SlideShare a Scribd company logo
1 of 16
จัดทำโดย
นางสาว กัญญาณัฐ ไชยรัมย์ ม.6/2 เลขที่ 16
นาย วิจักษณ์ ลาภใหญ่ ม.6/2 เลขที่ 35
ขั้นตอนการทาโครงงานคอมพิวเตอร์แบ่งได้6 ขั้นตอน ดังนี้
1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ
2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
3. จัดทาเค้าโครงของโครงงาน
4. การลงมือทาโครงงาน
5. การเขียนรายงาน
6. การนาเสนอและแสดงโครงงาน
โดยทั่วไปเรื่องที่จะนามาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจากปัญหา คาถาม หรือ
ความสนใจในเรื่องต่างๆ จากการสังเกตสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่างๆ
รอบตัว
ปัญหาที่จะนามาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ได้จากแหล่งต่างๆ กัน ดังนี้
1. การอ่านค้นคว้าจากหนังสือ เอกสาร หนังสือพิมพ์หรือวารสารต่างๆ
2. การไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ
3. การฟังบรรยายทางวิชาการ รายการวิทยุและโทรทัศน์ รวมทั้งการ
สนทนา อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างเพื่อนนักเรียนหรือ
กับบุคคลอื่นๆ
4. กิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน
5. งานอดิเรกของนักเรียน
6. การเข้าชมงานนิทรรศการหรืองานประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์
ในการตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนามาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ ควรพิจารณา
องค์ประกอบสาคัญ ดังนี้
1. ต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา
2. สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้
3. มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรือขอคาปรึกษา
4. มีเวลาเพียงพอ
5. มีงบประมาณเพียงพอ
6. มีความปลอดภัย
การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล ซึ่งรวมถึงการขอคาปรึกษาจาก
ผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วยให้นักเรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการกาหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้
เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษาจนสามารถใช้ออกแบบและ
วางแผนดาเนินการทาโครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสม ในการศึกษาจะต้องได้คาตอบว่า
1. จะทา อะไร
2. ทาไมต้องทา
3. ต้องการให้เกิดอะไร
4. ทาอย่างไร
5. ใช้ทรัพยากรอะไร
6. ทากับใคร
7. เสนอผลอย่างไร
รายงาน รายละเอียดที่ต้องระบุ
1.ชื่อโครงงาน ทาอะไร กับใคร เพื่ออะไร
2.ประเภทโครงงาน วิเคราะห์จากลักษณะของประโยชน์หรือผลงานที่ได้
3.ชื่อผู้จัดทาโครงงาน ผู้รับผิดชอบโครงงาน อาจเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่มก็ได้
4.ครูที่ปรึกษาโครงงาน ครู-อาจารย์ผู้ทาหน้าที่เป็นที่ปรึกษา และควบคุมการทาโครงงานของนักเรียน
5.ครูที่ปรึกษาร่วม ครู-อาจารย์ผู้ทาหน้าที่เป็นที่ปรึกษาร่วม ให้คาแนะนาในการทาโครงงานของ
นักเรียน
6.ระยะเวลาดาเนินงาน ระยะเวลาการดาเนินงานโครงงาน ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด กาหนดเป็นวัน หรือ
เดือนก็ได้
7.แนวคิด ที่มา และความสาคัญ สภาพปัจจุบันที่เป็นความต้องการและความคาดหวังที่จะเกิดผล
รายงาน รายละเอียดที่ต้องระบุ
8.วัตถุประสงค์ สิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดโครงงานทั้งในเชิงกระบวนการและผลผลิต
9.หลักการและทฤษฎี หลักการและทฤษฎีที่นามาใช้ในการพัฒนาโครงงาน
10.วิธีดาเนินงาน กิจกรรมหรือขั้นตอนการดาเนินงาน เครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ งบประมาณ และผู้ัรับ
ผิดชอบ
11.ขั้นตอนการปฏิบัติ วัน เวลา และกิจกรรมดาเนินการต่างๆตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด
12.ผลที่คาดว่าจะได้รับ สภาพของผลที่ต้องการให้เกิดทั้งที่เป็นผลผลิต กระบวนการ และผลกระทบ
13.เอกสารอ้างอิง สื่อเอกสาร ข้อมูลที่ได้จากแหล่งต่างๆที่นามาใช้ในการดาเนินงาน
4.1 กำรเตรียมกำร
การเตรียมการ ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่นๆ ที่จะใช้ในการพัฒนาให้
พร้อมด้วย และควรเตรียมสมุดบันทึกหรือบันทึกเป็นแฟ้มข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สาหรับ
บันทึกการทากิจกรรมต่างๆ ระหว่างทาโครงงาน ได้แก่ ได้ปฏิบัติอย่างไร ได้ผลอย่างไร มีปัญหาและ
แก้ไขได้หรือไม่อย่างไร รวมทั้งข้อสังเกตต่างๆ ที่พบ
4.2 กำรลงมือพัฒนำ
1. ปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ในเค้าโครง แต่อาจเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ถ้าพบว่าจะช่วยทาให้
ผลงานดีขึ้น
2. จัดระบบการทางานโดยทาส่วนที่เป็นหลักสาคัญๆ ให้แล้วเสร็จก่อน จึงค่่อยทา ส่วนที่เป็น
ส่วนประกอบหรือส่วนเสริมเพื่อให้โครงงานมีความสมบูรณ์มากขึ้น และถ้ามีการแบ่งงานกันทา ให้ตกลง
รายละเอียดในการต่อเชื่อมชิ้นงานที่ชัดเจนด้วย
3. พัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่างเป็นระบบและครบถ้วน
4.3 กำรทดสอบผลงำนและแก้ไข
การตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน เป็นความจาเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่
พัฒนาขึ้นทางานได้ถูกต้องตรงกับความต้องการ ที่ระบุไว้ในเป้าหมายและทาด้วยประสิทธิภาพ
สูงด้วย
4.4 กำรอภิปรำยและข้อเสนอแนะ
เมื่อพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทาสรุปด้วยข้อความที่สั้นกะทัดรัดอย่างครอบคลุม
เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิ่งที่ค้นพบจากการทาโครงงาน และทาการอภิปรายผลด้วย เพื่อ
พิจารณาข้อมูลและผลที่ได้พร้อมกับนา ไปหาความสัมพันธ์กับหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานที่
ผู้อื่นได้ศึกษาไว้แล้ว ทั้งนี้ยังรวมถึงการนาหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานของผู้อื่นมาใช้
ประกอบการอภิปรายผลที่ได้ด้วย
4.5 แนวทำงกำรพัฒนำโครงงำนในอนำคตและข้อเสนอแนะ
เมื่อทาโครงงานเสร็จสิ้นลงแล้ว นักเรียนอาจพบข้อสังเกตประเด็นที่สาคัญ หรือปัญหา
ซึ่งสามารถเขียนเป็นข้อเสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษาและหรือใช้ประโยชน์ต่อไปได้
5.1 ส่วนนำ
ส่วนนา เป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงงานนั้นซึ่งประกอบด้วย
1. ชื่อโครงงาน
2. ชื่อผู้ทาโครงงาน
3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
4. คาขอบคุณ เป็นคากล่าวขอบคุณบุคคลหรือหน่วยงาน ที่มีส่วนช่วยทาให้โครงงานสาเร็จ
5. บทคัดย่อ อธิบายถึงที่มา ความสาคัญ วัตถุประสงค์วิธีดาเนินการ และผลที่ได้โดยย่อ
5.2 บทนำ
บทนาเป็นส่วนรายละเอียดของเนื้อหาของโครงงานซึ่งประกอบด้วย
1. ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
2. เป้าหมายของการศึกษาค้นคว้า
3. ขอบเขตของโครงงาน
5.3 หลักกำรและทฤษฎี
หลักการและทฤษฎี เป็นส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จากการศึกษาหาข้อมูลหรือหลักการทฤษฎี
หรือวิธีการที่นามาใช้ในการพัฒนาโครงงาน ซึ่งรวมถึงการระบุผลงานของผู้อื่นที่นักเรียนนามา
เปรียบเทียบหรือพัฒนาเพิ่มเติมด้วย
5.4 วิธีดำเนินกำร
วิธีดาเนินการ อธิบายขั้นตอนการดาเนินงานโดยละเอียด พร้อมทั้งระบุปัญหาหรือ
อุปสรรคที่พบพร้อมทั้งวิธีการที่ใช้แก้ไขพร้อมทั้งระบุวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการทางาน
5.5 ผลกำรศึกษำ
ผลการศึกษา นาเสนอข้อมูลหรือระบบที่พัฒนาได้โดยอาจแสดงเป็นตาราง หรือ กราฟ
หรือข้อความ ทั้งนี้ให้คานึงถึงความเข้าใจของผู้อ่านเป็นหลัก
5.6 สรุปผลและข้อเสนอแนะ
สรุปผลและข้อเสนอแนะ อธิบายผลสรุปที่ได้จากการทา งาน ถ้ามีการตั้งสมมติฐานควรระบุด้วยว่าข้อมูลที่
ได้สนับสนุนหรือคัดค้านสมมติฐานที่ตั้งไว้หรือยังสรุปไม่ได้นอกจากนั้นยังควรกล่าวถึงการนา ผลการทดลองหรือ
พัฒนาไปใช้ประโยชน์ อุปสรรคของการทาโครงงาน หรือข้อสังเกตที่สาคัญ หรือข้อผิดพลาดบางประการที่เกิดขึ้น
จากการทา โครงงานนี้ รวมทั้งข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงแก้ไขหากจะมีผู้ศึกษาค้นคว้าในเรื่องทานองนี้ต่อไปใน
อนาคตด้วย
5.7 ประโยชน์
ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน ระบุประโยชน์ที่นักเรียนได้รับจากการพัฒนาโครงงานนั้น และประโยชน์
ที่ผู้ใช้จะได้รับจากการนาผลงานของโครงงานไปใช้ด้วย
5.8 บรรณำนุกรม
บรรณานุกรม รวบรวมรายชื่อหนังสือ วารสาร เอกสาร หรือเว็บไซด์ต่างๆ ที่ผู้ทา โครงงานใช้ค้นคว้า หรือ
อ่านเพื่อศึกษาข้อมูลและรายละเอียดต่างๆที่นามาใช้ประโยชน์ในการทา โครงงานนี้การเขียนเอกสารบรรณานุกรม
ต้องให้ถูกต้องตามหลักการเขียนด้วย
5.9 กำรจัดทำคู่มือกำรใช้งำน
หาโครงงานที่นักเรียนจัดทา เป็นการพัฒนาระบบใหม่ขึ้นมา ให้นักเรียนจัดทาคู่มืออธิบายวิธีการใช้ผลงาน
นั้นโดยละเอียด ซึ่งประกอบด้วย
1. ชื่อผลงาน
2. ความต้องการของระบบคอมพิวเตอร์ ระบุรายละเอียดของคอมพิวเตอร์ที่ต้องมีเพื่อจะใช้ผลงานนั้นได้
3. ความต้องการของซอฟต์แวร์ ระบุรายชื่อซอฟต์แวร์ที่ต้องมีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อจะให้ผลงานนั้นทางาน
ได้อย่างสมบูรณ์
4. คุณลักษณะของผลงานอธิบายว่าผลงานนั้นทา หน้าที่อะไรบ้าง รับอะไรเป็นข้อมูลขาเข้าและส่วนอะไรออกมา
เป็นข้อมูลขาออก
5. วิธีการใช้งานของแต่ละฟังก์ชันอธิบายว่าจะต้องกดคาสั่งใดหรือกดปุ่มใด เพื่อให้ผลงานทางานในฟังก์ชัน
หนึ่งๆ
การนาเสนอและการแสดงผลงานเป็น
ขั้นตอนที่สาคัญอีกขั้นตอนหนึ่งของการทา
โครงงาน เพื่อแสดงออกถึงผลิตผลความคิด ความ
พยายามในการทางานที่ผู้ทาโครงงานได้ทุ่มเท และ
เป็นวิธีทาให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจถึงผลงานนั้น
การเสนอผลงานอาจทาได้ในหลายรูปแบบต่างๆ
กัน เช่น การแสดงผลงานโดยไม่มีการอธิบาย
ประกอบการรายงานด้วยคาพูดในที่ประชุม การจัด
นิทรรศการโดยโปสเตอร์และอธิบายด้วยคาพูด
เป็นต้น
ผลงำนที่นำมำเสนอหรือจัดแสดงควรประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้
1. ชื่อโครงงาน
2. ชื่อผู้จัดทาโครงงาน
3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
4. คาอธิบายถึงที่มาและความสาคัญของโครงงาน
5. วิธีการดาเนินการที่สาคัญ
6. การสาธิตผลงาน
7. ผลการสังเกตและข้อสรุปสาคัญที่ได้จากการทาโครงงาน
http://www.acr.ac.th/acr/ACR_E-
Learning/CAREER_COMPUTER/COMPUTER/M4
/ComputerProject/content2.html

More Related Content

What's hot

กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4Chanoknan Mongchuy
 
กิจกรรมที่4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์Guy Prp
 
กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4Chanin Monkai
 
กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4Wichayaporn02
 
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์Pongpan Pairojana
 
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอม (งานคู่)
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอม (งานคู่)กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอม (งานคู่)
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอม (งานคู่)Wiroonanong tawkum
 
ขั้นตอนการทำโครงงานคอม
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมขั้นตอนการทำโครงงานคอม
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมGuanaim Saengsawang
 
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1yoyensry
 
กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4Vitchda Samaket
 
ใบงานที่ 5 โครงงารคอมพิวเตอฃ 2
ใบงานที่ 5 โครงงารคอมพิวเตอฃ 2ใบงานที่ 5 โครงงารคอมพิวเตอฃ 2
ใบงานที่ 5 โครงงารคอมพิวเตอฃ 2sms789456
 
โครงงารคอมพิวเตอiN
โครงงารคอมพิวเตอiNโครงงารคอมพิวเตอiN
โครงงารคอมพิวเตอiNAomzin Chokchai
 
ชื่อ นาย รชต โชคชัย ม.5/1 เลขที่ 3
ชื่อ นาย รชต โชคชัย ม.5/1 เลขที่ 3ชื่อ นาย รชต โชคชัย ม.5/1 เลขที่ 3
ชื่อ นาย รชต โชคชัย ม.5/1 เลขที่ 3Aomzin Chokchai
 
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์Sirawit Hi
 
กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4noonnoi555
 
กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4noonnoi555
 
กิจกรรม4
กิจกรรม4กิจกรรม4
กิจกรรม4thunnattapat
 

What's hot (20)

กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4
 
กิจกรรมที่4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
 
กิจกรรมที่4
กิจกรรมที่4 กิจกรรมที่4
กิจกรรมที่4
 
กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4
 
Presentation1
Presentation1 Presentation1
Presentation1
 
กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4
 
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
 
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอม (งานคู่)
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอม (งานคู่)กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอม (งานคู่)
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอม (งานคู่)
 
ขั้นตอนการทำโครงงานคอม
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมขั้นตอนการทำโครงงานคอม
ขั้นตอนการทำโครงงานคอม
 
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
 
กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่  4กิจกรรมที่  4
กิจกรรมที่ 4
 
กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4
 
ใบงานที่ 5 โครงงารคอมพิวเตอฃ 2
ใบงานที่ 5 โครงงารคอมพิวเตอฃ 2ใบงานที่ 5 โครงงารคอมพิวเตอฃ 2
ใบงานที่ 5 โครงงารคอมพิวเตอฃ 2
 
โครงงารคอมพิวเตอiN
โครงงารคอมพิวเตอiNโครงงารคอมพิวเตอiN
โครงงารคอมพิวเตอiN
 
ชื่อ นาย รชต โชคชัย ม.5/1 เลขที่ 3
ชื่อ นาย รชต โชคชัย ม.5/1 เลขที่ 3ชื่อ นาย รชต โชคชัย ม.5/1 เลขที่ 3
ชื่อ นาย รชต โชคชัย ม.5/1 เลขที่ 3
 
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
 
กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4
 
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
 
กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4
 
กิจกรรม4
กิจกรรม4กิจกรรม4
กิจกรรม4
 

Similar to กิจกรรมที่ 4

ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์tangonjr
 
โครงงารคอมพิวเตอร์
โครงงารคอมพิวเตอร์โครงงารคอมพิวเตอร์
โครงงารคอมพิวเตอร์Peetikun P'a
 
ใบงาน 5 โครงงารคอมพิวเตอฃ 2
ใบงาน 5 โครงงารคอมพิวเตอฃ 2ใบงาน 5 โครงงารคอมพิวเตอฃ 2
ใบงาน 5 โครงงารคอมพิวเตอฃ 2sms789456
 
โครงงารคอมพิวเตอร์
โครงงารคอมพิวเตอร์โครงงารคอมพิวเตอร์
โครงงารคอมพิวเตอร์Aomzin Chokchai
 
ชื่อ นาย รชต โชคชัย
ชื่อ นาย รชต โชคชัย ชื่อ นาย รชต โชคชัย
ชื่อ นาย รชต โชคชัย Aomzin Chokchai
 
โครงงาานคอมพิวเตอร์
โครงงาานคอมพิวเตอร์โครงงาานคอมพิวเตอร์
โครงงาานคอมพิวเตอร์Chanita Wongkanjun
 
ขั้นตอนของการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ 1
ขั้นตอนของการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ 1ขั้นตอนของการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ 1
ขั้นตอนของการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ 1Krittapornn Chanasaen
 
กิจกรรมที่4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์Guy Prp
 
¢ñé¹µí¹¡òã·óâ¤ã§§ò¹¤íá¾ôçàµíãì
¢ñé¹µí¹¡òã·óâ¤ã§§ò¹¤íá¾ôçàµíãì¢ñé¹µí¹¡òã·óâ¤ã§§ò¹¤íá¾ôçàµíãì
¢ñé¹µí¹¡òã·óâ¤ã§§ò¹¤íá¾ôçàµíãìPhatchara Chanosot
 
กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4sirawitaoonok
 
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์Kingky Kung
 

Similar to กิจกรรมที่ 4 (12)

ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงารคอมพิวเตอร์
โครงงารคอมพิวเตอร์โครงงารคอมพิวเตอร์
โครงงารคอมพิวเตอร์
 
ใบงาน 5 โครงงารคอมพิวเตอฃ 2
ใบงาน 5 โครงงารคอมพิวเตอฃ 2ใบงาน 5 โครงงารคอมพิวเตอฃ 2
ใบงาน 5 โครงงารคอมพิวเตอฃ 2
 
โครงงารคอมพิวเตอร์
โครงงารคอมพิวเตอร์โครงงารคอมพิวเตอร์
โครงงารคอมพิวเตอร์
 
ชื่อ นาย รชต โชคชัย
ชื่อ นาย รชต โชคชัย ชื่อ นาย รชต โชคชัย
ชื่อ นาย รชต โชคชัย
 
โครงงาานคอมพิวเตอร์
โครงงาานคอมพิวเตอร์โครงงาานคอมพิวเตอร์
โครงงาานคอมพิวเตอร์
 
ขั้นตอนของการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ 1
ขั้นตอนของการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ 1ขั้นตอนของการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ 1
ขั้นตอนของการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ 1
 
กิจกรรมที่4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
 
¢ñé¹µí¹¡òã·óâ¤ã§§ò¹¤íá¾ôçàµíãì
¢ñé¹µí¹¡òã·óâ¤ã§§ò¹¤íá¾ôçàµíãì¢ñé¹µí¹¡òã·óâ¤ã§§ò¹¤íá¾ôçàµíãì
¢ñé¹µí¹¡òã·óâ¤ã§§ò¹¤íá¾ôçàµíãì
 
กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4กิจกรรมที่ 4
กิจกรรมที่ 4
 
คอมกิจกรรมที่4
คอมกิจกรรมที่4คอมกิจกรรมที่4
คอมกิจกรรมที่4
 
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ 4 ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
 

กิจกรรมที่ 4

  • 1. จัดทำโดย นางสาว กัญญาณัฐ ไชยรัมย์ ม.6/2 เลขที่ 16 นาย วิจักษณ์ ลาภใหญ่ ม.6/2 เลขที่ 35
  • 2. ขั้นตอนการทาโครงงานคอมพิวเตอร์แบ่งได้6 ขั้นตอน ดังนี้ 1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ 2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล 3. จัดทาเค้าโครงของโครงงาน 4. การลงมือทาโครงงาน 5. การเขียนรายงาน 6. การนาเสนอและแสดงโครงงาน
  • 3. โดยทั่วไปเรื่องที่จะนามาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจากปัญหา คาถาม หรือ ความสนใจในเรื่องต่างๆ จากการสังเกตสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่างๆ รอบตัว ปัญหาที่จะนามาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ได้จากแหล่งต่างๆ กัน ดังนี้ 1. การอ่านค้นคว้าจากหนังสือ เอกสาร หนังสือพิมพ์หรือวารสารต่างๆ 2. การไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ 3. การฟังบรรยายทางวิชาการ รายการวิทยุและโทรทัศน์ รวมทั้งการ สนทนา อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างเพื่อนนักเรียนหรือ กับบุคคลอื่นๆ 4. กิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน 5. งานอดิเรกของนักเรียน 6. การเข้าชมงานนิทรรศการหรืองานประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์
  • 4. ในการตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนามาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ ควรพิจารณา องค์ประกอบสาคัญ ดังนี้ 1. ต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา 2. สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้ 3. มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรือขอคาปรึกษา 4. มีเวลาเพียงพอ 5. มีงบประมาณเพียงพอ 6. มีความปลอดภัย
  • 5. การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล ซึ่งรวมถึงการขอคาปรึกษาจาก ผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วยให้นักเรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการกาหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้ เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษาจนสามารถใช้ออกแบบและ วางแผนดาเนินการทาโครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสม ในการศึกษาจะต้องได้คาตอบว่า 1. จะทา อะไร 2. ทาไมต้องทา 3. ต้องการให้เกิดอะไร 4. ทาอย่างไร 5. ใช้ทรัพยากรอะไร 6. ทากับใคร 7. เสนอผลอย่างไร
  • 6. รายงาน รายละเอียดที่ต้องระบุ 1.ชื่อโครงงาน ทาอะไร กับใคร เพื่ออะไร 2.ประเภทโครงงาน วิเคราะห์จากลักษณะของประโยชน์หรือผลงานที่ได้ 3.ชื่อผู้จัดทาโครงงาน ผู้รับผิดชอบโครงงาน อาจเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่มก็ได้ 4.ครูที่ปรึกษาโครงงาน ครู-อาจารย์ผู้ทาหน้าที่เป็นที่ปรึกษา และควบคุมการทาโครงงานของนักเรียน 5.ครูที่ปรึกษาร่วม ครู-อาจารย์ผู้ทาหน้าที่เป็นที่ปรึกษาร่วม ให้คาแนะนาในการทาโครงงานของ นักเรียน 6.ระยะเวลาดาเนินงาน ระยะเวลาการดาเนินงานโครงงาน ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด กาหนดเป็นวัน หรือ เดือนก็ได้ 7.แนวคิด ที่มา และความสาคัญ สภาพปัจจุบันที่เป็นความต้องการและความคาดหวังที่จะเกิดผล
  • 7. รายงาน รายละเอียดที่ต้องระบุ 8.วัตถุประสงค์ สิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดโครงงานทั้งในเชิงกระบวนการและผลผลิต 9.หลักการและทฤษฎี หลักการและทฤษฎีที่นามาใช้ในการพัฒนาโครงงาน 10.วิธีดาเนินงาน กิจกรรมหรือขั้นตอนการดาเนินงาน เครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ งบประมาณ และผู้ัรับ ผิดชอบ 11.ขั้นตอนการปฏิบัติ วัน เวลา และกิจกรรมดาเนินการต่างๆตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด 12.ผลที่คาดว่าจะได้รับ สภาพของผลที่ต้องการให้เกิดทั้งที่เป็นผลผลิต กระบวนการ และผลกระทบ 13.เอกสารอ้างอิง สื่อเอกสาร ข้อมูลที่ได้จากแหล่งต่างๆที่นามาใช้ในการดาเนินงาน
  • 8. 4.1 กำรเตรียมกำร การเตรียมการ ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่นๆ ที่จะใช้ในการพัฒนาให้ พร้อมด้วย และควรเตรียมสมุดบันทึกหรือบันทึกเป็นแฟ้มข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สาหรับ บันทึกการทากิจกรรมต่างๆ ระหว่างทาโครงงาน ได้แก่ ได้ปฏิบัติอย่างไร ได้ผลอย่างไร มีปัญหาและ แก้ไขได้หรือไม่อย่างไร รวมทั้งข้อสังเกตต่างๆ ที่พบ 4.2 กำรลงมือพัฒนำ 1. ปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ในเค้าโครง แต่อาจเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ถ้าพบว่าจะช่วยทาให้ ผลงานดีขึ้น 2. จัดระบบการทางานโดยทาส่วนที่เป็นหลักสาคัญๆ ให้แล้วเสร็จก่อน จึงค่่อยทา ส่วนที่เป็น ส่วนประกอบหรือส่วนเสริมเพื่อให้โครงงานมีความสมบูรณ์มากขึ้น และถ้ามีการแบ่งงานกันทา ให้ตกลง รายละเอียดในการต่อเชื่อมชิ้นงานที่ชัดเจนด้วย 3. พัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่างเป็นระบบและครบถ้วน
  • 9. 4.3 กำรทดสอบผลงำนและแก้ไข การตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน เป็นความจาเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่ พัฒนาขึ้นทางานได้ถูกต้องตรงกับความต้องการ ที่ระบุไว้ในเป้าหมายและทาด้วยประสิทธิภาพ สูงด้วย 4.4 กำรอภิปรำยและข้อเสนอแนะ เมื่อพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทาสรุปด้วยข้อความที่สั้นกะทัดรัดอย่างครอบคลุม เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิ่งที่ค้นพบจากการทาโครงงาน และทาการอภิปรายผลด้วย เพื่อ พิจารณาข้อมูลและผลที่ได้พร้อมกับนา ไปหาความสัมพันธ์กับหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานที่ ผู้อื่นได้ศึกษาไว้แล้ว ทั้งนี้ยังรวมถึงการนาหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานของผู้อื่นมาใช้ ประกอบการอภิปรายผลที่ได้ด้วย 4.5 แนวทำงกำรพัฒนำโครงงำนในอนำคตและข้อเสนอแนะ เมื่อทาโครงงานเสร็จสิ้นลงแล้ว นักเรียนอาจพบข้อสังเกตประเด็นที่สาคัญ หรือปัญหา ซึ่งสามารถเขียนเป็นข้อเสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษาและหรือใช้ประโยชน์ต่อไปได้
  • 10. 5.1 ส่วนนำ ส่วนนา เป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงงานนั้นซึ่งประกอบด้วย 1. ชื่อโครงงาน 2. ชื่อผู้ทาโครงงาน 3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา 4. คาขอบคุณ เป็นคากล่าวขอบคุณบุคคลหรือหน่วยงาน ที่มีส่วนช่วยทาให้โครงงานสาเร็จ 5. บทคัดย่อ อธิบายถึงที่มา ความสาคัญ วัตถุประสงค์วิธีดาเนินการ และผลที่ได้โดยย่อ 5.2 บทนำ บทนาเป็นส่วนรายละเอียดของเนื้อหาของโครงงานซึ่งประกอบด้วย 1. ที่มาและความสาคัญของโครงงาน 2. เป้าหมายของการศึกษาค้นคว้า 3. ขอบเขตของโครงงาน
  • 11. 5.3 หลักกำรและทฤษฎี หลักการและทฤษฎี เป็นส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จากการศึกษาหาข้อมูลหรือหลักการทฤษฎี หรือวิธีการที่นามาใช้ในการพัฒนาโครงงาน ซึ่งรวมถึงการระบุผลงานของผู้อื่นที่นักเรียนนามา เปรียบเทียบหรือพัฒนาเพิ่มเติมด้วย 5.4 วิธีดำเนินกำร วิธีดาเนินการ อธิบายขั้นตอนการดาเนินงานโดยละเอียด พร้อมทั้งระบุปัญหาหรือ อุปสรรคที่พบพร้อมทั้งวิธีการที่ใช้แก้ไขพร้อมทั้งระบุวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการทางาน 5.5 ผลกำรศึกษำ ผลการศึกษา นาเสนอข้อมูลหรือระบบที่พัฒนาได้โดยอาจแสดงเป็นตาราง หรือ กราฟ หรือข้อความ ทั้งนี้ให้คานึงถึงความเข้าใจของผู้อ่านเป็นหลัก
  • 12. 5.6 สรุปผลและข้อเสนอแนะ สรุปผลและข้อเสนอแนะ อธิบายผลสรุปที่ได้จากการทา งาน ถ้ามีการตั้งสมมติฐานควรระบุด้วยว่าข้อมูลที่ ได้สนับสนุนหรือคัดค้านสมมติฐานที่ตั้งไว้หรือยังสรุปไม่ได้นอกจากนั้นยังควรกล่าวถึงการนา ผลการทดลองหรือ พัฒนาไปใช้ประโยชน์ อุปสรรคของการทาโครงงาน หรือข้อสังเกตที่สาคัญ หรือข้อผิดพลาดบางประการที่เกิดขึ้น จากการทา โครงงานนี้ รวมทั้งข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงแก้ไขหากจะมีผู้ศึกษาค้นคว้าในเรื่องทานองนี้ต่อไปใน อนาคตด้วย 5.7 ประโยชน์ ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน ระบุประโยชน์ที่นักเรียนได้รับจากการพัฒนาโครงงานนั้น และประโยชน์ ที่ผู้ใช้จะได้รับจากการนาผลงานของโครงงานไปใช้ด้วย 5.8 บรรณำนุกรม บรรณานุกรม รวบรวมรายชื่อหนังสือ วารสาร เอกสาร หรือเว็บไซด์ต่างๆ ที่ผู้ทา โครงงานใช้ค้นคว้า หรือ อ่านเพื่อศึกษาข้อมูลและรายละเอียดต่างๆที่นามาใช้ประโยชน์ในการทา โครงงานนี้การเขียนเอกสารบรรณานุกรม ต้องให้ถูกต้องตามหลักการเขียนด้วย
  • 13. 5.9 กำรจัดทำคู่มือกำรใช้งำน หาโครงงานที่นักเรียนจัดทา เป็นการพัฒนาระบบใหม่ขึ้นมา ให้นักเรียนจัดทาคู่มืออธิบายวิธีการใช้ผลงาน นั้นโดยละเอียด ซึ่งประกอบด้วย 1. ชื่อผลงาน 2. ความต้องการของระบบคอมพิวเตอร์ ระบุรายละเอียดของคอมพิวเตอร์ที่ต้องมีเพื่อจะใช้ผลงานนั้นได้ 3. ความต้องการของซอฟต์แวร์ ระบุรายชื่อซอฟต์แวร์ที่ต้องมีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อจะให้ผลงานนั้นทางาน ได้อย่างสมบูรณ์ 4. คุณลักษณะของผลงานอธิบายว่าผลงานนั้นทา หน้าที่อะไรบ้าง รับอะไรเป็นข้อมูลขาเข้าและส่วนอะไรออกมา เป็นข้อมูลขาออก 5. วิธีการใช้งานของแต่ละฟังก์ชันอธิบายว่าจะต้องกดคาสั่งใดหรือกดปุ่มใด เพื่อให้ผลงานทางานในฟังก์ชัน หนึ่งๆ
  • 14. การนาเสนอและการแสดงผลงานเป็น ขั้นตอนที่สาคัญอีกขั้นตอนหนึ่งของการทา โครงงาน เพื่อแสดงออกถึงผลิตผลความคิด ความ พยายามในการทางานที่ผู้ทาโครงงานได้ทุ่มเท และ เป็นวิธีทาให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจถึงผลงานนั้น การเสนอผลงานอาจทาได้ในหลายรูปแบบต่างๆ กัน เช่น การแสดงผลงานโดยไม่มีการอธิบาย ประกอบการรายงานด้วยคาพูดในที่ประชุม การจัด นิทรรศการโดยโปสเตอร์และอธิบายด้วยคาพูด เป็นต้น
  • 15. ผลงำนที่นำมำเสนอหรือจัดแสดงควรประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้ 1. ชื่อโครงงาน 2. ชื่อผู้จัดทาโครงงาน 3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา 4. คาอธิบายถึงที่มาและความสาคัญของโครงงาน 5. วิธีการดาเนินการที่สาคัญ 6. การสาธิตผลงาน 7. ผลการสังเกตและข้อสรุปสาคัญที่ได้จากการทาโครงงาน