SlideShare a Scribd company logo
1 of 53
จุดกำเนิด
ประวัติควำมเป็นมำ
ลักษณะทั่วไป
โครงสร้ำง
ประเภทดำวหำง
วงโคจร
ควำมสำคัญ
กำรตั้งชื่อ
ตัวอย่ำงดำวหำง
ข้อมูลเพิ่มเติม
สถิติเกี่ยวกับ
ดำวหำง
ศัพท์น่ำรู้
วิดีโอเกี่ยวกับ
ดำวหำง
ผู้จัดทำ
ประวัติความเป็นมา
ในปี พ.ศ.2493 นักดำรำศำสตร์ชำวเนเธอร์แลนด์ แจน ออร์ด ( Jan Oort ) เป็นผู้เสนอทฤษฎีว่ำ
ต้องมีแหล่งที่อยู่ของดำวหำงจำนวนหลำย ๆ ล้ำนดวงอยู่ไกลเลยจำกดำวเครำะห์ดวงนอก ของระบบสุริยะ
ออกไป โดยมีระยะห่ำงจำกดวงอำทิตย์รำว 30,000 หน่วยดำรำศำสตร์ ไปจนถึง 1ปีแสง หรือไกลกว่ำนั้น จึง
เรียกถิ่นที่อยู่ของดำวหำงตำมควำมคิดนี้ว่ำ ดงดำวหำงออร์ด(The Oort Cloud)
จุดกำเนิดของดำวหำง
ดำวหำงมีกำเนิดมำจำกเมฆออร์ท (Oort cloud) ซึ่งเป็นผลึกน้ำแข็งอยู่ที่ขอบของระบบสุริยะ เมื่อ
มีแรงภำยนอกมำกระทำ เช่น ซูเปอร์โนวำ (Supernova) ดำวหำงจะหลุดออกจำกถิ่นกำเนิดและถูกแรงโน้ม
ถ่วงของดวงอำทิตย์ดึงดูดมำเป็น บริวำร วงโคจรของดำวหำงจึงยำวไกลและมีควำมรีมำกไม่อยู่ในระนำบสุริย
วิถี เนื่องจำกเมฆออร์ทมีลักษณะเป็นทรงกลมที่ห่อหุ้มดวงอำทิตย์ ดำวหำงจึงเคลื่อนที่เข้ำดวงอำทิตย์ได้จำก
ทุกทิศทำง
ลักษณะทั่วไปของดาวหาง
ขณะเมื่ออยู่ไกลจำกดวงอำทิตย์ ดำวหำงคล้ำยก้อนน้ำแข็งสกปรกของหินและฝุ่นเกำะกัน อยู่ด้วย
ก๊ำซและน้ำที่แข็งตัว โดยทั่วไปแล้วดำวหำงมีขนำดใหญ่ไม่กี่กิโลเมตรเท่ำนั้น เมื่อดำวหำงเคลื่อนเข้ำใกล้ดวง
อำทิตย์ในระยะวงโคจรของดำวพฤหัสบดี ดำวหำงเริ่มอุ่นขึ้น น้ำแข็งรอบนอกระเหิดกลำยเป็นก๊ำซและฝุ่น
เกิดกลุ่มเมฆก๊ำซ เป็นบรรยำกำศห่อหุ้มขนำดใหญ่ มำกจนสำมำรถครอบคลุมโลกทั้งดวงได้ เรียกว่ำ โคมำ
นอกจากลมสุริยะและรังสีจากดวงอาทิตย์จะทาให้เกิดโคมาขนาดใหญ่แล้วยังทาให้หางดาว
หางพัดกระพือออกไปเป็นลายาว ดวงหางบางดวง อาจมีหางยาวเป็นหลายล้านกิโลเมตร และแม้ว่า
ดาวหางจะมีทิศทางเคลื่อนที่ไปอย่างไรก็ตามแต่หางของดาวหางจะหันหนีออกจากดวงอาทิตย์เสมอ
เราเห็นดาวหางสว่างขึ้นได้เพราะส่วนที่เป็น อนุภาคของแข็งและฝุ่นสะท้อนแสงจากดวงอาทิตย์กับทั้ง
อนุภาคก๊าซที่มีประจุไฟฟ้ าในหางดาวหางดูดซับพลังงานจากดวงอาทิตย์เรืองแสงขึ้น
โครงสร้างของดาวหาง
- นิวเคลียส เป็นใจกลำงหัวดำวหำง ซึ่งประกอบด้วยธำตุต่ำง ๆ จำพวก คำร์บอน (C) ไฮโดรเจน
(H) ออกซิเจน (O) และ ไนโตรเจน (N) รวมตัวกัน โดยมีน้ำ เป็นองค์ประกอบสำคัญ นอกจำกนั้น ยังมีฝุ่น
ของซิลิกอน แมกนีเซียม และธำตุหนักอื่น ๆ ฝุ่นเหล่ำนี้รวมตัวกับน้ำแข็งอัดแน่นอยู่ด้วยกัน ทำให้เกิดเป็น
นิวเคลียสสีดำเหมือนถ่ำน
- โคมำ เมื่อดำวหำงโคจรเข้ำใกล้ดวง
อำทิตย์ รังสีควำมร้อนทำให้น้ำแข็งบริเวณผิวของ
นิวเคลียส ระเหิด เป็นไอ ก๊ำซและฝุ่นผงจึงขยำยตัว
เป็นบรรยำกำศห่อหุ้มนิวเคลียสไว้กลำยเป็นหัวดำว
หำง เรียกว่ำ โคมำ
- หำงฝุ่น เป็นก๊ำซและฝุ่นพัดกระพือออกจำกหัว
ดำวหำง สะท้อนแสงให้เห็นเป็นหำงชนิดสั้นและ มี
ลักษณะโค้ง มีควำมเป็นกลำงทำงประจุไฟฟ้ำ แรงดันจำก
รังสีควำมร้อนของดวงอำทิตย์ผลัก ให้หำงลู่ไปในแนวตรง
ข้ำมกับดวงอำทิตย์เสมอ
- หำงก๊ำซ ก๊ำซในหำงดำวหำงทำปฏิกิริยำกับ
ลมสุริยะจำกดวงอำทิตย์ ทำให้ก๊ำซต่ำง ๆ แตกตัว เป็น
อนุภำคที่มีประจุไฟฟ้ำ หรือ ไอออน เช่น อนุภำคประจุ
คำร์บอนมอนนอกไซด์ (CO+)เปล่งแสง สีน้ำเงินในหำง
ก๊ำซเคลื่อนที่หนีออกจำกดวงอำทิตย์ด้วยควำมเร็ว
หลำยร้อยกิโลเมตรต่อวินำที หำงก๊ำซ มีลักษณะเหยียด
ตรง และยืดยำวออกไปหลำยล้ำนกิโลเมตร
ประเภทของดาวหาง
ดำวหำงคำบวงโคจรยำว และ ดำวหำงคำบวงโคจรสั้น
ตอนแรกดำวหำงมีคำบวงโคจรยำวเพรำะเดินทำงมำจำกขอบของระบบสุริยะ แต่เมื่อเข้ำมำถึง
อำณำบริเวณที่มีดำวเครำะห์ แรงโน้มถ่วงของดำวเครำะห์จะมีอิทธิพลทำให้วงโคจรของดำวหำงเล็กลง
หรือกลำยมำเป็นดวงจันทร์โคจรรอบดำวเครำะห์เสียเอง ดังเช่น โฟบัสและดีมอส ดวงจันทร์ขนำดเล็กของ
ดำวอังคำร
ภำพที่ 1 แสดงให้เห็นขนำดของวงโคจรของดำวหำงซึ่งมีควำมแตกต่ำงกัน
ดำวหำงไฮยำกูทำเกะ (Hyakutake) เป็นดำวหำงคำบวงจรยำวโคจรรอบดวงอำทิตย์ใช้เวลำนำนกว่ำ 10,000 ปี
ดำวหำงฮัลเลย์ (Halley)เป็นดำวหำงคำบวงโคจรวงจรสั้นโคจรรอบดวงอำทิตย์ใช้เวลำ 76 ปี
ดำวหำงเทมเปิล1 (Tempel1) มีคำบโคจรรอบดวงอำทิตย์เพียง 5.5 ปี
ภำพที่ 2 แสดงให้เห็นถึง อิทธิพลของแรงโน้มถ่วงของดำวเครำะห์ซึ่งทำให้ดำวหำงมีวงโคจรรอบดวง
อำทิตย์ สั้นลง
วงโคจรของดาวหาง
ดำงหำงส่วนใหญ่มีวงโคจรรอบดวงอำทิตย์เป็นวงรีสูงและวงโคจรใหญ่มำก เรำมีโอกำสเห็น ดำว
หำงได้เฉพำะเมื่อดำวหำงเคลื่อนที่เข้ำมำในเขตชั้นในของระบบสุริยะที่โลกอยู่เท่ำนั้น ดำวหำงบำงดวงมีวง
โคจร ไม่ใหญ่มำกนัก เรำจึงเห็นดำวหำง โคจรกลับมำอีก จัดว่ำเป็น ดำวหำงคำบโคจรสั้น ส่วนดำวหำงที่มี
คำบโคจร นำนกว่ำ 200 ปี จัดให้เป็น ดำวหำงคำบโคจรยำว
ความสาคัญของดาวหาง
นักดาราศาสตร์เชื่อว่า ดาวหางเป็นซากวัตถุที่เหลือจากการก่อตัวของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ
มีอายุมากกว่า 4,500 ล้านปีเดินทางมาจากห้วงอวกาศแสนไกลและเย็นจัด ดาวหางจึงน่าจะ ยังคงสภาพ
ดั้งเดิมอยู่มาก อาจประกอบด้วยอินทรีย์สารที่จาเป็นต่อกาเนิดของสิ่งมีชีวิต และบางที ดาวหางอาจเป็น
ตัวนาน้ามายังโลกในยุคแรกเริ่มที่โลกก่อกาเนิดขึ้นก็เป็นได้
การตั้งชื่อดาวหาง
บุคคลทั่วไปมักคุ้นเคยกับชื่อสำมัญของดำวหำงที่ตั้งชื่อตำมบุคคล เช่น ดำวหำงแฮลลีย์ ดำวหำง
เฮล-บอปป์ ซึ่งมักตั้งชื่อตำมผู้ค้นพบหรือผู้คำนวณวงโคจรได้ถูกต้องเป็นคนแรก ในระยะแรกกำรตั้งชื่อแบบ
นี้ดูไม่เป็นปัญหำ ซ้ำยังสะดวกเรียก สะดวกจำ แต่เมื่อวิทยำศำสตร์ก้ำวหน้ำขึ้น มีกำรค้นพบดำวหำงมำก
ขึ้นในแต่ละปี คน ๆ หนึ่งอำจมีโอกำสค้นพบดำวหำงได้หลำยดวง กำรเรียกแบบเดิมจะเริ่มมีปัญหำ ไม่อำจ
ใช้ระบุดำวหำงที่แน่ชัดได้
นับจำกปี 2547 สหพันธ์ดำรำศำสตร์สำกลได้กำหนดวิธีตั้งชื่อที่เป็นทำงกำรของดำวหำงไว้ใหม่ มี
รูปแบบเป็น T/YYYY HS
โดยที่ T คือรหัสชนิดของดำวหำง มีดังนี้ P หมำยถึงดำวหำงคำบสั้น
C หมำยถึงดำวหำงคำบยำว (หรือไม่มีคำบ)
X หมำยถึงดำวหำงที่คำนวณวงโคจรไม่ได้ เนื่องจำกเป็นดำวหำงใน
อดีต ไม่มีข้อมูลเพียงพอ
D หมำยถึงดำวหำงที่สลำยหรือสำบสูญไปแล้ว
A หมำยถึงดำวเครำะห์น้อยที่เคยเข้ำใจผิดว่ำเป็นดำวหำง
YYYY คือ คริสต์ศักรำชที่ค้นพบ หรือ ปีที่ทรำบว่ำเป็นดำวหำงรำยคำบ
H คือ อักษรบอกปักษ์ที่ค้นพบ เช่น A คือปักษ์แรกของเดือนมกรำคม
B คือปักษ์ที่สองของเดือนมกรำคม C คือปักษ์แรกของเดือนกุมภำพันธ์
จนสิ้นสุดที่อักษร Y (ข้ำมอักษรตัว I ไป)
S คือลำดับกำรค้นพบในปักษ์นั้น
หำกดำวหำงดวงนั้นได้กลับมำปรำกฏให้เห็นมำกกว่ำหนึ่งครั้ง (ซึ่งหมำยควำมว่ำเป็นดำวหำง
รำยคำบ มีอักษร P นำหน้ำ) หน้ำอักษร P จะมีเลขลำดับนำหน้ำอยู่ เช่นดำวหำงแฮลลีย์ มีชื่อว่ำ
1P/1682 Q1
อย่ำงไรก็ตำม ในกำรเรียกชื่อที่ไม่เป็นทำงกำรมำกนัก กำรเรียกชื่อดำวหำงด้วยชื่อสำมัญตำม
บุคคลนั้นยังคงเป็นที่นิยมกันอยู่ เรำจึงมักพบกำรใช้ชื่อแบบผสมระหว่ำงชื่อทำงกำรกับชื่อสำมัญ เช่น
ดำวหำงเฮียะกุตะเกะ มักเขียนเป็น C/1996 B2 (Hyakutake) ดำวหำงแฮลลีย์ ก็จะเขียนเป็น 1P/1682
Q1 (Halley) หรือย่อเข้ำไปอีกก็เป็น 1P/Halley
ตัวอย่างดาวหางดวงสาคัญ
ดำวหำงแฮลลีย์ (Halley)ดำวหำงโคจรรอบ
ดวงอำทิตย์เป็นวงรี ครบหนึ่งรอบทุกคำบประมำณ
76ปี จำกบันทึกเก่ำแก่พบว่ำชำวโลกมีโอกำสสังเกต
ดำวหำงแฮลลีย์โคจรเข้ำมำแล้ว 27รอบ ครั้งหลังสุด
คือเมื่อปี พ.ศ.2529 และดำวหำงจะกลับมำอีกครั้ง
ต่อไปในปี พ.ศ.2604-2605
ดาวหางแฮลลีย์
ดาวหางโคฮูเทก
ดำวหำงที่ได้ชื่อว่ำเป็นดำวหำงแห่งควำมผิดหวังคือ ดำวหำงโคฮูเทก ดำวหำงดวงนี้ถูกค้นพบใน
พ.ศ.2516 ขณะที่ดำวหำงอยู่ห่ำงจำกดวงอำทิตย์ถึง 700 ล้ำนกิโลเมตร ทำให้นักดำรำศำสตร์เชื่อว่ำ เมื่อเข้ำ
ใกล้โลกจะต้องเป็นดำวหำงที่มีควำมสว่ำงไสวอย่ำงมำกแน่นอน จนถึงกับคำดกำรณ์ว่ำจะเป็นดำวหำงแห่ง
ศตวรรษ แต่เมื่อถึงเวลำจริง โคฮูเทกกลับกลำยเป็นแค่ดำวหำงธรรมดำเล็ก ๆ ดวงหนึ่งเท่ำนั้น
ดาวหางชูเมกเกอร์-เลวี 9 (D/1993 F2)
ดำวหำงดวงนี้ได้แตกออกเป็นสำยของดำวหำง
น้อย ๆ วิ่งเป็นขบวน และทั้งหมดก็พุ่งเข้ำชนดำว
พฤหัสบดีในเดือนกรกฎำคม 2537เป็นครั้งแรกที่มีกำร
สำรวจกำรพุ่งชนของวัตถุในระบบสุริยะ แต่ละชิ้นมี
ขนำดตั้งแต่เล็กน้อยจนถึง 2กิโลเมตร ที่น่ำสนใจคือ
ขณะที่ค้นพบนั้น พบว่ำดำวหำงดวงนี้กำลังโคจรรอบดำว
พฤหัสบดี ไม่ได้โคจรรอบดวงอำทิตย์ ซึ่งคำนวณ
ย้อนหลังกลับไปได้ว่ำดำวหำงดวงนี้เคยเป็นบริวำรของ
ดวงอำทิตย์มำ ก่อน แต่ถูกดำวพฤหัสบดีคว้ำจับไปเป็น
บริวำรของตนเองก่อนหน้ำนั้นประมำณ20-30ปี กำรพุ่ง
ชนได้ทิ้งรอยแผลบนบรรยำกำศของดำวพฤหัสบดีจน
พรุนไปทั้งวง
นักวิทยำศำสตร์เชื่อว่ำ ดำวหำง วัตถุจำกสุดขอบระบบสุริยะนี้เก็บควำมลับดำมืดเกี่ยวกับต้น
กำเนิดระบบสุริยะ เอำไว้ บำงทีกำรศึกษำดำวหำงอำจช่วยให้เรำมองเห็นกำรกำเนิดระบบสุริยะได้ชัดเจนยิ่ง
ขึ้น อำจอธิบำยแหล่งที่มำเกี่ยวกับน้ำบนโลกได้ รวมถึงอำจตอบคำถำมได้ว่ำสิ่งมีชีวิตบนโลกเกิดขึ้นได้อย่ำงไร
ดำวหำงอำจมีบทบำทเป็นผู้ให้ชีวิตบนดำวเครำะห์โลก ในทำงกลับกัน วันหนึ่งข้ำงหน้ำอำจมีดำวหำงบำงดวง
พุ่งตรงมำยังโลก ยุติชีวิตทั้งหมดบนดำวเครำะห์ดวงนี้ก็ได้ จึงต้องมีกำรเฝ้ำระวัง ติดตำม และเตรียมกำรหำ
วิธีหลีกเลี่ยงภัยที่อำจเกิดขึ้นจำกดำวหำง ด้วยเหตุนี้ นักวิทยำศำสตร์ยังคงต้องศึกษำดำวหำงต่อไป
คาบของดาวหาง
ดำวหำงโคจรรอบดวงทิตย์ด้วยคำบหลำกหลำยมำก ดำวหำงที่มีคำบโคจรสั้นที่สุดคือ ดำวหำงเอง
เคอ โคจรรอบดวงทิตย์ครบรอบทุก 3.3 ปี ส่วนดำวหำงที่คำบโคจรยำวที่สุดอำจยำวถึงหลำยล้ำนปี หรือบำง
ดวงก็ไม่โคจรรอบดวงอำทิตย์ หำกแต่เข้ำมำเยือนดวงอำทิตย์เพียงครั้งเดียวแล้วไม่วกกลับมำอีกเลย
นักดำรำศำสตร์จัดกลุ่มของดำวหำงตำมคำบกำร
โคจรไว้เป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ คือ ดำวหำงคำบยำว และดำวหำง
คำบสั้น
ดำวหำงคำบยำว บำงครั้งก็เรียกว่ำ ดำวหำงไม่มีคำบ หมำยถึงดำวหำงที่มีคำบกำรโคจร 200 ปี
หรือมำกกว่ำ มีบันทึกกำรพบเห็นเพียงครั้งเดียว ดำวหำงในกลุ่มนี้มีเส้นทำงโคจรเป็นรูปวงรีหรือพำรำโบลำ
หรืออำจเป็นไฮเพอร์โบ ลำ จึงถือได้ว่ำเป็นดำวหำงที่มีโอกำสเห็นเพียงครั้งเดียวในชั่วชีวิตหนึ่ง ดำวหำงที่
สว่ำงมำก ๆ มักเป็นดำวหำงประเภทนี้
ส่วนดำวหำงคำบสั้น คือดำวหำงที่มีคำบโคจรสั้นกว่ำ 200 ปี ดำวหำงคำบสั้นที่เป็นที่รู้จักกันดีคือ
ดำวหำงแฮลลีย์ ดำวหำงคำบสั้นส่วนใหญ่มักไม่สว่ำงมำกนัก ปัจจุบันพบดำวหำงคำบสั้นแล้วประมำณ 293
ดวง
เพิ่มเติมข้อมูล
ดาวหางไม่มีหาง
แม้หำงจะเป็นเอกลักษณ์ของดำวหำง แต่ดำวหำงบำงดวงก็เป็นดำวหำงไร้หำง เช่นหำกดำวหำง
ดวงนั้นมีวงโคจรไกลจำกดวงอำทิตย์มำก รังสีที่ได้รับจำกดวงอำทิตย์จะอ่อนมำกจนทำให้เกิดหำงไม่ได้
ตัวอย่ำงของดำวหำงประเภทนี้ เช่น ดำวหำงคิลสตัน (ซี/1966 พี1) และ ดำวหำง 2006 เอสคิว 372
วัตถุที่มีหาง แต่ไม่ใช่ดาวหาง
วัตถุบนท้องฟ้ำที่ทอดหำงสีขำวเป็นทำงยำวก็อำจไม่ใช่ดำวหำงเสมอไป บำงครั้งดำวเครำะห์น้อย
ก็สำดหำงคล้ำยดำวหำงได้เหมือนกัน นักวิทยำศำสตร์พบวัตถุจำนวนหนึ่งในแถบดำวเครำะห์น้อยหลัก ซึ่ง
อยู่ระหว่ำงวงโคจรของดำวอังคำรกับดำวพฤหัสบดี วัตถุเหล่ำนี้มีรูปร่ำงคล้ำยดำวหำง ทั้งที่มีวงโคจรแบบ
ดำวเครำะห์น้อยแถบหลัก นั่นคือ มีวงโคจรเกือบกลม และมีระนำบวงโคจรใกล้เคียงกับระนำบสุริยวิถี
เชื่อว่ำวัตถุประเภทนี้มีองค์ประกอบเช่นเดียวกับดำวเครำะห์น้อย เมื่อดำวเครำะห์น้อยถูกวัตถุดวงอื่นพุ่ง
ชน กำรชนนั้นอำจทำให้มีเศษหินฝุ่นกระเด็นออกไปเป็นสำยจนดูคล้ำยดำวหำงได้ หำกเป็นดำวเครำะห์
น้อยที่มีองค์ประกอบเป็นน้ำแข็งอยู่ใต้พื้นผิวมำก เมื่อถูกวัตถุพุ่งชน จะเกิดแผลเปิดบนพื้นผิว เผยให้
น้ำแข็งที่อยู่เบื้องล่ำงสัมผัสรังสีจำกดวงอำทิตย์ ก็จะเกิดปฏิกิริยำแบบเดียวกับดำวหำงได้เช่นกัน แม้ว่ำจะ
มีหำงเหมือนดำวหำง แต่กำรที่กลไกกำรเกิดหำงต่ำงจำกดำวหำง จึงไม่ถือว่ำเป็นดำวหำงที่แท้จริง บำงครั้ง
อำจเรียกวัตถุจำพวกนี้ว่ำ ดำวหำงแถบหลัก
ดำวเครำะห์น้อยมีหำง ค้นพบใน พ.ศ. 2554 ถ่ำยโดยกล้องโทรทรรศน์อวกำศฮับเบิล แต่วัตถุดวงนี้
ก็ไม่ใช่ดำวหำง หำกแต่เป็นดำวเครำะห์น้อยที่เพิ่งถูกชนกับวัตถุอื่น แรงจำกกำรชนได้สำดฝุ่นออกไปเป็นหำง
คล้ำยดำวหำง
ดำวเครำะห์น้อย พี/2010 เอ 2 (ลิเนียร์) ดูคล้ำยดำวหำงมำก มีหำงยำวถึง 300,000 กิโลเมตร
คำดว่ำหำงที่เกิดขึ้นเป็นผลจำกกำรพุ่งชนของวัตถุอื่นจนเกิดเป็นหำงฝุ่นทอด ยำวออกไป
ดาวหางย้อน
บำงครั้ง ดำวหำงก็ปรำกฏมีหำงประหลำดพุ่งออกมำจำกหัวชี้เข้ำหำดวงอำทิตย์ ซึ่งมีทิศทำงต่ำง
จำกหำงปกติที่ชี้ออกจำกดวงอำทิตย์ หำงนี้เรียกว่ำหำงย้อน ควำมจริงหำงย้อนไม่ได้มีทิศทำงพุ่งเข้ำหำดวง
อำทิตย์แต่อย่ำงใด เกิดขึ้นเมื่อมุมมองจำกโลกทำมุมกับดวงอำทิตย์แคบ ๆ และหำงฝุ่นของดำวหำงนั้น
เหยียดโค้งจนส่วนปลำยยื่นล้ำออกมำอีกด้ำนหนึ่งของ หัว ดำวหำงชื่อดังหลำยดวงมีหำงย้อนปรำกฏด้วย
เช่นดำวหำงอำเรนด์-โรแลนด์ ดำวหำงเฮล-บอปป์ และดำวหำงแพนสตำรร์ส
ดาวหางเฉียดดวงอาทิตย์
คือดำวหำงที่มีเส้นทำงเข้ำใกล้ดวงอำทิตย์
มำก ดำวหำงจำพวกนี้หลำยดวงถูกรังสีร้อนแรงของ
ดวงอำทิตย์ทำลำยไปจนหมดสิ้น แต่บำงดวงก็รอดพ้น
ออกมำได้ ดำวหำงเฉียดดวงอำทิตย์มีอัตรำกำรคำยฝุ่น
และแก๊สสูงมำก จึงมักสว่ำงมำก แต่กลับสังเกตได้ยำก
เนื่องจำกกำรที่เข้ำใกล้ดวงอำทิตย์มำก จึงมักถูกแสง
จ้ำจำกดวงอำทิตย์บดบัง กำรสำรวจดำวหำงเฉียดดวง
อำทิตย์จึงถูกมองข้ำมไปเป็นเวลำนำน จนกระทั่งถึง
ยุคของกล้องโทรทรรศน์อวกำศและหอสังเกตกำรณ์
ดวงอำทิตย์ เช่น โซโฮ นับจำกที่ดำวเทียมดวงนี้ขึ้นสู่
ท้องฟ้ำใน พ.ศ. 2538 ได้พบดำวหำงเฉียดดวงอำทิตย์
มำแล้วไม่ต่ำกว่ำ 2,500 ดวง
ภำพจำกหอสังเกตกำรณ์โซโฮ วงกลมทึบกลำงภำพคือส่วนของโล่บังแสงอำทิตย์ วงสีขำวแสดง
ตำแหน่งและขนำดปรำกฏของดวงอำทิตย์ที่ถูกบัง ในภำพปรำกฏดำวหำงเฉียดดวงอำทิตย์สองดวงกำลังพุ่ง
เข้ำหำดวงอำทิตย์
ที่น่ำสนใจก็คือ ดำวหำงเฉียดดวงอำทิตย์
ที่พบโดยโซโฮรำว 83 เปอร์เซ็นต์มีวงโคจร
คล้ำยกัน คำดว่ำดำวหำงในกลุ่มนี้ทั้งหมดเป็นเศษ
ชิ้นส่วนที่แตกมำจำกดำวหำงใหญ่ดวง หนึ่งเมื่อ
หลำยร้อยปีก่อน นักดำรำศำสตร์เรียกกลุ่มดำวหำง
พวกนี้ว่ำ กลุ่มครอยทซ์ ตั้งชื่อตำม ไฮน์ริช
ครอยทซ์ ผู้ค้นพบควำมสัมพันธ์นี้ ดำวหำงในกลุ่ม
ครอยทซ์หลำยดวงกลำยมำเป็นดำวหำงที่ได้รับ
กำรขนำนนำมว่ำ ดำวหำงยักษ์ เช่น ดำวหำงอิเกะ
ยะ-เซะกิ ดำวหำงยักษ์แห่งปี 1843 ดำวหำงเลิฟ
จอย
สถิติต่างๆ เกี่ยวกับดาวหาง
ดำวหำงที่เคยพบว่ำมีหำงมำกที่สุดคือ ดำวหำงโชซู ที่ค้นพบใน พ.ศ. 2283 มีหำงไม่น้อยกว่ำ 6 หำง
ดำวหำงที่มีหำงยำวที่สุดเท่ำที่เคยบันทึกคือ ดำวหำงเฮียะกุตะเกะ มีหำงยำวไม่น้อย
กว่ำ 500,000,000 กิโลเมตร
กำรศึกษำสเปกตรัมของดำวหำงครั้งแรก มีขึ้นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2407 โดย จี โดนำติ พบว่ำ ดำว
หำงไม่เพียงสะท้อนสเปกตรัมของดวงอำทิตย์เท่ำนั้น ยังมีสเปกตรัมบำงเส้นที่เกิดจำกสำรที่มีอยู่ในดำวหำง
เองด้วย
ดำวหำงดวงแรกที่ค้นพบในขณะเกิดสุริยุปรำคำเต็มดวง คือ ดำวหำงทีวฟิก ค้นพบใน พ.ศ. 2425
ภำพกำรค้นพบครั้งนั้นถ่ำยที่ประเทศอียิปต์ และหลังจำกนั้นแล้วก็ไม่เห็นดำวหำงดวงนี้อีกเลย ภำพ ๆ นั้น
จึงเป็นหลักฐำนเพียงชิ้นเดียวเท่ำที่
ดำวหำงรำยคำบที่สว่ำงที่สุดคือ ดำวหำงแฮลลีย์ มีคำบ 76 ปี ครั้งที่สว่ำงที่สุดคือ พ.ศ. 1380 ใน
ครั้งนั้นดำวหำงได้เข้ำใกล้โลกเพียง 0.04 หน่วยดำรำศำสตร์ มีอันดับควำมสว่ำง -3.5 และสำดหำงออกไป
ยำวถึง 93 องศำ
ดำวหำงดวงแรกที่พบว่ำพุ่งเข้ำชนดวงอำทิตย์คือ 1979 XI (โฮเวิร์ด-คูแมน-ไมเคิลส์) พุ่งเข้ำชน
ดวงอำทิตย์เมื่อวันที่ 31 สิงหำคม 2522
ดวงหำงดวงแรกที่พบว่ำพุ่งเข้ำชนดำวเครำะห์คือ ดำวหำงชูเมกเกอร์-เลวี 9 พุ่งเข้ำชนดำว
พฤหัสบดีในเดือน กรกฎำคม 2537
ดำวหำงคำบสั้นดวงแรกที่สำมำรถคำนวณวงโคจรได้คือ ดำวหำงเองเคอ
ดำวหำงที่มีคำบสั้นที่สุดคือ ดำวหำงเองเคอ มีคำบ 3.3 ปี
ดำวหำงที่สว่ำงที่สุดในศตวรรษที่ 20 คือ ดำวหำงยักษ์กลำงวันแห่งปี 1910 มีอันดับควำมสว่ำง
ประมำณ -5 (สว่ำงกว่ำดำวศุกร์)
บุคคลที่เป็นผู้ค้นพบดำวหำงมำกที่สุดคือ ชอง-ลุย ปง พบ 37 ดวง
ผู้หญิงคนแรกที่ค้นพบดำวหำงคือ แคโรไลน์ เฮอร์เชล น้องสำวของ เซอร์วิลเลียม เฮอร์เชล
คาศัพท์น่ารู้
• 1 ปีแสง หมำยถึง เป็นหน่วยวัดระยะทำง มีค่ำเท่ำกับแสงเดินทำงได้ใน 1 ปี โดยเอำตัวเลข
ของ "ควำมเร็วแสง“ คือ 299,793 กิโลเมตร/วินำที มำเป็นตัวกำหนด
ดังนั้น 1 ปีแสงก็เท่ากับ 299,793 X 3,600 X 24 X 365 = 9.46 X 1012 กิโลเมตร
• ซูเปอร์โนวำ (Supernova )หมำยถึง ปรำกฏกำรณ์ที่เกิดขึ้นหลังจำกที่ดำวฤกษ์ที่มีมวลมำกกว่ำดวงอำทิตย์
หลำยเท่ำเดินทำงมำถึงวำระสุดท้ำย คือ เหลือเชื้อเพลิงไม่มำกพอที่จะทำ
ให้ดำวอยู่ได้อีกต่อไป และส่งผลให้เกิดธำตุหนักที่แกนกลำง จำกนั้นแรง
โน้มถ่วงของดำวทำให้ดำวยุบตัวลง เกิดปฏิกิริยำนิวเคลียร์อย่ำงรุนแรง
ก่อนจะระเบิดตัวแตกสลำยครั้งใหญ่
• กำรระเหิด หมำยถึง เป็นกระบวนกำรที่ของแข็งเปลี่ยนสถำนะกลำยเป็นไอ โดยไม่ผ่ำนกำรเป็นของเหลว
ก่อน เมื่ออนุภำคของสำรได้รับควำมร้อนจากสิ่งแวดล้อมเพียงเล็กน้อย
• ระบบสุริยะ หมำยถึง ระบบดำวที่มีดำวฤกษ์เป็นศูนย์กลำง และมีดำวเครำะห์ (Planet) เป็นบริวำรโคจร
อยู่โดยรอบ เมื่อสภำพแวดล้อมเอื้ออำนวย ต่อกำรดำรงชีวิต สิ่งมีชีวิตก็จะเกิดขึ้นบน
ดำวเครำะห์เหล่ำนั้น หรือ บริวำรของดำวเครำะห์เองที่เรียกว่ำดวงจันทร์ (Satellite)
วิดีโอเกี่ยวกับดาวหาง
ที่มำ https://www.youtube.com/watch?v=VlF-Pa1mTXA
ผู้จัดทา
นำย ปริญญภัฎ ตำยะ ชั้น ม.6/8 เลขที่ 19
นำย ธฤต คำออน ชั้น ม.6/8 เลขที่ 22

More Related Content

Viewers also liked

Viewers also liked (11)

Ashley_Pollard_Project4_portfolio
Ashley_Pollard_Project4_portfolioAshley_Pollard_Project4_portfolio
Ashley_Pollard_Project4_portfolio
 
HEP PRESENTATION
HEP PRESENTATIONHEP PRESENTATION
HEP PRESENTATION
 
ธฤต
ธฤตธฤต
ธฤต
 
Blog
BlogBlog
Blog
 
Thiết kế banner cuốn
Thiết kế banner cuốnThiết kế banner cuốn
Thiết kế banner cuốn
 
Mesa Hotels and Resorts Factsheet
Mesa Hotels and Resorts FactsheetMesa Hotels and Resorts Factsheet
Mesa Hotels and Resorts Factsheet
 
Subhi
SubhiSubhi
Subhi
 
Updated_Resume
Updated_ResumeUpdated_Resume
Updated_Resume
 
NFL DRAFT - APRIL 2016
NFL DRAFT - APRIL 2016NFL DRAFT - APRIL 2016
NFL DRAFT - APRIL 2016
 
Roshwalb Sara C_CV_2
Roshwalb Sara C_CV_2Roshwalb Sara C_CV_2
Roshwalb Sara C_CV_2
 
tees_valley_annual_report_2012_to_2013_final_version
tees_valley_annual_report_2012_to_2013_final_versiontees_valley_annual_report_2012_to_2013_final_version
tees_valley_annual_report_2012_to_2013_final_version
 

Com