Ccc
- 3. อ้ อย
ชือวิทยาศาสตร์ : Saccharum officinarum L.
วงศ์ : Poaceae (Graminceae)
ชือสามัญ : Sugar Cane
ชืออืน : อ้ อยขม อ้ อยแดง อ้ อยดํา (ภาคกลาง) อําโป (เขมร)
- 4. แหล่ งกําเนิด
แหล่งกํ าเนิดดั งเดิมของอ้ อยอยู่ใน ิวกีนี ซึ งเป็ นเกาะใหญ่ในมหาสุมทร
แปซิฟิก มีหลั กฐานยืนยั นว่าชาวพื นเมืองของเกาะนี ปลูกอ้ อยไว้ ในสวนสําหรับ
เคี ยวกินเล่นมาตั งแต่สมั ยโบราญ นักพฤกษศาสตร์ในยุคหลั ง ๆ ได้สันนิษฐาน
ตรงกันว่า Saccharum officinarum L. นี มีก ํ าเนิดจากเกาะนิวกีนีอย่าง
แน่นอน และเชือว่าอ้ อยพั นธุ์ดั งเดิมนี เป็ นอ้ อยทีเรี ยกขานกันต่อมาว่“อ้ อยมี
า
ตระกูล” (noble canes) และนอกจากนั น “อ้ อยมีตระกูล” นี ยั งมีพืชใน
สกุลเดียวกัน คือ อ้ อและแขม
ในโลกนี มีพืชสกุลเดียวกับอ้ อยมากกว่า7 ชนิด นักพฤกษศาสตร์ ชาว
อินเดียกล่าวว่าอ้ อยอีกชนิดหนึ งมีชือว่า S.barberi นั นมีพื นเพดั งเดิมเกิดอยู่
ในทางตอนเหนือของอินเดีย แล้ วถูกนําไปปลูกในประเทศจีนในราว250 ปี ก่อน
พุทธกาล ภาษาสันสกฤตเรี ยกอ้ อยว่า“Shakkara” ซึ งพ้ องหรื อใกล้ เคียงกับ
ภาษาลาตินว่า Saccharum และมีความหมายว่า “พืชใหม่จากทาง
ตะวั นออก” นั นแสดงว่าแหล่งกํ าเนิดของอ้ อยนั นอยู่ทางทิศตะวั นออกของอินเดีย
- 5. การแพร่ พ ั นธุ์ของอ้อยจากเกาะนิวกีนีนั น เกิดจากการอพยพของคนในสมั ยโบราณสันนิษฐานว่า
อ้อยกระจายออกจากนิ วกีนีไป 3 ทาง คือ เริ มแรกอ้ อยถูกนํ าไปทีเกาะโซโลมอน เกาะนิ วเฮบริ
ติส และเกาะนิวคาลิโดเนีย ซึ งอยู่ด้านทิศตะวั นออกเฉี ยงเหนือของออสเตรเลียประมาณ8,000 ปี
ก่อนคริ สตกาล อีกทางหนึ งอ้ อยถูกนํ าไปทางทิศตะวั นตก ไปสู่ อินโดนี เซี ย ฟิ ลิปปิ นส์และใน
ทีสุดไปสู่ ด้านเหนือของอินเดียในราวประมาณ 6,000 ปี ก่อนคริ สตกาล ทางทีสามคาดว่าอ้ อยถูก
นําไปสู่ เกาะทางทิศตะวั นออกของหมู่เกาะไซโลมอน ซึ งได้แก่เกาะฟิ จิ ตองกา ซามั ว เกาะคุก
หมู่เกาะมาร์คีซาส์ เกาะโซไซตี เกาะอีสเตอร์ และฮาวาย รวมทั งเกาะเล็กเกาะน้อยในมหาสมุทร
แปซิฟิก
อเล็กซานเดอร์ มหาราชได้นําอ้อยจากอินเดียไปสู่ มาซีโดเนียในราว ค.ศ. 218 ในสมั ย
พุทธกาลอ้อยอาจถูกนําไปสู่ เปอร์ เซีย อราเบีย อียิปต์ หลังจากนั นมาอ้อยก็ไป งสเปญ มาไดรา
ถึ
(Madeira) หมู่เกาะคานารี และเซาโตเม ทั งนี อาจเป็ นไปโดยการจงใจดั งเช่นในการเดินทาง
ไปอเมริ การครั งที2 ของโคลัมบั สในปี ค.ศ. 1493 และภายหลั งก็มีการนํ าไปอีกโดยนักเผชิ ญ
โชคทางเรื อในศตวรรษที 18 และ 19 นอกจากโคลัมบั สแล้วยั งมีนักเดินเรื อผู ้ อืนอีกทีนํ าอ้อยไป
แพร่ หลาย โดยอาศัยประโยชน์ใช้เป็ นอาหารในระหว่างเดินเรื อได้ ในครึ งแรกของศตวรรษที16
นักเดินเรื อล่าเมืองขึ นเป็ นผู้ นําอ้อยไปสู่ แถบศูนย์ สูตรโลก
- 6. อ้ อยในประเทศไทย
อ้อยเป็ นพืชทีมีความสําคั ญทีชาวไทยนํามาใช้ในพิธีต่าง ๆ มาแต่โบราณกาลไม่ว่างาน
เทศกาลหรื อพิธีมงคลต่าง ๆ เช่น แต่งงาน โกนจุก ขึ นบ้านใหม่ หรื อเทศน์มหาชาติ สิ งทีขาด
ไม่ได้ก็คืออ้อย ในงานหมั นหรื อแต่งงานก็มีต้นอ้ อยแห่ มากั บขบวนขั นหมาก และนํ ามาผูกที
ประตูบ้านเจ้าสาว ในการไหว้พระจั นทร์ของชาวจีนก็ใช้อ้อยประดับทํ าซุ ้ม ในพิธีต่าง ๆ ทีต้ องมี
มณฑปพิธีต ั งราชวั ติฉัตรธง ก็จะต้ องประดั บประดาด้วยอ้อย รวมทั งกล้วย มะพร้าวต่าง ๆ ด้วย
ในตํ ารับยาแผนโบราณใช้อ้อยแดงมาต้มกั บเครื องยาอืน ทีเรี ยกว่าอ้อยแดงก็เพราะมี
เปลือกสีแดงจนเกือบดํ า บางครั งจึงมีผู้เรี ยกว่าอ้ อยดํ าหรื ออ้อยขม เนื องจากตาและเปลือกมีรสขม