ม1ห้อง6กลุ่ม secret2003
- 1. สมาชิกกลุ่ม 1. ด . ญ . ณัฐชยา ใยระย้า เลขที่ 12 2. ด . ญ . ธุวพร วงศ์เสาวภาคย์กุล เลขที่ 17 3. ด . ญ . นครียา ประไพตระกูล เลขที่ 18 4. ด . ญ . ปภัสวดี นพคุณ เลขที่ 20 5. ด . ญ . ศตพร ศุภสุนทร เลขที่ 40 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/6
- 2. ความดันโลหิตสูงระดับอ่อน หรือปานกลาง มักจะไม่มีอาการอะไร แต่มีการทำลายอวัยวะต่าง ๆ ไปทีละน้อยอย่างช้า ๆ จนผู้ป่วยเกิดผลแทรกซ้อนในที่สุดเช่น หัวใจล้มเหลว อัมพาต อัมพฤกษ์ ความดันโลหิตโลหิตสูง จึงมักได้รับการขนานนามว่า " ฆาตกรเงียบ " ความดันโลหิตสูงอย่างรุนแรง ผู้ป่วยอาจเกิดอาการเหล่านี้ขึ้นได้ เช่นเลือดกำเดาออก ตามองไม่เห็นข้างหนึ่งชั่วคราว เจ็บหน้าอก เวียนศีรษะเป็นต้น แต่อาการเหล่านี้ไม่จำเพาะ เพราะอาจเกิดจากสาเหตุอื่นก็ได้ ดังนั้น เมื่อเกิดอาการผิดปกติจึงความปรึกษาแพทย์
- 3. โรคความดันโลหิตสูงอาจเกิดได้จาก 2 สาเหตุใหญ่ สาเหตุแรก คือ เกิดจากโรคของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ส่วนกลุ่มที่สองนั้นเป็นกลุ่มที่ยังหาสาเหตุไม่ได้ กลุ่มที่ไม่ทราบสาเหตุนั้น การปฏิบัติตัวเรื่องอาหารควรเน้นถึงความสำคัญในการควบคุมและเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสม เพราะการรับประทานอาหารผิดอย่างต่อเนื่องมีผลในทางลบได้เสมอ อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงคือ อาหารเค็มจัด อาหารที่เติมซอสหรือน้ำปลาในอาหารที่รับประทาน อาหารที่มีโซเดียมสูง ได้แก่ น้ำอัดลม ขนมปังกรอบ เนยที่มีรสเค็ม น้ำสลัดและ มายองเนสสำเร็จรูป อาหารที่ใส่น้ำตาลเทียม อาหารที่ใส่ผงชูรส เป็นต้น รวมทั้งเครื่องดื่ม ที่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งมีผลร้ายโดยตรงทั้งหัวใจและหลอดเลือด
- 5. สถานการณ์โรคความดันโลหิตสูงของประเทศไทย สำรวจโดยสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุขพบว่า ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นเป็น 3.8 เท่า ในรอบ 10 ปี ( พ . ศ . 2543 - 2552 ) นับว่าเป็นสัญญาณอันตราย ซึ่งทุกท่านควรตระหนักเพราะโรคนี้ เมื่อป่วยเริ่มเเรกจะไม่เเสดงอาการ หากไม่ตรวจสุขภาพหรือไม่ทราบค่าความดันเมื่อป่วยจะไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรคนี้ ผู้ที่มีอายุ 35 ปี ขึ้นไป ควรตรวจวัดความดันโลหิตทุกๆปี สมาชิกในครอบครัวไม่มีผู้ใดเป็นโรคความดันโลหิตสูง สถิติของครอบครัวสมาชิกในกลุ่ม