More Related Content
More from อลงกรณ์ อารามกูล
More from อลงกรณ์ อารามกูล (20)
คู่มือ ซ่อม สร้าง สู้ หลังน้ำลด
- 3. ถ้ามองดีๆ มองให้ลึกซึ้งแล้วพิจารณาเรื่องวิกฤตการณ์น้ำ�ท่วม
ครั้งนี้ เราทุกคนคงต้องขอบคุณเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ซึ่งหลายคนบอกว่าร้ายแรงที่สุดตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน
แต่ในวันนี้ก็ทำ�ให้เรา “ได้” อะไรมากมาย ที่หาไม่ได้อีกแล้วในชีวิต
ข้อแรกคือ เราได้เข้าใจโลกเข้าใจธรรมมากขึ้น ได้พัฒนาอย่างลึกซึ้ง
และสามารถนำ�ไปปฏิบัติแล้วได้ผลมากขึ้น เราจะเห็นเลยว่าธรรมชาติของโลก
ที่เราเข้าใจมากขึ้นก็คือว่า ธรรมชาติของโลกทุกอย่างเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์เป็นเรื่อง
เดียวกัน ทุกเรื่องไม่สามารถที่จะแยกส่วนใดส่วนหนึ่งออกจากกันได้ และไม่
สามารถที่จะดึงส่วนนี้มาเติมส่วนนั้นได้ ทุกอย่างเกี่ยวเนื่องกัน
หลายคนคงเคยได้ยินคำ�ที่คนทั่วโลกเขาพูดกันอย่างเช่น การที่ “ผีเสื้อ
กระพือปีกจากซีกโลกหนึ่ง แต่กระทบถึงอีกซีกโลกหนึ่ง” หรือแม้แต่การ “เด็ด
ดอกไม้แต่สะเทือนถึงดวงดาว” บางทีคนอาจจะนึกไม่ถึงว่าเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
แบบนี้จะมีผลที่ต่อเนื่องกันขนาดนั้นหรือ
แต่วันนี้เราได้เห็นกันแล้วว่า ทั่วโลกล้วนเกิดเหตุการณ์ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน
เมื่อไหร่ก็ตามที่มันมีฟันเฟืองใดฟันเฟืองหนึ่งเกิดความไม่สมดุล มันจะเกิดปัญหา
กระทบกับอีกฝั่งหนึ่งทันที ซึ่งวันนี้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกยอมรับกันแล้วว่า เป็น
เช่นนั้นจริงๆ และพยายามบอกและหาหนทางแก้ไขในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน
ถ้าเกิดเรามองว่ามนุษย์เราเป็นฟันเฟืองหนึ่ง เราเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง
ของจักรวาล แล้วต้องการให้ธรรมชาติมารับใช้มนุษย์ เราก็เลยมองธรรมชาติเป็น
รูปของตัวเลข เป็นรูปของตัวเงินต่างๆ ทั้งที่ดิน ต้นไม้ ใบหญ้า แม้กระทั่งผืน
ฟ้า ผืนน้ำ�ต่างๆ อวกาศ ทุกอย่างตีเป็นตัวเลข
- 4. มนุษย์มีความต้องการที่ไม่มีที่สิ้นสุด พอได้แล้วก็ต้องการ
มากขึ้น มากขึ้น มากขึ้นไปตามความอยากที่เพิ่มพูนไม่มีสิ้นสุด
เพราะฉะนั้นเราก็ไปทำ�ร้ายธรรมชาติโดยไม่ได้ตั้งใจหรือตั้งใจเราก็ไม่ทราบ
แต่สุดท้ายเราก็คงเห็นแล้วว่า เมื่อธรรมชาติขาดความสมดุลเพราะน้ำ�มือของพวก
เรา ก็ถึงเวลาแล้วที่ธรรมชาติจะเอาคืน เพราะความไม่สมดุล อะไรที่เคยเป็นตาม
ฤดูกาลตามธรรมชาติก็ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ในบ้านเราสิ่งที่ไม่เคยเห็นก็เกิดขึ้น
มาแล้วทั้งคลื่นยักษ์สึนามิ น้ำ�ท่วมใหญ่ แผ่นดินไหว
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะตระหนักถึงผลร้ายที่เราทำ�ลายธรรมชาติ ถึง
เวลาหรือยังที่เราต้องใส่ใจกับธรรมชาติ และช่วยกันคนละไม่คนละมือเพื่อนำ�
ธรรมชาติกลับคืนสู่ความสมดุล ถึงเวลาหรือยังที่เราจะเข้าใจว่า “ธรรมชาติเอาคืน”
ข้อที่สอง วิกฤตครั้งนี้ได้สอนพวกเราทุกคนให้เข้มแข็งขึ้น ทั้งเรื่องกาย
เรื่องใจ เรื่องความคิดต่างๆ เราเข้มแข็งขึ้นหลังจากผ่านวิกฤตนี้ พวกเราทุกคน
ได้มีโอกาสเรียนรู้ และเพิ่มศักยภาพของตัวเองจากการปรับตัวในสถานการณ์ที่
ไม่ปกติ หรือจะเรียกว่า “วิกฤต” ได้มากขึ้น
หากเรามี “สติ” มองทุกมุมอย่างเข้าใจ เราทุกคนก็จะแข็งแกร่งมากขึ้น
เราก็สามารถรับมือได้ดีขึ้นในทุกครั้ง เราได้เห็นหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของคนไทย ของ
คนรอบข้าง ของเพื่อนบ้าน ญาติพี่น้อง เห็นการ “ให้” ในรูปแบบต่างๆ เห็น
ถึงหัวใจที่แท้จริงของการไม่ทอดทิ้งกันเมื่อยามมีภัย อันเป็นคุณลักษณะพิเศษที่
ทำ�ให้คนไทยไม่เหมือนชนชาติใดในโลก
ท่านพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่านมีคำ�สอน
หลายเรื่องที่น่าจะนำ�มาปรับใช้กับสถานการณ์ปัจจุบันและที่อาจจะเกิดขึ้นอีกใน
อนาคต ท่านบอกว่าในวิกฤตครั้งนี้สอนให้เราเข้าใจชีวิต และยังมีข้อดีอย่างน้อย
2 ประการคือ สอนใจเรา และฝึกใจเรา
- 5. สอนใจเรา ให้ตระหนักถึงความจริงของชีวิตซึ่งมีความผันผวนปรวนแปร
เป็นนิจ เช่น ของหายก็สอนใจเราว่าความพลัดพรากจากของรักเป็นเรื่องธรรมดา
ไม่มีอะไรที่จะอยู่กับเราหรือเป็นของเราได้อย่างยั่งยืน
ฝึกใจเรา ในวิกฤตครั้งนี้ฝึกใจให้ไม่ประมาท ระมัดระวัง เพื่อป้องกันมิให้
เหตุร้ายเกิดขึ้นอีก หรือฝึกใจให้ปล่อยวางเพื่อรับมือกับเหตุร้ายที่แรงกว่าในอนาคต
เหตุการณ์แย่ๆ นั้นจะช่วยฝึกใจเราให้มั่นคงเข้มแข็ง เพราะต้องเจออะไรต่ออะไร
อีกมากมายในวันข้างหน้า อีกทั้งยังฝึกให้เราฉลาดและมีประสบการณ์มากขึ้น
สุดท้ายท่านเมตตาให้ข้อคิดว่า
“อย่าลืมว่าคนเราเรียนรู้จากความล้มเหลวได้มากกว่าความ
สำ�เร็จ”
ในขณะเดียวกันท่านว.วชิรเมธี ท่านก็มอบคมความคิด คติธรรมแก่คน
ไทยเพื่ออยากเห็นทุกคนมี “สติ” และเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่า
“น้ำ�ไหลมาอย่าให้ใจไหลไป ความทุกข์ยิ่งใหญ่ไม่อยู่ยืนยาว อยู่
ใต้ฟ้าอย่ากลัวฝนพราว ตะวันสกาวความทุกข์จะคลาย ปัญหาคือยา
วิเศษ รู้จักสังเกตปัญหาจะหาย...”
หรือแม่แต่คุณตัน ภาสกรนที ที่ในช่วงแรกๆ เขาเป็นคนที่ออกแรงกาย
แรงใจ แรงทรัพย์ในการเข้าช่วยเหลือคนที่ประสบภัยอย่างเข้มแข็ง แต่แล้วในวัน
หนึ่งเขาก็กลายเป็นผู้ประสบภัยรายใหญ่เสียเอง โรงงานน้ำ�ดื่มของเขาจมไปกับ
น้ำ�ที่ไหลบ่าท่วมจนทรัพย์สินเสียหายหลายพันล้านบาท แต่ด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้
เขาก็ยังยิ้มได้ และยังส่งผ่านกำ�ลังใจไปถึงทุกคนที่อยู่ในชะตากรรมเดียวกับเขาว่า
- 6. “ทุกครั้งที่เกิดความเสียหาย มันเกิดการเรียนรู้ครั้งใหม่เสมอ
ผมโดนก่อน อีกมุมหนึ่งผมอาจจะโชคร้าย อีกมุมคือผมได้เรียนรู้ใหม่
ตราบใดที่เรายังไม่เสียชีวิต ยังมีลมหายใจ ขอให้เราเชื่อมั่น ศรัทธา
และมีความหวัง”
วันนี้วิกฤตนั้นได้ผ่านไปแล้ว พร้อมกับได้มอบสิ่งล้ำ�ค่าที่หลายท่านบอกว่า
มากกว่าการสูญเสียไป
ในวันข้างหน้าแม้เกิดวิกฤตอีกกี่ครั้ง ก็เชื่อว่าเราคนไทยทุกคน
คงรับมือผ่านไปได้สบายและมีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น มีอนาคตที่ดีขึ้นหลัง
จากวิกฤตทุกครั้ง
หนังสือเล่มนี้เกิดขึ้นมาจากหัวใจที่อยากส่งต่อให้อีกหลายหัวใจได้รับรู้ ได้
สัมผัสถึงความห่วงใย และได้รวบรวมเทคนิคต่างๆ ในการฟื้นฟูซ่อมแซมบ้าน
แบบง่ายๆ ด้วยตัวเองที่พยายามจะให้ครอบคลุมหมดทุกด้านจากท่านผู้เชี่ยวชาญ
ในด้านต่างๆ มากที่สุดที่ต้องกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงทุกท่าน
เพื่อให้พี่น้องและเพื่อนๆ ทุกท่านได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่หลังจากวิกฤต
นี้ผ่านไปแล้วเท่าที่จะสามารถทำ�ได้ หากมีข้อผิดพลาดไม่ว่าเรื่องใด ก็ขอกราบ
ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
ขอเป็นกำ�ลังใจให้กับทุกท่านด้วยความปรารถนาดี
คณะผู้จัดทำ�
- 7. ส า ร บั ญ
น้ำท่วมแล้ว น้ำลดแล้ว บ้านมีปัญหา เริ่มต้นที่ไหนดี
ตรวจสอบระบบไฟฟ้าหลังน้ำท่วม
ตรวจสอบระบบประปาหลังน้ำท่วม
เช็กนอกบ้าน สังเกตรอบบ้านก่อนเข้าบ้าน
เช็กในบ้าน โครงสร้างอาคารบ้านเรือนสำคัญมาก
ต้องเช็กให้ดี!
จัดการผนัง ประตู หน้าต่าง พื้น ฟ้า หลังน้ำลด!
- ซ่อมผนังบ้านหลังน้ำ�ท่วม
- ซ่อมแซมสีทาบ้านหลังน้ำ�ท่วม
- การซ่อมแซมประตูหลังน้ำ�ท่วม
- การซ่อมแซมบานพับ ลูกบิด และรูกุญแจหลังน้ำ�ท่วม
- ซ่อมพื้นไม้ปาเก้หลังน้ำ�ท่วม
- พื้นหลังน้ำ�ท่วม ทั้งพรมทั้งกระเบื้อง
ทั้งหินอ่อนหินขัด สกปรกจัง
- การซ่อมแซมฝ้าเพดานบ้านหลังน้ำ�ท่วม
- วิธีการซ่อมกระเบื้องมุงหลังคาหลังน้ำ�ท่วม
- บันไดผุเพราะน้ำ�ท่วม พื้นก็ผุเพราะน้ำ�ท่วม ซ่อมอย่างไร?
11
17
21
25
31
37
- 8. เรื่องส้วม ส้วม…
การทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์
และของตกแต่งในบ้านล่ะทำอย่างไร
- การซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์หลังน้ำ�ท่วม
- ดูแลซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์หลังน้ำ�ท่วม
- วิธีซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์โซฟาหลังน้ำ�ท่วม
- ทำ�ความสะอาดเตียงนอนหลังน้ำ�ท่วม
- ทำ�ความสะอาดพรมหลังน้ำ�ท่วม
- ที่นอน เตียง หมอน และผ้าห่มที่ถูกน้ำ�ท่วม
- การซ่อมวอลล์เปเปอร์หลังน้ำ�ท่วม
- ขจัดเชื้อโรคเชื้อราหลังน้ำ�ท่วม
ตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าและรถยนต์หลังน้ำท่วม
- การปฏิบัติต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าหลังน้ำ�ท่วม
- เบื้องต้นเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า
- ซ่อมตู้เย็นหลังน้ำ�ท่วม
- ซ่อมพัดลมหลังน้ำ�ท่วม
- ซ่อมเครื่องปรับอากาศหลังน้ำ�ท่วม
- ซ่อมโทรทัศน์ เครื่องเล่นวิดีโอ เครื่องเล่นดีวีดี
วิทยุ และเครื่องเสียงหลังน้ำ�ท่วม
- มือถือตกน้ำ�
- การล้างทำ�ความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้า
- การช่วยชีวิตผู้ถูกไฟดูด
- หลังน้ำ�ท่วมรถ ทำ�อย่างไร?
47
51
63
- 9. หน่วยงานที่ให้บริการและให้ความช่วยเหลือ
- การประปา
- การไฟฟ้า
- องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย
- วิศวกรอาสา
- วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (ว.ส.ท.)
แหล่งเงินกู้ และโครงการที่ให้ความช่วยเหลือ
ด้านการเงิน / โครงการพักชำระหนี้
- เปิดแพ็กเกจแบงก์ “พักชำ�ระหนี้” ช่วยผู้ประสบภัยน้ำ�ท่วม
- ธนาคารไทยพาณิชย์
- ธนาคารธนชาต
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์
- ธนาคารกรุงไทย
- ธนาคารกสิกรไทย
- ธนาคารกรุงเทพ
- บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำ�กัด (บสก.)
- 8 แหล่งเงินกู้ พร้อมรับมือหลังน้ำ�ท่วม
- แบงก์แข่งปล่อยดอก 0% ซ่อมแซมบ้านหลังน้ำ�ลด
ภาคผนวก
“รู้ไว้ให้ดี Flood นี้ไม่ได้น่ากลัว (อย่างที่คิด)”
- ก่อนน้ำ�มาต้องทำ�อย่างไร
- หากต้องผจญน้ำ�ท่วม
81
85
98
- 12. ความทุกข์ยากลำ�บากฉากแรกกำ�ลังจะผ่านไป
หลังน้ำ�ลด แต่ความทุกข์ใหม่กำ�ลังเข้ามาแทนที่ เพราะสภาพ
ของบ้านอันถือว่าเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ของเรามีสภาพที่น่าอึดอัด
น่าอันตราย และเป็นรอยแผลที่หลายคน อยากจะเมินหน้าหนี หาก
คิดจะแก้ปัญหาบ้านหลังน้ำ�ท่วมเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่าปัจจุบัน
(แม้ไม่สามารถจะเปรียบเทียบให้เท่ากับอดีต) จึงขอแนะนำ�ว่าน่าจะ
เริ่มต้น ดังนี้
1. อย่าซีเรียสว่า “ทำ�ไมน้ำ�ถึงท่วม” ราชการหรือรัฐบาลไป
อยู่ที่ไหน เพื่อนๆ ในถิ่นอื่น ทำ�ไมบ้านเขาน้ำ�ไม่ท่วม? ฯลฯ เพราะ
นั่นไม่ใช่แนวทางแก้ปัญหา “บ้านหลังน้ำ�ท่วม”
ซ่อม.สร้าง.สู้
คู่ มื อ ซ่ อ ม แ ซ ม ฟึ้ น ฟู บ้า น ห ลั ง น้ำ� ล ด ด้ ว ย ตั ว เ อ ง แ บ บ บู ร ณา กา ร 12
2. ทำ�การตรวจสอบด้วยจิตอันบริสุทธิ์ว่าบ้านเราเกิดปัญหา
ใดเพิ่มขึ้นบ้าง เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนน้ำ�ท่วม เช่น รั้วเอียง ปาเก้
ล่อน แมลงสาบหายไปไหน ค่าไฟเพิ่ม ฯลฯ และทำ�บันทึกไว้เป็น
ข้อๆ ให้อ่านง่ายจดจำ�ง่าย (ภาษาฝรั่งเขาเรียกว่าทำ� “Check-List”)
3. ถามตนเองว่าสภาพการเงินเราเป็นอย่างไร มีเงินจะใช้
สำ�หรับการซ่อมแซมเท่าไร (รวมถึงการกู้ยืมแหล่งอื่น แต่ไม่รวมการ
โกงบ้านกินเมือง) จะได้วางแนวทางการจ่ายเงินอย่างมีขีดจำ�กัดและ
มีความเป็นไปได้
16 ข้อปฏิบัติความปลอดภัยในการสำรวจบ้านเรือนหลัง
น้ำท่วม
น้ำ�ท่วมมีแนวโน้มที่จะลดลงแล้วในหลายๆ จังหวัด หลายๆ
คนคงใจจดใจจ่อที่จะกลับเข้าบ้านตัวเองเพื่อสำ�รวจความเสียหายที่
- 13. 13
เกิดขึ้น และเริ่มเตรียมการฟื้นฟูบูรณะส่วนต่างๆ ให้กลับคืนดังเดิม บทความ
ของผมในตอนนี้จะให้ข้อระวังในเรื่องความปลอดภัยเมื่อท่านต้องก้าวเข้าสู่บ้าน
ของท่านเป็นครั้งแรกหลังจากน้ำ�ท่วม เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง
ข้อที่ 1 รอให้น้ำ�ลดลงเสียก่อนจึงเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน อย่าเข้าบ้าน
ในขณะที่ระดับน้ำ�ยังสูงอยู่
ข้อที่ 2 เตรียมดินสอ ปากกา กระดาษ กล้องถ่ายรูป อุปกรณ์ช่างต่างๆ เช่น
ไขควง ตลับเมตร ท่อนไม้แห้ง ท่อพีวีซี เพื่อจดหรือบันทึกความเสียหายต่างๆ
ข้อที่ 3 เข้าสำ�รวจบ้านในเวลากลางวันที่มีแสงสว่างเพียงพอเท่านั้น
ข้อที่ 4 สวมรองเท้าบู๊ตหรือรองเท้าเซฟตี้ และสวมหมวกเซฟตี้ เพื่อป้องกัน
เศษแก้ว ตะปู และของมีคมต่างๆ ที่น้ำ�พัดพาเข้ามาอยู่ในบ้านของท่าน
ข้อที่ 5 ก่อนเดินเข้าบ้านให้เดินสำ�รวจรอบๆ บ้านเสียก่อน และเคลื่อนย้าย
เศษสิ่งของต่างๆ ที่เกะกะออกไปให้พ้นทาง
ข้อที่ 6 อย่าลืมนำ�ไฟฉายติดตัวไปด้วยเมื่อต้องการแสงสว่างและเพื่อให้เห็น
สภาพภายในบ้านได้ชัดเจนขึ้น
ข้อที่ 7 สังเกตว่ามีกลิ่นแก๊สรั่วออกมาจากบ้านหรือไม่ และห้ามทำ�ให้เกิด
เปลวไฟหรือสูบบุหรี่เด็ดขาด เพราะอาจเกิดเพลิงไหม้ตามมา
ข้อที่ 8 สังเกตสายไฟที่อาจจะห้อยร่วงลงมาในน้ำ� หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีน้ำ�
ขังอยู่ เนื่องจากน้ำ�เป็นสื่อไฟฟ้า อาจทำ�ให้ไฟดูดเป็นอันตรายต่อชีวิตได้
ข้อที่ 9 เมื่อเข้ามาภายในบ้าน ห้ามยกสะพานไฟขึ้นหรือเปิดแก๊สเด็ดขาด
เนื่องจากไม่แน่ใจว่ามีสายไฟที่ห้อยลงมาแช่อยู่ในน้ำ�หรือไม่ หากต้องการแสงสว่าง
ให้ใช้ไฟฉายเท่านั้น
ข้อที่ 10 หากสังเกตเห็นสะพานไฟหรือเซอร์กิตเบรกเกอร์เปิดอยู่ ต้องปิด
โดยเร็ว โดยให้ยืนอยู่ในจุดที่แห้งแล้วใช้ไม้แห้งหรือท่อพีวีซีเป็นอุปกรณ์ในการโยก
คันเบรกเกอร์ลง หากไม่แน่ใจอย่าเสี่ยงทำ�เอง ควรเรียกช่างไฟฟ้ามาดำ�เนินการ
- 14. ข้อที่ 11 ระวังกรณีที่น้ำ�ท่วมสูงถึงฝ้าเพดาน ฝ้าเพดานที่อุ้มน้ำ�จะมีน้ำ�หนัก
มากและมีโอกาสร่วงลงมาทับเราได้ ในกรณีเช่นนั้นให้ใช้ไม้แหลมๆ เจาะฝ้าเป็น
ระยะๆ เพื่อให้น้ำ�ไหลออกมา จะได้ลดน้ำ�หนักของฝ้าเพดาน
ข้อที่ 12 ระวังพื้นลื่น เวลาเดินอาจลื่นหกล้มได้ เนื่องจากพื้นอาจมีคราบ
โคลนที่ติดอยู่และยังไม่แห้งดี ทำ�ให้ลื่นได้ง่าย
ข้อที่ 13 เมื่อเข้าไปภายในบ้านแล้วให้เปิดประตูและหน้าต่างออกให้หมด
เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้อย่างสะดวก เป็นการช่วยกำ�จัดความชื้นภายในบ้าน และ
ขจัดแก๊สต่างๆ ที่ไม่พึงปรารถนาออกไป
ข้อที่ 14 ระวังสัตว์เลื้อยคลานต่างๆ เช่น งู ตะขาบ หรือแม้กระทั่งจระเข้
ซึ่งอาจหนีน้ำ�เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านด้วย
ซ่อม.สร้าง.สู้
คู่ มื อ ซ่ อ ม แ ซ ม ฟึ้ น ฟู บ้า น ห ลั ง น้ำ� ล ด ด้ ว ย ตั ว เ อ ง แ บ บ บู ร ณา กา ร 14
ข้อที่ 15 หลีกเลี่ยงหรืออย่าเข้าใกล้โครงสร้างที่แตกร้าวเสียหาย เพราะ
อาคารเหล่านั้นอาจถล่มลงมาได้ทุกเมื่อ ควรปรึกษาวิศวกรโดยด่วนหากพบรอย
แตกร้าวในโครงสร้างอย่างรุนแรง
ข้อที่ 16 หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อแนะนำ�ในการเข้าตรวจสอบอาคาร
ควรติดต่อโครงการวิศวกรอาสาของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ดูรายละเอียด
ที่ http://www.eit.or.th
ข้อมูลจาก : รศ.ดร.อมร พิมานมาศ
สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- 18. ขณะน้ำ�ท่วมทุกบ้านคงจะปิดวงจรไฟฟ้าหรือ
คัตเอาท์ทั่วทั้งบ้านทำ�ให้ไม่มีกระแสไฟฟ้าเดินในระบบ ซึ่งลด
อันตรายแก่ผู้อยู่อาศัยและแก้ปัญหาจากไฟฟ้าลัดวงจรได้อย่างแน่นอน
แต่เมื่อน้ำ�ลดลงควรตรวจสอบระบบไฟฟ้าในบ้านของท่านดังนี้ครับ
• เปิดคัตเอาท์ให้มีกระแสไฟฟ้าเข้ามา ถ้าปลั๊กหรือจุดใดจุด
หนึ่งในระบบยังเปียกชื้นอยู่ คัตเอาท์จะตัดไฟและฟิวส์จะขาด ให้
เปลี่ยนฟิวส์แล้วทิ้งไว้ 1 วันให้ความชื้นระเหยออกไปแล้วลองทำ�ใหม่
หากยังเป็นเหมือนเดิมคงต้องตามช่างไฟมาแก้ไขดีกว่าเสี่ยงชีวิตครับ
ซ่อม.สร้าง.สู้
คู่ มื อ ซ่ อ ม แ ซ ม ฟึ้ น ฟู บ้า น ห ลั ง น้ำ� ล ด ด้ ว ย ตั ว เ อ ง แ บ บ บู ร ณา กา ร 18
• เมื่อทดสอบผ่านขั้นตอนแรกไปแล้ว ลองทดสอบเปิดไฟฟ้า
ทีละจุดและทดสอบกระแสไฟฟ้าในปลั๊กว่ามาปกติหรือไม่ด้วยไขควง
ทดสอบไฟ หากทุกจุดทำ�งานได้ก็สบายใจได้ หากมีปัญหาอยู่ต้องรอ
ให้ความชื้นระเหยออกก่อน ถ้ายังมีปัญหาก็คงต้องตามช่างมาแก้ไข
หรือเปลี่ยนปลั๊ก/สวิตช์เหล่านั้นครับ
• ลองดับไฟทุกจุดในบ้าน ปลดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออก
ทั้งหมด แต่ยังเปิดคัตเอาท์ไว้แล้ววิ่งไปดูมิเตอร์ไฟฟ้าหน้าบ้านว่าหมุน
หรือไม่ หากไม่เคลื่อนไหวแสดงว่าไฟฟ้าในบ้านไม่น่าจะรั่ว แต่ถ้า
มิเตอร์หมุนแสดงว่าไฟฟ้าในบ้านท่านอาจจะรั่วได้ ให้รีบตามช่างไฟ
มาดูแลโดยเร็วครับ
- 19. 19
• หากพอมีงบประมาณสำ�หรับปรับเปลี่ยนระบบไฟฟ้าในบ้านของท่าน
แนะนำ�ให้ตัดปลั๊กไฟในระดับต่ำ�ๆ ในบ้านชั้นล่างออกให้หมด (ถ้าคิดว่าน้ำ�ท่วม
อีกแน่ๆ) แล้วปรับตำ�แหน่งปลั๊กไฟไปอยู่ที่ระดับประมาณ 1.10 เมตร หลังจาก
นั้นควรแยกวงจรไฟฟ้าออกเป็น 2-3 วงจรคือ
1. วงจรไฟฟ้าสำ�หรับบ้านชั้นล่าง (ที่น้ำ�อาจท่วมถึง)
2. วงจรไฟฟ้าสำ�หรับบ้านชั้นบนขึ้นไป (ที่น้ำ�ท่วมไม่ถึง)
3. วงจรสำ�หรับเครื่องปรับอากาศ
การกระทำ�ดังกล่าวจะทำ�ให้ท่านควบคุมการเปิด-ปิดวงจรไฟฟ้าในบ้านได้
อย่างอิสระ และง่ายต่อการซ่อมแซมบำ�รุงรักษาครับ
ที่มา : http://www.softbizplus.com/general/897-home-after-flood
- 22. เป็นอีกระบบที่มีความสำ�คัญเพราะเกี่ยวกับ
สุขอนามัยของผู้อยู่อาศัย มีแนวทางตรวจสอบ
ระบบประปาในบ้านหลังน้ำ�ท่วมดังนี้ครับ
• ถ้ามีบ่อเก็บน้ำ�ใต้ดินหรือถังเก็บน้ำ�ในระดับน้ำ�ท่วมถึง พึง
ระลึกเสมอว่าน้ำ�ที่ท่วมเป็นน้ำ�สกปรกเสมอ ดังนั้นควรล้างทำ�ความ
สะอาดถังน้ำ�และบ่อน้ำ�ให้สะอาดเพื่อความปลอดภัยของท่านและ
สมาชิกในบ้าน โดยไม่เสียดายน้ำ� แล้วจึงปล่อยน้ำ�ประปาใหม่ลงเก็บ
ไว้ใช้งานอีกครั้งหนึ่งครับ
ซ่อม.สร้าง.สู้
คู่ มื อ ซ่ อ ม แ ซ ม ฟึ้ น ฟู บ้า น ห ลั ง น้ำ� ล ด ด้ ว ย ตั ว เ อ ง แ บ บ บู ร ณา กา ร 22
• บ้านที่มีระบบปั๊มน้ำ�ควรตรวจสอบอุปกรณ์ปั๊มน้ำ�และถัง
อัดความดันว่าใช้งานได้เหมือนเดิมหรือไม่ โดยพิจารณาเสียงเครื่อง
ทำ�งาน ดูแรงดันน้ำ�ในท่อว่าแรงเหมือนเดิม (ก่อนน้ำ�ท่วม) หรือไม่
หลังจากนั้นตรวจสอบดูว่าถังอัดความดันทำ�ความดันได้ดีเหมือนเดิม
หรือไม่
• หากมีความผิดปกติควรตรวจสอบด้วยการแกะ แงะ ไข ว่า
มีเศษผง สิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันกีดขวางการทำ�งานของอุปกรณ์เหล่านี้
หรือไม่ หากปั๊มน้ำ�ที่บ้านท่านถูกน้ำ�ท่วมให้เดาไว้ก่อนว่าน่าจะเสียหาย
และหากใช้งานต่อไปเลยอาจเกิดอันตรายจากความชื้นในมอเตอร์ได้
ควรเรียกหาช่างมาทำ�ให้แห้งเสียก่อนตามกรรมวิธีทางเทคนิค (ที่ไม่ใช่
นำ�ไปตากแดดแบบเนื้อเค็ม) เพื่อลดความเสี่ยงจากเพลิงไหม้ในตัว
มอเตอร์ได้ครับ
ที่มา : http://www.softbizplus.com/general/897-home-after-flood
- 26. รั้วคอนกรีตที่แข็งแรง ต้องตรวจดูอะไรหลังน้ำลดไหม?
“น้ำ�” คือองค์ประกอบที่สำ�คัญที่สุดของธรรมชาติ และ
ธรรมชาติเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่มนุษย์จะไปท้าทายแข่งขัน รั้ว
คอนกรีตของท่านคงจะไม่สามารถฝืนกฎนี้ได้ ปัญหาที่อาจจะเกิด
กับรั้วของท่านก็เป็นเรื่องน้ำ�ท่วม ดินที่ฐานรั้วท่านอาจจะอ่อนตัวลง
ความสามารถในการรับน้ำ�หนักอาจจะน้อยลง หรือระดับที่ดินในบ้าน
กับนอกบ้านท่านมีระดับแตกต่างกัน ยามเมื่อน้ำ�ที่ท่วมลดลงอาจจะ
เกิดแรงดูดทำ�ให้รั้วของท่านเอียงไปก็ได้ หรือในขณะที่น้ำ�ท่วมรั้วของ
ท่านอาจต้องทำ�หน้าที่เป็น “เขื่อน” ที่ต้องรับน้ำ�หนักน้ำ�เป็นอย่างมาก
ความสามารถในการรับน้ำ�หนักและความแข็งแรงอาจลดลงไปได้
ดังนั้นเพื่อความมั่นใจกรุณาตรวจสอบและหาแนวทางแก้ไข ดังนี้
ซ่อม.สร้าง.สู้
คู่ มื อ ซ่ อ ม แ ซ ม ฟึ้ น ฟู บ้า น ห ลั ง น้ำ� ล ด ด้ ว ย ตั ว เ อ ง แ บ บ บู ร ณา กา ร 26
• ใช้สายตาของท่านเล็งดูว่ารั้วของท่านยังตั้งฉากอยู่ดีหรือ
ไม่ หากมีการเอียงเล็กน้อยก็เอาไม้ค้ำ�ยันด้านที่เอียงออกเอาไว้ก่อน
มีสตางค์เมื่อไรก็รีบซ่อมทันที
หากตรวจสอบแล้วปรากฏว่ารั้วของท่านเอียงมาก เอียงจน
แนวออกหรือจะออกนอกแนวศูนย์ถ่วง (C.G.) ต้องรีบซ่อมแซมทันที
(โดยช่างก่อสร้างที่พอจะมีความรอบรู้) หากยังไม่มีงบประมาณก็ต้อง
ค้ำ�ยันไว้อย่างแน่นหนามากๆ เพราะน้ำ�หนักรั้วที่แข็งแรงของท่านนั้น
หนักมาก (ไม่เชื่อลองไปนอนให้รั้วพังทับดูก็ได้ไม่ว่ากัน)
- 27. 27
หากรั้วของท่านมีคานคอดิน (คานตัวล่างสุดที่อยู่ใกล้ระดับดิน) รับน้ำ�หนัก
รั้วอยู่ พอน้ำ�ลดลง น้ำ�อาจพาดินใต้คานคอดินของท่านออกไปด้วย ก็จะเกิด
รูโพรงใต้คานรั้วของท่าน อันอาจเป็นเหตุให้สัตว์ต่างๆ เดิน-วิ่ง-มุด-เลื้อย เข้าไป
ในบ้านของท่านได้ หรือไม่ก็ทำ�ให้ดินของท่านไหลออกจากบ้านสู่ทางสาธารณะ
ไปเรื่อยๆ ภายหลัง (อันทำ�ให้ดินของท่านหมดสนาม และถนนสาธารณะต้อง
สกปรก) ก็ขอให้เติมดินอัดกลับเข้าไปให้คงเดิม
นอกจากจะตรวจดูที่รั้วบ้านแล้ว ท่านน่าจะต้องตรวจดูที่ประตูรั้วท่าน
ด้วย เพราะประตูส่วนใหญ่จะทำ�ด้วยเหล็กหรือไม้ (พวกอัลลอยด์ไม่ค่อยเป็นอะไร
ยกเว้นบริเวณบานพับหรือกลอนที่อาจจะทำ�ด้วยเหล็ก) อาจมีอาการผุกร่อนได้
ทำ�ให้บานประตูไม่สามารถปิดได้เหมือนเดิมหรืออาจจะหลุดออกมาทั้งบาน ฉะนั้น
จึงควรทำ�การผูกรัดให้แข็งแรงเสีย มีเงินเมื่อไรอย่าลืมควักออกมาซ่อมแซมก็แล้วกัน
ช่วยด้วย ต้นไม้กำลังจะตายกันหมด
น้ำ�ท่วมคราวนี้คร่าชีวิตต้นไม้ไปมากมาย ทั้งพืชทางเศรษฐกิจและพืชที่
เราปลูกกันไว้ในบ้าน หากบ้านใดน้ำ�ท่วมเป็นเวลานาน ต้นไม้ต้นหญ้าขนาดเล็ก
จะต้องตายหมดแน่นอน แนวทางการแก้ไขก็คือ ต้องเริ่มต้นปลูกกันใหม่ (ต้นไม้
เขาตายไปแล้ว เรามิใช่เทวดาที่จะเรียกให้เขาฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้) แต่ต้นไม้บาง
ต้นที่ยังไม่ถึงที่แต่ก็กำ�ลังจะถึงที่ตาย มีแนวทางที่เราจะช่วยเหลือเยียวยาเขาได้
ลองทำ�ดังนี้ดูนะครับ
ห้ามให้ปุ๋ยเด็ดขาด (ทั้งปุ๋ยวิทยาศาสตร์ ปุ๋ยธรรมชาติ) เพราะน้ำ�ท่วม
ทำ�ให้รากต้นไม้อ่อนแอ เขาต้องการเวลาพักฟื้นตัว ไม่ใช่ต้องการปุ๋ย (อย่างคน
อาการโคม่า ย่อมไม่ต้องการรับประทานสเต็กเนื้อสันฉันนั้น)
- 28. วิธีการที่ถูกก็คือ ขุดหลุมเล็กขนาดลึกสัก 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร
ไว้ข้างๆ ต้นไม้นั้น เพื่อให้น้ำ�ที่ขังอยู่บริเวณรากไม้ไหลลงสู่หลุมที่เราขุด เป็นการ
ช่วยอาการรากสำ�ลักน้ำ�ได้ แล้วก็คอยเอาเครื่องดูดน้ำ�เล็กๆ (ภาษาชาวบ้านเรียก
เจ้าเครื่องนี้ว่า “ไดโว่” ราคาประมาณสองถึงสามพันบาท) คอยสูบน้ำ�ออก แต่
หากไม่มีกะตังค์จะซื้อเครื่องสูบน้ำ�นี้ ก็ต้องออกแรงขุดหลุมกว้างหน่อย (อย่ากว้าง
มาก จนต้นไม้เขาล้ม) แล้วใช้ขันหรือถังค่อยๆ เอื้อมมือตักน้ำ�ออก
หากเห็นว่ารากต้นไม้ไม่แข็งแรงเพียงพอที่จะยึดลำ�ต้นเอาไว้ กรุณาอย่า
อัดดินลงไปให้แน่นเป็นอันขาด ต้นไม้เขาจะรีบๆ ตายทันที ให้ใช้วิธีดามหรือ
ค้ำ�ยันลำ�ต้นเอาไว้แทน รอจนรากเขาแข็งแรงเหมือนเดิมแล้วจึงเอาไม้ดามไม้ค้ำ�ยัน
ออก
งูเงี้ยวเขี้ยวขอ ตะกวดแย้ มังกรกิ้งกือ
หนีน้ำมาอยู่เต็มบ้านเลย ทำไงดี?
ซ่อม.สร้าง.สู้
คู่ มื อ ซ่ อ ม แ ซ ม ฟึ้ น ฟู บ้า น ห ลั ง น้ำ� ล ด ด้ ว ย ตั ว เ อ ง แ บ บ บู ร ณา กา ร 28
กรณีมีสัตว์ที่เราไม่พึงประสงค์เข้ามาอยู่ในบ้านของเรา คงจะต้องค่อยๆ
แยกประเภทสัตว์ต่างๆ ตามประเภทเสียก่อน เพราะสัตว์เหล่านั้นไม่มีสูตรสำ�เร็จ
ที่จะจัดการให้หมดไปได้ด้วยวิธีเดียวกัน ซึ่งอาจจะแยกเป็นประเภทและการ
ดำ�เนินการได้ ดังนี้
• สัตว์เลื้อยคลานที่มีขนาดใหญ่พอควร ทั้งที่มีพิษและไม่มีพิษ เช่น งู
ตะกวด จระเข้ ฯลฯ อะไรทำ�นองนี้ อย่าพยายามไปจับหรือจัดการเอง ทำ�การ
ป้องกันบ้านและป้องกันตัวไม่ให้พวกเขามาทำ�อันตรายเรา (เราในที่นี้หมายถึงสัตว์
เลี้ยงแสนรักของเราด้วยนะครับ) ให้ติดต่อหน่วยราชการอาสามาจัดการสัตว์ร้าย
เหล่านี้แทน
- 29. 29
• สัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็กที่ไม่มีพิษ เช่น กิ้งกือ ไส้เดือน กิ้งก่า จิ้งเหลน
ฯลฯ ก็ปล่อยเขาไว้ได้ บางท่านอาจจะรังเกียจ แต่ก็ควรทนเอาเขาไปปล่อยในที่
ที่สมควรปล่อย (ไม่รบกวนใคร) จะดีกว่า หรืออาจจะปล่อยเขาเอาไว้เฉยๆ ก็ได้
ไม่นานเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเขาก็จะหายไปเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากเขาเข้ามาใน
ตัวบ้านเราโดยผ่านทาง “รู” ต่างๆ ในบ้านเรา ก็ต้องจัดการเอาเขาออกไปนะครับ
• แมลงต่างๆ ตั้งแต่ยุง แมงมุม ฯลฯ หรือแม้แต่มด ต้องไม่ให้เข้ามา
ในบ้านเรา ต้องพยายามปิดประตูหน้าต่างหรือปิดรูให้ดีเท่าที่จะทำ�ได้ และคง
ต้องจัดการให้หมดไปตามปกติธุระ
• แมลงพิเศษ อาทิ “ปลวก” ตอนนี้เขาคงยังไม่มา แต่อาจจะมาในอนาคต
ได้ ตอนนี้ยังไม่ต้องจัดการอะไร แต่พึงระวังไว้ว่า เมื่อน้ำ�ลดไปไม่นานจะต้องมี
การป้องกันปลวกให้ดี เพราะโอกาสที่เขาจะมามีมากพอควรเลยครับ
• สัตว์เลี้ยงหรือสัตว์ที่ไม่เป็นอันตรายที่หลงทางมา เช่น สุนัข แมว
หรือแม้กระทั่งวัว ควาย ก็น่าจะดูแลเขาในระยะแรกก่อน เพราะชีวิตเขาก็คง
ลำ�บากอยู่เหมือนกันในขณะน้ำ�ท่วม แล้วหลังจากนั้นค่อยพิจารณาว่าเราจะต้อง
ทำ�อย่างไรต่อไป (เช่น หาเจ้าของเดิม หาเจ้าของใหม่ ฯลฯ) อย่าเพิ่งไล่เขาออก
ไปไหนเลย ถือว่าทำ�บุญสร้างบุญกันครับ
- 32. ตรวจสอบโครงสร้างจาก 7 ประเด็น
ความปลอดภัย “โครงสร้างอาคาร” หลังน้ำท่วม
ภายหลังจากที่น้ำ�ท่วมลดลงแล้ว ภารกิจแรกๆ ที่ทุกคนคงจะ
ต้องรีบเร่งจัดการคือการเข้าไปตรวจสอบความเสียหายของทรัพย์สิน
ที่อยู่ภายในบ้าน ตลอดจนทำ�ความสะอาดและบูรณะให้กลับคืนมาดัง
เดิม สำ�หรับประชาชนทั่วไปซึ่งอาจจะไม่มีความรู้ทางช่าง บทความ
ในตอนนี้ผมจะอธิบายความเสียหายและสภาพโครงสร้างของอาคาร
ของท่าน ตลอดจนข้อแนะนำ�เกี่ยวกับความปลอดภัยหากต้องการ
เข้าไปสำ�รวจบ้านเรือนภายหลังน้ำ�ท่วม โดยได้อธิบายเป็นราย
ประเด็น 7 ประเด็นเพื่อให้เกิดความเข้าใจต่อไป
ซ่อม.สร้าง.สู้
คู่ มื อ ซ่ อ ม แ ซ ม ฟึ้ น ฟู บ้า น ห ลั ง น้ำ� ล ด ด้ ว ย ตั ว เ อ ง แ บ บ บู ร ณา กา ร 32
ประเด็นที่ 1 โครงสร้างอาคาร เช่น ตึกแถว อาคาร
พาณิชย์ บ้านจัดสรรมีความแข็งแรงต่อการต้านทานแรงดัน
น้ำได้แค่ไหน?
ปกติแล้วโครงสร้างบ้านเรือนที่ก่อสร้างจากคอนกรีตจะ
ค่อนข้างแข็งแรงกว่าบ้านเรือนที่ก่อสร้างด้วยไม้ เนื่องจากมีการเสริม
เหล็กเส้นอยู่ข้างใน ดังนั้นหากเป็นอาคารที่ก่อสร้างจากคอนกรีตและ
มีการออกแบบและก่อสร้างอย่างถูกต้องตามมาตรฐานทางวิศวกรรม
แล้ว ก็ค่อนข้างจะแน่ใจได้ระดับหนึ่งว่า จะสามารถต้านแรงดันน้ำ�
ในระดับความสูงไม่เกิน 2 เมตรโดยไม่ทำ�ให้โครงสร้างเสียหาย
รุนแรงหรือพังทลาย แต่หากอาคารก่อสร้างมาไม่ถูกต้องตามหลัก
ทางวิศวกรรม เช่น เสามีขนาดเล็กหรือเสริมเหล็กน้อยเกินไปก็
อาจจะพบความเสียหายได้ และหากเป็นบ้านเรือนที่ก่อสร้างจากไม้
ความแข็งแรงจะน้อยกว่าบ้านคอนกรีต และมีโอกาสจะพบความ
เสียหายได้มากกว่าอาคารคอนกรีต
- 33. 33
ประเด็นที่ 2 โครงสร้างส่วนใดของอาคารมีโอกาสที่จะได้รับความ
เสียหายจากน้ำท่วมได้มาก?
ผมมองว่าพวกผนังอิฐก่อและพื้นชั้นล่างของอาคารที่จมอยู่ในน้ำ�จะเป็น
ส่วนที่ได้รับความเสียหายมากกว่าส่วนอื่นๆ เนื่องจากผนังและพื้นมีพื้นที่ปะทะน้ำ�
มากกว่า ทำ�ให้ต้องแบกรับแรงดันน้ำ�ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคานและเสา ลองคิดดู
ง่ายๆ น้ำ�ที่สูง 1 เมตรจะมีแรงดันถึง 1 ตันหรือ 1,000 กิโลกรัมต่อตารางเมตร
และหากสูง 2 เมตรก็จะมีแรงดันสูงถึง 2 ตันหรือ 2,000 กิโลกรัมต่อตารางเมตร
แต่ผนังอิฐหรือพื้นคอนกรีตเราไม่ได้ออกแบบให้ต้านแรงดันน้ำ�ได้สูงขนาดนั้น
เช่น ผนังอิฐส่วนใหญ่จะรับแรงดันได้ราวๆ 100-200 กิโลกรัมต่อตาราง
เมตร ส่วนพื้นคอนกรีตโดยทั่วไปจะออกแบบให้รับน้ำ�หนักได้ประมาณ 200-300
กิโลกรัมต่อตารางเมตรเท่านั้น ดังนั้นระดับน้ำ�ที่สูง 1-2 เมตร อาจจะทำ�ให้
กำ�แพงแตก พังทลาย หรือพื้นรับน้ำ�หนักมากเกินไปจนแอ่นตัวได้
โดยในช่วงแรกที่น้ำ�มาล้อมบ้านแต่ยังไม่ได้เข้ามาภายในบ้านจะมีแรงดันน้ำ�
ทางด้านล่างดันให้พื้นแอ่นตัวขึ้นจนพื้นแตก และถ้าเป็นพื้นไม้หรือพื้นสำ�เร็จที่
ไม่ได้เทคอนกรีตทับหน้า ก็อาจจะหลุดลอยน้ำ�ไปได้ แต่เมื่อน้ำ�ไหลเข้าไปภายใน
บ้านแล้วก็จะเกิดแรงดันน้ำ�ดันพื้นให้แอ่นลง เพื่อรักษาระดับแรงดันของน้ำ�ทั้งด้าน
ในและด้านนอกให้สมดุลกัน
ประเด็นที่ 3 คานกับเสามีโอกาสแตกร้าวเสียหายแค่ไหน?
คานกับเสาที่มีขนาดเล็กเกินไป เช่น เสาที่มีขนาดเล็กกว่า 20 เซนติเมตร
และอาคารบ้านจัดสรรที่นิยมใช้ชิ้นส่วนสำ�เร็จรูป อาจมีปัญหาที่รอยต่อระหว่าง
ชิ้นส่วนต่างๆ ที่นำ�มาประกอบกันเป็นโครงสร้างอาคาร คานกับเสาอาจจะได้
รับความเสียหาย โดยอาจสังเกตเห็นรอยแตกร้าวในคานและเสา แต่บางครั้ง
อย่าเพิ่งกลัวจนเกิดเหตุ
- 34. บางทีรอยแตกร้าวที่เห็นอาจปรากฏเฉพาะในส่วนที่เป็นผิวปูนฉาบเท่านั้น
โดยที่ตัวโครงสร้างจริงๆ อาจจะยังไม่เสียหายก็เป็นได้ ดังนั้นเพื่อความแน่ใจหาก
พบรอยแตกร้าวหรือเนื้อปูนกะเทาะออกมา ควรรีบปรึกษาวิศวกร ในกรณีที่ร้าย
แรงที่สุดคือหากเสามีขนาดเล็กไม่ได้มาตรฐานก็อาจหักจนเห็นเหล็กดุ้ง นอกจาก
นี้โครงสร้างเหล็กเสริมหรือที่แช่น้ำ�อยู่เป็นเวลานานก็อาจเกิดสนิมขึ้นได้เช่นกัน จึง
ต้องรีบซ่อมแซมมิฉะนั้นสนิมอาจลามจนแก้ไขไม่ทัน
ประเด็นที่ 4 ฐานรากของอาคารมีโอกาสได้รับความเสียหายมาก
น้อยแค่ไหน?
ฐานรากของอาคารเป็นส่วนที่จมอยู่ใต้น้ำ�โดยตรง จึงมีโอกาสที่จะเสียหาย
ซ่อม.สร้าง.สู้
คู่ มื อ ซ่ อ ม แ ซ ม ฟึ้ น ฟู บ้า น ห ลั ง น้ำ� ล ด ด้ ว ย ตั ว เ อ ง แ บ บ บู ร ณา กา ร 34
ได้มากกว่าโครงสร้างที่อยู่ข้างบนในทางวิศวกรรม ฐานรากมีอยู่สองชนิดคือ
“ฐานรากที่วางบนดิน” และ “ฐานรากที่วางบนเสาเข็ม” หากเป็นฐานรากที่วาง
บนดินมีโอกาสที่นํ้าซึ่งไหลผ่านไปจะกัดเซาะดินใต้ฐานรากได้
ดังนั้นภายหลังจากที่นํ้าลดแล้วก็อาจจะเห็นฐานรากซึ่งเคยฝังอยู่ใต้ดิน
โผล่ขึ้นมา ตรงนี้อาจมีผลต่อโครงสร้างได้ เนื่องจากเมื่อดินถูกชะไปจะทำ�ให้
ฐานรากทรุดและอาจทำ�ให้โครงสร้างสูญเสียการทรงตัวจนพังทลายได้ในกรณี
ที่เป็นฐานรากบนเสาเข็มสั้นๆ กำ�ลังรับน้ำ�หนักของเสาเข็มอาจจะลดลงเมื่ออยู่
ในดินที่ชุ่มน้ำ� ซึ่งอาจทำ�ให้กำ�ลังรับน้ำ�หนักลดลงได้เช่นกัน อีกจุดหนึ่งที่ผม
ค่อนข้างเป็นห่วงคือฐานรากที่จมอยู่ใต้น้ำ� 1-2 เมตรจะเกิดแรงดันน้ำ�ยกบ้านให้
ลอยขึ้น
โดยเฉพาะหากเป็นบ้านชั้นเดียวที่มีน้ำ�หนักไม่มากและไม่ได้ใส่เหล็กเดือย
ยึดเสาเข็มกับฐานรากเข้าไว้ด้วยกัน อาจทำ�ให้ตัวบ้านลอยเคลื่อนออกจากฐานราก
ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ส่วนบ้านที่ใช้เสาเข็มยาวๆ ที่หยั่งลงไปในชั้นดินแข็ง
ที่ระดับลึกๆ และมีเหล็กเดือยยึดระหว่างเสาเข็มและฐานรากก็จะเป็นโครงสร้าง
ที่มีความปลอดภัยสูงกว่า
- 35. 35
ประเด็นที่ 5 อาคารที่มีชั้นใต้ดินมีข้อระวังอะไร?
อาคารที่มีชั้นใต้ดินอาจมีน้ำ�ท่วมขังนานกว่าปกติ การระบายน้ำ�ออกต้อง
ทำ�ด้วยความระมัดระวังเพื่อรักษาระดับแรงดันน้ำ�ให้สมดุลทั้งภายในและภายนอก
อาคาร หากเร่งระบายน้ำ�เช่นสูบน้ำ�ออกจากชั้นใต้ดินทันทีทันใด แรงดันน้ำ�
ที่อยู่ด้านนอกอาจจะดันให้ผนังหรือกำ�แพงแตกหักหรือพังทลาย หรือทำ�ให้พื้น
ชั้นใต้ดินแอ่นขึ้นจนแตกได้ทันที เหมือนดังเช่นที่เราใช้หลอดดูดอากาศออกจาก
กล่องพลาสติกแล้วทำ�ให้แรงดันอากาศภายนอกดันให้กล่องบุบเสียหาย
ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มระบายน้ำ�ออกจากชั้นใต้ดิน ต้องรอให้ระดับน้ำ�ด้าน
นอกลดลงจนหมดเสียก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ ระบายน้ำ�จากชั้นใต้ดินวันละ 0.5
เมตร และทำ�เครื่องหมายระดับน้ำ�ไว้
จากนั้นวันรุ่งขึ้นเช็กระดับน้ำ�ที่ทำ�เครื่องหมายไว้ หากระดับน้ำ�ไม่เพิ่มขึ้น
ให้สูบออกอีก 0.5 เมตรแล้วรอดูวันถัดไป แต่หากระดับน้ำ�สูงขึ้นแสดงว่าแรงดัน
น้ำ�ด้านนอกยังสูงอยู่ ต้องรอให้แรงดันน้ำ�ด้านนอกลดลงเสียก่อน จึงจะเริ่มสูบน้ำ�
ออกต่อไปได้
ประเด็นที่ 6 แนวทางการซ่อมแซมอาคารที่เสียหายจากน้ำท่วม
เป็นอย่างไร?
การซ่อมแซมโครงสร้างอาคารที่ได้รับความเสียหายขึ้นอยู่กับระดับความ
เสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งพอสรุปเป็นแนวทางดังนี้
1. คานและเสา หากมีรอยแตกร้าวแต่ยังไม่ถึงขั้นบิดเบี้ยวเสียรูป อาจซ่อมแซม
รอยแตกร้าวด้วยการฉีดกาวอีพ๊อกซี่เข้าไปในรอยแตกร้าว และหากเหล็กเสริม
เป็นสนิมจำ�เป็นต้องขัดเอาสนิมออกแล้วทาสีกันสนิม เสริมเหล็กเพิ่มเติมแล้วพอก
คอนกรีตกลับไปเช่นเดิม
- 36. 2. หากเสาหักหรือขาด ต้องรีบให้ช่างหาเสาเหล็กหรือเสาไม้มาตู๊โครงสร้าง
โดยด่วน เนื่องจากเสาที่หักจะรับน้ำ�หนักไม่ได้อีกต่อไป ดังนั้นโครงสร้างอาจจะ
ถล่มลงมาได้ทุกเมื่อ จะต้องรีบปรึกษาวิศวกร การแก้ไขต้องทุบเสาทิ้งและหล่อ
เสาขึ้นใหม่
3. พื้นหรือกำ�แพงที่ถูกแรงดันน้ำ�ดันจนแอ่นตัวหรือทรุดตัว จะถือว่าพื้นหรือ
กำ�แพงนั้นใช้การไม่ได้แล้ว ต้องเปลี่ยนใหม่ หากเป็นกำ�แพงให้ก่ออิฐขึ้นใหม่ หาก
เป็นพื้นต้องทุบทิ้ง จากนั้นผูกเหล็กแล้วเทคอนกรีตใหม่
4. ในกรณีที่ตัวบ้านหลุดหรือเคลื่อนจากฐานรากจะเป็นอันตรายต่อโครงสร้าง
มาก เพราะเท่ากับว่าบ้านไม่ได้รองรับด้วยฐานรากอีกต่อไป จะต้องยกอาคารและ
ทำ�ฐานรากใหม่ซึ่งทำ�เองไม่ได้ ต้องปรึกษาวิศวกรที่ชำ�นาญทางด้านนี้โดยตรง
ซ่อม.สร้าง.สู้
คู่ มื อ ซ่ อ ม แ ซ ม ฟึ้ น ฟู บ้า น ห ลั ง น้ำ� ล ด ด้ ว ย ตั ว เ อ ง แ บ บ บู ร ณา กา ร 36
ประเด็นที่ 7 นอกจากโครงสร้างอาคารแล้วต้องตรวจสอบอะไรอีกบ้าง?
ระบบโครงสร้างอาคารเป็นสิ่งสำ�คัญลำ�ดับแรกๆ ที่ต้องตรวจสอบเนื่องจาก
เป็นเรื่องความปลอดภัยของโครงสร้างอาคาร แต่ต้องไม่ลืมว่าอาคารบ้านเรือนยัง
ประกอบด้วยระบบบริการอีก 4 ระบบ ได้แก่
(1) ระบบงานสถาปัตยกรรม เช่น พื้นปาเก้ สีที่ทาผนัง วอลล์เปเปอร์
ประตู หน้าต่าง และอื่นๆ
(2) ระบบสุขาภิบาล ได้แก่ ระบบระบายน้ำ� และระบบน้ำ�ประปา
(3) ระบบไฟฟ้า เช่น ระบบแสงสว่าง และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ
(4) ระบบเครื่องกล เช่น เครื่องปรับอากาศ ปั๊มน้ำ� เป็นต้น ระบบพวกนี้
ต้องตรวจดูด้วยว่าเสียหายแค่ไหน และต้องเรียกวิศวกรหรือช่างที่ชำ�นาญมาดู
ความเสียหาย เอกสารที่ผมแนะนำ�ให้ดูเป็นแนวทางคือคู่มือการตรวจสอบและ
ซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนหลังน้ำ�ท่วมของกรมโยธาธิการและผังเมือง
ข้อมูลจาก : รศ.ดร.อมร พิมานมาศ
สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- 38. ซ่อมผนังบ้านหลังน้ำท่วม
• ผนังไม้ ปกติไม้จะไม่เสียหายเมื่ออยู่ใต้ระดับน้ำ� แต่มักผุ
กร่อนในจุดที่มีน้ำ�ขึ้นน้ำ�ลงตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อน้ำ�ลดให้เอาผ้าเช็ด
ทำ�ความสะอาด ขจัดคราบสกปรกออกเพื่อสุขภาพคนในบ้าน เพื่อ
ให้ผิวไม้ระเหยความชื้นออกไปได้ เมื่อแน่ใจว่าผนังแห้งดีแล้วให้ใช้
น้ำ�ยารักษาเนื้อไม้ทาชโลมลงที่ผิว (***ต้องแน่ใจว่าแห้งแล้วจริงๆ
มิฉะนั้นอาจเกิดการเน่าได้เนื่องจากความชื้นระเหยไม่ได้) การทาสี
หรือยารักษาเนื้อไม้อาจทำ�ภายในก่อนก็ได้เพื่อความสวยงามในการ
อยู่อาศัย แล้วรออีกสักพัก (3-4 เดือน) จึงทาภายนอกอีกที เพราะ
ผนังภายนอกน่าจะแห้งสนิทดีแล้ว
ซ่อม.สร้าง.สู้
คู่ มื อ ซ่ อ ม แ ซ ม ฟึ้ น ฟู บ้า น ห ลั ง น้ำ� ล ด ด้ ว ย ตั ว เ อ ง แ บ บ บู ร ณา กา ร 38
• ผนังก่ออิฐฉาบปูน ให้ดำ�เนินการเหมือนกับผนังไม้ แต่ต้อง
ทิ้งระยะเวลานานกว่าเนื่องจากผนังอิฐจะมีมวลสารและการเก็บกัก
ความชื้นในตัววัสดุได้มากกว่าไม้ จึงต้องใช้เวลาระเหยความชื้นออก
ไปนานกว่า นอกจากนี้หากผนังปูนเหล่านี้มีสายไฟฟ้า ท่อไฟฟ้า ท่อ
น้ำ�ฝังหรือเดินลอยไว้ก็ต้องใช้วิธีเดียวกับเนื้อหาตอนที่แล้ว ตรวจสอบ
ระบบของอุปกรณ์เหล่านั้นให้อยู่ในสภาพเดิมไปพร้อมกันด้วยครับ
• ผนังยิปซัมบอร์ด เนื่องจากวัสดุชนิดนี้เป็นแผ่นผงปูน
ยิปซัมที่หุ้มด้วยกระดาษอย่างดี แต่ไม่ว่าจะดีเพียงใดเมื่อเจอ
กับน้ำ� (ท่วม) แล้วก็คงไม่น่าจะมีชีวิตต่อไปได้
- 39. 39
ดังนั้นให้แก้ไขโดยเลาะเอาแผ่นชนิดนี้ที่โดนน้ำ�ท่วมออกจากโครงเคร่าแล้ว
ค่อยหาแผ่นใหม่มาติด ยาแนว ทาสีทับใหม่ก็เรียบร้อย ใช้งานได้เหมือนเดิมครับ
พึงระวังเล็กน้อยสำ�หรับโครงเคร่าผนังที่เป็นไม้ ต้องรอให้ความชื้นในโครงเคร่า
ระเหยออกไป หรือให้ไม้แห้งเสียก่อนจึงติดผนังเข้าไปใหม่ แต่ถ้าเป็นโครงเคร่า
โลหะแบบที่นิยมใช้ในปัจจุบันคงไม่มีปัญหาครับ
• ผนังโลหะ/กระจก วัสดุเหล่านี้โดยตัวเนื้อของวัสดุคงไม่มีความเสียหาย
เพียงแค่ทำ�ความสะอาดขัดถูก็จะสวยงามเหมือนเดิม แต่ควรระวังเรื่องรอยต่อว่า
มีคราบน้ำ� เศษผง สิ่งสกปรกฝังติดอยู่บ้างหรือไม่ หากมีก็ให้ทำ�ความสะอาดเสีย
ให้เรียบร้อย เนื่องจากคราบน้ำ� ความสกปรกอาจทำ�ให้วัสดุยาแนวเสื่อมสภาพ
เร็วกว่ากำ�หนด
• ผนังชนิดอื่นๆ นอกเหนือจากที่กล่าวมา ไม่ว่าจะเป็นผนังกระดาษอัด
ผนังสังกะสี ผนังไม้อัด ฯลฯ จะมีธรรมชาติคล้ายกับผนังทั้งสี่อย่างที่กล่าวมาข้างต้น
ลองเปรียบเทียบดูแล้วแก้ไขตามแนวทางนั้นๆ
ซ่อมแซมสีทาบ้านหลังน้ำท่วม
การซ่อมแซมสีทาบ้านทั้งภายนอกและภายใน ควรเป็นสิ่งสุดท้ายในการ
แก้ไขปรับปรุงบ้าน เพราะเป็นเรื่องของเวลาที่ต้องปล่อยทิ้งให้ความชื้นหรือน้ำ�ใน
ตัววัสดุระเหยออกไปให้ได้มากที่สุดครับ มิฉะนั้นท่านทาสีทับไปดีอย่างไรก็จะเกิด
อาการหลุดล่อนในที่สุดครับ
- 40. • ข้อควรคิดสำ�หรับการซ่อมแซมสีคือ ปัญหาสีลอกสีล่อนไม่ได้เกิดจาก
คุณภาพของสี แต่เกิดจากความไม่พร้อมของพื้นผิวที่ทาสี หากพื้นผิวที่ทาสีมี
ความชื้นหรือสิ่งสกปรกติดอยู่ แม้ทาสีทับอย่างไรสีก็จะล่อนออกมาอยู่ดีครับ
• ข้อพึงกระทำ�เวลาซ่อมสีคือ อย่างเพิ่งรีบทาสี ให้ทำ�ความสะอาดและ
ลอกสีเดิมทิ้งออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำ�ได้ (เฉพาะที่มีปัญหานะครับ) แล้วทิ้ง
ไว้นานๆ หลายๆ เดือน อาจรอจนถึงหน้าร้อนปีหน้าแล้วค่อยทาสีตามกรรมวิธี
ของผู้ผลิตก็ไม่สาย
การซ่อมแซมประตูหลังน้ำท่วม
ซ่อม.สร้าง.สู้
คู่ มื อ ซ่ อ ม แ ซ ม ฟึ้ น ฟู บ้า น ห ลั ง น้ำ� ล ด ด้ ว ย ตั ว เ อ ง แ บ บ บู ร ณา กา ร 40
ประตูต่างๆ เมื่อแช่น้ำ�อยู่นานๆ ก็จะบวมขึ้นหรือไม่ก็จะเกิดเป็นสนิม มี
วิธีแก้ไขคือ
• ประตูไม้ เมื่อโดนแช่น้ำ�ก็จะบวมและผุพัง มีวิธีแก้ก็โดยทิ้งไว้ให้แห้ง
แล้วซ่อมแซมส่วนที่ผุให้เรียบร้อยแล้วจึงทาสีใหม่ แต่ถ้าผุมากก็ควรจะเปลี่ยนเลย
• ประตูเหล็กที่ขึ้นสนิม ก็ใช้กระดาษทรายขัดสนิมออกให้หมด เช็ดให้
สะอาดแล้วจึงทาสีใหม่ โดยอย่าลืมทาสีกันสนิมก่อน แต่อย่าลืมดูรอยต่อต่างๆ
โดยเฉพาะที่เป็นท่อโครงเหล็กว่ามีน้ำ�หลงเหลืออยู่เหลือเปล่า ต้องให้แห้งจริงๆ
ก่อนจึงจะทาสีได้
• ประตูพลาสติก ส่วนใหญ่จะทนน้ำ�ได้ แต่ให้ระวังอาการที่มีน้ำ�ขังสกปรก
ให้หาวิธีเช็ด ซับน้ำ�ออก หรือเจาะรูให้น้ำ�ออก
- 41. 41
ทีนี้เวลาที่ “ประตูบวมน้ำ�” หรือมีน้ำ�ขังข้างใน จะทำ�ให้น้ำ�หนักมากและ
ประตูเอียงจนบานพับรับน้ำ�หนักไม่ไหว ให้หาลิ่มมายันไว้ก่อนให้ใกล้เคียงปกติ
แล้วพยายามทำ�ให้แห้งที่สุด จากนั้นถ้ายังเอียงอยู่จะไขน็อตเพิ่มหรือเปลี่ยนบานพับ
ก็ตามสมควรครับ
การซ่อมแซมบานพับ ลูกบิด และรูกุญแจหลังน้ำท่วม
อุปกรณ์ต่างๆ เช่น บานพับ ลูกบิด และรูกุญแจที่ทำ�ด้วยโลหะ เมื่อโดน
น้ำ�ท่วมย่อมมีปัญหาตามมา มีวิธีแก้ไขคือ
• เช็ดให้แห้งสนิท ขัดส่วนที่เป็นสนิมออกให้หมด ใช้พวกน้ำ�ยาหล่อลื่น
ชโลมตามจุดรอยต่อและรูต่างๆ ให้ทั่ว
• อย่าใช้จาระบีหรือพวกขี้ผึ้งทา เพราะจะทำ�ให้ความชื้นระเหยออกไม่ได้
จะทำ�ให้ฝังอยู่ข้างใน และจะเป็นปัญหาในภายหลัง
• ถ้ายังใช้การไม่ได้ ก็ลองทำ�ตามวิธีที่ว่านี้หลายๆ ครั้ง แต่ถ้ายังมีปัญหา
ก็คงจะต้องถอดออกแล้วซื้อมาเปลี่ยนใหม่
ซ่อมพื้นไม้ปาเก้หลังน้ำท่วม
ถ้าพื้นบ้านของท่านเป็นไม้ปาเก้แล้วถูกน้ำ�ท่วมก็ต้องเข้าใจไว้สักนิดนะครับ
ว่า ปาเก้หรือไม้แผ่นชนิดนี้อยู่ได้ด้วยกาวติดกับพื้นคอนเกรีตเสริมเหล็ก จึงแพ้
น้ำ� (ท่วม) อย่างแรง เพราะไม้จะบวมน้ำ�และหลุดล่อนออกมาในที่สุดเป็น
เรื่องธรรมดา บางทีหากน้ำ�ท่วมเป็นเวลานานๆ ก็อาจเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์แถม
มาให้อีกด้วยครับ มีวิธีตรวจสอบแก้ไขดังนี้ครับ
- 42. • หากปาเก้เปียกน้ำ�เล็กน้อยไม่ถึงกับหลุดล่อนออกมา แค่เช็ดทำ�ความ
สะอาดแล้วเปิดประตู หน้าต่าง ปล่อยให้แห้งโดยให้อากาศถ่ายเทความชื้นออกไป
ปาเก้จะเป็นปกติได้ไม่ยาก แต่ระวังว่าเมื่อปาเก้ยังชื้นอยู่ไม่ควรเอาสารทาทับหน้า
ไปทาทับ เนื่องจากจะไปเคลือบผิวไม่ให้ความชื้นในเนื้อไม้ระเหยออกมา
• หากปาเก้มีอาการบิดงอ ปูดโปน เบี้ยวบูด กรุณาเลาะออกมาทันที
ครับ และหากยังอยู่ในสภาพดีก็ผึ่งลมให้แห้ง เพราะอาจนำ�มาใช้ประโยชน์ได้
• หากท่านจะซ่อมแซมพื้นใหม่ด้วยการเอาวัสดุปูพื้นชนิดใหม่ที่คงทนถาวร
ทนน้ำ�ได้มากกว่า เช่น กระเบื้อง หินอ่อน หรือแกรนิต เหล่านี้ ต้องระวังอย่าง
ยิ่งเรื่องน้ำ�หนักวัสดุที่จะปูทับหน้าว่าโครงสร้างเดิมจะรับน้ำ�หนักได้หรือไม่ ไม่ควร
ทำ�ไปดื้อๆ เลย เพราะบ้านท่านอาจเสียหายได้ครับ
ซ่อม.สร้าง.สู้
คู่ มื อ ซ่ อ ม แ ซ ม ฟึ้ น ฟู บ้า น ห ลั ง น้ำ� ล ด ด้ ว ย ตั ว เ อ ง แ บ บ บู ร ณา กา ร 42
• หากรื้อหรือซ่อมแซมแล้วต้องการปูปาเก้แบบเดิมหรือใช้วัสดุอื่นที่ใช้
กาวเป็นตัวประสานเช่นกัน เช่น กระเบื้องยาง อย่าปูทับทันทีครับ ต้องรอให้
พื้นคอนกรีตแห้งเสียก่อนแล้วจึงปูลงไปได้ ไม่เช่นนั้นถึงน้ำ�ไม่ท่วมรับรองว่าล่อน
ออกมาอีกแน่นอนครับ
พื้นหลังน้ำท่วม ทั้งพรมทั้งกระเบื้อง ทั้งหินอ่อนหินขัด สกปรกจัง!
พื้นสกปรกก็ขอให้ทำ�ความสะอาดเสียก็จบเรื่อง แต่ความน่าสนใจสำ�หรับ
พื้นที่ถูกน้ำ�ท่วมก็คือ “วัสดุปูพื้นที่เสียหาย” ต่างหาก เมื่อได้พูดไว้แล้วว่าหากพื้น
ไม้ปาเก้ถูกน้ำ�ท่วมจะต้องทำ�อย่างไร แก้อย่างไร ตอนนี้อยากจะเล่าให้ทราบถึง
เรื่องพื้นปูพรม หากถูกน้ำ�ท่วมคงจะต้องรื้อพรมออกให้หมด
- 43. 43
เพราะปล่อยไว้จะเกิดอาการพรมเน่าส่งกลิ่นเหม็นรบกวนท่านชั่วนาตาปีที
เดียว เมื่อลอกพรมออกแล้วนำ�พรมไปซักและตากแดดให้แห้ง แล้วจึงนำ�กลับมา
ปูใหม่ (พรมอาจจะยืด จะหดไปบ้าง คงจะต้องยอมรับสภาพครับ) สิ่งสำ�คัญ
ก็คือตอนที่จะปูทับกลับไป ต้องมั่นใจว่าพื้นคอนกรีตของเรานั้นจะต้องแห้งเพียง
พอ มีเวลาให้ความชื้นที่สะสมไว้ในตัวคอนกรีตระเหยออกมาเสียก่อน
การซ่อมแซมฝ้าเพดานบ้านหลังน้ำท่วม
การซ่อมแซมฝ้าเพดานจะมีลักษณะคล้ายๆ การซ่อมผนังและพื้นปนกัน
มีวิธีการแก้ไขคือ
• ถ้าเป็นฝ้าเพดานยิปซัมบอร์ดหรือกระดาษอัด ถ้าเปื่อยยุ่ยมากเพราะ
อมน้ำ�ก็ควรเลาะออกแล้วจึงเปลี่ยนแผ่นใหม่เลย ทิ้งไว้ให้ทั้งหมดแห้งสนิทจริงๆ
แล้วจึงทาสีทับ
• ถ้าเป็นฝ้าโลหะ ให้เช็ดทำ�ความสะอาดให้แห้ง ถ้าเป็นสนิมก็ใช้กระดาษ
ทรายขัดออกให้เรียบร้อย แล้วจึงทาสีทับเข้าไปใหม่
• ถ้าโครงฝ้าเพดานที่เป็นไม้เกิดการแอ่นหรือทรุดตัว ต้องแก้ไขให้ได้ระดับ
ก่อนการติดตั้งแผ่นฝ้าใหม่
ระบบสายไฟส่วนใหญ่จะเดินในฝ้า เวลาเปิดฝ้าเข้าไปต้องตรวจดูความ
เรียบร้อยว่ามีส่วนใดชำ�รุดหรือเปล่าด้วย
- 44. วิธีการซ่อมกระเบื้องมุงหลังคาหลังน้ำท่วม
การซ่อมหลังคาบ้านหลังน้ำ�ท่วม อันดับแรกเลยเราต้องพยายามหาจุดที่
ทำ�ให้เกิดรอยรั่วหรือตรงที่มีกระเบื้องแตกราวให้ได้ก่อนว่าจริงๆ แล้วเกิดจากที่
ใดกันแน่ ถ้าพบว่ามีรูรั่วหรือแตกร้าวนั้นวิธีซ่อมหลังคาบ้านอาจทำ�ได้ดังนี้
• ขั้นตอนที่ 1 ปีนขึ้นหลังคาบ้านด้วยบันได โดยพาดไปบนหลังคาให้ มั่นคง
กับพื้นที่เรียบเสมอกัน ควรมีผู้ช่วยคอยจับบันไดให้มั่นคงขณะทำ�งาน แล้วจึงปีนขึ้น
บนหลังคา
• ขั้นตอนที่ 2 คลายน็อตที่ยึดแผ่นกระเบื้องหลังคาที่ต้องการเปลี่ยนด้วย
คีมหรือประแจปากตาย โดยถอดน็อตที่แผ่นที่ต้องการเปลี่ยน และคลายน็อตที่
กระเบื้องแผ่นบนและแผ่นด้านขวามือของกระเบื้องที่แตกออกให้หลวมสำ�หรับสอด
กระเบื้องแผ่นใหม่เข้าไปแทน
ซ่อม.สร้าง.สู้
คู่ มื อ ซ่ อ ม แ ซ ม ฟึ้ น ฟู บ้า น ห ลั ง น้ำ� ล ด ด้ ว ย ตั ว เ อ ง แ บ บ บู ร ณา กา ร 44
• ขั้นตอนที่ 3 ดึงแผ่นเก่าออกโดยต้องระวังเศษกระเบื้องหลังคาจะหล่น
ลงไปด้านล่าง ใส่แผ่นใหม่ตามรอยเดิม โดยสอดเข้าจากด้านล่างให้อยู่ใต้แผ่นที่
อยู่เหนือขึ้นไป
• ขั้นตอนที่ 4 ใช้สว่านไฟฟ้าเจาะรูกระเบื้องขนาด 5 มิลลิเมตร สำ�หรับ
ร้อยก้านน็อตเข้ากับคานโครงหลัง โดยให้รูตรงกับรูเดิมของแผ่นเก่า
• ขั้นตอนที่ 5 ร้อยน็อตเดิมพร้อมกับใส่แผ่นปิดกับน้ำ�เข้ารูที่เจาะ แล้วขัน
ยึดกับโครงหลังคาด้วยคีมหรือประแจปากตายให้แน่น
• ขั้นตอนที่ 6 ทาวัสดุกันซึมประเภทฟิลโคทหรือซิลิโคนที่หัวน็อตเพื่อป้องกัน
น้ำ�ฝนซึมเข้าหลังคาอีกชั้นหนึ่ง
ที่มา : http://www.homedecorthai.com/articles/
how_to_repair_roof_tiles_after-99-857.html
- 45. 45
บันไดผุเพราะน้ำท่วม พื้นก็ผุเพราะน้ำท่วม ซ่อมอย่างไร?
บันไดที่กล่าวถึงน่าจะหมายถึงบันไดไม้ และพื้นที่กล่าวถึงก็น่าจะหมายถึง
พื้นบ้านที่เป็นไม้เช่นเดียวกัน หากผุอันเนื่องจากการท่วมของน้ำ�คราวนี้ ไม่ใช่
เป็นการผุมาก่อน ไม่ต้องทำ�อะไรมาก พยายามอย่าไปทำ�อะไรรุนแรงกับเขา
ปล่อยให้เขาค่อยๆ แห้งไปเอง ก็อาจกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม แต่ขอย้ำ�ว่า
กรุณาอย่าถอดออกไปตากแดด เพราะไม้ที่ชื้นและอิ่มน้ำ�อยู่จะแตกและเสียหาย
ได้ ต้องค่อยเป็นค่อยไปครับ
หากบันไดหรือพื้นของท่านผุกร่อนมาแล้วก่อนที่จะเกิดน้ำ�ท่วม คงจะต้อง
ดามหรือเปลี่ยนแผ่นไม้ใหม่ หากมีงบประมาณไม่ครบทั้งหมดก็แนะนำ�ให้เปลี่ยน
ไม้ที่บันไดก่อน เพราะบันไดน่าจะมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะรับแรงกระแทกได้