SlideShare a Scribd company logo
1 of 55
ชื่อโครงงาน(ภาษาไทย) : รู้ทันป้องกันสิว
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) : Get rid of acne
ชื่อผู้ทาโครงงาน 1. นางสาว พรนภา ชัยชนะ
2. นางสาว ชญานิศ นนทธรรม
ชื่อคุณครูที่ปรึกษา คุณครู เขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
ผู้จัดทาเห็นว่าวัยรุ่นสมัยนี้รักสวยรักงามกันมากขึ้น และ สนใจ
สุขภาพตัวเองให้มีชีวิตที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งใบหน้าเป็นจุดที่ทุกคนต้อง
มองกัน บ้างคนอาจจะหน้าตาดี บางคนหน้าตาดีแต่เป็นสิว ก็จะเครียด
ว่าจะทาไงให้สิวหาย นั้นทาให้ผู้คนเหล่านั้นมีสิวมากกว่าเดิมจาก
ความเครียด เราจึงอยากนาเสนอวิธีที่ถูกต้องให้กับผู้อ่านทุกคน ภายใน
งานชิ้นนี้ ได้บอกสาเหตุ วิธีป้องกัน และ สิวที่เกิดขึ้นบนใบหน้าสามารถ
บอกโรคได้ด้วยน่ะ อย่าลืมติดตามกันในงานชิ้นนี้น่ะค่ะ...
รู้ทันป้องกันสิว
(Get rid of acne)
• สิวเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ?
• สาเหตุของการเกิดสิว
• ปัจจัยที่กระตุ้นการเกิดสิว
• ประเภทของสิว
• วิธีการรักษาสิว
• ปัญหาที่พบบ่อย
• สิวบอกโรค
• แหล่งที่มา
Content
คลิกเพื่อไปยังหัวข้อ
สารบัญ
สิวคืออะไร ?
What is acne ?
เป็นปัญหาที่พบบ่อยมากในวัยหนุ่มสาว วัยรุ่นบางคนเห็นเป็นเรื่องธรรมดา
ไม่ใส่ใจที่จะรักษาถ้าเป็นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากทราบว่าหายได้เอง แต่คนส่วนใหญ่ที่รัก
สวยรักงามมักจะพยายามรักษา เพราะสิวมักพบที่ใบหน้า และส่วนบนของลาตัว เมื่อหาย
แล้วก็มักจะทิ้งรอยแผลเป็น
จากสถิติของสถาบันโรคผิวหนัง สิวเป็นสาเหตุที่ทาให้ผู้ป่วยมาพบแพทย์สูงเป็น
อันดับที่ 2 ของผู้ป่วยทั้งหมด โดยเป็นชายร้อยละ 33 และหญิงร้อยละ 67 สิวจะปรากฏ
อาการในผู้หญิงช่วงอายุ 14-17 ปี และในผู้ชายช่วง
อายุ 16-17 ปี ความรุนแรงของสิวจะมากขึ้น 3-5 ปี
หลังจากเริ่มเป็นสิวและมักหายไปในช่วงอายุ 20-25 ปี
ร้อยละ 85 ของผู้ที่เป็นสิวจะเป็นชนิดไม่รุนแรง
มีเพียงร้อยละ 15 ที่เป็นสิวอักเสบชนิดรุนแรง
menu
เมื่ออายุพ้นวัยรุ่นไปแล้ว สิวจะค่อยๆ ทุเลา ยกเว้นผู้ป่วยบางรายยังคงเป็นสิวมากจน
สมควรจะต้องรักษาเมื่ออายุถึง 35 ปี หรือมากกว่านั้น นอกจากนี้ยังพบว่าในวัย 40
ปี ร้อยละ 1 ของผู้ชาย และร้อยละ 5 ของผู้หญิงยังคงเป็นสิว
การที่พบผู้หญิงเป็นสิวเมื่อเลยวัย 25 ปี
ไปแล้วมากกว่าผู้ชายอาจจะเป็นเพราะผู้หญิงมี
การใช้เครื่องสาอางเพื่อเสริมสร้างความงาม
ซึ่งเครื่องสาอางที่ใช้อาจเป็นสาเหตุสาคัญที่ทาให้
เกิดสิว (cosmetic acne)
menu
สาเหตุของการเกิดสิว
cause of acne
1. เกิดจากการหนาตัวของชั้น corneum
การหนาตัวของชั้น corneum (hyper-cornification) ที่ท่อของรูขุมขนซึ่ง
ต่อมไขมันมาเปิดเชื่อมต่อ การหนาตัวเกิดจากการระคายเคืองจากไขมัน
(sebum) จากต่อมไขมัน และการที่กรด linoleic ในไขมันมีปริมาณลดลง
menu
2. Testosterone
Testosterone ในกระแสเลือดเปลี่ยนไปเป็น dihydrotestosterone ในเนื้อเยื่อ
โดยอาศัยเอนไซม์ 5-a reductase dihydrotestosterone ในเนื้อเยื่อ ซึ่งเป็น
ตัวกระตุ้นให้ต่อมไขมัน
มีขนาดใหญ่ขึ้น และหลั่งไขมันออกมามากขึ้น เนื่องจากในไขมันมีส่วนประกอบของสาร
free fatty acid, squalene และ squalene oxide ซึ่งเชื่อกันว่าสารเหล่านี้เป็น
ตัวกระตุ้นให้เกิดสิว
menu
3. แบคทีเรีย
แบคทีเรียที่สาคัญ คือ Propionibacterium acnes (P. acnes)
เชื้อตัวนี้ย่อยไขมันจากต่อมไขมันให้เป็น free fatty acid โดยอาศัย
เอนไซม์ lipase นอกจากนั้น P. acnes ยังหลั่งเอนไซม์
protease,hyaluronidase และ low molecular weight
chemotactic factor ซึ่งสารเหล่านี้จะทาให้เกิดกระบวนการอักเสบ
menu
4. การตอบสนองของร่างกาย
การตอบสนองของร่างกายเป็นสาเหตุข้อหนึ่งในการเกิดสิว โดยพบว่า
ผู้ที่เป็นสิวอย่างรุนแรงจะมีปริมาณของแอนติบอดีต่อ P. acnes มาก
ขึ้นกว่าคนปกติทั่วไปมาก
menu
ปัจจัยอื่นที่กระตุ้นให้เกิดสิว
other factor of acne causing
1. พันธุกรรม
ได้มีการศึกษาถึงความสาคัญของพันธุกรรมในการทาให้เกิดสิวและมี
เหตุผลสนับสนุนคือ
ในเด็กที่เป็นสิวจะมีพ่อหรือแม่เป็นสิว 45% แต่ในเด็กที่ไม่เป็นสิวจะมี
พ่อหรือแม่เป็นสิวเพียง 8% เท่านั้น
menu
2. ยา
ทั้งยาทาและยารับประทานหลายชนิดอาจทาให้เกิดสิว หรือทาให้เกิดสิว
เห่อมากขึ้น
ยาบางอย่างทาให้เกิดสิวเฉพาะคนบางคน แต่คนเป็นจานวนมากได้รับยา
อย่างเดียวกันนั้นอาจไม่เกิดสิว ยาที่เป็นสาเหตุทาให้เกิดโรคสิวอย่าง
แน่นอนและก่อโรคในคนส่วนใหญ่
ได้แก่ corticosteroids ทั้งยารับประทาน
และยาทา, androgens รวมทั้ง
anabolic steroids และ
gonadotropins
menu
3. เครื่องสาอาง สบู่ น้ามันใส่ผม ก็ทาให้เกิดสิวได้ (cosmetic
acne, acne detergicans, pomade acne) เครื่องสาอางที่มี
ส่วนผสมของ olive oil, white petrolatum lanolin สบู่ที่มีส่วนผสม
ของ tar, sulfur หรือยาปฏิชีวนะ เช่น hexachlorophene ซึ่งสาร
เหล่านี้สามารถกระตุ้นให้เกิดสิวได้
menu
4. Premenstrual acne มีรายงานว่าร้อยละ 60-70 ของผู้หญิงที่
เป็นสิวจะมีสิวมากขึ้นใน 1 สัปดาห์ก่อนมีประจาเดือน เนื่องจากฮอร์โมน
โปรเจสเตอโรนที่หลั่งออกมามากในช่วงนั้นทาให้มีการคั่งของน้าใน
ร่างกาย รูขุมขนจะบวมมากขึ้น การไหลผ่านของไขมันเป็นไปได้ไม่ดี
สิวมักเห่อใน 2-3 วันต่อมา
menu
5. ภาวะเครียด กระตุ้นให้เกิดสิวหรือไม่นั้นยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด แต่มี
บางรายงานที่กล่าวว่าสิวเห่อมากขึ้นในช่วงที่เครียดจากการสอบ
อย่างไรก็ตาม สิวทาให้เกิดภาวะเครียดเนื่องจากทาให้ใบหน้าดูไม่ดี ทา
ให้ผู้ป่วยบีบหรือแกะสิว ซึ่งมีผลทาให้สิวอักเสบ รุนแรงมากขึ้น
menu
6. อาหาร เดิมเชื่อว่าอาหารบางชนิด เช่น ช็อกโกแลต, อาหารที่มีไขมัน
มาก มีผลทาให้สิวเห่อ แต่จากการศึกษาไม่พบความสัมพันธ์ระหว่าง
อาหารกับความรุนแรงของสิว
menu
ประเภทของสิว
Type of acne
สิวเสี้ยน มักจะพบมากบริเวณจมูก ลักษณะเป็นจุดดาๆหรือเห็นเป็น
หนามแหลม สีขาว เป็นสิวที่เกิดจากการอุดตันของไขมันที่จับตัวเข้ากับ
เยื่อรูขุมขนที่หลุดลอกออก และขนอ่อนที่ตกค้างในรูขุมขน เวลากดสิว
ไขมันก็จะหลุดออกมาเป็นสิวเสี้ยน
menu
สิวผด หรือสิวเทียม เป็นผดเม็ดเล็ก ๆ ที่ขึ้นแถว ๆ หน้าผากและแก้ม
ลักษณะไม่เป็นสิวชัดเจน แพทย์บางท่านจึงเรียกว่า สิวเทียม เพราะไม่มี
คอมิโดน (Comedone) หรือไม่เกี่ยวกับต่อมไขมัน
menu
สิวหัวเปิด หรือสิวหัวดา คือสิวที่มีรูเปิดออกบริเวณผิวภายนอก ทาให้
บริเวณที่เป็นหัวสิว สัมผัสกับแสงแดดและฝุ่นละออง ซึ่งจะสังเกตเห็นเป็น
จุดดา ๆ อยู่บริเวณหัวสิว แต่มักไม่อักเสบ และสามารถหลุดออกได้เอง
menu
สิวอุดตัน หรือ สิวหัวขาว เกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถขับถ่าย
ไขมันบริเวณรูขุมขนออกมาได้ จึงเกิดการสะสมเป็นก้อนอุดตันอยู่ภายใน
(คอมิโดน) เป็นก้อนนูนเล็กๆพบได้ทั่วไปบริเวณใบหน้าหน้าอก หรือ
หลัง ซึ่งจะเป็นต้นเหตุของการเกิดสิวอักเสบต่อไป
menu
สิวอักเสบ เกิดขึ้นมาจากสิวอุดตัน หรือสิวหัวขาวที่มีการติดเชื้อแบคทีเรีย ทาให้เกิดการอักเสบ
เห็นเป็นรอยนูนแดงได้อย่างชัดเจน ถ้าการอักเสบนี้อยู่บริเวณต้น ๆ ของท่อไขมัน ก็จะเห็นเป็น
ตุ่มหนอง ถ้าอยู่ลึกลงไป จะเห็นเป็นก้อนนูนบวมขึ้นมา แต่หากมีการอักเสบที่รุนแรงมาก และลึก
ลงไปใต้ชั้นผิวหนังจนกลายเป็นถุงหนองฝังอยู่ภายใน จะเรียกว่า สิวหัวช้าง หรือสิวอักเสบ
นั่นเอง สิวชนิดนี้ เป็นชนิดที่ทาให้วัยรุ่นขาดความมั่นใจมากที่สุด เพราะเป็นสิวชนิดที่สังเกตเห็น
ได้ง่าย ทาให้หน้าไม่เรียบ โดยเฉพาะจะดูบวมแดงไม่สวยงาม และยังมักจะทิ้งปัญหารอย
แผลเป็นเอาไว้อีกด้วย
menu
วิธีการรักษาสิว
How to get rid of acne ?
1. รักษาความสะอาดของร่างกาย ใบหน้า เส้นผม อย่าปล่อยให้ใบหน้าสกปรกจน
มีไขมันอุดตันอยู่เป็นจานวนมาก แต่ห้ามทาการล้างหน้าด้วยน้าเย็นในทันที เพราะ
จะทาให้รูขุมขนปิดตัวลงโดยที่สิ่งสกปรกยังคงอุดตันอยู่ที่รูขุมขน ดังนั้น ควรที่จะใช้
ผ้าเช็ดสิ่งสกปรกบนใบหน้าออกก่อน แล้วจึงล้างหน้าด้วยน้าสะอาด และอย่าลืมล้าง
มือก่อนล้างหน้า ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่าเรากาลังนาน้าล้างมือมาล้างหน้าเป็นการ
เพิ่มความสกปรกให้กับใบหน้าโดยไม่ทันรู้ตัว
menu
2. หลีกเลี่ยงเครื่องสาอางที่อาจก่อให้เกิดสิว โดยเลือกใช้เครื่องสาอาง
แบบที่ไม่อุดตันรูขุมขน (Noncomedogenic) หรือแบบที่ไม่มีไขมัน
(Oil-Free) ซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงการทาให้เกิดสิวได้
menu
3. พยายามอย่ารบกวนผิวหน้า เช่น การบีบ กดสิว ขัดนวดใบหน้า
เช็ดถูอย่างรุนแรง หรือบ่อยจนเกินไป เมื่อทาการล้างหน้าด้วยใช้
ผ้าขนหนูซับใบหน้าเบาๆ ซึ่งจะอ่อนโยนกับผิวหน้ามากกว่า และการ
รักษาสิวโดยการขัดหน้านั้น มีข้อเสียคือจะทาให้หน้ามีความบางลง
เรื่อยๆ เมื่อถูกแสงแดดจะเกิดอันตรายและยังเสี่ยงต่อการเกิดกระ หรือ
ฝ้าได้ง่ายอีกด้วย
menu
4. พักผ่อนให้เพียงพอ และควรนอนก่อน 5 ทุ่ม ถ้าเข้านอนสี่ทุ่มได้ยิ่งดี
ใหญ่
menu
5. ออกกาลังกาย เมื่อออกกาลังกาย เหงื่อจะช่วยผลักดันสิ่งสกปรก
ออกมาจากรูขุมขน ซึ่งเป็นการทาความสะอาดรูขุมขนไปในตัว
นอกจากนี้ยังช่วยทาให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
menu
6. กาจัดความเครียด ถ้าหากสิวขึ้น แนะนาว่าให้ยิ้มสู้ เพราะยิ่งเครียด
มากเท่าไหร่ สิวก็จะยิ่งมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
menu
7. พยายามขับถ่ายทุกวัน การปลดถ่ายหนักช่วยขับกากของเสียออกจาก
ร่างกาย สาหรับคนที่มีปัญหาท้องผูกทาให้ไม่ค่อยสามารถขับถ่ายได้นั้น
ให้ลองเปลี่ยนมาทานอาหารประเภทผักและผลไม้ ที่มีใยอาหารมากๆ
ซึ่งจะมีผลช่วยให้ร่างกายมีการขับถ่ายที่ดีขึ้น
menu
8. ทานอาหารให้ครบห้าหมู่ โดยเฉพาะผักและผลไม้ ควรระวังอย่า
ทานอาหารทะเลติดต่อกันทุกวัน เป็นที่ทราบกันดีว่าการทานอาหาร
ทะเลจานวนมากจะกระตุ้นให้เกิดสิว แต่ถ้าหากกินในปริมาณปกติเพียง
เล็กน้อย ร่างกายก็จะยังสามารถขับออกได้ทัน
menu
9. การใช้ยากินหรือยาทาสาหรับการรักษาสิวโดยเฉพาะ การรักษาสิว
โดยวิธีการใช้ยานั้น เพื่อความปลอดภัยควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
เนื่องจากสภาพผิวหนังและการแพ้สารบางชนิดในยาอาจมีความแตกต่าง
กัน
menu
10. การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดความมันบนใบหน้า การลดความมันบน
ใบหน้าโดยการใช้กระดาษซับมัน สามารถช่วยลดความมันได้
เพียงชั่วคราว เพราะต่อมไขมันก็จะผลิตไขมันออกมาทดแทนในส่วนที่
หายไปอยู่ดี วิธีแก้ไขที่ถูกต้องคือ ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยควบคุมความมันและ
ลดการเกิดไขมัน ที่สาคัญคือควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกระชับรูขุมขน
ให้เล็กลง ซึ่งจะทาให้การผลิตไขมันน้อยลงไปด้วย
menu
ปัญหาที่พบบ่อย
Question : อายุ 29 ปี เป็นสิวเรื้อรังไม่หายสักทีทั้ง
ที่ใบหน้าก็ไม่มัน ยิ่งช่วงมีประจาเดือนจะยิ่งเห่ออักเสบ
มาก ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร?
menu
Answer :
สิว (Acne) เป็นปัญหากวนใจที่พบได้บ่อยมากโดยเฉพาะในวัยรุ่น เกิดจากการที่รุขุมขนอุดตันทาให้น้ามันซึ่งผลิตจากต่อมไขมันระบายออกสู่
ภายนอกไม่ทัน เกิดสิวอุดตัน เรียกว่า คอมิโดน (Comedone) ตามมา รูขุมขนเหล่านี้จะอุดตันได้เพราะปัจจัย 2 ข้อ คือ
1. ทางเปิดของรูขุมขนอุดตันทั้งๆที่ต่อมไขมันทางานตามปกติ พบได้จากแรงกระทา เช่น การนวด ขัด หรือสครับผิวอย่างรุนแรง ทาให้ขี้
ไคลชั้นบนมีการเคลื่อนไปอุดตามท่อของรูขุมขน นอกจากนี้ยังพบได้จากสารเคมีจาพวกน้ามันเครื่องสาอาง เช่น ครีมบารุงผิว ครีมรอง
พื้น มีการไหลย้อยไปอุดตามท่อรูขุมขน การทาครีมรองพื้นเป็นประจาหรือใช้ครีมบารุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ามันจึงมักเกิดสิวได้ง่าย
สุดท้ายคือพระเจ้าลงโทษให้ใบหน้ามีขนอ่อนๆอุดอยู่ตามรูขุมขน ทาให้รูขุมขนขนาดปกติเมื่อถูกเส้นขนอ่อนๆเหล่านี้เบียดอยู่ก็จะทาให้
ขนาดรูขุมขนยิ่งเล็กลงไปอีก เมื่อต่อมไขมันผลิตน้ามันออกมาจึงมักอุดตันตามรูขุมขนได้ง่าย เกิดเป็นคอมิโดนให้เห็น ลองสังเกตดูใครที่มี
สิวเรื้อรัง หากสังเกตใบหน้าบริเวณที่เป็นสิวเรื้อรังใกล้ๆมักพบขนเล็กๆอุดตามรูขุมขนเต็มไปหมด ซึ่งเชื่อว่าคนเหล่านี้มีฮอร์โมนเพศชาย
ในร่างกายสูงผิดปกติ
2. ต่อมไขมันผลิตน้ามันมากเกินไปจนระบายออกทางรูขุมขนไม่ทัน ปัจจัยกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ามันมากกว่าปกติคืออุณหภูมิและ
ฮอร์โมนเพศในร่างกาย...อุณหภูมิยิ่งสูง ต่อมไขมันจะยิ่งทางานเยอะผลิตน้ามันออกมาเยอะ สิวจึงเป็นโรคเมืองร้อนอย่างบ้านเรา และยิ่ง
เห่อในช่วงฤดูร้อน ฮอร์โมนที่ทาให้เกิดสิวได้ง่ายคือฮอร์โมนเพศชาย (Androgen) หรือฮอร์โมนโปรเจสเทอโรน (Progesterone)
ซึ่งกระตุ้นการทางานของต่อมไขมัน คนที่มีฮอร์โมนเพศชายในร่างกายสูงจึงมักมีใบหน้ามัน เป็นสิวง่าย มีขนดกตามใบหน้าและ
ลาตัว สาหรับฮอร์โมนโปรเจสเทอโรนพบได้ขณะมีประจาเดือน ทาให้เกิดสิวบริเวณคาง ด้านข้างใบหน้า หัวคิ้ว มีลักษณะเป็นตุ่ม
แดงเพียง 2-10 จุด พบได้แทบทุกเดือนและสามารถหายเอง นอกจากนี้ยังพบออร์โมนชนิดนี้ได้จากการรับประทานยาคุมกาเนิด
menu
Question : จะมีวิธีรักษาได้อย่างไรบ้างคะ เพราะไม่
อยากมีรอยแผลเป็นจากสิว ?
menu
Answer :
เริ่มจากการป้องกันไม่ให้รูขุมขนอุดตัน โดยการไม่ล้างหรือเช็ดหน้าแบบถูไปมา ควรใช้วิธีล้างและซับหน้า
เบาๆแทน และไม่ควรล้างหน้าเกิน 4 ครั้งต่อวัน เพราะเป็นการรบกวนผิวมากเกินไป นอกจากนี้ควร
หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีน้ามันเป็นส่วนผสม ควรใช้ผลิตภัณฑ์ประเภท Oil Free แทน ไม่ใช้ครีมรองพื้น
โดยไม่จาเป็น นอกจากนี้ควรป้องกันสาเหตุที่ทาให้ต่อมไขมันทางานมากกว่าปกติทั่วไป เช่น การอยู่ในที่
ที่มีอากาศร้อนอบอ้าวเป็นเวลานานๆ หลีกเลี่ยงการรับประทานยาคุมกาเนิดหรือฮอร์โมนบ้างชนิดโดยไม่
จาเป็น แต่หากป้องกันแล้วสิวที่มีอยู่ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ก็ควรรักษาไปพร้อมๆกันโดยทายาเบนซอยล์
เปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) เข้มข้น 5% ทาทิ้งไว้ทั่วใบหน้า 5-10 นาทีเพื่อเปิดรูอุดตันก่อน
ล้างหน้า ตามด้วยการแต้มคลินดาไมซินโลชั่น (1% Clindamycin Lotion) เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียซึ่ง
ก่อให้เกิดสิวอักเสบ จะทาให้สิวที่มีอยู่เดิมหายได้เร็วขึ้น ซึ่งยาเหล่านี้สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา
ทั่วไป หากยังไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์เพื่อรับประทานยาร่วมด้วย...เพียงเท่านี้เรื่องสิวก็จะเป็นเรื่องขี้ปะติ๋ว
ในพริบตา
menu
สิวบอกโรค
คุณเป็นสิวบริเวณไหน? มาดูกันว่าจะสามารถเป็นโรคอะไรได้บ้าง
menu
CLICK!!!
สิวบอกโรค : โซนที่ 1 และโซนที่ 3 ถ้ามีปัญหาสิวบริเวณนี้
คุณอาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ดังนั้นอาจต้องดื่มน้า
มากขึ้นหรือทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
menu
Again
สิวบอกโรค : โซนที่ 2 สิวบริเวณหว่างคิ้ว เกี่ยวกับ
ตับ อาจมีปัญหาในการย่อยแลคโทส (ดื่มนมไม่ได้) การทาน
อาหารรสจัดหรือทานอาหารดึกเกินไป
menu
Again
สิวบอกโรค : โซนที่ 4 และโซนที่ 10 ผิวบริเวณหูนี้
เป็นผลพวงของไต หากรู้สึกร้อนที่หู คุณอาจต้องลดการ
รับประทานเนื้อสัตว์ลง
menu
Again
สิวบอกโรค : โซนที่ 5 และโซนที่ 9 บริเวณแก้มทั้งสองด้าน
โดยแก้มส่วนบนจะเกี่ยวข้องกับไซนัสและปอด ส่วนแก้มส่วนล่าง
เหงือกและฟัน สาเหตุอาจเป็นเพราะสูบบุหรี่จัด หรือแพ้ควัน
บุหรี่ ภูมิแพ้ เป็นหวัดเรื้อรัง หรืออาจใช้บลัชออนและรองพื้นไม่
เหมาะสม ถ้าเป็นริ้วรอยลึกบริเวณโหนกแก้มอาจบ่งบอกถึง
ปัญหาเรื่องปอดหรือการหายใจ ถ้ามีสิวแบบเป็นๆ หายๆ ที่
แก้มด้านล่างอาจมีปัญหาเรื่องเหงือกและฟัน หรือ
โทรศัพท์มือถือไม่สะอาด
menu
Again
สิวบอกโรค : โซนที่ 6 และโซนที่ 8 ตาแหน่งรอบดวงตาทั้ง 2
ข้าง เกี่ยวข้องกับไต และปัญหาภูมิแพ้ สาเหตุมาจาก
เครื่องสาอางที่ใช้อยู่ อาจไม่เหมาะสม หรือใส่แว่นตาที่เสียดสี
มาก รอยคล้าอาจเกิดจากการมีสารพิษตกค้างในร่างกายมาก
หรือพักผ่อนน้อย เปลือกตาหากมีความระคายเคือง อาจมาจาก
การเป็นภูมิแพ้ หรือขาดสารอาหาร
menu
Again
สิวบอกโรค : โซนที่ 7 ผิวบริเวณจมูกและริมฝีปาก
แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หากมีสิวบริเวณนี้อาจ
หมายถึงผลกระทบของการตั้งครรภ์ การมีประจาเดือน การ
รับประทานยาคุมกาเนิด
menu
Again
สิวบอกโรค : โซนที่ 11 และโซนที่ 13 หากผิวบริเวณนี้
แตกระแหง สามารถบอกได้ว่าคุณกาลังมีปัญหาของฟันกราม
หรือปัญหาเกี่ยวกับฟัน
menu
Again
สิวบอกโรค : โซนที่ 12 สิวเรื่อๆ บริเวณคางนี้ สามารถบ่ง
บอกได้ว่าคุณกาลังมีปัญหาเรื่องลาไส้เล็ก ที่มีผลจากการ
รับประทานของเผ็ด
menu
Again
สิวบอกโรค : โซนที่ 14 หากคุณมีสิวบริเวณนี้แล้ว
ล่ะก็ แสดงว่าคุณกาลังเครียดสูง
menu
Again
ขอขอบคุณ
• http://www.kondoodee.com/รวมวิธีการรักษาสิว-จาก-Pantip-ง่ายๆ-เห็นผลได้จริงจากกูรู-ผู้มี
ประสบการณ์จริง/146.html
• http://www.dek-d.com/nugirl/33527/
• http://www.siamhealth.net/public_html/Health/Photo_teaching/acne.htm#.VOMCXCkVclI
• http://health.kapook.com/view1637.html
• https://www.gpo.or.th/rdi/html/acne.html
• http://www.pharmabeautycare.com/content- ้ ้ตก ูถ ้หใน ักว ิสทภเะรปกยแามว ิสงอขทภเะรปว ิสนอ ่กงอ
ขไ ้กแ-4-1782-30992-1.html
• http://www.livinginshape.net/Article/Article%20Dr.kosin/1-Comedone.html
menu
Thank you for
your
attention…
จัดทาโดย
นางสาว พรนภา ชัยชนะ เลขที่ 36
นางสาว ชญานิศ นนทธรรม เลขที่ 43
ชั้น ม. 6/3
เสนอต่อ คุณครู เขื่อนทอง มูลวรรณ์
วิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557
โรงเรียน ยุพราชวิทยาลัย
END

More Related Content

Similar to รู้ทันป้องกันสิว 603

ชีวิตตามแนวคิดทางวิทยาศาสตร์
ชีวิตตามแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ชีวิตตามแนวคิดทางวิทยาศาสตร์
ชีวิตตามแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ppompuy pantham
 
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ ใหม่
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ ใหม่ คัมภีร์ฉันทศาสตร์ ใหม่
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ ใหม่ Kat Suksrikong
 
ศัลยกรรม
ศัลยกรรมศัลยกรรม
ศัลยกรรมHataichanok
 
ข้อสอบ O-net 51 วิชา สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ข้อสอบ O-net 51 วิชา สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยีข้อสอบ O-net 51 วิชา สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ข้อสอบ O-net 51 วิชา สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยีSuwicha Tapiaseub
 
06 วิชาสุขศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพฯ
06 วิชาสุขศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพฯ06 วิชาสุขศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพฯ
06 วิชาสุขศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพฯnampeungnsc
 
สุขะ 50
สุขะ 50สุขะ 50
สุขะ 50wayosaru01
 
สุข 50
สุข 50สุข 50
สุข 50chugafull
 
....
........
....MM AK
 
สุข 50
สุข 50สุข 50
สุข 50yyyim
 
ข้อสอบ Onet สุข พลศึกษา และการงานพื้นฐานอาชีพ 50
ข้อสอบ Onet สุข พลศึกษา และการงานพื้นฐานอาชีพ 50ข้อสอบ Onet สุข พลศึกษา และการงานพื้นฐานอาชีพ 50
ข้อสอบ Onet สุข พลศึกษา และการงานพื้นฐานอาชีพ 50Weerachat Martluplao
 
J:\งาน Powerpoint And Word\งานต๊อก\งานPaper\เรื่องที่อยากเล่า แต่ยังไม่มีหัวข้อ
J:\งาน Powerpoint And Word\งานต๊อก\งานPaper\เรื่องที่อยากเล่า  แต่ยังไม่มีหัวข้อJ:\งาน Powerpoint And Word\งานต๊อก\งานPaper\เรื่องที่อยากเล่า  แต่ยังไม่มีหัวข้อ
J:\งาน Powerpoint And Word\งานต๊อก\งานPaper\เรื่องที่อยากเล่า แต่ยังไม่มีหัวข้อviriyalekprasert
 
ความส ขบนปลายล _น
ความส ขบนปลายล _นความส ขบนปลายล _น
ความส ขบนปลายล _นTanadol Intachan
 

Similar to รู้ทันป้องกันสิว 603 (20)

1
11
1
 
ชีวิตตามแนวคิดทางวิทยาศาสตร์
ชีวิตตามแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ชีวิตตามแนวคิดทางวิทยาศาสตร์
ชีวิตตามแนวคิดทางวิทยาศาสตร์
 
Isstrain
IsstrainIsstrain
Isstrain
 
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ ใหม่
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ ใหม่ คัมภีร์ฉันทศาสตร์ ใหม่
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ ใหม่
 
ศัลยกรรม
ศัลยกรรมศัลยกรรม
ศัลยกรรม
 
06 art50
06 art5006 art50
06 art50
 
2550_06
2550_062550_06
2550_06
 
06
0606
06
 
ข้อสอบ O-net 51 วิชา สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ข้อสอบ O-net 51 วิชา สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยีข้อสอบ O-net 51 วิชา สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ข้อสอบ O-net 51 วิชา สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี
 
การงานน
การงานนการงานน
การงานน
 
06 วิชาสุขศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพฯ
06 วิชาสุขศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพฯ06 วิชาสุขศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพฯ
06 วิชาสุขศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพฯ
 
สุขะ 50
สุขะ 50สุขะ 50
สุขะ 50
 
พละ51
พละ51พละ51
พละ51
 
สุข 50
สุข 50สุข 50
สุข 50
 
....
........
....
 
สุข 50
สุข 50สุข 50
สุข 50
 
ข้อสอบ Onet สุข พลศึกษา และการงานพื้นฐานอาชีพ 50
ข้อสอบ Onet สุข พลศึกษา และการงานพื้นฐานอาชีพ 50ข้อสอบ Onet สุข พลศึกษา และการงานพื้นฐานอาชีพ 50
ข้อสอบ Onet สุข พลศึกษา และการงานพื้นฐานอาชีพ 50
 
J:\งาน Powerpoint And Word\งานต๊อก\งานPaper\เรื่องที่อยากเล่า แต่ยังไม่มีหัวข้อ
J:\งาน Powerpoint And Word\งานต๊อก\งานPaper\เรื่องที่อยากเล่า  แต่ยังไม่มีหัวข้อJ:\งาน Powerpoint And Word\งานต๊อก\งานPaper\เรื่องที่อยากเล่า  แต่ยังไม่มีหัวข้อ
J:\งาน Powerpoint And Word\งานต๊อก\งานPaper\เรื่องที่อยากเล่า แต่ยังไม่มีหัวข้อ
 
Example osce
Example osceExample osce
Example osce
 
ความส ขบนปลายล _น
ความส ขบนปลายล _นความส ขบนปลายล _น
ความส ขบนปลายล _น
 

รู้ทันป้องกันสิว 603

  • 1. ชื่อโครงงาน(ภาษาไทย) : รู้ทันป้องกันสิว ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) : Get rid of acne ชื่อผู้ทาโครงงาน 1. นางสาว พรนภา ชัยชนะ 2. นางสาว ชญานิศ นนทธรรม ชื่อคุณครูที่ปรึกษา คุณครู เขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557
  • 2. ที่มาและความสาคัญของโครงงาน ผู้จัดทาเห็นว่าวัยรุ่นสมัยนี้รักสวยรักงามกันมากขึ้น และ สนใจ สุขภาพตัวเองให้มีชีวิตที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งใบหน้าเป็นจุดที่ทุกคนต้อง มองกัน บ้างคนอาจจะหน้าตาดี บางคนหน้าตาดีแต่เป็นสิว ก็จะเครียด ว่าจะทาไงให้สิวหาย นั้นทาให้ผู้คนเหล่านั้นมีสิวมากกว่าเดิมจาก ความเครียด เราจึงอยากนาเสนอวิธีที่ถูกต้องให้กับผู้อ่านทุกคน ภายใน งานชิ้นนี้ ได้บอกสาเหตุ วิธีป้องกัน และ สิวที่เกิดขึ้นบนใบหน้าสามารถ บอกโรคได้ด้วยน่ะ อย่าลืมติดตามกันในงานชิ้นนี้น่ะค่ะ...
  • 4. • สิวเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ? • สาเหตุของการเกิดสิว • ปัจจัยที่กระตุ้นการเกิดสิว • ประเภทของสิว • วิธีการรักษาสิว • ปัญหาที่พบบ่อย • สิวบอกโรค • แหล่งที่มา Content คลิกเพื่อไปยังหัวข้อ สารบัญ
  • 6. เป็นปัญหาที่พบบ่อยมากในวัยหนุ่มสาว วัยรุ่นบางคนเห็นเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใส่ใจที่จะรักษาถ้าเป็นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากทราบว่าหายได้เอง แต่คนส่วนใหญ่ที่รัก สวยรักงามมักจะพยายามรักษา เพราะสิวมักพบที่ใบหน้า และส่วนบนของลาตัว เมื่อหาย แล้วก็มักจะทิ้งรอยแผลเป็น จากสถิติของสถาบันโรคผิวหนัง สิวเป็นสาเหตุที่ทาให้ผู้ป่วยมาพบแพทย์สูงเป็น อันดับที่ 2 ของผู้ป่วยทั้งหมด โดยเป็นชายร้อยละ 33 และหญิงร้อยละ 67 สิวจะปรากฏ อาการในผู้หญิงช่วงอายุ 14-17 ปี และในผู้ชายช่วง อายุ 16-17 ปี ความรุนแรงของสิวจะมากขึ้น 3-5 ปี หลังจากเริ่มเป็นสิวและมักหายไปในช่วงอายุ 20-25 ปี ร้อยละ 85 ของผู้ที่เป็นสิวจะเป็นชนิดไม่รุนแรง มีเพียงร้อยละ 15 ที่เป็นสิวอักเสบชนิดรุนแรง menu
  • 7. เมื่ออายุพ้นวัยรุ่นไปแล้ว สิวจะค่อยๆ ทุเลา ยกเว้นผู้ป่วยบางรายยังคงเป็นสิวมากจน สมควรจะต้องรักษาเมื่ออายุถึง 35 ปี หรือมากกว่านั้น นอกจากนี้ยังพบว่าในวัย 40 ปี ร้อยละ 1 ของผู้ชาย และร้อยละ 5 ของผู้หญิงยังคงเป็นสิว การที่พบผู้หญิงเป็นสิวเมื่อเลยวัย 25 ปี ไปแล้วมากกว่าผู้ชายอาจจะเป็นเพราะผู้หญิงมี การใช้เครื่องสาอางเพื่อเสริมสร้างความงาม ซึ่งเครื่องสาอางที่ใช้อาจเป็นสาเหตุสาคัญที่ทาให้ เกิดสิว (cosmetic acne) menu
  • 9. 1. เกิดจากการหนาตัวของชั้น corneum การหนาตัวของชั้น corneum (hyper-cornification) ที่ท่อของรูขุมขนซึ่ง ต่อมไขมันมาเปิดเชื่อมต่อ การหนาตัวเกิดจากการระคายเคืองจากไขมัน (sebum) จากต่อมไขมัน และการที่กรด linoleic ในไขมันมีปริมาณลดลง menu
  • 10. 2. Testosterone Testosterone ในกระแสเลือดเปลี่ยนไปเป็น dihydrotestosterone ในเนื้อเยื่อ โดยอาศัยเอนไซม์ 5-a reductase dihydrotestosterone ในเนื้อเยื่อ ซึ่งเป็น ตัวกระตุ้นให้ต่อมไขมัน มีขนาดใหญ่ขึ้น และหลั่งไขมันออกมามากขึ้น เนื่องจากในไขมันมีส่วนประกอบของสาร free fatty acid, squalene และ squalene oxide ซึ่งเชื่อกันว่าสารเหล่านี้เป็น ตัวกระตุ้นให้เกิดสิว menu
  • 11. 3. แบคทีเรีย แบคทีเรียที่สาคัญ คือ Propionibacterium acnes (P. acnes) เชื้อตัวนี้ย่อยไขมันจากต่อมไขมันให้เป็น free fatty acid โดยอาศัย เอนไซม์ lipase นอกจากนั้น P. acnes ยังหลั่งเอนไซม์ protease,hyaluronidase และ low molecular weight chemotactic factor ซึ่งสารเหล่านี้จะทาให้เกิดกระบวนการอักเสบ menu
  • 15. 2. ยา ทั้งยาทาและยารับประทานหลายชนิดอาจทาให้เกิดสิว หรือทาให้เกิดสิว เห่อมากขึ้น ยาบางอย่างทาให้เกิดสิวเฉพาะคนบางคน แต่คนเป็นจานวนมากได้รับยา อย่างเดียวกันนั้นอาจไม่เกิดสิว ยาที่เป็นสาเหตุทาให้เกิดโรคสิวอย่าง แน่นอนและก่อโรคในคนส่วนใหญ่ ได้แก่ corticosteroids ทั้งยารับประทาน และยาทา, androgens รวมทั้ง anabolic steroids และ gonadotropins menu
  • 16. 3. เครื่องสาอาง สบู่ น้ามันใส่ผม ก็ทาให้เกิดสิวได้ (cosmetic acne, acne detergicans, pomade acne) เครื่องสาอางที่มี ส่วนผสมของ olive oil, white petrolatum lanolin สบู่ที่มีส่วนผสม ของ tar, sulfur หรือยาปฏิชีวนะ เช่น hexachlorophene ซึ่งสาร เหล่านี้สามารถกระตุ้นให้เกิดสิวได้ menu
  • 17. 4. Premenstrual acne มีรายงานว่าร้อยละ 60-70 ของผู้หญิงที่ เป็นสิวจะมีสิวมากขึ้นใน 1 สัปดาห์ก่อนมีประจาเดือน เนื่องจากฮอร์โมน โปรเจสเตอโรนที่หลั่งออกมามากในช่วงนั้นทาให้มีการคั่งของน้าใน ร่างกาย รูขุมขนจะบวมมากขึ้น การไหลผ่านของไขมันเป็นไปได้ไม่ดี สิวมักเห่อใน 2-3 วันต่อมา menu
  • 18. 5. ภาวะเครียด กระตุ้นให้เกิดสิวหรือไม่นั้นยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด แต่มี บางรายงานที่กล่าวว่าสิวเห่อมากขึ้นในช่วงที่เครียดจากการสอบ อย่างไรก็ตาม สิวทาให้เกิดภาวะเครียดเนื่องจากทาให้ใบหน้าดูไม่ดี ทา ให้ผู้ป่วยบีบหรือแกะสิว ซึ่งมีผลทาให้สิวอักเสบ รุนแรงมากขึ้น menu
  • 19. 6. อาหาร เดิมเชื่อว่าอาหารบางชนิด เช่น ช็อกโกแลต, อาหารที่มีไขมัน มาก มีผลทาให้สิวเห่อ แต่จากการศึกษาไม่พบความสัมพันธ์ระหว่าง อาหารกับความรุนแรงของสิว menu
  • 21. สิวเสี้ยน มักจะพบมากบริเวณจมูก ลักษณะเป็นจุดดาๆหรือเห็นเป็น หนามแหลม สีขาว เป็นสิวที่เกิดจากการอุดตันของไขมันที่จับตัวเข้ากับ เยื่อรูขุมขนที่หลุดลอกออก และขนอ่อนที่ตกค้างในรูขุมขน เวลากดสิว ไขมันก็จะหลุดออกมาเป็นสิวเสี้ยน menu
  • 22. สิวผด หรือสิวเทียม เป็นผดเม็ดเล็ก ๆ ที่ขึ้นแถว ๆ หน้าผากและแก้ม ลักษณะไม่เป็นสิวชัดเจน แพทย์บางท่านจึงเรียกว่า สิวเทียม เพราะไม่มี คอมิโดน (Comedone) หรือไม่เกี่ยวกับต่อมไขมัน menu
  • 23. สิวหัวเปิด หรือสิวหัวดา คือสิวที่มีรูเปิดออกบริเวณผิวภายนอก ทาให้ บริเวณที่เป็นหัวสิว สัมผัสกับแสงแดดและฝุ่นละออง ซึ่งจะสังเกตเห็นเป็น จุดดา ๆ อยู่บริเวณหัวสิว แต่มักไม่อักเสบ และสามารถหลุดออกได้เอง menu
  • 24. สิวอุดตัน หรือ สิวหัวขาว เกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถขับถ่าย ไขมันบริเวณรูขุมขนออกมาได้ จึงเกิดการสะสมเป็นก้อนอุดตันอยู่ภายใน (คอมิโดน) เป็นก้อนนูนเล็กๆพบได้ทั่วไปบริเวณใบหน้าหน้าอก หรือ หลัง ซึ่งจะเป็นต้นเหตุของการเกิดสิวอักเสบต่อไป menu
  • 25. สิวอักเสบ เกิดขึ้นมาจากสิวอุดตัน หรือสิวหัวขาวที่มีการติดเชื้อแบคทีเรีย ทาให้เกิดการอักเสบ เห็นเป็นรอยนูนแดงได้อย่างชัดเจน ถ้าการอักเสบนี้อยู่บริเวณต้น ๆ ของท่อไขมัน ก็จะเห็นเป็น ตุ่มหนอง ถ้าอยู่ลึกลงไป จะเห็นเป็นก้อนนูนบวมขึ้นมา แต่หากมีการอักเสบที่รุนแรงมาก และลึก ลงไปใต้ชั้นผิวหนังจนกลายเป็นถุงหนองฝังอยู่ภายใน จะเรียกว่า สิวหัวช้าง หรือสิวอักเสบ นั่นเอง สิวชนิดนี้ เป็นชนิดที่ทาให้วัยรุ่นขาดความมั่นใจมากที่สุด เพราะเป็นสิวชนิดที่สังเกตเห็น ได้ง่าย ทาให้หน้าไม่เรียบ โดยเฉพาะจะดูบวมแดงไม่สวยงาม และยังมักจะทิ้งปัญหารอย แผลเป็นเอาไว้อีกด้วย menu
  • 27. 1. รักษาความสะอาดของร่างกาย ใบหน้า เส้นผม อย่าปล่อยให้ใบหน้าสกปรกจน มีไขมันอุดตันอยู่เป็นจานวนมาก แต่ห้ามทาการล้างหน้าด้วยน้าเย็นในทันที เพราะ จะทาให้รูขุมขนปิดตัวลงโดยที่สิ่งสกปรกยังคงอุดตันอยู่ที่รูขุมขน ดังนั้น ควรที่จะใช้ ผ้าเช็ดสิ่งสกปรกบนใบหน้าออกก่อน แล้วจึงล้างหน้าด้วยน้าสะอาด และอย่าลืมล้าง มือก่อนล้างหน้า ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่าเรากาลังนาน้าล้างมือมาล้างหน้าเป็นการ เพิ่มความสกปรกให้กับใบหน้าโดยไม่ทันรู้ตัว menu
  • 28. 2. หลีกเลี่ยงเครื่องสาอางที่อาจก่อให้เกิดสิว โดยเลือกใช้เครื่องสาอาง แบบที่ไม่อุดตันรูขุมขน (Noncomedogenic) หรือแบบที่ไม่มีไขมัน (Oil-Free) ซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงการทาให้เกิดสิวได้ menu
  • 29. 3. พยายามอย่ารบกวนผิวหน้า เช่น การบีบ กดสิว ขัดนวดใบหน้า เช็ดถูอย่างรุนแรง หรือบ่อยจนเกินไป เมื่อทาการล้างหน้าด้วยใช้ ผ้าขนหนูซับใบหน้าเบาๆ ซึ่งจะอ่อนโยนกับผิวหน้ามากกว่า และการ รักษาสิวโดยการขัดหน้านั้น มีข้อเสียคือจะทาให้หน้ามีความบางลง เรื่อยๆ เมื่อถูกแสงแดดจะเกิดอันตรายและยังเสี่ยงต่อการเกิดกระ หรือ ฝ้าได้ง่ายอีกด้วย menu
  • 30. 4. พักผ่อนให้เพียงพอ และควรนอนก่อน 5 ทุ่ม ถ้าเข้านอนสี่ทุ่มได้ยิ่งดี ใหญ่ menu
  • 31. 5. ออกกาลังกาย เมื่อออกกาลังกาย เหงื่อจะช่วยผลักดันสิ่งสกปรก ออกมาจากรูขุมขน ซึ่งเป็นการทาความสะอาดรูขุมขนไปในตัว นอกจากนี้ยังช่วยทาให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นอีกด้วย menu
  • 32. 6. กาจัดความเครียด ถ้าหากสิวขึ้น แนะนาว่าให้ยิ้มสู้ เพราะยิ่งเครียด มากเท่าไหร่ สิวก็จะยิ่งมากขึ้นเป็นเงาตามตัว menu
  • 33. 7. พยายามขับถ่ายทุกวัน การปลดถ่ายหนักช่วยขับกากของเสียออกจาก ร่างกาย สาหรับคนที่มีปัญหาท้องผูกทาให้ไม่ค่อยสามารถขับถ่ายได้นั้น ให้ลองเปลี่ยนมาทานอาหารประเภทผักและผลไม้ ที่มีใยอาหารมากๆ ซึ่งจะมีผลช่วยให้ร่างกายมีการขับถ่ายที่ดีขึ้น menu
  • 34. 8. ทานอาหารให้ครบห้าหมู่ โดยเฉพาะผักและผลไม้ ควรระวังอย่า ทานอาหารทะเลติดต่อกันทุกวัน เป็นที่ทราบกันดีว่าการทานอาหาร ทะเลจานวนมากจะกระตุ้นให้เกิดสิว แต่ถ้าหากกินในปริมาณปกติเพียง เล็กน้อย ร่างกายก็จะยังสามารถขับออกได้ทัน menu
  • 35. 9. การใช้ยากินหรือยาทาสาหรับการรักษาสิวโดยเฉพาะ การรักษาสิว โดยวิธีการใช้ยานั้น เพื่อความปลอดภัยควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากสภาพผิวหนังและการแพ้สารบางชนิดในยาอาจมีความแตกต่าง กัน menu
  • 36. 10. การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดความมันบนใบหน้า การลดความมันบน ใบหน้าโดยการใช้กระดาษซับมัน สามารถช่วยลดความมันได้ เพียงชั่วคราว เพราะต่อมไขมันก็จะผลิตไขมันออกมาทดแทนในส่วนที่ หายไปอยู่ดี วิธีแก้ไขที่ถูกต้องคือ ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยควบคุมความมันและ ลดการเกิดไขมัน ที่สาคัญคือควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกระชับรูขุมขน ให้เล็กลง ซึ่งจะทาให้การผลิตไขมันน้อยลงไปด้วย menu
  • 38. Question : อายุ 29 ปี เป็นสิวเรื้อรังไม่หายสักทีทั้ง ที่ใบหน้าก็ไม่มัน ยิ่งช่วงมีประจาเดือนจะยิ่งเห่ออักเสบ มาก ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร? menu
  • 39. Answer : สิว (Acne) เป็นปัญหากวนใจที่พบได้บ่อยมากโดยเฉพาะในวัยรุ่น เกิดจากการที่รุขุมขนอุดตันทาให้น้ามันซึ่งผลิตจากต่อมไขมันระบายออกสู่ ภายนอกไม่ทัน เกิดสิวอุดตัน เรียกว่า คอมิโดน (Comedone) ตามมา รูขุมขนเหล่านี้จะอุดตันได้เพราะปัจจัย 2 ข้อ คือ 1. ทางเปิดของรูขุมขนอุดตันทั้งๆที่ต่อมไขมันทางานตามปกติ พบได้จากแรงกระทา เช่น การนวด ขัด หรือสครับผิวอย่างรุนแรง ทาให้ขี้ ไคลชั้นบนมีการเคลื่อนไปอุดตามท่อของรูขุมขน นอกจากนี้ยังพบได้จากสารเคมีจาพวกน้ามันเครื่องสาอาง เช่น ครีมบารุงผิว ครีมรอง พื้น มีการไหลย้อยไปอุดตามท่อรูขุมขน การทาครีมรองพื้นเป็นประจาหรือใช้ครีมบารุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ามันจึงมักเกิดสิวได้ง่าย สุดท้ายคือพระเจ้าลงโทษให้ใบหน้ามีขนอ่อนๆอุดอยู่ตามรูขุมขน ทาให้รูขุมขนขนาดปกติเมื่อถูกเส้นขนอ่อนๆเหล่านี้เบียดอยู่ก็จะทาให้ ขนาดรูขุมขนยิ่งเล็กลงไปอีก เมื่อต่อมไขมันผลิตน้ามันออกมาจึงมักอุดตันตามรูขุมขนได้ง่าย เกิดเป็นคอมิโดนให้เห็น ลองสังเกตดูใครที่มี สิวเรื้อรัง หากสังเกตใบหน้าบริเวณที่เป็นสิวเรื้อรังใกล้ๆมักพบขนเล็กๆอุดตามรูขุมขนเต็มไปหมด ซึ่งเชื่อว่าคนเหล่านี้มีฮอร์โมนเพศชาย ในร่างกายสูงผิดปกติ 2. ต่อมไขมันผลิตน้ามันมากเกินไปจนระบายออกทางรูขุมขนไม่ทัน ปัจจัยกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ามันมากกว่าปกติคืออุณหภูมิและ ฮอร์โมนเพศในร่างกาย...อุณหภูมิยิ่งสูง ต่อมไขมันจะยิ่งทางานเยอะผลิตน้ามันออกมาเยอะ สิวจึงเป็นโรคเมืองร้อนอย่างบ้านเรา และยิ่ง เห่อในช่วงฤดูร้อน ฮอร์โมนที่ทาให้เกิดสิวได้ง่ายคือฮอร์โมนเพศชาย (Androgen) หรือฮอร์โมนโปรเจสเทอโรน (Progesterone) ซึ่งกระตุ้นการทางานของต่อมไขมัน คนที่มีฮอร์โมนเพศชายในร่างกายสูงจึงมักมีใบหน้ามัน เป็นสิวง่าย มีขนดกตามใบหน้าและ ลาตัว สาหรับฮอร์โมนโปรเจสเทอโรนพบได้ขณะมีประจาเดือน ทาให้เกิดสิวบริเวณคาง ด้านข้างใบหน้า หัวคิ้ว มีลักษณะเป็นตุ่ม แดงเพียง 2-10 จุด พบได้แทบทุกเดือนและสามารถหายเอง นอกจากนี้ยังพบออร์โมนชนิดนี้ได้จากการรับประทานยาคุมกาเนิด menu
  • 40. Question : จะมีวิธีรักษาได้อย่างไรบ้างคะ เพราะไม่ อยากมีรอยแผลเป็นจากสิว ? menu
  • 41. Answer : เริ่มจากการป้องกันไม่ให้รูขุมขนอุดตัน โดยการไม่ล้างหรือเช็ดหน้าแบบถูไปมา ควรใช้วิธีล้างและซับหน้า เบาๆแทน และไม่ควรล้างหน้าเกิน 4 ครั้งต่อวัน เพราะเป็นการรบกวนผิวมากเกินไป นอกจากนี้ควร หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีน้ามันเป็นส่วนผสม ควรใช้ผลิตภัณฑ์ประเภท Oil Free แทน ไม่ใช้ครีมรองพื้น โดยไม่จาเป็น นอกจากนี้ควรป้องกันสาเหตุที่ทาให้ต่อมไขมันทางานมากกว่าปกติทั่วไป เช่น การอยู่ในที่ ที่มีอากาศร้อนอบอ้าวเป็นเวลานานๆ หลีกเลี่ยงการรับประทานยาคุมกาเนิดหรือฮอร์โมนบ้างชนิดโดยไม่ จาเป็น แต่หากป้องกันแล้วสิวที่มีอยู่ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ก็ควรรักษาไปพร้อมๆกันโดยทายาเบนซอยล์ เปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) เข้มข้น 5% ทาทิ้งไว้ทั่วใบหน้า 5-10 นาทีเพื่อเปิดรูอุดตันก่อน ล้างหน้า ตามด้วยการแต้มคลินดาไมซินโลชั่น (1% Clindamycin Lotion) เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียซึ่ง ก่อให้เกิดสิวอักเสบ จะทาให้สิวที่มีอยู่เดิมหายได้เร็วขึ้น ซึ่งยาเหล่านี้สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา ทั่วไป หากยังไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์เพื่อรับประทานยาร่วมด้วย...เพียงเท่านี้เรื่องสิวก็จะเป็นเรื่องขี้ปะติ๋ว ในพริบตา menu
  • 44. สิวบอกโรค : โซนที่ 1 และโซนที่ 3 ถ้ามีปัญหาสิวบริเวณนี้ คุณอาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ดังนั้นอาจต้องดื่มน้า มากขึ้นหรือทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ menu Again
  • 45. สิวบอกโรค : โซนที่ 2 สิวบริเวณหว่างคิ้ว เกี่ยวกับ ตับ อาจมีปัญหาในการย่อยแลคโทส (ดื่มนมไม่ได้) การทาน อาหารรสจัดหรือทานอาหารดึกเกินไป menu Again
  • 46. สิวบอกโรค : โซนที่ 4 และโซนที่ 10 ผิวบริเวณหูนี้ เป็นผลพวงของไต หากรู้สึกร้อนที่หู คุณอาจต้องลดการ รับประทานเนื้อสัตว์ลง menu Again
  • 47. สิวบอกโรค : โซนที่ 5 และโซนที่ 9 บริเวณแก้มทั้งสองด้าน โดยแก้มส่วนบนจะเกี่ยวข้องกับไซนัสและปอด ส่วนแก้มส่วนล่าง เหงือกและฟัน สาเหตุอาจเป็นเพราะสูบบุหรี่จัด หรือแพ้ควัน บุหรี่ ภูมิแพ้ เป็นหวัดเรื้อรัง หรืออาจใช้บลัชออนและรองพื้นไม่ เหมาะสม ถ้าเป็นริ้วรอยลึกบริเวณโหนกแก้มอาจบ่งบอกถึง ปัญหาเรื่องปอดหรือการหายใจ ถ้ามีสิวแบบเป็นๆ หายๆ ที่ แก้มด้านล่างอาจมีปัญหาเรื่องเหงือกและฟัน หรือ โทรศัพท์มือถือไม่สะอาด menu Again
  • 48. สิวบอกโรค : โซนที่ 6 และโซนที่ 8 ตาแหน่งรอบดวงตาทั้ง 2 ข้าง เกี่ยวข้องกับไต และปัญหาภูมิแพ้ สาเหตุมาจาก เครื่องสาอางที่ใช้อยู่ อาจไม่เหมาะสม หรือใส่แว่นตาที่เสียดสี มาก รอยคล้าอาจเกิดจากการมีสารพิษตกค้างในร่างกายมาก หรือพักผ่อนน้อย เปลือกตาหากมีความระคายเคือง อาจมาจาก การเป็นภูมิแพ้ หรือขาดสารอาหาร menu Again
  • 49. สิวบอกโรค : โซนที่ 7 ผิวบริเวณจมูกและริมฝีปาก แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หากมีสิวบริเวณนี้อาจ หมายถึงผลกระทบของการตั้งครรภ์ การมีประจาเดือน การ รับประทานยาคุมกาเนิด menu Again
  • 50. สิวบอกโรค : โซนที่ 11 และโซนที่ 13 หากผิวบริเวณนี้ แตกระแหง สามารถบอกได้ว่าคุณกาลังมีปัญหาของฟันกราม หรือปัญหาเกี่ยวกับฟัน menu Again
  • 51. สิวบอกโรค : โซนที่ 12 สิวเรื่อๆ บริเวณคางนี้ สามารถบ่ง บอกได้ว่าคุณกาลังมีปัญหาเรื่องลาไส้เล็ก ที่มีผลจากการ รับประทานของเผ็ด menu Again
  • 52. สิวบอกโรค : โซนที่ 14 หากคุณมีสิวบริเวณนี้แล้ว ล่ะก็ แสดงว่าคุณกาลังเครียดสูง menu Again
  • 53. ขอขอบคุณ • http://www.kondoodee.com/รวมวิธีการรักษาสิว-จาก-Pantip-ง่ายๆ-เห็นผลได้จริงจากกูรู-ผู้มี ประสบการณ์จริง/146.html • http://www.dek-d.com/nugirl/33527/ • http://www.siamhealth.net/public_html/Health/Photo_teaching/acne.htm#.VOMCXCkVclI • http://health.kapook.com/view1637.html • https://www.gpo.or.th/rdi/html/acne.html • http://www.pharmabeautycare.com/content- ้ ้ตก ูถ ้หใน ักว ิสทภเะรปกยแามว ิสงอขทภเะรปว ิสนอ ่กงอ ขไ ้กแ-4-1782-30992-1.html • http://www.livinginshape.net/Article/Article%20Dr.kosin/1-Comedone.html menu
  • 55. จัดทาโดย นางสาว พรนภา ชัยชนะ เลขที่ 36 นางสาว ชญานิศ นนทธรรม เลขที่ 43 ชั้น ม. 6/3 เสนอต่อ คุณครู เขื่อนทอง มูลวรรณ์ วิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียน ยุพราชวิทยาลัย END