1. ามรู้เกี่ยวกับระบบบัญชีเดามรู้เกี่ยวกับระบบบัญชีเด

2. หมายถึง ระบบการบันทึกบัญชีที่ไม่
สมบูรณ์ไม่ถูกต้องตาม
หลักการบันทึกบัญชีที่รับรองโดยทั่วไป
การบันทึกบัญชีอาจเป็น
ด้านเดบิตหรือเครดิตเพียงด้านเดียว
ส่วนใหญ่เป็นกิจการขนาดเล็ก
หรือเจ้าของกิจการดูแลและรับผิดชอบ
ด้วยตนเอง
ระบบบัญชีเดี่ยว

3. สมุดบัญชีที่ใช้ในระบบบัญชี
เดี่ยว
• สมุดเงินสด เพื่อใช้ในการบันทึกการรับ-
จ่ายเงินประจำาวัน
• สมุดบัญชีแยกประเภท จะเปิดเพียงบาง
บัญชีที่เจ้าของกิจการต้องการทราบข้อมูล
เท่านั้น เช่น บัญชีลูกหนี้ บัญชีเจ้าหนี้
บัญชีทุน เป็นต้น
• สมุดรายวัน บันทึกรายการที่ไม่เกี่ยวกับ
เงินสด เช่นการซื้อ-ขายสินค้าเป็นเงินเชื่อ

4. การคำานวณกำาไรขาดทุน
ตามระบบบัญชีเดี่ยว
การคำานวณกำาไรขาดทุนตามระบบ
บัญชีเดี่ยวมี 2 วิธี
1. การเปรียบทุน
2. การวิเคราะห์รายละเอียดทางการค้า

5. การคำานวณกำาไรขาดทุน
สุทธิ
การเปรียบทุนระหว่างทุนต้นปีกับทุนปลาย
ปี
ตัวอย่าง เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2552 กิจการ
มีทุน 1 มกราคม 2552
50,000 บาท และวันที่ 31 ธันวาคม 2552 มี
ทุน 70,000 บาท
กิจการมีกำาไรสุทธิ = 70,000 -
50,000
= 20,000 บาท

6. การคำานวณกำาไรขาดทุน
ตัวอย่าง ร้านฤดีเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2552
กิจการ มีทุนยกมา 30,000 บาท
ระหว่างปีลงทุนเพิ่ม 15,000 บาท ถอนใช้
ส่วนตัว 6,000 บาท เงินถอน
10,000 บาท ทุนวันที่ 31 ธันวาคม 2552
45,000 บาท
จงคำานวณหากำาไรหรือขาดทุนสุทธิ

7. การคำานวณกำาไรขาดทุน
สุทธิ
วิธีทำา ทุน 31 ธันวาคม 2552
45,000
บวก ถอนใช้ส่วนตัว 10,000
เงินถอน 6,000
16,000
61,000
หัก ทุน 1 มกราคม 2552 30,000
ลงทุนเพิ่ม 15,000
45,000
กำาไรสุทธิ
16,000

8. การคำานวณกำาไรขาดทุน
สุทธิ
ตัวอย่าง ร้านดวงกมลมีทุนเมื่อวันที่
1มกราคม 2552 จำานวน 28,000 บาท
ระหว่างปีลงทุนเพิ่ม 10,000 บาท ถอนใช้
ส่วนตัว 5,000 บาท ทุนวันที่
31 ธันวาคม 2552 30,000 บาท
จงคำานวณหากำาไรหรือขาดทุนสุทธิ

9. การคำานวณกำาไรขาดทุนสุทธิ
วิธีทำา
ทุน 31 ธันวาคม 2552
30,000
บวก ถอนใช้ส่วนตัว
5,000
35,000
หัก ทุน 1 มกราคม 2552
28,000
ลงทุนเพิ่ม 10,000
38,000
ขาดทุนสุทธิ

10. การคำานวณกำาไรขาดทุนสุทธิ
ร้านจรวยพรมีสินทรัพย์และหนี้สิน ดังนี้
1 ม.ค. 52 31 ธ.ค.
52 สินทรัพย์ 50,000
80,000
หนี้สิน 22,000 34,000
ระหว่างปีกิจการลงทุนเพิ่ม 15,000 บาท
ถอนใช้ส่วนตัว 12,000 บาท
จงคำานวณหากำาไรหรือขาดทุนสุทธิ

11. การคำานวณกำาไรขาดทุน
สุทธิ
วิธีทำา
จากสมการบัญชี ทุน = สินทรัพย์ –
หนี้สิน
ทุน 1 มกราคม 2552= 50,000 –
22,000
= 28,000 บาท
ทุน 31 ธันวาคม 2552 = 80,000
– 34,000
= 46,000 บาท

12. การคำานวณกำาไรขาดทุน
สุทธิ
ทุน 31 ธันวาคม 2552
46,000
บวก ถอนใช้ส่วนตัว
12,000
58,000
หัก ทุน 1 มกราคม 2552
28,000
ลงทุนเพิ่ม
15,000 43,000

13. การคำานวณกำาไรขาดทุน
สุทธิ
ร้านใจดีมีสินทรัพย์และหนี้สิน ดังนี้
1 ม.ค. 2552 31 ธ.ค.
2552
เงินสด 33,000
42,000
ลูกหนี้ 42,000
54,000
ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (900)
(1,080)
สินค้าคงเหลือ 28,200
24,000
วัสดุสำานักงาน 1,200
720

14. การคำานวณกำาไรขาดทุนสุทธิ
เครื่องใช้สำานักงาน 13,800
13,800
ค่าเสื่อมราคาสะสม (5,400)
(8,160)
116,700
125,760
เจ้าหนี้ 18,000
15,000
เงินกู้ 10 %
50,000 40,000
68,000
65,000

15. การคำานวณกำาไรขาดทุนสุทธิ
วิธีทำา
จากสมการบัญชี ทุน =
สินทรัพย์ – หนี้สิน
ทุน 1 มกราคม 2552 =
116,700 – 68,000
= 48,700 บาท
ทุน 31 ธันวาคม 2552 =
125,760 – 65,000
= 60,760 บาท

16. การคำานวณกำาไรขาดทุน
สุทธิ
ทุน 31 ธันวาคม 2552
60,760
บวก ถอนใช้ส่วนตัว
8,000
68,760
หัก ทุน 1 มกราคม 2552
48,700
กำาไรสุทธิ

17. ข้อบกพร่องของระบบบัญชี
เดี่ยว
1.เมื่อมีรายการค้าเกิดขึ้นบันทึกรายการใน
สมุดรายวันทั่วไปแล้วอาจจะไม่มี
การผ่านรายการไปยังบัญชีแยกประเภท
ยกเว้นบัญชีลูกหนี้และบัญชีเจ้าหนี้
2.ไม่มีการเปิดบัญชีแยกประเภทรายได้และ
ค่าใช้จ่าย จึงไม่สามารถจัดทำา
งบทดลองและงบกำาไรขาดทุนตามหลักการ
บัญชีคู่
3.การบันทึกรายการเกี่ยวกับสินทรัพย์และ
หนี้สินอาจจะไม่ได้บันทึกบัญชี
ถ้าต้องการทราบสามารถดูได้จากสมุดบัญชี

18. ข้อบกพร่องของระบบบัญชี
เดี่ยว
4. การบันทึกรายการที่ไม่เกี่ยวกับเงินสด
เช่น การซื้อขายสินค้าเป็นเงินเชื่อ
ใช้วิธีการบันทึกความทรงจำา เมื่อมีการจ่าย
ชำาระหนี้หรือรับชำาระหนี้ก็จะ
บันทึกรายการในสมุดเงินสด
5. การจัดทำางบกำาไรขาดทุน งบทดลองจาก
หลักฐานตามระบบบัญชีเดี่ยว
ต้องใช้การวิเคราะห์รายการจากบัญชี
เงินสด เจ้าหนี้ ลูกหนี้ ทำาให้มี

19. ข้อแตกต่างระหว่างระบบ
บัญชีเดี่ยวกับบัญชีคู่
ระบบบัญชีเดี่ยว
- ใช้ในกิจการเจ้าของ
คนเดียว
- ไม่ได้บันทึกบัญชี
สมบูรณ์ถูกต้องตาม
หลักการบัญชีที่ยอมรับ
กันโดยทั่วไป
-เปิดบัญชีแยกประเภท
ไม่ครบถ้วน
-ไม่สามารถเก็บตัวเลข
ไปจัดทำางบ
ระบบบัญชีคู่
- กิจการค้าทั่วไปตาม
พ.ร.บ. 2543
- บันทึกบัญชีสมบูรณ์ถูก
ต้องตาม
หลักการบัญชีที่ยอมรับ
กันโดยทั่วไป
- เปิดบัญชีแยกประเภท
ตามหมวดบัญชี
- สามารถเก็บตัวเลขไป
จัดทำางบทดลอง