SlideShare a Scribd company logo
1 of 64
Download to read offline
1
ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา
คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ทรรศนะเกี่ยวกับควำมสุขและทุกข์ของชีวิตในชมพูทวีปมีลักษณะอย่ำงไร
1. กลุ่มต่ำงๆ เชื่อว่ำไม่มีควำมสุขควำมทุกข์ มนุษย์ล้วนคิดไปเอง
2. กลุ่มต่ำงๆ เชื่อว่ำควำมสุขทำงกำยเป็นเป้ ำหมำยสูงสุดของชีวิต
3. กลุ่มหนึ่งเชื่อว่ำเกิดขึ้นเอง อีกกลุ่มหนึ่งเชื่อว่ำเกิดขึ้นด้วยเหตุปัจจัย
4. กลุ่มหนึ่งเชื่อว่ำพระเจ้ำบันดำลสุข อีกกลุ่มหนึ่งเชื่อว่ำภูตผีสร้ำงทุกข์เข็ญ
2. กำรปฏิบัติตนของหมอชีวกโกมำรภัจจ์สอดคล้องกับคำสอนในข้อใด
1. เอำชนะคนพำลด้วยควำมเพียร
2. ใฝ่เรียนรู้ศิลปวิทยำอยู่ตลอดเวลำ
3. คบบัณฑิต บัณฑิตพำไปหำผล
4. รู้เขำรู้เรำรบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง
3. บุคคลในข้อใดกล่ำวได้ว่ำเป็นผู้ปฏิบัติตนตำมกุศลวิตก
1. วิภำวำงเฉยเมื่อเพื่อนถูกดำเนินคดีในควำมผิดที่เขำก่อขึ้น
2. วินัยช่วยเหลือเพื่อนที่ถูกดำเนินคดีในควำมผิดที่เพื่อนเขำก่อขึ้น
3. วิไลชี้แนะให้เพื่อนเข้ำใจควำมผิดที่ก่อขึ้นอันเป็นเหตุให้ถูกดำเนินคดี
4. วิชัยขอควำมช่วยเหลือจำกผู้มีอำนำจให้เพื่อนเขำพ้นจำกคดีที่เพื่อนเขำก่อขึ้น
4. บุคคลใดปฏิบัติตนต่อพระสงฆ์ได้ถูกต้องเหมำะสมตำมหลักกำรปฏิสันถำรต่อพระสงฆ์
1. เปิ้ลจัดรถไปรับและส่งท่ำนตำมเวลำที่นิมนต์
2. ปัทนั่งสนทนำตรงหน้ำพระสงฆ์เมื่อท่ำนมำถึงบ้ำน
3. ปุ๋ มให้พระสงฆ์นั่งอยู่รูปเดียวเพื่อควำมสงบทำงจิตใจ
4. ปอวำงเก้ำอี้สำหรับพระสงฆ์ไว้ด้ำนหลังเพื่อควำมสะดวกในกำรประกอบพิธีกรรม
5. ข้อใดแสดงควำมสัมพันธ์ของวันสำคัญทำงพระพุทธศำสนำกับหลักธรรมได้อย่ำงถูกต้อง
1. วันมำฆบูชำ-อริยสัจ 4
2. วันอัฏฐมีบูชำ-ไตรลักษณ์
3. วันวิสำขบูชำ-พรหมวิหำร 4
4. วันอำสำฬหบูชำ-อริยมรรคมีองค์แปด
2
6. กำรปฏิบัติตนเพื่อธำรงไว้ซึ่งพุทธวัฒนธรรมในข้อใดเหมำะสมกับสถำนภำพของนักเรียนมำกที่สุด
1. กำรจัดพิธีขึ้นบ้ำนใหม่และตั้งศำลพระภูมิ
2. กำรเข้ำร่วมพิธีกรรมในวันสำคัญทำงพระพุทธศำสนำ
3. กำรเสนอพุทธศำสนสถำนในท้องถิ่นเป็นโบรำณสถำนและมรดกโลก
4. กำรรวมกลุ่มเพื่อนเพื่อช่วยกันทำนุบำรุงพุทธศำสนสถำนที่เก่ำแก่ทรุดโทรม
7. หลักคำสอนเรื่องตรีเอกำนุภำพของคริสต์ศำสนำ หมำยควำมว่ำอย่ำงไร
1. พระเป็นเจ้ำทรงมี 3 องค์ ได้แก่ พระบิดำ พระบุตร และพระจิต
2. พระเป็นเจ้ำทรงทำ 3 หน้ำที่ ได้แก่ ผู้สร้ำง ผู้รักษำ และผู้ทำลำย
3. พระเป็นเจ้ำทรงมี 3 องค์ ได้แก่ พระยะโฮวำห์ พระเยซูคริสต์ และพระแม่มำรี
4. พระเป็นเจ้ำทรงมีองค์เดียว แต่มี 3 พระบุคคล ได้แก่ พระบิดำ พระบุตร และพระจิต
8. ข้อใดต่อไปนี้กล่ำว ไม่ ถูกต้อง
1. ชำวมุสลิมทุกคนต้องทำละหมำดวันละ 5 ครั้ง
2. ชำวมุสลิมจะต้องบริจำคซะกำตในอัตรำร้อยละ 2.5
3. ชำวมุสลิมจะต้องศรัทธำต่ออัลลอฮ์องค์เดียวเท่ำนั้น
4. ชำวมุสสิลมทุกคนต้องไปประกอบพิธีฮัจญ์ปีละ 1 ครั้ง
9. บุคคลใดต่อไปนี้มี “อิสรภำพ” ตำมหลักของพระพุทธศำสนำ
1. แพรเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือบ่อยครั้ง เพื่อให้ทันสมัย
2. ป่ำนเก็บเงินซื้อบ้ำนหลังใหญ่ เพื่อให้ทัดเทียมกับเพื่อนๆ
3. ปอใฝ่ฝันอยำกเป็นแพทย์เพื่อช่วยชีวิตคน จึงตั้งใจเรียนหนังสืออย่ำงมำก
4. ฝ้ำยเดินทำงไปท่องเที่ยวต่ำงประเทศบ่อยครั้ง เพื่อต้องกำรให้ผู้อื่นรู้ว่ำตนเองร่ำรวย
10. ข้อใดเป็นพุทธจริยำของพระบรมศำสดำด้ำนญำตัตถจริยำ
1. ทรงอนุญำตให้พระเทวทัตบวชได้
2. เสด็จไปยับยั้งมิให้องคุลิมำรกระทำมำตุฆำต
3. ทรงแสดงธรรมโปรดพระสุภัททะก่อนเสด็จดับขันธ์ปรินิพพำน
4. ทรงระงับสงครำมแย่งน้ำในแม่น้ำโรหิณีระหว่ำงพระญำติทั้งสองฝ่ำย
11. ข้อใดเป็นสิ่งที่ฆรำวำสพึงกระทำต่อพระภิกษุสงฆ์
1. ชวนพระภิกษุสงฆ์พูดคุยข่ำวในวงกำรบันเทิง
2. ซักถำมหลักธรรมที่มีควำมสงสัยให้เข้ำใจแจ้งชัด
3. ชักชวนให้พระสงฆ์ไปประท้วงขับไล่นักกำรเมือง
4. ขอให้พระภิกษุสงฆ์ตรวจดูว่ำชำติที่แล้วเกิดเป็นอะไร
3
12. กำรสวดมนต์ไหว้พระอย่ำงสม่ำเสมอ มีคุณค่ำและประโยชน์อย่ำงไร
1. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยช่วยเหลือยำมลำบำก
2. จิตใจมีควำมสงบ เยือกเย็น เป็นสมำธิ
3. มีอิทธิฤทธิ์บำงประกำรเกิดขึ้นกับผู้สวด
4. พระพุทธรูปที่บูชำมีควำมศักดิ์สิทธิ์มำกขึ้น
13. บุคคลใดต่อไปนี้ปฏิบัติตำมหลักธรรมพรหมวิหำร 4
1. ผกำมำศอดทนไม่โต้ตอบเพื่อนที่ชอบกลั่นแกล้งตน
2. บุปผำเห็นสุนัขจรจัดถูกรถเฉี่ยวบำดเจ็บ จึงอุ้มไปหำสัตวแพทย์
3. บุษบำขยันหมั่นเพียรในกำรเรียน เพื่อให้สอบเข้ำมหำวิทยำลัยได้
4. บุษบงเห็นกระเป๋ ำสตำงค์ตกอยู่ แม้จะไม่มีใครอยู่แถวนั้น แต่ก็นำไปส่งตำรวจ
14. ข้อใดกล่ำวถูกต้องเกี่ยวกับศำสนำสิข
1. ศูนย์กลำงของศำสนำอยู่ที่นครมักกะฮ์ ประเทศซำอุดีอำระเบีย
2. ชำวสิขที่ทำพิธีล้ำงบำปแล้ว จะรับเอำ ก ทั้ง 5 ประกำร ไว้กับตน
3. ศำสดำองค์แรก คือ คุรุโควินทสิงห์ ศำสดำองค์สุดท้ำย คือ คุรุนำนัก
4. เป็นศำสนำที่เกิดขึ้นเพื่อประนีประนอมระหว่ำงคริสต์ศำสนำและศำสนำอิสลำม
15. ไอยเรศมีอำยุล่วงเข้ำสู่วัยชรำ มีควำมปรำรถนำจะบรรลุโมกษะ จึงสละกำรครองเรือน แล้วออกบวช
ถือเพศพรหมจรรย์ตลอดชีวิต ไอยเรศกำลังปฏิบัติตำมขั้นตอนใดของหลักธรรมอำศรม 4 ในศำสนำ
พรำหมณ์-ฮินดู
1. พรหมจำรี
2. คฤหัสถ์
3. วำนปรัสถ์
4. สันยำสี
16. เพรำะเหตุใดจึงกล่ำวว่ำพระพุทธศำสนำเป็นศำสนำแห่งเหตุผล
1. ถือว่ำทุกสิ่งมีเหตุและผลอยู่ในตนเอง
2. เน้นว่ำทุกสิ่งเกิดและดับตำมเหตุปัจจัย
3. ให้ควำมสำคัญกับกำรถกเถียงหำเหตุผล
4. เน้นว่ำทุกสิ่งดำเนินไปตำมเหตุปัจจัยแห่งกรรมเก่ำ
17. เพรำะเหตุใดแม้ว่ำพระอำนนท์จะออกบวชมำนำนแล้ว แต่ก็ยังไม่บรรลุเป็นพระอรหันต์
1. ต้องโต้วำทะกับพวกเดียรถีย์บ่อยครั้ง
2. พระภิกษุรูปอื่นขัดขวำงกำรบำเพ็ญเพียร
3. ต้องเดินทำงไปประกำศพระศำสนำหลำยที่
4. ต้องปรนนิบัติรับใช้พระพุทธเจ้ำอย่ำงใกล้ชิด
4
18. ขณะที่นักเรียนอ่ำนหนังสือเตรียมสอบเข้ำมหำวิทยำลัย แล้วเกิดอำกำรหดหู่ ง่วงนอน แสดงว่ำนักเรียนมี
สิ่งใดขัดขวำงจิตมิให้บรรลุควำมก้ำวหน้ำ
1. วิจิกิจฉำ 2. พยำบำท
3. ถีนมิทธะ 4. อุทธัจจกุกกุจจะ
19. ข้อห้ำมมิให้พระสงฆ์ฉันอำหำรหลังเที่ยงวันไปแล้วจะปรำกฏอยู่ในคัมภีร์ใด
1. อรรถกถำ 2. พระวินัยปิฎก
3. พระสุตตันตปิฎก 4. พระอภิธรรมปิฎก
20. พิธีศีลศักดิ์สิทธิ์ข้อใดของคริสต์ศำสนำที่กระทำเพื่อระลึกถึงชีวิตและคำสอนของพระเยซูคริสต์
1. พิธีศีลกำลัง 2. พิธีศีลแก้บำป
3. พิธีศีลอนุกรม 4. พิธีศีลมหำสนิท
21. ปัจจัยในข้อใดที่เป็นผลทำให้มนุษย์เป็นสัตว์สังคม
1. เป็นสัตว์เลือดอุ่น
2. มีสันชำติญำณตำมธรรมชำติที่ดี
3. มีควำมสำมำรถทำงสมองที่เป็นเลิศ
4. มีทักษะกำรต่อสู้เหนือกว่ำสัตว์ประเภทอื่น
22. ข้อใดเป็นสถำบันทำงสังคมซึ่งเป็นพื้นฐำนแรกสุดของมนุษย์
1. สถำบันศำสนำ 2. สถำบันเศรษฐกิจ
3. กำรสถำบันครอบครัว 4. สถำบันกำรเมืองกำรปกครอง
23. ข้อใดเกี่ยวข้องกับสถำบันกำรเมืองกำรปกครองโดยตรง
1. ผลิตสินค้ำบริโภค
2. ขัดเกลำสมำชิกของสังคม
3. เผยแพร่ข่ำวสำรสู่สำธำรณะ
4. บริหำรประเทศตำมนโยบำย
24. ข้อใดเป็นลักษณะของสถำนภำพสัมฤทธิ์
1. แก้วได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดกำรแผนก
2. นิดเป็นลูกของนักธุรกิจชื่อดังในประเทศไทย
3. เตยมีผิวขำว ผมเหยียดตรงสีดำ และมีปำนที่แขนข้ำงซ้ำย
4. จอมเกิดวันที่ 10 มกรำคม พ.ศ. 2525 ที่โรงพยำบำลศิริรำช
25. วัฒนธรรมไทยในข้อใดเป็นของภำคใต้
1. งำนบุญบั้งไฟ 2. ประเพณีผีตำโขน
3. ประเพณีกำรรำโนรำ 4. กำรแสดงหมอลำซิ่ง
5
26. กำรรับวัฒนธรรมต่ำงชำติมำใช้ควรคำนึงถึงสิ่งใดเป็นสำคัญ
1. เลือกวัฒนธรรมที่ตนเองชอบ
2. เลือกวัฒนธรรมที่คนทั่วไปนิยม
3. รับวัฒนธรรมต่ำงชำติมำทั้งหมด
4. เลือกวัฒนธรรมที่มีประโยชน์นำมำปรับใช้
27. วัฒนธรรมสำกลในข้อใดที่มีควำมสำคัญต่อกำรดำเนินชีวิตของเรำมำกที่สุด
1. แฟชั่น 2. อินเทอร์เน็ต
3. กำรใช้ของรำคำแพง 4. กำรรับประทำนอำหำรตะวันตก
28. กำรปฏิบัติในข้อใดคือบทบำทสำคัญของนักเรียนในกำรเป็นสมำชิกที่ดีของครอบครัว
1. เชื่อฟังพ่อแม่ ตั้งใจเรียน
2. สืบสำนประเพณีและวัฒนธรรมไทย
3. ไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งทุกครั้ง
4. ติดตำมข่ำวสำรและเข้ำร่วมกิจกรรมทำงกำรเมือง
29. สภำพของชุมชนใดที่แสดงให้เห็นว่ำมีสมำชิกของชุมชนที่ดี
1. สมำชิกชุมชนรักสันโดษ
2. สมำชิกชุมชนมีฐำนะร่ำรวย
3. สมำชิกชุมชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมชุมชน
4. สมำชิกชุมชนต่ำงคนต่ำงอยู่ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน
30. ผู้ใดถือได้ว่ำปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีของประเทศชำติและสังคมโลก
1. ตุ๊กชอบลอกข้อสอบในห้องเรียน
2. นิดรับฟังควำมคิดเห็นที่แตกต่ำงของเพื่อน
3. แอ๊ดนิยมใช้ควำมรุนแรงในกำรแก้ไขปัญหำ
4. ทรำยให้กำรยอมรับนับถือคนที่มีฐำนะร่ำรวย
31. สุเมทเสียภำษีเงินได้บุคคลธรรมดำตำมจำนวนทุกปี กำรกระทำของสุเมท เป็นบทบำทหน้ำที่ของ
พลเมืองดีในด้ำนใด
1. ด้ำนกำรกุศล 2. ด้ำนกำรเมือง
3. ด้ำนเศรษฐกิจ 4. ด้ำนสังคมและวัฒนธรรม
32. แนวควำมคิดเกี่ยวกับปฏิญญำสำกลว่ำด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชำชำติเกิดขึ้นหลังจำกเหตุกำรณ์ใด
สิ้นสุดลง
1. สงครำมเวียดนำม 2. สงครำมโลกครั้งที่ 1
3. สงครำมโลกครั้งที่ 2 4. สงครำมอ่ำวเปอร์เซีย
6
33. ในปัจจุบัน ประเทศไทยเข้ำร่วมเป็นภำคีพันธกรณีกับปฏิญญำสำกลว่ำด้วยสิทธิมนุษยชนทั้งหมด กี่ฉบับ
1. 3 ฉบับ 2. 4 ฉบับ
3. 5 ฉบับ 4. 6 ฉบับ
34. แนวคิดใดขัดแย้งกับหลักสิทธิมนุษยชน
1. ผู้ชำยย่อมเก่งกว่ำผู้หญิง
2. เด็กจำเป็นต้องได้รับกำรศึกษำเหมำะสมตำมวัย
3. คนจนมีสิทธิเข้ำถึงบริกำรสำธำรณสุขที่มีมำตรฐำน
4. ผู้พิกำรต้องได้รับคุณภำพชีวิตที่ดีเท่ำเทียมคนทั่วไป
35. อำนำจใดคืออำนำจสูงสุดในกำรปกครองระบอบประชำธิปไตย
1. อำนำจทหำร 2. อำนำจอธิปไตย
3. อำนำจเผด็จกำร 4. อำนำจทำงกำรเงิน
36. ข้อใดคือหลักกำรของระบอบเผด็จกำร
1. ผู้นำมำจำกกำรเลือกตั้ง
2. สื่อมวลชนไม่ถูกแทรกแซง
3. ประชำชนมีอิสระทำงกำรเมือง
4. อำนำจเด็ดขำดอยู่ที่ผู้นำเท่ำนั้น
37. ข้อใดคือองค์กรอิสระ ตำมรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พ.ศ. 2550
1. กรมกำรค้ำภำยใน 2. ผู้ตรวจกำรแผ่นดิน
3. สำนักนำยกรัฐมนตรี 4. สำนักงำนประกันสังคม
38. ข้อใดเป็นบทบำทหน้ำที่ของพรรคกำรเมือง
1. ควบคุมกำรจัดกำรเลือกตั้ง
2. ตัดสินคดีควำมขัดแย้งภำยในรัฐบำล
3. อนุมัติงบประมำณประจำปีแก่กระทรวง
4. วำงนโยบำยเพื่อแก้ไขปัญหำของประเทศ
39. รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พ.ศ. 2550 เป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่เท่ำใดของประเทศไทย
1. ฉบับที่ 16 2. ฉบับที่ 17
3. ฉบับที่ 18 4. ฉบับที่ 19
40. ข้อใดคือควำมสำคัญของรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย
1. มีบทบัญญัติหลำยมำตรำ
2. คุ้มครองสิทธิและเสรีภำพของชนชำวไทย
3. เป็นหลักประกันควำมมั่งคั่งของประเทศ
4. ช่วยให้ประชำชนภำยในประเทศเป็นพลเมืองดี
7
41. สภำผู้แทนรำษฎรประกอบด้วยสมำชิกจำนวนกี่คน
1. 200 คน 2. 300 คน
3. 400 คน 4. 500 คน
42. หน่วยงำนใด มีบทบำทหน้ำที่โดยตรงเกี่ยวกับกำรจัดกำรเลือกตั้ง
1. กกต. 2. คตง.
3. ปปส. 4. คตส.
43. กำรทำบัตรประชำชนเป็นกฎหมำยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องใด
1. กฎหมำยทรัพย์สิน 2. กฎหมำยเรื่องบุคคล
3. กฎหมำยเรื่องครอบครัว 4. กฎหมำยเรื่องกำรละเมิด
44. ข้อใดถือเป็นอสังหำริมทรัพย์
1. เรือ 2. รถยนต์
3. บ้ำนพร้อมที่ดิน 4. เครื่องปรับอำกำศ
45. ข้อใดเป็นกำรลงโทษทำงอำญำในระดับเบำที่สุด
1. ปรับ 2. จำคุก
3. กักขัง 4. ริบทรัพย์สิน
46. ข้อใดเป็นปัญหำพื้นฐำนทำงเศรษฐกิจของทุกประเทศ
1. คุณภำพของผลผลิต กำรกระจำยสินค้ำและบริกำร ต้นทุนกำรผลิต
2. กำรเลือกผลิตสินค้ำและบริกำร ต้นทุนกำรผลิต กำรขำดแคลนเงินทุน
3. กำรขำดแคลนทรัพยำกรธรรมชำติ กำรขำดแคลนเงินทุน กำรเลือกวิธีกำรผลิต
4. กำรเลือกผลิตสินค้ำและบริกำร กำรเลือกวิธีกำรผลิต กำรกระจำยสินค้ำและบริกำร
47. “สามารถแก้ไขความไม่ยุติธรรมในสังคมได้มาก และลดช่องว่างทางเศรษฐกิจระหว่างประชาชนใน
ชาติ” เป็นข้อดีของระบบเศรษฐกิจในข้อใด
1. ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม
2. ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม
3. ระบบเศรษฐกิจแบบผสม
4. เศรษฐกิจพอเพียง
48. “เกษตรกรมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินทากิน มีอิสระในการกาหนดราคาผลผลิตทางการเกษตรของตนเอง แต่
เมื่อราคาผลผลิตตกต่า เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน ภาครัฐต้องเข้าไปแทรกแซง โดยการประกันราคา
พืชผล” เหตุกำรณ์ดังกล่ำวจะเกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจแบบใด
1. ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม 2. ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม
3. ระบบเศรษฐกิจแบบผสม 4. เศรษฐกิจพอเพียง
8
49. ข้อใดเป็นควำมได้เปรียบของระบบเศรษฐกิจแบบผสมที่มีเหนือระบบเศรษฐกิจแบบอื่น
1. บทบำทของรัฐบำลและเอกชนในกำรประกอบกิจกรรมทำงเศรษฐกิจปรับเปลี่ยนได้ตำมควำม
เหมำะสม
2. รัฐบำลและเอกชนต่ำงมีบทบำทในทำงกำรค้ำและกำรลงทุนได้ทัดเทียมกัน
3. รัฐบำลและเอกชนต่ำงร่วมกันจัดสวัสดิกำรตำมควำมต้องกำรของประชำชนได้มำกขึ้น
4. รัฐบำลและเอกชนสำมำรถใช้กลไกรำคำเป็นเครื่องมือสำคัญในกำรตัดสินใจประกอบธุรกิจ
50. กำรรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงำนที่ให้บริกำรด้ำนกำรขนส่ง จัดอยู่ในระบบตลำดแบบใด
1. ตลำดผูกขำด
2. ตลำดกึ่งผูกขำด
3. ตลำดผู้ขำยน้อยรำย
4. ตลำดแข่งขันสมบูรณ์
51. หำกร้ำนจัดดอกไม้รับพนักงำนที่จบสำขำคหกรรมในระดับปริญญำตรีเข้ำทำงำนและต้องจ้ำงในอัตรำ
เงินเดือน เดือนละ 15,000 บำท ส่งผลให้เกิดปรำกฏกำรณ์ตำมข้อใด
1. อุปสงค์เพิ่ม 2. อุปสงค์ลด
3. อุปทำนเพิ่ม 4. อุปทำนลด
52. ปัจจัยในข้อใดส่งผลให้ผู้ผลิตตัดสินใจเพิ่มปริมำณกำรผลิต
1. ธนำคำรปรับเพิ่มดอกเบี้ยเงินกู้
2. ปรับอัตรำค่ำจ้ำงแรงงำนขั้นต่ำเพิ่มขึ้น
3. รำคำของวัตถุดิบที่ใช้ในกำรผลิตลดต่ำลง
4. รำคำของสินค้ำที่ทดแทนกันได้ลดต่ำลง
53. ณ ระดับรำคำดุลยภำพ ปรำกฏว่ำชำวไร่อ้อยเดือดร้อน จึงทำให้รัฐบำลจำเป็นต้องเข้ำช่วยหลือโดย
กำหนดรำคำประกัน ข้อใดกล่ำวได้ถูกต้อง
1. รัฐบำลจะต้องรับซื้ออ้อยส่วนเกินจำกชำวไร่อ้อย
2. ชำวไร่อ้อยจะต้องจัดสรรโควตำขำยให้โรงงำนน้ำตำล
3. โรงงำนน้ำตำลจะซื้ออ้อยได้ในรำคำต่ำกว่ำรำคำดุลยภำพ
4. โรงงำนน้ำตำลจะรวมตัวกันต่อรองรำคำรับซื้ออ้อยในรำคำตลำด
54. กำรนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มำใช้ในภำคอุตสำหกรรม ทำให้ประเทศไทยต้องประสบปัญหำใดในปัจจุบัน
เพรำะเหตุใด
1. ดุลกำรชำระเงินขำดดุล เพรำะต้องใช้เงินตรำต่ำงประเทศมำกขึ้นในกำรนำเข้ำเทคโนโลยี
2. ผลผลิตสินค้ำอุตสำหกรรมมีรำคำสูงขึ้น เพรำะผู้ผลิตมีอำนำจผูกขำดในกำรกำหนดรำคำมำกขึ้น
3. มลพิษทำงอำกำศและทำงน้ำ เพรำะเกิดจำกกำรผลิตและกำรบริโภคสินค้ำอุตสำหกรรมมำกขึ้น
4. ขำดแคลนบุคลำกรทำงวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี เพรำะขำดงบประมำณในกำรพัฒนำกำรศึกษำ
9
55. เกษตรทฤษฎีใหม่ขั้นต้นมีจุดมุ่งหมำยสำคัญเพื่อแก้ไขปัญหำใดให้เกษตรกร
1. กำรสูญเสียที่ดินทำกิน
2. กำรหำช่องทำงขยำยตลำด
3. กำรขำดกำรรวมกลุ่มเพื่อผลิตสินค้ำ
4. กำรเพำะปลูกพืชเศรษฐกิจได้ผลผลิตน้อย
56. หลักกำรสหกรณ์กับปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียงมีควำมสอดคล้องกันในเรื่องใด
1. กำรยึดแนวทำงกำรพึ่งตนเอง
2. กำรร่วมมือร่วมใจกันในสังคมระดับท้องถิ่น
3. กำรบริหำรจัดกำรทรัพยำกรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
4. กำรทำกิจกรรมเศรษฐกิจเฉพำะกับสมำชิกหรือคนในชุมชนเดียวกัน
57. กำรดำเนินงำนของสหกรณ์ข้อใดที่แสดงให้เห็นถึงกำรนำหลักประชำธิปไตยมำใช้
1. ดำเนินงำนโดยอิสระ
2. จดทะเบียนนิติบุคคล
3. เปิดรับสมำชิกด้วยควำมสมัครใจ
4. ไม่ว่ำจะถือหุ้นกี่หุ้นก็ออกเสียงได้เพียง 1 เสียง
58. ข้อใดแสดงว่ำเงินทำหน้ำที่ในกำรวัดมูลค่ำ
1. ส้มมีเงินแค่ 20 บำท ซื้อข้ำวสำรได้ไม่ถึง 1 กิโลกรัม
2. อ้อยเขียนเช็คส่วนตัวซื้อนำฬิกำข้อมือ 1 เรือน รำคำเรือนละ 30,000 บำท
3. โอนำธนบัตรไทยชนิดรำคำ 100 บำท ไปแลกธนบัตรรำคำ 50 บำท ได้2 ใบ
4. น้อยซื้อโทรทัศน์ 1 เครื่อง โดยกำรผ่อนชำระ 6 งวด งวดละ 10,000 บำท
59. เมื่อเปรียบเทียบระหว่ำงธนบัตรใบละ 1,000 บำท กับสร้อยคอทองคำหนัก 1 บำท สินทรัพย์ใดมีสภำพ
คล่องสูงกว่ำ เพรำะเหตุใด
1. ธนบัตร เพรำะเป็นสิ่งที่คนทั่วไปต้องกำร
2. ธนบัตร เพรำะนำไปแลกกับสิ่งอื่นๆ ได้ทันที
3. สร้อยคอทองทำ เพรำะสำมำรถนำไปขำยต่อได้รวดเร็ว
4. สร้อยคอทองคำ เพรำะมีมูลค่ำสูงกว่ำธนบัตร 1,000 บำท
60. ถ้ำปริมำณเงินหมุนเวียนในประเทศเพิ่มมำกขึ้น ทำให้เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจอย่ำงไร
1. กำรลงทุนลดลง
2. อัตรำดอกเบี้ยสูงขึ้น
3. มีกำรจ้ำงงำนเพิ่มมำกขึ้น
4. เอกชนสำมำรถลงทุนได้อย่ำงเสรี
10
61. สภำพกำรณ์ใดบ่งบอกว่ำเกิดภำวะเงินเฟ้ อขึ้นในระบบเศรษฐกิจ
1. ประชำชนมีรำยได้ที่แท้จริงเพิ่มขึ้น
2. สินค้ำและบริกำรต่ำงๆ มีรำคำสูงขึ้น
3. อำนำจซื้อของเงินที่มีอยู่ในมือของประชำชนลดลง
4. เงินจำนวนเท่ำเดิมไม่สำมำรถซื้อสินค้ำและบริกำรตำมที่ต้องกำรได้
62. กำรดำเนินกำรในข้อใดช่วยแก้ไขปัญหำเงินเฟ้อได้
1. ลดอัตรำเงินสดสำรองตำมกฎหมำย
2. ธนำคำรกลำงประกำศรับซื้อคืนพันธบัตร
3. เพิ่มอัตรำซื้อลดตั๋วเงินจำกธนำคำรพำณิชย์
4. ผ่อนคลำยกำรกำกับแผนกำรปล่อยสินเชื่อของธนำคำรพำณิชย์
63. ถ้ำคำดว่ำอัตรำเงินเฟ้อจะสูงขึ้นต่อไปอีก ธนำคำรกลำงจะต้องดำเนินมำตรกำรใดเพื่อชะลอเงินเฟ้อ
1. ลดอัตรำค่ำจ้ำง
2. ลดอัตรำดอกเบี้ยนโยบำย
3. ขึ้นอัตรำภำษีดอกเบี้ยเงินฝำกกับธนำคำรพำณิชย์
4. ขึ้นอัตรำรับช่วงซื้อลดตั๋วสัญญำใช้เงินจำกธนำคำรพำณิชย์
64. ถ้ำเกิดสภำวะเงินฝืดจะส่งผลต่อประชำชนอย่ำงไร
1. ประชำชนใช้จ่ำยเงินมำกขึ้น
2. ประชำชนเสียภำษีให้รัฐมำกขึ้น
3. ประชำชนมีอัตรำกำรว่ำงงำนสูง
4. ประชำชนมีเงินหมุนเวียนในมือสูง
65. ในภำวะที่เศรษฐกิจตกต่ำ รัฐบำลควรมีมำตรกำรทำงกำรคลังอย่ำงไร
1. เก็บภำษีเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มเงินคงคลัง
2. ใช้จ่ำยให้มำกขึ้น เพื่อกระตุ้นกำรผลิต
3. กู้ยืมน้อยลง เพื่อลดภำระงบประมำณ
4. ชะลอกำรปล่อยสินเชื่อ เพื่อลดหนี้ของประชำชน
66. ข้อใดแสดงว่ำประเทศมีควำมเจริญเติบโตทำงเศรษฐกิจ
1. สัดส่วนของคนยำกจนต่อประชำกรลดลง
2. รำยได้เฉลี่ยต่อหัวของประชำกรสูงขึ้น
3. ประชำกรมีสินค้ำที่ผลิตจำกเทคโนโลยีสมัยใหม่บริโภคมำกขึ้น
4. ประเทศประสบควำมสำเร็จในกำรแก้ปัญหำมลพิษและสิ่งแวดล้อม
11
67. ข้อใดถือว่ำเป็นมำตรกำรของนโยบำยกำรค้ำเสรี
1. เก็บภำษีขำเข้ำในอัตรำต่ำ
2. ให้เงินอุดหนุนผู้ผลิตในประเทศ
3. ไม่เก็บภำษีสินค้ำที่ส่งไปขำยประเทศยำกจน
4. ให้นำเข้ำสินค้ำจำกประเทศต่ำงๆ ได้ทุกชนิด
68. ถ้ำปัจจุบันประเทศไทยยังใช้ระบบศักรำชแบบรัตนโกสินทร์ศก (ร.ศ.) ปีพุทธศักรำช 2555 จะตรงกับ
รัตนโกสินทร์ศกใด
1. ร.ศ. 224 2. ร.ศ. 225
3. ร.ศ. 227 4. ร.ศ. 231
69. หลักฐำนทำงประวัติศำสตร์ในข้อใดที่บ่งบอกพัฒนำกำรอำณำจักรโบรำณในดินแดนประเทศไทยก่อน
สมัยสุโขทัย
1. ตำนำน 2. ศิลำจำรึก
3. พงศำวดำร 4. โบรำณสถำน
70. ข้อใดเป็นจุดเริ่มต้นยุคประวัติศำสตร์
1. กำรรู้จักใช้ไฟ 2. รู้จักตั้งถิ่นฐำน
3. รู้จักกำรเพำะปลูก 4. รู้จักบันทึกข้อควำม
71. ผลกำรศึกษำทำงประวัติศำสตร์ในอดีตอำจเปลี่ยนแปลงไปได้จำกปัจจัยใด
1. กำรตั้งประเด็นคำถำมของผู้ศึกษำ และกำรค้นพบหลักฐำนใหม่
2. กำรสังเครำะห์ผลกำรศึกษำเดิม และกำรนำเสนอผลกำรศึกษำในรูปแบบใหม่
3. กำรบูรณะแหล่งข้อมูลทำงประวัติศำสตร์ และกำรตีควำมในมุมมองใหม่ของผู้ศึกษำ
4. กำรขึ้นทะเบียนโบรำณสถำนเป็นมรดกโลก และกำรศึกษำแนวทำงกำรท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
72. พระรำชพงศำวดำรสมัยอยุธยำฉบับใดที่นักประวัติศำสตร์ยอมรับว่ำมีข้อมูลถูกต้องที่สุด
1. ฉบับบริติชมิวเซียม 2. ฉบับพันจันทนุมำศ (เจิม)
3. ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ 4. ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์
73. กำรใช้หลักฐำนที่บันทึกโดยชำวต่ำงชำติในกำรศึกษำประวัติศำสตร์มีข้อจำกัดในเรื่องใด
1. กำรมีจุดมุ่งหมำยที่แตกต่ำงกันของชนชำติต่ำงๆ
2. ควำมรู้ควำมเข้ำใจลักษณะทำงสังคมของผู้บันทึก
3. กำรบันทึกในลักษณะตำนำนหรือนิทำนของชำติตะวันตก
4. ควำมคิดเห็นที่น่ำสนใจจำกผู้บันทึกที่มีภูมิหลังแตกต่ำงกัน
74. ข้อมูลใดเป็นพื้นฐำนสำคัญของแนวคิดถิ่นเดิมของชนชำติไทยอยู่ทำงตอนใต้ของจีน
1. ภำษำ 2. กำยวิภำค
3. กลุ่มเลือด 4. หลักฐำนจีน
12
75. แนวคิดที่ว่ำถิ่นเดิมของชนชำติไทยอยู่บริเวณหมู่เกำะแถบเส้นศูนย์สูตรของภูมิภำคขัดกับหลักกำรทำง
มำนุษยวิทยำในข้อใด
1. กำรตั้งถิ่นฐำนและกำรอพยพ
2. กำรรวมกลุ่มและกำรแบ่งชนชั้น
3. ควำมเป็นมำทำงภำษำพูดและกำรประดิษฐ์ตัวอักษร
4. ควำมอุดมสมบูรณ์ของทรัพยำกรและกำรจัดกำรทรัพยำกร
76.ข้อใดกล่ำวได้ถูกต้องเกี่ยวกับกำรเปลี่ยนแปลงกำรปกครองพ.ศ.2475
1. กำรมีแนวคิดเรื่องสิทธิ เสรีภำพและควำมเสมอภำคของคณะรำษฎร
2. ควำมร่วมมือของรำษฎรส่วนใหญ่ทำให้ไม่เกิดเหตุกำรณ์รุนแรง
3. กำรเรียกร้องประชำธิปไตยและรัฐธรรมนูญของพลเมือง
4. ควำมพร้อมของประชำชนที่มีในกำรปกครองระบอบประชำธิปไตย
77. พระรำชนิพนธ์ เรื่อง ไตรภูมิพระร่วง ของพระมหำธรรมรำชำที่ 1 (ลิไทย) ได้รับอิทธิพลจำกแนวคิดใด
เป็นหลัก
1. ศำสนำพรำหมณ์-ฮินดู
2. พระพุทธศำสนำลัทธิวัชรยำน
3. พระพุทธศำสนำลัทธิลังกำวงศ์
4. พระพุทธศำสนำลัทธิสยำมวงศ์
78. กฎหมำยตรำสำมดวงเกิดจำกกำรตรวจชำระและรวบรวมกฎหมำยขึ้นใหม่ในรัชกำลใด
1. สมเด็จพระบรมไตรโลกนำถ
2. สมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช
3. พระบำทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ำจุฬำโลก
4. พระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว
79. กำรเปลี่ยนแปลงกำรปกครองใน พ.ศ. 2475 ก่อให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงหลำยประกำร ยกเว้น ข้อใด
1. รูปแบบของรัฐ
2. ผู้บริหำรประเทศ
3. ระบอบกำรปกครอง
4. เจ้ำของอำนำจอธิปไตย
80. กิจกรรมในข้อใดเป็นกำรผสำนภูมิปัญญำไทยกับสถำนกำรณ์ปัจจุบัน
1. กำรประกวดนักออกแบบผ้ำไทยร่วมสมัย
2. กำรจัดนิทรรศกำรภูมิปัญญำด้ำนกำรดำรงชีวิตของท้องถิ่น
3. กำรส่งเสริมกำรใช้สมุนไพรในกำรป้ องกันและรักษำโรค
4. กำรศึกษำค้นคว้ำด้ำนนำฏศิลป์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์
13
81. ควำมนิยมงำนศิลปะปูนปั้นรูปพระนำรำยณ์ทรงครุฑประดับหน้ำบันโบสถ์วิหำรในสมัยอยุธยำสะท้อน
คติควำมเชื่อในเรื่องใด
1. ควำมเชื่อเรื่องภพ-ภูมิต่ำงๆ
2. พระมหำกษัตริย์ทรงเป็นสมมติเทพ
3. ศำสนำพรำหมณ์-ฮินดู มีอิทธิพลเหนือพระพุทธศำสนำ
4. พระรำชอำนำจของพระมหำกษัตริย์เหนือเมืองประเทศรำชทั้งปวง
82. “...ถ้าเราขาดสุโขทัยอยุธยา และกรุงเทพฯ แล้วประเทศไทยก็คงไม่มีความหมาย...” พระรำชดำรัส
ดังกล่ำวส่งเสริมแนวคิดในเรื่องใด
1. ควำมเป็นมำอันยำวนำนของประวัติศำสตร์ไทย
2. กำรมีจิตสำนึกรักชำติจำกกำรศึกษำประวัติศำสตร์
3. ควำมสำคัญของประวัติศำสตร์และวัฒนธรรมกับควำมเป็นชำติ
4. กำรมีพัฒนำกำรอย่ำงต่อเนื่องของรัฐไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
83. ศักรำชแบบใดที่นิยมใช้กันแพร่หลำยมำกที่สุด
1. จุลศักรำช 2. พุทธศักรำช
3. คริสต์ศักรำช 4. ฮิจเรำะห์ศักรำช
84. สมัยประวัติศำสตร์ของโลกตะวันตกเริ่มที่แหล่งอำรยธรรมใด
1. อำรยธรรมกรีก 2. อำรยธรรมโรมัน
3. อำรยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ 4. อำรยธรรมลุ่มแม่น้ำไทกริส-ยูเฟรทีส
85. เริ่มสมัยอำณำจักรอยุธยำ พ.ศ. 1893 ตรงกับกำรเกิดเหตุกำรณ์ใดในยุโรป
1. กำรสำรวจทำงทะเล 2. กำรฟื้นฟูศิลปวิทยำกำร
3. โคลัมบัสค้นพบทวีปอเมริกำ 4. กำรสิ้นสุดจักรวรรดิโรมันตะวันตก
86. ข้อใดคือประโยชน์ที่ได้จำกวิธีกำรทำงประวัติศำสตร์
1. ได้องค์ควำมรู้ใหม่ที่น่ำเชื่อถือกว่ำเดิม
2. ได้องค์ควำมรู้ใหม่ที่โดดเด่นไม่เหมือนคนอื่น
3. ประเมินควำมรู้ควำมเข้ำใจของผู้ศึกษำประวัติศำสตร์
4. ประเมินคุณค่ำของข้อมูลเดิมว่ำถูกต้องน่ำเชื่อถือหรือไม่
87. เพรำะเหตุใดนักประวัติศำสตร์มักตีควำมข้อมูลจำกหลักฐำนชิ้นเดียวกันแตกต่ำงกัน
1. มีควำมเชื่อต่ำงกัน 2. มีควำมสนใจต่ำงกัน
3. มีจุดประสงค์ที่ต่ำงกัน 4. มีควำมรู้ควำมสำมำรถต่ำงกัน
88. ข้อจำกัดสำคัญในกำรศึกษำประวัติศำสตร์สำกลคืออะไร
1. มีหลักฐำนจำนวนมำก 2. หลักฐำนอยู่ที่ต่ำงประเทศ
3. ขำดเพื่อนร่วมศึกษำด้วยกัน 4. ศึกษำยำกเพรำะมีควำมรู้น้อย
14
89. เพรำะเหตุใดจึงถือว่ำประมวลกฎหมำยของพระเจ้ำฮัมมูรำบีเป็นมรดกทำงอำรยธรรมชิ้นสำคัญของโลก
1. เป็นประมวลกฎหมำยฉบับแรกของโลก
2. มีบทลงโทษที่รุนแรงซึ่งช่วยลดจำนวนผู้เป็นภัยต่อสังคม
3. เป็นเครื่องแสดงว่ำอำนำจรัฐเข้มแข็งพอที่จะบังคับพลเมืองได้แล้ว
4. เป็นแบบอย่ำงของควำมพยำยำมที่จะให้เกิดควำมยุติธรรมในกำรปกครอง
90. สำเหตุสำคัญที่ทำให้อำรยธรรมอียิปต์พัฒนำอย่ำงมีเอกภำพคือข้อใด
1. มีกำรนับถือเทพเจ้ำองค์เดียว
2. ยึดถืออำรยธรรมเดิมตำมบรรพบุรุษ
3. ไม่มีชนชำติอื่นมำปะปนในอำณำจักร
4. มีสภำพภูมิศำสตร์ที่ป้ องกันกำรรุกรำนจำกภำยนอก
91. สิ่งก่อสร้ำงของอำรยธรรมโรมันให้ควำมสำคัญต่อเรื่องใด
1. ควำมสวยงำม
2. ประโยชน์ใช้สอย
3. ควำมเชื่อทำงศำสนำ
4. ใช้วัสดุที่ประหยัดค่ำใช้จ่ำย
92. กำรปฏิวัติอุตสำหกรรมในเรื่องใดส่งผลให้เกิดโลกำภิวัตน์ในปัจจุบัน
1. กำรสื่อสำร 2. กำรผลิตสินค้ำ
3. กำรคมนำคม 4. กำรบริโภคสินค้ำ
93. แม้ว่ำควำมขัดแย้งจะก่อให้เกิดกำรสูญเสียมำกมำยแต่มีประโยชน์ในเรื่องใด
1. ช่วยลดประชำกรโลก
2. กระตุ้นให้เกิดกำรพัฒนำวิทยำกำร
3. ทำลำยอำรยธรรมเก่ำๆ ที่ล้ำสมัย
4. เศรษฐกิจเจริญเติบโตอย่ำงรวดเร็ว
94. เหตุกำรณ์ 11 กันยำยน เป็นตัวอย่ำงหนึ่งของกำรก่อกำรร้ำยที่มีจุดประสงค์ใด
1. เรียกค่ำคุ้มครองจำกสหรัฐอเมริกำ
2. ต่อต้ำนกำรใช้อำนำจของสหรัฐอเมริกำ
3. ต้องกำรทำสงครำมศำสนำกับสหรัฐอเมริกำ
4. ตอบโต้ที่สหรัฐอเมริกำปรำบปรำมกลุ่มก่อกำรร้ำย
95. ข้อใดคือปัญหำควำมร่วมมือในอำเซียน
1. แข่งขันกันพัฒนำ 2. นับถือศำสนำต่ำงกัน
3. เป็นศัตรูกันมำก่อน 4. มีระบอบกำรปกครองต่ำงกัน
15
96. ข้อใดคือวิธีแก้ไขปัญหำโลกร้อนที่มีประสิทธิภำพที่สุด
1. ร่วมกันปลูกต้นไม้สร้ำงควำมร่มรื่น
2. ใช้ทรัพยำกรต่ำงๆ อย่ำงประหยัดและคุ้มค่ำ
3. ติดตั้งกระจกเพื่อสะท้อนแสงอำทิตย์กลับไป
4. เปิดเครื่องทำควำมเย็นเพื่อคลำยควำมร้อนให้โลก
97. ข้อใด ไม่ใช่ แนวโน้มของสถำนกำรณ์สำคัญของโลกในคริสต์ศตวรรษที่ 21
1. เกิดภำวะขำดแคลนแรงงำน
2. กำรก่อกำรร้ำยจะมีมำกขึ้น
3. ค่ำครองชีพของมนุษย์จะสูงขึ้น
4. เกิดภัยธรรมชำติที่รุนแรงบ่อยครั้งขึ้น
98. ข้อใดคือกำรจำแนกประเภทของเครื่องมือทำงภูมิศำสตร์ตำมหน้ำที่กำรใช้งำนที่ถูกต้อง
1. รวบรวมข้อมูล ให้ข้อมูล
2. ให้ข้อมูล วิเครำะห์ข้อมูล
3. วิเครำะห์ข้อมูล สังเครำะห์ข้อมูล
4. สังเครำะห์ข้อมูล รวบรวมข้อมูล
99. บุคคลในข้อใดน่ำจะเป็นผู้ใช้แผนที่ได้อย่ำงชำนำญที่สุด
1. โป้งมีควำมรู้เรื่องแผนที่เป็นอย่ำงดี
2. กลำงรวบรวมแผนที่เฉพำะเรื่องไว้อย่ำงหลำกหลำย
3. นำงสอบได้คะแนนสูงสุดในเรื่องแผนที่และเครื่องมือทำงภูมิศำสตร์
4. ก้อยใช้แผนที่ในกำรดำเนินชีวิตและกำรศึกษำข้อมูลต่ำงๆ เพื่อประโยชน์ในกำรเรียนรู้อยู่เสมอ
100. ปัจจัยสำคัญที่ทำให้นิยมใช้รูปถ่ำยทำงอำกำศแนวดิ่งมำจัดทำแผนที่คืออะไร
1. ควำมชัดเจน 2. ควำมสวยงำม
3. มำตรำส่วนคงที่ 4. สีและรูปร่ำงต่ำงๆ
101. กำรสำรวจข้อมูลของภูมิสำรสนเทศศำสตร์ชนิดใดแตกต่ำงจำกข้ออื่น
1. ภำพจำกดำวเทียม 2. กำรรับรู้จำกระยะไกล
3. ระบบสำรสนเทศภูมิศำสตร์ 4. ระบบกำหนดตำแหน่งบนพื้นโลก
102. ข้อใดกล่ำวได้ถูกต้องเกี่ยวกับองค์ประกอบของระบบสำรสนเทศภูมิศำสตร์
1. ข้อมูลเป็นเชิงตัวเลขและกำรเปลี่ยนแปลงทำงสถิติ
2. วิเครำะห์ข้อมูลจำกฐำนข้อมูลเพียงชั้นเดียวหรือหลำยชั้น
3. บุคลำกรเป็นผู้วิเครำะห์ข้อมูลด้วยสำยตำและกำรคำนวณทำงสถิติ
4. ส่วนเครื่อง คือ เครื่องรับระบบกำหนดตำแหน่งบนพื้นโลกและภำพจำกดำวเทียม
16
103. ข้อมูลที่ใช้ในกำรพยำกรณ์อำกำศของพื้นที่หนึ่งๆ มำจำกหลักกำรทำงำนของดำวเทียมในข้อใด
1. ดำวเทียมคงที่
2. ดำวเทียมพลังงำนธรรมชำติ
3. ดำวเทียมพลังงำนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำ
4. ดำวเทียมโคจรรอบโลกในแนวเหนือ-ใต้
104. ระบบกำหนดตำแหน่งบนพื้นโลกเกิดจำกกิจกำรด้ำนใด
1. กำรทหำร 2. กำรสำรวจทิศทำง
3. กำรป้ องกันภัยพิบัติ 4. กำรช่วยเหลือผู้ประสบภัย
105. ระยะเวลำกลำงวันและกลำงคืนที่เท่ำกันของพื้นที่ในซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้จะเกิดขึ้นในวันใด
1. วันวสันตวิษุวัต วันศำรทวิษุวัต
2. วันศำรทวิษุวัต วันครีษมำยัน
3. วันเหมำยัน วันวสันตวิษุวัต
4. วันครีษมำยัน วันเหมำยัน
106. ถ้ำนักเรียนต้องกำรชมปรำกฏกำรณ์พระอำทิตย์เที่ยงคืนควรเดินทำงไปยังประเทศใด ณ ช่วงเดือนใด
1. ประเทศอำร์เจตินำ เดือนมิถุนำยน
2. ประเทศแคนำดำ เดือนมิถุนำยน
3. ประเทศชิลี เดือนกรกฎำคม
4. ประเทศจีน เดือนกรกฎำคม
107. กำรเกิดแผ่นดินไหวสอดคล้องกับบริเวณที่เป็นแนวรอยเลื่อนของแผ่นเปลือกโลกอย่ำงไร
1. จุดศูนย์กลำงมีแรงสั่นไหวมำก
2. กำรเคลื่อนตัวในรูปแบบต่ำงๆ
3. หินหนืดที่พุขึ้นกลำยเป็นเทือกเขำ
4. ควำมสั่นไหวก่อให้เกิดระลอกคลื่น
108. วัฏจักรทำงอุทกวิทยำเกิดขึ้นโดยมีปัจจัยใดเป็นสำคัญ
1. กำรกลั่น 2. ควำมชื้น
3. ควำมร้อน 4. กำรโน้มถ่วง
109. ข้อใดกล่ำวถึงแหล่งที่มำของกระแสน้ำอุ่นและกระแสน้ำเย็นที่ไหลเวียนในมหำสมุทรของโลกได้
ถูกต้อง
1. เขตศูนย์สูตร เขตขั้วโลก
2. เขตเทือกเขำ เขตศูนย์สูตร
3. เขตขั้วโลก เขตที่รำบลุ่มน้ำขนำดใหญ่
4. เขตที่รำบลุ่มน้ำขนำดใหญ่ เขตเทือกเขำ
17
110. ลักษณะภูมิประเทศในข้อใดเหมำะสมต่อกำรเป็นเมืองท่ำขนส่งสินค้ำทำงทะเลมำกที่สุด
1. ดินดอนสำมเหลี่ยมปำกแม่น้ำ 2. ที่รำบรอบทะเลสำบรูปแอก
3. พื้นที่ชำยฝั่งที่คลื่นลมสงบ 4. ชำยฝั่งของฟีออร์ด
111. หำกนักเรียนต้องกำรศึกษำลักษณะทำงภูมิศำสตร์ที่เหมำะสมต่อกำรทำสวนผลไม้เมืองร้อน นักเรียน
ควรไปยังภำคใด
1. ภำคเหนือ 2. ภำคกลำง
3. ภำคตะวันตก 4. ภำคตะวันออก
112. ข้อใดกล่ำวได้ถูกต้องเกี่ยวกับควำมสัมพันธ์ของลักษณะทำงภูมิศำสตร์กับลักษณะทำงเศรษฐกิจของ
ภำคตะวันออกเฉียงเหนือ
1. มีควำมแห้งแล้ง ไม่สำมำรถปลูกไม้ผลได้
2. มีอำกำศค่อนข้ำงเย็นทำงตอนเหนือ จึงมีกำรปลูกพืชเศรษฐกิจเมืองหนำว
3. ปริมำณน้ำฝนเฉลี่ยต่อปีค่อนข้ำงมำก แต่ดินส่วนใหญ่ไม่ค่อยอุ้มน้ำ กำรเพำะปลูกพืชจึงแตกต่ำงกัน
ไปในแต่ละพื้นที่
4. อิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ทำให้มีฝนตกชุกในช่วงปลำยปี สำมำรถเพำะปลูกพืชที่ต้องใช้
น้ำมำกได้ผลผลิตดี
113. กำรศึกษำเกี่ยวกับภูเขำไฟที่มีพลังในภูมิภำคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ควรดำเนินกำรในประเทศใดบ้ำง
1. อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ 2. กัมพูชำ อินโดนีเซีย
3. ฟิลิปปินส์ ไทย 4. ไทย กัมพูชำ
114. กำรปะทุระเบิดของภูเขำไฟก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศของอุทกภำคได้อย่ำงไร
1. เถ้ำถ่ำนที่ปกคลุมท้องฟ้ำทำให้แสงแดดและควำมร้อนไม่สำมำรถส่องลงมำถึงผิวน้ำได้
2. หินหนืดที่ไหลลงสู่ทะเลส่งผลให้ลักษณะชำยฝั่งเกิดกำรเปลี่ยนแปลง
3. แรงสั่นสะเทือนทำให้เกิดคลื่นใหญ่ซึ่งมีผลต่อแนวปะกำรัง
4. แก๊สและควันที่พวยพุ่งจำกกำรปะทุระเบิดทำให้สัตว์น้ำสูญพันธุ์
115. กำรป้ องกันและแก้ไขพื้นที่จำกอุทกภัยควรหลีกเลี่ยงกำรใช้วิธีกำรใด
1. กำรปลูกหญ้ำแฝกริมตลิ่งเพื่อป้ องกันกำรกัดเซำะของน้ำ
2. กำรกำหนดพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้เป็นแหล่งกักเก็บน้ำหรือแก้มลิง
3. กำรขุดลอกคูคลองทุกสำย เพื่อให้ระบำยน้ำได้อย่ำงเต็มประสิทธิภำพ
4. กำรช่วยกันสร้ำงพนังกั้นน้ำและติดตั้งเครื่องสูบน้ำออกจำกพื้นที่ของตน
116. สำเหตุสำคัญของกำรกัดเซำะชำยฝั่งในปัจจุบันคืออะไร
1. ภำวะโลกร้อน 2. ปรำกฏกำรณ์เรือนกระจก
3. กำรเกิดพำยุหมุนเขตร้อน 4. ปรำกฏกำรณ์อุณหภูมิผกผัน
18
117. เพรำะเหตุใดเมื่อพำยุสงบแล้วจึงควรรอเวลำอีกอย่ำงน้อย 3 ชั่วโมง ก่อนกำรเดินทำงหรือแก้ไขปัญหำที่
เกิดจำกพำยุ
1. มักมีลมแรงและฝนตกหนักอีกเมื่อศูนย์กลำงพำยุพัดผ่ำน
2. วำงแผนกำรเดินทำงเพื่อควำมปลอดภัยจำกซำกปรักหักพัง
3. ควำมพร้อมของหน่วยงำนที่เกี่ยวข้องกับกำรช่วยเหลือผู้ประสบภัย
4. ระดับน้ำลดลงและควำมเร็วลมคงที่สำมำรถเดินทำงได้อย่ำงปลอดภัย
118. เหตุกำรณ์ทำงประวัติศำสตร์ที่อำจกล่ำวได้ว่ำเป็นจุดเริ่มต้นของกำรเพิ่มขึ้นของแก๊สเรือนกระจกใน
บรรยำกำศคืออะไร
1. กำรปฏิวัติกำรเกษตร 2. กำรปฏิวัติอุตสำหกรรม
3. กำรปฏิวัติวิทยำศำสตร์ 4. กำรปฏิวัติกำรเมืองกำรปกครอง
119. ข้อใดแสดงถึงภูมิปัญญำไทยในกำรใช้ประโยชน์ทรัพยำกรแร่และพลังงำน
1. กำรสร้ำงเขื่อนขนำดใหญ่เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้ำ
2. ควำมเชี่ยวชำญในกำรเจียระไนเพชรพลอยของช่ำงไทย
3. กำรทำเหมืองแร่ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่จำกชำติตะวันตก
4. ควำมสำคัญของพลังงำนจำกน้ำมันและแก๊สธรรมชำติต่อภำคเศรษฐกิจของไทย
120. กำรดำเนินงำนด้ำนสิ่งแวดล้อมขององค์กรเอกชนใดถูกต้องเหมำะสมที่สุด
1. กลุ่มรักษ์ไม้จัดตั้งกองกำลังติดอำวุธเฝ้ำระวังกำรบุกรุกพื้นที่ป่ำสงวน
2. สมำคมคนรักสัตว์ป่ำนำสัตว์ป่ำที่ใกล้จะสูญพันธุ์มำผสมพันธุ์ด้วยนวัตกรรมของตนเอง
3. องค์กรพิทักษ์ป่ำแห่งชำติต่อต้ำนกำรดำเนินงำนของหน่วยงำนภำครัฐด้ำนป่ำไม้และสัตว์ป่ำ
4. มูลนิธิสิ่งแวดล้อมของเรำรับบริจำคเงินและอุปกรณ์ต่ำงๆ เพื่อนำไปใช้ในกำรดำเนินงำนด้ำน
สิ่งแวดล้อมอย่ำงมีประสิทธิภำพ
19
ชุดที่ 2 ข้อสอบ O- NET วิชา สังคมศึกษา 2552
ตอนที่ 1 สังคมศึกษำ : จำนวน 100 ข้อ (รวม 100 คะแนน)
ส่วนที่ 1 : แบบระบำยตัวเลือก แต่ละข้อมีคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว
จำนวน 50 ข้อ (ข้อ 1-50) : ข้อละ 1 คะแนน
1. พระพุทธศำสนำสอนหลักควำมจริงที่เป็นสำกลในเรื่องใด
1. ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
2. กำรทำลำยชีวิตเป็นบำป
3. ทุกชีวิตต้องเผชิญปัญหำด้วยควำมไม่ประมำท
4. มนุษย์ใช้ปัญญำหำสำเหตุเพื่อแก้ปัญหำได้
2. ข้อใด ไม่ใช่ ข้อห้ำมในศำสนำอิสลำม
1. ห้ำมฆ่ำตนเองและผู้อื่น
2. ห้ำมกำรคุมกำเนิดและทำแท้ง
3. ห้ำมกำรเสี่ยงโชคและกำรพนัน
4. ห้ำมกรำบบุคคลอื่นยกเว้นบิดำมำรดำ
3. จุดมุ่งหมำยสูงสุดในศำสนำคริสต์คือเรื่องใด
1. กำรล้ำงบำปกำเนิด 2. กำรไปรวมกับพระเจ้ำ
3. กำรสร้ำงศรัทธำต่อพระเจ้ำ 4. กำรรอดพ้นจำกคำพิพำกษำ
4. พิธีกรรมประจำบ้ำน 12 ประกำร ของศำสนำพรำหมณ์-ฮินดู คือพิธีใด
1. พิธีศำรทธ์ 2. พิธีสังสกำร
3. พิธีบูชำเทวดำ 4. พิธีประจำวรรณะ
5. อุดมเป็นผู้มีควำมขยันหมั่นเพียร ประหยัด เลี้ยงชีพตำมกำลังทรัพย์และคบเพื่อนที่ดี อุดมปฏิบัติตำม
ธรรมข้อใด
1. โลกธรรม 2. โภคอำทิยะ
3. ทิฏฐธัมมิกัตถะ 4. อปริหำนิยธรรม
6. พระมหำชนกเป็นผู้มีควำมเพียรตรงกับพุทธศำสนสุภำษิตข้อใด
1. อิณำทำน ทุกฺข โลเก
2. สนฺตุฏฺ ปรม ธน
3. วำยเมเถว ปุริโส ยำว อตฺถสฺส นิปฺปทำ
4. ปฏิรูปกำรี ธุรวำ อุฏฺ ำตำ วินทฺเต ธน
ปีการศึกษา
20
7. คัมภีร์ที่อธิบำยพระไตรปิฎกเรียกว่ำอะไร
1. ฎีกำ 2. อรรถกถำ
3. ปกรณ์พิเศษ 4. สัททำวิเสส
8. ข้ำแต่พระสงฆ์ผู้เจริญข้ำพเจ้ำทั้งหลำยขอน้อมถวำย...(1)... กับทั้งบริวำรเหล่ำนี้แก่พระภิกษุสงฆ์
ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับ ...(2)... กับทั้งบริวำรเหล่ำนี้ของข้ำพเจ้ำทั้งหลำยเพื่อประโยชน์และควำมสุข
แก่ข้ำพเจ้ำทั้งหลำยสิ้นกำลนำนเทอญฯ
ข้อควำมข้ำงต้นเป็นคำถวำยสังฆทำนประเภทสำมัญคำที่ต้องเติมในช่องว่ำงที่ (1) และ (2) คือข้อใด
1. อัฐบริขำร 2. ภัตตำหำร
3. มตกภัตตำหำร 4. ภัตตำหำรและน้ำ
9. ข้อใดคือควำมหมำยของ “จิต” ในจิตตำนุปัสสนำสติปัฏฐำน
1. ธรรม 2. อำรมณ์
3. ควำมรู้สึก 4. ควำมนึกคิด
10. ในแนวทำงพระพุทธศำสนำเรำสำมำรถพัฒนำตนเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ได้อย่ำงไร
1. รักษำศีลให้ครบ
2. ยึดไตรสิกขำในกำรดำเนินชีวิต
3. ฝึกสติปัฏฐำนจนถึงขั้นสุดท้ำย
4. มีส่วนร่วมในกิจกรรมทำงศำสนำอย่ำงสม่ำเสมอ
11. กำรคอร์รัปชั่นเกิดจำกกำรขำดคุณธรรมประกำรใดเป็นสำคัญ
1. ควำมสำมัคคี 2. ควำมเมตตำกรุณำ
3. ควำมวิริยอุตสำหะ 4. ควำมซื่อสัตย์สุจริต
12. กำรปฏิรูปกฎหมำยและระบบศำลของไทยเกิดขึ้นอย่ำงจริงจังในรัชสมัยใด
1. รัชกำลที่ 4 2. รัชกำลที่ 5
3. รัชกำลที่ 6 4. รัชกำลที่ 7
13. ตำมหลักกฎหมำยอำญำควำมผิดทำงอำญำจะ ไม่ เกิดขึ้นหำกปรำศจำกสิ่งใด
1. โทษ 2. สิทธิ
3. เจตนำ 4. กฎหมำย
14. พฤติกรรมส่วนใหญ่ของมนุษย์มีที่มำอย่ำงไร
1. เกิดจำกธรรมชำติ 2. เกิดจำกกำรเรียนรู้
3. เกิดจำกพันธุกรรม 4. เกิดจำกสัญชำตญำณ
15. ข้อใดมีควำมหมำยสอดคล้องกับคำว่ำ “บรรทัดฐำน” มำกที่สุด
1. ค่ำนิยม 2. บทบำท
3. ประเพณี 4. สัญลักษณ์
21
16. ข้อใดเป็นปัญหำสำคัญที่เป็นรำกฐำนของปัญหำอื่นๆในสังคมไทย
1. ปัญหำยำเสพติด 2. ปัญหำครอบครัว
3. ปัญหำสิ่งแวดล้อม 4. ปัญหำอำชญำกรรม
17. หลักกำรปกครองแบบเผด็จกำรให้ควำมสำคัญต่อสิ่งใดน้อยที่สุด
1. ควำมมั่นคงของรัฐบำล 2. ควำมจงรักภักดีต่อชำติ
3. ควำมเสมอภำคในสังคม 4. ควำมเป็นเอกภำพของรัฐ
18. พระมหำกษัตริย์ไทยทรงใช้อำนำจนิติบัญญัติโดยผ่ำนทำงสถำบันทำงกำรเมืองใด
1. ศำล 2. รัฐสภำ
3. คณะรัฐมนตรี 4. คณะองคมนตรี
19. กำรกำหนดให้ประชำชนชำวไทยมีสิทธิออกเสียงประชำมติเป็นกำรสนับสนุนแนวคิดในเรื่องใด
1. กำรคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
2. กำรตรวจสอบกำรใช้อำนำจรัฐ
3. กำรมีส่วนร่วมทำงกำรเมืองของประชำชน
4. กำรกระจำยอำนำจให้ประชำชนปกครองตนเอง
20. รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทยพุทธศักรำช 2550 กำหนดให้บุคคลมีสิทธิได้รับกำรศึกษำโดยไม่เสีย
ค่ำใช้จ่ำยเป็นเวลำไม่น้อยกว่ำกี่ปี
1. 6 ปี 2. 9 ปี
3. 12 ปี 4. 15 ปี
21. กำรขำดแคลนปัจจัยกำรผลิตส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจต้องประสบกับเรื่องใด
1. กำรจัดสรรปัจจัยกำรผลิต
2. กำรแข่งขันกันใช้ปัจจัยกำรผลิต
3. ควำมเหลื่อมล้ำในกำรกระจำยรำยได้
4. เงินเฟ้ อจำกกำรสูงขึ้นของรำคำปัจจัยกำรผลิต
22. ผู้สูงอำยุถอนเงินฝำกประจำจำกธนำคำรจำนวน 1 ล้ำนบำทเพื่อนำเงินไปซื้อพันธบัตรรัฐบำลอำยุ 5 ปีกำร
นำเงินมำซื้อพันธบัตรดังกล่ำวมีต้นทุนหรือไม่ เพรำะเหตุใด
1. ไม่มีเพรำะไม่มีกำรกู้เงินมำซื้อพันธบัตร
2. ไม่มีเพรำะเป็นเงินที่ถอนจำกบัญชีของตนเอง
3. มีเพรำะทำให้ขำดสภำพคล่องในกำรใช้จ่ำย
4. มีเพรำะไม่ได้รับดอกเบี้ยจำกเงินฝำกธนำคำร
23. อำศัยกฎของอุปทำน อุปทำนของเครื่องปรับอำกำศสัมพันธ์กับปัจจัยใด
1. รำคำเครื่องปรับอำกำศ 2. ภำษีสรรพสำมิต
3. ต้นทุนกำรผลิต 4. จำนวนผู้ผลิต
22
24. หลักกำรของสถำบันกำรเงินใดสอดคล้องกับแนวพระรำชดำริเศรษฐกิจพอเพียง
1. ธนำคำรอิสลำมแห่งประเทศไทย
2. ธนำคำรแห่งประเทศไทย
3. สหกรณ์ออมทรัพย์
4. ธนำคำรออมสิน
25. ข้อใดส่งผลให้เงินคงคลังเพิ่มขึ้น
1. รัฐบำลจัดเก็บภำษีอำกรได้เพิ่มขึ้น
2. ดุลรำยได้-รำยจ่ำยของรัฐบำลเกินดุล
3. รัฐวิสำหกิจส่งผลกำไรให้รัฐบำลมำกขึ้น
4. รัฐบำลเลื่อนกำรไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด
26. ข้อใดกล่ำวถึงกำรหมุนเวียนของสินค้ำและบริกำรระหว่ำงหน่วยเศรษฐกิจต่ำงๆในระบบเศรษฐกิจได้
ถูกต้อง
1. หมุนเวียนจำกเจ้ำของปัจจัยกำรผลิตไปสู่ครัวเรือน
2. หมุนเวียนจำกครัวเรือนไปสู่หน่วยธุรกิจ
3. หมุนเวียนจำกหน่วยธุรกิจไปสู่ครัวเรือน
4. หมุนเวียนจำกครัวเรือนไปสู่เจ้ำของปัจจัยกำรผลิต
27. กรณีใดทำให้รำคำข้ำวสำรในตลำดปรับตัวสูงขึ้น
1. อุปสงค์ต่อข้ำวสำรน้อยกว่ำอุปทำนของข้ำวสำร
2. อุปสงค์ต่อข้ำวสำรมำกกว่ำอุปทำนของข้ำวสำร
3. อุปทำนส่วนเกินของข้ำวสำรมำกกว่ำอุปสงค์ส่วนเกินต่อข้ำวสำร
4. อุปทำนส่วนเกินของข้ำวสำรเพิ่มขึ้นมำกกว่ำอุปสงค์ส่วนเกินต่อข้ำวสำร
28. รำยกำรที่แสดงกำรเคลื่อนไหวของทุนสำรองระหว่ำงประเทศจะปรำกฏอยู่ในข้อใด
1. ดุลกำรค้ำ
2. ดุลบัญชีทุน
3. ดุลกำรชำระเงิน
4. ดุลบัญชีเดินสะพัด
29. กำรที่รัฐบำลกู้เงินจำกต่ำงประเทศมำลงทุนแทนกำรกู้เงินจำกประชำชนก่อให้เกิดผลอย่ำงไร
1. หนี้สำธำรณะเพิ่มขึ้นน้อยกว่ำ
2. อัตรำดอกเบี้ยในประเทศสูงขึ้น
3. สภำพคล่องภำยในประเทศเพิ่มขึ้น
4. งบประมำณแผ่นดินขำดดุลน้อยลง
23
30. ภำวะเศรษฐกิจชะลอตัวที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของแผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติฉบับที่ 10
เกิดจำกสำเหตุใด
1. สถำนกำรณ์ควำมไม่สงบใน 3 จังหวัดภำคใต้ทำให้กำรลงทุนชะลอตัว
2. วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกำส่งผลกระทบมำถึงประเทศไทย
3. ควำมไม่มีเสถียรภำพของรัฐบำลทำให้ดำเนินนโยบำยเศรษฐกิจไม่ต่อเนื่อง
4. กำรไม่ดำเนินนโยบำยตำมแนวเศรษฐกิจพอเพียงต่อจำกแผนพัฒนำฯฉบับที่ 9
31. หำกท่ำนเข้ำชมพิพิธภัณฑ์มนุษย์ยุคก่อนประวัติศำสตร์ท่ำนจะไม่ พบสิ่งใด
1. เครื่องประดับ 2. อำวุธหินกะเทำะ
3. แผ่นศิลำจำรึก 4. หม้อดินเผำสำมขำ
32. วิพำกษ์วิธีทำงประวัติศำสตร์หมำยถึงวิธีกำรใด
1. กำรตีควำม 2. กำรประเมิน
3. กำรวิเครำะห์ 4. กำรสังเครำะห์
33. กำรสร้ำงงำนศิลปกรรมของโรมันมีจุดมุ่งหมำยใดเป็นหลัก
1. เพื่อประโยชน์ใช้สอย
2. เพื่อใช้ในกำรประกอบพิธีกรรม
3. เพื่อแสดงควำมศรัทธำต่อศำสนำ
4. เพื่อแสดงควำมยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิ
34. นวัตกรรมใดที่ทำให้เกิดกำรปฏิวัติภูมิปัญญำของชำติตะวันตก
1. ปฏิทิน 2. กระดำษ
3. แท่นพิมพ์ 4. นำฬิกำกลไก
35. อำณำจักรโบรำณในดินแดนสุวรรณภูมิได้รับอิทธิพลจำกอำรยธรรมใดมำกที่สุด
1. อำรยธรรมจีน 2. อำรยธรรมขอม
3. อำรยธรรมอินเดีย 4. อำรยธรรมอิสลำม
36. บุคคลใดได้รับกำรประกำศยกย่องจำกองค์กำรกำรศึกษำวิทยำศำสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชำชำติ
ในสำขำปรำชญ์และกวีประจำปี 2551
1. สมเด็จพระเจ้ำบรมวงศ์เธอเจ้ำฟ้ำกรมพระยำนริศรำนุวัดติวงศ์
2. สมเด็จพระเจ้ำบรมวงศ์เธอกรมพระยำดำรงรำชำนุภำพ
3. พระเจ้ำบรมวงศ์เธอกรมหลวงวงษำธิรำชสนิท
4. หม่อมรำโชทัย หรือหม่อมรำชวงศ์กระต่ำย อิศรำงกูร
37. ที่ตั้งของแคว้นตำมพรลิงค์ตรงกับบริเวณใดในปัจจุบัน
1. ไทรบุรี 2. ปัตตำนี
3. สุรำษฎร์ธำนี 4. นครศรีธรรมรำช
24
38. กำรสถำปนำกรุงศรีอยุธยำเกิดจำกกำรรวมกันของเมืองใด
1. ละโว้-พิษณุโลก 2. สุพรรณภูมิ-ละโว้
3. พิษณุโลก-สุโขทัย 4. สุโขทัย-สุพรรณภูมิ
39. พระมหำกษัตริย์พระองค์ใดทรงริเริ่มธรรมเนียมกำรดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยำร่วมกับขุนนำงและ
ข้ำรำชกำร
1. พระบำทสมเด็จพระจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว
2. พระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว
3. พระบำทสมเด็จพระมงกุฎเกล้ำเจ้ำอยู่หัว
4. พระบำทสมเด็จพระปกเกล้ำเจ้ำอยู่หัว
40. ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงไพร่กับมูลนำยในสังคมไทยโบรำณอยู่ภำยใต้เงื่อนไขใด
1. ระบบกฎหมำย 2. ควำมจงรักภักดี
3. ค่ำนิยมและประเพณี 4. วัฒนธรรมและกฎหมำย
41. ข้อใดไม่ แสดงปัจจัยที่มีต่อลักษณะภูมิอำกำศ
1. จังหวัดภูเก็ตตั้งอยู่ที่ละติจูด 8 องศำเหนือ
2. ภำคตะวันออกเฉียงเหนือมีแม่น้ำโขงไหลผ่ำน
3. เชียงใหม่อยู่สูงจำกระดับทะเลปำนกลำง 303 เมตร
4. ภำคใต้ฝั่งตะวันออกได้รับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
42. หำกต้องกำรศึกษำทะเลสำบน้ำเค็มท่ำนควรไปที่ทะเลสำบใด
1. มิชิแกนสหรัฐอเมริกำ
2. ไบคำลสหพันธรัฐรัสเซีย
3. บัลคำชสำธำรณรัฐคำซัคสถำน
4. แคสเปียนสำธำรณรัฐอิสลำมอิหร่ำน
43. หลุมอุกกำบำตบนพื้นโลกเกี่ยวข้องกับกระบวนกำรใด
1. กำรกร่อนของแผ่นดิน 2. กำรปรับระดับแผ่นดิน
3. กำรแปรสัณฐำนเปลือกโลก 4. กำรกระทำจำกภำยนอกโลก
44. แผนที่ภูมิประเทศมำตรำส่วนใดของประเทศไทยที่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งจังหวัด
1. 1 : 10,000 2. 1 : 50,000
3. 1 : 100,000 4. 1 : 250,000
45. ข้อใด ไม่ใช่ เครื่องมือวัดลักษณะอำกำศ
1. บำรอมิเตอร์ 2. แพลนิมิเตอร์
3. ไซโครมิเตอร์ 4. เทอร์โมมิเตอร์
25
46. หำกเวลำที่ประเทศกคือ 9.00 น. ประเทศซึ่งอยู่ห่ำงออกไปทำงทิศตะวันออก 15 องศำจะเป็นเวลำใด
1. 7.00 น. 2. 8.00 น.
3. 10.00 น. 4. 11.00 น.
47. โครงกำรพัฒนำป่ำชุมชนในประเทศไทยเป็นกำรดำเนินงำนที่สอดคล้องกับอนุสัญญำฉบับใด
1. อนุสัญญำไซเตส
2. อนุสัญญำเวียนนำ
3. อนุสัญญำว่ำด้วยกำรอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ
4. อนุสัญญำว่ำด้วยควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ
48. เกษตรอินทรีย์ไม่ เกี่ยวข้องกับเรื่องใด
1. กำรทำฟำร์มทำงนิเวศวิทยำ
2. กำรใช้หลักกำรกำรเกษตรแบบองค์รวม
3. กำรใช้พันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ที่ดัดแปรพันธุกรรม
4. กำรนำของใช้แล้วไปแปรสภำพเพื่อนำกลับมำใช้ใหม่
49. บุคคลใดมีส่วนร่วมในกำรจัดกำรทรัพยำกรและสิ่งแวดล้อมที่ให้ผลยั่งยืนยำวนำน
1. นำยโดมตรวจวัดคุณภำพอำกำศเป็นประจำ
2. นำยแดงใช้สำรดีดีทีแทนซีเอฟซีในกำรกำจัดแมลง
3. นำยดำปลูกหญ้ำแฝกเพื่อป้ องกันน้ำกัดเซำะตลิ่งพัง
4. นำยดอนใช้หนังสือพิมพ์ที่อ่ำนแล้วห่อขยะเปียกก่อนนำไปทิ้งในถังขยะสีเหลือง
50. ข้อใดไม่ใช่ ข้อมูลทุติยภูมิ
1. แผนที่ 2. ผลงำนวิจัย
3. ภำพจำกดำวเทียม 4. ภำพถ่ำยทำงอำกำศ
ส่วนที่ 2 : แบบระบำยตัวเลือกมำกกว่ำ 1 คำตอบ
แต่ละข้อมีคำตอบที่ถูกต้องมำกกว่ำ 1 คำตอบ โดยอำจมีคำตอบที่ถูกต้องจำนวน 2 คำตอบ หรือ 3 คำตอบ
หรือ 4 คำตอบ ให้ระบำยวงกลมตัวเลือกที่เป็นคำตอบที่ถูกต้องของข้อสอบแต่ละข้อให้ครบถ้วนทุกคำตอบ
จำนวน 50 ข้อ (ข้อ 51-100) : ข้อละ 1 คะแนน
51. ศำสนำมีควำมสำคัญอย่ำงไรต่อสังคม
1. ทำให้เกิดควำมสำมัคคีมีเอกภำพ
2. เป็นบ่อเกิดของกำรสร้ำงสรรค์วัฒนธรรม
3. ตอบสนองควำมต้องกำรด้ำนจิตใจของคนในสังคม
4. เป็นหลักจริยธรรมควบคุมควำมประพฤติของกลุ่มคน
26
52. ข้อใดกล่ำวถูกต้องเกี่ยวกับศำสนำพรำหมณ์-ฮินดู
1. เป็นศำสนำที่ไม่มีศำสดำ
2. ก่อนพุทธกำลเรียกว่ำศำสนำพรำหมณ์
3. ในยุคพระเวทนับถือพระเจ้ำองค์เดียว
4. ยกย่องพระพรหมว่ำยิ่งใหญ่กว่ำเทพเจ้ำองค์อื่น
53. วันพิพำกษำในศำสนำอิสลำมมีชื่อเรียกว่ำอะไร
1. วันสิ้นโลก 2. วันฟื้นคืนชีพ
3. วันแห่งศรัทธำ 4. วันกำหนดชะตำ
54. เรื่องใดปรำกฏอยู่ในคัมภีร์ไบเบิลใหม่
1. เรื่องรำวชีวิตของพระเยซู
2. กำรเผยแผ่ศำสนำของโมเสส
3. กำรเทศนำสั่งสอนธรรมของพระเยซู
4. ประวัติศำสตร์ชนชำติยิวในสมัยอับรำฮัม
55. หลักธรรมใดจัดอยู่ใน “ทุกข์” แห่งอริยสัจ 4
1. ขันธ์ 5 2. หลักกรรม
3. โลกธรรม 8 4. ทิฏฐธัมมิกัตถะ
56. หมอชีวกโกมำรภัจ เป็นอุบำสกที่ได้รับกำรยกย่องในด้ำนใด
1. ใฝ่รู้ 2. กตัญญู
3. เสียสละ 4. จรรยำบรรณแพทย์
57. เรื่องกฎแห่งกรรมในพระพุทธศำสนำสอดคล้องกับเรื่องใด
1. ภพ-ภูมิ 2. ไตรสิกขำ
3. ไตรลักษณ์ 4. กฎธรรมชำติ
58. วันเทโวโรหณะคือวันใด
1. วันพระเจ้ำเปิดโลก
2. วันแรม 1 ค่ำเดือน 11
3. วันหลังวันออกพรรษำ 1 วัน
4. วันที่พระพุทธเจ้ำเสด็จลงจำกดำวดึงส์
59. ข้อใดเป็นกุศลพิธี
1. กำรเวียนเทียน
2. กำรถวำยสังฆทำน
3. กำรทำบุญเลี้ยงพระ
4. กำรสวดมนต์ไหว้พระ
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา

More Related Content

What's hot

3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0 (1)
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0 (1)3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0 (1)
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0 (1)Preeyaporn Chamnan
 
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)teerachon
 
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 03. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0Supisara Jaibaan
 
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์SiwadolChaimano
 
ข้อสอบ O net - สังคมศึกษา
ข้อสอบ O net - สังคมศึกษาข้อสอบ O net - สังคมศึกษา
ข้อสอบ O net - สังคมศึกษาAon NP
 
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - สังคมศึกษา
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - สังคมศึกษาข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - สังคมศึกษา
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - สังคมศึกษาSuriyawaranya Asatthasonthi
 
ข้อลอบสังคม ฟรีเอนทราน ม.ปลาย
ข้อลอบสังคม ฟรีเอนทราน ม.ปลายข้อลอบสังคม ฟรีเอนทราน ม.ปลาย
ข้อลอบสังคม ฟรีเอนทราน ม.ปลายคำหล้า สมวัน
 
3. ข อสอบ o net - ส-งคมศ_กษา (ม_ธยมปลาย)_0
3. ข อสอบ o net - ส-งคมศ_กษา (ม_ธยมปลาย)_03. ข อสอบ o net - ส-งคมศ_กษา (ม_ธยมปลาย)_0
3. ข อสอบ o net - ส-งคมศ_กษา (ม_ธยมปลาย)_0Kaka619
 
ข้อสอบ O-net - สังคมศึกษา
ข้อสอบ O-net - สังคมศึกษาข้อสอบ O-net - สังคมศึกษา
ข้อสอบ O-net - สังคมศึกษาbowing3925
 
แนวข้อสอบ Onet สังคม
แนวข้อสอบ Onet สังคมแนวข้อสอบ Onet สังคม
แนวข้อสอบ Onet สังคมJinwara Sriwichai
 
3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น)
3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น)3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น)
3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น)rutchadaphun123
 
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 03. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0Nattarika Wonkumdang
 
สังคม
สังคมสังคม
สังคมMint Minny
 

What's hot (18)

3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0 (1)
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0 (1)3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0 (1)
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0 (1)
 
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
4.แนวข้อสอบ o net สังคม(ม.3)
 
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 03. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
 
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์
2. ข้อสอบ o net - วิทยาศาสตร์
 
สังคม
สังคมสังคม
สังคม
 
ข้อสอบ O net - สังคมศึกษา
ข้อสอบ O net - สังคมศึกษาข้อสอบ O net - สังคมศึกษา
ข้อสอบ O net - สังคมศึกษา
 
สังคม
สังคมสังคม
สังคม
 
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - สังคมศึกษา
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - สังคมศึกษาข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - สังคมศึกษา
ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างละเอียด O net - สังคมศึกษา
 
the exam.
the exam.the exam.
the exam.
 
ข้อลอบสังคม ฟรีเอนทราน ม.ปลาย
ข้อลอบสังคม ฟรีเอนทราน ม.ปลายข้อลอบสังคม ฟรีเอนทราน ม.ปลาย
ข้อลอบสังคม ฟรีเอนทราน ม.ปลาย
 
3. ข อสอบ o net - ส-งคมศ_กษา (ม_ธยมปลาย)_0
3. ข อสอบ o net - ส-งคมศ_กษา (ม_ธยมปลาย)_03. ข อสอบ o net - ส-งคมศ_กษา (ม_ธยมปลาย)_0
3. ข อสอบ o net - ส-งคมศ_กษา (ม_ธยมปลาย)_0
 
ข้อสอบ O-net - สังคมศึกษา
ข้อสอบ O-net - สังคมศึกษาข้อสอบ O-net - สังคมศึกษา
ข้อสอบ O-net - สังคมศึกษา
 
แนวข้อสอบ Onet สังคม
แนวข้อสอบ Onet สังคมแนวข้อสอบ Onet สังคม
แนวข้อสอบ Onet สังคม
 
3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น) (1)
3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น) (1)3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น) (1)
3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น) (1)
 
3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น)
3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น)3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น)
3. ข้อสอบ o net สังคม (มัธยมต้น)
 
ข้อสอบO-NET
ข้อสอบO-NETข้อสอบO-NET
ข้อสอบO-NET
 
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 03. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (มัธยมปลาย) 0
 
สังคม
สังคมสังคม
สังคม
 

Viewers also liked

Botor project_research_2016
Botor project_research_2016Botor project_research_2016
Botor project_research_2016Shayne Botor
 
ใบงานสำรวจตนเอง1 m6
ใบงานสำรวจตนเอง1 m6ใบงานสำรวจตนเอง1 m6
ใบงานสำรวจตนเอง1 m6SiwadolChaimano
 
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทยSiwadolChaimano
 
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะSiwadolChaimano
 
ข้อสอบ O net - การงานอาชีพ
ข้อสอบ O net - การงานอาชีพข้อสอบ O net - การงานอาชีพ
ข้อสอบ O net - การงานอาชีพSiwadolChaimano
 
7. ข้อสอบ o net - ภาษาอังกฤษ
7. ข้อสอบ o net - ภาษาอังกฤษ7. ข้อสอบ o net - ภาษาอังกฤษ
7. ข้อสอบ o net - ภาษาอังกฤษSiwadolChaimano
 
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษาSiwadolChaimano
 
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_SiwadolChaimano
 
ความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogSiwadolChaimano
 
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_SiwadolChaimano
 
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทยSiwadolChaimano
 
RZB Russia / Рынок Ценных бумаг России Субъекты Формы Механизм деятельности
RZB Russia / Рынок Ценных бумаг России Субъекты Формы  Механизм деятельностиRZB Russia / Рынок Ценных бумаг России Субъекты Формы  Механизм деятельности
RZB Russia / Рынок Ценных бумаг России Субъекты Формы Механизм деятельностиDmitry Mikhaylov
 
International currency market Мировой валютный рынок, СВОПы, МВС.
International currency market   Мировой валютный рынок, СВОПы, МВС.International currency market   Мировой валютный рынок, СВОПы, МВС.
International currency market Мировой валютный рынок, СВОПы, МВС.Dmitry Mikhaylov
 
4. ข้อสอบ o net - สุขศึกษาฯ
4. ข้อสอบ o net - สุขศึกษาฯ4. ข้อสอบ o net - สุขศึกษาฯ
4. ข้อสอบ o net - สุขศึกษาฯSiwadolChaimano
 

Viewers also liked (18)

Botor project_research_2016
Botor project_research_2016Botor project_research_2016
Botor project_research_2016
 
ใบงานสำรวจตนเอง1 m6
ใบงานสำรวจตนเอง1 m6ใบงานสำรวจตนเอง1 m6
ใบงานสำรวจตนเอง1 m6
 
mean
meanmean
mean
 
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
 
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
5. ข้อสอบ o net - ศิลปะ
 
ข้อสอบ O net - การงานอาชีพ
ข้อสอบ O net - การงานอาชีพข้อสอบ O net - การงานอาชีพ
ข้อสอบ O net - การงานอาชีพ
 
7. ข้อสอบ o net - ภาษาอังกฤษ
7. ข้อสอบ o net - ภาษาอังกฤษ7. ข้อสอบ o net - ภาษาอังกฤษ
7. ข้อสอบ o net - ภาษาอังกฤษ
 
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา
 
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
 
ความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlogความรู้เรื่องBlog
ความรู้เรื่องBlog
 
meaning
meaningmeaning
meaning
 
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
ความหมายและความสำค ญของโครงงานคอมพ วเตอร_
 
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
1. ข้อสอบ o net - ภาษาไทย
 
One tmath
One tmathOne tmath
One tmath
 
RZB Russia / Рынок Ценных бумаг России Субъекты Формы Механизм деятельности
RZB Russia / Рынок Ценных бумаг России Субъекты Формы  Механизм деятельностиRZB Russia / Рынок Ценных бумаг России Субъекты Формы  Механизм деятельности
RZB Russia / Рынок Ценных бумаг России Субъекты Формы Механизм деятельности
 
International currency market Мировой валютный рынок, СВОПы, МВС.
International currency market   Мировой валютный рынок, СВОПы, МВС.International currency market   Мировой валютный рынок, СВОПы, МВС.
International currency market Мировой валютный рынок, СВОПы, МВС.
 
4. ข้อสอบ o net - สุขศึกษาฯ
4. ข้อสอบ o net - สุขศึกษาฯ4. ข้อสอบ o net - สุขศึกษาฯ
4. ข้อสอบ o net - สุขศึกษาฯ
 
Portfolio
PortfolioPortfolio
Portfolio
 

Similar to 3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา

แนวข้อสอบ
แนวข้อสอบแนวข้อสอบ
แนวข้อสอบnookkiss123
 
M3social+science2553
M3social+science2553M3social+science2553
M3social+science2553Nanapawan Jan
 
ข้อสอบ 2553
ข้อสอบ 2553ข้อสอบ 2553
ข้อสอบ 2553KNuengnit Swn
 
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครูPat5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครูTheyok Tanya
 
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครูPat5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครูSuwaraporn Chaiyajina
 
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครูPat5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครูJutarat Piamrod
 
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครูPat5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครูshalala2
 
โควตา มช สังคมศึกษา
โควตา มช  สังคมศึกษาโควตา มช  สังคมศึกษา
โควตา มช สังคมศึกษาChalinee Tonsing
 
แบบทดสอบภาษาไทย ชุดที่ 1
แบบทดสอบภาษาไทย ชุดที่ 1แบบทดสอบภาษาไทย ชุดที่ 1
แบบทดสอบภาษาไทย ชุดที่ 1vanichar
 
ข้อสอบ O-net 49 วิชา สังคมศึกษา
ข้อสอบ O-net 49 วิชา สังคมศึกษาข้อสอบ O-net 49 วิชา สังคมศึกษา
ข้อสอบ O-net 49 วิชา สังคมศึกษาSuwicha Tapiaseub
 

Similar to 3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา (20)

แนวข้อสอบ
แนวข้อสอบแนวข้อสอบ
แนวข้อสอบ
 
M3social+science2553
M3social+science2553M3social+science2553
M3social+science2553
 
ข้อสอบ 2553
ข้อสอบ 2553ข้อสอบ 2553
ข้อสอบ 2553
 
Pat5
Pat5Pat5
Pat5
 
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครูPat5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
 
Pat5
Pat5Pat5
Pat5
 
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครูPat5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
 
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครูPat5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
 
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครูPat5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
Pat5 ความถนัดทางวิชาชีพครู
 
Pat5 53
Pat5 53Pat5 53
Pat5 53
 
Pat5
Pat5Pat5
Pat5
 
มนุษย์ สังคม วัฒนธรรม
มนุษย์ สังคม วัฒนธรรมมนุษย์ สังคม วัฒนธรรม
มนุษย์ สังคม วัฒนธรรม
 
โควตา มช สังคมศึกษา
โควตา มช  สังคมศึกษาโควตา มช  สังคมศึกษา
โควตา มช สังคมศึกษา
 
แบบทดสอบภาษาไทย ชุดที่ 1
แบบทดสอบภาษาไทย ชุดที่ 1แบบทดสอบภาษาไทย ชุดที่ 1
แบบทดสอบภาษาไทย ชุดที่ 1
 
Social
SocialSocial
Social
 
Social o net
Social o netSocial o net
Social o net
 
Social o net
Social o netSocial o net
Social o net
 
4.social o-net-m6-49
4.social o-net-m6-494.social o-net-m6-49
4.social o-net-m6-49
 
4.social o-net-m6-49
4.social o-net-m6-494.social o-net-m6-49
4.social o-net-m6-49
 
ข้อสอบ O-net 49 วิชา สังคมศึกษา
ข้อสอบ O-net 49 วิชา สังคมศึกษาข้อสอบ O-net 49 วิชา สังคมศึกษา
ข้อสอบ O-net 49 วิชา สังคมศึกษา
 

3. ข้อสอบ o net - สังคมศึกษา

  • 1. 1 ชุดที่ 1 แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ทรรศนะเกี่ยวกับควำมสุขและทุกข์ของชีวิตในชมพูทวีปมีลักษณะอย่ำงไร 1. กลุ่มต่ำงๆ เชื่อว่ำไม่มีควำมสุขควำมทุกข์ มนุษย์ล้วนคิดไปเอง 2. กลุ่มต่ำงๆ เชื่อว่ำควำมสุขทำงกำยเป็นเป้ ำหมำยสูงสุดของชีวิต 3. กลุ่มหนึ่งเชื่อว่ำเกิดขึ้นเอง อีกกลุ่มหนึ่งเชื่อว่ำเกิดขึ้นด้วยเหตุปัจจัย 4. กลุ่มหนึ่งเชื่อว่ำพระเจ้ำบันดำลสุข อีกกลุ่มหนึ่งเชื่อว่ำภูตผีสร้ำงทุกข์เข็ญ 2. กำรปฏิบัติตนของหมอชีวกโกมำรภัจจ์สอดคล้องกับคำสอนในข้อใด 1. เอำชนะคนพำลด้วยควำมเพียร 2. ใฝ่เรียนรู้ศิลปวิทยำอยู่ตลอดเวลำ 3. คบบัณฑิต บัณฑิตพำไปหำผล 4. รู้เขำรู้เรำรบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง 3. บุคคลในข้อใดกล่ำวได้ว่ำเป็นผู้ปฏิบัติตนตำมกุศลวิตก 1. วิภำวำงเฉยเมื่อเพื่อนถูกดำเนินคดีในควำมผิดที่เขำก่อขึ้น 2. วินัยช่วยเหลือเพื่อนที่ถูกดำเนินคดีในควำมผิดที่เพื่อนเขำก่อขึ้น 3. วิไลชี้แนะให้เพื่อนเข้ำใจควำมผิดที่ก่อขึ้นอันเป็นเหตุให้ถูกดำเนินคดี 4. วิชัยขอควำมช่วยเหลือจำกผู้มีอำนำจให้เพื่อนเขำพ้นจำกคดีที่เพื่อนเขำก่อขึ้น 4. บุคคลใดปฏิบัติตนต่อพระสงฆ์ได้ถูกต้องเหมำะสมตำมหลักกำรปฏิสันถำรต่อพระสงฆ์ 1. เปิ้ลจัดรถไปรับและส่งท่ำนตำมเวลำที่นิมนต์ 2. ปัทนั่งสนทนำตรงหน้ำพระสงฆ์เมื่อท่ำนมำถึงบ้ำน 3. ปุ๋ มให้พระสงฆ์นั่งอยู่รูปเดียวเพื่อควำมสงบทำงจิตใจ 4. ปอวำงเก้ำอี้สำหรับพระสงฆ์ไว้ด้ำนหลังเพื่อควำมสะดวกในกำรประกอบพิธีกรรม 5. ข้อใดแสดงควำมสัมพันธ์ของวันสำคัญทำงพระพุทธศำสนำกับหลักธรรมได้อย่ำงถูกต้อง 1. วันมำฆบูชำ-อริยสัจ 4 2. วันอัฏฐมีบูชำ-ไตรลักษณ์ 3. วันวิสำขบูชำ-พรหมวิหำร 4 4. วันอำสำฬหบูชำ-อริยมรรคมีองค์แปด
  • 2. 2 6. กำรปฏิบัติตนเพื่อธำรงไว้ซึ่งพุทธวัฒนธรรมในข้อใดเหมำะสมกับสถำนภำพของนักเรียนมำกที่สุด 1. กำรจัดพิธีขึ้นบ้ำนใหม่และตั้งศำลพระภูมิ 2. กำรเข้ำร่วมพิธีกรรมในวันสำคัญทำงพระพุทธศำสนำ 3. กำรเสนอพุทธศำสนสถำนในท้องถิ่นเป็นโบรำณสถำนและมรดกโลก 4. กำรรวมกลุ่มเพื่อนเพื่อช่วยกันทำนุบำรุงพุทธศำสนสถำนที่เก่ำแก่ทรุดโทรม 7. หลักคำสอนเรื่องตรีเอกำนุภำพของคริสต์ศำสนำ หมำยควำมว่ำอย่ำงไร 1. พระเป็นเจ้ำทรงมี 3 องค์ ได้แก่ พระบิดำ พระบุตร และพระจิต 2. พระเป็นเจ้ำทรงทำ 3 หน้ำที่ ได้แก่ ผู้สร้ำง ผู้รักษำ และผู้ทำลำย 3. พระเป็นเจ้ำทรงมี 3 องค์ ได้แก่ พระยะโฮวำห์ พระเยซูคริสต์ และพระแม่มำรี 4. พระเป็นเจ้ำทรงมีองค์เดียว แต่มี 3 พระบุคคล ได้แก่ พระบิดำ พระบุตร และพระจิต 8. ข้อใดต่อไปนี้กล่ำว ไม่ ถูกต้อง 1. ชำวมุสลิมทุกคนต้องทำละหมำดวันละ 5 ครั้ง 2. ชำวมุสลิมจะต้องบริจำคซะกำตในอัตรำร้อยละ 2.5 3. ชำวมุสลิมจะต้องศรัทธำต่ออัลลอฮ์องค์เดียวเท่ำนั้น 4. ชำวมุสสิลมทุกคนต้องไปประกอบพิธีฮัจญ์ปีละ 1 ครั้ง 9. บุคคลใดต่อไปนี้มี “อิสรภำพ” ตำมหลักของพระพุทธศำสนำ 1. แพรเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือบ่อยครั้ง เพื่อให้ทันสมัย 2. ป่ำนเก็บเงินซื้อบ้ำนหลังใหญ่ เพื่อให้ทัดเทียมกับเพื่อนๆ 3. ปอใฝ่ฝันอยำกเป็นแพทย์เพื่อช่วยชีวิตคน จึงตั้งใจเรียนหนังสืออย่ำงมำก 4. ฝ้ำยเดินทำงไปท่องเที่ยวต่ำงประเทศบ่อยครั้ง เพื่อต้องกำรให้ผู้อื่นรู้ว่ำตนเองร่ำรวย 10. ข้อใดเป็นพุทธจริยำของพระบรมศำสดำด้ำนญำตัตถจริยำ 1. ทรงอนุญำตให้พระเทวทัตบวชได้ 2. เสด็จไปยับยั้งมิให้องคุลิมำรกระทำมำตุฆำต 3. ทรงแสดงธรรมโปรดพระสุภัททะก่อนเสด็จดับขันธ์ปรินิพพำน 4. ทรงระงับสงครำมแย่งน้ำในแม่น้ำโรหิณีระหว่ำงพระญำติทั้งสองฝ่ำย 11. ข้อใดเป็นสิ่งที่ฆรำวำสพึงกระทำต่อพระภิกษุสงฆ์ 1. ชวนพระภิกษุสงฆ์พูดคุยข่ำวในวงกำรบันเทิง 2. ซักถำมหลักธรรมที่มีควำมสงสัยให้เข้ำใจแจ้งชัด 3. ชักชวนให้พระสงฆ์ไปประท้วงขับไล่นักกำรเมือง 4. ขอให้พระภิกษุสงฆ์ตรวจดูว่ำชำติที่แล้วเกิดเป็นอะไร
  • 3. 3 12. กำรสวดมนต์ไหว้พระอย่ำงสม่ำเสมอ มีคุณค่ำและประโยชน์อย่ำงไร 1. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยช่วยเหลือยำมลำบำก 2. จิตใจมีควำมสงบ เยือกเย็น เป็นสมำธิ 3. มีอิทธิฤทธิ์บำงประกำรเกิดขึ้นกับผู้สวด 4. พระพุทธรูปที่บูชำมีควำมศักดิ์สิทธิ์มำกขึ้น 13. บุคคลใดต่อไปนี้ปฏิบัติตำมหลักธรรมพรหมวิหำร 4 1. ผกำมำศอดทนไม่โต้ตอบเพื่อนที่ชอบกลั่นแกล้งตน 2. บุปผำเห็นสุนัขจรจัดถูกรถเฉี่ยวบำดเจ็บ จึงอุ้มไปหำสัตวแพทย์ 3. บุษบำขยันหมั่นเพียรในกำรเรียน เพื่อให้สอบเข้ำมหำวิทยำลัยได้ 4. บุษบงเห็นกระเป๋ ำสตำงค์ตกอยู่ แม้จะไม่มีใครอยู่แถวนั้น แต่ก็นำไปส่งตำรวจ 14. ข้อใดกล่ำวถูกต้องเกี่ยวกับศำสนำสิข 1. ศูนย์กลำงของศำสนำอยู่ที่นครมักกะฮ์ ประเทศซำอุดีอำระเบีย 2. ชำวสิขที่ทำพิธีล้ำงบำปแล้ว จะรับเอำ ก ทั้ง 5 ประกำร ไว้กับตน 3. ศำสดำองค์แรก คือ คุรุโควินทสิงห์ ศำสดำองค์สุดท้ำย คือ คุรุนำนัก 4. เป็นศำสนำที่เกิดขึ้นเพื่อประนีประนอมระหว่ำงคริสต์ศำสนำและศำสนำอิสลำม 15. ไอยเรศมีอำยุล่วงเข้ำสู่วัยชรำ มีควำมปรำรถนำจะบรรลุโมกษะ จึงสละกำรครองเรือน แล้วออกบวช ถือเพศพรหมจรรย์ตลอดชีวิต ไอยเรศกำลังปฏิบัติตำมขั้นตอนใดของหลักธรรมอำศรม 4 ในศำสนำ พรำหมณ์-ฮินดู 1. พรหมจำรี 2. คฤหัสถ์ 3. วำนปรัสถ์ 4. สันยำสี 16. เพรำะเหตุใดจึงกล่ำวว่ำพระพุทธศำสนำเป็นศำสนำแห่งเหตุผล 1. ถือว่ำทุกสิ่งมีเหตุและผลอยู่ในตนเอง 2. เน้นว่ำทุกสิ่งเกิดและดับตำมเหตุปัจจัย 3. ให้ควำมสำคัญกับกำรถกเถียงหำเหตุผล 4. เน้นว่ำทุกสิ่งดำเนินไปตำมเหตุปัจจัยแห่งกรรมเก่ำ 17. เพรำะเหตุใดแม้ว่ำพระอำนนท์จะออกบวชมำนำนแล้ว แต่ก็ยังไม่บรรลุเป็นพระอรหันต์ 1. ต้องโต้วำทะกับพวกเดียรถีย์บ่อยครั้ง 2. พระภิกษุรูปอื่นขัดขวำงกำรบำเพ็ญเพียร 3. ต้องเดินทำงไปประกำศพระศำสนำหลำยที่ 4. ต้องปรนนิบัติรับใช้พระพุทธเจ้ำอย่ำงใกล้ชิด
  • 4. 4 18. ขณะที่นักเรียนอ่ำนหนังสือเตรียมสอบเข้ำมหำวิทยำลัย แล้วเกิดอำกำรหดหู่ ง่วงนอน แสดงว่ำนักเรียนมี สิ่งใดขัดขวำงจิตมิให้บรรลุควำมก้ำวหน้ำ 1. วิจิกิจฉำ 2. พยำบำท 3. ถีนมิทธะ 4. อุทธัจจกุกกุจจะ 19. ข้อห้ำมมิให้พระสงฆ์ฉันอำหำรหลังเที่ยงวันไปแล้วจะปรำกฏอยู่ในคัมภีร์ใด 1. อรรถกถำ 2. พระวินัยปิฎก 3. พระสุตตันตปิฎก 4. พระอภิธรรมปิฎก 20. พิธีศีลศักดิ์สิทธิ์ข้อใดของคริสต์ศำสนำที่กระทำเพื่อระลึกถึงชีวิตและคำสอนของพระเยซูคริสต์ 1. พิธีศีลกำลัง 2. พิธีศีลแก้บำป 3. พิธีศีลอนุกรม 4. พิธีศีลมหำสนิท 21. ปัจจัยในข้อใดที่เป็นผลทำให้มนุษย์เป็นสัตว์สังคม 1. เป็นสัตว์เลือดอุ่น 2. มีสันชำติญำณตำมธรรมชำติที่ดี 3. มีควำมสำมำรถทำงสมองที่เป็นเลิศ 4. มีทักษะกำรต่อสู้เหนือกว่ำสัตว์ประเภทอื่น 22. ข้อใดเป็นสถำบันทำงสังคมซึ่งเป็นพื้นฐำนแรกสุดของมนุษย์ 1. สถำบันศำสนำ 2. สถำบันเศรษฐกิจ 3. กำรสถำบันครอบครัว 4. สถำบันกำรเมืองกำรปกครอง 23. ข้อใดเกี่ยวข้องกับสถำบันกำรเมืองกำรปกครองโดยตรง 1. ผลิตสินค้ำบริโภค 2. ขัดเกลำสมำชิกของสังคม 3. เผยแพร่ข่ำวสำรสู่สำธำรณะ 4. บริหำรประเทศตำมนโยบำย 24. ข้อใดเป็นลักษณะของสถำนภำพสัมฤทธิ์ 1. แก้วได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดกำรแผนก 2. นิดเป็นลูกของนักธุรกิจชื่อดังในประเทศไทย 3. เตยมีผิวขำว ผมเหยียดตรงสีดำ และมีปำนที่แขนข้ำงซ้ำย 4. จอมเกิดวันที่ 10 มกรำคม พ.ศ. 2525 ที่โรงพยำบำลศิริรำช 25. วัฒนธรรมไทยในข้อใดเป็นของภำคใต้ 1. งำนบุญบั้งไฟ 2. ประเพณีผีตำโขน 3. ประเพณีกำรรำโนรำ 4. กำรแสดงหมอลำซิ่ง
  • 5. 5 26. กำรรับวัฒนธรรมต่ำงชำติมำใช้ควรคำนึงถึงสิ่งใดเป็นสำคัญ 1. เลือกวัฒนธรรมที่ตนเองชอบ 2. เลือกวัฒนธรรมที่คนทั่วไปนิยม 3. รับวัฒนธรรมต่ำงชำติมำทั้งหมด 4. เลือกวัฒนธรรมที่มีประโยชน์นำมำปรับใช้ 27. วัฒนธรรมสำกลในข้อใดที่มีควำมสำคัญต่อกำรดำเนินชีวิตของเรำมำกที่สุด 1. แฟชั่น 2. อินเทอร์เน็ต 3. กำรใช้ของรำคำแพง 4. กำรรับประทำนอำหำรตะวันตก 28. กำรปฏิบัติในข้อใดคือบทบำทสำคัญของนักเรียนในกำรเป็นสมำชิกที่ดีของครอบครัว 1. เชื่อฟังพ่อแม่ ตั้งใจเรียน 2. สืบสำนประเพณีและวัฒนธรรมไทย 3. ไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งทุกครั้ง 4. ติดตำมข่ำวสำรและเข้ำร่วมกิจกรรมทำงกำรเมือง 29. สภำพของชุมชนใดที่แสดงให้เห็นว่ำมีสมำชิกของชุมชนที่ดี 1. สมำชิกชุมชนรักสันโดษ 2. สมำชิกชุมชนมีฐำนะร่ำรวย 3. สมำชิกชุมชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมชุมชน 4. สมำชิกชุมชนต่ำงคนต่ำงอยู่ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน 30. ผู้ใดถือได้ว่ำปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีของประเทศชำติและสังคมโลก 1. ตุ๊กชอบลอกข้อสอบในห้องเรียน 2. นิดรับฟังควำมคิดเห็นที่แตกต่ำงของเพื่อน 3. แอ๊ดนิยมใช้ควำมรุนแรงในกำรแก้ไขปัญหำ 4. ทรำยให้กำรยอมรับนับถือคนที่มีฐำนะร่ำรวย 31. สุเมทเสียภำษีเงินได้บุคคลธรรมดำตำมจำนวนทุกปี กำรกระทำของสุเมท เป็นบทบำทหน้ำที่ของ พลเมืองดีในด้ำนใด 1. ด้ำนกำรกุศล 2. ด้ำนกำรเมือง 3. ด้ำนเศรษฐกิจ 4. ด้ำนสังคมและวัฒนธรรม 32. แนวควำมคิดเกี่ยวกับปฏิญญำสำกลว่ำด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชำชำติเกิดขึ้นหลังจำกเหตุกำรณ์ใด สิ้นสุดลง 1. สงครำมเวียดนำม 2. สงครำมโลกครั้งที่ 1 3. สงครำมโลกครั้งที่ 2 4. สงครำมอ่ำวเปอร์เซีย
  • 6. 6 33. ในปัจจุบัน ประเทศไทยเข้ำร่วมเป็นภำคีพันธกรณีกับปฏิญญำสำกลว่ำด้วยสิทธิมนุษยชนทั้งหมด กี่ฉบับ 1. 3 ฉบับ 2. 4 ฉบับ 3. 5 ฉบับ 4. 6 ฉบับ 34. แนวคิดใดขัดแย้งกับหลักสิทธิมนุษยชน 1. ผู้ชำยย่อมเก่งกว่ำผู้หญิง 2. เด็กจำเป็นต้องได้รับกำรศึกษำเหมำะสมตำมวัย 3. คนจนมีสิทธิเข้ำถึงบริกำรสำธำรณสุขที่มีมำตรฐำน 4. ผู้พิกำรต้องได้รับคุณภำพชีวิตที่ดีเท่ำเทียมคนทั่วไป 35. อำนำจใดคืออำนำจสูงสุดในกำรปกครองระบอบประชำธิปไตย 1. อำนำจทหำร 2. อำนำจอธิปไตย 3. อำนำจเผด็จกำร 4. อำนำจทำงกำรเงิน 36. ข้อใดคือหลักกำรของระบอบเผด็จกำร 1. ผู้นำมำจำกกำรเลือกตั้ง 2. สื่อมวลชนไม่ถูกแทรกแซง 3. ประชำชนมีอิสระทำงกำรเมือง 4. อำนำจเด็ดขำดอยู่ที่ผู้นำเท่ำนั้น 37. ข้อใดคือองค์กรอิสระ ตำมรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พ.ศ. 2550 1. กรมกำรค้ำภำยใน 2. ผู้ตรวจกำรแผ่นดิน 3. สำนักนำยกรัฐมนตรี 4. สำนักงำนประกันสังคม 38. ข้อใดเป็นบทบำทหน้ำที่ของพรรคกำรเมือง 1. ควบคุมกำรจัดกำรเลือกตั้ง 2. ตัดสินคดีควำมขัดแย้งภำยในรัฐบำล 3. อนุมัติงบประมำณประจำปีแก่กระทรวง 4. วำงนโยบำยเพื่อแก้ไขปัญหำของประเทศ 39. รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พ.ศ. 2550 เป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่เท่ำใดของประเทศไทย 1. ฉบับที่ 16 2. ฉบับที่ 17 3. ฉบับที่ 18 4. ฉบับที่ 19 40. ข้อใดคือควำมสำคัญของรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย 1. มีบทบัญญัติหลำยมำตรำ 2. คุ้มครองสิทธิและเสรีภำพของชนชำวไทย 3. เป็นหลักประกันควำมมั่งคั่งของประเทศ 4. ช่วยให้ประชำชนภำยในประเทศเป็นพลเมืองดี
  • 7. 7 41. สภำผู้แทนรำษฎรประกอบด้วยสมำชิกจำนวนกี่คน 1. 200 คน 2. 300 คน 3. 400 คน 4. 500 คน 42. หน่วยงำนใด มีบทบำทหน้ำที่โดยตรงเกี่ยวกับกำรจัดกำรเลือกตั้ง 1. กกต. 2. คตง. 3. ปปส. 4. คตส. 43. กำรทำบัตรประชำชนเป็นกฎหมำยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องใด 1. กฎหมำยทรัพย์สิน 2. กฎหมำยเรื่องบุคคล 3. กฎหมำยเรื่องครอบครัว 4. กฎหมำยเรื่องกำรละเมิด 44. ข้อใดถือเป็นอสังหำริมทรัพย์ 1. เรือ 2. รถยนต์ 3. บ้ำนพร้อมที่ดิน 4. เครื่องปรับอำกำศ 45. ข้อใดเป็นกำรลงโทษทำงอำญำในระดับเบำที่สุด 1. ปรับ 2. จำคุก 3. กักขัง 4. ริบทรัพย์สิน 46. ข้อใดเป็นปัญหำพื้นฐำนทำงเศรษฐกิจของทุกประเทศ 1. คุณภำพของผลผลิต กำรกระจำยสินค้ำและบริกำร ต้นทุนกำรผลิต 2. กำรเลือกผลิตสินค้ำและบริกำร ต้นทุนกำรผลิต กำรขำดแคลนเงินทุน 3. กำรขำดแคลนทรัพยำกรธรรมชำติ กำรขำดแคลนเงินทุน กำรเลือกวิธีกำรผลิต 4. กำรเลือกผลิตสินค้ำและบริกำร กำรเลือกวิธีกำรผลิต กำรกระจำยสินค้ำและบริกำร 47. “สามารถแก้ไขความไม่ยุติธรรมในสังคมได้มาก และลดช่องว่างทางเศรษฐกิจระหว่างประชาชนใน ชาติ” เป็นข้อดีของระบบเศรษฐกิจในข้อใด 1. ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม 2. ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม 3. ระบบเศรษฐกิจแบบผสม 4. เศรษฐกิจพอเพียง 48. “เกษตรกรมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินทากิน มีอิสระในการกาหนดราคาผลผลิตทางการเกษตรของตนเอง แต่ เมื่อราคาผลผลิตตกต่า เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน ภาครัฐต้องเข้าไปแทรกแซง โดยการประกันราคา พืชผล” เหตุกำรณ์ดังกล่ำวจะเกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจแบบใด 1. ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม 2. ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม 3. ระบบเศรษฐกิจแบบผสม 4. เศรษฐกิจพอเพียง
  • 8. 8 49. ข้อใดเป็นควำมได้เปรียบของระบบเศรษฐกิจแบบผสมที่มีเหนือระบบเศรษฐกิจแบบอื่น 1. บทบำทของรัฐบำลและเอกชนในกำรประกอบกิจกรรมทำงเศรษฐกิจปรับเปลี่ยนได้ตำมควำม เหมำะสม 2. รัฐบำลและเอกชนต่ำงมีบทบำทในทำงกำรค้ำและกำรลงทุนได้ทัดเทียมกัน 3. รัฐบำลและเอกชนต่ำงร่วมกันจัดสวัสดิกำรตำมควำมต้องกำรของประชำชนได้มำกขึ้น 4. รัฐบำลและเอกชนสำมำรถใช้กลไกรำคำเป็นเครื่องมือสำคัญในกำรตัดสินใจประกอบธุรกิจ 50. กำรรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงำนที่ให้บริกำรด้ำนกำรขนส่ง จัดอยู่ในระบบตลำดแบบใด 1. ตลำดผูกขำด 2. ตลำดกึ่งผูกขำด 3. ตลำดผู้ขำยน้อยรำย 4. ตลำดแข่งขันสมบูรณ์ 51. หำกร้ำนจัดดอกไม้รับพนักงำนที่จบสำขำคหกรรมในระดับปริญญำตรีเข้ำทำงำนและต้องจ้ำงในอัตรำ เงินเดือน เดือนละ 15,000 บำท ส่งผลให้เกิดปรำกฏกำรณ์ตำมข้อใด 1. อุปสงค์เพิ่ม 2. อุปสงค์ลด 3. อุปทำนเพิ่ม 4. อุปทำนลด 52. ปัจจัยในข้อใดส่งผลให้ผู้ผลิตตัดสินใจเพิ่มปริมำณกำรผลิต 1. ธนำคำรปรับเพิ่มดอกเบี้ยเงินกู้ 2. ปรับอัตรำค่ำจ้ำงแรงงำนขั้นต่ำเพิ่มขึ้น 3. รำคำของวัตถุดิบที่ใช้ในกำรผลิตลดต่ำลง 4. รำคำของสินค้ำที่ทดแทนกันได้ลดต่ำลง 53. ณ ระดับรำคำดุลยภำพ ปรำกฏว่ำชำวไร่อ้อยเดือดร้อน จึงทำให้รัฐบำลจำเป็นต้องเข้ำช่วยหลือโดย กำหนดรำคำประกัน ข้อใดกล่ำวได้ถูกต้อง 1. รัฐบำลจะต้องรับซื้ออ้อยส่วนเกินจำกชำวไร่อ้อย 2. ชำวไร่อ้อยจะต้องจัดสรรโควตำขำยให้โรงงำนน้ำตำล 3. โรงงำนน้ำตำลจะซื้ออ้อยได้ในรำคำต่ำกว่ำรำคำดุลยภำพ 4. โรงงำนน้ำตำลจะรวมตัวกันต่อรองรำคำรับซื้ออ้อยในรำคำตลำด 54. กำรนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มำใช้ในภำคอุตสำหกรรม ทำให้ประเทศไทยต้องประสบปัญหำใดในปัจจุบัน เพรำะเหตุใด 1. ดุลกำรชำระเงินขำดดุล เพรำะต้องใช้เงินตรำต่ำงประเทศมำกขึ้นในกำรนำเข้ำเทคโนโลยี 2. ผลผลิตสินค้ำอุตสำหกรรมมีรำคำสูงขึ้น เพรำะผู้ผลิตมีอำนำจผูกขำดในกำรกำหนดรำคำมำกขึ้น 3. มลพิษทำงอำกำศและทำงน้ำ เพรำะเกิดจำกกำรผลิตและกำรบริโภคสินค้ำอุตสำหกรรมมำกขึ้น 4. ขำดแคลนบุคลำกรทำงวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี เพรำะขำดงบประมำณในกำรพัฒนำกำรศึกษำ
  • 9. 9 55. เกษตรทฤษฎีใหม่ขั้นต้นมีจุดมุ่งหมำยสำคัญเพื่อแก้ไขปัญหำใดให้เกษตรกร 1. กำรสูญเสียที่ดินทำกิน 2. กำรหำช่องทำงขยำยตลำด 3. กำรขำดกำรรวมกลุ่มเพื่อผลิตสินค้ำ 4. กำรเพำะปลูกพืชเศรษฐกิจได้ผลผลิตน้อย 56. หลักกำรสหกรณ์กับปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียงมีควำมสอดคล้องกันในเรื่องใด 1. กำรยึดแนวทำงกำรพึ่งตนเอง 2. กำรร่วมมือร่วมใจกันในสังคมระดับท้องถิ่น 3. กำรบริหำรจัดกำรทรัพยำกรให้เกิดประโยชน์สูงสุด 4. กำรทำกิจกรรมเศรษฐกิจเฉพำะกับสมำชิกหรือคนในชุมชนเดียวกัน 57. กำรดำเนินงำนของสหกรณ์ข้อใดที่แสดงให้เห็นถึงกำรนำหลักประชำธิปไตยมำใช้ 1. ดำเนินงำนโดยอิสระ 2. จดทะเบียนนิติบุคคล 3. เปิดรับสมำชิกด้วยควำมสมัครใจ 4. ไม่ว่ำจะถือหุ้นกี่หุ้นก็ออกเสียงได้เพียง 1 เสียง 58. ข้อใดแสดงว่ำเงินทำหน้ำที่ในกำรวัดมูลค่ำ 1. ส้มมีเงินแค่ 20 บำท ซื้อข้ำวสำรได้ไม่ถึง 1 กิโลกรัม 2. อ้อยเขียนเช็คส่วนตัวซื้อนำฬิกำข้อมือ 1 เรือน รำคำเรือนละ 30,000 บำท 3. โอนำธนบัตรไทยชนิดรำคำ 100 บำท ไปแลกธนบัตรรำคำ 50 บำท ได้2 ใบ 4. น้อยซื้อโทรทัศน์ 1 เครื่อง โดยกำรผ่อนชำระ 6 งวด งวดละ 10,000 บำท 59. เมื่อเปรียบเทียบระหว่ำงธนบัตรใบละ 1,000 บำท กับสร้อยคอทองคำหนัก 1 บำท สินทรัพย์ใดมีสภำพ คล่องสูงกว่ำ เพรำะเหตุใด 1. ธนบัตร เพรำะเป็นสิ่งที่คนทั่วไปต้องกำร 2. ธนบัตร เพรำะนำไปแลกกับสิ่งอื่นๆ ได้ทันที 3. สร้อยคอทองทำ เพรำะสำมำรถนำไปขำยต่อได้รวดเร็ว 4. สร้อยคอทองคำ เพรำะมีมูลค่ำสูงกว่ำธนบัตร 1,000 บำท 60. ถ้ำปริมำณเงินหมุนเวียนในประเทศเพิ่มมำกขึ้น ทำให้เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจอย่ำงไร 1. กำรลงทุนลดลง 2. อัตรำดอกเบี้ยสูงขึ้น 3. มีกำรจ้ำงงำนเพิ่มมำกขึ้น 4. เอกชนสำมำรถลงทุนได้อย่ำงเสรี
  • 10. 10 61. สภำพกำรณ์ใดบ่งบอกว่ำเกิดภำวะเงินเฟ้ อขึ้นในระบบเศรษฐกิจ 1. ประชำชนมีรำยได้ที่แท้จริงเพิ่มขึ้น 2. สินค้ำและบริกำรต่ำงๆ มีรำคำสูงขึ้น 3. อำนำจซื้อของเงินที่มีอยู่ในมือของประชำชนลดลง 4. เงินจำนวนเท่ำเดิมไม่สำมำรถซื้อสินค้ำและบริกำรตำมที่ต้องกำรได้ 62. กำรดำเนินกำรในข้อใดช่วยแก้ไขปัญหำเงินเฟ้อได้ 1. ลดอัตรำเงินสดสำรองตำมกฎหมำย 2. ธนำคำรกลำงประกำศรับซื้อคืนพันธบัตร 3. เพิ่มอัตรำซื้อลดตั๋วเงินจำกธนำคำรพำณิชย์ 4. ผ่อนคลำยกำรกำกับแผนกำรปล่อยสินเชื่อของธนำคำรพำณิชย์ 63. ถ้ำคำดว่ำอัตรำเงินเฟ้อจะสูงขึ้นต่อไปอีก ธนำคำรกลำงจะต้องดำเนินมำตรกำรใดเพื่อชะลอเงินเฟ้อ 1. ลดอัตรำค่ำจ้ำง 2. ลดอัตรำดอกเบี้ยนโยบำย 3. ขึ้นอัตรำภำษีดอกเบี้ยเงินฝำกกับธนำคำรพำณิชย์ 4. ขึ้นอัตรำรับช่วงซื้อลดตั๋วสัญญำใช้เงินจำกธนำคำรพำณิชย์ 64. ถ้ำเกิดสภำวะเงินฝืดจะส่งผลต่อประชำชนอย่ำงไร 1. ประชำชนใช้จ่ำยเงินมำกขึ้น 2. ประชำชนเสียภำษีให้รัฐมำกขึ้น 3. ประชำชนมีอัตรำกำรว่ำงงำนสูง 4. ประชำชนมีเงินหมุนเวียนในมือสูง 65. ในภำวะที่เศรษฐกิจตกต่ำ รัฐบำลควรมีมำตรกำรทำงกำรคลังอย่ำงไร 1. เก็บภำษีเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มเงินคงคลัง 2. ใช้จ่ำยให้มำกขึ้น เพื่อกระตุ้นกำรผลิต 3. กู้ยืมน้อยลง เพื่อลดภำระงบประมำณ 4. ชะลอกำรปล่อยสินเชื่อ เพื่อลดหนี้ของประชำชน 66. ข้อใดแสดงว่ำประเทศมีควำมเจริญเติบโตทำงเศรษฐกิจ 1. สัดส่วนของคนยำกจนต่อประชำกรลดลง 2. รำยได้เฉลี่ยต่อหัวของประชำกรสูงขึ้น 3. ประชำกรมีสินค้ำที่ผลิตจำกเทคโนโลยีสมัยใหม่บริโภคมำกขึ้น 4. ประเทศประสบควำมสำเร็จในกำรแก้ปัญหำมลพิษและสิ่งแวดล้อม
  • 11. 11 67. ข้อใดถือว่ำเป็นมำตรกำรของนโยบำยกำรค้ำเสรี 1. เก็บภำษีขำเข้ำในอัตรำต่ำ 2. ให้เงินอุดหนุนผู้ผลิตในประเทศ 3. ไม่เก็บภำษีสินค้ำที่ส่งไปขำยประเทศยำกจน 4. ให้นำเข้ำสินค้ำจำกประเทศต่ำงๆ ได้ทุกชนิด 68. ถ้ำปัจจุบันประเทศไทยยังใช้ระบบศักรำชแบบรัตนโกสินทร์ศก (ร.ศ.) ปีพุทธศักรำช 2555 จะตรงกับ รัตนโกสินทร์ศกใด 1. ร.ศ. 224 2. ร.ศ. 225 3. ร.ศ. 227 4. ร.ศ. 231 69. หลักฐำนทำงประวัติศำสตร์ในข้อใดที่บ่งบอกพัฒนำกำรอำณำจักรโบรำณในดินแดนประเทศไทยก่อน สมัยสุโขทัย 1. ตำนำน 2. ศิลำจำรึก 3. พงศำวดำร 4. โบรำณสถำน 70. ข้อใดเป็นจุดเริ่มต้นยุคประวัติศำสตร์ 1. กำรรู้จักใช้ไฟ 2. รู้จักตั้งถิ่นฐำน 3. รู้จักกำรเพำะปลูก 4. รู้จักบันทึกข้อควำม 71. ผลกำรศึกษำทำงประวัติศำสตร์ในอดีตอำจเปลี่ยนแปลงไปได้จำกปัจจัยใด 1. กำรตั้งประเด็นคำถำมของผู้ศึกษำ และกำรค้นพบหลักฐำนใหม่ 2. กำรสังเครำะห์ผลกำรศึกษำเดิม และกำรนำเสนอผลกำรศึกษำในรูปแบบใหม่ 3. กำรบูรณะแหล่งข้อมูลทำงประวัติศำสตร์ และกำรตีควำมในมุมมองใหม่ของผู้ศึกษำ 4. กำรขึ้นทะเบียนโบรำณสถำนเป็นมรดกโลก และกำรศึกษำแนวทำงกำรท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ 72. พระรำชพงศำวดำรสมัยอยุธยำฉบับใดที่นักประวัติศำสตร์ยอมรับว่ำมีข้อมูลถูกต้องที่สุด 1. ฉบับบริติชมิวเซียม 2. ฉบับพันจันทนุมำศ (เจิม) 3. ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ 4. ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์ 73. กำรใช้หลักฐำนที่บันทึกโดยชำวต่ำงชำติในกำรศึกษำประวัติศำสตร์มีข้อจำกัดในเรื่องใด 1. กำรมีจุดมุ่งหมำยที่แตกต่ำงกันของชนชำติต่ำงๆ 2. ควำมรู้ควำมเข้ำใจลักษณะทำงสังคมของผู้บันทึก 3. กำรบันทึกในลักษณะตำนำนหรือนิทำนของชำติตะวันตก 4. ควำมคิดเห็นที่น่ำสนใจจำกผู้บันทึกที่มีภูมิหลังแตกต่ำงกัน 74. ข้อมูลใดเป็นพื้นฐำนสำคัญของแนวคิดถิ่นเดิมของชนชำติไทยอยู่ทำงตอนใต้ของจีน 1. ภำษำ 2. กำยวิภำค 3. กลุ่มเลือด 4. หลักฐำนจีน
  • 12. 12 75. แนวคิดที่ว่ำถิ่นเดิมของชนชำติไทยอยู่บริเวณหมู่เกำะแถบเส้นศูนย์สูตรของภูมิภำคขัดกับหลักกำรทำง มำนุษยวิทยำในข้อใด 1. กำรตั้งถิ่นฐำนและกำรอพยพ 2. กำรรวมกลุ่มและกำรแบ่งชนชั้น 3. ควำมเป็นมำทำงภำษำพูดและกำรประดิษฐ์ตัวอักษร 4. ควำมอุดมสมบูรณ์ของทรัพยำกรและกำรจัดกำรทรัพยำกร 76.ข้อใดกล่ำวได้ถูกต้องเกี่ยวกับกำรเปลี่ยนแปลงกำรปกครองพ.ศ.2475 1. กำรมีแนวคิดเรื่องสิทธิ เสรีภำพและควำมเสมอภำคของคณะรำษฎร 2. ควำมร่วมมือของรำษฎรส่วนใหญ่ทำให้ไม่เกิดเหตุกำรณ์รุนแรง 3. กำรเรียกร้องประชำธิปไตยและรัฐธรรมนูญของพลเมือง 4. ควำมพร้อมของประชำชนที่มีในกำรปกครองระบอบประชำธิปไตย 77. พระรำชนิพนธ์ เรื่อง ไตรภูมิพระร่วง ของพระมหำธรรมรำชำที่ 1 (ลิไทย) ได้รับอิทธิพลจำกแนวคิดใด เป็นหลัก 1. ศำสนำพรำหมณ์-ฮินดู 2. พระพุทธศำสนำลัทธิวัชรยำน 3. พระพุทธศำสนำลัทธิลังกำวงศ์ 4. พระพุทธศำสนำลัทธิสยำมวงศ์ 78. กฎหมำยตรำสำมดวงเกิดจำกกำรตรวจชำระและรวบรวมกฎหมำยขึ้นใหม่ในรัชกำลใด 1. สมเด็จพระบรมไตรโลกนำถ 2. สมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช 3. พระบำทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ำจุฬำโลก 4. พระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว 79. กำรเปลี่ยนแปลงกำรปกครองใน พ.ศ. 2475 ก่อให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงหลำยประกำร ยกเว้น ข้อใด 1. รูปแบบของรัฐ 2. ผู้บริหำรประเทศ 3. ระบอบกำรปกครอง 4. เจ้ำของอำนำจอธิปไตย 80. กิจกรรมในข้อใดเป็นกำรผสำนภูมิปัญญำไทยกับสถำนกำรณ์ปัจจุบัน 1. กำรประกวดนักออกแบบผ้ำไทยร่วมสมัย 2. กำรจัดนิทรรศกำรภูมิปัญญำด้ำนกำรดำรงชีวิตของท้องถิ่น 3. กำรส่งเสริมกำรใช้สมุนไพรในกำรป้ องกันและรักษำโรค 4. กำรศึกษำค้นคว้ำด้ำนนำฏศิลป์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์
  • 13. 13 81. ควำมนิยมงำนศิลปะปูนปั้นรูปพระนำรำยณ์ทรงครุฑประดับหน้ำบันโบสถ์วิหำรในสมัยอยุธยำสะท้อน คติควำมเชื่อในเรื่องใด 1. ควำมเชื่อเรื่องภพ-ภูมิต่ำงๆ 2. พระมหำกษัตริย์ทรงเป็นสมมติเทพ 3. ศำสนำพรำหมณ์-ฮินดู มีอิทธิพลเหนือพระพุทธศำสนำ 4. พระรำชอำนำจของพระมหำกษัตริย์เหนือเมืองประเทศรำชทั้งปวง 82. “...ถ้าเราขาดสุโขทัยอยุธยา และกรุงเทพฯ แล้วประเทศไทยก็คงไม่มีความหมาย...” พระรำชดำรัส ดังกล่ำวส่งเสริมแนวคิดในเรื่องใด 1. ควำมเป็นมำอันยำวนำนของประวัติศำสตร์ไทย 2. กำรมีจิตสำนึกรักชำติจำกกำรศึกษำประวัติศำสตร์ 3. ควำมสำคัญของประวัติศำสตร์และวัฒนธรรมกับควำมเป็นชำติ 4. กำรมีพัฒนำกำรอย่ำงต่อเนื่องของรัฐไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน 83. ศักรำชแบบใดที่นิยมใช้กันแพร่หลำยมำกที่สุด 1. จุลศักรำช 2. พุทธศักรำช 3. คริสต์ศักรำช 4. ฮิจเรำะห์ศักรำช 84. สมัยประวัติศำสตร์ของโลกตะวันตกเริ่มที่แหล่งอำรยธรรมใด 1. อำรยธรรมกรีก 2. อำรยธรรมโรมัน 3. อำรยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ 4. อำรยธรรมลุ่มแม่น้ำไทกริส-ยูเฟรทีส 85. เริ่มสมัยอำณำจักรอยุธยำ พ.ศ. 1893 ตรงกับกำรเกิดเหตุกำรณ์ใดในยุโรป 1. กำรสำรวจทำงทะเล 2. กำรฟื้นฟูศิลปวิทยำกำร 3. โคลัมบัสค้นพบทวีปอเมริกำ 4. กำรสิ้นสุดจักรวรรดิโรมันตะวันตก 86. ข้อใดคือประโยชน์ที่ได้จำกวิธีกำรทำงประวัติศำสตร์ 1. ได้องค์ควำมรู้ใหม่ที่น่ำเชื่อถือกว่ำเดิม 2. ได้องค์ควำมรู้ใหม่ที่โดดเด่นไม่เหมือนคนอื่น 3. ประเมินควำมรู้ควำมเข้ำใจของผู้ศึกษำประวัติศำสตร์ 4. ประเมินคุณค่ำของข้อมูลเดิมว่ำถูกต้องน่ำเชื่อถือหรือไม่ 87. เพรำะเหตุใดนักประวัติศำสตร์มักตีควำมข้อมูลจำกหลักฐำนชิ้นเดียวกันแตกต่ำงกัน 1. มีควำมเชื่อต่ำงกัน 2. มีควำมสนใจต่ำงกัน 3. มีจุดประสงค์ที่ต่ำงกัน 4. มีควำมรู้ควำมสำมำรถต่ำงกัน 88. ข้อจำกัดสำคัญในกำรศึกษำประวัติศำสตร์สำกลคืออะไร 1. มีหลักฐำนจำนวนมำก 2. หลักฐำนอยู่ที่ต่ำงประเทศ 3. ขำดเพื่อนร่วมศึกษำด้วยกัน 4. ศึกษำยำกเพรำะมีควำมรู้น้อย
  • 14. 14 89. เพรำะเหตุใดจึงถือว่ำประมวลกฎหมำยของพระเจ้ำฮัมมูรำบีเป็นมรดกทำงอำรยธรรมชิ้นสำคัญของโลก 1. เป็นประมวลกฎหมำยฉบับแรกของโลก 2. มีบทลงโทษที่รุนแรงซึ่งช่วยลดจำนวนผู้เป็นภัยต่อสังคม 3. เป็นเครื่องแสดงว่ำอำนำจรัฐเข้มแข็งพอที่จะบังคับพลเมืองได้แล้ว 4. เป็นแบบอย่ำงของควำมพยำยำมที่จะให้เกิดควำมยุติธรรมในกำรปกครอง 90. สำเหตุสำคัญที่ทำให้อำรยธรรมอียิปต์พัฒนำอย่ำงมีเอกภำพคือข้อใด 1. มีกำรนับถือเทพเจ้ำองค์เดียว 2. ยึดถืออำรยธรรมเดิมตำมบรรพบุรุษ 3. ไม่มีชนชำติอื่นมำปะปนในอำณำจักร 4. มีสภำพภูมิศำสตร์ที่ป้ องกันกำรรุกรำนจำกภำยนอก 91. สิ่งก่อสร้ำงของอำรยธรรมโรมันให้ควำมสำคัญต่อเรื่องใด 1. ควำมสวยงำม 2. ประโยชน์ใช้สอย 3. ควำมเชื่อทำงศำสนำ 4. ใช้วัสดุที่ประหยัดค่ำใช้จ่ำย 92. กำรปฏิวัติอุตสำหกรรมในเรื่องใดส่งผลให้เกิดโลกำภิวัตน์ในปัจจุบัน 1. กำรสื่อสำร 2. กำรผลิตสินค้ำ 3. กำรคมนำคม 4. กำรบริโภคสินค้ำ 93. แม้ว่ำควำมขัดแย้งจะก่อให้เกิดกำรสูญเสียมำกมำยแต่มีประโยชน์ในเรื่องใด 1. ช่วยลดประชำกรโลก 2. กระตุ้นให้เกิดกำรพัฒนำวิทยำกำร 3. ทำลำยอำรยธรรมเก่ำๆ ที่ล้ำสมัย 4. เศรษฐกิจเจริญเติบโตอย่ำงรวดเร็ว 94. เหตุกำรณ์ 11 กันยำยน เป็นตัวอย่ำงหนึ่งของกำรก่อกำรร้ำยที่มีจุดประสงค์ใด 1. เรียกค่ำคุ้มครองจำกสหรัฐอเมริกำ 2. ต่อต้ำนกำรใช้อำนำจของสหรัฐอเมริกำ 3. ต้องกำรทำสงครำมศำสนำกับสหรัฐอเมริกำ 4. ตอบโต้ที่สหรัฐอเมริกำปรำบปรำมกลุ่มก่อกำรร้ำย 95. ข้อใดคือปัญหำควำมร่วมมือในอำเซียน 1. แข่งขันกันพัฒนำ 2. นับถือศำสนำต่ำงกัน 3. เป็นศัตรูกันมำก่อน 4. มีระบอบกำรปกครองต่ำงกัน
  • 15. 15 96. ข้อใดคือวิธีแก้ไขปัญหำโลกร้อนที่มีประสิทธิภำพที่สุด 1. ร่วมกันปลูกต้นไม้สร้ำงควำมร่มรื่น 2. ใช้ทรัพยำกรต่ำงๆ อย่ำงประหยัดและคุ้มค่ำ 3. ติดตั้งกระจกเพื่อสะท้อนแสงอำทิตย์กลับไป 4. เปิดเครื่องทำควำมเย็นเพื่อคลำยควำมร้อนให้โลก 97. ข้อใด ไม่ใช่ แนวโน้มของสถำนกำรณ์สำคัญของโลกในคริสต์ศตวรรษที่ 21 1. เกิดภำวะขำดแคลนแรงงำน 2. กำรก่อกำรร้ำยจะมีมำกขึ้น 3. ค่ำครองชีพของมนุษย์จะสูงขึ้น 4. เกิดภัยธรรมชำติที่รุนแรงบ่อยครั้งขึ้น 98. ข้อใดคือกำรจำแนกประเภทของเครื่องมือทำงภูมิศำสตร์ตำมหน้ำที่กำรใช้งำนที่ถูกต้อง 1. รวบรวมข้อมูล ให้ข้อมูล 2. ให้ข้อมูล วิเครำะห์ข้อมูล 3. วิเครำะห์ข้อมูล สังเครำะห์ข้อมูล 4. สังเครำะห์ข้อมูล รวบรวมข้อมูล 99. บุคคลในข้อใดน่ำจะเป็นผู้ใช้แผนที่ได้อย่ำงชำนำญที่สุด 1. โป้งมีควำมรู้เรื่องแผนที่เป็นอย่ำงดี 2. กลำงรวบรวมแผนที่เฉพำะเรื่องไว้อย่ำงหลำกหลำย 3. นำงสอบได้คะแนนสูงสุดในเรื่องแผนที่และเครื่องมือทำงภูมิศำสตร์ 4. ก้อยใช้แผนที่ในกำรดำเนินชีวิตและกำรศึกษำข้อมูลต่ำงๆ เพื่อประโยชน์ในกำรเรียนรู้อยู่เสมอ 100. ปัจจัยสำคัญที่ทำให้นิยมใช้รูปถ่ำยทำงอำกำศแนวดิ่งมำจัดทำแผนที่คืออะไร 1. ควำมชัดเจน 2. ควำมสวยงำม 3. มำตรำส่วนคงที่ 4. สีและรูปร่ำงต่ำงๆ 101. กำรสำรวจข้อมูลของภูมิสำรสนเทศศำสตร์ชนิดใดแตกต่ำงจำกข้ออื่น 1. ภำพจำกดำวเทียม 2. กำรรับรู้จำกระยะไกล 3. ระบบสำรสนเทศภูมิศำสตร์ 4. ระบบกำหนดตำแหน่งบนพื้นโลก 102. ข้อใดกล่ำวได้ถูกต้องเกี่ยวกับองค์ประกอบของระบบสำรสนเทศภูมิศำสตร์ 1. ข้อมูลเป็นเชิงตัวเลขและกำรเปลี่ยนแปลงทำงสถิติ 2. วิเครำะห์ข้อมูลจำกฐำนข้อมูลเพียงชั้นเดียวหรือหลำยชั้น 3. บุคลำกรเป็นผู้วิเครำะห์ข้อมูลด้วยสำยตำและกำรคำนวณทำงสถิติ 4. ส่วนเครื่อง คือ เครื่องรับระบบกำหนดตำแหน่งบนพื้นโลกและภำพจำกดำวเทียม
  • 16. 16 103. ข้อมูลที่ใช้ในกำรพยำกรณ์อำกำศของพื้นที่หนึ่งๆ มำจำกหลักกำรทำงำนของดำวเทียมในข้อใด 1. ดำวเทียมคงที่ 2. ดำวเทียมพลังงำนธรรมชำติ 3. ดำวเทียมพลังงำนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำ 4. ดำวเทียมโคจรรอบโลกในแนวเหนือ-ใต้ 104. ระบบกำหนดตำแหน่งบนพื้นโลกเกิดจำกกิจกำรด้ำนใด 1. กำรทหำร 2. กำรสำรวจทิศทำง 3. กำรป้ องกันภัยพิบัติ 4. กำรช่วยเหลือผู้ประสบภัย 105. ระยะเวลำกลำงวันและกลำงคืนที่เท่ำกันของพื้นที่ในซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้จะเกิดขึ้นในวันใด 1. วันวสันตวิษุวัต วันศำรทวิษุวัต 2. วันศำรทวิษุวัต วันครีษมำยัน 3. วันเหมำยัน วันวสันตวิษุวัต 4. วันครีษมำยัน วันเหมำยัน 106. ถ้ำนักเรียนต้องกำรชมปรำกฏกำรณ์พระอำทิตย์เที่ยงคืนควรเดินทำงไปยังประเทศใด ณ ช่วงเดือนใด 1. ประเทศอำร์เจตินำ เดือนมิถุนำยน 2. ประเทศแคนำดำ เดือนมิถุนำยน 3. ประเทศชิลี เดือนกรกฎำคม 4. ประเทศจีน เดือนกรกฎำคม 107. กำรเกิดแผ่นดินไหวสอดคล้องกับบริเวณที่เป็นแนวรอยเลื่อนของแผ่นเปลือกโลกอย่ำงไร 1. จุดศูนย์กลำงมีแรงสั่นไหวมำก 2. กำรเคลื่อนตัวในรูปแบบต่ำงๆ 3. หินหนืดที่พุขึ้นกลำยเป็นเทือกเขำ 4. ควำมสั่นไหวก่อให้เกิดระลอกคลื่น 108. วัฏจักรทำงอุทกวิทยำเกิดขึ้นโดยมีปัจจัยใดเป็นสำคัญ 1. กำรกลั่น 2. ควำมชื้น 3. ควำมร้อน 4. กำรโน้มถ่วง 109. ข้อใดกล่ำวถึงแหล่งที่มำของกระแสน้ำอุ่นและกระแสน้ำเย็นที่ไหลเวียนในมหำสมุทรของโลกได้ ถูกต้อง 1. เขตศูนย์สูตร เขตขั้วโลก 2. เขตเทือกเขำ เขตศูนย์สูตร 3. เขตขั้วโลก เขตที่รำบลุ่มน้ำขนำดใหญ่ 4. เขตที่รำบลุ่มน้ำขนำดใหญ่ เขตเทือกเขำ
  • 17. 17 110. ลักษณะภูมิประเทศในข้อใดเหมำะสมต่อกำรเป็นเมืองท่ำขนส่งสินค้ำทำงทะเลมำกที่สุด 1. ดินดอนสำมเหลี่ยมปำกแม่น้ำ 2. ที่รำบรอบทะเลสำบรูปแอก 3. พื้นที่ชำยฝั่งที่คลื่นลมสงบ 4. ชำยฝั่งของฟีออร์ด 111. หำกนักเรียนต้องกำรศึกษำลักษณะทำงภูมิศำสตร์ที่เหมำะสมต่อกำรทำสวนผลไม้เมืองร้อน นักเรียน ควรไปยังภำคใด 1. ภำคเหนือ 2. ภำคกลำง 3. ภำคตะวันตก 4. ภำคตะวันออก 112. ข้อใดกล่ำวได้ถูกต้องเกี่ยวกับควำมสัมพันธ์ของลักษณะทำงภูมิศำสตร์กับลักษณะทำงเศรษฐกิจของ ภำคตะวันออกเฉียงเหนือ 1. มีควำมแห้งแล้ง ไม่สำมำรถปลูกไม้ผลได้ 2. มีอำกำศค่อนข้ำงเย็นทำงตอนเหนือ จึงมีกำรปลูกพืชเศรษฐกิจเมืองหนำว 3. ปริมำณน้ำฝนเฉลี่ยต่อปีค่อนข้ำงมำก แต่ดินส่วนใหญ่ไม่ค่อยอุ้มน้ำ กำรเพำะปลูกพืชจึงแตกต่ำงกัน ไปในแต่ละพื้นที่ 4. อิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ทำให้มีฝนตกชุกในช่วงปลำยปี สำมำรถเพำะปลูกพืชที่ต้องใช้ น้ำมำกได้ผลผลิตดี 113. กำรศึกษำเกี่ยวกับภูเขำไฟที่มีพลังในภูมิภำคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ควรดำเนินกำรในประเทศใดบ้ำง 1. อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ 2. กัมพูชำ อินโดนีเซีย 3. ฟิลิปปินส์ ไทย 4. ไทย กัมพูชำ 114. กำรปะทุระเบิดของภูเขำไฟก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศของอุทกภำคได้อย่ำงไร 1. เถ้ำถ่ำนที่ปกคลุมท้องฟ้ำทำให้แสงแดดและควำมร้อนไม่สำมำรถส่องลงมำถึงผิวน้ำได้ 2. หินหนืดที่ไหลลงสู่ทะเลส่งผลให้ลักษณะชำยฝั่งเกิดกำรเปลี่ยนแปลง 3. แรงสั่นสะเทือนทำให้เกิดคลื่นใหญ่ซึ่งมีผลต่อแนวปะกำรัง 4. แก๊สและควันที่พวยพุ่งจำกกำรปะทุระเบิดทำให้สัตว์น้ำสูญพันธุ์ 115. กำรป้ องกันและแก้ไขพื้นที่จำกอุทกภัยควรหลีกเลี่ยงกำรใช้วิธีกำรใด 1. กำรปลูกหญ้ำแฝกริมตลิ่งเพื่อป้ องกันกำรกัดเซำะของน้ำ 2. กำรกำหนดพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้เป็นแหล่งกักเก็บน้ำหรือแก้มลิง 3. กำรขุดลอกคูคลองทุกสำย เพื่อให้ระบำยน้ำได้อย่ำงเต็มประสิทธิภำพ 4. กำรช่วยกันสร้ำงพนังกั้นน้ำและติดตั้งเครื่องสูบน้ำออกจำกพื้นที่ของตน 116. สำเหตุสำคัญของกำรกัดเซำะชำยฝั่งในปัจจุบันคืออะไร 1. ภำวะโลกร้อน 2. ปรำกฏกำรณ์เรือนกระจก 3. กำรเกิดพำยุหมุนเขตร้อน 4. ปรำกฏกำรณ์อุณหภูมิผกผัน
  • 18. 18 117. เพรำะเหตุใดเมื่อพำยุสงบแล้วจึงควรรอเวลำอีกอย่ำงน้อย 3 ชั่วโมง ก่อนกำรเดินทำงหรือแก้ไขปัญหำที่ เกิดจำกพำยุ 1. มักมีลมแรงและฝนตกหนักอีกเมื่อศูนย์กลำงพำยุพัดผ่ำน 2. วำงแผนกำรเดินทำงเพื่อควำมปลอดภัยจำกซำกปรักหักพัง 3. ควำมพร้อมของหน่วยงำนที่เกี่ยวข้องกับกำรช่วยเหลือผู้ประสบภัย 4. ระดับน้ำลดลงและควำมเร็วลมคงที่สำมำรถเดินทำงได้อย่ำงปลอดภัย 118. เหตุกำรณ์ทำงประวัติศำสตร์ที่อำจกล่ำวได้ว่ำเป็นจุดเริ่มต้นของกำรเพิ่มขึ้นของแก๊สเรือนกระจกใน บรรยำกำศคืออะไร 1. กำรปฏิวัติกำรเกษตร 2. กำรปฏิวัติอุตสำหกรรม 3. กำรปฏิวัติวิทยำศำสตร์ 4. กำรปฏิวัติกำรเมืองกำรปกครอง 119. ข้อใดแสดงถึงภูมิปัญญำไทยในกำรใช้ประโยชน์ทรัพยำกรแร่และพลังงำน 1. กำรสร้ำงเขื่อนขนำดใหญ่เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้ำ 2. ควำมเชี่ยวชำญในกำรเจียระไนเพชรพลอยของช่ำงไทย 3. กำรทำเหมืองแร่ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่จำกชำติตะวันตก 4. ควำมสำคัญของพลังงำนจำกน้ำมันและแก๊สธรรมชำติต่อภำคเศรษฐกิจของไทย 120. กำรดำเนินงำนด้ำนสิ่งแวดล้อมขององค์กรเอกชนใดถูกต้องเหมำะสมที่สุด 1. กลุ่มรักษ์ไม้จัดตั้งกองกำลังติดอำวุธเฝ้ำระวังกำรบุกรุกพื้นที่ป่ำสงวน 2. สมำคมคนรักสัตว์ป่ำนำสัตว์ป่ำที่ใกล้จะสูญพันธุ์มำผสมพันธุ์ด้วยนวัตกรรมของตนเอง 3. องค์กรพิทักษ์ป่ำแห่งชำติต่อต้ำนกำรดำเนินงำนของหน่วยงำนภำครัฐด้ำนป่ำไม้และสัตว์ป่ำ 4. มูลนิธิสิ่งแวดล้อมของเรำรับบริจำคเงินและอุปกรณ์ต่ำงๆ เพื่อนำไปใช้ในกำรดำเนินงำนด้ำน สิ่งแวดล้อมอย่ำงมีประสิทธิภำพ
  • 19. 19 ชุดที่ 2 ข้อสอบ O- NET วิชา สังคมศึกษา 2552 ตอนที่ 1 สังคมศึกษำ : จำนวน 100 ข้อ (รวม 100 คะแนน) ส่วนที่ 1 : แบบระบำยตัวเลือก แต่ละข้อมีคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว จำนวน 50 ข้อ (ข้อ 1-50) : ข้อละ 1 คะแนน 1. พระพุทธศำสนำสอนหลักควำมจริงที่เป็นสำกลในเรื่องใด 1. ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน 2. กำรทำลำยชีวิตเป็นบำป 3. ทุกชีวิตต้องเผชิญปัญหำด้วยควำมไม่ประมำท 4. มนุษย์ใช้ปัญญำหำสำเหตุเพื่อแก้ปัญหำได้ 2. ข้อใด ไม่ใช่ ข้อห้ำมในศำสนำอิสลำม 1. ห้ำมฆ่ำตนเองและผู้อื่น 2. ห้ำมกำรคุมกำเนิดและทำแท้ง 3. ห้ำมกำรเสี่ยงโชคและกำรพนัน 4. ห้ำมกรำบบุคคลอื่นยกเว้นบิดำมำรดำ 3. จุดมุ่งหมำยสูงสุดในศำสนำคริสต์คือเรื่องใด 1. กำรล้ำงบำปกำเนิด 2. กำรไปรวมกับพระเจ้ำ 3. กำรสร้ำงศรัทธำต่อพระเจ้ำ 4. กำรรอดพ้นจำกคำพิพำกษำ 4. พิธีกรรมประจำบ้ำน 12 ประกำร ของศำสนำพรำหมณ์-ฮินดู คือพิธีใด 1. พิธีศำรทธ์ 2. พิธีสังสกำร 3. พิธีบูชำเทวดำ 4. พิธีประจำวรรณะ 5. อุดมเป็นผู้มีควำมขยันหมั่นเพียร ประหยัด เลี้ยงชีพตำมกำลังทรัพย์และคบเพื่อนที่ดี อุดมปฏิบัติตำม ธรรมข้อใด 1. โลกธรรม 2. โภคอำทิยะ 3. ทิฏฐธัมมิกัตถะ 4. อปริหำนิยธรรม 6. พระมหำชนกเป็นผู้มีควำมเพียรตรงกับพุทธศำสนสุภำษิตข้อใด 1. อิณำทำน ทุกฺข โลเก 2. สนฺตุฏฺ ปรม ธน 3. วำยเมเถว ปุริโส ยำว อตฺถสฺส นิปฺปทำ 4. ปฏิรูปกำรี ธุรวำ อุฏฺ ำตำ วินทฺเต ธน ปีการศึกษา
  • 20. 20 7. คัมภีร์ที่อธิบำยพระไตรปิฎกเรียกว่ำอะไร 1. ฎีกำ 2. อรรถกถำ 3. ปกรณ์พิเศษ 4. สัททำวิเสส 8. ข้ำแต่พระสงฆ์ผู้เจริญข้ำพเจ้ำทั้งหลำยขอน้อมถวำย...(1)... กับทั้งบริวำรเหล่ำนี้แก่พระภิกษุสงฆ์ ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับ ...(2)... กับทั้งบริวำรเหล่ำนี้ของข้ำพเจ้ำทั้งหลำยเพื่อประโยชน์และควำมสุข แก่ข้ำพเจ้ำทั้งหลำยสิ้นกำลนำนเทอญฯ ข้อควำมข้ำงต้นเป็นคำถวำยสังฆทำนประเภทสำมัญคำที่ต้องเติมในช่องว่ำงที่ (1) และ (2) คือข้อใด 1. อัฐบริขำร 2. ภัตตำหำร 3. มตกภัตตำหำร 4. ภัตตำหำรและน้ำ 9. ข้อใดคือควำมหมำยของ “จิต” ในจิตตำนุปัสสนำสติปัฏฐำน 1. ธรรม 2. อำรมณ์ 3. ควำมรู้สึก 4. ควำมนึกคิด 10. ในแนวทำงพระพุทธศำสนำเรำสำมำรถพัฒนำตนเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ได้อย่ำงไร 1. รักษำศีลให้ครบ 2. ยึดไตรสิกขำในกำรดำเนินชีวิต 3. ฝึกสติปัฏฐำนจนถึงขั้นสุดท้ำย 4. มีส่วนร่วมในกิจกรรมทำงศำสนำอย่ำงสม่ำเสมอ 11. กำรคอร์รัปชั่นเกิดจำกกำรขำดคุณธรรมประกำรใดเป็นสำคัญ 1. ควำมสำมัคคี 2. ควำมเมตตำกรุณำ 3. ควำมวิริยอุตสำหะ 4. ควำมซื่อสัตย์สุจริต 12. กำรปฏิรูปกฎหมำยและระบบศำลของไทยเกิดขึ้นอย่ำงจริงจังในรัชสมัยใด 1. รัชกำลที่ 4 2. รัชกำลที่ 5 3. รัชกำลที่ 6 4. รัชกำลที่ 7 13. ตำมหลักกฎหมำยอำญำควำมผิดทำงอำญำจะ ไม่ เกิดขึ้นหำกปรำศจำกสิ่งใด 1. โทษ 2. สิทธิ 3. เจตนำ 4. กฎหมำย 14. พฤติกรรมส่วนใหญ่ของมนุษย์มีที่มำอย่ำงไร 1. เกิดจำกธรรมชำติ 2. เกิดจำกกำรเรียนรู้ 3. เกิดจำกพันธุกรรม 4. เกิดจำกสัญชำตญำณ 15. ข้อใดมีควำมหมำยสอดคล้องกับคำว่ำ “บรรทัดฐำน” มำกที่สุด 1. ค่ำนิยม 2. บทบำท 3. ประเพณี 4. สัญลักษณ์
  • 21. 21 16. ข้อใดเป็นปัญหำสำคัญที่เป็นรำกฐำนของปัญหำอื่นๆในสังคมไทย 1. ปัญหำยำเสพติด 2. ปัญหำครอบครัว 3. ปัญหำสิ่งแวดล้อม 4. ปัญหำอำชญำกรรม 17. หลักกำรปกครองแบบเผด็จกำรให้ควำมสำคัญต่อสิ่งใดน้อยที่สุด 1. ควำมมั่นคงของรัฐบำล 2. ควำมจงรักภักดีต่อชำติ 3. ควำมเสมอภำคในสังคม 4. ควำมเป็นเอกภำพของรัฐ 18. พระมหำกษัตริย์ไทยทรงใช้อำนำจนิติบัญญัติโดยผ่ำนทำงสถำบันทำงกำรเมืองใด 1. ศำล 2. รัฐสภำ 3. คณะรัฐมนตรี 4. คณะองคมนตรี 19. กำรกำหนดให้ประชำชนชำวไทยมีสิทธิออกเสียงประชำมติเป็นกำรสนับสนุนแนวคิดในเรื่องใด 1. กำรคุ้มครองสิทธิมนุษยชน 2. กำรตรวจสอบกำรใช้อำนำจรัฐ 3. กำรมีส่วนร่วมทำงกำรเมืองของประชำชน 4. กำรกระจำยอำนำจให้ประชำชนปกครองตนเอง 20. รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทยพุทธศักรำช 2550 กำหนดให้บุคคลมีสิทธิได้รับกำรศึกษำโดยไม่เสีย ค่ำใช้จ่ำยเป็นเวลำไม่น้อยกว่ำกี่ปี 1. 6 ปี 2. 9 ปี 3. 12 ปี 4. 15 ปี 21. กำรขำดแคลนปัจจัยกำรผลิตส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจต้องประสบกับเรื่องใด 1. กำรจัดสรรปัจจัยกำรผลิต 2. กำรแข่งขันกันใช้ปัจจัยกำรผลิต 3. ควำมเหลื่อมล้ำในกำรกระจำยรำยได้ 4. เงินเฟ้ อจำกกำรสูงขึ้นของรำคำปัจจัยกำรผลิต 22. ผู้สูงอำยุถอนเงินฝำกประจำจำกธนำคำรจำนวน 1 ล้ำนบำทเพื่อนำเงินไปซื้อพันธบัตรรัฐบำลอำยุ 5 ปีกำร นำเงินมำซื้อพันธบัตรดังกล่ำวมีต้นทุนหรือไม่ เพรำะเหตุใด 1. ไม่มีเพรำะไม่มีกำรกู้เงินมำซื้อพันธบัตร 2. ไม่มีเพรำะเป็นเงินที่ถอนจำกบัญชีของตนเอง 3. มีเพรำะทำให้ขำดสภำพคล่องในกำรใช้จ่ำย 4. มีเพรำะไม่ได้รับดอกเบี้ยจำกเงินฝำกธนำคำร 23. อำศัยกฎของอุปทำน อุปทำนของเครื่องปรับอำกำศสัมพันธ์กับปัจจัยใด 1. รำคำเครื่องปรับอำกำศ 2. ภำษีสรรพสำมิต 3. ต้นทุนกำรผลิต 4. จำนวนผู้ผลิต
  • 22. 22 24. หลักกำรของสถำบันกำรเงินใดสอดคล้องกับแนวพระรำชดำริเศรษฐกิจพอเพียง 1. ธนำคำรอิสลำมแห่งประเทศไทย 2. ธนำคำรแห่งประเทศไทย 3. สหกรณ์ออมทรัพย์ 4. ธนำคำรออมสิน 25. ข้อใดส่งผลให้เงินคงคลังเพิ่มขึ้น 1. รัฐบำลจัดเก็บภำษีอำกรได้เพิ่มขึ้น 2. ดุลรำยได้-รำยจ่ำยของรัฐบำลเกินดุล 3. รัฐวิสำหกิจส่งผลกำไรให้รัฐบำลมำกขึ้น 4. รัฐบำลเลื่อนกำรไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด 26. ข้อใดกล่ำวถึงกำรหมุนเวียนของสินค้ำและบริกำรระหว่ำงหน่วยเศรษฐกิจต่ำงๆในระบบเศรษฐกิจได้ ถูกต้อง 1. หมุนเวียนจำกเจ้ำของปัจจัยกำรผลิตไปสู่ครัวเรือน 2. หมุนเวียนจำกครัวเรือนไปสู่หน่วยธุรกิจ 3. หมุนเวียนจำกหน่วยธุรกิจไปสู่ครัวเรือน 4. หมุนเวียนจำกครัวเรือนไปสู่เจ้ำของปัจจัยกำรผลิต 27. กรณีใดทำให้รำคำข้ำวสำรในตลำดปรับตัวสูงขึ้น 1. อุปสงค์ต่อข้ำวสำรน้อยกว่ำอุปทำนของข้ำวสำร 2. อุปสงค์ต่อข้ำวสำรมำกกว่ำอุปทำนของข้ำวสำร 3. อุปทำนส่วนเกินของข้ำวสำรมำกกว่ำอุปสงค์ส่วนเกินต่อข้ำวสำร 4. อุปทำนส่วนเกินของข้ำวสำรเพิ่มขึ้นมำกกว่ำอุปสงค์ส่วนเกินต่อข้ำวสำร 28. รำยกำรที่แสดงกำรเคลื่อนไหวของทุนสำรองระหว่ำงประเทศจะปรำกฏอยู่ในข้อใด 1. ดุลกำรค้ำ 2. ดุลบัญชีทุน 3. ดุลกำรชำระเงิน 4. ดุลบัญชีเดินสะพัด 29. กำรที่รัฐบำลกู้เงินจำกต่ำงประเทศมำลงทุนแทนกำรกู้เงินจำกประชำชนก่อให้เกิดผลอย่ำงไร 1. หนี้สำธำรณะเพิ่มขึ้นน้อยกว่ำ 2. อัตรำดอกเบี้ยในประเทศสูงขึ้น 3. สภำพคล่องภำยในประเทศเพิ่มขึ้น 4. งบประมำณแผ่นดินขำดดุลน้อยลง
  • 23. 23 30. ภำวะเศรษฐกิจชะลอตัวที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของแผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติฉบับที่ 10 เกิดจำกสำเหตุใด 1. สถำนกำรณ์ควำมไม่สงบใน 3 จังหวัดภำคใต้ทำให้กำรลงทุนชะลอตัว 2. วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกำส่งผลกระทบมำถึงประเทศไทย 3. ควำมไม่มีเสถียรภำพของรัฐบำลทำให้ดำเนินนโยบำยเศรษฐกิจไม่ต่อเนื่อง 4. กำรไม่ดำเนินนโยบำยตำมแนวเศรษฐกิจพอเพียงต่อจำกแผนพัฒนำฯฉบับที่ 9 31. หำกท่ำนเข้ำชมพิพิธภัณฑ์มนุษย์ยุคก่อนประวัติศำสตร์ท่ำนจะไม่ พบสิ่งใด 1. เครื่องประดับ 2. อำวุธหินกะเทำะ 3. แผ่นศิลำจำรึก 4. หม้อดินเผำสำมขำ 32. วิพำกษ์วิธีทำงประวัติศำสตร์หมำยถึงวิธีกำรใด 1. กำรตีควำม 2. กำรประเมิน 3. กำรวิเครำะห์ 4. กำรสังเครำะห์ 33. กำรสร้ำงงำนศิลปกรรมของโรมันมีจุดมุ่งหมำยใดเป็นหลัก 1. เพื่อประโยชน์ใช้สอย 2. เพื่อใช้ในกำรประกอบพิธีกรรม 3. เพื่อแสดงควำมศรัทธำต่อศำสนำ 4. เพื่อแสดงควำมยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิ 34. นวัตกรรมใดที่ทำให้เกิดกำรปฏิวัติภูมิปัญญำของชำติตะวันตก 1. ปฏิทิน 2. กระดำษ 3. แท่นพิมพ์ 4. นำฬิกำกลไก 35. อำณำจักรโบรำณในดินแดนสุวรรณภูมิได้รับอิทธิพลจำกอำรยธรรมใดมำกที่สุด 1. อำรยธรรมจีน 2. อำรยธรรมขอม 3. อำรยธรรมอินเดีย 4. อำรยธรรมอิสลำม 36. บุคคลใดได้รับกำรประกำศยกย่องจำกองค์กำรกำรศึกษำวิทยำศำสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชำชำติ ในสำขำปรำชญ์และกวีประจำปี 2551 1. สมเด็จพระเจ้ำบรมวงศ์เธอเจ้ำฟ้ำกรมพระยำนริศรำนุวัดติวงศ์ 2. สมเด็จพระเจ้ำบรมวงศ์เธอกรมพระยำดำรงรำชำนุภำพ 3. พระเจ้ำบรมวงศ์เธอกรมหลวงวงษำธิรำชสนิท 4. หม่อมรำโชทัย หรือหม่อมรำชวงศ์กระต่ำย อิศรำงกูร 37. ที่ตั้งของแคว้นตำมพรลิงค์ตรงกับบริเวณใดในปัจจุบัน 1. ไทรบุรี 2. ปัตตำนี 3. สุรำษฎร์ธำนี 4. นครศรีธรรมรำช
  • 24. 24 38. กำรสถำปนำกรุงศรีอยุธยำเกิดจำกกำรรวมกันของเมืองใด 1. ละโว้-พิษณุโลก 2. สุพรรณภูมิ-ละโว้ 3. พิษณุโลก-สุโขทัย 4. สุโขทัย-สุพรรณภูมิ 39. พระมหำกษัตริย์พระองค์ใดทรงริเริ่มธรรมเนียมกำรดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยำร่วมกับขุนนำงและ ข้ำรำชกำร 1. พระบำทสมเด็จพระจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว 2. พระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว 3. พระบำทสมเด็จพระมงกุฎเกล้ำเจ้ำอยู่หัว 4. พระบำทสมเด็จพระปกเกล้ำเจ้ำอยู่หัว 40. ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงไพร่กับมูลนำยในสังคมไทยโบรำณอยู่ภำยใต้เงื่อนไขใด 1. ระบบกฎหมำย 2. ควำมจงรักภักดี 3. ค่ำนิยมและประเพณี 4. วัฒนธรรมและกฎหมำย 41. ข้อใดไม่ แสดงปัจจัยที่มีต่อลักษณะภูมิอำกำศ 1. จังหวัดภูเก็ตตั้งอยู่ที่ละติจูด 8 องศำเหนือ 2. ภำคตะวันออกเฉียงเหนือมีแม่น้ำโขงไหลผ่ำน 3. เชียงใหม่อยู่สูงจำกระดับทะเลปำนกลำง 303 เมตร 4. ภำคใต้ฝั่งตะวันออกได้รับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ 42. หำกต้องกำรศึกษำทะเลสำบน้ำเค็มท่ำนควรไปที่ทะเลสำบใด 1. มิชิแกนสหรัฐอเมริกำ 2. ไบคำลสหพันธรัฐรัสเซีย 3. บัลคำชสำธำรณรัฐคำซัคสถำน 4. แคสเปียนสำธำรณรัฐอิสลำมอิหร่ำน 43. หลุมอุกกำบำตบนพื้นโลกเกี่ยวข้องกับกระบวนกำรใด 1. กำรกร่อนของแผ่นดิน 2. กำรปรับระดับแผ่นดิน 3. กำรแปรสัณฐำนเปลือกโลก 4. กำรกระทำจำกภำยนอกโลก 44. แผนที่ภูมิประเทศมำตรำส่วนใดของประเทศไทยที่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งจังหวัด 1. 1 : 10,000 2. 1 : 50,000 3. 1 : 100,000 4. 1 : 250,000 45. ข้อใด ไม่ใช่ เครื่องมือวัดลักษณะอำกำศ 1. บำรอมิเตอร์ 2. แพลนิมิเตอร์ 3. ไซโครมิเตอร์ 4. เทอร์โมมิเตอร์
  • 25. 25 46. หำกเวลำที่ประเทศกคือ 9.00 น. ประเทศซึ่งอยู่ห่ำงออกไปทำงทิศตะวันออก 15 องศำจะเป็นเวลำใด 1. 7.00 น. 2. 8.00 น. 3. 10.00 น. 4. 11.00 น. 47. โครงกำรพัฒนำป่ำชุมชนในประเทศไทยเป็นกำรดำเนินงำนที่สอดคล้องกับอนุสัญญำฉบับใด 1. อนุสัญญำไซเตส 2. อนุสัญญำเวียนนำ 3. อนุสัญญำว่ำด้วยกำรอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ 4. อนุสัญญำว่ำด้วยควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ 48. เกษตรอินทรีย์ไม่ เกี่ยวข้องกับเรื่องใด 1. กำรทำฟำร์มทำงนิเวศวิทยำ 2. กำรใช้หลักกำรกำรเกษตรแบบองค์รวม 3. กำรใช้พันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ที่ดัดแปรพันธุกรรม 4. กำรนำของใช้แล้วไปแปรสภำพเพื่อนำกลับมำใช้ใหม่ 49. บุคคลใดมีส่วนร่วมในกำรจัดกำรทรัพยำกรและสิ่งแวดล้อมที่ให้ผลยั่งยืนยำวนำน 1. นำยโดมตรวจวัดคุณภำพอำกำศเป็นประจำ 2. นำยแดงใช้สำรดีดีทีแทนซีเอฟซีในกำรกำจัดแมลง 3. นำยดำปลูกหญ้ำแฝกเพื่อป้ องกันน้ำกัดเซำะตลิ่งพัง 4. นำยดอนใช้หนังสือพิมพ์ที่อ่ำนแล้วห่อขยะเปียกก่อนนำไปทิ้งในถังขยะสีเหลือง 50. ข้อใดไม่ใช่ ข้อมูลทุติยภูมิ 1. แผนที่ 2. ผลงำนวิจัย 3. ภำพจำกดำวเทียม 4. ภำพถ่ำยทำงอำกำศ ส่วนที่ 2 : แบบระบำยตัวเลือกมำกกว่ำ 1 คำตอบ แต่ละข้อมีคำตอบที่ถูกต้องมำกกว่ำ 1 คำตอบ โดยอำจมีคำตอบที่ถูกต้องจำนวน 2 คำตอบ หรือ 3 คำตอบ หรือ 4 คำตอบ ให้ระบำยวงกลมตัวเลือกที่เป็นคำตอบที่ถูกต้องของข้อสอบแต่ละข้อให้ครบถ้วนทุกคำตอบ จำนวน 50 ข้อ (ข้อ 51-100) : ข้อละ 1 คะแนน 51. ศำสนำมีควำมสำคัญอย่ำงไรต่อสังคม 1. ทำให้เกิดควำมสำมัคคีมีเอกภำพ 2. เป็นบ่อเกิดของกำรสร้ำงสรรค์วัฒนธรรม 3. ตอบสนองควำมต้องกำรด้ำนจิตใจของคนในสังคม 4. เป็นหลักจริยธรรมควบคุมควำมประพฤติของกลุ่มคน
  • 26. 26 52. ข้อใดกล่ำวถูกต้องเกี่ยวกับศำสนำพรำหมณ์-ฮินดู 1. เป็นศำสนำที่ไม่มีศำสดำ 2. ก่อนพุทธกำลเรียกว่ำศำสนำพรำหมณ์ 3. ในยุคพระเวทนับถือพระเจ้ำองค์เดียว 4. ยกย่องพระพรหมว่ำยิ่งใหญ่กว่ำเทพเจ้ำองค์อื่น 53. วันพิพำกษำในศำสนำอิสลำมมีชื่อเรียกว่ำอะไร 1. วันสิ้นโลก 2. วันฟื้นคืนชีพ 3. วันแห่งศรัทธำ 4. วันกำหนดชะตำ 54. เรื่องใดปรำกฏอยู่ในคัมภีร์ไบเบิลใหม่ 1. เรื่องรำวชีวิตของพระเยซู 2. กำรเผยแผ่ศำสนำของโมเสส 3. กำรเทศนำสั่งสอนธรรมของพระเยซู 4. ประวัติศำสตร์ชนชำติยิวในสมัยอับรำฮัม 55. หลักธรรมใดจัดอยู่ใน “ทุกข์” แห่งอริยสัจ 4 1. ขันธ์ 5 2. หลักกรรม 3. โลกธรรม 8 4. ทิฏฐธัมมิกัตถะ 56. หมอชีวกโกมำรภัจ เป็นอุบำสกที่ได้รับกำรยกย่องในด้ำนใด 1. ใฝ่รู้ 2. กตัญญู 3. เสียสละ 4. จรรยำบรรณแพทย์ 57. เรื่องกฎแห่งกรรมในพระพุทธศำสนำสอดคล้องกับเรื่องใด 1. ภพ-ภูมิ 2. ไตรสิกขำ 3. ไตรลักษณ์ 4. กฎธรรมชำติ 58. วันเทโวโรหณะคือวันใด 1. วันพระเจ้ำเปิดโลก 2. วันแรม 1 ค่ำเดือน 11 3. วันหลังวันออกพรรษำ 1 วัน 4. วันที่พระพุทธเจ้ำเสด็จลงจำกดำวดึงส์ 59. ข้อใดเป็นกุศลพิธี 1. กำรเวียนเทียน 2. กำรถวำยสังฆทำน 3. กำรทำบุญเลี้ยงพระ 4. กำรสวดมนต์ไหว้พระ