SlideShare a Scribd company logo
1 of 12
Download to read offline
Rose
กุหลาบ (อังกฤษ: rose, ชื่อวิทยาศาสตร์: Rosa
hybrids) เป็นดอกไม ้ที่ได ้รับความนิยมปลูกมากที่สุด
ชนิดหนึ่งของโลกที่มีต ้นกาเนิดจากทวีปเอเชีย ผู้คน
นิยมปลูกเพื่อความสวยงาม ตกแต่งสวน, ประดับ
ตกแต่งบ ้าน, ประดับสถานที่, ปลูกเพื่อการพาณิชย์
อาทิ เพื่อนาไปสกัดน้าหอม นาไปทาเป็นส่วนประกอบ
ของสปา เป็นต ้น
ความสาคัญทางเศรษฐกิจ
กุหลาบเป็นไม ้ตัดดอกที่มีการปลูกเป็นการค ้ากัน
แพร่หลายทั่วโลกมานานแล ้ว กุหลาบเป็นไม ้ตัดดอกที่มี
การซื้อขาย เป็นอันดับหนึ่งในตลาดประมูลอัลสเมีย
ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นตลาดประมูลไม ้ดอก ที่
ใหญ่ที่สุดของโลก เมื่อ พ.ศ. 2542 มีการซื้อขายถึง
1,672 ล ้านดอก และมักจะมียอดขายสูงสุดในประเทศ
ต่าง ๆ เมื่อเปรียบเทียบกับไม ้ดอกชนิดอื่น ๆ โดย
ประเทศที่ปลูกกุหลาบรายใหญ่ของโลกได ้แก่ อิตาลี
เนเธอร์แลนด์ สเปน สหรัฐอเมริกา โคลัมเบีย เอกวาดอร์
อิสราเอล เยอรมนี เคนยา ซิมบับเว เบลเยียม ฝรั่งเศส
เม็กซิโก แทนซาเนีย และมาลาวี เป็นต ้น
ประเภท
กุหลาบดอกใหญ่ กุหลาบดอกกลาง กุหลาบดอกเล็ก
กุหลาบดอกช่อ กุหลาบหนู
สายพันธุ์
1.มีผลผลิตสูง ปัจจุบันกุหลาบดอกเล็กให้ผลผลิตสูงถึง 300 ดอก/ตร.ม./ปี
2.อายุการปักแจกันนาน พันธุ์กุหลาบในสมัยทศวรรษที่แล้วจะบานได้เพียง 5-6 วัน ปัจจุบัน
กุหลาบพันธุ์ใหม่ ๆ สามารถบานได้ทนถึง 16 วัน
3.กุหลาบที่สามารถดูดน้าได้ดี
4.กุหลาบที่ไม่มีหนามหรือหนามน้อยเพื่อความสะดวกในการจัดการ
5.สีสีแดงยังคงครองตลาดอยู่รองลงมาคือสีชมพู สีอ่อนเย็นตา และสองสีในดอกเดียวกัน
6.กลิ่น เป็นที่เสียดายที่กุหลาบกลิ่นหอมมักไม่ทน แต่ก็มีการผสมพันธุ์กุหลาบตัดดอกกลิ่น
หอมบ้าง สาหรับตลาดท้องถิ่น
มีความต้านทานโรค และทนความเสียหายจากการจัดการสูง
การขยายพันธุ์กุหลาบ
กุหลาบ สามารถขยายพันธุ์ได้หลายวิธี เช่น การตัดชา
การตอน การติดตา และการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพื่อให้ได้
ต้นกุหลาบที่มีระบบรากที่แข็งแรง และให้ผลผลิตสูง
เกษตรกรมักนิยมกุหลาบพันธุ์ดีที่ติดตาบนตอกุหลาบป่า
การปลูกและการจัดการ
สภาพที่เหมาะสมในการปลูก
พื้นที่ปลูก ควรปลูกในที่ที่ระบายน้าได้ดี มีความเป็นกรดเล็กน้อย พีเอ็ช ประมาณ 6-
6.5 และได้แสงอย่างน้อย 6 ชั่วโมง อุณหภูมิ อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเจริญของ
กุหลาบคือ กลางคืน 15-18 องศาเซลเซียส และกลางวัน 20-25 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็น
ช่วงอุณหภูมิที่จะทาให้ได้ดอกที่มีคุณภาพดี และให้ผลผลิตสูง หากอุณหภูมิต่ากว่า 15
องศาเซลเซียส การเจริญเติบโตและการออกดอกจะช้าอย่างมาก หากอุณหภูมิสูงกว่า
28 องศาเซลเซียส ควรให้มีความชื้นในอากาศสูงเพื่อชลอการคายน้า ความชื้น
ความชื้นสัมพัทธ์ที่เหมาะสมกับการเจริญของกุหลาบคือร้อยละ 70-80 แสง กุหลาบจะ
ให้ผลผลิตสูง และดอกมีคุณภาพดี ถ้าความเข้มของแสงมาก และช่วงวันยาว
การดูแล
การให้น้า
ให้น้าระบบน้าหยด หรือใช้หัวพ่นน้าระหว่างแถวปลูก อัตรา 6-7 ลิตร/ตร.ม./ วัน
หรือ 49 ลิตร/ตร.ม./สัปดาห์ อาจให้ทุกวัน วันเว้นวัน หรือ 2-3 วันต่อครั้ง แล้วแต่
สภาพการอุ้มน้าของดิน อย่ารดน้าให้ดินแฉะตลอดเวลา ควรให้ดินมีโอกาสระบาย
น้า และมีอากาศเข้าไปแทนที่บ้าง ดังนั้นใน 1 สัปดาห์ หากปลูกในโรงเรือนจะต้อง
ใช้น้าประมาณ 78,400 ลิตร หรือ 78.4 คิวบิคเมตร ต่อไร่ น้าที่ใช้ควรมีคุณภาพดี
การให้ปุ๋ ยก่อนปลูก
1.ให้ธาตุอาหารที่พืชต้องการอย่างเพียงพอตั้งแต่เริ่มปลูก
2.ให้ธาตุอาหารบางชนิดในปริมาณมากและเพียงพอสาหรับการปลูกพืชตลอดฤดู
ซึ่งทาให้สามารถงดหรือลดการให้ปุ๋ ยนั้น ๆ ได้
ระหว่างการปลูกพืชการให้ธาตุอาหารทุกชนิดแก่พืชในขณะปลูก ทาได้ลาบาก
เนื่องจากมีถึง 14 ธาตุ ธาตุบางชนิดจะมีอยู่ในดินอยู่แล้ว
การให้ปุ๋ ยระหว่างปลูก
การให้ปุ๋ ยระหว่างปลูกพืช เนื่องจากธาตุอาหารส่วนใหญ่จะมีอยู่ในดินแล้วเมื่อ
ปลูกพืชจึงยังคงเหลือธาตุ ไนโตรเจน และโปแตสเซืยม ซึ่งจะถูกชะล้างได้ง่าย
ดังนั้นจึงต้องให้ปุ๋ ย ทั้งสองในระหว่างที่พืชเจริญเติบโต ซึ่งการให้ปุ๋ ยอาจทาได้
โดยการให้พร้อมกับการให้น้า (fertigation)
การให้ปุ๋ ยพร้อมกับน้าสาหรับกุหลาบ หากให้ทุกวันจะให้ในอัตราความเข้มข้น
ของไนโตรเจน 160 มก./ลิตร (ppm) และหากให้ปุ๋ ยทุกสัปดาห์ควรให้ในอัตรา
ความเข้มข้นของไนโตรเจน 480 มก./ลิตร
สัดส่วนของไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P2O) และโปแตสเซียม (K2O) สาหรับ
กุหลาบในระยะต่าง
การตัดแต่งกิ่ง
การดูแลกุหลาบระยะแรกหลังปลูกเมื่อตากุหลาบเริ่มแตก ควรส่งเสริม
ให้มีการเจริญทางใบ เพื่อการสะสมอาหาร และสร้างกิ่งกระโดง เพื่อให้
ได้ดอกที่มีขนาดใหญ่ และก้านยาว ซึ่งทาได้ด้วยการเด็ดยอดเป็น
ระยะเวลาประมาณ 2-3 เดือน โดยเด็ดส่วนเหนือใบสมบูรณ์ (5 ใบย่อย)
ใบที่สองจากยอด เมื่อดอกมีขนาดเท่าเมล็ดถั่วลันเตา จากนั้นกิ่งกระโดง
จะเริ่มแทงออก ซึ่งกิ่งกระโดงนี้จะเป็นโครงสร้างหลักให้ต้นกุหลาบ ที่
ให้ดอกมีคุณภาพดี
โรค
โรคราน้าค้าง โรคราแป้ง โรคใบจุดสีดา
โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส โรคราสีเทา โรคกิ่งแห้งตาย
นายรณชัย มานมาน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่4/1
เลขที่ 16
โรงเรียนภัทรพิทยาจารย์

More Related Content

What's hot

งานSh
งานShงานSh
งานShxavi2536
 
ราชพฤกษ์
ราชพฤกษ์ราชพฤกษ์
ราชพฤกษ์Arez Suwannarit
 
นายธเนศ คัมภิรานนท์
นายธเนศ คัมภิรานนท์นายธเนศ คัมภิรานนท์
นายธเนศ คัมภิรานนท์garenaza8900
 
กล้วยไม้
กล้วยไม้กล้วยไม้
กล้วยไม้oilppk
 
กล้วยไม้
กล้วยไม้กล้วยไม้
กล้วยไม้oilppk
 
พาวเวอร์พ้อย ดอกไม้นานาพันธุ์ (1)
พาวเวอร์พ้อย ดอกไม้นานาพันธุ์ (1)พาวเวอร์พ้อย ดอกไม้นานาพันธุ์ (1)
พาวเวอร์พ้อย ดอกไม้นานาพันธุ์ (1)Soda Soda
 
ฐานการเรียนรู้สวนถาด
ฐานการเรียนรู้สวนถาดฐานการเรียนรู้สวนถาด
ฐานการเรียนรู้สวนถาดPhonpimon Misuwan
 
ไม้นิ้ว เอื้องจำปาน่าน
ไม้นิ้ว เอื้องจำปาน่านไม้นิ้ว เอื้องจำปาน่าน
ไม้นิ้ว เอื้องจำปาน่านjiraprapasarat
 

What's hot (15)

Ita
ItaIta
Ita
 
ต้นชบา
ต้นชบาต้นชบา
ต้นชบา
 
งานSh
งานShงานSh
งานSh
 
ราชพฤกษ์
ราชพฤกษ์ราชพฤกษ์
ราชพฤกษ์
 
นายธเนศ คัมภิรานนท์
นายธเนศ คัมภิรานนท์นายธเนศ คัมภิรานนท์
นายธเนศ คัมภิรานนท์
 
กล้วยไม้
กล้วยไม้กล้วยไม้
กล้วยไม้
 
กล้วยไม้
กล้วยไม้กล้วยไม้
กล้วยไม้
 
สตรอว์เบอร์รี
สตรอว์เบอร์รีสตรอว์เบอร์รี
สตรอว์เบอร์รี
 
พาวเวอร์พ้อย ดอกไม้นานาพันธุ์ (1)
พาวเวอร์พ้อย ดอกไม้นานาพันธุ์ (1)พาวเวอร์พ้อย ดอกไม้นานาพันธุ์ (1)
พาวเวอร์พ้อย ดอกไม้นานาพันธุ์ (1)
 
Plant ser 126_60_2
Plant ser 126_60_2Plant ser 126_60_2
Plant ser 126_60_2
 
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
 
Coffee
CoffeeCoffee
Coffee
 
Coffee
CoffeeCoffee
Coffee
 
ฐานการเรียนรู้สวนถาด
ฐานการเรียนรู้สวนถาดฐานการเรียนรู้สวนถาด
ฐานการเรียนรู้สวนถาด
 
ไม้นิ้ว เอื้องจำปาน่าน
ไม้นิ้ว เอื้องจำปาน่านไม้นิ้ว เอื้องจำปาน่าน
ไม้นิ้ว เอื้องจำปาน่าน
 

Rose

  • 2. กุหลาบ (อังกฤษ: rose, ชื่อวิทยาศาสตร์: Rosa hybrids) เป็นดอกไม ้ที่ได ้รับความนิยมปลูกมากที่สุด ชนิดหนึ่งของโลกที่มีต ้นกาเนิดจากทวีปเอเชีย ผู้คน นิยมปลูกเพื่อความสวยงาม ตกแต่งสวน, ประดับ ตกแต่งบ ้าน, ประดับสถานที่, ปลูกเพื่อการพาณิชย์ อาทิ เพื่อนาไปสกัดน้าหอม นาไปทาเป็นส่วนประกอบ ของสปา เป็นต ้น
  • 3. ความสาคัญทางเศรษฐกิจ กุหลาบเป็นไม ้ตัดดอกที่มีการปลูกเป็นการค ้ากัน แพร่หลายทั่วโลกมานานแล ้ว กุหลาบเป็นไม ้ตัดดอกที่มี การซื้อขาย เป็นอันดับหนึ่งในตลาดประมูลอัลสเมีย ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นตลาดประมูลไม ้ดอก ที่ ใหญ่ที่สุดของโลก เมื่อ พ.ศ. 2542 มีการซื้อขายถึง 1,672 ล ้านดอก และมักจะมียอดขายสูงสุดในประเทศ ต่าง ๆ เมื่อเปรียบเทียบกับไม ้ดอกชนิดอื่น ๆ โดย ประเทศที่ปลูกกุหลาบรายใหญ่ของโลกได ้แก่ อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สเปน สหรัฐอเมริกา โคลัมเบีย เอกวาดอร์ อิสราเอล เยอรมนี เคนยา ซิมบับเว เบลเยียม ฝรั่งเศส เม็กซิโก แทนซาเนีย และมาลาวี เป็นต ้น
  • 5. สายพันธุ์ 1.มีผลผลิตสูง ปัจจุบันกุหลาบดอกเล็กให้ผลผลิตสูงถึง 300 ดอก/ตร.ม./ปี 2.อายุการปักแจกันนาน พันธุ์กุหลาบในสมัยทศวรรษที่แล้วจะบานได้เพียง 5-6 วัน ปัจจุบัน กุหลาบพันธุ์ใหม่ ๆ สามารถบานได้ทนถึง 16 วัน 3.กุหลาบที่สามารถดูดน้าได้ดี 4.กุหลาบที่ไม่มีหนามหรือหนามน้อยเพื่อความสะดวกในการจัดการ 5.สีสีแดงยังคงครองตลาดอยู่รองลงมาคือสีชมพู สีอ่อนเย็นตา และสองสีในดอกเดียวกัน 6.กลิ่น เป็นที่เสียดายที่กุหลาบกลิ่นหอมมักไม่ทน แต่ก็มีการผสมพันธุ์กุหลาบตัดดอกกลิ่น หอมบ้าง สาหรับตลาดท้องถิ่น มีความต้านทานโรค และทนความเสียหายจากการจัดการสูง
  • 6. การขยายพันธุ์กุหลาบ กุหลาบ สามารถขยายพันธุ์ได้หลายวิธี เช่น การตัดชา การตอน การติดตา และการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพื่อให้ได้ ต้นกุหลาบที่มีระบบรากที่แข็งแรง และให้ผลผลิตสูง เกษตรกรมักนิยมกุหลาบพันธุ์ดีที่ติดตาบนตอกุหลาบป่า การปลูกและการจัดการ
  • 7. สภาพที่เหมาะสมในการปลูก พื้นที่ปลูก ควรปลูกในที่ที่ระบายน้าได้ดี มีความเป็นกรดเล็กน้อย พีเอ็ช ประมาณ 6- 6.5 และได้แสงอย่างน้อย 6 ชั่วโมง อุณหภูมิ อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเจริญของ กุหลาบคือ กลางคืน 15-18 องศาเซลเซียส และกลางวัน 20-25 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็น ช่วงอุณหภูมิที่จะทาให้ได้ดอกที่มีคุณภาพดี และให้ผลผลิตสูง หากอุณหภูมิต่ากว่า 15 องศาเซลเซียส การเจริญเติบโตและการออกดอกจะช้าอย่างมาก หากอุณหภูมิสูงกว่า 28 องศาเซลเซียส ควรให้มีความชื้นในอากาศสูงเพื่อชลอการคายน้า ความชื้น ความชื้นสัมพัทธ์ที่เหมาะสมกับการเจริญของกุหลาบคือร้อยละ 70-80 แสง กุหลาบจะ ให้ผลผลิตสูง และดอกมีคุณภาพดี ถ้าความเข้มของแสงมาก และช่วงวันยาว
  • 8. การดูแล การให้น้า ให้น้าระบบน้าหยด หรือใช้หัวพ่นน้าระหว่างแถวปลูก อัตรา 6-7 ลิตร/ตร.ม./ วัน หรือ 49 ลิตร/ตร.ม./สัปดาห์ อาจให้ทุกวัน วันเว้นวัน หรือ 2-3 วันต่อครั้ง แล้วแต่ สภาพการอุ้มน้าของดิน อย่ารดน้าให้ดินแฉะตลอดเวลา ควรให้ดินมีโอกาสระบาย น้า และมีอากาศเข้าไปแทนที่บ้าง ดังนั้นใน 1 สัปดาห์ หากปลูกในโรงเรือนจะต้อง ใช้น้าประมาณ 78,400 ลิตร หรือ 78.4 คิวบิคเมตร ต่อไร่ น้าที่ใช้ควรมีคุณภาพดี การให้ปุ๋ ยก่อนปลูก 1.ให้ธาตุอาหารที่พืชต้องการอย่างเพียงพอตั้งแต่เริ่มปลูก 2.ให้ธาตุอาหารบางชนิดในปริมาณมากและเพียงพอสาหรับการปลูกพืชตลอดฤดู ซึ่งทาให้สามารถงดหรือลดการให้ปุ๋ ยนั้น ๆ ได้ ระหว่างการปลูกพืชการให้ธาตุอาหารทุกชนิดแก่พืชในขณะปลูก ทาได้ลาบาก เนื่องจากมีถึง 14 ธาตุ ธาตุบางชนิดจะมีอยู่ในดินอยู่แล้ว
  • 9. การให้ปุ๋ ยระหว่างปลูก การให้ปุ๋ ยระหว่างปลูกพืช เนื่องจากธาตุอาหารส่วนใหญ่จะมีอยู่ในดินแล้วเมื่อ ปลูกพืชจึงยังคงเหลือธาตุ ไนโตรเจน และโปแตสเซืยม ซึ่งจะถูกชะล้างได้ง่าย ดังนั้นจึงต้องให้ปุ๋ ย ทั้งสองในระหว่างที่พืชเจริญเติบโต ซึ่งการให้ปุ๋ ยอาจทาได้ โดยการให้พร้อมกับการให้น้า (fertigation) การให้ปุ๋ ยพร้อมกับน้าสาหรับกุหลาบ หากให้ทุกวันจะให้ในอัตราความเข้มข้น ของไนโตรเจน 160 มก./ลิตร (ppm) และหากให้ปุ๋ ยทุกสัปดาห์ควรให้ในอัตรา ความเข้มข้นของไนโตรเจน 480 มก./ลิตร สัดส่วนของไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P2O) และโปแตสเซียม (K2O) สาหรับ กุหลาบในระยะต่าง
  • 10. การตัดแต่งกิ่ง การดูแลกุหลาบระยะแรกหลังปลูกเมื่อตากุหลาบเริ่มแตก ควรส่งเสริม ให้มีการเจริญทางใบ เพื่อการสะสมอาหาร และสร้างกิ่งกระโดง เพื่อให้ ได้ดอกที่มีขนาดใหญ่ และก้านยาว ซึ่งทาได้ด้วยการเด็ดยอดเป็น ระยะเวลาประมาณ 2-3 เดือน โดยเด็ดส่วนเหนือใบสมบูรณ์ (5 ใบย่อย) ใบที่สองจากยอด เมื่อดอกมีขนาดเท่าเมล็ดถั่วลันเตา จากนั้นกิ่งกระโดง จะเริ่มแทงออก ซึ่งกิ่งกระโดงนี้จะเป็นโครงสร้างหลักให้ต้นกุหลาบ ที่ ให้ดอกมีคุณภาพดี