More Related Content
Similar to อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์6.3.29
Similar to อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์6.3.29 (11)
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์6.3.29
- 2. บางทีก็เรียกว่า "รีพีตเตอร์ (Repeater)" คือ
อุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกลุ่มของคอมพิวเตอร์ Hub มีหน้าที่
รับส่งเฟรมข้อมูลทุกเฟรมที่ได้รับจากพอร์ตใดพอร์ตหนึ่งไป
ยังทุก ๆ พอร์ตที่เหลือ คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเข้ากับ Hub
จะแชร์แบนด์วิธหรืออัตราข้อมูลของเครือข่าย ฉะนั้นยิ่งมี
คอมพิวเตอร์เชื่อมต่อเข้ากับ Hub มากเท่าใด ยิ่งทาให้แบนด์
วิธต่อคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องลดลง ในท้องตลาดปัจจุบันมี
Hub หลายชนิดจากหลายบริษัท ข้อแตกต่างระหว่าง Hub
เหล่านี้ก็เป็นจาพวกพอร์ตสายสัญญาณที่ใช้ประเภทของ
เครือข่ายและอัตราข้อมูลที่ Hub รองรับได้
- 3. การที่อุปกรณ์เครือข่ายอีเธอร์เน็ตสามารถทางานได้ที่ความเร็ว 2 ระดับ เช่น 10/100
Mbps นั้น ก็เนื่องจากอุปกรณ์เครื่องนั้นมีฟังก์ชันที่สามารถเช็คได้ว่าอุปกรณ์ หรือคอมพิวเตอร์ที่มา
เชื่อมต่อกับ Hub นั้นสามารถรับส่งข้อมูลได้ที่ความเร็วสูงสุดเท่าใด และอุปกรณ์นั้นก็จะเลือกอัตรา
ข้อมูลสูงสุดที่รองรับทั้งสองฝั่ง ฟังก์ชันนี้จะเรียกว่า "การเจรจาอัตโนมัติ (Auto-Negotiation)"
ส่วนใหญ่ Hub หรือ Switch ที่ผลิตจะมีฟังก์ชันนี้อยู่ เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายอีเธอร์เน็ตที่
ความเร็วต่างกันได้ ถ้ามีอุปกรณ์เครือข่าย หรือคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครื่องเชื่อมต่อเข้ากับ Hub
และแต่ละโหนดสามารถส่งข้อมูลได้ในอัตราที่ต่างกัน Hub ก็จะเลือกอัตราส่งข้อมูลที่อัตราความเร็ว
ต่าสุด เนื่องจากคอมพิวเตอร์เหล่านี้จัออยู่ในคอลลิชันโดเมน (Collision Domain) เดียวกัน
ตัวอย่างเช่น ถ้า LAN การ์ดของคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งสามารถรับส่งข้อมูลได้ที่่ 10 Mbps ส่วน
LAN การ์ดของคอมพิวเตอร์ที่เหลือสามารถรับส่งข้อมูลได้ 10/100 Mbps แล้วคอมพิวเตอร์เหล่านี้
เชื่อมต่อเข้ากับ Hub เดียวกันที่รองรับอัตราความเร็วที่
10/100Mbps เครือข่ายนี้ก็จะทางานที่ความเร็ว10 Mbps
เท่านั้น แต่ถ้าเป็น Switch อัตราความเร็ว จะขึ้นอยู่กับ
ความเร็วของคอมพิวเตอร์ เนื่องจาก Switch จะแยกคอลลิชันโดเมน
- 4. บริดจ์ เป็นอุปกรณ์เชื่อมโยงเครือข่ายของเครือข่ายที่แยกจากกัน แต่เดิมบริดจ์
ได้รับการออกแบบมาให้ใช้กับเครือข่ายประเภทเดียวกัน เช่น ใช้เชื่อมโยงระหว่าง
อีเทอร์เน็ตกับ อีเทอร์เน็ต (Ethernet) บริดจ์มีใช้มานานแล้ว ตั้งแต่ปี ค.ศ.1980
บริดจ์จึงเป็นเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างสองเครือข่ายการติดต่อภายในเครือข่าย
เดียวกันมีลักษณะการส่ง ข้อมูลแบบกระจาย(Broadcasting)ดังนั้นจึงกระจายได้
เฉพาะเครือข่ายเดียวกันเท่านั้นการรับส่งภายในเครือข่ายมีข้อกาหนดให้แพ็กเก็ตที่
ส่งกระจายไปยังตัวรับได้ทุกตัว แต่ถ้ามีการส่งมาที่แอดเดรส
ต่างเครือข่ายบริดจ์จะนาข้อมูลเฉพาะแพ็กเก็ตนั้นส่งให้บริดจ์
จึงเป็นเสมือนตัวแบ่งแยกข้อมูลระหว่างเครือข่ายให้มีการสื่อ
สารภายในเครือข่ายของตน ไม่ปะปนไปยังอีกเครือข่ายหนึ่ง
เพื่อลดปัญหาปริมาณข้อมูลกระจายในสายสื่อสารมากเกินไป
- 5. ในระยะหลังมีผู้พัฒนาบริดจ์ให้เชื่อมโยงเครือข่ายต่างชนิดกันได้
เช่น อีเทอร์เน็ตกับโทเก็นริง เป็นต้น หากมีการเชื่อมต่อเครือข่าย
มากกว่าสองเครือข่ายเข้าด้วยกัน และเครือข่ายที่เชื่อมมีลักษณะ
หลากหลาย ซึ่งเป็นทั้งเครือข่ายแบบ LAN และ WAN อุปกรณ์ที่
นิยมใช้ในการเชื่อมโยงคือ เราเตอร์ (Router)
บริดจ์ เป็นอุปกรณ์ที่มักจะใช้ในการเชื่อมต่อวงแลน (LAN
Segments)เข้าด้วยกันทาให้สามารถขยายขอบเขตของ LAN
ออกไปได้เรื่อยๆโดยที่ประสิทธิภาพรวมของระบบไม่ลดลงมาก
นักเนื่องจากการติดต่อของเครื่องที่อยู่ในเซกเมนต์เดียวกันจะไม่
ถูกส่งผ่านไปรบกวนการจราจรของเซกเมนต์อื่น และเนื่องจาก
บริดจ์เป็นอุปกรณ์ที่ทางานอยู่ในระดับ Data Link Layerจึงทา
ให้สามารถใช้ในการเชื่อมต่อเครือข่ายที่แตกต่างกันในระดับ
Physical และ Data Link ได้ เช่น ระหว่าง Eternet กับ
Token Ring เป็นต้น
- 7. โมเด็มมาจากคาว่า MOdulator/DEModulator โดยแยกการทางาน
ออกเป็น Modulation คือการแปลงสัญญาณดิจิตอล จากเครื่อง
คอมพิวเตอร์ ต้นทางให้กลายเป็นสัญญาณอะนาลอกแล้วส่งไปตาม
สายโทรศัพท์ และ Demodulation คือการเปลี่ยนจากสัญญาณอะนาลอก
ที่ได้จากสายโทรศัพท์ให้กลับไปเป็นสัญญาณดิจิตอล เพื่อส่งต่อไปยัง
เครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทาง สัญญาณจากคอมพิวเตอร์เป็นสัญญาณ
Digital มีแค่ 0 กับ 1 เท่านั้น เมื่อเปลี่ยนมาเป็นสัญญาณอะนาลอกอยู่
ในรูปที่คล้ายกับสัญญาณไฟฟ้าของ โทรศัพท์ จึงส่งไปทางสายโทรศัพท์ได้
สาหรับปัจจุบันนี้ความไวของโมเด็มจะสูงขึ้นที่ 56 Kbps ตอนแรกมี
มาตรฐานออกมา 2 อย่างคือ X2 และ K56Flex ออกมาเพื่อแย่งชิง
มาตรฐานกัน ทาให้สับสน ในการใช้งาน ต่อมามาตรฐานสากล ได้กาหนด
ออกมาเป็น V.90 เป็นการยุติความไม่แน่นอน ของการใช้งาน โมเด็มบาง
ตัวสามารถ อัพเดทเป็น V.90 ได้ แต่บางตัวก็ไม่สามารถทาได้ สาหรับ
โมเด็มปัจจุบันนี้ยังมีความสามารถในการรับส่ง Fax ด้วย ความไวในการ
ส่ง Fax จะอยู่ที่ 14.4 Kb. เท่านั้น
- 8. 1. คุณภาพของสายทองแดง ระยะทางยาว การต่อสาย
หรือหัวต่อต่าง ๆ ทาให้มีปัญหาต่อสัญญาณรบกวน
2. ไม่ควรใช้สายพ่วง เพราะการพ่วงสายจะทาให้อิมพีแดนซ์
ของสายลดต่าลง และจะมีปัญหาได้ขณะใช้งานถ้ามีคนยก
หูโทรศัพท์เครื่องพ่วงสายจะหลุดทันที
3. ต้องไม่เปิดบริการเสริมใด ๆ สาหรับสายที่ใช้โมเด็ม
เช่น เปิดให้มีสายเรียกซ้อน การรับสัญญาณอื่นขณะ
ใช้โมเด็มจะทาให้การเชื่อมโยงหยุดทันที
4. หากชุมสายที่บ้านเชื่อมอยู่ต้องผ่านหลายชุมสาย
หรือต้องผ่านระหว่างเครือข่ายของบริษัท
บริการโทรศัพท์
5. คุณภาพของโมเด็มที่ใช้ ปัจจุบันมีโมเด็มที่ผลิตหลากหลาย
และมีคุณภาพแตกต่างกัน การแปลงสัญญาณอาจ
มีข้อแตกต่าง
ปัจจัยที่สาคัญที่มีผลต่อการใช้โมเด็มในการเชื่อมโยงอินเทอร์เน็ต มีดังนี้...