ศึกษาดูงาน
- 2. 06.30 น. - พร้อมกันหน้าแผนกช่างยนต์
07.00 น. - ออกรถสู่สุราษฎร์ธานี
10.30 น. - ถึงเขื่อนรัชชประภา
12.00 น. - ออกจากเขื่อนรัชชประภา และเดินทางไปเซ็นทรัล
15.00 น. - ออกจากเซ็นทรัล
16.00 น. - แวะซื้อของฝาก
18.30 น. - เดินทางถึงวิทยาลัยเทคนิคทุ่งสง
- 3. เขื่อนรัชชประภา มีชื่อเรียกดั้งเดิมว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน[1] เป็นเขื่อน
อเนกประสงค์แห่งที่สองของภาคใต้ อยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อก่อนสร้างแล้ว
เสร็จได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัว พระราชทานนาม
ให้ใหม่ว่า “เขื่อนรัชชประภา” มีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร”
เขื่อนรัชชประภา สร้างปิดกั้นลาน้าคลองแสง ที่บ้านเชี่ยวหลาน ตาบลเขาพัง
อาเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานีโดยพื้นทีส่นใหญ่ติดอุทยานแห่งชาติเขาสก
เกือบทั้งหมด เป็น เขื่อนหินถมแกนดินเหนียว สูง 94 เมตร ความยาวสันเขื่อน 761
เมตร และมีเขื่อนปิดกั้นช่องเขาขาดอีก 5 แห่ง มีความจุ 5,638.8 ล้านลูกบาศก์เมตร
พื้นที่อ่างเก็บน้า 185 ตารางกิโลเมตร ปริมาณน้าไหลเข้าอ่างเฉลี่ยปีละ 3,057 ล้าน
ลูกบาศก์เมตร ติดตั้งเครื่องผลิตไฟฟ้ า เครื่องละ 80,000 กิโลวัตต์ จานวน 3 เครื่อง
รวมกาลัง การผลิต 240,000 กิโลวัตต์ ให้พลังงานไฟฟ้ าเฉลี่ยปีละประมาณ 554 ล้าน
กิโลวัตต์ชั่วโมง
- 4. เขื่อนรัชชประภา เริ่มดาเนินการก่อสร้าง เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2525 แล้วเสร็จ
ในเดือนกันยายน2530 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วย สมเด็จพระเทพ
รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดาเนินเปิดเขื่อนรัชชประภา และ
โรงไฟฟ้ าพลังน้า เมื่อวันพุธที่ 30 กันยายน 2530 แต่เดิมนั้นสามารถเดินทางได้โดย
จาก อาเภอพนม แต่เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวมีความสลับซับซ้อนประกอบด้วยเหว
จานวนมากเส้นทาง ดังกล่าวจึงต้องปิดตัวลงโดยปัจจุบันสามรถเดินทางโดยผ่าน
อาเภอบ้านตาขุน เขื่อนรัชชประภา เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้าที่สาคัญแห่งหนึ่งใน
ภาคใต้ ที่สร้างความมั่นคงให้แก่ระบบไฟฟ้ า และความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ
และสังคมของประเทศชาติ นอกจากนี้ยังเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องใน
วโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ ในปี พ.ศ. 2530 และพระราชพิธี
รัชมังคลาภิเษก ในปี พ.ศ. 2531
- 5. การชลประทานเพื่อการเพาะปลูก ปริมาณน้าที่ปล่อยจากเขื่อนให้ประโยชน์ต่อ
การเพาะปลูกพืช บริเวณสองฝั่งแม่น้าในตอนล่าง เป็นผลให้พื้นที่ประมาณ 100,000
ไร่ ในเขตท้องที่ตาบลตาขุน อาเภอคีรีรัฐนิคม และอาเภอพุนพิน สามารถทานาปรัง
และปลูกพืชในฤดูแล้งได้ผลดี บรรเทาอุทกภัย การกักเก็บน้าของเขื่อนในฤดูฝน จะ
ช่วยลดความรุนแรงของสภาวะน้าท่วมในพื้นที่ตอนล่างได้เป็นอย่างดี
การประมง อ่างเก็บน้าของเขื่อนรัชชประภาเป็นแหล่งประมงน้าจืดที่สาคัญ
ทุกๆ ปี การไฟฟ้ าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ปล่อยพันธุ์ปลาและกุ้งเป็นจานวนมาก
ลงไปในอ่างเก็บน้า สามารถให้ผลผลิตทางด้านการประมงเฉลี่ยปีละ 300 ตัน ซึ่งเป็น
การส่งเสริมรายได้ให้กับราษฎรในพื้นที่ได้อีกทางหนึ่