> </head> <body> <img src="love.jpg" width="100" height="80"> <p><p> <img src="love.jpg" align="top" hspace="2">TEST IMAGE TAG </body> </html> การทาพื้นฉากหลัง (body BACKGROUND) คาอธิบาย การนารูปภาพนามาทาเป็น วอลเปเปอร์ รูปแบบ <body background="url"> ตัวอย่าง <html> <head> <title> Image Tags</title> </head> <body background="love.jpg"> <h1>TEST Wallpaper</h1> </body> </html> การสร้างจุดเชื่อมโยง (A) คาอธิบาย ทาหน้าที่กาหนดข้อความหรือภาพกราฟฟิกที่อยู่ภายในให้ทาหน้าที่เป็นจุดเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจอื่น หรือข้อมูลชนิดต่างๆ รูปแบบ <a href="url"> .... </a>
  • 23. ตัวอย่าง <html> <head> <title> Image Tags</title> </head> <body> <a href="page06c.html">Click Here</a><br> <a href="love.jpg"><img src="love.jpg"></a> </body> </html> การกาหนดสีให้จุดเชื่อมโยง คาอธิบาย เป็นการกาหนดสีอักษรที่จุดเชื่อมโยง โดย  link คือสีจุดเชื่อมโยงที่ยังไม่ได้ทาการคลิ๊กเป้ าหมาย  vlink คือสีจุดเชื่อมโยงที่ไปยังเป้ าหมายแล้ว  alink คือสีจุดเชื่อมโยงที่ไปอยู่ขณะนั้น นอกจากนี้ยังมี  text สีตัวหนังสือธรรมดา  bgcolor คือสีพื้นหลังของเอกสาร รูปแบบ <body tag="color"> ตัวอย่าง <html> <head> <title> Image Tags</title> </head>
  • 24. <body bgcolor="black" text="write" link="yellow" vlink="lime" alink="aqua"> <a href="page06c.html">Click Here</a> <a href="page06d.html">Click Here</a> </body> </html> แหล่งอ้างอิงข้อมูล ขอขอบคุณ http://www.yupparaj.ac.th/CAI/create_web/