แผ่นพับ
- 1. ผลการศึกษาค้นคว้า
ผลการศึกษา
การเลี้ยงดูในครอบครัว:
มักจะพบเด็กติดเกมได้บ่อยในครอบครัวที่เลี้ยงเด็กโดยไม่เคยฝึกให้เด็กมี
วินัย ในตัวเอง ขาดกฎระเบียบ กติกาในบ้าน ตามใจเด็ก
ครอบครัวมีลักษณะที่สมาชิกในครอบครัวต่างคนต่างอยู่
ไม่มีกิจกรรมที่สนุกสนานให้เด็กทา
หรือไม่มีกิจกรรมที่สมาชิกทุกคนทาร่วมกัน ทาให้เด็กเกิดความเหงา
ความเบื่อหน่ายเด็กจึงต้องหากิจกรรมอื่น ทาเพื่อให้ตัวเองสนุก
ซึ่งก็หนีไม่พ้นการเล่น เกม พ่อแม่อาจไม่มีเวลาควบคุมเด็ก
หรือมองไม่เห็นความ
จาเป็นที่จะต้องจากัดเวลาในการเล่นเกมของเด็กในช่วงแรก
พ่อแม่อาจรู้สึกพอใจที่เห็นเด็กเล่นเกม
เงียบๆคนเดียวได้โดยไม่มารบกวนตัวเองให้ตนมีเวลาส่วนตัว มากขึ้น
พูดง่ายๆคือใช้เกมเสมือนเป็นพี่เลี้ยงดูแลเด็กแทนตน
สังคมที่เปลี่ยนแปลงไป:
สังคมยุคไฮเทคที่มีเครื่องมือที่มีพลังในการเร้าความตื่นเต้นให้เกิดขึ้นในตั
วเด็ก อย่างมหาศาลสังคมวัตถุนิยม สังคมที่ขาดแคลนกิจกรรม
หรือสถานที่ที่เด็กจะได้ใช้ประโยชน์หรือเรียนรู้
โดยได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลินไปด้วย
เหล่านี้เป็นแรงผลักดันให้เด็กหันไปใช้การเล่นเกมเป็นทางออก
การสื่อสารและการนาเสนอ(IS2)
เรื่อง ปัญหาการติดเกมในหมู่วัยรุ่น
เสนอ
คุณครูอุไร ทองดี
จัดทาโดย
เด็กชายณัฐดนัย แดงน้อย เลขที่ 4
เด็กชายธีรดนย์ วิไลรัตน์ เลขที่ 14
เด็กชายปรเมศวร์ สอนเวียง เลขที่ 44
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1
- 3. ความเป็ นมาและความสาคัญ
ปัญหาการติดเกมนั้นเป็ นปัญหาใหญ่ของวัยรุ่นซึ่งสามารถพ
บเห็นไดในสังคมทั่วไปไม่ว่าจะเป็ นสังคมใหญ่หรือสังคมเล็ก
ก็มีปัญหานี้อยู่
ซึ่งปัญหานี้เราก็ได้นาขึ้นมาศึกษาและค้นคว้าเพราะเป็ นเรื่อ
งที่เราสนใจ
เราจึงนามาศึกษาเพื่อหาสาเหตุของการติดเกมและวิธีแก้ไข
การติดเกม
ซึ่งในสังคมปัจจุบันมีปัญหาอยู่มากและเป็ นปัญหาที่แก้ไขกัน
มานานแต่ในปัจจุบันก็สามารถแก้ไขปัญหาการติดเกมได้โด
ยเริ่มแก้ไขจากต้นเหตุคือตัวของวัยรุ่น
ดังนั้นคณะผู้จัดทาจึงได้ทาการศึกษาเรื่องปัญหาการติดเกมใ
นหมู่วัยรุ่นเป็ นการให้ความรู้และสามารถนาความรู้ที่ได้ไปป
รับใช้ในชีวิตประจาวัน
วัตถุประสงค์
1.เพื่อให้รู้เกี่ยวกับโทษและประโยชน์ของการติดเกม
2.เพื่อให้รู้เกี่ยวกับวิธีการเลิกเมื่อติดเกม
3.เพื่อให้รู้ว่าเมื่อมีเวลาว่างไม่ใช่แค่จะมาเล่นเกมแต่จะหาทา
กิจกรรมที่มีประโยชน์ต่าง ๆแทน
สมมุติฐาน คือ
อาจเกิดจากปัญหาทางบ้านหรือการที่พ่อแม่ไม่เวลาให้กับเด็กแล
ะสร้างวินัยให้กับตัวเด็กด้วยการทากิจกรรมรวมกับเด็ก
โดยให้เด็กมีส่วนร่วมในการทากิจกรรม
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.ทาให้เราได้รู้เกี่ยวกับปัญหาขอการติดเกม
2.ทาให้เรารู้จักปรับตัวไม่ให้ติดเกมและหาเวลาว่างในการ
ทากิจกรรรมที่มีประโยชน์
ขอบเขตการศึกษา
1.ด้านเนื้อหา “ปัญหาการติดเกมในหมู่วัยรุ่น”
-สาเหตุของการติดเกมของวัยรุ่น
-ผลดีและผลเสียของเกม
-วิธีแก้ไข-การป้ องกันไม่ให้ติดเกม
2. ด้านสถานที่
-โรงเรียนชุมแพศึกษา
3.ด้านระยะเวลา
--ระยะเวลาในการศึกษาค้นคว้าในภาคเรียนที่ 2
ปีการศึกษา 2556
วิธีการดาเนินการศึกษา
3.1 วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมที่ใช้
3.1.1 เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
3.1.3เว็บไซต์ที่ใช่ในการติดต่อสื่อสาร
www.facebook.com www.google.com
3.2 ขั้นตอนการดาเนินงาน
1.ประชุมปรึกษาหารือเสนอความคิดเห็นและคัดเลือก
เรื่องที่จะศึกษาและคิดหัวข้อเพื่อนาเสนอครูประจาวิชา
2.ศึกษาและค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับ
ปัญหาการติดเกมในหมู่วัยรุ่น
3.ทบทวนเรื่องที่ศึกษาจาก IS1
เรื่องปัญหาการติดเกมในหมู่วันรุ่น
4.จัดทาโครงร่างต่อครูประจาวิชาเพื่อพิจารณาอนุมัติ
5.ศึกษาวิธีการจัดทารายงานทางวิชาการเป็ นรูปเล่ม
6.นาเสนอความก้าวหน้าเป็ นระยะๆตามระยะเวลาที่ค
รูประจาวิชากาหนดเพื่อตรวจสอบ ความก้าวหน้า
7.ศึกษาวิธีการเขียนอ้างอิงและบรรณานุกรม
8.จัดทาร่างรายงานทางวิชาการและเป็ นรูปเล่ม
9.ตรวจสอบความถูกต้องของร่างรายงานทางวิชาการ
10.นาเสนอร่างรายงานทางวิชาการเป็ นรูปเล่มต่อครูป
ระจาวิชาเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง
11.จัดทารายงานเป็ นรูปเล่มฉบับสมบูรณ์
12.จัดทา เพาว์เวอร์พอยต์
นาเสนอแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในชั้นเรียน
13.เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณชนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น
โซเชียลมีเดียออนไลน์ FACEBOOK
5.3 ข้อเสนอแนะ
ในการทารายงานการศึกษาค้นคว้า IS เรื่อง
ปัญหาการติดเกมในหมู่วัยรุ่น
ที่คณะผู้จัดทาได้ศึกษานี้สามารถนาไปใช้ประโยชน์ไม่ให้มีประ
ชากรติดเกมมากชึ้นและช่วยป้ องกันปัญหาทางสังคมได้
5.4 ปัญหาและอุปสรรค
จากการทางานปัญหาที่มักจะพบก็คือ
1.การที่สัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่ดีหรืออินเทอร์เน็ตหลุ
ด
2.การที่อุปกรณ์คอมพิวเตอร์เสียหรือไม่พร้อมที่จะทา
งาน