งานนำเสนอ1
- 3. ในปัจจุบนการแต่งถือว่าเป็ นสิ่ งที่ขาดไม่ได้รองจากการแต่งตัวของ
ั
มนุษย์ ซึ่งการแต่งหน้านั้นสามารถช่วยได้มากโดยการลดรอยตาหนิ หรื อ
อาจทาให้บุคคลนั้นสวยหล่อขึ้นมาได้
แต่การแต่งหน้านั้นต้องมีการแต่งอย่างถูกวิธี และยังสามรถทาได้
ด้วยตัวเองเพียงรับคาแนะนาที่ถูกต้อง และเครื่ องสาอางที่ใช้ตองเหมาะกับ
้
สภาพผิวหน้าด้วย ไม่อย่างนั้นอาจทาให้หน้าเสี ยขึ้นมาได้
จึงต้องได้รับคาแนะนาที่ถูกต้อง ซึ่งผูที่ศึกษาโครงงานนี้สามรถ
้
เรี ยนรู ้การแต่งหน้าเบื้องต้น และคาแนะนาอย่างถูกวิธีได้
Homepage/สารบัญ
- 10. รองพืน (Foundation) เป็ นเครื่ องสาอางหนึ่งที่เราคุนเคยกันดี ที่จริ งแล้วรองพื้นคือเครื่ องสาอางประเภทเม็ดสี ที่
้
้
ั
สร้างขึ้นเพื่อใช้บริ เวณ ใบหน้าและลาคอ (แต่ในปัจจุบนมีการพัฒนาเพื่อนามาใช้กบร่ างกายได้ดวย) มีประโยชน์หลายประการตั้งแต่
ั
้
ช่วยเตรี ยมผิวให้เรี ยบเนียนไปจนถึงเนื้อที่เข้ม ข้นเพื่อปกปิ ดรอยแผล จุดด่างดาหรื อแม้แต่ช่วยขับผิวให้ดูสว่างขึ้น โดยหลักๆแล้วจะมี
ส่ วนประกอบจากบรรดาเม็ดสี ซ่ ึงส่ วนใหญ่ได้มาจากไอออน ออกไซค์ (iron oxide) หรื อไททาเนียมออกไซค์ (titanium
่
oxide) ขี้ผ้ งซึ่งเป็ นส่ วนประกอบในการสร้างความยืดหยุน เรี ยบเนียน ส่ วนประกอบบางอย่างจากเซลลูโลส (cellulose) ที่ช่วย
ึ
ให้เนื้อรองพื้นมีความหนาช่วยปกปิ ดและยึดเกาะกับผิว สารกันบูด และน้ าหอม
รองพืนแบบอิมลชั่น (Emulsion)
้
ั
หรื อมอยส์เจอไรเซอร์เจือสี (Tint Moisturizer) รองพื้นที่คล้ายกับครี มบารุ งผิวแต่มีสี ไม่ได้ให้ผลในการปกปิ ดมากนัก ช่วยใน
การสร้างความสว่างกระจ่างใสให้ใบหน้ามากกว่า เหมาะสาหรับผูที่มีผวแห้งถึงผิวธรรมดา ส่ วนผิวผสมและผิวมันเลือกที่เป็ นแบบไร้
้ ิ
น้ ามัน (oil free)
รองพึนแบบครีม (Cream)
้
มี ส่ วนผสมหลักคือน้ ามันและสารให้ความชุ่มชื่นเหมาะกับผูที่มีผวแห้งถึงผิว ผสมค่อนข้างแห้ง ปัจจุบนมีเทคโนโลยีสร้างสรรค์รองพื้น
้ ิ
ั
แบบครี มให้เหมาะกับสาวผิวผสมในลักษณะ ของ Balance Foundation ที่ให้ความชุ่มชื่นในบริ เวณที่แห้งพร้อมควบคุมความ
มัน
รองพืนแบบนำ (Liquid หรือ Fluid)
้
้
เป็ นรองพืนยอดนิยมและเหมำะกับสำวไทยทีสุดเนื่องจากมีเนื้อสัมผัสบางเบา ง่ายในการเกลี่ยแต่สามารถช่วยปกปิ ด บางชนิดมีการผสม
้
่
สารกันแดดลงไปด้วย
Homepage/สารบัญ
- 11. รองพืนแบบเจล (Gel)
้
มีลกษณะคล้ายมอยส์เจอไรเซอร์เจือสี และแบบน้ า เนื้อสัมผัสบางเบา ไม่ปกปิ ดมากนัก มีเม็ดสี ที่โปร่ งแสงเหมาะสาหรับทุกสภาพผิว
ั
รองพืนแบบมูส (Mousse)
้
เนื้อสัมผัสบางเบาถึงปานกลางคล้ายแบบเจล
รองพืนแบบแท่ ง (Stick)
้
็
เป็ น รองพื้นเนื้อค่อนข้างแข็ง สามารถใช้เป็ นคอนซีลเลอร์กได้ให้การปกปิ ดดีเยียมแต่อาจค่อนข้างมันไปสัก หน่อย แต่มีการพัฒนาให้มี
่
เนื้อสัมผัสที่บางเบาขึ้น
รองพืนแบบอัดแข็ง (Powder)
้
ั
่
ง่ายต่อการพกพาและใช้สอย สามารถใช้ได้กบฟองน้ าที่แห้งหรื อหมาด บรรจุอยูในลักษณะคล้ายแป้ งฝุ่ นอัดแข็งหรื อรู ปแบบของแป้ ง
ผสมรองพื้นให้การปก ปิ ดปานกลางไปจนถึงมาก
รองพืนนวัตกรรมใหม่ (Air Touch Foundation)
้
รองพื้นแอร์บลัชที่สะดวกในการพกพาที่ทาให้ใบหน้าของคุณดูมีสุขภาพดีดงผิว ของเด็กแรกเกิด เนื่องจากเนื้อครี มที่พ่นออกจากหัวฉีด
ั
เป็ นฟองละเอียดมีประจุไฟฟ้ าบวกเมื่อ พ่นมากระทบผิวซึ่งเป็ นประจุไฟฟ้ าลบแล้วจึงเติมเต็มผิวหน้าได้อย่างมี ประสิ ทธิภาพ พร้อมด้วย
ส่ วนผสมสาคัญของ SK-ll คือพิเทร่ าผสานกับส่ วนประกอบที่ให้ความชุ่มชื่นแก่ผว
ิ
Homepage/สารบัญ
- 13. ่
‘แป้ งพัฟ’ คือแป้ งที่อดแข็งอยูในรู ปของตลับ ทาให้ง่ายต่อการใช้งาน และสะดวกในการพกพาเพื่อเติม
ั
ความมันใจระหว่างวัน แบ่งได้เป็ น 2 ประเภทหลักๆ คือ
่
1 . แป้ งผสมรองพื้น (Powder Foundation) หรื อที่คุณสาวๆ บางคนอาจจะคุนกับชื่อแป้ งทูเวย์
้
คือ แป้ งผสมรองพื้น ให้การปกปิ ดและเรี ยบเนียนมากขึ้น จึงตอบโจทย์คุณสาวๆ ที่อยากมีผวสวยเนียนไร้ที่ติ เพราะ
ิ
แป้ งผสมรองพื้นจะช่วยอาพรางรอยแดง ความหมองคล้ า รอยฝ้ า รอยสิ ว และริ้ วรอยได้ดี
่
2 . แป้ งฝุ่ นอัดแข็ง (Press Powder) แป้ งฝุ่ นเนื้อละเอียดที่นามาอัดให้อยูในรู ปตลับ เนื้อแป้ งจึงมี
่
ความแมตต์ เหมาะกับคุณสาวๆ ที่มีสภาพผิวดีอยูแล้ว หรื อผิวที่ไม่ค่อยมีปัญหาต้องปกปิ ดอะไรมาก เพราะแป้ งฝุ่ นอัด
แข็งจะช่วยเพิ่มความนวลเนียนให้ผวดูเป็ นธรรมชาติ อีกทั้งยังสามารถใช้เติมระหว่างวันเพื่อซับความมันบนใบหน้าได้
ิ
อีกด้วย มาดูเทคนิคการทาแป้ งพัฟให้สวยเนียน หลังจากบารุ งผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ครี มกันแดด ไพรเมอร์ และ
็
รองพื้นเรี ยบร้อยดีแล้ว ทีน้ ีกถึงขั้นตอนสาคัญ ลงแป้ งพัฟ ใช้พฟแตะแป้ งฝุ่ นอัดแข็งประมาณครึ่ งนึงของพัฟ แล้วมากด
ั
ซับเบาๆ ทัวหน้า (เน้น!! ว่าแตะแป้ งเพียงเล็กน้อย ทาเสร็ จส่ วนนึงแล้วค่อยมาแตะแป้ งพัฟใหม่ เพราะไม่อย่างนั้นหน้า
่
จะดูหนาหนัก แล้วจะเป็ นคราบระหว่างวัน) โดยเริ่ มจากแก้มทั้งสองข้างกดซับจากข้างจมูกออกไปด้านข้างใบหู
หน้าผากจากหว่างคิ้วกดซับเบาๆ ขึ้นไปถึงบริ เวณไรผม จากนั้นทาไล่มาบริ เวณริ มฝี ปากเลยไปจนถึงปลายคาง จมูก
และกดซับอย่างเบามือที่สุดบริ เวณเปลือกตา ***อย่าทาแบบลากพัฟนะคะ ***สาหรับสาวที่มีริ้วรอย ผูสูงวัย พลอย
้
แนะนาให้ใช้แปรงแตะเนื้อแป้ งแล้วเคาะเบาๆ เอาแป้ งส่ วนเกินออก แล้วปัดไล้ทวหน้าโดยเริ่ มจากแก้ม หน้าผาก คาง
ั่
จมูก และเปลือกตา จากนั้นก็ลงสี สันเมกอัพได้ตามชอบใจเลย พอเริ่ มบ่ายคล้อยเย็นยา เป็ นธรรมดาค่ะที่เมกอัพและแป้ ง
่
ที่ทาไว้ต้ งแต่เช้า จะซีดจาง หลุดลอก และมันเยิม อย่าลืมหยิบกระดาษทิชชูมาซับ ผิวหน้าอย่างเบามือ จากนั้นใช้พฟ
ั
ั
้
ที่มาพร้อมในตลับแป้ งพัฟ
Homepage/สารบัญ
- 16. อายไลเนอร์ เป็ นเครื่ องสาอางที่ใช้สาหรับเน้นดวงตา จะใช้เขียนบริ เวณรอบรู ปทรงของตาเพื่อสร้างความหลากหลาย
่
็
ในมุมมองของดวงตาที่จะทาให้ดูโตขึ้น แม้วาวัตถุประสงค์หลักจะมุ่งให้ผหญิงใช้ แต่กมีการขยายไปสู่ ตลาดของกลุ่มผูชาย เรี ยกว่า
ู้
้
กายไลเนอร์ (guy liner)
ชนิดของอำยไลเนอร์
่ ั
• อายไลเนอร์สามารถทาแบบสมัดจ์บางเบา หรื อไว้เน้นดวงตาให้ดูเด่นชัด ขึ้นอยูกบเนื้อของอายไลเนอร์ซ่ ึงมี 4 สู ตรหลักที่มีอยู่
ในตลาด และได้ผลิตแตกต่างกันออกไป
ั
• Liquid eyeliner เป็ นอายไลเนอร์น้ าแบบทึบ มักบรรจุในขวดเล็กและใช้กบแปรงเล็กๆซึ่งจะทาให้เส้นคมแหลมและ
แม่นยา
• Powder-based eye pencil เป็ นดินสออายไลเนอร์ ส่ วนมากจะมาในสี ดาเข้มและด้าน
• Wax-based eye pencils เป็ นดินสออายไลเนอร์ที่มีส่วนผสมของขี้ผ้ ง เวลาเขียนจะมีความนุ่มและช่วยเขียนง่ายขึ้น
ึ
มีสีเข้มและสี อ่อน เช่นสี ขาวหรื อสี เบจ ดินสออายไลเนอร์ที่มีส่วนผสมของขี้ผ้ ง ยังมีจาหนายในรู ปแบบของทรงกรวยหรื อใน
ึ
แบบอัดแข็ง
• Kohl เป็ นผงทาขอบตา มีเนื้อนุ่ม มีเฉดสี ดาเข้มและด้าน มีจาหน่ายแบบดินสอ แป้ งอัดแข็ง หรื อแป้ งฝุ่ น เป็ นชนิดที่นิยมใช้
ที่สุด
• Gel eyeliner มีเนื้อที่นุ่ม สามารถวาดได้ดวยแปรง ซึ่งสามารถวาดได้แม่นยา และมีเนื้อที่นุ่มกว่า Kohl
้
Homepage/สารบัญ
- 18. อำยแชโดว์ คือ เครื่ องสาอางค์ที่ใช้ปัดทาบนเปลือกตาใต้คิ้ว เพื่อให้เกิดมิติความลึกของตาในแต่ละข้าง นอกจากนั้นแล้ว
ยังทาให้ดูแล้วเด่น มีเสน่ห์อีกด้วย อายแชโดว์ มีหลายชนิด และมีสีสันต่างๆ มากมาย โดยปกติแล้วจะทามาจากแป้ ง และไมก้า ใน
บางครั้งอาจจะพบอายแชโดว์ในรู ปของเหลว ดินสอ ได้เช่นกัน
ั
ในประเทศต่างๆ ทัวโลก ส่ วนมากอายแชโดว์ถูกใช้กบเพศหญิง แต่มีบางเป็ นครั้งคราวที่ผชายนามาใช้ โดยเฉลี่ยแล้ว
้
ู้
่
ระยะห่างระหว่างขนตาและขนคิ้วผูหญิงจะเป็ นสองเท่าของผูชาย อายแชโดว์ที่มีสีอ่อนจะดูเหมือนมีพ้ืนที่น้ ีมากขึ้นและดูนุ่มนวลมี
้
้
เสนห์ ดึงดูดให้ชวนมอง
ั
หลายคนใช้อายแชโดว์เพื่อเพิ่มจุดเด่นให้กบดวงตาของแต่ละบุคคล และเป็ นที่นิยมใช้ในโรงละคร การแสดง การละเล่น
่ ั
อื่น ๆ เพื่อสร้างลักษณะที่น่าจดจา โดดเด่น มีสีสดใส หรื อทาให้เกิดอารมณ์ต่างๆ เช่น เศร้าหมอง ของตัวละครได้ ทั้งนี้ข้ ึนอยูกบโทนสี
ผิวและประสบการณ์ของผูแต่งหน้า ผลจากเงาของตาช่วยเพิ่มมิติ มักจะออกมาเย้ายวนใจ และเพิ่มความสนใจได้มากขึ้น
้
Homepage/สารบัญ
- 19. เคล็ดลับกำรใช้ อำยแชโดว์
็
เคล็ดลับข้อแรกที่สาว ๆ ต้องท่องจาให้ข้ ึนใจเมื่อใช้อายแชโดว์กคือ การเบลนด์ เพื่อให้สีที่แต่งแต้มลงไปนั้น มีพ้ืนผิวที่เรี ยบ
สม่าเสมอ กระจายตัวดี และเนียนสนิทไปกับเปลือกตา
เลือกใช้แปรงอายแชโดว์ที่เหมาะสม แปรงสาหรับทาอายแชโดว์น้ นก็มีหลายแบบให้เลือก คุณจาเป็ นต้องเลือกใช้ให้เหมาะสม
ั
กับลักษณะการใช้งาน แปรงหัวตัดเหมาะกับการลากเส้น การลงสี ตองการเห็นขอบเขตชัดเจน ส่ วนการเบลนด์สีให้เนียนต้องยกให้เป็ น
้
หน้าที่ของแปรงหัวกลมมน นอกจากนี้ขนาดของหัวแปรงก็ยงแตกต่างกันไป ซึ่งให้ผลในการแต่งดวงตาที่แตกต่างกันด้วยการแต่งหน้า
ั
แปรงแต่ งตำ VS แปรงทำตำหัวฟองนำ
้
เมื่อนึกถึงตลับอายแชโดว์ที่มกมีแปรงทาตาหัวฟองน้ าให้มาด้วย พาลให้เรานึกสงสัยว่าเจ้าแปรงทาตาหัวฟองน้ านี้ ทาหน้าที
ั
ั
็
แตกต่างจากแปรงแต่งตาแบบพู่กน หรื อแปรงสาหรับอายแชโดว์อย่างไร คาตอบก็คือ แปรงทาตาหัวฟองน้ าจะใช้กต่อเมื่อต้องการสี สัน
็
บนเปลือกตาที่เข้มสดชัดเจน ส่ วนแปรงอายแชโดว์เมื่อใช้แล้วจะไม่ให้เม็ดสี ที่ไม่หนักแน่นเท่า แต่กจาเป็ นในการใช้เบลนด์สีให้เนียน
สวยสม่าเสมอ
เนือแมท VS ประกำยชิมเมอร์
้
ั
อายแชโดว์เนื้อแมทจะให้สีสันที่จด และชัดสดใส แต่อาจจะยากกับคนที่ใช้กบแปรงทาตาหัวฟองน้ า เพราะค่อนข้างเบลนด์สีให้
ั
เนียนสวยได้ยาก ส่ วนอายแชโดว์แบบมีประกายชิมเมอร์จะเบลนด์ให้ดูเนียนเข้ากันได้ง่ายกว่า แต่เมื่อใช้ร่วมกับแปรงทาตาหัวฟองน้ า
่
แล้ว บ่อยครั้งที่ประกายชิมเมอร์เล็ก ๆ เหล่านั้นไปติดค้างอยูตามรอยพับหรื อริ้ วรอยที่เปลือกตา จึงต้องใช้ความพิถีพิถนในการแต่งตา
ั
ด้วยอายแชโดว์ท้ งสองชนิดนี้ต่างกันออกไป
ั
Homepage/สารบัญ
- 20. อำยแชโดว์ เนือเหลว VS เนือครีม
้
้
อายแชโดว์เนื้อเหลวและเนื้อครี ม ให้ความเนียนสวย และความเงาวาวในการทาแก่ดวงตาเป็ นอันมาก สามารถทาลงบนเปลือกตา
ได้ท้ งการใช้ปลายนิ้ว หรื อใช้แปรงพิเศษ (synthetic eyeshadow brush) เพื่อช่วยในการเบลนด์
ั
ใช้ อำยไพรม์ เมอร์ VS ไม่ ใช้ อำยไพรม์ เมอร์
การใช้อายไพรม์เมอร์เตรี ยมพื้นที่เปลือกตาก่อนการแต่งดวงตา จะช่วยควบคุมความมันที่เปลือกตา ทาให้อายแชโดว์ติดได้ทน
นานมากขึ้น และช่วยให้สีสันเด่นชัดมากกว่าการทาลงบนเปลือกตาเปลือย ๆ ด้วย
Homepage/สารบัญ
- 22. ประเภทของบลัชออน
1. บลัชเชอร์ แบบฝุ่ น
ควรใช้ทากับแก้มที่ลงรองพื้น และแป้ งฝุ่ นผัดหน้าแล้ว วิธีการใช้บลัชเชอร์แบบนี้ให้ใช้แปรงปัดแก้มขนนุ่มขนาดใหญ่คลุมบลัชก่อน
แล้วเคาะให้ผงบลัชเชอร์กระจายตัวก่อนทาแก้ม ถ้าคุณเผลอทาบลัชเชอร์บนแก้มมากเกินไป ใช้หลังมือของคุณแตะบลัชเชอร์ออกเบาๆ
ยอมเสี ยบลัชทิงไปสักเล็กน้อยดีกว่าทาเสี ยจนแก้มแดงปลังเหมือนโดนตบ
่
้
ข้ อแนะนำทีดีกคอ ใช้แต่นอยก่อน ถ้าคิดว่ายังมองไม่เห็น ก็ค่อยเพิ่มปริ มาณเป็ นสองเท่า เริ่ มไล้สีตรงส่ วนที่กินบริ เวณมากที่สุดของ
่ ็ื
้
ั
แก้มคุณ ก็คือใต้โหนกแก้ม หรื อสันแก้มตรงตาแหน่งใต้ตา จากนั้นยิมให้กบตัวเองในกระจก และปัดบลัชไล่ข้ ึนตามแนวสันแก้มขึ้นไปหา
้
ขมับ เกลี่ยสี ให้กลมกลืนกับสี ผวขึ้นไปหาแนวตีนผม เพื่อให้ละเมียดละไมเป็ นธรรมชาติ
ิ
2. บลัชแบบครีม
่
บลัชเนื้อครี มเรี ยกได้วาเป็ นการแหกกฎความงามแบบดั้งเดิม เพราะต้องใช้ปลายนิ้วทาแทนที่จะเป็ นแปรง ซึ่งต้องทาลงบนแก้มที่ลง
รองพื้นแล้ว แต่ยงไม่ลงแป้ งฝุ่ น บลัชชนิดครี มมีคุณสมบัติในการมอบความเปล่งปลังสดใสให้แก่ทุกสภาพผิว
ั
่
วิธีใช้ กคอแตะบลัชเชอร์เนื้อครี มสองสามจุดลงบนแก้มของคุณ จากพวงแก้มขึ้นไปหาโหนกแก้ม ใช้ปลายนิ้วของคุณเกลี่ยไล้ทาให้
็ื
กลมกลืน เพิ่มเติมลงไปอีกเพื่อให้ได้ลกษณะตามที่คุณต้องการ คุณอาจใช้ฟองน้ าแต้มรองพื้นมาช่วยเกลี่ยผสมกับบลัชเชอร์ให้กลมกลืนได้
ั
3. บลัชเชอร์ แบบเหลว
มีเนื้ออ่อนใสเป็ นน้ า ซึ่งจะว่าไปแล้วทาให้นึกถึงที่ทาแก้มในยุคโบราณ วิธีใช้กเ็ หมือนกับการใช้บลัชแบบครี ม แต้มสองสามจุดบน
แก้ม และแตะๆๆๆเพื่อไล้สีให้กลมกลืน แต่การใช้บลัชเชอร์แบบเหลวคุณจะทาแป้ งฝุ่ นก่อนก็ได้ และเมื่อแตะบลัชเชอร์เสร็จแล้ว อาจใช้
แป้ งฝุ่ นไล้ทบอีกครั้งให้ดูระเรื่ อเป็ นธรรมชาติ
ั
Homepage/สารบัญ
- 23. ่
วิธีกำรใช้ บลัชเชอร์ โดยทัวไป ควรเริ่ มจากการรู ้จกรู ปหน้าของตัวเอง ดูวาโหนกแก้มสู งไปหรื อว่าหน้าแบนไป และกฎสาคัญก็คือ
่
ั
ทุกๆอย่างให้ง่ายเข้าไว้ พร้อมกับลงทุนซื้อแปรงปัดแก้มดี
ลองกันดูค่ะ
1. จงไปยืนหน้ากระจก และยิม เอามือแตะแก้มบริ เวณที่ตองโดนหมอนเวลานอน จุดนั้นแหละจุดเริ่ ม
้
้
2. ปัดสี บลัชวนเป็ นวง อย่าลืมเคาะแปรงหนึ่งทีก่อนทาบลัช
3. หยุดยิมได้แล้วค่ะ ถึงเวลาปัดแปรงขึ้นปัดแปรงลง
้
4. ถ้าต้องการใบหน้าของเด็กสาวอ่อนวัย แตะแปรงบลัชเชอร์ไปตรงหน้าผาก สันจมูกและคาง เพื่อช่วยสะท้อนแสง
สาหรับคนที่คิดว่าบลัชเชอร์แบบแป้ งไม่เหมาะกับตัวเอง เพราะถือแปรงไม่ถนัด ก็ใช้แบบครี มหรื อแบบเหลว เพราะปลายนิ้วจะ
ช่วยให้คุณได้สัมผัสและสื่ อสารกับผิวแก้ม ทว่าสิ่ งสาคัญคือการเกลี่ยหรื อแตะๆๆ ไม่ใช่ปาดเสี ยจนเป็ นทางม้าลาย อย่าลืมว่าบลัชแบบ
่
ครี มหรื อแบบเหลวสมควรไล้แป้ งฝุ่ นทับเพื่อทาให้ดูวาแก้มของคุณเปล่งปลัง แดงระเรื่ อมาจากเลือดฝาดในแก้มสาว
่
มีผลิตภัณฑ์ประเภทบลัชเชอร์อีกชนิดที่ให้ความงดงามเปล่งปลัง โดยไม่ใช่สีแดงระเรื่ อนันคือผลิตภัณฑ์บรอนเซอร์ที่จะทาให้
่
่
ใบหน้าของคุณดูเรื องรอง วาวใสเหมือนไปโดนแดดมา เวลาเลือกสี อย่าใช้บรอนเซอร์ที่มีสีเข้มกว่าเฉดผิวสี แทนตามธรรมชาติของคุณ
บรอนเซอร์มีเนื้อผลิตหลายแบบ อย่างเป็ นแป้ ง เป็ นเจล เป็ นครี ม ทุกชนิดล้วนทาให้แก้มของคุณดูระเรื่ อเรื องรอง และเซ็กซี่
อย่างไรก็ดี ถ้าไม่ใช่บรอนเซอร์แบบแป้ ง ซึ่งต้องใช้ร่วมกับพัฟหรื อแปรงปัดแล้ว นันหมายความว่าคุณต้องพึ่งปลายนิ้ว ซึ่งบ่อยครั้งที่
่
เมื่อบรอนเซอร์แห้งแล้วแก้มยังไม่แวววาวพอทั้งที่ความเข้มของสี เป็ นตามที่ตองการ วาสลีนคือตัวช่วยชั้นดีให้คุณทาทับเพิ่มความวาวใส
้
Homepage/สารบัญ
- 25. ลิปสติกเป็ นผลิตภัณฑ์เครื่ องสาอางประเภทหนึ่ง ที่มีการใช้อย่างกว้างขวาง ส่ วนใหญ่ผใช้จะทาริ มฝี ปาก เพื่อช่วยให้ชุ่ม
ู้
ชื้นไม่แห้ง ช่วยปกป้ องผิวของริ มฝี ปากจากสิ่ งกระทบภายนอก ช่วยแต่งเติมรู ปปากให้สวยงามขึ้น แต่งสี ให้เด่นสะดุดตาแลดูงดงาม
ดึงดูดความสนใจจากผูพบเห็น เป็ นต้น แต่เนื่องจากลิปสติกเป็ นเครื่ องสาอางที่มกจะมีการกลืนกินเข้าไปในร่ างกายได้ ดังนั้น จึงต้อง
้
ั
เลือกซื้อและใช้ลิปสติกด้วยความระมัดระวังเป็ นพิเศษ เพราะถ้าลิปสติกที่เลือกซื้อและใช้ไม่ได้มาตรฐานก็จะเป็ นอันตรายต่อร่ างกาย
่
โดยส่ วนประกอบต่างๆของลิปสติก จะมีสารให้ความชุ่มชื้นแก่ผวริ มฝี ปาก และช่วยให้ลิปสติกนั้นคงรู ปอยูได้ สี ที่ใช้ตองเป็ นสี ที่
ิ
้
กระทรวงสาธารณสุ ขอนุญาตให้ใช้ในลิปสติก ส่ วนประกอบเสริ มจะมีสารที่ทาให้คุณภาพของผลิตภัณฑ์ดีข้ ึน หรื อมีความคงตัวดีข้ ึน
ั
เช่น น้ าหอม สารแต่งกลิ่นแต่งรส วัตถุที่ใช้กนเสี ยและสารป้ องกันแสงแดด เป็ นต้น
Cream คือ ลิปสติกที่มีเนื้อสี เข้มข้นมากเป็ นพิเศษ มักมัส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ชนิดต่างๆ เช่น Emollient
วิตามินซีหรื อวิตามินอี ช่วยให้เนื้อลิปสติกมีความเนียนลื่นทาได้ง่าย ไม่มีคราบติดตามร่ องริ มฝี ปาก ทั้งยังให้ความชุ่มชื้นกับริ มฝี ปากอีก
่
ด้วย ข้ อแนะนำ ลิปสติกชนิดนี้เหมาะสาหรับสาวที่มีริมฝี ปากได้รูปสวยอยูแล้ว เพราะจะทาให้ริมฝี ปากดูเอิบอิ่มยิงขึ้น สาหรับสาวที่มีรูป
่
ปากหนาหรื อริ มฝี ปากไม่ได้รูป ควรหลีกเลี่ยงลิปสติกชนิดนี้เพราะเนื้อครี มที่เข้มข้นจะยิงเน้นให้ริมฝี ปากคุณดูหนายิงขึ้น
่
่
Frost คือ ลิปสติกอีกชนิดหนึ่งที่มีเนื้อสี เข้มข้น แต่จะแตกต่างจากลิปสติกชนิด Cream ตรงที่จะมีส่วน
ของ Glitter ซึ่งเมื่อสะท้อนกับแสงจะเกิดเป็ นประกายระยิบระยับ ทาให้ริมฝี ปากดูเปล่งปลังสดใส ข้ อแนะนำ ลิปสติกชนิดนี้เหมาะ
่
สาหรับสาวที่มีริมฝี ปากค่อนข้างบาง เพราะประกายระยิบระยับของเนื้อลิปสติกจะช่วยให้ริมฝี ปากดูสว่างและมีความโดดเด่นยิงขึ้น
่
Matt คือ ลิปสติกที่มีความเข้มข้นของเนื้อสี มากที่สุด ปราศจากความเงามัน มีส่วนผสมที่ช่วยให้เนื้อลิปสติกแห้งไม่
ลบเลื่อนง่าย ปัจจุบนลิปสติกชนิดนี้มีให้คุณเลือกด้วยกันหลายรู ปแบบ ทั้งเนื้อเมทท์ปกติ Glitter Matt ที่เพิมประกายระยิบระยับ
ั
่
เล็กน้อย ให้ริมฝี ปากคุณมันเงา ช่วยให้เรี ยวปากดูอวบอิ่มยิงขึ้น ข้ อแนะนำ เวลาทาลิปสติกชนิดนี้ไม่ควรทาในปริ มาณที่มากเกินไป
่
เพราะจะทาให้ปากดูแห้งหนาไม่มีชีวตชีวา
ิ
Homepage/สารบัญ
- 26. คุณสาวๆ หลายคนมักจะทุ่มสุ ดตัวในการดูแลและปัจจัยที่สาคัญก็คือ เรื่ องเงินซึ่งบางครั้งการซื้อเครื่ องสาอางมาใช้บาง
สิ่ งบางอย่างก็ไม่มีความจาเป็ นหรื อซื้อมาก็ไม่ได้ใช้ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ทาให้สิ้นเปลืองเงินทองโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้นจึงมีวธีการ
ิ
เลือกซื้อเครื่ องสาอางที่จาเป็ นในการแต่งหน้ามาฝาก รับรองเมื่อคุณนาไปปฏิบติเงินในกระเป๋ าของคุณยังอยูเ่ ต็มเหมือนเดิมแน่นอน
ั
่ ้
เครื่ องสาอางที่จาเป็ นของการแต่งหน้ามีอยูดวยกันไม่หลายชิ้น โดยเฉพาะคุณผูหญิงที่ตองแต่งหน้าตัวเองออกจากบ้าน
้
้
หรื อไปทางาน ซึ่งการแต่งหน้าของผูหญิงกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มกจะใช้เฉพาะแป้ งและลิปสติกเท่านั้น สาเหตุมาจากแต่งหน้าไม่เป็ น หรื อไม่
้
ั
รู ้จะเลือกใช้สีสันของเครื่ องสาอางอย่างไรให้เหมาะสมกับตัวเอง อีกทั้งเครื่ องสาอางแต่ละชนิดมีอายุการใช้งานที่จากัด เมื่อถึงเวลาที่
็ ้ ้
หมดอายุกตองทิง
จนบางครั้งเกิดอาการเสี ยดาย จะไม่เสี ยดายได้อย่างไรกัน ก็เครื่ องสาอางแต่ละชิ้นราคาเป็ นพันบาท อย่างลิปสติกแท่ง
หนึ่งราคาประมาณ 500 บาท อายุการใช้ได้แค่ 2 ปี เมื่อคุณมีลิปสติกหลายๆ แท่งเชื่อว่าคุณทาไม่หมดแน่ในเวลาดังกล่าว เพราะฉะนั้น
การเลือกซื้อเครื่ องสาอางเฉพาะทีมีความจาเป็ นจึงเป็ นวิธีหนึ่งที่คุณต้องศึกษา อย่างเช่น
Homepage/สารบัญ
- 27. Buying a two-way mirror. มาใช้แทนครี มรองพื้น ซึ่งการใช้แป้ งทูเวย์น้ ีจะช่วยในเรื่ องของการสะดวก
ในการใช้ ที่ไม่ตองเสี ยเวลาอีกทั้งวิธีการทาก็ง่าย
้
The eyeshadow colors are used. ควรเลือกซื้อสี ที่ออกเป็ นสี กลาง คือ ออกโทนน้ าตาลเพราะสี
ดังกล่าวสี้ สามารถแต่งตาได้ทุกเฉดสี ของการแต่งหน้าและสี ของเสื้ อผ้า ส่ วนสี บลัชออนที่ใช้ ควรเลือกซื้อไว้สองสี คือ สี ชมพู และสี
่
น้ าตาลอมส้ม ซึ่งสี ท้ งสองนี้คุณสามารถใข้ได้ตลอดเวลาไม่วาคุณต้องการแต่งหน้าไปทางาน หรื อไปงานเลี้ยงตอนกลางคืน
ั
Light and dark lipstick. อย่างละหนึ่งแท่ง จะเป็ นโทนสี อะไรก็ได้ท้ งนี้ตองดูสีผวของคุณเป็ นหลักในการ
ั ้
ิ
เลือก เช่น คุณเป็ นคนผิวเข้มสี ลิปสติกที่เหมาะสมกับตัวคุณมากที่สุดก็คือสี น้ าตาล ส่ วนคนที่มีผวขาวสามารถใช้ลิปสติกได้ทุกเฉดสี
ิ
ั
For Mascara นั้นควารเลือกใช้มาสคาร่ าสี ดา ดินสอเขียนคิว สี น้ าตาลซึ่งสี เหล่านี้สามารถใช้ได้กบทุกโอกาส
้
และทุกสี ผว
ิ
TIPS เมื่อเลือกซื้อเครื่ องสาอางได้แล้วคราวนี้มาดูการดูแลรักษาเครื่ องสาอางกันบ้าง ซึ่งเครื่ องสาอางแต่ละชนิดมี
วิธีการดูแลรักษาไม่เหมือนกัน เครื่ องสาางแบ่งเป็ น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือCosmetics skin care และColorful
cosmetics ซึ่งเครื่ องสาอางแต่ละชนิดก็มีวธีดูแลรักษาและข้อมูลการใช้ที่แตกต่างกัน การดูแลรักษาเครื่ องสาอางก็
ิ
ไม่ยากเพียงแต่ระมัดระวังตามข้อต่อไปนี้
Do not keep cosmetics at very high temperatures. เช่น ในรถยนต์ที่ตองจอดตากแดดทิ้งไว้
้
หรื อ ห้องที่รับความร้อนของแสงแดดมากๆ เพราะอุณหภูมิดงกล่าวจะทาให้เครื่ องสาอางเสื่ อมคุณภาพ
ั
Homepage/สารบัญ
- 28. No need to store it in the refrigerator cosmetics. ยกเว้นเครื่ องสาอางที่มีส่วนผสมที่ไวต่อ
ความเปลี่ยนแปลงของอากาศ แสง และความร้อน เช่น เครื่ องสาอางที่มีส่วนผสมของ วิตามินเอ วิตามินซี หรื อประเภทโปรตีนต่างๆ
่
ควรเก็บไว้ในอุณหภูมิที่เย็นเป็ นต้น ซึ่งส่ วนมากเครื่ องสาอางแต่ละชนิดจะบ่งบอกวิธีการเก็บรักษาไว้ที่ฉลากหรื อ บรรจุภณฑ์อยูแล้ว
ั
ดังนั้นควรศึกษาหรื อทาความเข้าใจอย่างละเอียดก่อนเก็บรักษา
Avoid using cosmetics cosmetics produced using fingers. ออกจากบรรจุภณฑ์
ั
โดยตรง หรื อใช้ลิปสติกชนิดแท่งทาที่บริ เวณริ มฝี ปากโดยตรง เพราะการใช้ดงกล่าวจะทาให้เครื่ องสาอางเสื่ อมคุณภาพ และเสี ยได้
ั
ดังนั้นควรใช้อุปกรณ์สะอาดช่วยตักเครื่ องสาอาง หรื อใช้พ่กนทาปากและก่อนหรื อหลังใช้ควรทาความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ ให้สะอาด
ู ั
็
อยูเ่ สมอ เท่านี้กสามารถทาให้การเก็บรักษาเครื่ องสาอางของคุณถูกวิธีและยืดอายุการใช้งานของเครื่ องสาอางของคุณได้นานมากขึ้น
Homepage/สารบัญ