SlideShare a Scribd company logo
1 of 68
กล้องวงจรปิ ด CCTV
ระบบกล้องวงจรปิด ( CCTV ) เป็ นการส่งสัญญาณภาพ
จากกล้องวงจรปิด ที่ได้ติดตั้งตามที่ต่างๆ มายังส่วนรับภาพ/ดูภาพ
ซึ่งเรียกว่า จอภาพ ( Monitor ) โดยทั่วไปจะติดตั้งอยู่คนละที่กับกล้อง
เช่นที่ห้องควบคุม ห้องเซอร ์เวอร ์ป้อนยาม ฝ่ายบุลคล ฯลฯ
ชุดติดตั้งกล้องวงจรปิ ด+อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในระบบกล้องวงจรปิ ด
CCTV มีดังนี้
1. กล้องวงจรปิด (CCTV Camera)
2. เลนส์กล้องวงจรปิด (CCTV Lenses)
3. เครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิด ( Digital Video Recorder หรือ
DVR )
4. จอภาพ ( TV หรือ LCD Monitor)
5. กล่องครอบกล้องวงจรปิด ทั้งแบบภายใน และ ภายนอกอาคาร (
Housing Indoor , Housing Outdoor )
7. กล่องควบคุมการทางานของกล้องวงจรปิด (Control System)
8. สายสัญญาณภาพ RG6 สาหรับเดินสายให้กล้องวงจรปิด
9. สายไฟ AC-DC สาหรับจ่ายไฟเลี้ยงให้กล้องวงจรปิด
10. และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบกล้องวงจรปิด
การใช้งาน ในรูปแบบต่างของกล้องวงจรปิ ด
• รับติดตั้งกล้องวงจรปิ ด เพื่อใช ้ในด้านการรักษาความปลอดภัย
ของบุคคลและสถานที่ ต่างๆ
• ติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อใช ้ในการตรวจสอบการทางาน ของเครื่องจักร
ในโรงงานอุตสาหะกรรมทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่
หรือใช ้ในการดูทางานของพนักงาน ภายในโรงงานต่างๆ
• ติดตั้งกล้องวงจรปิ ด เพื่อใช ้งานร่วมกับระบบควบคุมอาคารต่างๆทั้ง
เช่น คอนโดฯ โรงแรม อพาร ์ทเม้นท แมนชั่น ฯลฯ
• ติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อใชใช ้งานร่วมกับระบบควบคุมการจราจร เช่น
ตรวจดูแลสภาพโดยรวมบนท้องถนน ฯลฯ
กล้องวงจรปิ ด ส่วนมากที่ใช้งานในปัจจุบันนี้มี 2 แบบ คือ
1. กล้องวงจรปิ ดแบบติดตั้งตายตัว (Fix Camera)
2. กล้องวงจรปิ ดแบบถหมุนได้-ซูมได้ ควบคุมได้
(Pan/Tilt/Zoom Camera)
1. กล้องวงจรปิ ดแบบติดตั้งตายตัว (Fix Camera)
คือ กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไปแล้วไม่สามารถจะขยับตัวกล้อง หรือ
หมุนเปลี่ยนทิศทางมุมมองในการดูภาพจากกล้องวงจรปิดได้
ถ้าต้องการหมุนหรือเปลี่ยนทิศทาง
ก็จะต้องถอดตัวกล้องแยกออกจากขากล้อง
แล้วยึดติดกล้องวงจรปิดในต่าแหน่งใหม่แทน
2. กล้องวงจรปิ ดแบบถหมุนได้-ซูมได้ ควบคุมได้
(Pan/Tilt/Zoom Camera)
เพื่อเป็ นการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช ้งาน ระบบกล้องวงจรปิด
ในปัจจุบันทาง โรงงานผลิตกล้องวงจรปิดจึงได้ผลิตกล้องที่มี
ความสามารถ ทาให้กล้องวงจรปิดหมุนปรับทิศ และ ซูมภาพได้
สามารถที่จะปรับให้หมุนซ ้าย / ขวา ก้ม-เงย ซูม ได้ โดยผ่านทาง
เครื่องควมคุม ( Key Board Control ) ซึ่งกล้องวงจรปิดชนิดนี้เรียกว่า
กล้อง Speed Dome สามารถหมุนรอบตัวเองได้ 360 องศา และ
ซูมภาพได้ไกล 100-300 เมตร ( แล้วแต่รุ่นของกล้องวงจรปิด )
สามารถปรับมุมก้มเพื่อจะดูวัตถุ หรือคนที่อยู่บนพื้นดิน
ซึ่งมีระดับต่ากว่าตาแหน่งที่ติดตั้งกล้อง
หรือมุมเงยเพื่อมองไปยังอาคารที่สูงกว่า ไม่ว่าจะเป็ นทิศทางตรงด้านหน้า
หรือจะหมุนไป ยังทิศทางอื่นๆ ก็สามารถทาได้ การพิจารณาเลือกใช ้
กล้องวงจรปิด Speed Dome ควรเลือกให้เหมาะสมกับงาน
เพื่อเป็ นประหยัดเงิน และอื่นๆ เช่น ติดตั้งภายในอาคารสานักงาน
สภาพแวดล้อมปกติ ก็ควรใช ้กล้องวงจรปิด Speed Dome แบบ
Indoor ธรรมดาสาหรับที่ใช ้ภายในอาคาร
แต่ถ้าเป็ นการใช ้งงานภายนอกอาคาร ก็มีความจาเป็ นที่ต้องใช ้
กล้องวงจรปิด Speed Dome แบบ Out door ที่มีคุณสมบัติพิเศษ
ให้เหมาะสมกับสภาพของสถานที่นั้นๆ
ซึ่งอาจจะมีราคาค่อนข้างสูงจนถึงสูงมาก
:ซึ่งตัวกล้องวงจรปิดสามารถทนทนต่อแดดและฝนได้ .
การเลือกใช ้Pan & Tilt unit นอกจากเรื่องสถานที่ติดตั้งแล้ว
จะต้องพิจารณาต่อไปด้วยว่า อุปกรณ์ที่จะใช ้งานร่วมกับ Pan & Tilt
unit นอกจากกล้องกับเลนส์จะมีอุปกรณ์อื่นเพิ่มเติม
เพราะว่าถ้ามีอุปกรณ์ประกอบมาก น้าหนักก็จะต้องมากตามไปด้วย
จาเป็ นที่ต้องใช ้Pan & Tilt unit ที่สามารถจะรับน้าหนักได้ทั้งหมด
จะทาให้มีขนาดใหญ่ และราคาสูง Pan & Tilt unit
บางชนิดสามารถที่หมุนได้รอบตัวได้ โดยที่ไม่ต้องหมุนกลับ
(เพราะติดสายไฟ) บางชนิดมีวงจรความจาตาแหน่ง (Preset
Function) ควรจะพิจารณาว่าสามารถเสริมพิเศษของ Pan & Tilt
unit มีความจาเป็ นเพียงใด
เพราะราคาก็จะต้องสูงไปตามคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้น
นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว Pan & Tilt unit ยังมีอีกหลายแบบ เช่น
บางแบบสามารถที่จะนาไปติดตั้งใต้น้าได้ เป็ นต้น
ระบบไฟฟ้ าภายในของ Pan & Tilt unit
ต้องเป็ นระบบไฟฟ้ าชนิดเดียวกันกับ เครื่อง/ตัว ควบคุมการทางาน เช่น
24 V.DC , 24 V.AC , 115 V.AC หรือ 220 V.AC เป็ นต้น
ถ้าใช ้ระบบไฟฟ้ าที่แตกต่างกัน จะทาให้ Pan & Tilt unit ไม่ทางาน
หรือ ชารุดเสียหายได้ ถ้าระบบการส่งสัญญาณควบคุมของ Pan & Tilt
unit เป็ นการส่งแบบการผสม หรือฝากไปกับสัญญาณอื่นๆ เช่น ระบบ
Digital , Microcomputer-Base เป็ นต้น
จะต้องมีการแปลงหรือแยกสัญญาณควบคุมฯ
ออกจากสัญญาณที่เป็ นตัวรับฝาก อุปกรณ์นี้เรียกว่า Receiver unit
หรือ Driver unit หรือมีชื่อเป็ นอย่างอื่น ตามแต่ผู้ผลิตจะเรียก
โดยปกติ กล้องที่มี Pan & Tilt unit
จะใช ้เลนส์ที่สามารถปรับขนาดภาพได้ ควบคู่ไปด้วยกัน
แต่ไม่จาเป็ นเสมอไป ขึ้นอยู่กับงานที่ใช ้มากกว่า
ในบางลักษณะอาจจะต้องการเพียงให้สามารถปรับทิศในการดูก็เพียงพอ
แล้ว ไม่ต้องการจะดูในรายละเอียด
ในบางลักษณะก็มีความจาเป็ นต้องการใช ้เลนส์ที่สามารถปรับขนาดของ
ภาพได้
เพื่อจะดูรายละเอียดของภาพที่ต้องการจะดูเพราะว่าระยะของวัตถุหรือจุด
ที่ต้องการจะดูในแต่ละทิศทางจะมีความแตกต่างกันไป.
เลนส์ปรับขนาดภาพได้ ( Zoom Lens )
เป็ นเลนส์ที่สามารถเปลี่ยนขนาดภาพได้ ( เปลี่ยน ความยาวโฟกัส)
เลนส์ฯ ที่นามาใช ้กับ กล้องที่มี Pan & Tilt unit ส่วนมากจะเป็ นชนิด
ที่ควบคุมการทางานด้วยมอเตอร ์เราจึงเรียกว่า Motorized Zoom
Lens
การเลือกใช ้Motorized Zoom Lens
ควรจะเลือกให้เหมาะกับงานที่จะใช ้เพราะว่า Motorized Zoom Lens
มีหลายแบบ หลายขนาดตามความยาวโฟกัส เช่น การใช ้ภายในอาคาร
มี
พื้นที่ไม่ใหญ่ ก็ใช ้Motorized Zoom Lens
ที่มีความยาวโฟกัสไม่มากนัก เช่น ๖ - ๓๕ ม.ม. ( ๖ เท่า)
ถ้า กล้องวงจรปิ ด CCTV เป็ นอาคารที่มีขนาดใหญ่
หรือภายนอกอาคารพื้นที่กว้าง หรือต้องการจะดูให้เห็นรายละเอียดมากๆ
ก็ควรใช ้Motorized Zoom Lens ที่มีความยาวโฟกัสมากขึ้น เช่น ๖
- ๖๐ ม.ม. ( ๑๐ เท่า) ถ้าติดตั้งนอกอาคาร
หรือต้องการที่จะมองให้เห็นได้ไกล ก็ควรใช ้Motorized Zoom Lens
ที่มีความยาวโฟกัสมากขึ้นไป เช่น ๖ - ๑๒๓ ม.ม. (๒๑ เท่า) เป็ นต้น
เครื่องหุ้มกล้อง / กล่องหุ้มกล้องวงจรปิด (Camera Housing)
เป็ นอุปกรณ์ที่ช่วยให้กล้องวงจรปิด มีความคงทนต่อสภาวะอากาศ
สิ่งแวดล้อมต่างๆ สามารถที่จะนากล้องไปติดตั้งใช ้งาน ได้ทุกสถานที่
เพราะว่าเครื่องหุ้มกล้อง มีหลายชนิด หลายแบบ
บางชนิดมีพัดลมช่วยระบายอากาศ ทั้งภายในและภายนอก
บางแบบมีใบปัดน้าฝนที่กระจกด้านหน้า
บางชนิดมีการระบายความร ้อนด้วยน้า
เพื่อติดตั้งในบริเวณที่มีความร ้อนสูง บางแบบมีการปิดผนึกอย่างดี
สามารถป้ องกันฝุ่นละอองได้ บางชนิดใช ้โลหะพิเศษ เช่น Stainless-
Steel เพื่อจะสามารถทนต่อการดักกร่อน (Corrosionproof).
การเลือกใช ้Housing องค์ประกอบภายนอกได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
(เหมือนกับการเลือกใช ้ฐานกล้องหมุนปรับทิศทางได้ ) ขนาดของ
Housing จะต้องมีขนาดที่สามารถที่จะรับกล้องวงจรปิดกับซูมเลนส์ได้
และก็ควรที่มีที่ว่างเหลือไว้บ้าง เพื่อรับการขยายตัวของอากาศ
และการหมุนเวียนของอากาศภายใน Housing ผู้ผลิตบางราย จะนา
Receiver unit ประกอบอยู่ภายใน Housing เลย
ซึ่งเป็ นประหยัดสายและสะดวกในการ กล้องวงจรปิ ด ภาพชัด HD
แต่ควรคานึงการซ่อม บารุงรักษาบ้าง
โดยปกติแล้วกล้องวงจรปิดจะติดตั้งอยู่บนที่สูง หรือ สูงมาก
เช่นบนยอดเสา บนหลังคาอาคาร เพราะว่า Receiver unit
จะเป็ นแผงวงจรอิเล็คทรอนิคส์ซึ่งอาจจะชารุดหรือเสียได้
ดังนั้นจึงควรที่จะติดตั้งอยู่ในตาแหน่งที่สามารถตรวจซ่อมได้สะดวกจะดีก
ว่า.
การเปิ ด-ปิ ด ม่านรับแสง (Iris) ของเลนส์กล้องวงจรปิ ด มี 2
ชนิด คือ
1. การเปิด-ปิดด้วยมือ (Manual Iris) การปรับขนาดของม่านแสง(Iris)
ทาการเปิด หรือ ปิด ขนาดของรูรับแสง(Aperture)
ด้วยตัวควบคุมการทางาน ของเลนส์
ตัวควบคุมการทางานของเลนส์กล้องวงจรปิดจะต้องเป็ นชนิดที่มี
ปุ่ม/สวิทส์เปิด-ปิด หรือปรับขนาดของม่านแสงได้ (Iris Control
Function) .
2. การเปิด-ปิด อัตโนมัติ (Auto Iris) การปรับขนาดของม่านรับแสง
จะทางานร่วมกับ การทางานของกล้อง
ตัวกล้องจะมีวงจรไฟฟ้ าเพื่อจ่ายไฟให้กับเลนส์
การจ่ายไฟฟ้ าให้กับเลนส์ฯ มี ๒ แบบคือ
แบบสัญญาณภาพ (Video Type)
ตัวกล้องจะจ่ายไฟฟ้ าให้กับเลนส์ในลักษณะของสัญญาณภาพ
โดยจะมีความเข้มของสัญญาณภาพที่แตกต่างกันไป
ตามการเปลี่ยนแปลงของแสง เลนส์ที่จะใช ้กับกล้องที่จ่ายไฟฟ้ าแบบนี้
จะต้องมีแผงวงจร (Amplifier)
เพื่อเปลี่ยนความแตกต่างของสัญญาณภาพให้เป็ น
การเปลี่ยนแปลงทางไฟฟ้ า เพื่อให้อุปกรณ์ซึ่งคล้ายกับมอเตอร ์
มีขนาดเล็กมาก เรียกว่า กัลวานอมิเตอร ์(Galvanometer)
หรือเรียกเป็ นอย่างอื่นแล้วแต่ผู้ผลิตจะเรียก ทางาน
เพื่อทาให้ม่านแสงเปิด หรือ ปิด ตามการเปลี่ยนแปลงของแสง
แบบไฟตรง (DC Type) ตัวกล้องจะมีวงจรจ่ายไฟฟ้ า จ่ายไฟกระแสตรง
(DC) ให้กับเลนส์เพื่อให้กัลวานอมิเตอร ์(Galvanometer)
ทางานโดยตรง เพื่อทาให้ม่านแสงเปิด หรือ ปิด
ไปตามการเปลี่ยนแปลงของแสง
การเลือกใช ้เลนส์กล้องวงจรปิดที่เปิด-ปิด ม่านแสงอัตโนมัติ ว่าเป็ นชนิด
Video Type หรือ DC Type
ต้องดูจากคู่มือของกล้อง ถ้าใช ้ผิดประเภท เลนส์จะไม่ทางาน
และอาจจะชารุดได้.
นอกจากนี้ เลนส์บางรุ่น บางผู้ผลิต สามารถที่จะใช ้งานได้ทั้ง Maunal-
Irsi และ Auto-Iris ในเลนส์ตัวเดียวกัน บางรุ่นจะมีสวิทส์เลือกใช ้
อย่างใดอย่างหนึ่งจากตัวควบคุม แต่ในบางรุ่นสามารถที่จะสั่งเปิด
หรือปิด รูรับแสง ในขณะที่ยังคงทางานเป็ น Auto-Iris ได้ด้วย.
ในปัจจุบันนี้ ได้มีกล้องกล้องวงจรปิดรุ่นใหม่ ๆ
ที่ช่วยพัฒนาเพื่อความสะดวกต่อการใช ้งานซึ่งทางผลิตจะผลิตและพัฒน
ากล้องวงจรปิดรุ่นใหม่ๆออกมา อยู่เรื่อยๆ ต่อไป
ระบบโทรทัศน์วงจรปิ ด CCTV คืออะไร
กล้องวงจรปิด (CCTV) ย่อมาจาก Closed-circuit
television ซึ่งจะทาหน้าที่รับภาพที่ปรากฏอยู่
และทาการแปลงเป็ นสัญญาณ
และทาการส่งสัญญาณดังกล่าวไปในจุดที่ต้องการในลักษณะ point to
point
โทรทัศน์วงจรปิด ส่วนมากที่ใช ้งานในปัจจุบันนี้มี 2 ลักษณะ คือ :
1. ติดตั้งตายตัว หรือ
กล้องติดอยู่กับที่ (Fixed
Camera)
หมายถึงตัวกล้องจะติดตั้งอยู่บนขากล้องหรื
ออื่นๆ ซึ่งไม่สามารถจะขยับ
หรือหมุนเปลี่ยนทิศทางในการดูได้
ถ้าต้องการหมุนหรือเปลี่ยนทิศทาง
ก็จะต้องถอดตัวกล้องแยกออกจากขากล้อง
จึงจะเปลี่ยนตาแหน่งได้
2.
สามารถหมุนปรับทิศทาง
ได้ (Moving Camera)
เพื่อ
เป็ นการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช ้งาน
ระบบโทรทัศน์วงจรปิด
จึงได้มีการเพิ่มอุปกรณ์ประกอบเข้าไป คือ
ฐานกล้องหมุนปรับทิศได้
สามารถที่จะปรับให้หมุนซ ้าย / ขวา ก้ม-เงย
ได้ ( Pan and Tilt unit )
และอาจจะมีอุปกรณ์อื่นเพิ่มอีก เช่น
เลนส์ปรับขนาดภาพได้ (Zoom Lens) และ
เครื่องหุ้มกล้อง (Camera Housing) เป็ นต้น
ฐานกล้องหมุนปรับทิศได้ (Pan & Tilt unit )
เป็ นอุปกรณ์ที่เพิ่มประสิทธิภาพให้กล้อง
สามารถที่จะเปลี่ยนได้หลายทิศทาง ทั้งมุมต่า และมุมสูง เช่น
กล้องที่ติดตั้งอยู่กับ Pan & Tilt unit ติดตั้งบนเสามีความสูงประมาณ
๑๐ เมตร สามารถที่จะปรับมุมก้มเพื่อจะดูวัตถุ หรือคนที่อยู่บนพื้นดิน
ซึ่งมีระดับต่ากว่าตาแหน่งที่ติดตั้งกล้อง
หรือมุมเงยเพื่อมองไปยังอาคารที่สูงกว่า ไม่ว่าจะเป็ นทิศทางตรงด้านหน้า
หรือจะหมุนไป ยังทิศทางอื่นๆ ก็สามารถทาได้
โดยปกติ กล้องที่มี Pan & Tilt unit
จะใช ้เลนส์ที่สามารถปรับขนาดภาพได้ ควบคู่ไปด้วยกัน
แต่ไม่จาเป็ นเสมอไป ขึ้นอยู่กับงานที่ใช ้มากกว่า
ในบางลักษณะอาจจะต้องการเพียงให้สามารถปรับทิศในการดูก็เพียงพอ
แล้ว ไม่ต้องการจะดูในรายละเอียด
ในบางลักษณะก็มีความจาเป็ นต้องการใช ้เลนส์ที่สามารถปรับขนาดของ
ภาพได้
เพื่อจะดูรายละเอียดของภาพที่ต้องการจะดูเพราะว่าระยะของวัตถุหรือจุด
ที่ ต้องการจะดูในแต่ละทิศทางจะมีความแตกต่างกันไป.
เลนส์ปรับขนาดภาพได้ ( Zoom Lens )
เป็ นเลนส์ที่สามารถเปลี่ยนขนาดภาพได้ ( เปลี่ยน ความยาวโฟกัส)
เลนส์ฯ ที่นามาใช ้กับ กล้องที่มี Pan & Tilt unit ส่วนมากจะเป็ นชนิด
ที่ควบคุมการทางานด้วยมอเตอร ์เราจึงเรียกว่า Motorized Zoom
Lens
การ เลือกใช ้Motorized Zoom Lens
ควรจะเลือกให้เหมาะกับงานที่จะใช ้เพราะว่า Motorized Zoom Lens
มีหลายแบบ หลายขนาดตามความยาวโฟกัส เช่น การใช ้ภายในอาคาร
มี พื้นที่ไม่ใหญ่ ก็ใช ้Motorized Zoom Lens
ที่มีความยาวโฟกัสไม่มากนัก เช่น ๖ - ๓๕ ม.ม. ( ๖ เท่า)
ถ้าเป็ นอาคารที่มีขนาดใหญ่ หรือภายนอกอาคารพื้นที่กว้าง
หรือต้องการจะดูให้เห็นรายละเอียดมากๆ ก็ควรใช ้Motorized Zoom
Lens ที่มีความยาวโฟกัสมากขึ้น เช่น ๖ - ๖๐ ม.ม. ( ๑๐ เท่า)
ถ้าติดตั้งนอกอาคาร หรือต้องการที่จะมองให้เห็นได้ไกล ก็ควรใช ้
Motorized Zoom Lens ที่มีความยาวโฟกัสมากขึ้นไป เช่น ๖ - ๑๒๓
ม.ม. (๒๑ เท่า) เป็ นต้น
อุปกรณ์ที่ใช ้ในระบบโทรทัศน์วงจรปิด
1. กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV Camera)
2. เลนส์(CCTV Lenses)
3. เครื่องบันทึกภาพ (Video Recorder)
4. จอภาพ (Video Monitor)
5. เครื่องเลือก / สลับภาพ (Video Switcher) และ เครื่องผสม /
รวมภาพ (Multiple Screen Displays)
6. ระบบการควบคุม (Control System)
7. อุปกรณ์เสริม
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทางานของระบบโทรทัศน์วงจรปิด
(Related Accessories for more efficiency CCTV System)
7.1. กล่องหุ้มกล้อง (Camera Housing)
7.2. ฐานกล้องปรับทิศทางได้ (Pan & Tilt units)
7.3. อุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ควรดูอะไรบ้างก่อนใช้ กล้องวงจรปิ ด
1) การเลือกชนิดของกล้องวงจรปิด : ชนิดของกล้อง
กล้องวงจรปิดมีหลายชนิดหลายแบบ โดยแบบได้คร่าว ๆ ดังนี้
- กล้องแบบ CS MOUNT
เป็ นกล้องที่ต้องใช ้เลนส์ต่อกับกล้องทาให้เกิดภาพ ข้อดี คือภาพจะชัด
เพราะเลนส์ที่ใช ้เป็ นเลนส์มาตรฐานขนาดใหญ่
- กล้องแบบโดม
เหมาะสาหรับสถานที่ที่ต้องการความสวยงามหรือไม่ต้องการให้สังเกตเห็
นว่ามีการติดตั้งกล้องวงจรปิด
• ความละเอียดของภาพ (Resolution)
กล้องที่ให้ภาพจะชัดเจนหรือไม่ขึ้นอยู่กับชนิดของแผ่นรับภาพ CCD
ซึ่งแบบได้ 2 แบบ คือ
- Normal Resolution เป็ นแบบที่มีความละเอียดของภาพปกติ
ประมาณ 330 - 380 TV LINE
- High
Resolution เป็ นแบบที่มีความละเอียดของภาพสูงประมาณ 400 -
550 TV LINE หมายเหตุ
กล้องที่มีความละเอียดของภาพสูงจะมีราคาสูงตามไปด้วย
• ความสามารถในการรับแสง (Illumination)
กล้องที่มีความสามารถในการรับแสงต่า(LUX)
จะสามารถใช ้ในสถานที่ที่มีความสว่างน้อย (ในที่มืด) ได้
และราคาจะสูงตามไปด้วย
2) เลนซ ์(LENS) ; การเลือกเลนซ ์
มีความสาคัญในการติดตั้งระบบโทรทัศน์วงจรปิด
หลักการทางานของเลนซ ์
เลนซ ์จะตัวรวมแสงให้ภาพตกกระทบที่แผ่นรับภาพ CCD โดยมี
IRIS , (ช่อง ให้แสงผ่าน)
เป็ นตัวกาหนดให้ภาพที่เกิดมีความเข้มของแสงตามต้องการ
ถ้าในที่มีแสงมาก IRIS จะต้องเปิดน้อย ถ้าในที่มืดจะต้องเปิด IRIS
ให้กว้างที่สุด
ชนิดของเลนซ ์
FIX IRIS IRIS ของเลนซ ์จะไม่สามารถปรับได้
ทาให้จะต้องใช ้ในสถานที่ภายในอาคาร ที่มีแสงสว่างคงที่ตลอดเวลา
MANUAL IRIS IRIS
ของเลนส์จะสามารถปรับได้ด้วยช่างเทคนิคที่ติดตั้งกล้อง
เหมาะสาหรับงานในอาคารที่มีความสว่างในแต่ละห้องไม่เท่ากัน
สามารถปรับแสงให้เหมาะสมในแต่ละห้องได้
AUTO IRIS เป็ นเลนส์ที่ IRIS จะปรับขนาดการรับแสงเอง
โดยอัตโนมัติขึ้นอยู่กับความเข้มของแสงที่ตกกระทบเลนส์
เหมาะสาหรับติดตั้งนอกอาคารที่ความสว่าง เปลี่ยนตามแสงอาทิตย์
3) อุปกรณ์ควบคุมและบันทึกภาพ
แบบใช ้เทป (ANALOG)
เครื่องแบ่งภาพ MULTIPLEXER เครื่องบันทึกภาพ
ประกอบด้วย
- MULTIPLEXER (เครื่องแบ่งภาพ) ใช ้ต่อกับกล้องได้ 4 ตัว, 8 ตัว
และ 16 ตัว
- TIMELAPSE RECORDER (เครื่องบันทึกภาพ)
ใช ้บันทึกภาพด้วยเทป มีแบบ 24 ชั่วโมง 96 ชั่วโมง, 196 ชั่วโมง, 960
ชั่วโมง
- จอภาพ (MONITOR, TV) ใช ้แสดงภาพ
- แบบใช ้HARDDISK (DVR)
- บันทึกภาพลง HARDDISK แบ่งได้ 3 ประเภท
- แบบ CARD เป็ น CARD ที่สามารถต่อกล้องได้ 4, 8, 16 ตัว
โดยจะต้องใช ้COMPUTER
- แบบ STANDALONE เป็ นแบบ ที่ประกอบ COMPUTER
มาจากโรงงานโดยตรงเป็ นแบบ PC BASE
- แบบ STAND ALONE NON PC เป็ นแบบ
อุปกรณ์ประกอบจากโรงงานทั้งชุดและไม่ใช ้โปรแกรม WINDOW
(NON PC)
ข้อดีของการเลือกใช ้กล้อง Network camera
เมื่อเปรียบเทียบกับกล้อง Analog
1. การ Access หรือการเข้าถึงตัวกล้อง ซึ่งโดยปกติแล้วกล้อง
Network camera นั้นสามารถที่จาทาการเข้าถึงตัวกล้องได้จากทุกๆที่
ไม่ว่าจะเป็ นที่ไหนบนโลก
เนื่องจากว่าตัวกล้องนั้นสามารถทางานได้บนพื้นฐานระบบเครือข่าย(Ne
twork) ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกล้องเข้ากับระบบ LAN, Wan แล้วก็
Internet ได้
โดยสามารถเรียกดูภาพจากกล้องได้อย่างง่ายดายเพียงแค่เปิดโปรแกรม
IE (Internet Explorer) ซึ่งมีอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร ์ทั่วๆไปอยู่แล้ว
ซึ่งแตกต่างจากกล้องระบบ Analog โดยสิ้นเชิง เพราะว่าตัวกล้อง
Analog นั้นไม่สามารถเข้าถึงตัวกล้องได้โดยตรงไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม
2. Easy to use การใช ้งานค่อนข้างง่าย
เนื่องจากสามารถเรียกดูภาพได้จากโปรแกรม IE (Internet
Explorer)ได้อย่างง่ายแล้ว
ผู้ใช ้ยังสามารถเข้าไปกาหนดค่าการทางานต่างๆของตัวกล้องได้อีกด้วย
3. Quality หรือคุณภาพของภาพที่ได้ ในระบบกล้อง Network
camera
นั้นผู้ใช ้สามารถเข้าไปกาหนดค่าการใช ้งานต่างๆผ่านโปรแกรม IE
(Internet Explorer) ได้ที่กล้องโดยตรง ไม่ว่าจะเป็ นเรื่องการกาหนด
Resolution ของภาพ การตั้งค่าการ Compression ของภาพ
ซึ่งสามารถที่จะกาหนดคุณภาพของภาพได้ตามความต้องการ
อีกทั้งรูปแบบของไฟล์ยังเป็ นดิจิตอล
ทาให้ไม่เกิดปัญหาในเรื่องของระยะทางในการส่งสัญญาณภาพหรือการ
ดึงภาพมา บันทึก ซึ่งต่างจากระบบ Analog
ซึ่งบางครั้งการติดตั้งในระยะที่ไกลเกินไป
หรือสภาวะแวดล้อมที่มีสัญญาณกวนต่างๆ
จะทาให้การส่งสัญญาณภาพเกิดปัญหาขึ้นได้
4. System Requirement ความต้องการของระบบ กล้อง
Network camera
นั้นสามารถทางานได้บนระบบเครือข่ายที่ผู้ใช ้มีอยู่ได้เลย
เพียงแค่ปลั๊กอุปกรณ์กล้องเข้ากับระบบเครือข่ายก็สามารถใช ้งานได้ทัน
ที ซึ่งสามารถใช ้งานได้ทั้งแบบเดินสาย หรือ ไร ้สาย (Wireless)
และในการบันทึกภาพนั้นก็เพียงแค่ใช ้โปรแกรมบันทึกภาพลงบนเครื่องค
อมพิวเตอร ์ทั่วๆไปก็สามารถที่จะดึงภาพจากกล้องมาบันทึกได้ทันที
ไม่เหมือนกับระบบ Analog ซึ่งจาเป็ นจะต้องวางระบบใหม่ทั้งหมด
ตั้งแต่การเดินสาย รวมถึงจะต้องซื้ออุปกรณ์ที่เรียกว่า DVR (Digital
video recorder) เพื่อใช ้ในการบันทึกภาพ
5. Installation การติดตั้ง ระบบ Network
นั้นสามารถติดตั้งได้อย่างง่ายดาย
หรือสามารถใช ้งานร่วมกับระบบเครือข่ายเดิมที่มีอยู่ได้ทันที
ไม่ว่าจะเป็ นแบบเดินสาย หรือแบบไร้สาย
ซึ่งจะยิ่งทาให้การติดตั้งนั้นง่ายดายมากยิ่งขึ้น ผิดกับ Analog
ซึ่งจะต้องเดินสายใหม่ทั้งหมด
6. Cabling สายสัญญาณ ระบบ Network
นั้นจะใช ้สายสัญญาณประเภท UTP ซึ่งปัจจุบันมีราคาค่อนข้างถูก
อีกตั้งตัวสายยังมีความยืดหยุ่นสูง สามารถที่จะเดินสายติดตั้งได้โดยง่าย
อีกทั้งปัจจุบันยังมีเทคโนโลยี Wireless LAN
ซึ่งช่วยให้ลดการติดตั้งแบบเดินสายได้อีกด้วย แต่ระบบ Analog
นั้นใช ้สายสัญญาณประเภท Coax
ซึ่งลักษณะของสายมีขนาดใหญ่และค่อนข้างแข็ง ทาให้ในการติดตั้งนั้น
ค่อนข้างกระทาได้ยาก
เนื่องจากจะต้องเดินสายจากกล้องทุกตัวมาเข้ากับเครื่องบันทึกภาพ
(DVR)
7. Scalability การขยายระบบ ระบบกล้อง Network camera
นั้นสามารถเพิ่มกล้องเข้าสู่ระบบได้โดยง่าย
เพียงแค่ปลั๊กกล้องเข้ากับระบบเครือข่ายก็สามารถใช ้งานได้
อีกทั้งยังสามารถเพิ่ม ลด หรือย้ายจุดติดตั้งได้อย่างง่ายได้
โดยหากใช ้เป็ นระบบ Wireless จะยิ่งเพิ่มความสะดวกมากขึ้น
ผิดกับระบบ analog ซึ่งแต่ละกล้องจาเป็ นจะต้องเดินสายใหม่ทั้งหมด
ทาให้ในการเพิ่มจานวนกล้อง หรือย้ายจุดติดตั้งนั้นทาได้โดยลาบาก
ซึ่งหากระยะไกลเกินไปก็อาจจะทาให้สัญญาณภาพเกิดปัญหาขึ้นได้อีก
8. Cost ค่าใช ้จ่าย ระบบกล้อง Network camera
นั้นสามารถใช ้งานร่วมกับระบบเครือข่ายที่มีอยู่ได้ทันที ซึ่งโดยปกติแล้ว
หากเป็ นอาคารสานักงานต่างๆก็จาเป็ นจะต้องมีระบบเครือข่ายใช ้งานภา
ยในอยู่ แล้ว หรือหากต้องมีการติดตั้งใหม่นั้น
โดยเฉลี่ยแล้วค่าใช ้จ่ายในการติดตั้งแบบเดินสาย UTP
นั้นจะถูกกว่าการติดตั้งหรือเดินสายแบบ Coax อยู่ประมาณ 20-30%
นอกจากนั้นปัจจุบันราคาของอุปกรณ์ Network
รวมถึงราคาเครื่องคอมพิวเตอร ์ยังมีราคาลดลงจากเมื่อก่อนมาก
อีกทั้งการติดตั้งระบบเครือข่ายใหม่
นอกจากจะสามารถใช ้งานระบบกล้อง Network camera
แล้วยังสามารถใช ้งาน Application อื่นๆได้ด้วย
ซึ่งทาให้ค่ายใช ้จ่ายในปัจจุบันนั้น ไม่ได้สูงกว่าระบบ analog
แบบเก่าเลย
จากเหตุผลต่างๆข้างต้น ผู้ใช ้จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันกล้อง Network
camera นั้นค่อนข้างจะมีปะสิทธิภาพ
และประโยชน์ในการใช ้งานที่หลากหลายกว่าระบบ Analog
ไม่ว่าจะเป็ นตัวกล้องเอง ระบบในการใช ้งานเอง
ความยากง่ายในการติดตั้ง เคลื่อนย้าย ก็ตาม
แล้วที่สาคัญปัจจุบันค่าใช ้จ่ายต่างๆนั้นก็ใกล้เคียงกับระบบ Analog
แบบเก่า แต่ให้ประโยชน์การใช ้งานที่มากกว่า
จึงเป็ นทางเลือกใหม่ที่ดีกว่าในการเลือกใช ้ระบบกล้องที่เป็ นแบบ
Network camera
» อุปกรณ์ที่ใช ้:::: สินค้าหลักที่ใช ้ในระบบกล้องวงจรปิดมี 2 รายการ
คือ
กล้องวงจรปิด แบ่งเป็ น 3 ชนิดหลักๆ คือ
1. กล้องแบบโดม :: เหมาะสาหรับใช ้ในอาคาร
ที่แสงสว่างไม่เปลี่ยนแปลง ราคาถูก
2. กล้องแบบทรงเหลี่ยม (CS - MOUNT)
:: เหมาะสาหรับใช ้ทั้งภายใน และภายนอก ต้องใช ้คู่กับเลนส์
ซึ่งสามารถเ
ปลี่ยนขนาดโฟกัสของเลนส์ได้ ทาให้ได้ภาพที่คมชัดตามพื้นที่ที่ต้องการ
3. กล้อง INFARED ::: เหมาะสาหรับใช ้ทั้งภายในและภายนอก
โดยเฉพาะพื้นที่ที่มืดสนิทในตอนกลางคืน เพราะมีหลอด INFARED
ผลิตความถี่ให้เห็นในที่มืดสนิทได้
อุปกรณ์บันทึกภาพ ต้องพิจารณาคุณลักษณะหลักๆ คือ
1. ชนิดของอุปกรณ์บันทึกภาพ
แบบ PC BASE จะใช ้ในโปรแกรม MS Office มีแบบเป็ น
CARD และแบบผลิตสาเร็จมาพร้อม Computer
จะมีคุณสมบัติมากมายเหมือน Computer
แบบ STANDALONE
เป็ นแบบที่เป็ นตัวเครื่องผลิตสาเร็จรูปมาจากโรงงาน
มีคุณสมบัติครบถ้วนราคาถูก
2. ความเร็วของภาพที่ดูจากจอภาพ / ความเร็วในการบันทึกภาพ
จะพิจารณาเป็ น ความเร็วภาพ/วินาที (Frame) ถ้ามีความเร็วสูง
ภาพจะดูต่อเนื่องแต่เปลือง Memory ใน Harddisk มาก
3. มาตรฐานในการบีบอัด (Compression)
ของภาพมาตรฐานที่เป็ นที่นิยมกันหลักๆ มีดังนี้ MPEG4 , MJPEG และ
H.264 MPEG4 เป็ นที่นิยมสูงสุด เพราะใช ้พื้นที่ในการบันทึกน้อย
4. การดูภาพผ่าน Internet / Lan ควรจะสามารถดูผ่าน
Internet / Lan ได้
การรับประกันสินค้า จะต้องขอเอกสาร เงื่อนไข การรับประกัน
สินค้าจากบริษัทที่จาหน่าย เพื่อเก็บไว้เป็ นหลักฐาน
การติดตั้ง มีความสาคัญมากไม่น้อยกว่าการเลือกสินค้า
สายที่ใช ้ในการติดตั้งมี 2 ชนิดคือ
1. สายไฟฟ้ า จะต้องใช ้สายที่ได้มาตรฐาน มอก.
ระวังผู้ขายที่ขาดความรับผิดชอบจะใช ้สายโทรศัพท์แทนสายไฟฟ้ า
ซึ่งจะทาให้สายร ้อนและเกิดอัคคีภัยได้
2. สายสัญญาณใช ้สาย RG6 ที่ได้มาตรฐาน โดยจะต้องใช ้สาย
SHIELD 90% ขึ้นไป ควรจะใช ้ยี่ห้อ มาตรฐาน เพราะถ้าใช ้สายถูก
ราคาเมตรละ 5 - 8 บาท จะ SHIELD ต่า 60% จะใช ้งานได้ไม่นาน
ภาพของกล้องจะเกิดสัญญาณรบกวน ต้องเดินสายใหม่ทั้งหมด
งานติดตั้งจะต้องตรวจสายที่ติดตั้งจริงก่อนชาระการติดตั้ง
การติดตั้งสาคัญมาก ถ้าต้องรื้อและเดินสายใหม่จะเป็ นเรื่องใหญ่มาก
การเลือกบริษัทที่จาหน่าย
ปัจจุบันธุรกิจกล้องวงจรปิดบูมมากทาให้บริษัทขายกล้องวงจรปิดเกิ
ดมาก ทาให้มีการแข่งขันสูง มีผู้ขายบางรายหลอกลวงลูกค้า
บางรายปิดกิจการไป โดยมีปัญหาต่างๆ พอสรุปดังนี้
1. นาสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน มาจาหน่าย
โดยเฉพาะสินค้าจากประเทศจีน ปัจจุบันสินค้าจีนที่มี
คุณภาพดีมีจานวนมากแต่ราคาจะใกล้เคียงสินค้าจากประเทศไต้หวันบา
งครั้งมีการ แอบอ้างว่าผลิต ในประเทศไต้หวัน
แต่เป็ นสินค้าคุณภาพต่าจากประเทศจีน
ส่วนใหญ่ลูกค้าที่พิจารณาแต่ราคาจะประสบปัญหา
ซื้อไปแล้วใช ้ไม่ได้นาน สินค้าจะชารุดเร็วมาก
2. ผู้ขายไม่บริการหรือบริการช้ามาก
เนื่องจากผู้ขายไม่ได้นาเจ้าโดยตรง หรือผู้นาเข้าเลิกกิจการ
จะต้องพิจารณาความมั่นคงของผู้ขาย หรือผู้นาเข้าเป็ นสาคัญ
3. การติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน ใช ้สายไฟและสายสัญญาณ
ที่ไม่ได้มาตรฐานมาติดตั้ง ทาให้ภาพที่ปรากฏไม่ชัดเจน
หรือใช ้ได้ไม่นาน ภาพก็ไม่ชัดรวมถึงการไม่รับผิดชอบเกี่ยวกับ
การติดตั้ง ควรระวังเรื่องการติดตั้งเป็ นเรื่องสาคัญมาก
การทางานของเลนส์
เลนส์จะเป็ นตัวรวมแสงให้ภาพตกกระทบที่แผ่นรับภาพ CCD โดยมี IRIS
(ช่องให้แสงผ่าน) กาหนดให้ภาพที่เกิดมีความเข้มของแสงตามต้องการ
- ในกรณีที่มีแสงมาก IRIS จะต้องเปิดน้อย
- ในกรณีที่มีแสงน้อย IRIS จะต้องเปิดมาก
ประเภทของเลนส
1. FIX IRIS IRIS
ของเลนส์จะไม่สามารถปรับได้
ทาให้จะต้องใช ้ในสถานที่ภายในอาคาร
ที่มีแสงสว่างคงที่ตลอดเวลา
2. MANUAL IRIS IRIS
ของเลนส์จะสามารถปรับได้ด้วยช่างเทคนิ
คที่ติดตั้งกล้อง
เหมาะสาหรับงานในอาคารที่มีความสว่างใ
นแต่ละห้องไม่เท่ากัน
สามารถปรับแสงให้เหมาะในแต่ละห้องได้
3. AUTO IRIS เป็ นเลนส์ที่ IRIS
จะปรับขนาดของการรับแสงเอง
โดยอัตโนมัติขึ้นอยู่กับความเข้มของแสงที่
ตกกระทบเลนส์
เหมาะสาหรับติดตั้งนอกอาคารที่ความสว่า
งเปลี่ยนตามแสงอาทิตย์
การเลือกใช ้เลนส์
โดยทั่วไปจะมีมาตรฐานเกลียวอยู่2ชนิด
โดยทั้ง2ชนิดนั้นจะมีเกลียวขนาด 1นิ้ว
และมีลักษณะคล้ายๆกัน
- CS-mount
ระยะห่างระหว่างตัวเซ็นเซอร ์และเลนส์จะมีขนาด
12.5 มิลลิเมตร
- C-mount
ระยะห่างระหว่างตัวเซ็นเซอร ์และเลนส์จะมีขนาด
17.5 มิลลิเมตร โดยสามารถที่จะใช ้C/CS
Adapter ring เพื่อที่จะแปลงเลนส์แบบ C-mount
ไปเป็ นแบบ CS-mount ได้
- Sensor size (ขนาดของตัวรับภาพ)
เลนส์โดยทั่วไปนั้นจะสร ้างภาพที่มีขนาดใหญ่พอสา
หรับตัวเซ็นเซอร ์โดยที่เซ็นเซอร ์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
ก็จะมีราคาที่สูงขึ้นตามไปด้วย โดยที่เลนส์ที่มีขนาด
½ นิ้ว ก็จะใช ้งานได้สาหรับเซ็นเซอร ์ที่มีขนาด 1/2
นิ้ว, 1/3 นิ้ว และ ¼ นิ้ว
จะไม่สามารถใช ้ได้กับเซ็นเซอร ์ที่มีขนาด2/3 นิ้ว
ถ้าคุณเลือกเลนส์สาหรับเซ็นเซอร ์ขนาดเล็กมาใช ้ง
านกับเซ็นเซอร ์ที่มีขนาดใหญ่
ก็จะได้ภาพที่มีมุมเป็ นสีดา
- Focal length (ความยาวของจุดโฟกัส)
ความยาวของจุดโฟกัสประกอบกับขนาดของเซ็นเซ
อร ์จะให้มุมที่ดูแตกต่างกัน
โดยถ้าขนาดความยาวของโฟกัสสั้นจะให้มุมมองที่
กว้าง(wide-angle view)
ถ้าขนาดความยาวของจุดโฟกัสยาว
จะให้มุมมองที่แคบลง(telephoto view)
เลนส์ที่มีมุมมองที่กว้าง(wide-angle view)
จะมีมุมมองส่วนลึกของพื้นที่ได้ดีกว่าเลนส์ที่มีมุมมอ
งแคบ(telephoto view)
นั้นหมายความว่าคุณสามารถที่จะโฟกัสภาพเข้ามา
ใกล้ได้จากระยะไกล
ซึ่งเลนส์ที่มีมุมมองแคบจะต้องการการโฟกัสภาพที่
ถูกต้อง แน่นอนกว่า
รูปแบบหลักของเลนส์มีอยู่ 3 แบบคือ
- Mono-focal. ความยาวของจุดโฟกัสนั้นถูกกาหนดมา เช่น 4
มิลลิเมตร
- Zoom.
ความยาวของจุดโฟกัสนั้นสามารถที่จะปรับได้โดยอยู่ในระยะที่กาหนด
เช่น 4 ถึง 10 มิลลิเมตร
- Varifocal zoom. เป็ นเลนส์ซูมที่มีราคาค่อนข้างต่า
โดยถ้ามีการเปลี่ยนระยะห่างของจุดโฟกัส
เลนส์นั้นจะต้องมีการปรับตั้งโฟกัสใหม่ โดยทั่วไปจะมีขนาด 3.5 ถึง 8
มิลลิเมตร
ตัวอย่าง
ขนาดภาพขนาดใดที่คุณสามารถที่จะเห็นได้ในระยะ10 ฟุต
ถ้าคุณใช ้กล้องที่มีขนาดเซ็นเซอร ์¼ นิ้ว และใช ้เลนส์ขนาด 4
มิลลิเมตร? H = D x h / f = 10 x 3.6 / 4 = 9 ft
- Iris(รูรับแสง)ในส่วนของ Iris
จะเป็ นส่วนที่ใช ้กาหนดปริมาณของแสงที่จะผ่านไปสู่เลนส์
โดยที่จะมีลักษณะแตกต่างกันอยู่ 3 แบบคือ
- Manual Iris. หมุนปรับได้ที่วงแหวนIris
หรือเลือกใช ้เลนส์ที่กาหนดค่าIris มาแล้ว โดยเลือกขนาดของIris ทีมีให้
เช่น F1.4, F2.0 เป็ นต้น
- DC Auto Iris. เชื่อมต่อเข้าที่ช่องต่อ output ของตัวกล้อง
โดยที่Iris จะถูกควบคุมโดยตัวกล้องโดย Digital Signal Processor
(DSP)
- Video Auto Iris. Iris จะถูกควบคุมโดยสัญญาณวีดีโอ
เลนส์แบบออโต้ไอริสนั้น เหมาะสาหรับงานที่อยู่ภายนอกอาคาร
โดยเลนส์นั้นจะสามารถปรับแสงให้เหมาะกับสภาพแสงขณะนั้น
โดยที่จะให้คุณภาพแสงที่ดีที่สุด
และยังสามารถป้องกันตัวรับภาพจากปริมาณแสงที่มีเข้ามามากเกินไป
- F-number
F-number =Focal length / Iris diameter
ถ้าจานวน F น้อย
จะทาให้คุณภาพของภาพนั้นดีกว่าในสภาวะที่มีแสงน้อย
กับ เลนส์ที่เป็ นออโต้ไอริสนั้น
จะต้องตั้งโฟกัสภาพในขณะที่มีแสงน้อยเสมอ
เพราะถ้ามีการตั้งโฟกัสในขณะที่มีแสงสว่างเยอะนั้น อาจจะทาได้ง่าย
แต่ว่าในขณะที่แสงนั้นน้อยลงจะทาให้เส้นผ่านศูนย์กลางของรูรับแสงปรั
บเล็กลง และอาจจะทาให้ภาพนั้นไม่อยู่ในโฟกัสได้
คุณสามารที่จะใช ้ตัวกรองแสงสีดาแบบพิเศษ
ซึ่งจะช่วยให้เราลดปริมาณแสงได้
ตัวกรองแสงนี้จะช่วยในการติดตั้งกล้องของคุณได้
ชนิดกล้องวงจรปิด (CCTV)
กล้องวงจรปิด ถือว่าเป็ นอุปกรณ์ที่สาคัญอันดับแรกของระบบ
CCTVเพราะถ้ากล้องวงจรปิด ไม่สามารถจับภาพได้หรือได้ภาพ
ที่ไม่ชัดระบบ CCTV นั้นก็ไม่มีประสิทธิภาพเลย
ถึงแม้ว่าคุณจะมีระบบบันทึกภาพ (DVR) ที่ดีแค่ไหน ก็ไม่สามารถช่วยได้
เพราะฉะนั้น กล้องวงจรปิด
ถือว่าเป็ นอุปกรณ์ที่จาเป็ นอันดับแรกเลยก็ว่าได้
เรามาดูว่ากล้องของระบบ CCTV นั้นมีแบบไหนบ้าง
ชนิดของกล้องวงจรปิด
1. กล้องมาตรฐาน (Standard Camera)
กล้องวงจรปิดมาตรฐาน
เป็ นกล้องทรงกระบอกที่ใช ้ติดตั้งภายในอาคาร สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้
ในกรณีที่ต้องการเปลี่ยน
มุมของภาพ โดยส่วนมากนิยมติดกล้องมาตรฐานไว้เพื่อปรามคน
ทาให้เห็นว่าในสถานที่นั้นๆมี กล้องวงจรปิดติดไว้ทาให้คนที่จะมาทามิดี
มิร ้ายกับสถานที่นั้นกลัว ไม่กล้าที่จะทาอะไร เพราะมีกล้องติดอยู่
สิ่งจาเป็ นสาหรับกล้องวงจรปิดมาตรฐาน (Standard Camera)
1. กล้อง (Camera)
2. เลนส์(Lens)
3. ขายึด (Bracket)
4. อะแดปเตอร ์(Adapter)
2. กล้องวงจรปิดอินฟราเรด (Infarred Camera)
กล้องวงจรปิดอินฟราเรดเป็ นกล้องที่จับภาพในที่มืดสนิทได้
ทาจากวัสดุทนทานสามารถนาไปติดภายนอกอาคาร
ได้กันน้าได้(แต่ไม่ถึงกับจุ่มน้า)การเลือกกล้องวงจรปิดอินฟราเรดนั้นควร
เลือกตามระยะของอินฟราเรดอย่างเช่นกล้องที่มี
ระยะอินฟราเรด 10 เมตร 20 เมตร 30 เมตร และระยะอื่นๆ
ที่เราจาเป็ นต้องใช ้
สิ่งจาเป็ นสาหรับกล้องวงจรปิด (CCTV)อินฟราเรด
1. กล้อง (Camera)
2. ขายึด (Bracket)
3. อะแดปเตอร ์(Adapter)
3. กล้องวงจรปิดโดม (Dome Camera)
กล้องวงจรปิดโดม เป็ นกล้องที่ติดเพื่อความสวยงาม
มีขนาดเล็ก ติดภายในอาคาร
หากต้องการทาความสะอาดก็ทาได้โดยง่าย
ส่วนมากจะติดกล้องโดมในห้องสวยงาม ห้องครัว ห้องประชุม ห้องนั่งเล่น
หรือในลิฟท์เป็ นต้น
สิ่งจาเป็ นสาหรับกล้องโดม
1. กล้อง (Camera)
2. อะแดปเตอร ์(Adapter)
4. กล้องวงจรปิด Pan/Tilt/Zoom (Speed Dome
Camera)
กล้องวงจรปิดสปีดโดมเป็ นกล้องที่มีความสามารถในการ
หมุนรอบตัวเองได้ ก้มเหงยได้ ซูมภาพได้ มี
ทั้งชนิดที่เป็ นแบบติดภายนอกอาคาร และติดตั้งภายในอาคาร
ควรติดตั้งกล้องวงจรปิด ชนิดนี้เพื่อตรวจตราบริเวณโดยรอบของพื้นที่
และในสถานที่หนึ่งๆสามารถติดกล้อง Speed Dome ได้มากกว่า 1 ตัว
การสั่งการหรือควบคุมกล้อง Speed Dome ต้องสั่งโดยเครื่องบันทึก
หรือสั่งจากคีย์บอร ์ควบคุม
5. กล้องวงจรปิดไอพี ( IP Camera )
กล้องวงจรปิดไอพี เป็ ฯกล้องที่ส่งภาพทางระบบเครอข่าย
ดูภาพที่ไหนก็ได้ ทุกที่ทุกเวลา หากต้องการ
บันทึกก็ต้องบันทึกลงคอมพิวเตอร ์ที่เปิดดูภาพของกล้องไอพีตัวนั้น
การทางานของกล้องไอพีจะมีดังนี้
ในครั้งต่อไปจะได้กล่าวถึงฟังก์ชั่นของกล้องวงจรปิด
ว่ามีฟังก์ชั่นอะไรบ้าง ที่ทาให้กล้องทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบของตัวกล้องวงจรปิ ด มีกี่ประเภท
กล้องวงจรปิ ดแยกเป็ น 2 ประเภท
1.กล้องแบบอนาล๊อก (Analog Camera)
เป็ นกล้องวงจรปิดที่ใช ้สายสัญญาณชนิด โคแอคเชียล หรือ ตระกูล RG
มาเป็ นอุปกรณ์นาสัญญาณ ข้อจากัดที่พบเช่น
สายสัญญาณถูกคลื่นรบกวน ทาให้ภาพที่ได้ไม่ชัด
2.กล้องแบบไอ พี (IP Camera)
เป็ นกล้องที่ต้องตั้งค่า IP ผ่านระบบเครือข่าย
เพื่อกาหนดตัวตนในการแสดงภาพ และต้องอาศัยสายชนิด LAN หรือ CAT5
มาเป็ นตัวต่อเชื่อมต่อ หรือบางรุ่นอาจใช ้เป็ นแบบไร ้สายได้
ระบบนี้มีราคาแพงกว่าระบบแรก และต้องอาศัยความรู้มากกว่าในการเซ็ทระบบ
สาระน่ารู ้เกี่ยวกับชนิดของกล้องวงจรปิ ด
ระบบของตัวกล้องวงจรปิด มีกี่ประเภทกล้องวงจรปิดแยกเป็ น 2 ประเภท
1.กล้องแบบอนาล๊อก (Analog Camera)
เป็ นกล้องวงจรปิดที่ใช ้สายสัญญาณชนิด โคแอคเชียล หรือ ตระกูล RG
มาเป็ นอุปกรณ์นาสัญญาณ ข้อจากัดที่พบเช่น
สายสัญญาณถูกคลื่นรบกวน ทาให้ภาพที่ได้ไม่ชัด
2.กล้องแบบไอ พี (IP Camera)
เป็ นกล้องที่ต้องตั้งค่า IP ผ่านระบบเครือข่าย
เพื่อกาหนดตัวตนในการแสดงภาพ และต้องอาศัยสายชนิด LAN หรือ
CAT5 มาเป็ นตัวต่อเชื่อมต่อ หรือบางรุ่นอาจใช ้เป็ นแบบไร ้สายได้
ระบบนี้มีราคาแพงกว่าระบบแรก
และต้องอาศัยความรู้มากกว่าในการเซ็ทระบบ
คาศัพท์ที่ใช ้เกี่ยวกับกล้องวงจรปิด มีอะไรบ้าง
Auto Iris ระบบเลนส์ของกล้อง
ที่มีความสามารถในการปรับรูรับแสงอัตโนมัต
เพื่อให้มีระดับแสงตามสภาพแวดล้อม
ทาให้ภาพที่ได้มีระดับความสว่างของแสงที่ถูกต้อง เช่น ตอนกลางวัน
มีแสงสว่างมาก Auto Iris จะปรับรูรับแสงให้แคบลง เพื่อรับแสงน้อย
BLC การชดเชยแสงทั้งภาพ
เพื่อให้วัตถุที่สนใจในภาพได้รับความสว่างจนสามารถมองเห็นรายละเอีย
ดได้ โดยไม่สนใจวัตถุที่อยู่รอบนอก
BNC เป็ นหัวต่อของสายเคเบิ้ล ที่ใช ้ในระบบกล้องวงจรปิด
CCTV ย่อมาจาก Close Circuit Television หรือ โทรทัศน์วงจรปิด
ซึ่งเป็ นระบบที่ใช ้ดูภาพจากกล้องวงจรปิด คือไว้ดูกันในกลุ่มของตนเอง
ซึ่งตรงกันข้ามกับระบบ Broadcast TV คือโทรทัศน์แบบแพร่ภาพ
ที่เปิดให้คนทั่วไป ที่มีเครื่องรับภาพ ได้รับชม
Day & Night คือ ระบบกล้องที่ให้ภาพได้ทั้งในเวลากลางวัน และ
กลางคืน
DVR ย่อมาจาก Digital Video Recorder คือ
เครื่องบันทึกภาพแบบดิจิตอล ใช ้อัดภาพจากกล้องจรปิด
โดยใช ้ฮาร ์ดดิสก์(ระบบเดิมจะเป็ น Analog Video Recorder –
คือจะใช ้การบันทึกด้วยเทป)
Frame rate ความเร็วในการ แสดงภาพในหนึ่งวินาที มีหน่วยเป็ น FPS
– Frames per second หรือ เฟรมเรตต่อวินาที
ถ้าคุณสมบัติในการบันทึกเป็ น 25 FPS ต่อ 1 กล้อง
แสดงว่าถาพที่ได้จะเป็ นภาพต่อเนื่อง เวลาที่เราดูย้อนหลัง
Horizontal Resolution
ความละเอียดของกล้องตามแนวนอนมีหน่วยวัด เป็ น TV Line (เส้น)
ตัวเลขยิ่งมากความชัดเจนของรูปภาพก็มากตามไปด้วย
IP CAMERA กล้องวงจรปิดชนิดหนึ่งที่มีอุปกรณ์แปลงสัญญาณ
Video ไปเป็ นสัญญาณดิจิตอล ดังนั้น ตัวกล้องต้องเชื่อมต่อกับระบบ
Network โดตแต่ละกล้องจะมี IP Address เฉพาะตัว
Iris ค่ารูรับแสงของกล้องวงจรปิด แบ่งออกได้เป็ น 3 แบบคือ
1.Fixed-iris ลักษณะการทางานจะเป็ นการคงที่ของค่ารูรับแสง
2.Manual-iris ลักษณะ การทางานสามารถปรับระยะของค่ารูรับแสงได้
3.Auto-iris ลักษณะ การทางานจะเป็ นการปรับรูรับแสงเองอัตโนมัติ
Illumination หมายถึง
ค่าของแสงสว่างที่จะทาให้ตัวกล้องสามารถทางานได้และสามารถมองเห็
นภาพได้ มีค่าเรียกเป็ น Lux ถ้ามีค่า Lux
ยิ่งน้อยมากเท่าไหร่ยิ่งถือว่ากล้องตัวนั้นสามารถมองเห็นในที่มีแสงน้อยๆ
ได้ ดี
Lux หมายถึง
ค่าของแสงสว่างที่จะทาให้ตัวกล้องสามารถทางานได้และสามารถมองเห็
นภาพได้ มีค่าเรียกเป็ น Lux ถ้ามีค่า Lux
ยิ่งน้อยมากเท่าไหร่ยิ่งถือว่ากล้องตัวนั้นสามารถมองเห็นในที่มีแสงน้อยๆ
ได้ ดี
Motion Detect
เป็ นระบบการบันทึกภาพแบบตรวจจับความเคลื่อนไหว กล่าวคือ
Motion Detect ของระบบกล้องวงจรปิด
ทางานโดยอาศัยความแตกต่างของภาพสองภาพโดยอาศัยการเปรียบเที
ยบ pixel เดิมกับจานวนที่เปลี่ยนไป(ที่ตาแหน่งเดียวกัน)
PAL ย่อมาจาก Phase Alternating Line
เป็ นมาตรฐานของการแสดงภาพโดยมีค่าแสดงภาพทางแนวนอน 625
เส้นและ 50 เส้นทางแนวตั้ง ความถี่จานวนภาพ 25 ภาพต่อวินาที
มีการแยกแบนด์วิทระหว่างสัญญาณภาพและเสียง
Pixels เป็ นตัวเลขแสดง จานวนจุดแสดงสีของข้อมูลภาพแบบดิจิตอล
โดยมีความสัมพันธ์กับขนาดของหน้าจอแสดงผล จานวนตัวเลขของค่า
Pixels
ทาให้สีของภาพที่แสดงมีความสวยสดและงดงามขึ้นมากน้อยตามค่า
Pixels
PTZ ย่อมาจาก Pan Tilt Zoom มีความหมายตรงตัวดังนี้
Pan = ส่าย ซ ้าย ขวา
Tilt = ก้ม เงย
Zoom = การซูมขยายภาพ ให้สามารถมองภาพในระยะไกลได้ชัดขึ้น
TCP / IP เป็ นชุดของรูปแบบที่ใช ้ในการสื่อสารผ่านเครือ
ข่ายอินเทอร ์เน็ต
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สามารถใช ้สื่อสารจากต้นทางข้ามเครือข่ายไป
ยังปลาย ทางได้
และสามารถหาเส้นทางที่จะส่งข้อมูลไปได้เองโดยอัตโนมัติ
WDR ย่อมาจาก Wide Dynamic Range
เป็ นการที่กล้องถ่ายภาพซ ้อนกัน 2 ใบในเวลาเดียวกัน
ใบนึงถ่ายภาพในสภาวะปกติ
อีกใบนึงถ่ายให้มีความสว่างมากกว่าปกติแล้ว นาภาพที่ได้มาซ ้อนกัน
ทาให้ภาพทั้งภาพมีรายละเอียด คือส่วนที่มืดก็ดึงภาพให้สว่างขึ้น
ส่วนที่สว่างเกินไปก็ดึงรายละเอียดกลับมาทาให้มองเห็นรายละเอียดภาพ
White balance เป็ นการปรับ
สมดุลของแสงสีขาวในสภาวะที่มีแสงแตกต่างกัน เช่น
วัตถุสีขาวในตอนที่มีแสงแดดส่อง กับตอนที่ไม่มีแสงแดดส่อง
ถ้ากล้องมีระบบ Auto White Balance
ระบบจะทาการปรับสีให้เป็ นสีขาวตามจริง โดยอัตโนมัติ
ผู้เขียนหวังว่าบทความสาระน่ารู้นี้จะเป็ นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจหาความรู้
และเข้าใจข้อมูลในการเลือกใช ้กล้องวงจรปิดแต่ละชนิดได้ตามความเหม
าะสม
รู ้จักชนิดกล้อง CCTV Date : 2012-11-08 17:18:21
กล้องวงจรปิดทั่วไปมีมากมายหลายชนิด
แตกต่างกันไปตามการใช ้งาน
ก่อนที่เราจะเลือกกล้องให้เหมาะกับการใช ้งานของเรา
มาทาความรู้จักชนิดของกล้องต่างๆ
กันก่อนดีกว่าว่ามีคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างไร
ชนิดของกล้องวงจรปิ ด (CCTV Camera)
กล้องมาตรฐาน (Regular Camera)
รูปภาพกล้องมาตรฐาน (Regular Camera)
กล้องมาตรฐาน หรือบางครั้งเรียก "Box Camera"
อันเนื่องมาจากตัวกล้องมีรูปร่างคล้ายกล่องนั่นเอง
กล้องชนิดนี้เหมาะสาหรับพื้นที่ที่มีแสงสว่างตลอดเวลา
หากต้องการนากล้องชนิดนี้ไปติดตั้งภายนอกตากแดดตากฝน
จะต้องติดตั้งกล้องภายใน Housing (กล่องกันน้าเข้ากล้อง)
จุดเด่นของกล้องชนิดนี้คือสามารถเปลี่ยนเลนส์ได้
(ราคากล้องส่วนใหญ่ไม่ได้รวมราคาเลนส์เข้าไปด้วย)
และบางรุ่นอาจมีไมโครโฟนสาหรับบันทึกเสียงในตัว
จึงสามารถใช ้งานได้หลายหลายตามชนิดของเลนส์ที่ใส่เข้าไป อาทิเช่น
เลนส์สาหรับส่องป้ ายทะเบียน (Auto Iris Lens)
สาหรับข้อเสียของกล้องชนิดนี้คือ ไม่สามารถมองเห็นในเวลากลางคืน
หรือสถานที่ที่แสงสว่างไม่เพียงพอ
กล้องโดม (Dome Camera, Indoor Camera)
รูปภาพกล้องโดม (Dome Camera, Indoor Camera)
กล้องโดม มีรูปร่างเล็กกระทัดรัด รูปลักษณ์ครึ่งวงกลมคล้ายโดม
ส่วนใหญ่นิยมติดภายในอาคาร
กล้องชนิดนี้เหมาะสาหรับพื้นที่ที่ต้องการความสวยงามเมื่อติดตั้งแล้วดู
เรียบร้อยไม่สะดุดตา
จุดเด่นของกล้องชนิดนี้คือตัวกล้องสามารถป้ องกันการโยนผ้าปิดหน้าก
ล้องได้ เป็ นอย่างดี
(อันเนื่องมาจากรูปลักษณ์โค้งมนครึ่งวงกลมของตัวกล้องนั่นเอง)
และยังสมามารถหมุนปรับมุมกล้องได้รอบตัว ตลอด 360 องศา
กล้องชนิดนี้มีทั้งแบบ กลางวัน (Day) และแบบทั้งกลางวันและกลางคืน
(Day/Night, Infrared Camera สามารถดูภาพได้แม้ในยามไม่มีแสง
หากแต่เมื่อยามกล้องปรับเข้าโหมดกลางคืนแล้วจะมองเห็นภาพเป็ นขาว
ดา) เหมาะสาหรับติดตั้งภายในอาคาร
ด้วยรูปลักษณ์ที่ออกแบบให้แลดูไม่ขัดตา
จึงสามารถติดตั้งในห้องทางาน บ้านอยู่อาศัย ห้องรับแขก ฯลฯ
ได้อย่างลงตัวดูสวยงามเข้าได้กับทุกห้อง
สาหรับข้อเสียของกล้องชนิดนี้คือไม่กันน้า
จึงเหมาะสาหรับติดตั้งภายในเท่านั้น
กล้องกระบอก (Bullet Camera, Outdoor Camera)
รูปภาพกล้องกระบอก (Bullet Camera, Outdoor Camera)
หรือกล้องภายนอก
รูปทรงดูแข็งแรง สามารถติดตั้งภายนอกได้โดยตรง ด้วยคุณสมบัติ
กันน้า,กันฝุ่น จึงทาให้สามารถติดตั้งได้ในทุกที่ เช่น ในโรงงาน
หน้าบ้าน บริเวณถนน
ฯลฯ กล้องชนิดนี้สามารถดูภาพได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
(Day/Night) จุดเด่นของกล้องชนิดนี้คือกันน้า กันฝน ทนความร ้อน
และสามารถดูภาพได้แม้ในยามไม่มีแสง หากแต่เมื่อยามกล้องปรับเข้าโห
มดกลางคืนแล้วจะมองเห็นภาพเป็ นขาวดาซึ่งเป็ นคุณสมบัติทั่วไปของระ
บบ Infrared กล้องชนิดนี้บางรุ่นสามารถมองเห็นในที่มืดได้ไกลถึง 50
เมตร (ตามระยะของ Infrared)
ซึ่งปัจจุบันกล้องชนิดนี้เป็ นที่นิยมในหมู่ผู้ใช ้อย่างแพร่หลายเนื่องจากคุณ
สมบัติอันสุดยอดของมัน
กล้องสปี ดโดม (Speed Dome Camera)
รูปภาพกล้องสปี ดโดม (Speed Dome Camera)
เป็ นกล้องอัจฉริยะรุ่นหนึ่่ง ที่สามารถหมุน (PAN) ได้รอบตัว 360
องศา ก้มเงย(Tilt) ได้ 90 องศา และยังซูมภาพ (Optical Zoom)
ได้อีกด้วย สามารถบังคับได้โดยใช ้อุปกรณ์เสริม
(Controller) จุดเด่นอีกประการหนึ่งคือสามารถล็อกเป้ าหมายแล้วหมุน
กล้องตามเป้ าหมายนั้น โดยอัตฺโนมัติหรือที่เรียกกันว่า Auto Tracking
นั่นเอง กล้องชนิดนี้นิยมใช ้ในห้างซุปเปอร ์สโตร ์ขนาดใหญ่ เช่น Big-C,
Lotus เป็ นต้น ราคากล้องค่อนข้างสูง มีทั้งแบบใช ้ภายใน
และภายนอกอาคาร
กล้องซ่อน (Hidden Camera, Spy Camera)
รูปภาพกล้องซ่อน (Hidden Camera, Spy Camera)
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าใช ้งานแบบใด
จุดประสงค์หลักเพื่อซ่อนไม่ให้มองเห็นว่ามีกล้องติดตั้งอยู่จุดไหนบ้าง
บางครั้งจะเรียกว่ากล้องรูเข็ม
ที่มีขายตามท้องตลาดความละเอียดภาพไม่ค่อยสูงมาก
รูปแบบโครงสร ้างแตกต่างกันไป เช่น ซ่อนอยู่ใน Smoke Detector
เป็ นต้น ใช ้งานร่วมกับไมโครโฟน สาหรับดักฟังเสียงได้อีกด้วย
กล้องไอพี (IP Camera)
รูปภาพกล้องไอพี (IP Camera)
กล้องชนิดนี้่ได้รวมเอา Lan Card ไว้ในตัวกล้อง เป็ น Web
Server ในตัว มีทั้งแบบ ใช ้สาย (wired) และไร้สาย (wireless)
เป็ นกล้องดิจิตอลที่สามารถควบคุมผ่านคอมพิวเตอร ์ได้โดยตรง
สามารถทาการบันทึกที่คอมพิวเตอร ์เครื่องใดก็ได้ที่ต่ออยู่ในวง LAN
หรือ WAN หรือบันทึกลงที่ NVR(Network Video Recorder)
ได้เช่นเดียวกัน กล้องไอพีบางรุ่นสามารถทา Video Conference
ได้เลยทีเดียว จุดเด่นของกล้องประเภทนี้คือความชัดของภาพที่ได้รับ
บางรุ่นชัดระดับ HD 1080P จุดเด่นอีกประการหนึ่งคือบางรุ่นมี Digital
Output หรือสวิตซ ์เอาไว้ใช ้งานได้อีกด้วย เช่น ใช ้ปิด/เปิดไฟ หรือ
Buzzer เมื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวได้ เป็ นต้น บางรุ่นสามารถ
Pan/Tilt/Zoom ได้เช่นเดียวกับ กล้องสปีดโดม
ข้อเสียของกล้องชนิดนี้คือการดูผ่าน Internet
เนื่องจากภาพที่ถูกส่งไปขนาดค่อนข้างใหญ่ทาให้ถ่ายข้อมูลไม่ทัน
ทาให้ดูแล้วกระตุก แนะนาให้ลดขนาดของภาพเมื่อต้องการดูผ่านมือถือ
(แต่เมื่อเรากลับไปดูที่ NVR ภาพจะชัดเหมือนเดิม)
ข้อเสียอีกประการคือกล้องชนิดนี้มีราคาค่อนข้างสูงอยู่
แต่เชื่อว่าในอนาคตกล้องอนาล็อกแบบเดิมๆ จะถูกแทนที่ด้วย IP
Camera ค่อนข้างแน่
ขนาดไฟล์บันทึกภาพของ IP CCTV, IP Camera หรือ
Network Camera
บัจจุบันระบบกล้องวงจรปิด CCTV ได้เปลี่ยนแปลงการทางานจากระบบ
Analog ที่ใช ้การบันทึกโดยใช ้video ไปเป็ นระบบ IP Base
ซึ่งเป็ นการทางานของกล้อง IP Camera, IP CCTV หรือบางที่ก็เรียก
Network Camera และ ใช ้Software ในการบันทึกภาพ
ซึ่งการทางานของ Software
นั้นจะทางานบนเครื่องคอมพิวเตอร ์ที่มีระบบปฏิบัติการ Windows
ทั่วๆไปได้
ซึ่งการทางานในลักษณะนี้จะทาให้ผู้ใช ้เกิดความสะดวกในการทางานมา
กขึ้น
อีกทั้งยังสามารถเพิ่มจานวนของพื้นที่ในการจัดเก็บได้อย่างง่ายดาย
โดยการเพิ่มจานวน Hard disk ที่มีอยู่
การบันทึกภาพนั้น สามารถที่จะเลือกฟอร ์แมตของภาพได้ 2แบบ
คือ Motion-JPEG และ MPEG-4 ซึ่งจะให้คุณภาพของภาพ
และขนาดไฟล์ที่ต่างกันออกไป ซึ่งในการที่จะคานวนค่าของ Storage
ที่จะใช ้งานในแต่ละโปรเจคนั้น จะถูกกาหนดโดยปัจจัยหลักอยู่2ประการ
คือ คุณภาพของภาพ และ อัตราเฟรมต่อวินาที และ
นอกจากนั้นยังมีปัจจัยอื่นๆที่จะกาหนดปริมาณของพื้นที่ของฮาร ์ทดิสท์
เช่น จานวนของกล้อง จานวนวันที่จะจัดเก็บ
จานวนชั่วโมงการจัดเก็บต่อวัน รวมถึงการกาหนดการทา Motion
detection
ซึ่งปัจจัยหลักประการแรกนั้นคือ คุณภาพของภาพ ซึ่งจะถูกกาหนดโดย
Resolution และ Compression
นั้นจาทาให้เราทราบว่าขนาดไฟล์ของภาพแต่ละภาพนั้นมีขนาดไฟล์เท่
าไหร่ เช่น
352×288 medium-high compression: 8 kb
352×288 medium-low compression: 15 kb
640×480 medium-low compression: 50 kb
640×480 lowest compression: 375 kb
ซึ่งปัจจัยหลักประการที่2นั้นคือ อัตราเฟรมต่อวินาที
นั้นจะเป็ นตัวที่บอกถึงพื้นที่ของการจัดเก็บที่ถูกใช ้ไปภายใน1วินาที
เช่นหากเราเลือกคุณภาพของภาพเป็ น 640×480 medium-low
compression: 50 kb อัตราเฟรมต่อวินาทีเป็ น 25เฟรมต่อวินาที
ขนาดของพื้นที่ที่ใช ้ก็จะเท่ากับ 50kB x 25= 1,250 kb ต่อ 1วินาที
ดังนั้นหากต้องการจะคานวนพื้นที่ในการจัดเก็บภายใน 1วันนั้น
เราก็จะคานวนง่ายๆดังนี้
ขนาดไฟล์x อัตราเฟรมต่อวินาที x 60 x60 x24
=พื้นที่ฮาร ์ทดิสท์ที่ใช ้ต่อ 1กล้อง ต่อ 1วัน
ตัวอย่าง
ติดตั้งกล้องจานวน 20กล้อง บันทึกภาพที่ขนาด 640×480 medium-
low compression: 50 kB ที่ 25เฟรมต่อวินาที จัดเก็บ 7 วัน
ก็จะแทนค่าดังนี้
50kB x 25 x 60 x 60 x 24 = 108,000,000 kb (108 GB) ต่อ
1กล้อง หากติดตั้ง 20 กล้องก็จะเท่ากับ 108 GB x 20 = 2,160 GB
ต่อ 1กล้อง ต่อ 1วัน ซึ่งหากต้องการจัดเก็บจานวน 7วัน ก็จะเท่ากับ
2,160 GB x 7 = 15,120 GB (15.1 TB)
ดังนั้นหากต้องการจัดเก็บภาพให้ได้ตามที่กาหนด จะต้องใช ้ฮาร ์ทดิสท์
จานวนถึง 15.1 TB ซึ่งหากจานวนที่ได้มากเกินไป
เราก็อาจจะลดคุณภาพของภาพ และ อัตราเฟรมต่อวินาที ลง
เพื่อที่จะทาให้จานวนของฮาร ์ทดิสท์ที่ใช ้ลดลงได้ หรือหากมีการ
กาหนดการทา Motion detection
ก็จะช่วยในการลดเนื้อที่การใช ้ฮาร ์ทดิสท์ได้เช่นเดียวกัน
(ในการคานวนแบบที่กล่าวมานั้น สามารถใช ้ได้อย่างถูกต้อง
และไม่คลาดเคลื่อน ถ้าเราบันทึกภาพในแบบ Motion-JPEG)
กล้องวงจรปิด CCTV.docx
กล้องวงจรปิด CCTV.docx
กล้องวงจรปิด CCTV.docx
กล้องวงจรปิด CCTV.docx
กล้องวงจรปิด CCTV.docx
กล้องวงจรปิด CCTV.docx
กล้องวงจรปิด CCTV.docx
กล้องวงจรปิด CCTV.docx
กล้องวงจรปิด CCTV.docx
กล้องวงจรปิด CCTV.docx
กล้องวงจรปิด CCTV.docx
กล้องวงจรปิด CCTV.docx
กล้องวงจรปิด CCTV.docx
กล้องวงจรปิด CCTV.docx
กล้องวงจรปิด CCTV.docx
กล้องวงจรปิด CCTV.docx
กล้องวงจรปิด CCTV.docx
กล้องวงจรปิด CCTV.docx
กล้องวงจรปิด CCTV.docx
กล้องวงจรปิด CCTV.docx
กล้องวงจรปิด CCTV.docx
กล้องวงจรปิด CCTV.docx
กล้องวงจรปิด CCTV.docx
กล้องวงจรปิด CCTV.docx
กล้องวงจรปิด CCTV.docx

More Related Content

More from PawachMetharattanara

1. คู่มือคนสอน คนเรียน PMS.pdf
1. คู่มือคนสอน คนเรียน PMS.pdf1. คู่มือคนสอน คนเรียน PMS.pdf
1. คู่มือคนสอน คนเรียน PMS.pdfPawachMetharattanara
 
Smart Parking รพ.กล้วยน้ำไท.pptx
Smart Parking รพ.กล้วยน้ำไท.pptxSmart Parking รพ.กล้วยน้ำไท.pptx
Smart Parking รพ.กล้วยน้ำไท.pptxPawachMetharattanara
 
1. คู่มือคนสอน คนเรียน PMS.pdf
1. คู่มือคนสอน คนเรียน PMS.pdf1. คู่มือคนสอน คนเรียน PMS.pdf
1. คู่มือคนสอน คนเรียน PMS.pdfPawachMetharattanara
 
Uniview Company Introduction with brief solution(1).pdf
Uniview Company Introduction with brief solution(1).pdfUniview Company Introduction with brief solution(1).pdf
Uniview Company Introduction with brief solution(1).pdfPawachMetharattanara
 
Uniview Company Introduction with brief solution(1).pdf
Uniview Company Introduction with brief solution(1).pdfUniview Company Introduction with brief solution(1).pdf
Uniview Company Introduction with brief solution(1).pdfPawachMetharattanara
 
หนังสือเชิญ Quicktron Robotic .Thailand(1).pdf
หนังสือเชิญ  Quicktron Robotic .Thailand(1).pdfหนังสือเชิญ  Quicktron Robotic .Thailand(1).pdf
หนังสือเชิญ Quicktron Robotic .Thailand(1).pdfPawachMetharattanara
 
07 TOR ระบบ Smart Classroom ขนาด 50 ที่นั่ง 231220.docx
07 TOR ระบบ Smart Classroom ขนาด 50 ที่นั่ง 231220.docx07 TOR ระบบ Smart Classroom ขนาด 50 ที่นั่ง 231220.docx
07 TOR ระบบ Smart Classroom ขนาด 50 ที่นั่ง 231220.docxPawachMetharattanara
 
Presentation DGF Logistics Thailand.คุณอรุณ.1.ppt
Presentation DGF Logistics Thailand.คุณอรุณ.1.pptPresentation DGF Logistics Thailand.คุณอรุณ.1.ppt
Presentation DGF Logistics Thailand.คุณอรุณ.1.pptPawachMetharattanara
 
อบรมพื้นฐาน 2023.pptx
อบรมพื้นฐาน 2023.pptxอบรมพื้นฐาน 2023.pptx
อบรมพื้นฐาน 2023.pptxPawachMetharattanara
 
presentationsolutioncovidschool-230115131900-5c73fd21.pptx
presentationsolutioncovidschool-230115131900-5c73fd21.pptxpresentationsolutioncovidschool-230115131900-5c73fd21.pptx
presentationsolutioncovidschool-230115131900-5c73fd21.pptxPawachMetharattanara
 
01416_PPT_FG_DAY1-บ่าย_651219V2.pdf
01416_PPT_FG_DAY1-บ่าย_651219V2.pdf01416_PPT_FG_DAY1-บ่าย_651219V2.pdf
01416_PPT_FG_DAY1-บ่าย_651219V2.pdfPawachMetharattanara
 
แผนที่PICKชีวิต.pdf
แผนที่PICKชีวิต.pdfแผนที่PICKชีวิต.pdf
แผนที่PICKชีวิต.pdfPawachMetharattanara
 

More from PawachMetharattanara (20)

DLS_CP_Payment Rev.00.pdf
DLS_CP_Payment Rev.00.pdfDLS_CP_Payment Rev.00.pdf
DLS_CP_Payment Rev.00.pdf
 
1. คู่มือคนสอน คนเรียน PMS.pdf
1. คู่มือคนสอน คนเรียน PMS.pdf1. คู่มือคนสอน คนเรียน PMS.pdf
1. คู่มือคนสอน คนเรียน PMS.pdf
 
Smart Parking รพ.กล้วยน้ำไท.pptx
Smart Parking รพ.กล้วยน้ำไท.pptxSmart Parking รพ.กล้วยน้ำไท.pptx
Smart Parking รพ.กล้วยน้ำไท.pptx
 
KPI 2021 Sale ( Nov ).pptx
KPI 2021 Sale ( Nov ).pptxKPI 2021 Sale ( Nov ).pptx
KPI 2021 Sale ( Nov ).pptx
 
1. คู่มือคนสอน คนเรียน PMS.pdf
1. คู่มือคนสอน คนเรียน PMS.pdf1. คู่มือคนสอน คนเรียน PMS.pdf
1. คู่มือคนสอน คนเรียน PMS.pdf
 
Presentation1333.pptx
Presentation1333.pptxPresentation1333.pptx
Presentation1333.pptx
 
Presentation1unv2.pptx
Presentation1unv2.pptxPresentation1unv2.pptx
Presentation1unv2.pptx
 
Presentation1ubv.pptx
Presentation1ubv.pptxPresentation1ubv.pptx
Presentation1ubv.pptx
 
Uniview Company Introduction with brief solution(1).pdf
Uniview Company Introduction with brief solution(1).pdfUniview Company Introduction with brief solution(1).pdf
Uniview Company Introduction with brief solution(1).pdf
 
Univiwe Training 2023.pdf
Univiwe Training 2023.pdfUniviwe Training 2023.pdf
Univiwe Training 2023.pdf
 
Uniview Company Introduction with brief solution(1).pdf
Uniview Company Introduction with brief solution(1).pdfUniview Company Introduction with brief solution(1).pdf
Uniview Company Introduction with brief solution(1).pdf
 
หนังสือเชิญ Quicktron Robotic .Thailand(1).pdf
หนังสือเชิญ  Quicktron Robotic .Thailand(1).pdfหนังสือเชิญ  Quicktron Robotic .Thailand(1).pdf
หนังสือเชิญ Quicktron Robotic .Thailand(1).pdf
 
07 TOR ระบบ Smart Classroom ขนาด 50 ที่นั่ง 231220.docx
07 TOR ระบบ Smart Classroom ขนาด 50 ที่นั่ง 231220.docx07 TOR ระบบ Smart Classroom ขนาด 50 ที่นั่ง 231220.docx
07 TOR ระบบ Smart Classroom ขนาด 50 ที่นั่ง 231220.docx
 
Presentation DGF Logistics Thailand.คุณอรุณ.1.ppt
Presentation DGF Logistics Thailand.คุณอรุณ.1.pptPresentation DGF Logistics Thailand.คุณอรุณ.1.ppt
Presentation DGF Logistics Thailand.คุณอรุณ.1.ppt
 
อบรมพื้นฐาน 2023.pptx
อบรมพื้นฐาน 2023.pptxอบรมพื้นฐาน 2023.pptx
อบรมพื้นฐาน 2023.pptx
 
presentationsolutioncovidschool-230115131900-5c73fd21.pptx
presentationsolutioncovidschool-230115131900-5c73fd21.pptxpresentationsolutioncovidschool-230115131900-5c73fd21.pptx
presentationsolutioncovidschool-230115131900-5c73fd21.pptx
 
Catalog Quick.pdf
Catalog Quick.pdfCatalog Quick.pdf
Catalog Quick.pdf
 
01416_PPT_FG_DAY1-บ่าย_651219V2.pdf
01416_PPT_FG_DAY1-บ่าย_651219V2.pdf01416_PPT_FG_DAY1-บ่าย_651219V2.pdf
01416_PPT_FG_DAY1-บ่าย_651219V2.pdf
 
แผนที่PICKชีวิต.pdf
แผนที่PICKชีวิต.pdfแผนที่PICKชีวิต.pdf
แผนที่PICKชีวิต.pdf
 
Digital Marketing (2024).pdf
Digital Marketing (2024).pdfDigital Marketing (2024).pdf
Digital Marketing (2024).pdf
 

กล้องวงจรปิด CCTV.docx

  • 1. กล้องวงจรปิ ด CCTV ระบบกล้องวงจรปิด ( CCTV ) เป็ นการส่งสัญญาณภาพ จากกล้องวงจรปิด ที่ได้ติดตั้งตามที่ต่างๆ มายังส่วนรับภาพ/ดูภาพ ซึ่งเรียกว่า จอภาพ ( Monitor ) โดยทั่วไปจะติดตั้งอยู่คนละที่กับกล้อง เช่นที่ห้องควบคุม ห้องเซอร ์เวอร ์ป้อนยาม ฝ่ายบุลคล ฯลฯ ชุดติดตั้งกล้องวงจรปิ ด+อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในระบบกล้องวงจรปิ ด CCTV มีดังนี้ 1. กล้องวงจรปิด (CCTV Camera) 2. เลนส์กล้องวงจรปิด (CCTV Lenses) 3. เครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิด ( Digital Video Recorder หรือ DVR ) 4. จอภาพ ( TV หรือ LCD Monitor) 5. กล่องครอบกล้องวงจรปิด ทั้งแบบภายใน และ ภายนอกอาคาร ( Housing Indoor , Housing Outdoor ) 7. กล่องควบคุมการทางานของกล้องวงจรปิด (Control System) 8. สายสัญญาณภาพ RG6 สาหรับเดินสายให้กล้องวงจรปิด 9. สายไฟ AC-DC สาหรับจ่ายไฟเลี้ยงให้กล้องวงจรปิด 10. และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบกล้องวงจรปิด การใช้งาน ในรูปแบบต่างของกล้องวงจรปิ ด • รับติดตั้งกล้องวงจรปิ ด เพื่อใช ้ในด้านการรักษาความปลอดภัย ของบุคคลและสถานที่ ต่างๆ • ติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อใช ้ในการตรวจสอบการทางาน ของเครื่องจักร ในโรงงานอุตสาหะกรรมทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ หรือใช ้ในการดูทางานของพนักงาน ภายในโรงงานต่างๆ
  • 2. • ติดตั้งกล้องวงจรปิ ด เพื่อใช ้งานร่วมกับระบบควบคุมอาคารต่างๆทั้ง เช่น คอนโดฯ โรงแรม อพาร ์ทเม้นท แมนชั่น ฯลฯ • ติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อใชใช ้งานร่วมกับระบบควบคุมการจราจร เช่น ตรวจดูแลสภาพโดยรวมบนท้องถนน ฯลฯ กล้องวงจรปิ ด ส่วนมากที่ใช้งานในปัจจุบันนี้มี 2 แบบ คือ 1. กล้องวงจรปิ ดแบบติดตั้งตายตัว (Fix Camera) 2. กล้องวงจรปิ ดแบบถหมุนได้-ซูมได้ ควบคุมได้ (Pan/Tilt/Zoom Camera) 1. กล้องวงจรปิ ดแบบติดตั้งตายตัว (Fix Camera) คือ กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไปแล้วไม่สามารถจะขยับตัวกล้อง หรือ หมุนเปลี่ยนทิศทางมุมมองในการดูภาพจากกล้องวงจรปิดได้ ถ้าต้องการหมุนหรือเปลี่ยนทิศทาง ก็จะต้องถอดตัวกล้องแยกออกจากขากล้อง แล้วยึดติดกล้องวงจรปิดในต่าแหน่งใหม่แทน 2. กล้องวงจรปิ ดแบบถหมุนได้-ซูมได้ ควบคุมได้ (Pan/Tilt/Zoom Camera) เพื่อเป็ นการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช ้งาน ระบบกล้องวงจรปิด ในปัจจุบันทาง โรงงานผลิตกล้องวงจรปิดจึงได้ผลิตกล้องที่มี ความสามารถ ทาให้กล้องวงจรปิดหมุนปรับทิศ และ ซูมภาพได้ สามารถที่จะปรับให้หมุนซ ้าย / ขวา ก้ม-เงย ซูม ได้ โดยผ่านทาง เครื่องควมคุม ( Key Board Control ) ซึ่งกล้องวงจรปิดชนิดนี้เรียกว่า กล้อง Speed Dome สามารถหมุนรอบตัวเองได้ 360 องศา และ ซูมภาพได้ไกล 100-300 เมตร ( แล้วแต่รุ่นของกล้องวงจรปิด ) สามารถปรับมุมก้มเพื่อจะดูวัตถุ หรือคนที่อยู่บนพื้นดิน
  • 3. ซึ่งมีระดับต่ากว่าตาแหน่งที่ติดตั้งกล้อง หรือมุมเงยเพื่อมองไปยังอาคารที่สูงกว่า ไม่ว่าจะเป็ นทิศทางตรงด้านหน้า หรือจะหมุนไป ยังทิศทางอื่นๆ ก็สามารถทาได้ การพิจารณาเลือกใช ้ กล้องวงจรปิด Speed Dome ควรเลือกให้เหมาะสมกับงาน เพื่อเป็ นประหยัดเงิน และอื่นๆ เช่น ติดตั้งภายในอาคารสานักงาน สภาพแวดล้อมปกติ ก็ควรใช ้กล้องวงจรปิด Speed Dome แบบ Indoor ธรรมดาสาหรับที่ใช ้ภายในอาคาร แต่ถ้าเป็ นการใช ้งงานภายนอกอาคาร ก็มีความจาเป็ นที่ต้องใช ้ กล้องวงจรปิด Speed Dome แบบ Out door ที่มีคุณสมบัติพิเศษ ให้เหมาะสมกับสภาพของสถานที่นั้นๆ ซึ่งอาจจะมีราคาค่อนข้างสูงจนถึงสูงมาก :ซึ่งตัวกล้องวงจรปิดสามารถทนทนต่อแดดและฝนได้ . การเลือกใช ้Pan & Tilt unit นอกจากเรื่องสถานที่ติดตั้งแล้ว จะต้องพิจารณาต่อไปด้วยว่า อุปกรณ์ที่จะใช ้งานร่วมกับ Pan & Tilt unit นอกจากกล้องกับเลนส์จะมีอุปกรณ์อื่นเพิ่มเติม เพราะว่าถ้ามีอุปกรณ์ประกอบมาก น้าหนักก็จะต้องมากตามไปด้วย จาเป็ นที่ต้องใช ้Pan & Tilt unit ที่สามารถจะรับน้าหนักได้ทั้งหมด จะทาให้มีขนาดใหญ่ และราคาสูง Pan & Tilt unit บางชนิดสามารถที่หมุนได้รอบตัวได้ โดยที่ไม่ต้องหมุนกลับ (เพราะติดสายไฟ) บางชนิดมีวงจรความจาตาแหน่ง (Preset Function) ควรจะพิจารณาว่าสามารถเสริมพิเศษของ Pan & Tilt unit มีความจาเป็ นเพียงใด เพราะราคาก็จะต้องสูงไปตามคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้น นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว Pan & Tilt unit ยังมีอีกหลายแบบ เช่น
  • 4. บางแบบสามารถที่จะนาไปติดตั้งใต้น้าได้ เป็ นต้น ระบบไฟฟ้ าภายในของ Pan & Tilt unit ต้องเป็ นระบบไฟฟ้ าชนิดเดียวกันกับ เครื่อง/ตัว ควบคุมการทางาน เช่น 24 V.DC , 24 V.AC , 115 V.AC หรือ 220 V.AC เป็ นต้น ถ้าใช ้ระบบไฟฟ้ าที่แตกต่างกัน จะทาให้ Pan & Tilt unit ไม่ทางาน หรือ ชารุดเสียหายได้ ถ้าระบบการส่งสัญญาณควบคุมของ Pan & Tilt unit เป็ นการส่งแบบการผสม หรือฝากไปกับสัญญาณอื่นๆ เช่น ระบบ Digital , Microcomputer-Base เป็ นต้น จะต้องมีการแปลงหรือแยกสัญญาณควบคุมฯ ออกจากสัญญาณที่เป็ นตัวรับฝาก อุปกรณ์นี้เรียกว่า Receiver unit หรือ Driver unit หรือมีชื่อเป็ นอย่างอื่น ตามแต่ผู้ผลิตจะเรียก โดยปกติ กล้องที่มี Pan & Tilt unit จะใช ้เลนส์ที่สามารถปรับขนาดภาพได้ ควบคู่ไปด้วยกัน แต่ไม่จาเป็ นเสมอไป ขึ้นอยู่กับงานที่ใช ้มากกว่า ในบางลักษณะอาจจะต้องการเพียงให้สามารถปรับทิศในการดูก็เพียงพอ แล้ว ไม่ต้องการจะดูในรายละเอียด ในบางลักษณะก็มีความจาเป็ นต้องการใช ้เลนส์ที่สามารถปรับขนาดของ ภาพได้ เพื่อจะดูรายละเอียดของภาพที่ต้องการจะดูเพราะว่าระยะของวัตถุหรือจุด ที่ต้องการจะดูในแต่ละทิศทางจะมีความแตกต่างกันไป. เลนส์ปรับขนาดภาพได้ ( Zoom Lens ) เป็ นเลนส์ที่สามารถเปลี่ยนขนาดภาพได้ ( เปลี่ยน ความยาวโฟกัส) เลนส์ฯ ที่นามาใช ้กับ กล้องที่มี Pan & Tilt unit ส่วนมากจะเป็ นชนิด ที่ควบคุมการทางานด้วยมอเตอร ์เราจึงเรียกว่า Motorized Zoom Lens การเลือกใช ้Motorized Zoom Lens
  • 5. ควรจะเลือกให้เหมาะกับงานที่จะใช ้เพราะว่า Motorized Zoom Lens มีหลายแบบ หลายขนาดตามความยาวโฟกัส เช่น การใช ้ภายในอาคาร มี พื้นที่ไม่ใหญ่ ก็ใช ้Motorized Zoom Lens ที่มีความยาวโฟกัสไม่มากนัก เช่น ๖ - ๓๕ ม.ม. ( ๖ เท่า) ถ้า กล้องวงจรปิ ด CCTV เป็ นอาคารที่มีขนาดใหญ่ หรือภายนอกอาคารพื้นที่กว้าง หรือต้องการจะดูให้เห็นรายละเอียดมากๆ ก็ควรใช ้Motorized Zoom Lens ที่มีความยาวโฟกัสมากขึ้น เช่น ๖ - ๖๐ ม.ม. ( ๑๐ เท่า) ถ้าติดตั้งนอกอาคาร หรือต้องการที่จะมองให้เห็นได้ไกล ก็ควรใช ้Motorized Zoom Lens ที่มีความยาวโฟกัสมากขึ้นไป เช่น ๖ - ๑๒๓ ม.ม. (๒๑ เท่า) เป็ นต้น เครื่องหุ้มกล้อง / กล่องหุ้มกล้องวงจรปิด (Camera Housing) เป็ นอุปกรณ์ที่ช่วยให้กล้องวงจรปิด มีความคงทนต่อสภาวะอากาศ สิ่งแวดล้อมต่างๆ สามารถที่จะนากล้องไปติดตั้งใช ้งาน ได้ทุกสถานที่ เพราะว่าเครื่องหุ้มกล้อง มีหลายชนิด หลายแบบ บางชนิดมีพัดลมช่วยระบายอากาศ ทั้งภายในและภายนอก บางแบบมีใบปัดน้าฝนที่กระจกด้านหน้า บางชนิดมีการระบายความร ้อนด้วยน้า เพื่อติดตั้งในบริเวณที่มีความร ้อนสูง บางแบบมีการปิดผนึกอย่างดี สามารถป้ องกันฝุ่นละอองได้ บางชนิดใช ้โลหะพิเศษ เช่น Stainless- Steel เพื่อจะสามารถทนต่อการดักกร่อน (Corrosionproof). การเลือกใช ้Housing องค์ประกอบภายนอกได้กล่าวมาแล้วข้างต้น (เหมือนกับการเลือกใช ้ฐานกล้องหมุนปรับทิศทางได้ ) ขนาดของ Housing จะต้องมีขนาดที่สามารถที่จะรับกล้องวงจรปิดกับซูมเลนส์ได้ และก็ควรที่มีที่ว่างเหลือไว้บ้าง เพื่อรับการขยายตัวของอากาศ และการหมุนเวียนของอากาศภายใน Housing ผู้ผลิตบางราย จะนา Receiver unit ประกอบอยู่ภายใน Housing เลย
  • 6. ซึ่งเป็ นประหยัดสายและสะดวกในการ กล้องวงจรปิ ด ภาพชัด HD แต่ควรคานึงการซ่อม บารุงรักษาบ้าง โดยปกติแล้วกล้องวงจรปิดจะติดตั้งอยู่บนที่สูง หรือ สูงมาก เช่นบนยอดเสา บนหลังคาอาคาร เพราะว่า Receiver unit จะเป็ นแผงวงจรอิเล็คทรอนิคส์ซึ่งอาจจะชารุดหรือเสียได้ ดังนั้นจึงควรที่จะติดตั้งอยู่ในตาแหน่งที่สามารถตรวจซ่อมได้สะดวกจะดีก ว่า. การเปิ ด-ปิ ด ม่านรับแสง (Iris) ของเลนส์กล้องวงจรปิ ด มี 2 ชนิด คือ 1. การเปิด-ปิดด้วยมือ (Manual Iris) การปรับขนาดของม่านแสง(Iris) ทาการเปิด หรือ ปิด ขนาดของรูรับแสง(Aperture) ด้วยตัวควบคุมการทางาน ของเลนส์ ตัวควบคุมการทางานของเลนส์กล้องวงจรปิดจะต้องเป็ นชนิดที่มี ปุ่ม/สวิทส์เปิด-ปิด หรือปรับขนาดของม่านแสงได้ (Iris Control Function) . 2. การเปิด-ปิด อัตโนมัติ (Auto Iris) การปรับขนาดของม่านรับแสง จะทางานร่วมกับ การทางานของกล้อง ตัวกล้องจะมีวงจรไฟฟ้ าเพื่อจ่ายไฟให้กับเลนส์ การจ่ายไฟฟ้ าให้กับเลนส์ฯ มี ๒ แบบคือ แบบสัญญาณภาพ (Video Type) ตัวกล้องจะจ่ายไฟฟ้ าให้กับเลนส์ในลักษณะของสัญญาณภาพ โดยจะมีความเข้มของสัญญาณภาพที่แตกต่างกันไป ตามการเปลี่ยนแปลงของแสง เลนส์ที่จะใช ้กับกล้องที่จ่ายไฟฟ้ าแบบนี้ จะต้องมีแผงวงจร (Amplifier) เพื่อเปลี่ยนความแตกต่างของสัญญาณภาพให้เป็ น การเปลี่ยนแปลงทางไฟฟ้ า เพื่อให้อุปกรณ์ซึ่งคล้ายกับมอเตอร ์
  • 7. มีขนาดเล็กมาก เรียกว่า กัลวานอมิเตอร ์(Galvanometer) หรือเรียกเป็ นอย่างอื่นแล้วแต่ผู้ผลิตจะเรียก ทางาน เพื่อทาให้ม่านแสงเปิด หรือ ปิด ตามการเปลี่ยนแปลงของแสง แบบไฟตรง (DC Type) ตัวกล้องจะมีวงจรจ่ายไฟฟ้ า จ่ายไฟกระแสตรง (DC) ให้กับเลนส์เพื่อให้กัลวานอมิเตอร ์(Galvanometer) ทางานโดยตรง เพื่อทาให้ม่านแสงเปิด หรือ ปิด ไปตามการเปลี่ยนแปลงของแสง การเลือกใช ้เลนส์กล้องวงจรปิดที่เปิด-ปิด ม่านแสงอัตโนมัติ ว่าเป็ นชนิด Video Type หรือ DC Type ต้องดูจากคู่มือของกล้อง ถ้าใช ้ผิดประเภท เลนส์จะไม่ทางาน และอาจจะชารุดได้. นอกจากนี้ เลนส์บางรุ่น บางผู้ผลิต สามารถที่จะใช ้งานได้ทั้ง Maunal- Irsi และ Auto-Iris ในเลนส์ตัวเดียวกัน บางรุ่นจะมีสวิทส์เลือกใช ้ อย่างใดอย่างหนึ่งจากตัวควบคุม แต่ในบางรุ่นสามารถที่จะสั่งเปิด หรือปิด รูรับแสง ในขณะที่ยังคงทางานเป็ น Auto-Iris ได้ด้วย. ในปัจจุบันนี้ ได้มีกล้องกล้องวงจรปิดรุ่นใหม่ ๆ ที่ช่วยพัฒนาเพื่อความสะดวกต่อการใช ้งานซึ่งทางผลิตจะผลิตและพัฒน ากล้องวงจรปิดรุ่นใหม่ๆออกมา อยู่เรื่อยๆ ต่อไป
  • 8. ระบบโทรทัศน์วงจรปิ ด CCTV คืออะไร กล้องวงจรปิด (CCTV) ย่อมาจาก Closed-circuit television ซึ่งจะทาหน้าที่รับภาพที่ปรากฏอยู่ และทาการแปลงเป็ นสัญญาณ และทาการส่งสัญญาณดังกล่าวไปในจุดที่ต้องการในลักษณะ point to point โทรทัศน์วงจรปิด ส่วนมากที่ใช ้งานในปัจจุบันนี้มี 2 ลักษณะ คือ : 1. ติดตั้งตายตัว หรือ กล้องติดอยู่กับที่ (Fixed Camera) หมายถึงตัวกล้องจะติดตั้งอยู่บนขากล้องหรื ออื่นๆ ซึ่งไม่สามารถจะขยับ หรือหมุนเปลี่ยนทิศทางในการดูได้ ถ้าต้องการหมุนหรือเปลี่ยนทิศทาง ก็จะต้องถอดตัวกล้องแยกออกจากขากล้อง จึงจะเปลี่ยนตาแหน่งได้ 2. สามารถหมุนปรับทิศทาง ได้ (Moving Camera) เพื่อ เป็ นการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช ้งาน ระบบโทรทัศน์วงจรปิด จึงได้มีการเพิ่มอุปกรณ์ประกอบเข้าไป คือ ฐานกล้องหมุนปรับทิศได้ สามารถที่จะปรับให้หมุนซ ้าย / ขวา ก้ม-เงย
  • 9. ได้ ( Pan and Tilt unit ) และอาจจะมีอุปกรณ์อื่นเพิ่มอีก เช่น เลนส์ปรับขนาดภาพได้ (Zoom Lens) และ เครื่องหุ้มกล้อง (Camera Housing) เป็ นต้น ฐานกล้องหมุนปรับทิศได้ (Pan & Tilt unit ) เป็ นอุปกรณ์ที่เพิ่มประสิทธิภาพให้กล้อง สามารถที่จะเปลี่ยนได้หลายทิศทาง ทั้งมุมต่า และมุมสูง เช่น กล้องที่ติดตั้งอยู่กับ Pan & Tilt unit ติดตั้งบนเสามีความสูงประมาณ ๑๐ เมตร สามารถที่จะปรับมุมก้มเพื่อจะดูวัตถุ หรือคนที่อยู่บนพื้นดิน ซึ่งมีระดับต่ากว่าตาแหน่งที่ติดตั้งกล้อง หรือมุมเงยเพื่อมองไปยังอาคารที่สูงกว่า ไม่ว่าจะเป็ นทิศทางตรงด้านหน้า หรือจะหมุนไป ยังทิศทางอื่นๆ ก็สามารถทาได้ โดยปกติ กล้องที่มี Pan & Tilt unit จะใช ้เลนส์ที่สามารถปรับขนาดภาพได้ ควบคู่ไปด้วยกัน แต่ไม่จาเป็ นเสมอไป ขึ้นอยู่กับงานที่ใช ้มากกว่า ในบางลักษณะอาจจะต้องการเพียงให้สามารถปรับทิศในการดูก็เพียงพอ แล้ว ไม่ต้องการจะดูในรายละเอียด ในบางลักษณะก็มีความจาเป็ นต้องการใช ้เลนส์ที่สามารถปรับขนาดของ ภาพได้ เพื่อจะดูรายละเอียดของภาพที่ต้องการจะดูเพราะว่าระยะของวัตถุหรือจุด ที่ ต้องการจะดูในแต่ละทิศทางจะมีความแตกต่างกันไป.
  • 10. เลนส์ปรับขนาดภาพได้ ( Zoom Lens ) เป็ นเลนส์ที่สามารถเปลี่ยนขนาดภาพได้ ( เปลี่ยน ความยาวโฟกัส) เลนส์ฯ ที่นามาใช ้กับ กล้องที่มี Pan & Tilt unit ส่วนมากจะเป็ นชนิด ที่ควบคุมการทางานด้วยมอเตอร ์เราจึงเรียกว่า Motorized Zoom Lens การ เลือกใช ้Motorized Zoom Lens ควรจะเลือกให้เหมาะกับงานที่จะใช ้เพราะว่า Motorized Zoom Lens มีหลายแบบ หลายขนาดตามความยาวโฟกัส เช่น การใช ้ภายในอาคาร มี พื้นที่ไม่ใหญ่ ก็ใช ้Motorized Zoom Lens ที่มีความยาวโฟกัสไม่มากนัก เช่น ๖ - ๓๕ ม.ม. ( ๖ เท่า) ถ้าเป็ นอาคารที่มีขนาดใหญ่ หรือภายนอกอาคารพื้นที่กว้าง หรือต้องการจะดูให้เห็นรายละเอียดมากๆ ก็ควรใช ้Motorized Zoom Lens ที่มีความยาวโฟกัสมากขึ้น เช่น ๖ - ๖๐ ม.ม. ( ๑๐ เท่า) ถ้าติดตั้งนอกอาคาร หรือต้องการที่จะมองให้เห็นได้ไกล ก็ควรใช ้ Motorized Zoom Lens ที่มีความยาวโฟกัสมากขึ้นไป เช่น ๖ - ๑๒๓ ม.ม. (๒๑ เท่า) เป็ นต้น อุปกรณ์ที่ใช ้ในระบบโทรทัศน์วงจรปิด 1. กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV Camera) 2. เลนส์(CCTV Lenses) 3. เครื่องบันทึกภาพ (Video Recorder) 4. จอภาพ (Video Monitor) 5. เครื่องเลือก / สลับภาพ (Video Switcher) และ เครื่องผสม / รวมภาพ (Multiple Screen Displays)
  • 11. 6. ระบบการควบคุม (Control System) 7. อุปกรณ์เสริม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทางานของระบบโทรทัศน์วงจรปิด (Related Accessories for more efficiency CCTV System) 7.1. กล่องหุ้มกล้อง (Camera Housing) 7.2. ฐานกล้องปรับทิศทางได้ (Pan & Tilt units) 7.3. อุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ควรดูอะไรบ้างก่อนใช้ กล้องวงจรปิ ด 1) การเลือกชนิดของกล้องวงจรปิด : ชนิดของกล้อง กล้องวงจรปิดมีหลายชนิดหลายแบบ โดยแบบได้คร่าว ๆ ดังนี้ - กล้องแบบ CS MOUNT เป็ นกล้องที่ต้องใช ้เลนส์ต่อกับกล้องทาให้เกิดภาพ ข้อดี คือภาพจะชัด เพราะเลนส์ที่ใช ้เป็ นเลนส์มาตรฐานขนาดใหญ่ - กล้องแบบโดม เหมาะสาหรับสถานที่ที่ต้องการความสวยงามหรือไม่ต้องการให้สังเกตเห็ นว่ามีการติดตั้งกล้องวงจรปิด • ความละเอียดของภาพ (Resolution) กล้องที่ให้ภาพจะชัดเจนหรือไม่ขึ้นอยู่กับชนิดของแผ่นรับภาพ CCD ซึ่งแบบได้ 2 แบบ คือ - Normal Resolution เป็ นแบบที่มีความละเอียดของภาพปกติ ประมาณ 330 - 380 TV LINE - High
  • 12. Resolution เป็ นแบบที่มีความละเอียดของภาพสูงประมาณ 400 - 550 TV LINE หมายเหตุ กล้องที่มีความละเอียดของภาพสูงจะมีราคาสูงตามไปด้วย • ความสามารถในการรับแสง (Illumination) กล้องที่มีความสามารถในการรับแสงต่า(LUX) จะสามารถใช ้ในสถานที่ที่มีความสว่างน้อย (ในที่มืด) ได้ และราคาจะสูงตามไปด้วย 2) เลนซ ์(LENS) ; การเลือกเลนซ ์ มีความสาคัญในการติดตั้งระบบโทรทัศน์วงจรปิด หลักการทางานของเลนซ ์ เลนซ ์จะตัวรวมแสงให้ภาพตกกระทบที่แผ่นรับภาพ CCD โดยมี IRIS , (ช่อง ให้แสงผ่าน) เป็ นตัวกาหนดให้ภาพที่เกิดมีความเข้มของแสงตามต้องการ ถ้าในที่มีแสงมาก IRIS จะต้องเปิดน้อย ถ้าในที่มืดจะต้องเปิด IRIS ให้กว้างที่สุด ชนิดของเลนซ ์ FIX IRIS IRIS ของเลนซ ์จะไม่สามารถปรับได้ ทาให้จะต้องใช ้ในสถานที่ภายในอาคาร ที่มีแสงสว่างคงที่ตลอดเวลา MANUAL IRIS IRIS ของเลนส์จะสามารถปรับได้ด้วยช่างเทคนิคที่ติดตั้งกล้อง เหมาะสาหรับงานในอาคารที่มีความสว่างในแต่ละห้องไม่เท่ากัน
  • 13. สามารถปรับแสงให้เหมาะสมในแต่ละห้องได้ AUTO IRIS เป็ นเลนส์ที่ IRIS จะปรับขนาดการรับแสงเอง โดยอัตโนมัติขึ้นอยู่กับความเข้มของแสงที่ตกกระทบเลนส์ เหมาะสาหรับติดตั้งนอกอาคารที่ความสว่าง เปลี่ยนตามแสงอาทิตย์ 3) อุปกรณ์ควบคุมและบันทึกภาพ แบบใช ้เทป (ANALOG) เครื่องแบ่งภาพ MULTIPLEXER เครื่องบันทึกภาพ ประกอบด้วย - MULTIPLEXER (เครื่องแบ่งภาพ) ใช ้ต่อกับกล้องได้ 4 ตัว, 8 ตัว และ 16 ตัว - TIMELAPSE RECORDER (เครื่องบันทึกภาพ) ใช ้บันทึกภาพด้วยเทป มีแบบ 24 ชั่วโมง 96 ชั่วโมง, 196 ชั่วโมง, 960 ชั่วโมง - จอภาพ (MONITOR, TV) ใช ้แสดงภาพ - แบบใช ้HARDDISK (DVR) - บันทึกภาพลง HARDDISK แบ่งได้ 3 ประเภท - แบบ CARD เป็ น CARD ที่สามารถต่อกล้องได้ 4, 8, 16 ตัว โดยจะต้องใช ้COMPUTER - แบบ STANDALONE เป็ นแบบ ที่ประกอบ COMPUTER มาจากโรงงานโดยตรงเป็ นแบบ PC BASE - แบบ STAND ALONE NON PC เป็ นแบบ อุปกรณ์ประกอบจากโรงงานทั้งชุดและไม่ใช ้โปรแกรม WINDOW
  • 14. (NON PC) ข้อดีของการเลือกใช ้กล้อง Network camera เมื่อเปรียบเทียบกับกล้อง Analog 1. การ Access หรือการเข้าถึงตัวกล้อง ซึ่งโดยปกติแล้วกล้อง Network camera นั้นสามารถที่จาทาการเข้าถึงตัวกล้องได้จากทุกๆที่ ไม่ว่าจะเป็ นที่ไหนบนโลก เนื่องจากว่าตัวกล้องนั้นสามารถทางานได้บนพื้นฐานระบบเครือข่าย(Ne twork) ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกล้องเข้ากับระบบ LAN, Wan แล้วก็ Internet ได้ โดยสามารถเรียกดูภาพจากกล้องได้อย่างง่ายดายเพียงแค่เปิดโปรแกรม IE (Internet Explorer) ซึ่งมีอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร ์ทั่วๆไปอยู่แล้ว ซึ่งแตกต่างจากกล้องระบบ Analog โดยสิ้นเชิง เพราะว่าตัวกล้อง Analog นั้นไม่สามารถเข้าถึงตัวกล้องได้โดยตรงไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม 2. Easy to use การใช ้งานค่อนข้างง่าย เนื่องจากสามารถเรียกดูภาพได้จากโปรแกรม IE (Internet Explorer)ได้อย่างง่ายแล้ว ผู้ใช ้ยังสามารถเข้าไปกาหนดค่าการทางานต่างๆของตัวกล้องได้อีกด้วย 3. Quality หรือคุณภาพของภาพที่ได้ ในระบบกล้อง Network camera นั้นผู้ใช ้สามารถเข้าไปกาหนดค่าการใช ้งานต่างๆผ่านโปรแกรม IE (Internet Explorer) ได้ที่กล้องโดยตรง ไม่ว่าจะเป็ นเรื่องการกาหนด Resolution ของภาพ การตั้งค่าการ Compression ของภาพ ซึ่งสามารถที่จะกาหนดคุณภาพของภาพได้ตามความต้องการ อีกทั้งรูปแบบของไฟล์ยังเป็ นดิจิตอล
  • 15. ทาให้ไม่เกิดปัญหาในเรื่องของระยะทางในการส่งสัญญาณภาพหรือการ ดึงภาพมา บันทึก ซึ่งต่างจากระบบ Analog ซึ่งบางครั้งการติดตั้งในระยะที่ไกลเกินไป หรือสภาวะแวดล้อมที่มีสัญญาณกวนต่างๆ จะทาให้การส่งสัญญาณภาพเกิดปัญหาขึ้นได้ 4. System Requirement ความต้องการของระบบ กล้อง Network camera นั้นสามารถทางานได้บนระบบเครือข่ายที่ผู้ใช ้มีอยู่ได้เลย เพียงแค่ปลั๊กอุปกรณ์กล้องเข้ากับระบบเครือข่ายก็สามารถใช ้งานได้ทัน ที ซึ่งสามารถใช ้งานได้ทั้งแบบเดินสาย หรือ ไร ้สาย (Wireless) และในการบันทึกภาพนั้นก็เพียงแค่ใช ้โปรแกรมบันทึกภาพลงบนเครื่องค อมพิวเตอร ์ทั่วๆไปก็สามารถที่จะดึงภาพจากกล้องมาบันทึกได้ทันที ไม่เหมือนกับระบบ Analog ซึ่งจาเป็ นจะต้องวางระบบใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่การเดินสาย รวมถึงจะต้องซื้ออุปกรณ์ที่เรียกว่า DVR (Digital video recorder) เพื่อใช ้ในการบันทึกภาพ 5. Installation การติดตั้ง ระบบ Network นั้นสามารถติดตั้งได้อย่างง่ายดาย หรือสามารถใช ้งานร่วมกับระบบเครือข่ายเดิมที่มีอยู่ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็ นแบบเดินสาย หรือแบบไร้สาย ซึ่งจะยิ่งทาให้การติดตั้งนั้นง่ายดายมากยิ่งขึ้น ผิดกับ Analog ซึ่งจะต้องเดินสายใหม่ทั้งหมด 6. Cabling สายสัญญาณ ระบบ Network นั้นจะใช ้สายสัญญาณประเภท UTP ซึ่งปัจจุบันมีราคาค่อนข้างถูก อีกตั้งตัวสายยังมีความยืดหยุ่นสูง สามารถที่จะเดินสายติดตั้งได้โดยง่าย
  • 16. อีกทั้งปัจจุบันยังมีเทคโนโลยี Wireless LAN ซึ่งช่วยให้ลดการติดตั้งแบบเดินสายได้อีกด้วย แต่ระบบ Analog นั้นใช ้สายสัญญาณประเภท Coax ซึ่งลักษณะของสายมีขนาดใหญ่และค่อนข้างแข็ง ทาให้ในการติดตั้งนั้น ค่อนข้างกระทาได้ยาก เนื่องจากจะต้องเดินสายจากกล้องทุกตัวมาเข้ากับเครื่องบันทึกภาพ (DVR) 7. Scalability การขยายระบบ ระบบกล้อง Network camera นั้นสามารถเพิ่มกล้องเข้าสู่ระบบได้โดยง่าย เพียงแค่ปลั๊กกล้องเข้ากับระบบเครือข่ายก็สามารถใช ้งานได้ อีกทั้งยังสามารถเพิ่ม ลด หรือย้ายจุดติดตั้งได้อย่างง่ายได้ โดยหากใช ้เป็ นระบบ Wireless จะยิ่งเพิ่มความสะดวกมากขึ้น ผิดกับระบบ analog ซึ่งแต่ละกล้องจาเป็ นจะต้องเดินสายใหม่ทั้งหมด ทาให้ในการเพิ่มจานวนกล้อง หรือย้ายจุดติดตั้งนั้นทาได้โดยลาบาก ซึ่งหากระยะไกลเกินไปก็อาจจะทาให้สัญญาณภาพเกิดปัญหาขึ้นได้อีก 8. Cost ค่าใช ้จ่าย ระบบกล้อง Network camera นั้นสามารถใช ้งานร่วมกับระบบเครือข่ายที่มีอยู่ได้ทันที ซึ่งโดยปกติแล้ว หากเป็ นอาคารสานักงานต่างๆก็จาเป็ นจะต้องมีระบบเครือข่ายใช ้งานภา ยในอยู่ แล้ว หรือหากต้องมีการติดตั้งใหม่นั้น โดยเฉลี่ยแล้วค่าใช ้จ่ายในการติดตั้งแบบเดินสาย UTP นั้นจะถูกกว่าการติดตั้งหรือเดินสายแบบ Coax อยู่ประมาณ 20-30% นอกจากนั้นปัจจุบันราคาของอุปกรณ์ Network รวมถึงราคาเครื่องคอมพิวเตอร ์ยังมีราคาลดลงจากเมื่อก่อนมาก อีกทั้งการติดตั้งระบบเครือข่ายใหม่ นอกจากจะสามารถใช ้งานระบบกล้อง Network camera
  • 17. แล้วยังสามารถใช ้งาน Application อื่นๆได้ด้วย ซึ่งทาให้ค่ายใช ้จ่ายในปัจจุบันนั้น ไม่ได้สูงกว่าระบบ analog แบบเก่าเลย จากเหตุผลต่างๆข้างต้น ผู้ใช ้จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันกล้อง Network camera นั้นค่อนข้างจะมีปะสิทธิภาพ และประโยชน์ในการใช ้งานที่หลากหลายกว่าระบบ Analog ไม่ว่าจะเป็ นตัวกล้องเอง ระบบในการใช ้งานเอง ความยากง่ายในการติดตั้ง เคลื่อนย้าย ก็ตาม แล้วที่สาคัญปัจจุบันค่าใช ้จ่ายต่างๆนั้นก็ใกล้เคียงกับระบบ Analog แบบเก่า แต่ให้ประโยชน์การใช ้งานที่มากกว่า จึงเป็ นทางเลือกใหม่ที่ดีกว่าในการเลือกใช ้ระบบกล้องที่เป็ นแบบ Network camera » อุปกรณ์ที่ใช ้:::: สินค้าหลักที่ใช ้ในระบบกล้องวงจรปิดมี 2 รายการ คือ กล้องวงจรปิด แบ่งเป็ น 3 ชนิดหลักๆ คือ 1. กล้องแบบโดม :: เหมาะสาหรับใช ้ในอาคาร ที่แสงสว่างไม่เปลี่ยนแปลง ราคาถูก 2. กล้องแบบทรงเหลี่ยม (CS - MOUNT) :: เหมาะสาหรับใช ้ทั้งภายใน และภายนอก ต้องใช ้คู่กับเลนส์ ซึ่งสามารถเ ปลี่ยนขนาดโฟกัสของเลนส์ได้ ทาให้ได้ภาพที่คมชัดตามพื้นที่ที่ต้องการ 3. กล้อง INFARED ::: เหมาะสาหรับใช ้ทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะพื้นที่ที่มืดสนิทในตอนกลางคืน เพราะมีหลอด INFARED ผลิตความถี่ให้เห็นในที่มืดสนิทได้ อุปกรณ์บันทึกภาพ ต้องพิจารณาคุณลักษณะหลักๆ คือ
  • 18. 1. ชนิดของอุปกรณ์บันทึกภาพ แบบ PC BASE จะใช ้ในโปรแกรม MS Office มีแบบเป็ น CARD และแบบผลิตสาเร็จมาพร้อม Computer จะมีคุณสมบัติมากมายเหมือน Computer แบบ STANDALONE เป็ นแบบที่เป็ นตัวเครื่องผลิตสาเร็จรูปมาจากโรงงาน มีคุณสมบัติครบถ้วนราคาถูก 2. ความเร็วของภาพที่ดูจากจอภาพ / ความเร็วในการบันทึกภาพ จะพิจารณาเป็ น ความเร็วภาพ/วินาที (Frame) ถ้ามีความเร็วสูง ภาพจะดูต่อเนื่องแต่เปลือง Memory ใน Harddisk มาก 3. มาตรฐานในการบีบอัด (Compression) ของภาพมาตรฐานที่เป็ นที่นิยมกันหลักๆ มีดังนี้ MPEG4 , MJPEG และ H.264 MPEG4 เป็ นที่นิยมสูงสุด เพราะใช ้พื้นที่ในการบันทึกน้อย 4. การดูภาพผ่าน Internet / Lan ควรจะสามารถดูผ่าน Internet / Lan ได้ การรับประกันสินค้า จะต้องขอเอกสาร เงื่อนไข การรับประกัน สินค้าจากบริษัทที่จาหน่าย เพื่อเก็บไว้เป็ นหลักฐาน การติดตั้ง มีความสาคัญมากไม่น้อยกว่าการเลือกสินค้า สายที่ใช ้ในการติดตั้งมี 2 ชนิดคือ 1. สายไฟฟ้ า จะต้องใช ้สายที่ได้มาตรฐาน มอก. ระวังผู้ขายที่ขาดความรับผิดชอบจะใช ้สายโทรศัพท์แทนสายไฟฟ้ า ซึ่งจะทาให้สายร ้อนและเกิดอัคคีภัยได้ 2. สายสัญญาณใช ้สาย RG6 ที่ได้มาตรฐาน โดยจะต้องใช ้สาย SHIELD 90% ขึ้นไป ควรจะใช ้ยี่ห้อ มาตรฐาน เพราะถ้าใช ้สายถูก ราคาเมตรละ 5 - 8 บาท จะ SHIELD ต่า 60% จะใช ้งานได้ไม่นาน ภาพของกล้องจะเกิดสัญญาณรบกวน ต้องเดินสายใหม่ทั้งหมด งานติดตั้งจะต้องตรวจสายที่ติดตั้งจริงก่อนชาระการติดตั้ง
  • 19. การติดตั้งสาคัญมาก ถ้าต้องรื้อและเดินสายใหม่จะเป็ นเรื่องใหญ่มาก การเลือกบริษัทที่จาหน่าย ปัจจุบันธุรกิจกล้องวงจรปิดบูมมากทาให้บริษัทขายกล้องวงจรปิดเกิ ดมาก ทาให้มีการแข่งขันสูง มีผู้ขายบางรายหลอกลวงลูกค้า บางรายปิดกิจการไป โดยมีปัญหาต่างๆ พอสรุปดังนี้ 1. นาสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน มาจาหน่าย โดยเฉพาะสินค้าจากประเทศจีน ปัจจุบันสินค้าจีนที่มี คุณภาพดีมีจานวนมากแต่ราคาจะใกล้เคียงสินค้าจากประเทศไต้หวันบา งครั้งมีการ แอบอ้างว่าผลิต ในประเทศไต้หวัน แต่เป็ นสินค้าคุณภาพต่าจากประเทศจีน ส่วนใหญ่ลูกค้าที่พิจารณาแต่ราคาจะประสบปัญหา ซื้อไปแล้วใช ้ไม่ได้นาน สินค้าจะชารุดเร็วมาก 2. ผู้ขายไม่บริการหรือบริการช้ามาก เนื่องจากผู้ขายไม่ได้นาเจ้าโดยตรง หรือผู้นาเข้าเลิกกิจการ จะต้องพิจารณาความมั่นคงของผู้ขาย หรือผู้นาเข้าเป็ นสาคัญ 3. การติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน ใช ้สายไฟและสายสัญญาณ ที่ไม่ได้มาตรฐานมาติดตั้ง ทาให้ภาพที่ปรากฏไม่ชัดเจน หรือใช ้ได้ไม่นาน ภาพก็ไม่ชัดรวมถึงการไม่รับผิดชอบเกี่ยวกับ การติดตั้ง ควรระวังเรื่องการติดตั้งเป็ นเรื่องสาคัญมาก
  • 20. การทางานของเลนส์ เลนส์จะเป็ นตัวรวมแสงให้ภาพตกกระทบที่แผ่นรับภาพ CCD โดยมี IRIS (ช่องให้แสงผ่าน) กาหนดให้ภาพที่เกิดมีความเข้มของแสงตามต้องการ - ในกรณีที่มีแสงมาก IRIS จะต้องเปิดน้อย - ในกรณีที่มีแสงน้อย IRIS จะต้องเปิดมาก ประเภทของเลนส 1. FIX IRIS IRIS ของเลนส์จะไม่สามารถปรับได้ ทาให้จะต้องใช ้ในสถานที่ภายในอาคาร ที่มีแสงสว่างคงที่ตลอดเวลา 2. MANUAL IRIS IRIS ของเลนส์จะสามารถปรับได้ด้วยช่างเทคนิ คที่ติดตั้งกล้อง เหมาะสาหรับงานในอาคารที่มีความสว่างใ นแต่ละห้องไม่เท่ากัน สามารถปรับแสงให้เหมาะในแต่ละห้องได้
  • 21. 3. AUTO IRIS เป็ นเลนส์ที่ IRIS จะปรับขนาดของการรับแสงเอง โดยอัตโนมัติขึ้นอยู่กับความเข้มของแสงที่ ตกกระทบเลนส์ เหมาะสาหรับติดตั้งนอกอาคารที่ความสว่า งเปลี่ยนตามแสงอาทิตย์ การเลือกใช ้เลนส์ โดยทั่วไปจะมีมาตรฐานเกลียวอยู่2ชนิด โดยทั้ง2ชนิดนั้นจะมีเกลียวขนาด 1นิ้ว และมีลักษณะคล้ายๆกัน - CS-mount ระยะห่างระหว่างตัวเซ็นเซอร ์และเลนส์จะมีขนาด 12.5 มิลลิเมตร - C-mount ระยะห่างระหว่างตัวเซ็นเซอร ์และเลนส์จะมีขนาด 17.5 มิลลิเมตร โดยสามารถที่จะใช ้C/CS Adapter ring เพื่อที่จะแปลงเลนส์แบบ C-mount ไปเป็ นแบบ CS-mount ได้ - Sensor size (ขนาดของตัวรับภาพ) เลนส์โดยทั่วไปนั้นจะสร ้างภาพที่มีขนาดใหญ่พอสา
  • 22. หรับตัวเซ็นเซอร ์โดยที่เซ็นเซอร ์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ก็จะมีราคาที่สูงขึ้นตามไปด้วย โดยที่เลนส์ที่มีขนาด ½ นิ้ว ก็จะใช ้งานได้สาหรับเซ็นเซอร ์ที่มีขนาด 1/2 นิ้ว, 1/3 นิ้ว และ ¼ นิ้ว จะไม่สามารถใช ้ได้กับเซ็นเซอร ์ที่มีขนาด2/3 นิ้ว ถ้าคุณเลือกเลนส์สาหรับเซ็นเซอร ์ขนาดเล็กมาใช ้ง านกับเซ็นเซอร ์ที่มีขนาดใหญ่ ก็จะได้ภาพที่มีมุมเป็ นสีดา - Focal length (ความยาวของจุดโฟกัส) ความยาวของจุดโฟกัสประกอบกับขนาดของเซ็นเซ อร ์จะให้มุมที่ดูแตกต่างกัน โดยถ้าขนาดความยาวของโฟกัสสั้นจะให้มุมมองที่ กว้าง(wide-angle view) ถ้าขนาดความยาวของจุดโฟกัสยาว จะให้มุมมองที่แคบลง(telephoto view) เลนส์ที่มีมุมมองที่กว้าง(wide-angle view) จะมีมุมมองส่วนลึกของพื้นที่ได้ดีกว่าเลนส์ที่มีมุมมอ งแคบ(telephoto view) นั้นหมายความว่าคุณสามารถที่จะโฟกัสภาพเข้ามา ใกล้ได้จากระยะไกล ซึ่งเลนส์ที่มีมุมมองแคบจะต้องการการโฟกัสภาพที่ ถูกต้อง แน่นอนกว่า
  • 23. รูปแบบหลักของเลนส์มีอยู่ 3 แบบคือ - Mono-focal. ความยาวของจุดโฟกัสนั้นถูกกาหนดมา เช่น 4 มิลลิเมตร - Zoom. ความยาวของจุดโฟกัสนั้นสามารถที่จะปรับได้โดยอยู่ในระยะที่กาหนด เช่น 4 ถึง 10 มิลลิเมตร - Varifocal zoom. เป็ นเลนส์ซูมที่มีราคาค่อนข้างต่า โดยถ้ามีการเปลี่ยนระยะห่างของจุดโฟกัส เลนส์นั้นจะต้องมีการปรับตั้งโฟกัสใหม่ โดยทั่วไปจะมีขนาด 3.5 ถึง 8 มิลลิเมตร ตัวอย่าง ขนาดภาพขนาดใดที่คุณสามารถที่จะเห็นได้ในระยะ10 ฟุต ถ้าคุณใช ้กล้องที่มีขนาดเซ็นเซอร ์¼ นิ้ว และใช ้เลนส์ขนาด 4 มิลลิเมตร? H = D x h / f = 10 x 3.6 / 4 = 9 ft - Iris(รูรับแสง)ในส่วนของ Iris จะเป็ นส่วนที่ใช ้กาหนดปริมาณของแสงที่จะผ่านไปสู่เลนส์ โดยที่จะมีลักษณะแตกต่างกันอยู่ 3 แบบคือ - Manual Iris. หมุนปรับได้ที่วงแหวนIris หรือเลือกใช ้เลนส์ที่กาหนดค่าIris มาแล้ว โดยเลือกขนาดของIris ทีมีให้ เช่น F1.4, F2.0 เป็ นต้น - DC Auto Iris. เชื่อมต่อเข้าที่ช่องต่อ output ของตัวกล้อง โดยที่Iris จะถูกควบคุมโดยตัวกล้องโดย Digital Signal Processor (DSP) - Video Auto Iris. Iris จะถูกควบคุมโดยสัญญาณวีดีโอ เลนส์แบบออโต้ไอริสนั้น เหมาะสาหรับงานที่อยู่ภายนอกอาคาร
  • 24. โดยเลนส์นั้นจะสามารถปรับแสงให้เหมาะกับสภาพแสงขณะนั้น โดยที่จะให้คุณภาพแสงที่ดีที่สุด และยังสามารถป้องกันตัวรับภาพจากปริมาณแสงที่มีเข้ามามากเกินไป - F-number F-number =Focal length / Iris diameter ถ้าจานวน F น้อย จะทาให้คุณภาพของภาพนั้นดีกว่าในสภาวะที่มีแสงน้อย กับ เลนส์ที่เป็ นออโต้ไอริสนั้น จะต้องตั้งโฟกัสภาพในขณะที่มีแสงน้อยเสมอ เพราะถ้ามีการตั้งโฟกัสในขณะที่มีแสงสว่างเยอะนั้น อาจจะทาได้ง่าย แต่ว่าในขณะที่แสงนั้นน้อยลงจะทาให้เส้นผ่านศูนย์กลางของรูรับแสงปรั บเล็กลง และอาจจะทาให้ภาพนั้นไม่อยู่ในโฟกัสได้ คุณสามารที่จะใช ้ตัวกรองแสงสีดาแบบพิเศษ ซึ่งจะช่วยให้เราลดปริมาณแสงได้ ตัวกรองแสงนี้จะช่วยในการติดตั้งกล้องของคุณได้ ชนิดกล้องวงจรปิด (CCTV) กล้องวงจรปิด ถือว่าเป็ นอุปกรณ์ที่สาคัญอันดับแรกของระบบ CCTVเพราะถ้ากล้องวงจรปิด ไม่สามารถจับภาพได้หรือได้ภาพ ที่ไม่ชัดระบบ CCTV นั้นก็ไม่มีประสิทธิภาพเลย ถึงแม้ว่าคุณจะมีระบบบันทึกภาพ (DVR) ที่ดีแค่ไหน ก็ไม่สามารถช่วยได้ เพราะฉะนั้น กล้องวงจรปิด ถือว่าเป็ นอุปกรณ์ที่จาเป็ นอันดับแรกเลยก็ว่าได้ เรามาดูว่ากล้องของระบบ CCTV นั้นมีแบบไหนบ้าง ชนิดของกล้องวงจรปิด 1. กล้องมาตรฐาน (Standard Camera)
  • 25. กล้องวงจรปิดมาตรฐาน เป็ นกล้องทรงกระบอกที่ใช ้ติดตั้งภายในอาคาร สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ ในกรณีที่ต้องการเปลี่ยน มุมของภาพ โดยส่วนมากนิยมติดกล้องมาตรฐานไว้เพื่อปรามคน ทาให้เห็นว่าในสถานที่นั้นๆมี กล้องวงจรปิดติดไว้ทาให้คนที่จะมาทามิดี มิร ้ายกับสถานที่นั้นกลัว ไม่กล้าที่จะทาอะไร เพราะมีกล้องติดอยู่ สิ่งจาเป็ นสาหรับกล้องวงจรปิดมาตรฐาน (Standard Camera) 1. กล้อง (Camera) 2. เลนส์(Lens) 3. ขายึด (Bracket) 4. อะแดปเตอร ์(Adapter)
  • 26. 2. กล้องวงจรปิดอินฟราเรด (Infarred Camera) กล้องวงจรปิดอินฟราเรดเป็ นกล้องที่จับภาพในที่มืดสนิทได้ ทาจากวัสดุทนทานสามารถนาไปติดภายนอกอาคาร ได้กันน้าได้(แต่ไม่ถึงกับจุ่มน้า)การเลือกกล้องวงจรปิดอินฟราเรดนั้นควร เลือกตามระยะของอินฟราเรดอย่างเช่นกล้องที่มี ระยะอินฟราเรด 10 เมตร 20 เมตร 30 เมตร และระยะอื่นๆ ที่เราจาเป็ นต้องใช ้ สิ่งจาเป็ นสาหรับกล้องวงจรปิด (CCTV)อินฟราเรด 1. กล้อง (Camera) 2. ขายึด (Bracket) 3. อะแดปเตอร ์(Adapter)
  • 27. 3. กล้องวงจรปิดโดม (Dome Camera) กล้องวงจรปิดโดม เป็ นกล้องที่ติดเพื่อความสวยงาม มีขนาดเล็ก ติดภายในอาคาร หากต้องการทาความสะอาดก็ทาได้โดยง่าย ส่วนมากจะติดกล้องโดมในห้องสวยงาม ห้องครัว ห้องประชุม ห้องนั่งเล่น หรือในลิฟท์เป็ นต้น สิ่งจาเป็ นสาหรับกล้องโดม 1. กล้อง (Camera) 2. อะแดปเตอร ์(Adapter)
  • 28. 4. กล้องวงจรปิด Pan/Tilt/Zoom (Speed Dome Camera) กล้องวงจรปิดสปีดโดมเป็ นกล้องที่มีความสามารถในการ หมุนรอบตัวเองได้ ก้มเหงยได้ ซูมภาพได้ มี ทั้งชนิดที่เป็ นแบบติดภายนอกอาคาร และติดตั้งภายในอาคาร ควรติดตั้งกล้องวงจรปิด ชนิดนี้เพื่อตรวจตราบริเวณโดยรอบของพื้นที่ และในสถานที่หนึ่งๆสามารถติดกล้อง Speed Dome ได้มากกว่า 1 ตัว การสั่งการหรือควบคุมกล้อง Speed Dome ต้องสั่งโดยเครื่องบันทึก หรือสั่งจากคีย์บอร ์ควบคุม 5. กล้องวงจรปิดไอพี ( IP Camera )
  • 29. กล้องวงจรปิดไอพี เป็ ฯกล้องที่ส่งภาพทางระบบเครอข่าย ดูภาพที่ไหนก็ได้ ทุกที่ทุกเวลา หากต้องการ บันทึกก็ต้องบันทึกลงคอมพิวเตอร ์ที่เปิดดูภาพของกล้องไอพีตัวนั้น การทางานของกล้องไอพีจะมีดังนี้ ในครั้งต่อไปจะได้กล่าวถึงฟังก์ชั่นของกล้องวงจรปิด ว่ามีฟังก์ชั่นอะไรบ้าง ที่ทาให้กล้องทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบของตัวกล้องวงจรปิ ด มีกี่ประเภท กล้องวงจรปิ ดแยกเป็ น 2 ประเภท 1.กล้องแบบอนาล๊อก (Analog Camera) เป็ นกล้องวงจรปิดที่ใช ้สายสัญญาณชนิด โคแอคเชียล หรือ ตระกูล RG มาเป็ นอุปกรณ์นาสัญญาณ ข้อจากัดที่พบเช่น สายสัญญาณถูกคลื่นรบกวน ทาให้ภาพที่ได้ไม่ชัด 2.กล้องแบบไอ พี (IP Camera) เป็ นกล้องที่ต้องตั้งค่า IP ผ่านระบบเครือข่าย เพื่อกาหนดตัวตนในการแสดงภาพ และต้องอาศัยสายชนิด LAN หรือ CAT5 มาเป็ นตัวต่อเชื่อมต่อ หรือบางรุ่นอาจใช ้เป็ นแบบไร ้สายได้ ระบบนี้มีราคาแพงกว่าระบบแรก และต้องอาศัยความรู้มากกว่าในการเซ็ทระบบ สาระน่ารู ้เกี่ยวกับชนิดของกล้องวงจรปิ ด ระบบของตัวกล้องวงจรปิด มีกี่ประเภทกล้องวงจรปิดแยกเป็ น 2 ประเภท 1.กล้องแบบอนาล๊อก (Analog Camera) เป็ นกล้องวงจรปิดที่ใช ้สายสัญญาณชนิด โคแอคเชียล หรือ ตระกูล RG มาเป็ นอุปกรณ์นาสัญญาณ ข้อจากัดที่พบเช่น
  • 30. สายสัญญาณถูกคลื่นรบกวน ทาให้ภาพที่ได้ไม่ชัด 2.กล้องแบบไอ พี (IP Camera) เป็ นกล้องที่ต้องตั้งค่า IP ผ่านระบบเครือข่าย เพื่อกาหนดตัวตนในการแสดงภาพ และต้องอาศัยสายชนิด LAN หรือ CAT5 มาเป็ นตัวต่อเชื่อมต่อ หรือบางรุ่นอาจใช ้เป็ นแบบไร ้สายได้ ระบบนี้มีราคาแพงกว่าระบบแรก และต้องอาศัยความรู้มากกว่าในการเซ็ทระบบ คาศัพท์ที่ใช ้เกี่ยวกับกล้องวงจรปิด มีอะไรบ้าง Auto Iris ระบบเลนส์ของกล้อง ที่มีความสามารถในการปรับรูรับแสงอัตโนมัต เพื่อให้มีระดับแสงตามสภาพแวดล้อม ทาให้ภาพที่ได้มีระดับความสว่างของแสงที่ถูกต้อง เช่น ตอนกลางวัน มีแสงสว่างมาก Auto Iris จะปรับรูรับแสงให้แคบลง เพื่อรับแสงน้อย BLC การชดเชยแสงทั้งภาพ เพื่อให้วัตถุที่สนใจในภาพได้รับความสว่างจนสามารถมองเห็นรายละเอีย ดได้ โดยไม่สนใจวัตถุที่อยู่รอบนอก
  • 31. BNC เป็ นหัวต่อของสายเคเบิ้ล ที่ใช ้ในระบบกล้องวงจรปิด CCTV ย่อมาจาก Close Circuit Television หรือ โทรทัศน์วงจรปิด ซึ่งเป็ นระบบที่ใช ้ดูภาพจากกล้องวงจรปิด คือไว้ดูกันในกลุ่มของตนเอง ซึ่งตรงกันข้ามกับระบบ Broadcast TV คือโทรทัศน์แบบแพร่ภาพ ที่เปิดให้คนทั่วไป ที่มีเครื่องรับภาพ ได้รับชม Day & Night คือ ระบบกล้องที่ให้ภาพได้ทั้งในเวลากลางวัน และ กลางคืน DVR ย่อมาจาก Digital Video Recorder คือ เครื่องบันทึกภาพแบบดิจิตอล ใช ้อัดภาพจากกล้องจรปิด โดยใช ้ฮาร ์ดดิสก์(ระบบเดิมจะเป็ น Analog Video Recorder – คือจะใช ้การบันทึกด้วยเทป) Frame rate ความเร็วในการ แสดงภาพในหนึ่งวินาที มีหน่วยเป็ น FPS – Frames per second หรือ เฟรมเรตต่อวินาที
  • 32. ถ้าคุณสมบัติในการบันทึกเป็ น 25 FPS ต่อ 1 กล้อง แสดงว่าถาพที่ได้จะเป็ นภาพต่อเนื่อง เวลาที่เราดูย้อนหลัง Horizontal Resolution ความละเอียดของกล้องตามแนวนอนมีหน่วยวัด เป็ น TV Line (เส้น) ตัวเลขยิ่งมากความชัดเจนของรูปภาพก็มากตามไปด้วย IP CAMERA กล้องวงจรปิดชนิดหนึ่งที่มีอุปกรณ์แปลงสัญญาณ Video ไปเป็ นสัญญาณดิจิตอล ดังนั้น ตัวกล้องต้องเชื่อมต่อกับระบบ Network โดตแต่ละกล้องจะมี IP Address เฉพาะตัว Iris ค่ารูรับแสงของกล้องวงจรปิด แบ่งออกได้เป็ น 3 แบบคือ 1.Fixed-iris ลักษณะการทางานจะเป็ นการคงที่ของค่ารูรับแสง 2.Manual-iris ลักษณะ การทางานสามารถปรับระยะของค่ารูรับแสงได้ 3.Auto-iris ลักษณะ การทางานจะเป็ นการปรับรูรับแสงเองอัตโนมัติ Illumination หมายถึง ค่าของแสงสว่างที่จะทาให้ตัวกล้องสามารถทางานได้และสามารถมองเห็ นภาพได้ มีค่าเรียกเป็ น Lux ถ้ามีค่า Lux ยิ่งน้อยมากเท่าไหร่ยิ่งถือว่ากล้องตัวนั้นสามารถมองเห็นในที่มีแสงน้อยๆ ได้ ดี
  • 33. Lux หมายถึง ค่าของแสงสว่างที่จะทาให้ตัวกล้องสามารถทางานได้และสามารถมองเห็ นภาพได้ มีค่าเรียกเป็ น Lux ถ้ามีค่า Lux ยิ่งน้อยมากเท่าไหร่ยิ่งถือว่ากล้องตัวนั้นสามารถมองเห็นในที่มีแสงน้อยๆ ได้ ดี Motion Detect เป็ นระบบการบันทึกภาพแบบตรวจจับความเคลื่อนไหว กล่าวคือ Motion Detect ของระบบกล้องวงจรปิด ทางานโดยอาศัยความแตกต่างของภาพสองภาพโดยอาศัยการเปรียบเที ยบ pixel เดิมกับจานวนที่เปลี่ยนไป(ที่ตาแหน่งเดียวกัน) PAL ย่อมาจาก Phase Alternating Line เป็ นมาตรฐานของการแสดงภาพโดยมีค่าแสดงภาพทางแนวนอน 625 เส้นและ 50 เส้นทางแนวตั้ง ความถี่จานวนภาพ 25 ภาพต่อวินาที มีการแยกแบนด์วิทระหว่างสัญญาณภาพและเสียง Pixels เป็ นตัวเลขแสดง จานวนจุดแสดงสีของข้อมูลภาพแบบดิจิตอล โดยมีความสัมพันธ์กับขนาดของหน้าจอแสดงผล จานวนตัวเลขของค่า Pixels ทาให้สีของภาพที่แสดงมีความสวยสดและงดงามขึ้นมากน้อยตามค่า
  • 34. Pixels PTZ ย่อมาจาก Pan Tilt Zoom มีความหมายตรงตัวดังนี้ Pan = ส่าย ซ ้าย ขวา Tilt = ก้ม เงย Zoom = การซูมขยายภาพ ให้สามารถมองภาพในระยะไกลได้ชัดขึ้น TCP / IP เป็ นชุดของรูปแบบที่ใช ้ในการสื่อสารผ่านเครือ ข่ายอินเทอร ์เน็ต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สามารถใช ้สื่อสารจากต้นทางข้ามเครือข่ายไป ยังปลาย ทางได้ และสามารถหาเส้นทางที่จะส่งข้อมูลไปได้เองโดยอัตโนมัติ WDR ย่อมาจาก Wide Dynamic Range เป็ นการที่กล้องถ่ายภาพซ ้อนกัน 2 ใบในเวลาเดียวกัน ใบนึงถ่ายภาพในสภาวะปกติ อีกใบนึงถ่ายให้มีความสว่างมากกว่าปกติแล้ว นาภาพที่ได้มาซ ้อนกัน ทาให้ภาพทั้งภาพมีรายละเอียด คือส่วนที่มืดก็ดึงภาพให้สว่างขึ้น ส่วนที่สว่างเกินไปก็ดึงรายละเอียดกลับมาทาให้มองเห็นรายละเอียดภาพ White balance เป็ นการปรับ
  • 35. สมดุลของแสงสีขาวในสภาวะที่มีแสงแตกต่างกัน เช่น วัตถุสีขาวในตอนที่มีแสงแดดส่อง กับตอนที่ไม่มีแสงแดดส่อง ถ้ากล้องมีระบบ Auto White Balance ระบบจะทาการปรับสีให้เป็ นสีขาวตามจริง โดยอัตโนมัติ ผู้เขียนหวังว่าบทความสาระน่ารู้นี้จะเป็ นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจหาความรู้ และเข้าใจข้อมูลในการเลือกใช ้กล้องวงจรปิดแต่ละชนิดได้ตามความเหม าะสม รู ้จักชนิดกล้อง CCTV Date : 2012-11-08 17:18:21 กล้องวงจรปิดทั่วไปมีมากมายหลายชนิด แตกต่างกันไปตามการใช ้งาน ก่อนที่เราจะเลือกกล้องให้เหมาะกับการใช ้งานของเรา มาทาความรู้จักชนิดของกล้องต่างๆ กันก่อนดีกว่าว่ามีคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างไร ชนิดของกล้องวงจรปิ ด (CCTV Camera) กล้องมาตรฐาน (Regular Camera)
  • 36. รูปภาพกล้องมาตรฐาน (Regular Camera) กล้องมาตรฐาน หรือบางครั้งเรียก "Box Camera" อันเนื่องมาจากตัวกล้องมีรูปร่างคล้ายกล่องนั่นเอง กล้องชนิดนี้เหมาะสาหรับพื้นที่ที่มีแสงสว่างตลอดเวลา หากต้องการนากล้องชนิดนี้ไปติดตั้งภายนอกตากแดดตากฝน จะต้องติดตั้งกล้องภายใน Housing (กล่องกันน้าเข้ากล้อง) จุดเด่นของกล้องชนิดนี้คือสามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ (ราคากล้องส่วนใหญ่ไม่ได้รวมราคาเลนส์เข้าไปด้วย) และบางรุ่นอาจมีไมโครโฟนสาหรับบันทึกเสียงในตัว จึงสามารถใช ้งานได้หลายหลายตามชนิดของเลนส์ที่ใส่เข้าไป อาทิเช่น เลนส์สาหรับส่องป้ ายทะเบียน (Auto Iris Lens) สาหรับข้อเสียของกล้องชนิดนี้คือ ไม่สามารถมองเห็นในเวลากลางคืน หรือสถานที่ที่แสงสว่างไม่เพียงพอ กล้องโดม (Dome Camera, Indoor Camera)
  • 37. รูปภาพกล้องโดม (Dome Camera, Indoor Camera) กล้องโดม มีรูปร่างเล็กกระทัดรัด รูปลักษณ์ครึ่งวงกลมคล้ายโดม ส่วนใหญ่นิยมติดภายในอาคาร กล้องชนิดนี้เหมาะสาหรับพื้นที่ที่ต้องการความสวยงามเมื่อติดตั้งแล้วดู เรียบร้อยไม่สะดุดตา จุดเด่นของกล้องชนิดนี้คือตัวกล้องสามารถป้ องกันการโยนผ้าปิดหน้าก ล้องได้ เป็ นอย่างดี (อันเนื่องมาจากรูปลักษณ์โค้งมนครึ่งวงกลมของตัวกล้องนั่นเอง) และยังสมามารถหมุนปรับมุมกล้องได้รอบตัว ตลอด 360 องศา กล้องชนิดนี้มีทั้งแบบ กลางวัน (Day) และแบบทั้งกลางวันและกลางคืน (Day/Night, Infrared Camera สามารถดูภาพได้แม้ในยามไม่มีแสง หากแต่เมื่อยามกล้องปรับเข้าโหมดกลางคืนแล้วจะมองเห็นภาพเป็ นขาว ดา) เหมาะสาหรับติดตั้งภายในอาคาร ด้วยรูปลักษณ์ที่ออกแบบให้แลดูไม่ขัดตา จึงสามารถติดตั้งในห้องทางาน บ้านอยู่อาศัย ห้องรับแขก ฯลฯ ได้อย่างลงตัวดูสวยงามเข้าได้กับทุกห้อง สาหรับข้อเสียของกล้องชนิดนี้คือไม่กันน้า จึงเหมาะสาหรับติดตั้งภายในเท่านั้น
  • 38. กล้องกระบอก (Bullet Camera, Outdoor Camera) รูปภาพกล้องกระบอก (Bullet Camera, Outdoor Camera) หรือกล้องภายนอก รูปทรงดูแข็งแรง สามารถติดตั้งภายนอกได้โดยตรง ด้วยคุณสมบัติ กันน้า,กันฝุ่น จึงทาให้สามารถติดตั้งได้ในทุกที่ เช่น ในโรงงาน หน้าบ้าน บริเวณถนน ฯลฯ กล้องชนิดนี้สามารถดูภาพได้ทั้งกลางวันและกลางคืน (Day/Night) จุดเด่นของกล้องชนิดนี้คือกันน้า กันฝน ทนความร ้อน และสามารถดูภาพได้แม้ในยามไม่มีแสง หากแต่เมื่อยามกล้องปรับเข้าโห มดกลางคืนแล้วจะมองเห็นภาพเป็ นขาวดาซึ่งเป็ นคุณสมบัติทั่วไปของระ บบ Infrared กล้องชนิดนี้บางรุ่นสามารถมองเห็นในที่มืดได้ไกลถึง 50 เมตร (ตามระยะของ Infrared) ซึ่งปัจจุบันกล้องชนิดนี้เป็ นที่นิยมในหมู่ผู้ใช ้อย่างแพร่หลายเนื่องจากคุณ สมบัติอันสุดยอดของมัน
  • 39. กล้องสปี ดโดม (Speed Dome Camera) รูปภาพกล้องสปี ดโดม (Speed Dome Camera) เป็ นกล้องอัจฉริยะรุ่นหนึ่่ง ที่สามารถหมุน (PAN) ได้รอบตัว 360 องศา ก้มเงย(Tilt) ได้ 90 องศา และยังซูมภาพ (Optical Zoom) ได้อีกด้วย สามารถบังคับได้โดยใช ้อุปกรณ์เสริม (Controller) จุดเด่นอีกประการหนึ่งคือสามารถล็อกเป้ าหมายแล้วหมุน กล้องตามเป้ าหมายนั้น โดยอัตฺโนมัติหรือที่เรียกกันว่า Auto Tracking นั่นเอง กล้องชนิดนี้นิยมใช ้ในห้างซุปเปอร ์สโตร ์ขนาดใหญ่ เช่น Big-C, Lotus เป็ นต้น ราคากล้องค่อนข้างสูง มีทั้งแบบใช ้ภายใน และภายนอกอาคาร กล้องซ่อน (Hidden Camera, Spy Camera)
  • 40. รูปภาพกล้องซ่อน (Hidden Camera, Spy Camera) ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าใช ้งานแบบใด จุดประสงค์หลักเพื่อซ่อนไม่ให้มองเห็นว่ามีกล้องติดตั้งอยู่จุดไหนบ้าง บางครั้งจะเรียกว่ากล้องรูเข็ม ที่มีขายตามท้องตลาดความละเอียดภาพไม่ค่อยสูงมาก รูปแบบโครงสร ้างแตกต่างกันไป เช่น ซ่อนอยู่ใน Smoke Detector เป็ นต้น ใช ้งานร่วมกับไมโครโฟน สาหรับดักฟังเสียงได้อีกด้วย กล้องไอพี (IP Camera) รูปภาพกล้องไอพี (IP Camera)
  • 41. กล้องชนิดนี้่ได้รวมเอา Lan Card ไว้ในตัวกล้อง เป็ น Web Server ในตัว มีทั้งแบบ ใช ้สาย (wired) และไร้สาย (wireless) เป็ นกล้องดิจิตอลที่สามารถควบคุมผ่านคอมพิวเตอร ์ได้โดยตรง สามารถทาการบันทึกที่คอมพิวเตอร ์เครื่องใดก็ได้ที่ต่ออยู่ในวง LAN หรือ WAN หรือบันทึกลงที่ NVR(Network Video Recorder) ได้เช่นเดียวกัน กล้องไอพีบางรุ่นสามารถทา Video Conference ได้เลยทีเดียว จุดเด่นของกล้องประเภทนี้คือความชัดของภาพที่ได้รับ บางรุ่นชัดระดับ HD 1080P จุดเด่นอีกประการหนึ่งคือบางรุ่นมี Digital Output หรือสวิตซ ์เอาไว้ใช ้งานได้อีกด้วย เช่น ใช ้ปิด/เปิดไฟ หรือ Buzzer เมื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวได้ เป็ นต้น บางรุ่นสามารถ Pan/Tilt/Zoom ได้เช่นเดียวกับ กล้องสปีดโดม ข้อเสียของกล้องชนิดนี้คือการดูผ่าน Internet เนื่องจากภาพที่ถูกส่งไปขนาดค่อนข้างใหญ่ทาให้ถ่ายข้อมูลไม่ทัน ทาให้ดูแล้วกระตุก แนะนาให้ลดขนาดของภาพเมื่อต้องการดูผ่านมือถือ (แต่เมื่อเรากลับไปดูที่ NVR ภาพจะชัดเหมือนเดิม) ข้อเสียอีกประการคือกล้องชนิดนี้มีราคาค่อนข้างสูงอยู่ แต่เชื่อว่าในอนาคตกล้องอนาล็อกแบบเดิมๆ จะถูกแทนที่ด้วย IP Camera ค่อนข้างแน่ ขนาดไฟล์บันทึกภาพของ IP CCTV, IP Camera หรือ Network Camera บัจจุบันระบบกล้องวงจรปิด CCTV ได้เปลี่ยนแปลงการทางานจากระบบ
  • 42. Analog ที่ใช ้การบันทึกโดยใช ้video ไปเป็ นระบบ IP Base ซึ่งเป็ นการทางานของกล้อง IP Camera, IP CCTV หรือบางที่ก็เรียก Network Camera และ ใช ้Software ในการบันทึกภาพ ซึ่งการทางานของ Software นั้นจะทางานบนเครื่องคอมพิวเตอร ์ที่มีระบบปฏิบัติการ Windows ทั่วๆไปได้ ซึ่งการทางานในลักษณะนี้จะทาให้ผู้ใช ้เกิดความสะดวกในการทางานมา กขึ้น อีกทั้งยังสามารถเพิ่มจานวนของพื้นที่ในการจัดเก็บได้อย่างง่ายดาย โดยการเพิ่มจานวน Hard disk ที่มีอยู่ การบันทึกภาพนั้น สามารถที่จะเลือกฟอร ์แมตของภาพได้ 2แบบ คือ Motion-JPEG และ MPEG-4 ซึ่งจะให้คุณภาพของภาพ และขนาดไฟล์ที่ต่างกันออกไป ซึ่งในการที่จะคานวนค่าของ Storage ที่จะใช ้งานในแต่ละโปรเจคนั้น จะถูกกาหนดโดยปัจจัยหลักอยู่2ประการ คือ คุณภาพของภาพ และ อัตราเฟรมต่อวินาที และ นอกจากนั้นยังมีปัจจัยอื่นๆที่จะกาหนดปริมาณของพื้นที่ของฮาร ์ทดิสท์ เช่น จานวนของกล้อง จานวนวันที่จะจัดเก็บ จานวนชั่วโมงการจัดเก็บต่อวัน รวมถึงการกาหนดการทา Motion detection ซึ่งปัจจัยหลักประการแรกนั้นคือ คุณภาพของภาพ ซึ่งจะถูกกาหนดโดย Resolution และ Compression นั้นจาทาให้เราทราบว่าขนาดไฟล์ของภาพแต่ละภาพนั้นมีขนาดไฟล์เท่ าไหร่ เช่น 352×288 medium-high compression: 8 kb 352×288 medium-low compression: 15 kb 640×480 medium-low compression: 50 kb
  • 43. 640×480 lowest compression: 375 kb ซึ่งปัจจัยหลักประการที่2นั้นคือ อัตราเฟรมต่อวินาที นั้นจะเป็ นตัวที่บอกถึงพื้นที่ของการจัดเก็บที่ถูกใช ้ไปภายใน1วินาที เช่นหากเราเลือกคุณภาพของภาพเป็ น 640×480 medium-low compression: 50 kb อัตราเฟรมต่อวินาทีเป็ น 25เฟรมต่อวินาที ขนาดของพื้นที่ที่ใช ้ก็จะเท่ากับ 50kB x 25= 1,250 kb ต่อ 1วินาที ดังนั้นหากต้องการจะคานวนพื้นที่ในการจัดเก็บภายใน 1วันนั้น เราก็จะคานวนง่ายๆดังนี้ ขนาดไฟล์x อัตราเฟรมต่อวินาที x 60 x60 x24 =พื้นที่ฮาร ์ทดิสท์ที่ใช ้ต่อ 1กล้อง ต่อ 1วัน ตัวอย่าง ติดตั้งกล้องจานวน 20กล้อง บันทึกภาพที่ขนาด 640×480 medium- low compression: 50 kB ที่ 25เฟรมต่อวินาที จัดเก็บ 7 วัน ก็จะแทนค่าดังนี้ 50kB x 25 x 60 x 60 x 24 = 108,000,000 kb (108 GB) ต่อ 1กล้อง หากติดตั้ง 20 กล้องก็จะเท่ากับ 108 GB x 20 = 2,160 GB ต่อ 1กล้อง ต่อ 1วัน ซึ่งหากต้องการจัดเก็บจานวน 7วัน ก็จะเท่ากับ 2,160 GB x 7 = 15,120 GB (15.1 TB) ดังนั้นหากต้องการจัดเก็บภาพให้ได้ตามที่กาหนด จะต้องใช ้ฮาร ์ทดิสท์ จานวนถึง 15.1 TB ซึ่งหากจานวนที่ได้มากเกินไป เราก็อาจจะลดคุณภาพของภาพ และ อัตราเฟรมต่อวินาที ลง เพื่อที่จะทาให้จานวนของฮาร ์ทดิสท์ที่ใช ้ลดลงได้ หรือหากมีการ กาหนดการทา Motion detection ก็จะช่วยในการลดเนื้อที่การใช ้ฮาร ์ทดิสท์ได้เช่นเดียวกัน (ในการคานวนแบบที่กล่าวมานั้น สามารถใช ้ได้อย่างถูกต้อง และไม่คลาดเคลื่อน ถ้าเราบันทึกภาพในแบบ Motion-JPEG)