More Related Content
Similar to 201701 thepries behavioral
Similar to 201701 thepries behavioral (6)
201701 thepries behavioral
- 2. สถานการณ์ที่ 1 ก.ไก่ในฟาร์ม
1.ทฤษฎีที่นำมำใช้คือ ทฤษฎีกำรวำงเงื่อนไขแบบคลำสสิค
(Classical Conditioning Theory) ของพลำฟลอฟ
Pavlov
2. อธิบำยหลักกำรที่เลือกใช้
กำรวำงเงื่อนไขแบบคลำสสิค = สิ่งเร้ำที่วำงเงื่อนไข +
สิ่งเร้ำที่ไม่ได้วำงเงื่อนไข = กำรเรียนรู้
( สิ่งเร้ำคือ เสียงเคำะไม้ไผ่)
3.ข้อดี –ข้อจำกัดของหลักกำร
ข้อดี - ทำให้ไก่มีพฤติกรรมตอบสนองต่อกำรวำงเงื่อนไข
ต่อควำมหิวในเวลำระยะสั้นๆ
ข้อจำกัด - ถ้ำมีกำรเคำะไม้ไผ่หลำยๆครั้ง แต่ไม่มีกำร
ให้อำหำรไก่ก็จะลดอำกำรตอบสนองและไม่สนใจเสียงเคำะ
ไม้ไผ่อีกเลย
- 6. 4. กำรแก้ปัญหำของสถำนกำรณ์นี้
-สืบหำสำเหตุที่ทำให้เด็กมีอำกำรกลัวกำรไปโรงเรียน ว่ำเป็ นเพรำะ
สำเหตุใด และหำวิธีกำรแก้ปัญหำที่สอดคล้องกับสภำพปัญหำที่เกิดขึ้น
เช่น กำรกลัวเพรำะถูกเพื่อนที่โรงเรียนล้อ ก็ต้องมีกำรพูดปลอบให้กำลังใจ
พร้อมกับแนะนำผู้ที่เกี่ยวข้องให้ลดพฤติกรรมดังกล่ำว
- เพิ่มควำมสนใจและบอกข้อดีของกำรไปโรงเรียนเพื่อให้เด็ก
อยำกไปโรงเรียน และเลิกกลัวกำรไปโรงเรียน เช่น ครูมีกิจกรรม
ที่สนุกสนำนให้นักเรียนเล่นสนุกพร้อมกับเพื่อนๆในห้องเรียนโรงเรียนมี
สภำพแวดล้อมที่ดี
- 7. สถานการณ์ที่ 3 ฤทธิ์ครูใหญ่
1. หลักกำรทีใช้เป็ นแนวทำงในกำรแก้ปัญหำ
สถำนกำรณ์นี้
คือ ทฤษฎีกำรเรียนรู้แบบลงมือทำของสกินเนอร์
(Operant Conditioning) ในทฤษฎีกำรเรียนรู้
กลุ่มพฤติกรรมนิยม
ทฤษฎีกำรเรียนรู้แบบวำงเงื่อนไขแบบโอปำแรนท์
(Operant Conditioning Theory) หรือทฤษฎีกำรวำงเงื่อนไขแบบกำร
กระทำของสกินเนอร์ (B.F.Skinner) โดยมีแนวคิดว่ำ กำรเรียนรู้เกิดขึ้น
ภำยใต้เงื่อนไขและสภำวะแวดล้อมที่เหมำะสม เพรำะทฤษฎีนี้เน้นเรื่อง
สิ่งแวดล้อม
สิ่งสนับสนุนกำรลงโทษ โดยพัฒนำจำกทฤษฎีของพำฟลอฟ
และธอร์นไดค์
Skinner
- 8. สรุปได้ว่ำ พฤติกรรมของมนุษย์เป็ นพฤติกรรมที่กระทำต่อสิ่งแวดล้อม
ของตนเอง พฤติกรรมของมนุษย์จะคงอยู่ตลอดไป จำเป็ นต้องมีกำร
เสริมแรง(ผลของพฤติกรรมใดๆที่ทำให้พฤติกรรมนั้นเข้มแข็ง)
กำรเสริมแรงนี้มีทั้งกำรเสริมแรงทำงบวก (Possitive
Reinforcement) ซึ่งจะกระตุ้นให้คนมีกำรแสดงออกในพฤติกรรมที่พึง
ประสงค์
กำรเสริมแรงทำงลบ (Negative Reinforcement) ช่วยเพิ่มควำม
คงทนของกำรแสดงพฤติกรรมที่พึงประสงค์โดยกำรลดลง หรือไม่ให้
หรือดึงเอำสิ่งเร้ำที่ผู้เรียนพึงพอใจออกไป
- 11. สถานการณ์ที่ 4 ทาความสะอาด
1. วิเครำะห์ว่ำสถำนกำรณ์ที่ศึกษำอยู่ในขอบข่ำยของทฤษฎีใดในกลุ่ม
พฤติกรรมนิยม
-สถำนกำรณ์นี้อยู่ในขอบข่ำยทฤษฎีกำรเชื่อมโยง (Classical
Connectionism) ของธอร์นไดค์ (Thorndike) เพรำะกำรเรียนรู้เกิดจำก
กำรเชื่อมโยงระหว่ำงสิ่งเร้ำกับกำรตอบสนอง
ที่สำมำรถให้ผลที่พึงพอใจมำกที่สุด เมื่อเกิดกำร
เรียนรู้แล้วบุคคลจะใช้รูปแบบกำรตอบสนองเพียง
แบบเดียวและจะพยำยำมใช้รูปแบบนั้นเชื่อมโยงกับ
สิ่งเร้ำในกำรเรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆ
Thorndike
- 12. 2.วิเครำะห์ว่ำทฤษฎีที่เลือกมีข้อดี ข้อจำกัดอย่ำงไร และมีแนวทำงในกำร
นำทฤษฎีมำใช้ในกำรเรียนกำรสอนอย่ำงไร
-ข้อดี คือ นักเรียนมีกำรเรียนรู้ด้วยตนเอง ลองผิดลองถูกด้วย
ตนเอง สำมำรถนำปัญหำที่ได้จำกกำรพบเจอมำแก้ไขปัญหำ ปรับปรุง
ให้ดีขึ้นกว่ำเดิม
แนวทำงในกำรนำทฤษฎีกำรเชื่อมโยงไปใช้ในกำรเรียนกำรสอน
ดังนี้
เปิ ดโอกำสให้ผู้เรียนได้ลองผิดลองถูกด้วยตนเอง จะเป็ นกำรช่วย
ให้ผู้เรียนเกิดกำรเรียนรู้ในกำรแก้ไขปัญหำ โดยสำมำรถจดจำผลที่เกิด
จำกกำรเรียนรู้ได้ดี รวมทั้งเกิดควำมภำคภูมิใจในกำรทำสิ่งต่ำงๆด้วย
ตนเองและผู้เรียนมีควำมรู้และควำมเข้ำใจในเรื่องนั้นๆอย่ำงถ่องแท้ และ
ให้ผู้เรียนฝึ กฝนอย่ำงต่อเนื่อง สม่ำเสมอ เมื่อผู้เรียนเกิดกำรเรียนรู้แล้ว
ควรให้ผู้เรียนฝึ กกำรนำกำรเรียนรู้นั้นไปใช้และได้รับผลที่น่ำพึงพอใจ จะ
ช่วยให้กำรเรียนกำรสอนประสบผลสำเร็จ
- 13. สถานการณ์ที่ 5 ปัญหาเด็กเรียนซ้า
1. อธิบำยพร้อมประยุกต์หลักกำรจัดกำรเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยมที่
นำมำใช้ในกำรออกแบบกำรสอนและสื่อกำรเรียนกำรสอน เพื่อใช้ในกำร
แก้ไขสถำนกำรณ์
- ครูผู้สอนเมื่อรู้ว่ำผู้เรียนไม่ชอบหรือมีเจตคติที่ไม่ดีต่อวิชำที่เรำสอน
ก็ควรวิเครำะห์หำสำเหตุว่ำมำจำกอะไร อะไรคือสิ่งเร้ำที่ก่อให้เกิด
ควำมรู้สึกเช่นนั้น
ดังนั้นผู้สอนจึงต้องทำกำรเรียนกำรสอนให้มีควำมน่ำสนใจ
สนุกสนำนและเปิ ดโอกำสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมกำรเรียนกำร
สอน ครูเป็ นกัลยำณมิตรที่ดีต่อศิษย์ มีกำรกำหนดจุดมุ่งหมำยกำรเรียน
ที่ชัดเจน แบ่งเนื้อหำเป็ นหน่วยย่อย สอนจำกเรื่องง่ำยไปหำยำก
หลีกเลี่ยงกำรควบคุมชั้นเรียนโดยกำรลงโทษ
- 14. 2. วิเครำะห์หลักกำรจัดกำรเรียนรู้ตำมแนวกลุ่มพฤติกรรมนิยมว่ำ มีควำม
เหมำะสมหรือสอดคล้องกับกำรจัดกำรเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็ นสำคัญในยุค
ปฏิรูปกำรเรียนรู้
-มีควำมเหมำะสมและสอดคล้องกับกำรจัดกำรเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียน
เป็ นสำคัญในยุคปฏิรูปกำรเรียนรู้ เนื่องจำกกำรจัดกำรเรียนตำมทฤษฎี
พฤติกรรมนิยม จะนึกถึงควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคล ควำมแตกต่ำงทำง
อำรมณ์ กำรตอบสนองที่ไม่เท่ำกัน คำนึงถึงสภำพทำงอำรมณ์ของผู้เรียนว่ำ
เหมำะสมที่จะสอนเนื้อหำอะไร โดยปกติครูสำมำรถทำให้ผู้เรียนรู้สึกชอบ
หรือไม่ชอบหรือไม่ชอบเนื้อหำที่เรียนหรือสิ่งแวดล้อมในกำรเรียน กำรลบ
พฤติกรรมที่วำงเงื่อนไข ผู้เรียนที่ถูกวำงเงื่อนไขให้กลัวผู้สอน เรำอำจช่วยได้
โดยป้ องกันไม่ให้ผู้สอนทำโทษเขำ
- 15. -ข้อดี คือ สำมำรถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้เรียนได้ มีกำร
เสริมแรงโดยให้แรงเสริมเป็ นกำรจูงใจให้ผู้เรียนสำมำรถมีพฤติกรรมที่
พึงประสงค์ต่อไป
-ข้อจำกัด คือ เนื่องจำกผู้เรียนแต่ละคนมีควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคล
กำรเสริมแรงให้กับแต่ละบุคคลอำจส่งผลต่อพฤติกรรมที่แสดงออกไม่
เท่ำกัน หรืออำจใช้ได้กับเฉพำะบำงคนก็ได้
หลักกำรของทฤษฎีกำรเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยมนี้ยังสำมำรถ
นำมำใช้ในกำรจัดกำรเรียนรู้ในปัจจุบันได้ เช่น ทฤษฎีกำรวำงเงื่อนไข
ของวัตสัน นำมำใช้ในกำรแก้ปัญหำของผู้เรียนที่ไม่กล้ำถำมคำถำมครู
ในชั้นเรียนหรือถำมเพื่อนในชั้นเรียน รวมไปถึงกำรจัดบรรยำกำศในชั้น
เรียนให้ผู้เรียนรู้สึกร่วมกับผู้อื่น มีควำมเป็ นกันเองและกล้ำแสดงออก
เป็ นต้น