SlideShare a Scribd company logo
1 of 23
การสถาปนาระบอบประชาธิปไตยของไทย
ด้วยการปกครองของประเทศไทยที่ผ่านมา
ตลอดระยะเวลา 80 กว่า ปีหลังการเปลี่ยนแปลงการ
ปกครอง 2475 ประเทศไทยมีรูปแบบการปกครอง
สลับกันอยู่ระหว่าง เผด็จการรัฐประหาร และ
เผด็จการรัฐสภา สิ่งที่แสดงออกชัดเจนก็คืออำานาจ
การปกครองเป็นของคนส่วนน้อยในสังคม อำานาจ
อธิปไตยไม่เป็นของประชาชน ดังเหตดังกล่าว
ประเทศไทย การปกครองจึงเป็นระบอบเผด็จการ
ดังนั้นจะทำาให้การปกครองของประเทศไทย เป็น
ระบอบประชาธิปไตย จะต้องปฏิบัติการทุกสิ่งทุก
อย่างอย่างอุกฤต ดังต่อไปนี้ให้ปรากฏเป็นจริงต่อ
ประเทศไทยอันเป็นที่รักยิ่ง คือ
๑. สถาปนาระบอบประชาธิปไตยให้สำาเร็จ
ระบอบประชาธิปไตย นอกจากจะเป็นความต้องการของ
ประเทศชาติและประชาชนแล้ว ยังเป็นปัจจัยอันจำาเป็นของ
การแก้ปัญหาทั้งปวงของชาติอีกด้วย จะต้องสร้าง
ประชาธิปไตยให้สำาเร็จจึงจะแก้ปัญหาการเมือง ปัญหา
เศรษฐกิจ ปัญหาสังคม และปัญหาวัฒนธรรมให้ตกไปได้
ด้วยมาตรการต่อไปนี้
1
๑.๑ เทิดทูนและพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์
พระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติไทย และคู่กับชาติ
ไทยมาแต่บรรพกาล แม้ในยุคสมบูรณาญาสิทธิราช พระ
มหากษัตริย์ไทยก็ประกอบด้วยลักษณะประชาธิปไตยเป็น
อันมากอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของระบอบพระมหา
กษัตริย์ในประเทศไทย จึงเป็นการถูกต้องและจำาเป็นอย่าง
ยิ่งที่ระบอบประชาธิปไตยของไทยจะมีพระมหากษัตริย์เป็น
ประมุขแห่งรัฐ ซึ่งเป็นอุปการคุณสำาคัญที่สุดไม่เฉพาะแต่
ในการสร้างระบอบประชาธิปไตยให้สำาเร็จเท่านั้น หากใน
การแก้ปัญหาพิเศษต่างๆ ซึ่งสถาบันอื่นไม่อาจแก้ปัญหาได้
อีกด้วย และสถาบันพระมหากษัตริย์จะมั่นคงได้ก็ด้วยการ
ปกครองแบบประชาธิปไตย
๑.๒ การส่งเสริมความรู้ประชาธิปไตย
การที่จะสร้างระบอบประชาธิปไตยให้สำาเร็จก็ดี การจะใช้
ระบอบประชาธิปไตยแก้ปัญหาต่างๆ ของชาติก็ดีขึ้นอยู่กับ
ความรู้ประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ความล้มเหลวของระบอบ
ประชาธิปไตยในประเทศไทยที่ผ่านมา เป็นเพราะขาด
ความรู้ประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ฉะนั้น จะต้องส่งเสริมความ
รู้ประชาธิปไตยอย่างกว้างขวาง ทั้งในด้านทฤษฎีและด้าน
การประยุกต์ทฤษฎีกับสภาวการณ์ และลักษณะพิเศษของ
ประเทศไทย
๑.๓ ทำาให้อำานาจอธิปไตยเป็นของปวงชน
หัวใจของระบอบประชาธิปไตย คือ อำานาจอธิปไตยเป็น
ของปวงชน นัยหนึ่งคือ การปกครองโดยประชาชน เพื่อ
ประชาชนและของประชาชน แต่ความเป็นจริงอำานาจ
อธิปไตยยังไม่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง เพราะ
นโยบายของรัฐที่ผ่านมายังไม่สนองความต้องการของ
ประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง ฉะนั้น จึงต้อง
ปรับปรุงนโยบายของรัฐบาลทั้งนโยบายภายในประเทศ
และนโยบายต่างประเทศ ให้สอดคล้องกับความต้องการ
2
ของประเทศชาติและประชาชน และปรับปรุงรัฐสภาให้ทำา
หน้าที่ของปวงชนอย่างแท้จริง
๑.๔ ทำาให้บุคคลมีเสรีภาพบริบูรณ์
เสรีภาพบริบูรณ์ของบุคคลจะมีได้ก็แต่เฉพาะภายใต้อำานาจ
อธิปไตยของปวงชน เสรีภาพที่ไม่อยู่ภายใต้อำานาจ
อธิปไตยของปวงชนนั้น ไม่ใช่เสรีภาพที่บริบูรณ์ ถ้าไม่เป็น
เสรีภาพที่เกินขอบเขตแบบอนาธิปไตย ก็เป็นเสรีภาพที่
จำากัดเกินควรแบบเผด็จการ และเสรีภาพบริบูรณ์ของ
บุคคลย่อมทำาให้เกิดความรับผิดชอบแก่บุคคล ฉะนั้น เพื่อ
ให้บังเกิดเสรีภาพชนิดนี้จะต้องทำาให้รัฐบาลมีความเข้ม
แข็ง ในขณะเดียวกันก็ต้องยกเลิกหรือแก้ไขเพิ่มเติม
กฎหมายที่บั่นทอนเสรีภาพของบุคคล
๑.๕ สร้างเสถียรภาพทางการเมืองให้มั่นคง
เสถียรภาพทางการเมืองเป็นปัจจัยอันจำาเป็นของการ
พัฒนาระบอบประชาธิปไตย และปัจจัยอันสำาคัญที่สุดของ
เสถียรภาพทางการเมือง ก็คือ ความสนับสนุนของ
ประชาชน และปัจจัยความสนับสนุนของประชาชน ก็คือ
นโยบายที่ถูกต้อง และปฏิบัตินโยบายนั้นให้ได้ผลประจักษ์
แก่ประชาชน ฉะนั้นนอกจากจะต้องปรับปรุงนโยบายให้ถูก
ต้องอย่างสมบูรณ์แล้ว ยังจะต้องแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
ให้สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตยด้วย
๑.๖ สร้างระบบพรรคการเมืองให้เข้มแข็ง
พรรคการเมืองประชาธิปไตย คือ ผู้แทนทางการเมืองของ
ประชาชนทำาหน้าที่จรรโลงและพัฒนาระบอบ
ประชาธิปไตย พรรคการเมืองที่เข้มแข็งจะต้องเป็นพรรคที่
มีนโยบายสอดคล้องกับนโยบายแห่งชาติที่ถูกต้อง จะต้องมี
การจัดตั้งองค์กรอย่างเป็นระบบและมีลักษณะเป็นพรรค
มวลชน มิใช่เป็นเพียงพรรคสภาหรือพรรคนักการเมือง
เท่านั้น ฉะนั้น จะต้องส่งเสริมให้การสร้างพรรคการเมือง
ชนิดนี้บรรลุผลสำาเร็จ ซึ่งเงื่อนไขประการแรกคือ จะต้อง
3
ยกเลิกกฎหมายพรรคการเมือง เพื่อให้ระบบพรรคการเมือง
พัฒนาไปตามธรรมชาติ
๑.๗ ปรับปรุงระบบราชการให้เป็นประชาธิปไตย
ระบบราชการในประเทศไทย ยังเป็นปฏิปักษ์อย่างมากต่อ
ระบอบประชาธิปไตย จึงยังไม่สามารถสนองความต้องการ
ของระบอบประชาธิปไตยได้ การปรับปรุงระบบราชการให้
เป็นประชาธิปไตย จึงเป็นปัจจัยที่จะขาดเสียมิได้ของการ
พัฒนาระบอบประชาธิปไตย วิธีการปรุงก็คือ ประสานระบบ
ราชการเข้ากับระบบพรรคการเมือง โดยให้ข้าราชการเข้า
ร่วมกิจการของพรรคการเมืองได้อย่างเสรี ซึ่งจะยังผลให้
ข้าราชการได้มีจิตสำานึกทางการเมืองของตน และจิตสำานึก
ทางการเมืองนั้น จะทำาให้ข้าราชการเป็นข้าราชการของ
ประชาชนได้
๑.๘ ส่งเสริมกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ
กลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ เป็นสิ่งแสดงออกของพลังมวลชน
และเป็นพลังผลักดันทางการเมืองในการพัฒนาระบอบ
ประชาธิปไตย แต่กลุ่มผลประโยชน์ย่อมมีความขัดแย้งกัน
เพราะมีผลประโยชน์แตกต่างกัน ระบอบประชาธิปไตย
ย่อมแก้ไขความขัดแย้งด้วยการไม่ทำาลายกัน แต่ด้วยการ
ประสานประโยชน์ระหว่างกัน โดยการทำาให้ผลประโยชน์
ของแต่ละกลุ่มเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับผลประโยชน์ของ
ชาติ โดยนายทุน กรรมกร ชาวนา นักศึกษา ฯลฯ จะคำานึง
ถึงผลประโยชน์ของตนฝ่ายเดียวไม่ได้ แต่จะต้องคำานึงถึง
ผลประโยชน์ของฝ่ายอื่นด้วย โดยยึดถือผลประโยชน์ของ
ชาติเป็นหลัก
๑.๙ ส่งเสริมสถาบันหนังสือพิมพ์และการแสดงประชามติ
ประชาธิปไตย
สถาบันหนังสือพิมพ์ในฐานะฐานันดรที่ ๔ ย่อมเป็นกลไก
อย่างหนึ่งของระบอบประชาธิปไตยนอกเหนือจากเป็น
เครื่องมืออย่างหนึ่งของการแสดงประชามติ ฉะนั้นผู้ทำา
4
หนังสือพิมพ์จึงเป็นบุคคลในสถาบันซึ่งจะต้องมีความรับผิด
ชอบกว่าบุคคลธรรมดา การส่งเสริมเสรีภาพบริบูรณ์ของ
คนทำาหนังสือพิมพ์ จึงแตกต่างกับบุคคลนอกสถาบัน จะ
ถือว่า “เสรีภาพของหนังสือพิมพ์ คือ เสรีภาพของ
ประชาชน” หาได้ไม่ประชามติที่ถูกต้องเท่านั้นจึงจะ
สอดคล้องกับผลประโยชน์ของประชาชนจึงจะเป็น และ
ความถูกต้องของประชามติก็มิได้วัดด้วยจำานวนคนที่แสดง
แต่วัดด้วยผลประโยชน์ของประชาชนส่วนรวม ประชามติ
ใดแม้จะแสดงด้วยคนจำานวนน้อย แต่ถ้าสอดคล้องกับผล
ประโยชน์ของประชาชนส่วนรวมก็เป็นประชามติ
ประชาธิปไตย ฉะนั้น สภาปฏิวัติแห่งชาติจึงสนับสนุน
ประชามติที่ถูกต้อง แต่จะป้องกันประชามติที่ไม่ถูกต้อง
๑.๑๐ สนับสนุนขบวนการประชาธิปไตย
ขบวนการประชาธิปไตยย่อมประกอบด้วยบุคคลกลุ่มต่างๆ
ที่มีความมุ่งหมายเพื่อความสำาเร็จของระบอบประชาธิปไตย
แต่เนื่องจากแนวโน้มแห่งวิวัฒนาการของประเทศไทยเป็น
แนวโน้มทางประชาธิปไตย จึงทำาให้กลุ่มชนที่เป็นปรปักษ์
ต่อระบอบประชาธิปไตย จำาเป็นต้องแอบแฝงโดยยกเอา
ประชาธิปไตยขึ้นนำาหน้าสนับสนุนขบวนการ
ประชาธิปไตยที่แท้จริงทั้งสิ้น แต่จะขัดขวางขบวนการที่
ขัดขวางขบวนการประชาธิปไตยที่แอบแฝงอำาพราง
๑.๑๑ ทำาลายการกดขี่ด้วยอำานาจและอิทธิพล
การกดขี่ด้วยประการใดๆ โดยผู้มีอำานาจและผู้มีอิทธิพล
เป็นลักษณะของระบอบเผด็จการ ตราบใดที่มีการกดขี่โดย
ผู้มีอำานาจและผู้มีอิทธิพลตราบนั้นยังไม่มีระบอบ
ประชาธิปไตย หรือไม่มีระบอบประชาธิปไตยอันแท้จริง
ฉะนั้นจึงต้องกำาจัดการกดขี่ด้วยอำานาจและอิทธิพลทั้ง
ระดับชาติและระดับท้องถิ่นให้หมดไป
๑.๑๒ จัดระบอบบริหารส่วนท้องถิ่น ส่วนภูมิภาคและส่วน
กลางให้สอดคล้องกันยิ่งขึ้น
5
การกระจายอำานาจเป็นลักษณะหนึ่งของระบอบ
ประชาธิปไตย วิธีการคือ ทำาให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น
มีอิสระมากขึ้น และให้องค์การบริหารส่วนภูมิภาคมีฐานะ
เป็นตัวแทนขององค์การบริหารส่วนกลางอย่างแท้จริง
ไม่ใช่องค์การบริหารส่วนกลางทำางานแข่งขันซำ้าซ้อนกับ
องค์การบริหารส่วนภูมิภาคหรือส่วนท้องถิ่น แต่ให้องค์การ
บริหารสามส่วนนี้มีการประสานงานกันเป็นอย่างดี
๑.๑๓ สร้างสันติภาพภายในประเทศให้สมบูรณ์ และ
กระชับความสามัคคีแห่งชาติ
สถานการณ์ปัจจุบันของประเทศไทย ถึงแม้ว่ากองทัพ
สามารถยุติสงครามกลางเมืองลงได้โดยพื้นฐานแล้วก็ตาม
แต่การต่อสู้ระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายคอมมิวนิสต์
แนวทางอาวุธยังดุเดือดเข้มข้นอยู่ โดยฝ่ายคอมมิวนิสต์
แนวทางอาวุธพยายามทุกวิถีทางที่จะฟื้นฟูสงครามขึ้นใหม่
ซึ่งถ้าหากฝ่ายคอมมิวนิสต์สามารถทำาได้แล้ว สงครามครั้ง
ใหม่จะยังความหายนะแก่ประเทศชาติ และยังความทุกข์
ยากแก่ประชาชนมากกว่าสงครามครั้งที่แล้วหลายเท่านัก
อันเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงแก่การสร้างระบอบ
ประชาธิปไตย จึงจำาเป็นที่จะต้องสกัดกั้นการฟื้นฟูสงคราม
ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เปลี่ยนแนวทาง
การต่อสู้ด้วยอาวุธเป็นการต่อสู้ในแนวทางสันติ ตาม
นโยบายประชาธิปไตยที่ถูกต้องที่ได้ประกาศไปแล้ว ซึ่ง
เป็นนโยบายรากฐานของความสามัคคีแห่งชาติ และเป็น
เส้นด้ายทองคำาร้อยพวงมาลัยแห่งความสามัคคีระหว่าง
ประชาชนทุกหมู่เหล่าอีกด้วย
๒. พัฒนาระบบเศรษฐกิจแห่งชาติให้สำาเร็จ
ระบบเศรษฐกิจเป็นรากฐานของระบอบการเมือง และ
ระบอบการเมืองมีบทบาทผลักดันพัฒนาการของระบบ
เศรษฐกิจ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจจึงจะดำาเนินการโดย
เอกเทศมิได้ แต่จะต้องนำาเอาการแก้ปัญหาเศรษฐกิจไป
สัมพันธ์กับการแก้ปัญหาการเมือง โดยลงมือแก้ปัญหา
การเมืองทันที และลงมือแก้ปัญหาเศรษฐกิจไปพร้อมกัน
6
การที่ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยตกอยู่ในภาวะล้าหลัง
มาเป็นเวลานาน ยังผลให้ประเทศไทยเป็นประเทศยากจน
ฐานะการครองชีพของประชาชนตำ่า ไม่สามารถพัฒนาขึ้น
เป็นประเทศรำ่ารวย และยกฐานะการครองชีพของประชน
ชนให้สูงขึ้นได้ ทั้ง ๆ ที่อุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาตินั้น ก็
เพราะได้ดำาเนินการแก้ปัญหาเศรษฐกิจมาโดยไม่ได้แก้
ปัญหาการเมือง คือ ไม่ดำาเนินการเพื่อบรรลุถึงซึ่งระบอบ
ประชาธิปไตยอันแท้จริง ฉะนั้น บนรากฐานของการแก้
ปัญหาการเมืองเพื่อความสำาเร็จของระบอบประชาธิปไตย
ดังกล่าวมาแล้ว
การพัฒนาระบบเศรษฐกิจแห่งชาติใดสำาเร็จด้วยมาตรการ
ต่อไปนี้
๒.๑ ปรับปรุงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ความมุ่งหมายของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
คือ เพื่อสร้างสังคมประชาธิปไตยสังคมประชาธิปไตย คือ
สังคมที่มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย และมีระบบ
เศรษฐกิจเสรีนิยม ระบอบเศรษฐกิจเสรีนิยมที่พัฒนาภายใต้
ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง จะนำามาซึ่งความไพบูลย์
และความยุติธรรม แต่การที่จะบรรลุความมุ่งหมายดังกล่าว
นี้ได้ จะต้องใช้ระบอบประชาธิปไตยทำาการเปลี่ยนระบบ
เสรีนิยมที่ล้าหลังและผูกขาดดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบันให้เป็น
ระบบเสรีนิยมที่ก้าวหน้าและเสรี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติมีบทบาทสำาคัญอันดับแรกต่อการ
เปลี่ยนแปลงนี้ ฉะนั้นจึงต้องทบทวนโครงสร้างของแผน
พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแก้ไขปรับปรุงให้
สอดคล้องกับความมุ่งหมายเพื่อบรรลุถึงสังคม
ประชาธิปไตยที่พัฒนา ซึ่งเป็นแผนที่มีเนื้อหาในการทำาให้
ประเทศไทยเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่เหมาะสมกับภาว
การณ์ของประเทศไทยโดยเฉพาะคือ เน้นหนักการ
พัฒนาการเกษตรกรรม และพัฒนาอุตสาหกรรม พาณิช
ยกรรม และการขนส่งให้สอดคล้องกัน
7
๒.๒ การกระจายทุน
การรวมศูนย์ทุน ทำาให้วิสาหกิจขนาดใหญ่โดยเฉพาะคือ
วิสาหกิจเส้นเลือดใหญ่ ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์
อุตสาหกรรมหนัก การค้าต่างประเทศ การค้าส่งสินค้าหลัก
ภายในประเทศ การขนส่งระหว่างประเทศ การขนส่งหลัก
ภายในประเทศ มีอำานาจครอบงำาและบงการต่อวิสาหกิจ
ขนาดกลางและขนาดเล็ก เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของ
ระบบเศรษฐกิจแห่งชาติ ฉะนั้น จึงต้องลดอำานาจของการ
ครอบงำาและบงการดังกล่าวลง โดยทำาให้ทุนกระจายไปสู่
ประชาชนด้วยมาตรการเหล่านี้คือ
๒.๒.๑ การปฏิรูปที่ดิน
เป็นวิธีการกระจายทุนทางที่ดินไปสู่ชาวไร่ชาวนา ในขณะ
เดียวกันรายได้ของเจ้าของที่ดินจากการเวนคืนที่ดิน ก็จะ
กระจายไปสู่รัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และ
อื่นๆ โดยเฉพาะในรูปของพันธบัติหุ้นส่วนในรัฐวิสาหกิจ
เหล่านั้น การกระจายทุนทางที่ดินด้วยการปฏิรูปที่ดิน เป็น
ปัจจัยอันดับแรกของความเติบโตของระบบเศรษฐกิจแห่ง
ชาติทั้งเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และ
การขนส่ง โดยทำาเกษตรกรรมสามารถสนองวัตถุดิบแก่
อุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมสนองเครื่องมือวัตถุอุปกรณ์
และการป้องกันภัยธรรมชาติให้แก่เกษตรกรรม และ
เกษตรกรรมกับอุตสาหกรรมต่างก็สนองตลาดให้แก่กันและ
กัน ฉะนั้น การปฏิรูปที่ดินจึงมิใช่เพียงเพื่อการเกษตรกรรม
หรือเพียงเพื่อช่วยเหลือชาวนาชาวไร่ให้มีที่ทำากิน แต่ข้อ
สำาคัญเพื่อความเติบโตของระบบเศรษฐกิจแห่งชาติทั้ง
ระบบ
๒.๒.๒ เปลี่ยนบริษัทครอบครัวของวิสาหกิจเอกชนต่างๆ
เป็นบริษัทมหาชน
๒.๒.๓ ให้สหกรณ์เป็นเครื่องมือของการกระจายทุน
8
๒.๒.๔ รัฐเข้ามีส่วนร่วมนากรบริหารวิสาหกิจเอกชน
แต่เดิมรัฐเพียงแต่ควบคุมวิสาหกิจเอกชน เช่น ธนาคาร
ชาติควบคุมธนาคารพาณิชย์ด้วยการจดทะเบียนปริมาณ
ทุนปริมาณเงินฝาก ปริมาณเงินวางธนาคารชาติ ฯลฯ ซึ่ง
ไม่เพียงพอแก่การลดการรวมศูนย์ทุน แต่รัฐจะต้องทำาการ
ควบคุมโดยตรง เช่น ผู้แทนของรัฐเข้ามีส่วนในการบริหาร
เป็นต้นอีกด้วย
๒.๓ สร้างความสมดุลระหว่างภาคสาธารณะกับภาคเอกชน
ระบบเศรษฐกิจเสรีนิยมของประเทศไทย มิใช่มีแต่
เศรษฐกิจเอกชนอย่างเดียว แต่มีเศรษฐกิจสาธารณะ โดย
เฉพาะคือเศรษฐกิจของรัฐอีกด้วย โดยภาคสาธารณะตั้งอยู่
บนรากฐานของภาคเอกชน แต่ภาคสาธารณะแม้ว่าจะเป็น
ฝ่ายข้างน้อยก็มีความสำาคัญในฐานะเป็นหลักนำาต่อภาค
เอกชน และส่งเสริมช่วยเหลือภาคเอกชน ภาคสาธารณะ
กับภาคเอกชนจะต้องมีความสมดุลกัน จึงจะสามารถเป็น
ปัจจัยให้แก่การขยายตัวของกันและกัน วิธีการสร้างความ
สมดุล คือ ปรับปรุงการบริหารของภาคสาธารณะโดย
เฉพาะของรัฐวิสาหกิจเสียใหม่ทั้งหมดทั้งฝ่าย
สาธารณูปโภคและฝ่ายบริโภค ทั้งที่ผูกขาดและไม่ผูกขาด
เพื่อให้รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นมีประสิทธิภาพเท่าเทียมหรือ
เหนือกว่าวิสาหกิจเอกชน เพื่อจะได้ทำาหน้าที่เป็นหลักนำา
และส่งเสริมช่วยเหลือวิสาหกิจเอกชน และเพื่อคาน
วิสาหกิจเอกชนในการรักษาเสถียรภาพของตลาด การ
ปรับปรุงการบริหารของภาคสาธารณะนั้น ให้องค์การ
แรงงานของรัฐวิสาหกิจนั้นๆ เข้าร่วมดำาเนินการด้วย
๒.๔ สร้างความสมดุลระหว่างเกษตรกรรมกับอุตสาหกรรม
สภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบัน เกษตรกรรม
เป็นฝ่ายครอบงำา แต่ทิศทางของพัฒนาการจะต้องมุ่งไปสู่
ความเป็นอุตสาหกรรม ภายใต้สภาวการณ์ดังกล่าวการ
พัฒนาจะต้องเน้นหนักในการพัฒนาเกษตรกรรม ขณะ
เดียวกันก็ต้องพัฒนาอุตสาหกรรมให้ได้สัดส่วนกัน และ
9
การพัฒนาอุตสาหกรรมจะต้องเน้นหนักการพัฒนา
อุตสาหกรรมเบา (อุตสาหกรรมแปรวัตถุดิบเกษตรกรรม
ภายในประเทศ เป็นสินค้าสำาเร็จรูปหรือกึ่งสำาเร็จรูป) แต่
การพัฒนาอุตสาหกรรมเบาก็ต้องมีเป้าหมายเพื่อพัฒนา
อุตสาหกรรมหนัก (อุตสาหกรรมพลังงาน อุตสาหกรรม
เหล็ก อุตสาหกรรมเครื่องจักร อุตสาหกรรมเคมี) ซึ่งเป็น
รากฐานอันสำาคัญที่สุดของการทำาเกษตรกรรมให้ทันสมัย
๒.๕ สร้างความสมดุลระหว่างเมืองกับชนบท
ที่แล้วมาการขยายตัวของเมืองและชนบทเป็นไปอย่างไม่
สมำ่าเสมอ ความเจริญเข้ามารวมอยู่ในเมืองหลวงและนคร
ใหญ่ ชนบทยังล้าหลังห่างไกล ฉะนั้น จึงต้องเร่งรัดสร้าง
ความเจริญให้แก่ชนบทในทุกทาง และทำาให้ชนบทให้เป็น
ที่อยู่ดีกินดี ขณะเดียวกันก็ระบายความแออัดยัดเยียดออก
จากเมืองหลวงและนครใหญ่ วิธีการคือ จะต้องแบ่งสันปัน
ส่วนภาษีอากรระหว่างส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้อง
ถิ่นอย่างเหมาะสม และทำาให้ส่วนภูมิภาคและท้องถิ่นไม่
ต้องอาศัยงบประมาณส่วนกลาง กับขยายอุตสาหกรรมไปสู่
ชนบทให้สอดคล้องกับเกษตรกรรม ที่ไหนมีเกษตรกรรม
อย่างไรก็ขยายอุตสาหกรรมแปรวัตถุดิบอย่างนั้น สร้าง
ความสมดุลระหว่างเกษตรกรรมกับอุตสาหกรรมขึ้นในท้อง
ถิ่นและยกระดับของชนบทจนถึงขนาดที่คนไม่ไหลเข้าสู่
เมือง แต่ชนบทกลับเป็นที่ดึงดูดคนในเมืองให้ระบายออก
ไป
๒.๖ สร้างความสมดุลระหว่างการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
กับการขยายตัวของประชากร
ปัญหาร้ายแรงในปัจจุบันก็คือ การขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ไม่ทันกับการขยายตัวของประชากร จึงจำาเป็นอย่างรีบด่วน
ที่จะต้องเร่งรัดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้างงานให้
เพียงพอกับคน ขณะเดียวกันก็จะต้องลดการขยายตัวของ
ประชากรอย่างน้อยชั่วระยะหนึ่ง การเร่งรัดการขยายตัว
ทางเศรษฐกิจก็คือ
10
๒.๖.๑ เพิ่มการผลิตทางการเกษตร บนรากฐานของการ
ปฏิรูปที่ดินและทำาเกษตรกรรมให้ทันสมัย
ทำาการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ โดยเฉพาะคือพืชเศรษฐกิจด้วย
การใช้วิชาการเกษตรกรรมแบบใหม่ให้ทั่วถึง ปรับปรุง
ระบบชลประทาน จัดหาและจำาหน่ายปุ๋ยในราคาเยา ส่ง
เสริมการปลูกพืชหมุนเวียน ให้การศึกษาด้านเกษตรกรรม
แก่ชาวนาชาวไร่อย่างเต็มที่ ขยายกิจการธนาคารเพื่อ
การเกษตรและสหกรณ์ให้กว้างขวางทั่วประเทศ เพิ่ม
บริการชาวนาชาวไร่อย่างมีประสิทธิภาพ จัดประเภทการ
ผลิตทางเกษตรกรรมให้เหมาะสมกับท้องที่ และแนะนำา
เกษตรกรให้ปลูกพืชให้เหมาะสมกับความต้องการของ
ตลาด ประกันราคาของสินค้าเกษตรกรรม โดยขยายและ
รักษาตลาดต่างประเทศอย่างมั่นคงและใช้ค่าพรีเมี่ยม
ทั้งหมดเป็นกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร ใช้วิธีการสหกรณ์
เข้าช่วยเหลือการขยายเกษตรกรรมอย่างเต็มที่ และ
สนับสนุนการรวมกลุ่มเกษตรกรเป็นสถาบันการเกษตร
๒.๖.๒ เพิ่มการผลิตทางอุตสาหกรรม เน้นหนัก
อุตสาหกรรมที่แปรรูปวัตถุดิบเกษตรกรรมภายในประเทศ
ให้เป็นสินค้าสำาเร็จรูปหรือกึ่งสำาเร็จรูปพร้อมทั้งขยายการ
ผลิตของอุตสาหกรรมครอบครัว ทั้งนี้เพื่อเพิ่มพูนสินค้า
บริโภคให้มากที่สุด และการพัฒนาอุตสาหกรรมดังกล่าว
จะต้องมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาอุตสหกรรมขั้นมูลฐาน
ป้องกันการโจมตีจากต่างประเทศโดยตั้งกำาแพงภาษี หรือ
ห้ามสั่งสินค้าเข้าตามความเหมาะสม กระจายอุตสาหกรรม
ไปยังแหล่งวัตถุดิบขยายการฝึกอบรมแรงงาน ส่งเสริม
สมาคมนายจ้างและสหภาพแรงงาน และส่งเสริมหลักการ
ผลประโยชน์ซึ่งกันและกันระหว่างนายทุนกับแรงงาน ส่ง
เสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
๒.๖.๓ ขยายพาณิชยกรรม ขยายตลาดต่างประเทศทั้ง
สินค้าเกษตรกรรมและสินค้าอุตสาหกรรม พยายามขยาย
11
ตลาดเข้าไปในตลาดสังคมนิยมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำาได้
และรัฐเข้าดำาเนินการค้าต่างประเทศเองตามความจำาเป็น
แก้ไขความเสียเปรียบในวิธีดำาเนินการค้าและธุริจของต่าง
ประเทศ แก้ไขการเสียเปรียบดุลการค้า โดยลดปริมาณ
สินค้าปัจจัยบริโภคโดยเฉพาะ คือ ของฟุ้มเฟือย และเพิ่ม
ปริมาณสินค้าปัจจัยการผลิตโดยเฉพาะคือ เครื่องจักร
พยายามตัดคนกลางในการส่งวัตถุดิบไปต่างประเทศ
พร้อมทั้งกวดขันการควบคุมมาตรฐานสินค้า เพิ่มปริมาณ
ส่งออกวัตถุแปรรูป การค้าบางอย่างใช้วิธีแลกเปลี่ยนสินค้า
โดยตรง ส่วนตลาดภายในประเทศจะต้องทำาให้มี
เสถียรภาพ โดยให้องค์การค้าของรัฐทำาหน้าที่ตรึงราคา
อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้สหกรณ์กำาจัดคนกลาง
๒.๖.๔ ขยายการขนส่ง โดยเพิ่มปัจจัยการขนส่งอย่างรอบ
ด้าน ควบคุมค่าขนส่งให้พอเหมาะพอดี มิให้มีผลกระทบ
กระเทือนต่อการตลาดและการผลิต
๒.๖.๕ ขยายทุน ระดมและกระจายทุนทั้งทางเกษตรกรรม
อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และการขนส่ง โดยเน้นหนัก
ในการขยายทุนทางเกษตรกรรม แหล่งของทุนเอามาจาก
การผลิต ภาษีอากร การประหยัด และทุนจากต่างประเทศที่
ไม่มีเงื่อนไขทางการเมือง
๒.๗ ควบคุมการเฉลี่ยรายได้แห่งชาติให้เป็นธรรม
ตามสภาพที่เป็นอยู่รายได้แห่งชาติ ๙๐ % เฉลี่ยระหว่าง
คนรวย และรายได้แห่งชาติ ๑๐% เฉลี่ยระหว่างคนจน ซึ่ง
เป็นการเฉลี่ยที่ไม่เป็นธรรม เป็นเหตุให้ช่องว่างระหว่าง
คนจนกับคนรวยกว้างมาก รัฐจึงต้องควบคุมการเฉลี่ยราย
ได้แห่งชาติให้เป็นธรรม เพื่อลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับ
คนจนให้แคบลง การควบคุมเฉลี่ยรายได้แห่งชาตินั้น มิใช่
กระทำาด้วยกฎหมายหรืออำานาจบังคับ แต่กระทำาโดยการ
ส่งเสริมการพัฒนาระบบเศรษฐกิจให้เหมาะสมกับสภาพ
ของประเทศไทย ตามนโยบายและแผนอันถูกต้อง เพื่อให้
เศรษฐกิจแห่งชาติได้ขยายตัวไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว
12
เช่น การจำากัดการผูกขาด การกระจายทุน การขยายการ
ผลิต การตัดคนกลาง การเฉลี่ยงบประมาณระหว่างส่วน
กลางกับส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น เป็นต้น การพัฒนา
เศรษฐกิจอย่างได้ผลตามนโยบายและแผนอันถูกต้อง
ทำาให้รายได้เฉลี่ยของประชากรทั่วไปสูงขึ้น และการใช้
ระบบผูกขาดควบคุมการครองชีพของประชาชนก็จะ
เบาบางหรือหมดสิ้นไป ทำาให้เกิดการเฉลี่ยรายได้แห่งชาติ
เป็นธรรมโดยอัตโนมัติ แม้จะใช้กฎหมายบ้างก็เป็นส่วน
ประกอบเท่านั้น แต่ถ้าไม่พัฒนาเศรษฐกิจให้ได้ผล การใช้
กฎหมายในเรื่องนี้ก็ไม่มีประโยชน์ อย่างกฎหมายกำาหนัด
ค่าจ้างขั้นตำ่า ถ้าพัฒนาเศรษฐกิจล้มเหลว กฎหมายนั้นก็
เป็นเพียงเศษกระดาษชิ้นหนึ่ง รวมความว่าการควบคุม
เฉลี่ยรายได้แห่งชาติ ก็คือการพัฒนาระบบเศรษฐกิจ
เสรีนิยมที่เหมาะสมกับประเทศไทยให้เป็นไปตามนโยบาย
และแผนอันถูกต้อง
๒.๘ ร่วมมือทางเศรษฐกิจกับนานาประเทศ โดยไม่เลือก
ระบบสังคม ภายใต้หลักการของความเป็นอิสระและพึ่ง
ตนเอง
การเมืองตั้งอยู่บนรากฐานของเศรษฐกิจ ฉะนั้น การร่วมมือ
ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่จะไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
เลยจึงเป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือระหว่างประเทศ
ในระบบสังคมเดียวกัน หรือคนละระบบสังคมก็ตาม ถ้า
ยอมรับว่าเศรษฐกิจและการค้าขึ้นต่อการเมืองและดำาเนิน
ไปตามหลักการนี้ โดยทำาให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและ
การค้ากับประเทศสังคมนิยมและประเทศเสรีนิยมด้วยกัน
ขึ้นต่อนโยบายต่างประเทศที่ถูกต้องแล้ว การร่วมมือทาง
เศรษฐกิจ และการค้ากับนานาประเทศโดยไม่เลือกระบบ
สังคม ก็จะเป็นผลดีแก่การพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติอย่าง
ใหญ่หลวง และนี่คือการร่วมมือภายใต้หลักการของความ
เป็นอิสระ และพึ่งตนเองตามลักษณะพิเศษของนโยบายต่าง
ประเทศที่ถูกต้องของไทย คือ นโยบายอิสระ
๒.๙ ปัญหาการคลังและการเงิน
13
การคลังและการเงินเป็นองค์ประกอบสำาคัญของเศรษฐกิจ
จึงต้องแก้ปัญหาการคลังและการเงินโดยสัมพันธ์กับการแก้
ปัญหาทางเศรษฐกิจ การขยายเศรษฐกิจจะต้องดูจากการ
ผลิตการภาษีว่าขยายตัวได้อย่างไร ไม่ให้เกินตัวจนต้อง
อาศัยเงินกู้จนเกินควร การเก็บภาษีควรเอาจากการผลิต
เป็นอันดับแรก ภาษีสินค้าขาเข้าขาออกเป็นอันดับต่อมา
ภาษีเอกชนเป็นอันดับสุดท้าย แต่ภาษีสินค้าเข้าสินค้าออก
จะต้องไม่ทำาลายการส่งเสริมการผลิตและการค้าต่าง
ประเทศ ปัญหาการเงินที่สำาคัญนั้นอยู่ที่จะต้องรักษา
เสถียรภาพของเงินบาท วิธีการคือ เปลี่ยนมาตรฐานเงิน
ตราต่างประเทศเป็นมาตรฐานทองคำาเป็นหลัก เพราะใน
ปัจจุบันเงินตราต่างประเทศ เช่นสกุลดอลล่าร์มักจะขาด
เสถียรภาพ แต่ไม่หมายความว่าจะยกเลิกมาตรฐานเงินตรา
ต่างประเทศเพียงมาตรฐานดอลล่าร์ มาตรฐานปอนด์ ฯลฯ
เป็นส่วนประกอบ วิธีการเช่นนี้จะเป็นส่วนช่วยอย่างสำาคัญ
ในการรักษาเสถียรภาพของเงินบาท
๓. การสังคม
๓.๑ แก้ปัญหาสังคมบนรากฐานของการแก้ปัญหา
เศรษฐกิจ ประกอบด้วยการศึกษาอบรม
ปัญหาสังคม เช่น ปัญหาการว่างงาน ปัญหาอาชญากรรม
ปัญหาคอรัปชั่น และความเน่าเฟะต่างๆ ในสังคม ส่วน
สำาคัญเกิดจากความยากจนและการไม่มีงานทำา อันเนื่องมา
จากการแก้ปัญหาเศรษฐกิจแห่งชาติไม่ตก ฉะนั้น ถ้าความ
ยากจนและการไม่มีงานทำายังครอบงำาสังคมอยู่ การพรำ่า
สอนไม่ทำาให้ทำาชั่วและขยันขันแข็งประกอบสัมมาอาชีพจึง
ไม่ใคร่จะได้ผล เพราะถ้าไม่ประกอบอาชญากรรม ทำา
คอรัปชั่น หรือประกอบมิจฉาชีพก็ไม่มีอะไรจะกิน และถึง
แม้จะขยันขันแข็งก็ไม่มีงานทำา แต่การศึกษาอบรมจะได้ผล
เต็มที่ถ้าความยากจนบรรเทาลง คนมีงานทำาและ
อาชญากรรมแก้ไขได้ คอรัปชั่นปราบได้ การว่างงานขจัด
ได้ ด้วยการศึกษาอบรมและมาตรการทางกฎหมาย ถ้า
พัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติตามนโยบายและแผนอันถูกต้อง
14
๓.๒ แผนการศึกษาแห่งชาติขึ้นต่อแผนเศรษฐกิจแห่งชาติ
สมัยก่อน การบำารุงการศึกษาไม่มีขอบเขตจำากัด เพราะ
สมัยนั้นความเจริญของบ้านเมืองขึ้นอยู่กับการศึกษาของ
ประชาชน ยิ่งขยายการศึกษามากเพียงใดบ้านเมืองก็เจริญ
มากเพียงนั้น แต่ในปัจจุบัน การขยายตัวทางการศึกษา
จำากัดด้วยการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การขยายตัวทางการ
ศึกษาอย่างไม่มีขอบเขตจำากัดแทนที่จะเป็นผลดีกลับเป็น
ผลร้าย โดยเฉพาะจะเป็นเหตุหนึ่งของการว่างงาน การ
จำากัดการขยายตัวของการศึกษานั้น ไม่หมายถึงการลดงบ
ประมาณการศึกษา งบประมาณการศึกษาจะต้องเพิ่มขึ้น
โดยลำาดับอย่างแน่นอน การจำากัดการขยายตัวของการ
ศึกษา หมายความถึงแผนการศึกษาจะต้องขึ้นต่อแผน
เศรษฐกิจ ซึ่งจะกำาหนดให้การขยายการศึกษาเป็นไปตาม
ความต้องการของแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ใน
สภาวการณ์ใดระดับการศึกษาและวิชาชีพใดเพียงพอแก่
ความต้องการก็ลดลว ในสภาวการณ์ใดระดับการศึกษา
และสาขาอาชีพใดเป็นความต้องการ ก็เพิ่มขึ้น ส่วนด้าน
สามัญศึกษาจะต้องขยายให้มากที่สุดไม่มีขอบเขตจำากัด
ตามระดับความสำาเร็จของการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นลำาดับ
ไป ทั้งนี้ จะเป็นไปได้โดยขยายการศึกษาชั้นประถมศึกษา
และมัธยมศึกษาให้มากที่สุด และควบคุมการศึกษาของ
เอกชนอย่างเคร่งครัด การศึกษาของชาติจะประสบความ
สำาเร็จสมความมุ่งหมายขึ้นอยู่กับความถูกต้องของแผน
เศรษฐกิจแห่งชาติ และประสานแผนการศึกษาแห่งชาติเข้า
กับแผนเศรษฐกิจแห่งชาติ
๓.๓ ดำาเนินการประกันสังคมทั่วทุกด้าน
ความไพบูลย์ทางเศรษฐกิจ อันเกิดจากผลสำาเร็จของการ
สร้างระบบเศรษฐกิจของระบอบประชาธิปไตยตามนโยบาย
ที่ถูกต้อง ย่อมจะเป็นปัจจัยให้มีงานให้ประชาชนทำามากขึ้น
และเป็นปัจจัยให้รัฐสามารถขยายการศึกษา การ
สาธารณสุข และสาธารณูปการอย่างอื่นให้กว้างขวางออก
15
ไปตามส่วน ประชาชนมีโอกาสทำางาน มีโอกาสศึกษา มีโอ
กาสรักษาพยายาบาล และมีโอกาสอื่นๆ เพิ่มขึ้นโดยลำาดับ
เมื่อเกิดความไพบูลย์ทางเศรษฐกิจ การว่างงานก็ค่อย ๆ
หมดไป การศึกษาโดยไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน การรักษา
โดยไม่ต้องเสียค่ารักษาตลอดจนบำาเหน็จบำานาญของคน
ชราและทุพลภาพก็จะมีขึ้นโดยลำาดับ ฉะนั้น ความไพบูลย์
ทางเศรษฐกิจจึงเป็นการประกันสังคมอยู่ในตัว และ
มาตรการประกันสังคมที่มีประสิทธิภาพที่สุดก็คือ การ
ดำาเนินการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติตามนโยบายและแผน
อันถูกต้องให้บรรลุผลสำาเร็จนั่นเอง กฎหมายประกันสังคม
จะต้องออกตามผลสำาเร็จของการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ
แม้ว่าจะออกกฎหมายประกันสังคมอย่างสวยงามเพียงใด
แต่ถ้าการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติล้มเหลวกฎหมายนั้นก็
ปฏิบัติไม่ได้
๔ การป้องกันประเทศ
๔.๑ หน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ของกองทัพแห่งชาติ
กองทัพแห่งชาติไม่ใช่กองทัพของบุคคลหรือคณะบุคคล
แต่เป็นกองทัพของชาติและของประชาชน กองทัพแห่ง
ชาติไม่สนับสนุนการเมืองของบุคคลหรือคณะบุคคล แต่
สนับสนุนการเมืองของชาติ ที่ว่าทหารไม่เกี่ยวข้องกับ
การเมืองนั้น ไม่หมายความกองทัพแห่งชาติจะไม่สนับสนุน
การเมืองของชาติ แต่หมายความว่าทหารไม่สนับสนุน
การเมืองของบุคคลหรือการเมืองที่ไม่ถูกต้อง เอกราชของ
ชาติและอธิปไตยของปวงชน คือ สาระสำาคัญของการเมือง
ของชาติ ซึ่งจะต้องอาศัยความสนับสนุนของกองทัพแห่ง
ชาติ จึงจะดำารงอยู่ได้ ฉะนั้น หน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ของกอง
ทัพแห่งชาติ จึงอยู่ที่การรักษาเอกราชของชาติและรักษา
อธิปไตยของประชาชน
การที่กองทัพแห่งชาติจะต้องรักษาไว้ซึ่งเอกราชของชาติ
นั้น เข้ากันดี แต่การที่กองทัพแห่งชาติจะต้องรักษาไว้ซึ่ง
16
ระบอบประชาธิปไตยของปวงชนนั้น ดูเหมือนจะยังไม่
ชัดเจนพอ ความจริงแล้วเอกราชขึ้นอยู่กับประชาธิปไตย
ประเทศชาติจะต้องเป็นประชาธิปไตยจึงจะมีเอกราชได้
และการที่ระบอบประชาธิปไตยล้มเหลวตลอดมา ก็เพราะ
กองทัพแห่งชาติไม่เข้าไปทำาหน้าที่สนับสนุนระบอบ
ประชาธิปไตยให้เพียงพอนั่นเอง ฉะนั้น กองทัพแห่งชาติ
จึงไม่เพียงแต่มีหน้าที่ทางทหารเท่านั้น หากยังมีหน้าที่ทาง
การเมืองอีกด้วย คือ หน้าที่ทางการเมืองของชาติ อันได้แก่
การรักษาเอกราชของชาติ และรักษาอธิปไตยของปวงชน
๔.๒ ปรับปรุงขีดความสามารถของกองทัพแห่งชาติ
การที่กองทัพแห่งชาติจะปฏิบัติหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์สอง
ประการอย่างมีประสิทธิภาพได้ จะต้องปรับปรุงขีดความ
สามารถของกองทัพให้สูงขึ้น เนื่องจากสงครามในปัจจุบัน
ซึ่งกองทัพแห่งชาติเผชิญอยู่ มีลักษณะแตกต่างกันโดยสิ้น
เชิงกับสงครามในอดีต ทำาให้ยุทธศาสตร์ของกองทัพแห่ง
ชาติที่มีอยู่เดิมไม่เพียงพอสำาหรับทำาสงครามในลักษณะ
ใหม่ให้ชนะ ฉะนั้น สารสำาคัญของการปรับปรุงขีดความ
สามารถของกองทัพ จึงอยู่ที่การปรับปรุงยุทธศาสตร์ เมื่อ
ปรับปรุงยุทธศาสตร์ให้สมบูรณ์ ทั้งยุทธศาสตร์ทหารและ
ยุทธศาสตร์การเมืองแล้ว การปรับปรุงขีดความสามารถ
อื่นๆ เช่นด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ ก็จะสำาเร็จตามไปด้วย
๔.๓ ปรับปรุงสวัสดิการทหาร
การที่กองทัพจะมารถปฏิบัติหน้าที่ด้วยขีดความสามารถใน
ระดับสูงได้นั้น ทหารจะต้องได้รับสวัสดิการในทุกด้าน
อย่างเพียงพอ ฉะนั้น จึงต้องปรับปรุงสวัสดิการทหารในทุก
ด้านให้ดีที่สุดเท่าที่จะสามารถทำาได้
๕ นโยบายต่างประเทศ
๕.๑ รักษาลักษณะพิเศษของนโยบายต่างประเทศของชาติ
ไทย
17
นโยบายต่างประเทศกำาหนดขึ้นจากรากฐานของ
วิวัฒนาการทางประวัติศาสตร์และทางสังคมของ
ประเทศไทย ภายใต้หลักนำาของลักษณะพิเศษประจำาชาติ
ไทย ๓ ประการ คือ
๕.๑.๑ รักความเป็นไท
๕.๑.๒ อหิงสา
๕.๑.๓ รู้จักประสานผลประโยชน์
ชาติไทย เป็นชาติเก่าแก่ซึ่งมีลักษณะประจำาชาติสูงส่ง จึง
มีนโยบายต่างประเทศอันแน่นอน เป็นมรดกลำ้าค่าตกทอด
มาแต่บรรพกาล เรียกว่า “นโยบายอิสระ” วิธีดำาเนิน
นโยบายต่างประเทศที่ถูกต้องก็คือ นำาเอานโยบายอิสระมา
ใช้กับปัญหาความสัมพันธ์กับต่างประเทศตามสถานการณ์
ที่เปลี่ยนแปลงไป ฉะนั้น สำาหรับนโยบายต่างประเทศของ
ไทยแล้ว นโยบายหลักไม่เปลี่ยนแปลง แต่นโยบายตาม
สถานการณ์เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และจะต้องใช้นโยบาย
สองอย่างนี้ควบคู่กันตลอดไป โดยนโยบายตาม
สถานการณ์ตั้งอยู่บนรากฐานของนโยบายหลัก ไม่ว่าจะ
ดำาเนินนโยบายต่อประเทศใด หรือต่อปัญหาใด ใน
สถานการณ์ใด เช่น ต่อสหรัฐอเมริกา ต่อสาธารณรัฐ
ประชาชนจีน ต่อสหภาพโซเวียต ต่อสหประชาชาติ ต่ออา
เซี่ยน ต่ออินโดจีน ฯลฯ จะต้องยึดถือนโยบายอิสระเป็น
หลักอยู่ตลอดเวลา วิธีดำาเนินนโยบายต่างประเทศเช่นนี้
ประเทศไทยเคยใช้มาแต่อดีต ยังผลให้รอดพ้นภัยพิบัติและ
ดำารงเอกราชอธิปไตยไว้ได้ ในปัจจุบันสภาวการณ์ทาง
ภูมิศาสตร์และทางการเมือง กำาหนดให้ประเทศไทยเป็นจุด
ยุทธศาสตร์สำาคัญที่สุดในความขัดแย้งของโลก ทั้งความ
ขัดแย้งระหว่างเสรีนิยมกับสังคมนิยม ความขัดแย้งภายใน
ระบบเสรีนิยม ความขัดแย้งภายในระบบสังคมนิยม และใน
ท่ามกลางความขัดแย้งของโลกปัจจุบัน ไม่มีประเทศใดไม่
18
ว่ามหาอำานาจหรือมิช่มหาอำานาจ จะเป็นหลักในการแก้
ความขัดแย้งได้ ทำาให้มีอันตรายแห่งสงคราม ทั้งใน
ขอบเขตภูมิภาคและขอบเขตโลก แต่ประเทศไทยซึ่งเป็น
จุดยุทธศาสตร์สำาคัญที่สุดและมีนโยบายต่างประเทศที่อยู่
บนรากฐานของลักษณะประจำาชาติอันสูงส่ง เป็นประเทศ
เดียวที่อยู่ในฐานะที่จะแก้ความขัดแย้งของโลก ป้องกัน
สงครามและรักษาสันติภาพซึ่งเป็นหลักประกันของการ
รักษาผลประโยชน์ของประเทศไทยอย่างถึงที่สุด ฉะนั้น
ประเทศไทยจึงต้องวางตัวเป็นหลักตามความหมายที่แท้
จริงของ “นโยบายอิสระ” ในท่ามกลางความขัดแย้งทั้งใน
ภูมิภาคและในโลก
๕.๒ ส่งเสริมสัมพันธไมตรีอันดีและความสัมพันธ์ทาง
เศรษฐกิจการค้ากับทุกประเทศ โดยไม่คำานึงถึงความแตก
ต่างในระบอบการปกครอง ระบบเศรษฐกิจและสังคม
๕.๓ ส่งเสริมชักชวนการลงทุนจากต่างประเทศ โดยมีหลัก
ประกันที่เป็นธรรม และร่วมมือกับประเทศกำาลังพัฒนา เพื่อ
เสริมสร้างประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
ระหว่างประเทศ
๕.๔ ยับยั้งการสร้างสถานการณ์เพื่อเปลี่ยนสงครามใน
ประเทศเป็นสงครามประชาชาติ และกำาจัดบรรยากาศ
สงครามประชาชาติ
๕.๕ ดำาเนินนโยบายเป็นกลางบนรากฐานของ “นโยบาย
อิสระ” ของชาติไทย ในปัญหาความขัดแย้งภายในระบบ
สังคมนิยม
๕.๖ เรียกร้องให้มีการประชุมนานาชาติ เพื่อรับรอง
สถานภาพเป็นกลางของประเทศไทย เพื่อเป็นเงื่อนไขให้
ประเทศไทย ในฐานะเป็นจุดยุทธศาสตร์อันสำาคัญที่สุดใน
ความขัดแย้งของโลกปัจจุบัน ได้แสดงบทบาทอย่างเต็ม
19
ภาคภูมิในการป้องกันสงครามและรักษาสันติภาพถาวร
ของโลก
๖ วัฒนธรรม
๖.๑ กำาจัดวัฒนธรรมตำ่าทรามที่แพร่หลายมาจากต่าง
ประเทศ และรับวัฒนธรรมต่างประเทศโดยกลั่นกรอง
วัฒนธรรมเป็นองค์ประกอบอันสำาคัญอย่างหนึ่งของระบบ
สังคม และมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับองค์ประกอบ
สำาคัญอีกสองประการ คือ เศรษฐกิจและการเมือง ฉะนั้น
การแก้ปัญหาวัฒนธรรมจึงต้องประสานกับการแก้ปัญหา
เศรษฐกิจและการเมือง เศรษฐกิจซึ่งระบบผูกขาดของ
เอกชนครอบงำาการครองชีพของประชาชน และการเมืองที่
ไม่เป็นประชาธิปไตย นอกจากจะบั่นทอนวัฒนธรรมอันดี
งาม ยังเป็นแหล่งรองรับวัฒนธรรมตำ่าทรามที่แพร่มาจาก
ต่างประเทศอีกด้วย การพัฒนาระบบเศรษฐกิจระบบ
เสรีนิยมที่ก้าวหน้าและพัฒนาการเมืองให้เป็นระบอบ
ประชาธิปไตยที่แท้จริง คือ มาตรการพื้นฐานในการ
ป้องกันและกำาจัดวัฒนธรรมตำ่าทรามต่างๆ ทั้งที่เกิดขึ้น
ภายในประเทศและที่แพร่มาจากต่างประเทศ ในขณะ
เดียวกันก็ใช้มาตรการทางกฎหมายและทางการศึกษา
อบรมควบคู่กันไปด้วย วัฒนธรรมตำ่าทรามนั้นไม่เป็นสิ่งพึง
ประสงค์ไม่ว่าของเทศใดๆ แต่วัฒนธรรมที่ดีของแต่ละชาติ
ก็ไม่ใช่ว่าจะยอมรับซึ่งกันและกันใด้เสมอไป วัฒนธรรมซึ่ง
ชาติหนึ่งถือว่าดี อีกชาติหนึ่อาจถือว่าไม่ดีก็ได้ เช่น
ประเพณีความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงซึ่งชาติหนึ่งถือว่าดี
งาม แต่อีกชาติหนึ่งถือว่าเป็นการอนาจารไปก็มี ฉะนั้น
การรับวัฒนธรรมจากต่างชาติ จึงต้องคัดเลือกกลั่นกรอง
เอาแต่เฉพาะที่ไม่ขัดกับวัฒนธรรมไทย แม้ว่าวัฒนธรรม
เหล่านั้นจะไม่ใช่วัฒนธรรมตำ่าทรามก็ตาม
๖.๒ เชิดชูวัฒนธรรมไทยอันสูงส่งมาแต่บรรพกาล
20
ภูมิแห่งจิตใจของชนชาติไทยซึ่งแสดงออกทาง
ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วรรณคดี และความ
สัมพันธ์กับต่างชาติ เป็นต้นนั้นสูงส่งอย่างยิ่ง ซึ่งจะต้อง
รักษาและเชิดชูไว้ตลอดไป วัฒนธรรมอันสูงส่งย่อมอาศัย
ระบอบประชาธิปไตยเป็นพื้นฐาน เพราะวัฒนธรรมอันสูงส่ง
ก็คือวัฒนธรรมของประชาชน ถ้าไม่มีประชาธิปไตย
วัฒนธรรมของประชาชนก็จะไม่สามารถพัฒนาอย่างเต็มที่
ได้ การปกครองประเทศไทยมีลักษณะประชาธิปไตยมา
ตั้งแต่บรรพกาล นี่คือ ปัจจัยสำาคัญให้วัฒนธรรมของ
ประชาชนได้พัฒนาอย่างเต็มที่ จึงส่งเสริมให้วัฒนธรรม
ไทยเป็นวัฒนธรรมที่สูงส่ง ฉะนั้น มาตรการพื้นฐานของ
การเชิดชูวัฒนธรรมไทยก็คือ การพัฒนาระบอบ
ประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับประเทศไทยนั่นเอง ประสาน
กับการส่งเสริมวัฒนธรรมใดด้านต่าง ๆ โดยตรงด้วย
๖.๓ ส่งเสริมเสรีภาพของกลุ่มชนต่างเชื้อชาติใน
ประเทศไทยในการพัฒนาวัฒนธรรมของตน
คนไทยประกอบด้วยชนหลายเชื้อชาติ นอกจากเชื้อชาติ
ไทยแล้วยังมีชนเชื้อชาติอื่นๆ เช่น ชาวเขา ชาวมาเลย์
เป็นต้น ความแตกต่างทางเชื้อชาติย่อมกำาหนดความแตก
ต่างทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ระบอบ
ประชาธิปไตยยอมรับ ฉะนั้น ระบอบประชาธิปไตยจึงต้อง
ให้เสรีภาพทางวัฒนธรรมแก่ชนเชื้อชาติต่างๆ ภายใน
ประเทศ เพื่อให้วัฒนธรรมของประชาชนเชื้อชาติเหล่านั้น
ได้พัฒนาไปอย่างเต็มที่ แม้ว่าวัฒนธรรมของชนเชื้อชาติ
อื่นจะแตกต่างกับวัฒนธรรมของชนเชื้อชาติไทยก็ตาม แต่
เมื่อเป็นวัฒนธรรมของประชาชนก็ย่อมเป็นวัฒนธรรมที่ดี
งามทั้งสิ้น ฉะนั้น การให้เสรีภาพทางวัฒนธรรมจึงมีผลดี
โดยเฉพาะคือ ผลดีในการกระชับความสามัคคีแห่งชาติ
21
๖.๔ พัฒนาวัฒนธรรมทางการเมืองบนรากฐานของการส่ง
เสริมทรรศนะที่ถือว่า การเมืองคือคุณธรรมตามคตินิยม
ของคนไทยแต่โบราณ
โดยลักษณะการเมืองคือคุณธรรม เพราะมีความมุ่งหมาย
เพื่อความสุขของประชาชน ความจริงข้อนี้คนไทยได้ถือ
เป็นคตินิยมมาแต่โบราณ เช่น ทศพิธราชธรรม เป็นต้น
ในบรรดาระบอบการปกครองทั้งหลาย ระบอบ
ประชาธิปไตยเป็นระบอบที่มีคุณธรรมสูงสุด เพราะระบอบ
ประชาธิปไตยเป็นระบอบที่รักษาผลประโยชน์ของ
ประชาชน ดังนั้น ประชาธิปไตยก็คือธรรมาธิปไตย นั่นเอง
จึงไม่มีการเมืองใดจะมีคุณธรรมสูงส่งเสมอด้วยการเมือง
ประชาธิปไตย และดังนั้นถ้าจะเป็นประชาธิปไตยก็จำาเป็น
จะต้องกำาจัดทรรศนะที่เห็นการเมืองเป็นของสกปรกและ
กลับไปสู่ทรรศนะเดิม คือ การเมืองเป็นคุณธรรมต่อไป และ
บนรากฐานของทรรศนะที่ถูกต้องนี้ ดำาเนินการพัฒนา
วัฒนธรรมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย เช่นความ
สามารถในการทำางานร่วมกับผู้อื่น ความอดทนต่อความ
เห็นที่ตรงกันข้ามกับของตน ความมีวินัย ความยอมรับเสียง
ข้างมาก ความยืนหยัดในหลักการที่ถูกต้องแม้ว่าจะเป็น
ฝ่ายข้างน้อย ความใจกว้าง ความยอมแพ้ต่อเหตุผล ความ
เคารพในหลักวิชา ความอุทิศตนเพื่อประเทศชาติเพื่อ
ประชาชน และเพื่อคุณธรรม เป็นต้น ให้มีทรรศนะที่เห็น
การเมืองเป็นคุณธรรม และให้สมบูรณ์ด้วยวัฒนธรร
ทางการเมืองอย่างมากที่สุด
๖.๕ ส่งเสริมความบริสุทธิ์ผุดผ่องของพุทธศาสนา อันเป็น
ศาสนาประจำาชาติไทย รวมทั้งศาสนาอื่นๆ ในประเทศไทย
พระพุทธศาสนาเป็นองค์ประกอบอันสำาคัญที่สุดของ
วัฒนธรรมไทย เพราะหลักธรรมของพระพุทธศาสนา
สอดคล้องอย่างลึกซึ้งกับลักษณะพิเศษประจำาชาติไทย
22
โดยเฉพาะคือ อหิงสา (ความไม่เบียดเบียน) เป็นลักษณะ
พิเศษอย่างหนึ่งของคนไทย และหลักธรรมอย่างหนึ่งของ
พระพุทธศาสนาคือ อหิงสา ปรโม ธมฺโม (ความไม่
เบียดเบียนเป็นธรรมอย่างยิ่ง) ด้วยเหตุนี้ คนไทยซึ่งรับเอา
พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำาชาติ จึงเข้ากับศาสนา
อื่นได้เป็นอย่างดี ในประวัติศาสตร์ของชาติไทยไม่เคยมี
การเลือกปฏิบัติต่อศาสนาอื่น และไม่เคยมีเหตุการณ์ร้าย
แรงอันเนื่องมาจากความแตกต่างทางศาสนา การที่เป็น
เช่นนี้ก็เพราะนับถือพุทธศาสนาของคนไทยนั้น โดยพื้น
ฐานเป็นการนับถือหลักธรรมอันแท้จริง แม้ว่าจะประกอบ
ด้วยพิธีการ และลัทธินิยมอื่นๆ มากมาย แต่โดยพื้นฐานก็
มิได้ละทิ้งหลักธรรมอันแท้จริง หลักธรรมอันแท้จริงนี่เอง
คือ ความบริสุทธิ์ผุดผ่องของศาสนา ซึ่งควรเน้นหนักใน
การส่งเสริมโดยร่วมมือกับบรรดานักปฏิบัติธรรมที่ถูกต้อง.
เมื่อได้ปฏิบัติหลังการต่างๆที่ยกมาข้างต้นปรากฏเป็น
จริงอย่างรอบด้านต่อสังคมไทยแล้วตัวแทน
ประชาชน(ตัวแทนเขตและตัวแทนทุกสาขาอาชีพ)ที่มา
จากการเลือกตั้ง มาพิจารณาร่างกฎหมายรัฐธรรมนูนเพื่อ
รักษาทุกสิ่งทุกอย่างข้างต้น เพื่อแสดงถึงการถืออำานาจ
อธิปไตยของปวงชนตลอดไปเหมือนกับอนารยะประเทศทั้ง
หลายที่เป็นประชาธิปไตยแล้วทั่วโลก
Edit : thongkrm_virut@yahoo.com
23

More Related Content

More from Thongkum Virut

งานวิจัย
งานวิจัยงานวิจัย
งานวิจัยThongkum Virut
 
ลัทธิชาตินิยม(Nationalism)
ลัทธิชาตินิยม(Nationalism)ลัทธิชาตินิยม(Nationalism)
ลัทธิชาตินิยม(Nationalism)Thongkum Virut
 
บิดาวิชาเศรษฐศาสตร์ไทย
บิดาวิชาเศรษฐศาสตร์ไทยบิดาวิชาเศรษฐศาสตร์ไทย
บิดาวิชาเศรษฐศาสตร์ไทยThongkum Virut
 
การปกครองของไทยในสมัยโบราณ
การปกครองของไทยในสมัยโบราณการปกครองของไทยในสมัยโบราณ
การปกครองของไทยในสมัยโบราณThongkum Virut
 
หนังสือ ความขัดแย้งของการปฏิวัติ กับ ปัญหาของปัญญาชน อันโตนิโย กรัมชี - สมบ...
หนังสือ ความขัดแย้งของการปฏิวัติ กับ ปัญหาของปัญญาชน   อันโตนิโย กรัมชี - สมบ...หนังสือ ความขัดแย้งของการปฏิวัติ กับ ปัญหาของปัญญาชน   อันโตนิโย กรัมชี - สมบ...
หนังสือ ความขัดแย้งของการปฏิวัติ กับ ปัญหาของปัญญาชน อันโตนิโย กรัมชี - สมบ...Thongkum Virut
 
หนังสือ คอลัมน์ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร เล่ม ๓
หนังสือ คอลัมน์ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร เล่ม ๓หนังสือ คอลัมน์ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร เล่ม ๓
หนังสือ คอลัมน์ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร เล่ม ๓Thongkum Virut
 
หนังสือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ทรงโต้แย้งเค้าโคงเศรษฐกิจ ของ ปรีดี พนมยงค์(ฉบ...
หนังสือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ทรงโต้แย้งเค้าโคงเศรษฐกิจ ของ ปรีดี พนมยงค์(ฉบ...หนังสือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ทรงโต้แย้งเค้าโคงเศรษฐกิจ ของ ปรีดี พนมยงค์(ฉบ...
หนังสือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ทรงโต้แย้งเค้าโคงเศรษฐกิจ ของ ปรีดี พนมยงค์(ฉบ...Thongkum Virut
 
หนังสือ ไม้ขีดก้านเดียวทีเปลียนสังคมเกาหลี จรรยา ยิ้มประเสริ
หนังสือ ไม้ขีดก้านเดียวทีเปลียนสังคมเกาหลี จรรยา ยิ้มประเสริหนังสือ ไม้ขีดก้านเดียวทีเปลียนสังคมเกาหลี จรรยา ยิ้มประเสริ
หนังสือ ไม้ขีดก้านเดียวทีเปลียนสังคมเกาหลี จรรยา ยิ้มประเสริThongkum Virut
 
หนังสือ ดร ซุนยัดเซ็น ประวัติการต่อสู้เพื่อสร้างประชาธิปไตยใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่
หนังสือ ดร ซุนยัดเซ็น ประวัติการต่อสู้เพื่อสร้างประชาธิปไตยใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่หนังสือ ดร ซุนยัดเซ็น ประวัติการต่อสู้เพื่อสร้างประชาธิปไตยใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่
หนังสือ ดร ซุนยัดเซ็น ประวัติการต่อสู้เพื่อสร้างประชาธิปไตยใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่Thongkum Virut
 
ประวัติย่อของนายประเสริฐ ทรัพย์สุนทร
ประวัติย่อของนายประเสริฐ ทรัพย์สุนทรประวัติย่อของนายประเสริฐ ทรัพย์สุนทร
ประวัติย่อของนายประเสริฐ ทรัพย์สุนทรThongkum Virut
 
ยูโทเปีย ของ ทอมัส มอร์
ยูโทเปีย ของ ทอมัส มอร์ยูโทเปีย ของ ทอมัส มอร์
ยูโทเปีย ของ ทอมัส มอร์Thongkum Virut
 
สหภาพแรงงานในระบอบเผด็จการ
สหภาพแรงงานในระบอบเผด็จการสหภาพแรงงานในระบอบเผด็จการ
สหภาพแรงงานในระบอบเผด็จการThongkum Virut
 
ประวัติรัฐหวู
ประวัติรัฐหวูประวัติรัฐหวู
ประวัติรัฐหวูThongkum Virut
 
เหล่าบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลก
เหล่าบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกเหล่าบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลก
เหล่าบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกThongkum Virut
 
ในประเทศไทยถ้าพูดถึงเรื่องที่ดิน มีเรื่องเดียว คือ การปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ ...
ในประเทศไทยถ้าพูดถึงเรื่องที่ดิน มีเรื่องเดียว คือ การปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ ...ในประเทศไทยถ้าพูดถึงเรื่องที่ดิน มีเรื่องเดียว คือ การปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ ...
ในประเทศไทยถ้าพูดถึงเรื่องที่ดิน มีเรื่องเดียว คือ การปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ ...Thongkum Virut
 
เรื่อง กฎหมายพรรคการเมืองคือเครื่องจองจำประชาธิปไตย
เรื่อง กฎหมายพรรคการเมืองคือเครื่องจองจำประชาธิปไตยเรื่อง กฎหมายพรรคการเมืองคือเครื่องจองจำประชาธิปไตย
เรื่อง กฎหมายพรรคการเมืองคือเครื่องจองจำประชาธิปไตยThongkum Virut
 
คู่ขัดแย้งในสังคมไทย
คู่ขัดแย้งในสังคมไทยคู่ขัดแย้งในสังคมไทย
คู่ขัดแย้งในสังคมไทยThongkum Virut
 
ปฐมกาลการปกครองระบอบเผด็จการในประเทศไทย
ปฐมกาลการปกครองระบอบเผด็จการในประเทศไทยปฐมกาลการปกครองระบอบเผด็จการในประเทศไทย
ปฐมกาลการปกครองระบอบเผด็จการในประเทศไทยThongkum Virut
 

More from Thongkum Virut (20)

งานวิจัย
งานวิจัยงานวิจัย
งานวิจัย
 
ลัทธิชาตินิยม(Nationalism)
ลัทธิชาตินิยม(Nationalism)ลัทธิชาตินิยม(Nationalism)
ลัทธิชาตินิยม(Nationalism)
 
All10
All10All10
All10
 
บิดาวิชาเศรษฐศาสตร์ไทย
บิดาวิชาเศรษฐศาสตร์ไทยบิดาวิชาเศรษฐศาสตร์ไทย
บิดาวิชาเศรษฐศาสตร์ไทย
 
ข้าว
ข้าวข้าว
ข้าว
 
การปกครองของไทยในสมัยโบราณ
การปกครองของไทยในสมัยโบราณการปกครองของไทยในสมัยโบราณ
การปกครองของไทยในสมัยโบราณ
 
หนังสือ ความขัดแย้งของการปฏิวัติ กับ ปัญหาของปัญญาชน อันโตนิโย กรัมชี - สมบ...
หนังสือ ความขัดแย้งของการปฏิวัติ กับ ปัญหาของปัญญาชน   อันโตนิโย กรัมชี - สมบ...หนังสือ ความขัดแย้งของการปฏิวัติ กับ ปัญหาของปัญญาชน   อันโตนิโย กรัมชี - สมบ...
หนังสือ ความขัดแย้งของการปฏิวัติ กับ ปัญหาของปัญญาชน อันโตนิโย กรัมชี - สมบ...
 
หนังสือ คอลัมน์ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร เล่ม ๓
หนังสือ คอลัมน์ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร เล่ม ๓หนังสือ คอลัมน์ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร เล่ม ๓
หนังสือ คอลัมน์ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร เล่ม ๓
 
หนังสือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ทรงโต้แย้งเค้าโคงเศรษฐกิจ ของ ปรีดี พนมยงค์(ฉบ...
หนังสือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ทรงโต้แย้งเค้าโคงเศรษฐกิจ ของ ปรีดี พนมยงค์(ฉบ...หนังสือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ทรงโต้แย้งเค้าโคงเศรษฐกิจ ของ ปรีดี พนมยงค์(ฉบ...
หนังสือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ทรงโต้แย้งเค้าโคงเศรษฐกิจ ของ ปรีดี พนมยงค์(ฉบ...
 
หนังสือ ไม้ขีดก้านเดียวทีเปลียนสังคมเกาหลี จรรยา ยิ้มประเสริ
หนังสือ ไม้ขีดก้านเดียวทีเปลียนสังคมเกาหลี จรรยา ยิ้มประเสริหนังสือ ไม้ขีดก้านเดียวทีเปลียนสังคมเกาหลี จรรยา ยิ้มประเสริ
หนังสือ ไม้ขีดก้านเดียวทีเปลียนสังคมเกาหลี จรรยา ยิ้มประเสริ
 
หนังสือ ดร ซุนยัดเซ็น ประวัติการต่อสู้เพื่อสร้างประชาธิปไตยใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่
หนังสือ ดร ซุนยัดเซ็น ประวัติการต่อสู้เพื่อสร้างประชาธิปไตยใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่หนังสือ ดร ซุนยัดเซ็น ประวัติการต่อสู้เพื่อสร้างประชาธิปไตยใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่
หนังสือ ดร ซุนยัดเซ็น ประวัติการต่อสู้เพื่อสร้างประชาธิปไตยใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่
 
ประวัติย่อของนายประเสริฐ ทรัพย์สุนทร
ประวัติย่อของนายประเสริฐ ทรัพย์สุนทรประวัติย่อของนายประเสริฐ ทรัพย์สุนทร
ประวัติย่อของนายประเสริฐ ทรัพย์สุนทร
 
ยูโทเปีย ของ ทอมัส มอร์
ยูโทเปีย ของ ทอมัส มอร์ยูโทเปีย ของ ทอมัส มอร์
ยูโทเปีย ของ ทอมัส มอร์
 
สหภาพแรงงานในระบอบเผด็จการ
สหภาพแรงงานในระบอบเผด็จการสหภาพแรงงานในระบอบเผด็จการ
สหภาพแรงงานในระบอบเผด็จการ
 
ประวัติรัฐหวู
ประวัติรัฐหวูประวัติรัฐหวู
ประวัติรัฐหวู
 
เหล่าบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลก
เหล่าบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกเหล่าบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลก
เหล่าบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลก
 
ในประเทศไทยถ้าพูดถึงเรื่องที่ดิน มีเรื่องเดียว คือ การปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ ...
ในประเทศไทยถ้าพูดถึงเรื่องที่ดิน มีเรื่องเดียว คือ การปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ ...ในประเทศไทยถ้าพูดถึงเรื่องที่ดิน มีเรื่องเดียว คือ การปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ ...
ในประเทศไทยถ้าพูดถึงเรื่องที่ดิน มีเรื่องเดียว คือ การปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ ...
 
เรื่อง กฎหมายพรรคการเมืองคือเครื่องจองจำประชาธิปไตย
เรื่อง กฎหมายพรรคการเมืองคือเครื่องจองจำประชาธิปไตยเรื่อง กฎหมายพรรคการเมืองคือเครื่องจองจำประชาธิปไตย
เรื่อง กฎหมายพรรคการเมืองคือเครื่องจองจำประชาธิปไตย
 
คู่ขัดแย้งในสังคมไทย
คู่ขัดแย้งในสังคมไทยคู่ขัดแย้งในสังคมไทย
คู่ขัดแย้งในสังคมไทย
 
ปฐมกาลการปกครองระบอบเผด็จการในประเทศไทย
ปฐมกาลการปกครองระบอบเผด็จการในประเทศไทยปฐมกาลการปกครองระบอบเผด็จการในประเทศไทย
ปฐมกาลการปกครองระบอบเผด็จการในประเทศไทย
 

นโยบายการสถาปนาระบอบประชาธิปไตยของไทย

  • 1. การสถาปนาระบอบประชาธิปไตยของไทย ด้วยการปกครองของประเทศไทยที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลา 80 กว่า ปีหลังการเปลี่ยนแปลงการ ปกครอง 2475 ประเทศไทยมีรูปแบบการปกครอง สลับกันอยู่ระหว่าง เผด็จการรัฐประหาร และ เผด็จการรัฐสภา สิ่งที่แสดงออกชัดเจนก็คืออำานาจ การปกครองเป็นของคนส่วนน้อยในสังคม อำานาจ อธิปไตยไม่เป็นของประชาชน ดังเหตดังกล่าว ประเทศไทย การปกครองจึงเป็นระบอบเผด็จการ ดังนั้นจะทำาให้การปกครองของประเทศไทย เป็น ระบอบประชาธิปไตย จะต้องปฏิบัติการทุกสิ่งทุก อย่างอย่างอุกฤต ดังต่อไปนี้ให้ปรากฏเป็นจริงต่อ ประเทศไทยอันเป็นที่รักยิ่ง คือ ๑. สถาปนาระบอบประชาธิปไตยให้สำาเร็จ ระบอบประชาธิปไตย นอกจากจะเป็นความต้องการของ ประเทศชาติและประชาชนแล้ว ยังเป็นปัจจัยอันจำาเป็นของ การแก้ปัญหาทั้งปวงของชาติอีกด้วย จะต้องสร้าง ประชาธิปไตยให้สำาเร็จจึงจะแก้ปัญหาการเมือง ปัญหา เศรษฐกิจ ปัญหาสังคม และปัญหาวัฒนธรรมให้ตกไปได้ ด้วยมาตรการต่อไปนี้ 1
  • 2. ๑.๑ เทิดทูนและพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติไทย และคู่กับชาติ ไทยมาแต่บรรพกาล แม้ในยุคสมบูรณาญาสิทธิราช พระ มหากษัตริย์ไทยก็ประกอบด้วยลักษณะประชาธิปไตยเป็น อันมากอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของระบอบพระมหา กษัตริย์ในประเทศไทย จึงเป็นการถูกต้องและจำาเป็นอย่าง ยิ่งที่ระบอบประชาธิปไตยของไทยจะมีพระมหากษัตริย์เป็น ประมุขแห่งรัฐ ซึ่งเป็นอุปการคุณสำาคัญที่สุดไม่เฉพาะแต่ ในการสร้างระบอบประชาธิปไตยให้สำาเร็จเท่านั้น หากใน การแก้ปัญหาพิเศษต่างๆ ซึ่งสถาบันอื่นไม่อาจแก้ปัญหาได้ อีกด้วย และสถาบันพระมหากษัตริย์จะมั่นคงได้ก็ด้วยการ ปกครองแบบประชาธิปไตย ๑.๒ การส่งเสริมความรู้ประชาธิปไตย การที่จะสร้างระบอบประชาธิปไตยให้สำาเร็จก็ดี การจะใช้ ระบอบประชาธิปไตยแก้ปัญหาต่างๆ ของชาติก็ดีขึ้นอยู่กับ ความรู้ประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ความล้มเหลวของระบอบ ประชาธิปไตยในประเทศไทยที่ผ่านมา เป็นเพราะขาด ความรู้ประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ฉะนั้น จะต้องส่งเสริมความ รู้ประชาธิปไตยอย่างกว้างขวาง ทั้งในด้านทฤษฎีและด้าน การประยุกต์ทฤษฎีกับสภาวการณ์ และลักษณะพิเศษของ ประเทศไทย ๑.๓ ทำาให้อำานาจอธิปไตยเป็นของปวงชน หัวใจของระบอบประชาธิปไตย คือ อำานาจอธิปไตยเป็น ของปวงชน นัยหนึ่งคือ การปกครองโดยประชาชน เพื่อ ประชาชนและของประชาชน แต่ความเป็นจริงอำานาจ อธิปไตยยังไม่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง เพราะ นโยบายของรัฐที่ผ่านมายังไม่สนองความต้องการของ ประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง ฉะนั้น จึงต้อง ปรับปรุงนโยบายของรัฐบาลทั้งนโยบายภายในประเทศ และนโยบายต่างประเทศ ให้สอดคล้องกับความต้องการ 2
  • 3. ของประเทศชาติและประชาชน และปรับปรุงรัฐสภาให้ทำา หน้าที่ของปวงชนอย่างแท้จริง ๑.๔ ทำาให้บุคคลมีเสรีภาพบริบูรณ์ เสรีภาพบริบูรณ์ของบุคคลจะมีได้ก็แต่เฉพาะภายใต้อำานาจ อธิปไตยของปวงชน เสรีภาพที่ไม่อยู่ภายใต้อำานาจ อธิปไตยของปวงชนนั้น ไม่ใช่เสรีภาพที่บริบูรณ์ ถ้าไม่เป็น เสรีภาพที่เกินขอบเขตแบบอนาธิปไตย ก็เป็นเสรีภาพที่ จำากัดเกินควรแบบเผด็จการ และเสรีภาพบริบูรณ์ของ บุคคลย่อมทำาให้เกิดความรับผิดชอบแก่บุคคล ฉะนั้น เพื่อ ให้บังเกิดเสรีภาพชนิดนี้จะต้องทำาให้รัฐบาลมีความเข้ม แข็ง ในขณะเดียวกันก็ต้องยกเลิกหรือแก้ไขเพิ่มเติม กฎหมายที่บั่นทอนเสรีภาพของบุคคล ๑.๕ สร้างเสถียรภาพทางการเมืองให้มั่นคง เสถียรภาพทางการเมืองเป็นปัจจัยอันจำาเป็นของการ พัฒนาระบอบประชาธิปไตย และปัจจัยอันสำาคัญที่สุดของ เสถียรภาพทางการเมือง ก็คือ ความสนับสนุนของ ประชาชน และปัจจัยความสนับสนุนของประชาชน ก็คือ นโยบายที่ถูกต้อง และปฏิบัตินโยบายนั้นให้ได้ผลประจักษ์ แก่ประชาชน ฉะนั้นนอกจากจะต้องปรับปรุงนโยบายให้ถูก ต้องอย่างสมบูรณ์แล้ว ยังจะต้องแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ให้สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตยด้วย ๑.๖ สร้างระบบพรรคการเมืองให้เข้มแข็ง พรรคการเมืองประชาธิปไตย คือ ผู้แทนทางการเมืองของ ประชาชนทำาหน้าที่จรรโลงและพัฒนาระบอบ ประชาธิปไตย พรรคการเมืองที่เข้มแข็งจะต้องเป็นพรรคที่ มีนโยบายสอดคล้องกับนโยบายแห่งชาติที่ถูกต้อง จะต้องมี การจัดตั้งองค์กรอย่างเป็นระบบและมีลักษณะเป็นพรรค มวลชน มิใช่เป็นเพียงพรรคสภาหรือพรรคนักการเมือง เท่านั้น ฉะนั้น จะต้องส่งเสริมให้การสร้างพรรคการเมือง ชนิดนี้บรรลุผลสำาเร็จ ซึ่งเงื่อนไขประการแรกคือ จะต้อง 3
  • 4. ยกเลิกกฎหมายพรรคการเมือง เพื่อให้ระบบพรรคการเมือง พัฒนาไปตามธรรมชาติ ๑.๗ ปรับปรุงระบบราชการให้เป็นประชาธิปไตย ระบบราชการในประเทศไทย ยังเป็นปฏิปักษ์อย่างมากต่อ ระบอบประชาธิปไตย จึงยังไม่สามารถสนองความต้องการ ของระบอบประชาธิปไตยได้ การปรับปรุงระบบราชการให้ เป็นประชาธิปไตย จึงเป็นปัจจัยที่จะขาดเสียมิได้ของการ พัฒนาระบอบประชาธิปไตย วิธีการปรุงก็คือ ประสานระบบ ราชการเข้ากับระบบพรรคการเมือง โดยให้ข้าราชการเข้า ร่วมกิจการของพรรคการเมืองได้อย่างเสรี ซึ่งจะยังผลให้ ข้าราชการได้มีจิตสำานึกทางการเมืองของตน และจิตสำานึก ทางการเมืองนั้น จะทำาให้ข้าราชการเป็นข้าราชการของ ประชาชนได้ ๑.๘ ส่งเสริมกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ กลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ เป็นสิ่งแสดงออกของพลังมวลชน และเป็นพลังผลักดันทางการเมืองในการพัฒนาระบอบ ประชาธิปไตย แต่กลุ่มผลประโยชน์ย่อมมีความขัดแย้งกัน เพราะมีผลประโยชน์แตกต่างกัน ระบอบประชาธิปไตย ย่อมแก้ไขความขัดแย้งด้วยการไม่ทำาลายกัน แต่ด้วยการ ประสานประโยชน์ระหว่างกัน โดยการทำาให้ผลประโยชน์ ของแต่ละกลุ่มเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับผลประโยชน์ของ ชาติ โดยนายทุน กรรมกร ชาวนา นักศึกษา ฯลฯ จะคำานึง ถึงผลประโยชน์ของตนฝ่ายเดียวไม่ได้ แต่จะต้องคำานึงถึง ผลประโยชน์ของฝ่ายอื่นด้วย โดยยึดถือผลประโยชน์ของ ชาติเป็นหลัก ๑.๙ ส่งเสริมสถาบันหนังสือพิมพ์และการแสดงประชามติ ประชาธิปไตย สถาบันหนังสือพิมพ์ในฐานะฐานันดรที่ ๔ ย่อมเป็นกลไก อย่างหนึ่งของระบอบประชาธิปไตยนอกเหนือจากเป็น เครื่องมืออย่างหนึ่งของการแสดงประชามติ ฉะนั้นผู้ทำา 4
  • 5. หนังสือพิมพ์จึงเป็นบุคคลในสถาบันซึ่งจะต้องมีความรับผิด ชอบกว่าบุคคลธรรมดา การส่งเสริมเสรีภาพบริบูรณ์ของ คนทำาหนังสือพิมพ์ จึงแตกต่างกับบุคคลนอกสถาบัน จะ ถือว่า “เสรีภาพของหนังสือพิมพ์ คือ เสรีภาพของ ประชาชน” หาได้ไม่ประชามติที่ถูกต้องเท่านั้นจึงจะ สอดคล้องกับผลประโยชน์ของประชาชนจึงจะเป็น และ ความถูกต้องของประชามติก็มิได้วัดด้วยจำานวนคนที่แสดง แต่วัดด้วยผลประโยชน์ของประชาชนส่วนรวม ประชามติ ใดแม้จะแสดงด้วยคนจำานวนน้อย แต่ถ้าสอดคล้องกับผล ประโยชน์ของประชาชนส่วนรวมก็เป็นประชามติ ประชาธิปไตย ฉะนั้น สภาปฏิวัติแห่งชาติจึงสนับสนุน ประชามติที่ถูกต้อง แต่จะป้องกันประชามติที่ไม่ถูกต้อง ๑.๑๐ สนับสนุนขบวนการประชาธิปไตย ขบวนการประชาธิปไตยย่อมประกอบด้วยบุคคลกลุ่มต่างๆ ที่มีความมุ่งหมายเพื่อความสำาเร็จของระบอบประชาธิปไตย แต่เนื่องจากแนวโน้มแห่งวิวัฒนาการของประเทศไทยเป็น แนวโน้มทางประชาธิปไตย จึงทำาให้กลุ่มชนที่เป็นปรปักษ์ ต่อระบอบประชาธิปไตย จำาเป็นต้องแอบแฝงโดยยกเอา ประชาธิปไตยขึ้นนำาหน้าสนับสนุนขบวนการ ประชาธิปไตยที่แท้จริงทั้งสิ้น แต่จะขัดขวางขบวนการที่ ขัดขวางขบวนการประชาธิปไตยที่แอบแฝงอำาพราง ๑.๑๑ ทำาลายการกดขี่ด้วยอำานาจและอิทธิพล การกดขี่ด้วยประการใดๆ โดยผู้มีอำานาจและผู้มีอิทธิพล เป็นลักษณะของระบอบเผด็จการ ตราบใดที่มีการกดขี่โดย ผู้มีอำานาจและผู้มีอิทธิพลตราบนั้นยังไม่มีระบอบ ประชาธิปไตย หรือไม่มีระบอบประชาธิปไตยอันแท้จริง ฉะนั้นจึงต้องกำาจัดการกดขี่ด้วยอำานาจและอิทธิพลทั้ง ระดับชาติและระดับท้องถิ่นให้หมดไป ๑.๑๒ จัดระบอบบริหารส่วนท้องถิ่น ส่วนภูมิภาคและส่วน กลางให้สอดคล้องกันยิ่งขึ้น 5
  • 6. การกระจายอำานาจเป็นลักษณะหนึ่งของระบอบ ประชาธิปไตย วิธีการคือ ทำาให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น มีอิสระมากขึ้น และให้องค์การบริหารส่วนภูมิภาคมีฐานะ เป็นตัวแทนขององค์การบริหารส่วนกลางอย่างแท้จริง ไม่ใช่องค์การบริหารส่วนกลางทำางานแข่งขันซำ้าซ้อนกับ องค์การบริหารส่วนภูมิภาคหรือส่วนท้องถิ่น แต่ให้องค์การ บริหารสามส่วนนี้มีการประสานงานกันเป็นอย่างดี ๑.๑๓ สร้างสันติภาพภายในประเทศให้สมบูรณ์ และ กระชับความสามัคคีแห่งชาติ สถานการณ์ปัจจุบันของประเทศไทย ถึงแม้ว่ากองทัพ สามารถยุติสงครามกลางเมืองลงได้โดยพื้นฐานแล้วก็ตาม แต่การต่อสู้ระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายคอมมิวนิสต์ แนวทางอาวุธยังดุเดือดเข้มข้นอยู่ โดยฝ่ายคอมมิวนิสต์ แนวทางอาวุธพยายามทุกวิถีทางที่จะฟื้นฟูสงครามขึ้นใหม่ ซึ่งถ้าหากฝ่ายคอมมิวนิสต์สามารถทำาได้แล้ว สงครามครั้ง ใหม่จะยังความหายนะแก่ประเทศชาติ และยังความทุกข์ ยากแก่ประชาชนมากกว่าสงครามครั้งที่แล้วหลายเท่านัก อันเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงแก่การสร้างระบอบ ประชาธิปไตย จึงจำาเป็นที่จะต้องสกัดกั้นการฟื้นฟูสงคราม ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เปลี่ยนแนวทาง การต่อสู้ด้วยอาวุธเป็นการต่อสู้ในแนวทางสันติ ตาม นโยบายประชาธิปไตยที่ถูกต้องที่ได้ประกาศไปแล้ว ซึ่ง เป็นนโยบายรากฐานของความสามัคคีแห่งชาติ และเป็น เส้นด้ายทองคำาร้อยพวงมาลัยแห่งความสามัคคีระหว่าง ประชาชนทุกหมู่เหล่าอีกด้วย ๒. พัฒนาระบบเศรษฐกิจแห่งชาติให้สำาเร็จ ระบบเศรษฐกิจเป็นรากฐานของระบอบการเมือง และ ระบอบการเมืองมีบทบาทผลักดันพัฒนาการของระบบ เศรษฐกิจ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจจึงจะดำาเนินการโดย เอกเทศมิได้ แต่จะต้องนำาเอาการแก้ปัญหาเศรษฐกิจไป สัมพันธ์กับการแก้ปัญหาการเมือง โดยลงมือแก้ปัญหา การเมืองทันที และลงมือแก้ปัญหาเศรษฐกิจไปพร้อมกัน 6
  • 7. การที่ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยตกอยู่ในภาวะล้าหลัง มาเป็นเวลานาน ยังผลให้ประเทศไทยเป็นประเทศยากจน ฐานะการครองชีพของประชาชนตำ่า ไม่สามารถพัฒนาขึ้น เป็นประเทศรำ่ารวย และยกฐานะการครองชีพของประชน ชนให้สูงขึ้นได้ ทั้ง ๆ ที่อุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาตินั้น ก็ เพราะได้ดำาเนินการแก้ปัญหาเศรษฐกิจมาโดยไม่ได้แก้ ปัญหาการเมือง คือ ไม่ดำาเนินการเพื่อบรรลุถึงซึ่งระบอบ ประชาธิปไตยอันแท้จริง ฉะนั้น บนรากฐานของการแก้ ปัญหาการเมืองเพื่อความสำาเร็จของระบอบประชาธิปไตย ดังกล่าวมาแล้ว การพัฒนาระบบเศรษฐกิจแห่งชาติใดสำาเร็จด้วยมาตรการ ต่อไปนี้ ๒.๑ ปรับปรุงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ความมุ่งหมายของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คือ เพื่อสร้างสังคมประชาธิปไตยสังคมประชาธิปไตย คือ สังคมที่มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย และมีระบบ เศรษฐกิจเสรีนิยม ระบอบเศรษฐกิจเสรีนิยมที่พัฒนาภายใต้ ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง จะนำามาซึ่งความไพบูลย์ และความยุติธรรม แต่การที่จะบรรลุความมุ่งหมายดังกล่าว นี้ได้ จะต้องใช้ระบอบประชาธิปไตยทำาการเปลี่ยนระบบ เสรีนิยมที่ล้าหลังและผูกขาดดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบันให้เป็น ระบบเสรีนิยมที่ก้าวหน้าและเสรี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติมีบทบาทสำาคัญอันดับแรกต่อการ เปลี่ยนแปลงนี้ ฉะนั้นจึงต้องทบทวนโครงสร้างของแผน พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแก้ไขปรับปรุงให้ สอดคล้องกับความมุ่งหมายเพื่อบรรลุถึงสังคม ประชาธิปไตยที่พัฒนา ซึ่งเป็นแผนที่มีเนื้อหาในการทำาให้ ประเทศไทยเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่เหมาะสมกับภาว การณ์ของประเทศไทยโดยเฉพาะคือ เน้นหนักการ พัฒนาการเกษตรกรรม และพัฒนาอุตสาหกรรม พาณิช ยกรรม และการขนส่งให้สอดคล้องกัน 7
  • 8. ๒.๒ การกระจายทุน การรวมศูนย์ทุน ทำาให้วิสาหกิจขนาดใหญ่โดยเฉพาะคือ วิสาหกิจเส้นเลือดใหญ่ ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ อุตสาหกรรมหนัก การค้าต่างประเทศ การค้าส่งสินค้าหลัก ภายในประเทศ การขนส่งระหว่างประเทศ การขนส่งหลัก ภายในประเทศ มีอำานาจครอบงำาและบงการต่อวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดเล็ก เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของ ระบบเศรษฐกิจแห่งชาติ ฉะนั้น จึงต้องลดอำานาจของการ ครอบงำาและบงการดังกล่าวลง โดยทำาให้ทุนกระจายไปสู่ ประชาชนด้วยมาตรการเหล่านี้คือ ๒.๒.๑ การปฏิรูปที่ดิน เป็นวิธีการกระจายทุนทางที่ดินไปสู่ชาวไร่ชาวนา ในขณะ เดียวกันรายได้ของเจ้าของที่ดินจากการเวนคืนที่ดิน ก็จะ กระจายไปสู่รัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และ อื่นๆ โดยเฉพาะในรูปของพันธบัติหุ้นส่วนในรัฐวิสาหกิจ เหล่านั้น การกระจายทุนทางที่ดินด้วยการปฏิรูปที่ดิน เป็น ปัจจัยอันดับแรกของความเติบโตของระบบเศรษฐกิจแห่ง ชาติทั้งเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และ การขนส่ง โดยทำาเกษตรกรรมสามารถสนองวัตถุดิบแก่ อุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมสนองเครื่องมือวัตถุอุปกรณ์ และการป้องกันภัยธรรมชาติให้แก่เกษตรกรรม และ เกษตรกรรมกับอุตสาหกรรมต่างก็สนองตลาดให้แก่กันและ กัน ฉะนั้น การปฏิรูปที่ดินจึงมิใช่เพียงเพื่อการเกษตรกรรม หรือเพียงเพื่อช่วยเหลือชาวนาชาวไร่ให้มีที่ทำากิน แต่ข้อ สำาคัญเพื่อความเติบโตของระบบเศรษฐกิจแห่งชาติทั้ง ระบบ ๒.๒.๒ เปลี่ยนบริษัทครอบครัวของวิสาหกิจเอกชนต่างๆ เป็นบริษัทมหาชน ๒.๒.๓ ให้สหกรณ์เป็นเครื่องมือของการกระจายทุน 8
  • 9. ๒.๒.๔ รัฐเข้ามีส่วนร่วมนากรบริหารวิสาหกิจเอกชน แต่เดิมรัฐเพียงแต่ควบคุมวิสาหกิจเอกชน เช่น ธนาคาร ชาติควบคุมธนาคารพาณิชย์ด้วยการจดทะเบียนปริมาณ ทุนปริมาณเงินฝาก ปริมาณเงินวางธนาคารชาติ ฯลฯ ซึ่ง ไม่เพียงพอแก่การลดการรวมศูนย์ทุน แต่รัฐจะต้องทำาการ ควบคุมโดยตรง เช่น ผู้แทนของรัฐเข้ามีส่วนในการบริหาร เป็นต้นอีกด้วย ๒.๓ สร้างความสมดุลระหว่างภาคสาธารณะกับภาคเอกชน ระบบเศรษฐกิจเสรีนิยมของประเทศไทย มิใช่มีแต่ เศรษฐกิจเอกชนอย่างเดียว แต่มีเศรษฐกิจสาธารณะ โดย เฉพาะคือเศรษฐกิจของรัฐอีกด้วย โดยภาคสาธารณะตั้งอยู่ บนรากฐานของภาคเอกชน แต่ภาคสาธารณะแม้ว่าจะเป็น ฝ่ายข้างน้อยก็มีความสำาคัญในฐานะเป็นหลักนำาต่อภาค เอกชน และส่งเสริมช่วยเหลือภาคเอกชน ภาคสาธารณะ กับภาคเอกชนจะต้องมีความสมดุลกัน จึงจะสามารถเป็น ปัจจัยให้แก่การขยายตัวของกันและกัน วิธีการสร้างความ สมดุล คือ ปรับปรุงการบริหารของภาคสาธารณะโดย เฉพาะของรัฐวิสาหกิจเสียใหม่ทั้งหมดทั้งฝ่าย สาธารณูปโภคและฝ่ายบริโภค ทั้งที่ผูกขาดและไม่ผูกขาด เพื่อให้รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นมีประสิทธิภาพเท่าเทียมหรือ เหนือกว่าวิสาหกิจเอกชน เพื่อจะได้ทำาหน้าที่เป็นหลักนำา และส่งเสริมช่วยเหลือวิสาหกิจเอกชน และเพื่อคาน วิสาหกิจเอกชนในการรักษาเสถียรภาพของตลาด การ ปรับปรุงการบริหารของภาคสาธารณะนั้น ให้องค์การ แรงงานของรัฐวิสาหกิจนั้นๆ เข้าร่วมดำาเนินการด้วย ๒.๔ สร้างความสมดุลระหว่างเกษตรกรรมกับอุตสาหกรรม สภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบัน เกษตรกรรม เป็นฝ่ายครอบงำา แต่ทิศทางของพัฒนาการจะต้องมุ่งไปสู่ ความเป็นอุตสาหกรรม ภายใต้สภาวการณ์ดังกล่าวการ พัฒนาจะต้องเน้นหนักในการพัฒนาเกษตรกรรม ขณะ เดียวกันก็ต้องพัฒนาอุตสาหกรรมให้ได้สัดส่วนกัน และ 9
  • 10. การพัฒนาอุตสาหกรรมจะต้องเน้นหนักการพัฒนา อุตสาหกรรมเบา (อุตสาหกรรมแปรวัตถุดิบเกษตรกรรม ภายในประเทศ เป็นสินค้าสำาเร็จรูปหรือกึ่งสำาเร็จรูป) แต่ การพัฒนาอุตสาหกรรมเบาก็ต้องมีเป้าหมายเพื่อพัฒนา อุตสาหกรรมหนัก (อุตสาหกรรมพลังงาน อุตสาหกรรม เหล็ก อุตสาหกรรมเครื่องจักร อุตสาหกรรมเคมี) ซึ่งเป็น รากฐานอันสำาคัญที่สุดของการทำาเกษตรกรรมให้ทันสมัย ๒.๕ สร้างความสมดุลระหว่างเมืองกับชนบท ที่แล้วมาการขยายตัวของเมืองและชนบทเป็นไปอย่างไม่ สมำ่าเสมอ ความเจริญเข้ามารวมอยู่ในเมืองหลวงและนคร ใหญ่ ชนบทยังล้าหลังห่างไกล ฉะนั้น จึงต้องเร่งรัดสร้าง ความเจริญให้แก่ชนบทในทุกทาง และทำาให้ชนบทให้เป็น ที่อยู่ดีกินดี ขณะเดียวกันก็ระบายความแออัดยัดเยียดออก จากเมืองหลวงและนครใหญ่ วิธีการคือ จะต้องแบ่งสันปัน ส่วนภาษีอากรระหว่างส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้อง ถิ่นอย่างเหมาะสม และทำาให้ส่วนภูมิภาคและท้องถิ่นไม่ ต้องอาศัยงบประมาณส่วนกลาง กับขยายอุตสาหกรรมไปสู่ ชนบทให้สอดคล้องกับเกษตรกรรม ที่ไหนมีเกษตรกรรม อย่างไรก็ขยายอุตสาหกรรมแปรวัตถุดิบอย่างนั้น สร้าง ความสมดุลระหว่างเกษตรกรรมกับอุตสาหกรรมขึ้นในท้อง ถิ่นและยกระดับของชนบทจนถึงขนาดที่คนไม่ไหลเข้าสู่ เมือง แต่ชนบทกลับเป็นที่ดึงดูดคนในเมืองให้ระบายออก ไป ๒.๖ สร้างความสมดุลระหว่างการขยายตัวทางเศรษฐกิจ กับการขยายตัวของประชากร ปัญหาร้ายแรงในปัจจุบันก็คือ การขยายตัวทางเศรษฐกิจ ไม่ทันกับการขยายตัวของประชากร จึงจำาเป็นอย่างรีบด่วน ที่จะต้องเร่งรัดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้างงานให้ เพียงพอกับคน ขณะเดียวกันก็จะต้องลดการขยายตัวของ ประชากรอย่างน้อยชั่วระยะหนึ่ง การเร่งรัดการขยายตัว ทางเศรษฐกิจก็คือ 10
  • 11. ๒.๖.๑ เพิ่มการผลิตทางการเกษตร บนรากฐานของการ ปฏิรูปที่ดินและทำาเกษตรกรรมให้ทันสมัย ทำาการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ โดยเฉพาะคือพืชเศรษฐกิจด้วย การใช้วิชาการเกษตรกรรมแบบใหม่ให้ทั่วถึง ปรับปรุง ระบบชลประทาน จัดหาและจำาหน่ายปุ๋ยในราคาเยา ส่ง เสริมการปลูกพืชหมุนเวียน ให้การศึกษาด้านเกษตรกรรม แก่ชาวนาชาวไร่อย่างเต็มที่ ขยายกิจการธนาคารเพื่อ การเกษตรและสหกรณ์ให้กว้างขวางทั่วประเทศ เพิ่ม บริการชาวนาชาวไร่อย่างมีประสิทธิภาพ จัดประเภทการ ผลิตทางเกษตรกรรมให้เหมาะสมกับท้องที่ และแนะนำา เกษตรกรให้ปลูกพืชให้เหมาะสมกับความต้องการของ ตลาด ประกันราคาของสินค้าเกษตรกรรม โดยขยายและ รักษาตลาดต่างประเทศอย่างมั่นคงและใช้ค่าพรีเมี่ยม ทั้งหมดเป็นกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร ใช้วิธีการสหกรณ์ เข้าช่วยเหลือการขยายเกษตรกรรมอย่างเต็มที่ และ สนับสนุนการรวมกลุ่มเกษตรกรเป็นสถาบันการเกษตร ๒.๖.๒ เพิ่มการผลิตทางอุตสาหกรรม เน้นหนัก อุตสาหกรรมที่แปรรูปวัตถุดิบเกษตรกรรมภายในประเทศ ให้เป็นสินค้าสำาเร็จรูปหรือกึ่งสำาเร็จรูปพร้อมทั้งขยายการ ผลิตของอุตสาหกรรมครอบครัว ทั้งนี้เพื่อเพิ่มพูนสินค้า บริโภคให้มากที่สุด และการพัฒนาอุตสาหกรรมดังกล่าว จะต้องมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาอุตสหกรรมขั้นมูลฐาน ป้องกันการโจมตีจากต่างประเทศโดยตั้งกำาแพงภาษี หรือ ห้ามสั่งสินค้าเข้าตามความเหมาะสม กระจายอุตสาหกรรม ไปยังแหล่งวัตถุดิบขยายการฝึกอบรมแรงงาน ส่งเสริม สมาคมนายจ้างและสหภาพแรงงาน และส่งเสริมหลักการ ผลประโยชน์ซึ่งกันและกันระหว่างนายทุนกับแรงงาน ส่ง เสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ๒.๖.๓ ขยายพาณิชยกรรม ขยายตลาดต่างประเทศทั้ง สินค้าเกษตรกรรมและสินค้าอุตสาหกรรม พยายามขยาย 11
  • 12. ตลาดเข้าไปในตลาดสังคมนิยมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำาได้ และรัฐเข้าดำาเนินการค้าต่างประเทศเองตามความจำาเป็น แก้ไขความเสียเปรียบในวิธีดำาเนินการค้าและธุริจของต่าง ประเทศ แก้ไขการเสียเปรียบดุลการค้า โดยลดปริมาณ สินค้าปัจจัยบริโภคโดยเฉพาะ คือ ของฟุ้มเฟือย และเพิ่ม ปริมาณสินค้าปัจจัยการผลิตโดยเฉพาะคือ เครื่องจักร พยายามตัดคนกลางในการส่งวัตถุดิบไปต่างประเทศ พร้อมทั้งกวดขันการควบคุมมาตรฐานสินค้า เพิ่มปริมาณ ส่งออกวัตถุแปรรูป การค้าบางอย่างใช้วิธีแลกเปลี่ยนสินค้า โดยตรง ส่วนตลาดภายในประเทศจะต้องทำาให้มี เสถียรภาพ โดยให้องค์การค้าของรัฐทำาหน้าที่ตรึงราคา อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้สหกรณ์กำาจัดคนกลาง ๒.๖.๔ ขยายการขนส่ง โดยเพิ่มปัจจัยการขนส่งอย่างรอบ ด้าน ควบคุมค่าขนส่งให้พอเหมาะพอดี มิให้มีผลกระทบ กระเทือนต่อการตลาดและการผลิต ๒.๖.๕ ขยายทุน ระดมและกระจายทุนทั้งทางเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และการขนส่ง โดยเน้นหนัก ในการขยายทุนทางเกษตรกรรม แหล่งของทุนเอามาจาก การผลิต ภาษีอากร การประหยัด และทุนจากต่างประเทศที่ ไม่มีเงื่อนไขทางการเมือง ๒.๗ ควบคุมการเฉลี่ยรายได้แห่งชาติให้เป็นธรรม ตามสภาพที่เป็นอยู่รายได้แห่งชาติ ๙๐ % เฉลี่ยระหว่าง คนรวย และรายได้แห่งชาติ ๑๐% เฉลี่ยระหว่างคนจน ซึ่ง เป็นการเฉลี่ยที่ไม่เป็นธรรม เป็นเหตุให้ช่องว่างระหว่าง คนจนกับคนรวยกว้างมาก รัฐจึงต้องควบคุมการเฉลี่ยราย ได้แห่งชาติให้เป็นธรรม เพื่อลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับ คนจนให้แคบลง การควบคุมเฉลี่ยรายได้แห่งชาตินั้น มิใช่ กระทำาด้วยกฎหมายหรืออำานาจบังคับ แต่กระทำาโดยการ ส่งเสริมการพัฒนาระบบเศรษฐกิจให้เหมาะสมกับสภาพ ของประเทศไทย ตามนโยบายและแผนอันถูกต้อง เพื่อให้ เศรษฐกิจแห่งชาติได้ขยายตัวไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว 12
  • 13. เช่น การจำากัดการผูกขาด การกระจายทุน การขยายการ ผลิต การตัดคนกลาง การเฉลี่ยงบประมาณระหว่างส่วน กลางกับส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น เป็นต้น การพัฒนา เศรษฐกิจอย่างได้ผลตามนโยบายและแผนอันถูกต้อง ทำาให้รายได้เฉลี่ยของประชากรทั่วไปสูงขึ้น และการใช้ ระบบผูกขาดควบคุมการครองชีพของประชาชนก็จะ เบาบางหรือหมดสิ้นไป ทำาให้เกิดการเฉลี่ยรายได้แห่งชาติ เป็นธรรมโดยอัตโนมัติ แม้จะใช้กฎหมายบ้างก็เป็นส่วน ประกอบเท่านั้น แต่ถ้าไม่พัฒนาเศรษฐกิจให้ได้ผล การใช้ กฎหมายในเรื่องนี้ก็ไม่มีประโยชน์ อย่างกฎหมายกำาหนัด ค่าจ้างขั้นตำ่า ถ้าพัฒนาเศรษฐกิจล้มเหลว กฎหมายนั้นก็ เป็นเพียงเศษกระดาษชิ้นหนึ่ง รวมความว่าการควบคุม เฉลี่ยรายได้แห่งชาติ ก็คือการพัฒนาระบบเศรษฐกิจ เสรีนิยมที่เหมาะสมกับประเทศไทยให้เป็นไปตามนโยบาย และแผนอันถูกต้อง ๒.๘ ร่วมมือทางเศรษฐกิจกับนานาประเทศ โดยไม่เลือก ระบบสังคม ภายใต้หลักการของความเป็นอิสระและพึ่ง ตนเอง การเมืองตั้งอยู่บนรากฐานของเศรษฐกิจ ฉะนั้น การร่วมมือ ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่จะไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง เลยจึงเป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือระหว่างประเทศ ในระบบสังคมเดียวกัน หรือคนละระบบสังคมก็ตาม ถ้า ยอมรับว่าเศรษฐกิจและการค้าขึ้นต่อการเมืองและดำาเนิน ไปตามหลักการนี้ โดยทำาให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและ การค้ากับประเทศสังคมนิยมและประเทศเสรีนิยมด้วยกัน ขึ้นต่อนโยบายต่างประเทศที่ถูกต้องแล้ว การร่วมมือทาง เศรษฐกิจ และการค้ากับนานาประเทศโดยไม่เลือกระบบ สังคม ก็จะเป็นผลดีแก่การพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติอย่าง ใหญ่หลวง และนี่คือการร่วมมือภายใต้หลักการของความ เป็นอิสระ และพึ่งตนเองตามลักษณะพิเศษของนโยบายต่าง ประเทศที่ถูกต้องของไทย คือ นโยบายอิสระ ๒.๙ ปัญหาการคลังและการเงิน 13
  • 14. การคลังและการเงินเป็นองค์ประกอบสำาคัญของเศรษฐกิจ จึงต้องแก้ปัญหาการคลังและการเงินโดยสัมพันธ์กับการแก้ ปัญหาทางเศรษฐกิจ การขยายเศรษฐกิจจะต้องดูจากการ ผลิตการภาษีว่าขยายตัวได้อย่างไร ไม่ให้เกินตัวจนต้อง อาศัยเงินกู้จนเกินควร การเก็บภาษีควรเอาจากการผลิต เป็นอันดับแรก ภาษีสินค้าขาเข้าขาออกเป็นอันดับต่อมา ภาษีเอกชนเป็นอันดับสุดท้าย แต่ภาษีสินค้าเข้าสินค้าออก จะต้องไม่ทำาลายการส่งเสริมการผลิตและการค้าต่าง ประเทศ ปัญหาการเงินที่สำาคัญนั้นอยู่ที่จะต้องรักษา เสถียรภาพของเงินบาท วิธีการคือ เปลี่ยนมาตรฐานเงิน ตราต่างประเทศเป็นมาตรฐานทองคำาเป็นหลัก เพราะใน ปัจจุบันเงินตราต่างประเทศ เช่นสกุลดอลล่าร์มักจะขาด เสถียรภาพ แต่ไม่หมายความว่าจะยกเลิกมาตรฐานเงินตรา ต่างประเทศเพียงมาตรฐานดอลล่าร์ มาตรฐานปอนด์ ฯลฯ เป็นส่วนประกอบ วิธีการเช่นนี้จะเป็นส่วนช่วยอย่างสำาคัญ ในการรักษาเสถียรภาพของเงินบาท ๓. การสังคม ๓.๑ แก้ปัญหาสังคมบนรากฐานของการแก้ปัญหา เศรษฐกิจ ประกอบด้วยการศึกษาอบรม ปัญหาสังคม เช่น ปัญหาการว่างงาน ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาคอรัปชั่น และความเน่าเฟะต่างๆ ในสังคม ส่วน สำาคัญเกิดจากความยากจนและการไม่มีงานทำา อันเนื่องมา จากการแก้ปัญหาเศรษฐกิจแห่งชาติไม่ตก ฉะนั้น ถ้าความ ยากจนและการไม่มีงานทำายังครอบงำาสังคมอยู่ การพรำ่า สอนไม่ทำาให้ทำาชั่วและขยันขันแข็งประกอบสัมมาอาชีพจึง ไม่ใคร่จะได้ผล เพราะถ้าไม่ประกอบอาชญากรรม ทำา คอรัปชั่น หรือประกอบมิจฉาชีพก็ไม่มีอะไรจะกิน และถึง แม้จะขยันขันแข็งก็ไม่มีงานทำา แต่การศึกษาอบรมจะได้ผล เต็มที่ถ้าความยากจนบรรเทาลง คนมีงานทำาและ อาชญากรรมแก้ไขได้ คอรัปชั่นปราบได้ การว่างงานขจัด ได้ ด้วยการศึกษาอบรมและมาตรการทางกฎหมาย ถ้า พัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติตามนโยบายและแผนอันถูกต้อง 14
  • 15. ๓.๒ แผนการศึกษาแห่งชาติขึ้นต่อแผนเศรษฐกิจแห่งชาติ สมัยก่อน การบำารุงการศึกษาไม่มีขอบเขตจำากัด เพราะ สมัยนั้นความเจริญของบ้านเมืองขึ้นอยู่กับการศึกษาของ ประชาชน ยิ่งขยายการศึกษามากเพียงใดบ้านเมืองก็เจริญ มากเพียงนั้น แต่ในปัจจุบัน การขยายตัวทางการศึกษา จำากัดด้วยการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การขยายตัวทางการ ศึกษาอย่างไม่มีขอบเขตจำากัดแทนที่จะเป็นผลดีกลับเป็น ผลร้าย โดยเฉพาะจะเป็นเหตุหนึ่งของการว่างงาน การ จำากัดการขยายตัวของการศึกษานั้น ไม่หมายถึงการลดงบ ประมาณการศึกษา งบประมาณการศึกษาจะต้องเพิ่มขึ้น โดยลำาดับอย่างแน่นอน การจำากัดการขยายตัวของการ ศึกษา หมายความถึงแผนการศึกษาจะต้องขึ้นต่อแผน เศรษฐกิจ ซึ่งจะกำาหนดให้การขยายการศึกษาเป็นไปตาม ความต้องการของแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ใน สภาวการณ์ใดระดับการศึกษาและวิชาชีพใดเพียงพอแก่ ความต้องการก็ลดลว ในสภาวการณ์ใดระดับการศึกษา และสาขาอาชีพใดเป็นความต้องการ ก็เพิ่มขึ้น ส่วนด้าน สามัญศึกษาจะต้องขยายให้มากที่สุดไม่มีขอบเขตจำากัด ตามระดับความสำาเร็จของการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นลำาดับ ไป ทั้งนี้ จะเป็นไปได้โดยขยายการศึกษาชั้นประถมศึกษา และมัธยมศึกษาให้มากที่สุด และควบคุมการศึกษาของ เอกชนอย่างเคร่งครัด การศึกษาของชาติจะประสบความ สำาเร็จสมความมุ่งหมายขึ้นอยู่กับความถูกต้องของแผน เศรษฐกิจแห่งชาติ และประสานแผนการศึกษาแห่งชาติเข้า กับแผนเศรษฐกิจแห่งชาติ ๓.๓ ดำาเนินการประกันสังคมทั่วทุกด้าน ความไพบูลย์ทางเศรษฐกิจ อันเกิดจากผลสำาเร็จของการ สร้างระบบเศรษฐกิจของระบอบประชาธิปไตยตามนโยบาย ที่ถูกต้อง ย่อมจะเป็นปัจจัยให้มีงานให้ประชาชนทำามากขึ้น และเป็นปัจจัยให้รัฐสามารถขยายการศึกษา การ สาธารณสุข และสาธารณูปการอย่างอื่นให้กว้างขวางออก 15
  • 16. ไปตามส่วน ประชาชนมีโอกาสทำางาน มีโอกาสศึกษา มีโอ กาสรักษาพยายาบาล และมีโอกาสอื่นๆ เพิ่มขึ้นโดยลำาดับ เมื่อเกิดความไพบูลย์ทางเศรษฐกิจ การว่างงานก็ค่อย ๆ หมดไป การศึกษาโดยไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน การรักษา โดยไม่ต้องเสียค่ารักษาตลอดจนบำาเหน็จบำานาญของคน ชราและทุพลภาพก็จะมีขึ้นโดยลำาดับ ฉะนั้น ความไพบูลย์ ทางเศรษฐกิจจึงเป็นการประกันสังคมอยู่ในตัว และ มาตรการประกันสังคมที่มีประสิทธิภาพที่สุดก็คือ การ ดำาเนินการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติตามนโยบายและแผน อันถูกต้องให้บรรลุผลสำาเร็จนั่นเอง กฎหมายประกันสังคม จะต้องออกตามผลสำาเร็จของการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ แม้ว่าจะออกกฎหมายประกันสังคมอย่างสวยงามเพียงใด แต่ถ้าการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติล้มเหลวกฎหมายนั้นก็ ปฏิบัติไม่ได้ ๔ การป้องกันประเทศ ๔.๑ หน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ของกองทัพแห่งชาติ กองทัพแห่งชาติไม่ใช่กองทัพของบุคคลหรือคณะบุคคล แต่เป็นกองทัพของชาติและของประชาชน กองทัพแห่ง ชาติไม่สนับสนุนการเมืองของบุคคลหรือคณะบุคคล แต่ สนับสนุนการเมืองของชาติ ที่ว่าทหารไม่เกี่ยวข้องกับ การเมืองนั้น ไม่หมายความกองทัพแห่งชาติจะไม่สนับสนุน การเมืองของชาติ แต่หมายความว่าทหารไม่สนับสนุน การเมืองของบุคคลหรือการเมืองที่ไม่ถูกต้อง เอกราชของ ชาติและอธิปไตยของปวงชน คือ สาระสำาคัญของการเมือง ของชาติ ซึ่งจะต้องอาศัยความสนับสนุนของกองทัพแห่ง ชาติ จึงจะดำารงอยู่ได้ ฉะนั้น หน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ของกอง ทัพแห่งชาติ จึงอยู่ที่การรักษาเอกราชของชาติและรักษา อธิปไตยของประชาชน การที่กองทัพแห่งชาติจะต้องรักษาไว้ซึ่งเอกราชของชาติ นั้น เข้ากันดี แต่การที่กองทัพแห่งชาติจะต้องรักษาไว้ซึ่ง 16
  • 17. ระบอบประชาธิปไตยของปวงชนนั้น ดูเหมือนจะยังไม่ ชัดเจนพอ ความจริงแล้วเอกราชขึ้นอยู่กับประชาธิปไตย ประเทศชาติจะต้องเป็นประชาธิปไตยจึงจะมีเอกราชได้ และการที่ระบอบประชาธิปไตยล้มเหลวตลอดมา ก็เพราะ กองทัพแห่งชาติไม่เข้าไปทำาหน้าที่สนับสนุนระบอบ ประชาธิปไตยให้เพียงพอนั่นเอง ฉะนั้น กองทัพแห่งชาติ จึงไม่เพียงแต่มีหน้าที่ทางทหารเท่านั้น หากยังมีหน้าที่ทาง การเมืองอีกด้วย คือ หน้าที่ทางการเมืองของชาติ อันได้แก่ การรักษาเอกราชของชาติ และรักษาอธิปไตยของปวงชน ๔.๒ ปรับปรุงขีดความสามารถของกองทัพแห่งชาติ การที่กองทัพแห่งชาติจะปฏิบัติหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์สอง ประการอย่างมีประสิทธิภาพได้ จะต้องปรับปรุงขีดความ สามารถของกองทัพให้สูงขึ้น เนื่องจากสงครามในปัจจุบัน ซึ่งกองทัพแห่งชาติเผชิญอยู่ มีลักษณะแตกต่างกันโดยสิ้น เชิงกับสงครามในอดีต ทำาให้ยุทธศาสตร์ของกองทัพแห่ง ชาติที่มีอยู่เดิมไม่เพียงพอสำาหรับทำาสงครามในลักษณะ ใหม่ให้ชนะ ฉะนั้น สารสำาคัญของการปรับปรุงขีดความ สามารถของกองทัพ จึงอยู่ที่การปรับปรุงยุทธศาสตร์ เมื่อ ปรับปรุงยุทธศาสตร์ให้สมบูรณ์ ทั้งยุทธศาสตร์ทหารและ ยุทธศาสตร์การเมืองแล้ว การปรับปรุงขีดความสามารถ อื่นๆ เช่นด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ ก็จะสำาเร็จตามไปด้วย ๔.๓ ปรับปรุงสวัสดิการทหาร การที่กองทัพจะมารถปฏิบัติหน้าที่ด้วยขีดความสามารถใน ระดับสูงได้นั้น ทหารจะต้องได้รับสวัสดิการในทุกด้าน อย่างเพียงพอ ฉะนั้น จึงต้องปรับปรุงสวัสดิการทหารในทุก ด้านให้ดีที่สุดเท่าที่จะสามารถทำาได้ ๕ นโยบายต่างประเทศ ๕.๑ รักษาลักษณะพิเศษของนโยบายต่างประเทศของชาติ ไทย 17
  • 18. นโยบายต่างประเทศกำาหนดขึ้นจากรากฐานของ วิวัฒนาการทางประวัติศาสตร์และทางสังคมของ ประเทศไทย ภายใต้หลักนำาของลักษณะพิเศษประจำาชาติ ไทย ๓ ประการ คือ ๕.๑.๑ รักความเป็นไท ๕.๑.๒ อหิงสา ๕.๑.๓ รู้จักประสานผลประโยชน์ ชาติไทย เป็นชาติเก่าแก่ซึ่งมีลักษณะประจำาชาติสูงส่ง จึง มีนโยบายต่างประเทศอันแน่นอน เป็นมรดกลำ้าค่าตกทอด มาแต่บรรพกาล เรียกว่า “นโยบายอิสระ” วิธีดำาเนิน นโยบายต่างประเทศที่ถูกต้องก็คือ นำาเอานโยบายอิสระมา ใช้กับปัญหาความสัมพันธ์กับต่างประเทศตามสถานการณ์ ที่เปลี่ยนแปลงไป ฉะนั้น สำาหรับนโยบายต่างประเทศของ ไทยแล้ว นโยบายหลักไม่เปลี่ยนแปลง แต่นโยบายตาม สถานการณ์เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และจะต้องใช้นโยบาย สองอย่างนี้ควบคู่กันตลอดไป โดยนโยบายตาม สถานการณ์ตั้งอยู่บนรากฐานของนโยบายหลัก ไม่ว่าจะ ดำาเนินนโยบายต่อประเทศใด หรือต่อปัญหาใด ใน สถานการณ์ใด เช่น ต่อสหรัฐอเมริกา ต่อสาธารณรัฐ ประชาชนจีน ต่อสหภาพโซเวียต ต่อสหประชาชาติ ต่ออา เซี่ยน ต่ออินโดจีน ฯลฯ จะต้องยึดถือนโยบายอิสระเป็น หลักอยู่ตลอดเวลา วิธีดำาเนินนโยบายต่างประเทศเช่นนี้ ประเทศไทยเคยใช้มาแต่อดีต ยังผลให้รอดพ้นภัยพิบัติและ ดำารงเอกราชอธิปไตยไว้ได้ ในปัจจุบันสภาวการณ์ทาง ภูมิศาสตร์และทางการเมือง กำาหนดให้ประเทศไทยเป็นจุด ยุทธศาสตร์สำาคัญที่สุดในความขัดแย้งของโลก ทั้งความ ขัดแย้งระหว่างเสรีนิยมกับสังคมนิยม ความขัดแย้งภายใน ระบบเสรีนิยม ความขัดแย้งภายในระบบสังคมนิยม และใน ท่ามกลางความขัดแย้งของโลกปัจจุบัน ไม่มีประเทศใดไม่ 18
  • 19. ว่ามหาอำานาจหรือมิช่มหาอำานาจ จะเป็นหลักในการแก้ ความขัดแย้งได้ ทำาให้มีอันตรายแห่งสงคราม ทั้งใน ขอบเขตภูมิภาคและขอบเขตโลก แต่ประเทศไทยซึ่งเป็น จุดยุทธศาสตร์สำาคัญที่สุดและมีนโยบายต่างประเทศที่อยู่ บนรากฐานของลักษณะประจำาชาติอันสูงส่ง เป็นประเทศ เดียวที่อยู่ในฐานะที่จะแก้ความขัดแย้งของโลก ป้องกัน สงครามและรักษาสันติภาพซึ่งเป็นหลักประกันของการ รักษาผลประโยชน์ของประเทศไทยอย่างถึงที่สุด ฉะนั้น ประเทศไทยจึงต้องวางตัวเป็นหลักตามความหมายที่แท้ จริงของ “นโยบายอิสระ” ในท่ามกลางความขัดแย้งทั้งใน ภูมิภาคและในโลก ๕.๒ ส่งเสริมสัมพันธไมตรีอันดีและความสัมพันธ์ทาง เศรษฐกิจการค้ากับทุกประเทศ โดยไม่คำานึงถึงความแตก ต่างในระบอบการปกครอง ระบบเศรษฐกิจและสังคม ๕.๓ ส่งเสริมชักชวนการลงทุนจากต่างประเทศ โดยมีหลัก ประกันที่เป็นธรรม และร่วมมือกับประเทศกำาลังพัฒนา เพื่อ เสริมสร้างประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ระหว่างประเทศ ๕.๔ ยับยั้งการสร้างสถานการณ์เพื่อเปลี่ยนสงครามใน ประเทศเป็นสงครามประชาชาติ และกำาจัดบรรยากาศ สงครามประชาชาติ ๕.๕ ดำาเนินนโยบายเป็นกลางบนรากฐานของ “นโยบาย อิสระ” ของชาติไทย ในปัญหาความขัดแย้งภายในระบบ สังคมนิยม ๕.๖ เรียกร้องให้มีการประชุมนานาชาติ เพื่อรับรอง สถานภาพเป็นกลางของประเทศไทย เพื่อเป็นเงื่อนไขให้ ประเทศไทย ในฐานะเป็นจุดยุทธศาสตร์อันสำาคัญที่สุดใน ความขัดแย้งของโลกปัจจุบัน ได้แสดงบทบาทอย่างเต็ม 19
  • 20. ภาคภูมิในการป้องกันสงครามและรักษาสันติภาพถาวร ของโลก ๖ วัฒนธรรม ๖.๑ กำาจัดวัฒนธรรมตำ่าทรามที่แพร่หลายมาจากต่าง ประเทศ และรับวัฒนธรรมต่างประเทศโดยกลั่นกรอง วัฒนธรรมเป็นองค์ประกอบอันสำาคัญอย่างหนึ่งของระบบ สังคม และมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับองค์ประกอบ สำาคัญอีกสองประการ คือ เศรษฐกิจและการเมือง ฉะนั้น การแก้ปัญหาวัฒนธรรมจึงต้องประสานกับการแก้ปัญหา เศรษฐกิจและการเมือง เศรษฐกิจซึ่งระบบผูกขาดของ เอกชนครอบงำาการครองชีพของประชาชน และการเมืองที่ ไม่เป็นประชาธิปไตย นอกจากจะบั่นทอนวัฒนธรรมอันดี งาม ยังเป็นแหล่งรองรับวัฒนธรรมตำ่าทรามที่แพร่มาจาก ต่างประเทศอีกด้วย การพัฒนาระบบเศรษฐกิจระบบ เสรีนิยมที่ก้าวหน้าและพัฒนาการเมืองให้เป็นระบอบ ประชาธิปไตยที่แท้จริง คือ มาตรการพื้นฐานในการ ป้องกันและกำาจัดวัฒนธรรมตำ่าทรามต่างๆ ทั้งที่เกิดขึ้น ภายในประเทศและที่แพร่มาจากต่างประเทศ ในขณะ เดียวกันก็ใช้มาตรการทางกฎหมายและทางการศึกษา อบรมควบคู่กันไปด้วย วัฒนธรรมตำ่าทรามนั้นไม่เป็นสิ่งพึง ประสงค์ไม่ว่าของเทศใดๆ แต่วัฒนธรรมที่ดีของแต่ละชาติ ก็ไม่ใช่ว่าจะยอมรับซึ่งกันและกันใด้เสมอไป วัฒนธรรมซึ่ง ชาติหนึ่งถือว่าดี อีกชาติหนึ่อาจถือว่าไม่ดีก็ได้ เช่น ประเพณีความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงซึ่งชาติหนึ่งถือว่าดี งาม แต่อีกชาติหนึ่งถือว่าเป็นการอนาจารไปก็มี ฉะนั้น การรับวัฒนธรรมจากต่างชาติ จึงต้องคัดเลือกกลั่นกรอง เอาแต่เฉพาะที่ไม่ขัดกับวัฒนธรรมไทย แม้ว่าวัฒนธรรม เหล่านั้นจะไม่ใช่วัฒนธรรมตำ่าทรามก็ตาม ๖.๒ เชิดชูวัฒนธรรมไทยอันสูงส่งมาแต่บรรพกาล 20
  • 21. ภูมิแห่งจิตใจของชนชาติไทยซึ่งแสดงออกทาง ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วรรณคดี และความ สัมพันธ์กับต่างชาติ เป็นต้นนั้นสูงส่งอย่างยิ่ง ซึ่งจะต้อง รักษาและเชิดชูไว้ตลอดไป วัฒนธรรมอันสูงส่งย่อมอาศัย ระบอบประชาธิปไตยเป็นพื้นฐาน เพราะวัฒนธรรมอันสูงส่ง ก็คือวัฒนธรรมของประชาชน ถ้าไม่มีประชาธิปไตย วัฒนธรรมของประชาชนก็จะไม่สามารถพัฒนาอย่างเต็มที่ ได้ การปกครองประเทศไทยมีลักษณะประชาธิปไตยมา ตั้งแต่บรรพกาล นี่คือ ปัจจัยสำาคัญให้วัฒนธรรมของ ประชาชนได้พัฒนาอย่างเต็มที่ จึงส่งเสริมให้วัฒนธรรม ไทยเป็นวัฒนธรรมที่สูงส่ง ฉะนั้น มาตรการพื้นฐานของ การเชิดชูวัฒนธรรมไทยก็คือ การพัฒนาระบอบ ประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับประเทศไทยนั่นเอง ประสาน กับการส่งเสริมวัฒนธรรมใดด้านต่าง ๆ โดยตรงด้วย ๖.๓ ส่งเสริมเสรีภาพของกลุ่มชนต่างเชื้อชาติใน ประเทศไทยในการพัฒนาวัฒนธรรมของตน คนไทยประกอบด้วยชนหลายเชื้อชาติ นอกจากเชื้อชาติ ไทยแล้วยังมีชนเชื้อชาติอื่นๆ เช่น ชาวเขา ชาวมาเลย์ เป็นต้น ความแตกต่างทางเชื้อชาติย่อมกำาหนดความแตก ต่างทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ระบอบ ประชาธิปไตยยอมรับ ฉะนั้น ระบอบประชาธิปไตยจึงต้อง ให้เสรีภาพทางวัฒนธรรมแก่ชนเชื้อชาติต่างๆ ภายใน ประเทศ เพื่อให้วัฒนธรรมของประชาชนเชื้อชาติเหล่านั้น ได้พัฒนาไปอย่างเต็มที่ แม้ว่าวัฒนธรรมของชนเชื้อชาติ อื่นจะแตกต่างกับวัฒนธรรมของชนเชื้อชาติไทยก็ตาม แต่ เมื่อเป็นวัฒนธรรมของประชาชนก็ย่อมเป็นวัฒนธรรมที่ดี งามทั้งสิ้น ฉะนั้น การให้เสรีภาพทางวัฒนธรรมจึงมีผลดี โดยเฉพาะคือ ผลดีในการกระชับความสามัคคีแห่งชาติ 21
  • 22. ๖.๔ พัฒนาวัฒนธรรมทางการเมืองบนรากฐานของการส่ง เสริมทรรศนะที่ถือว่า การเมืองคือคุณธรรมตามคตินิยม ของคนไทยแต่โบราณ โดยลักษณะการเมืองคือคุณธรรม เพราะมีความมุ่งหมาย เพื่อความสุขของประชาชน ความจริงข้อนี้คนไทยได้ถือ เป็นคตินิยมมาแต่โบราณ เช่น ทศพิธราชธรรม เป็นต้น ในบรรดาระบอบการปกครองทั้งหลาย ระบอบ ประชาธิปไตยเป็นระบอบที่มีคุณธรรมสูงสุด เพราะระบอบ ประชาธิปไตยเป็นระบอบที่รักษาผลประโยชน์ของ ประชาชน ดังนั้น ประชาธิปไตยก็คือธรรมาธิปไตย นั่นเอง จึงไม่มีการเมืองใดจะมีคุณธรรมสูงส่งเสมอด้วยการเมือง ประชาธิปไตย และดังนั้นถ้าจะเป็นประชาธิปไตยก็จำาเป็น จะต้องกำาจัดทรรศนะที่เห็นการเมืองเป็นของสกปรกและ กลับไปสู่ทรรศนะเดิม คือ การเมืองเป็นคุณธรรมต่อไป และ บนรากฐานของทรรศนะที่ถูกต้องนี้ ดำาเนินการพัฒนา วัฒนธรรมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย เช่นความ สามารถในการทำางานร่วมกับผู้อื่น ความอดทนต่อความ เห็นที่ตรงกันข้ามกับของตน ความมีวินัย ความยอมรับเสียง ข้างมาก ความยืนหยัดในหลักการที่ถูกต้องแม้ว่าจะเป็น ฝ่ายข้างน้อย ความใจกว้าง ความยอมแพ้ต่อเหตุผล ความ เคารพในหลักวิชา ความอุทิศตนเพื่อประเทศชาติเพื่อ ประชาชน และเพื่อคุณธรรม เป็นต้น ให้มีทรรศนะที่เห็น การเมืองเป็นคุณธรรม และให้สมบูรณ์ด้วยวัฒนธรร ทางการเมืองอย่างมากที่สุด ๖.๕ ส่งเสริมความบริสุทธิ์ผุดผ่องของพุทธศาสนา อันเป็น ศาสนาประจำาชาติไทย รวมทั้งศาสนาอื่นๆ ในประเทศไทย พระพุทธศาสนาเป็นองค์ประกอบอันสำาคัญที่สุดของ วัฒนธรรมไทย เพราะหลักธรรมของพระพุทธศาสนา สอดคล้องอย่างลึกซึ้งกับลักษณะพิเศษประจำาชาติไทย 22
  • 23. โดยเฉพาะคือ อหิงสา (ความไม่เบียดเบียน) เป็นลักษณะ พิเศษอย่างหนึ่งของคนไทย และหลักธรรมอย่างหนึ่งของ พระพุทธศาสนาคือ อหิงสา ปรโม ธมฺโม (ความไม่ เบียดเบียนเป็นธรรมอย่างยิ่ง) ด้วยเหตุนี้ คนไทยซึ่งรับเอา พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำาชาติ จึงเข้ากับศาสนา อื่นได้เป็นอย่างดี ในประวัติศาสตร์ของชาติไทยไม่เคยมี การเลือกปฏิบัติต่อศาสนาอื่น และไม่เคยมีเหตุการณ์ร้าย แรงอันเนื่องมาจากความแตกต่างทางศาสนา การที่เป็น เช่นนี้ก็เพราะนับถือพุทธศาสนาของคนไทยนั้น โดยพื้น ฐานเป็นการนับถือหลักธรรมอันแท้จริง แม้ว่าจะประกอบ ด้วยพิธีการ และลัทธินิยมอื่นๆ มากมาย แต่โดยพื้นฐานก็ มิได้ละทิ้งหลักธรรมอันแท้จริง หลักธรรมอันแท้จริงนี่เอง คือ ความบริสุทธิ์ผุดผ่องของศาสนา ซึ่งควรเน้นหนักใน การส่งเสริมโดยร่วมมือกับบรรดานักปฏิบัติธรรมที่ถูกต้อง. เมื่อได้ปฏิบัติหลังการต่างๆที่ยกมาข้างต้นปรากฏเป็น จริงอย่างรอบด้านต่อสังคมไทยแล้วตัวแทน ประชาชน(ตัวแทนเขตและตัวแทนทุกสาขาอาชีพ)ที่มา จากการเลือกตั้ง มาพิจารณาร่างกฎหมายรัฐธรรมนูนเพื่อ รักษาทุกสิ่งทุกอย่างข้างต้น เพื่อแสดงถึงการถืออำานาจ อธิปไตยของปวงชนตลอดไปเหมือนกับอนารยะประเทศทั้ง หลายที่เป็นประชาธิปไตยแล้วทั่วโลก Edit : thongkrm_virut@yahoo.com 23