SlideShare a Scribd company logo
1 of 11
บทที่ 1
บทนำ
1.1 ควำมเป็นมำและควำมสำคัญของปัญหำ
จำกสถำนกำรณ์ประชำกรที่กำลังได้รับควำมสนใจในสังคมโ
ล ก ปั จ จุ บั น
คงจะหนีไม่พ้นเรื่องโครงสร้ำงประชำกรที่กำลังมีกำรเปลี่ยนแปลงอ
ย่ ำ ง ต่ อ เนื่ อ ง เข้ ำ สู่ "สั ง ค ม ผู้ สู ง อ ำ ยุ " ( Aging Society)
โด ย ป ร ะ ช ำก ร โ ล ก มี แ น ว โน้ ม เพิ่ ม ขึ้ น ใ น ปี พ .ศ .2 5 4 3
มีจำนวนประชำกรโลกทั้งหมด 6,500 ล้ำนคน มีประชำกรผู้สูงอำยุ
390 ล้ ำ น ค น แ ล ะ ค ำ ด ก ำ ร ณ์ ว่ ำ ใ น ปี พ .ศ . 2 5 6 8
จ ะ มี ป ร ะ ช ำ ก ร โ ล ก ทั้ ง สิ้ น 8 , 2 0 0
ล้ำนคนและในจำนวนนี้จะเป็นประชำกรผู้สูงอำยุจำนวน 1,100
ล้ำนคน (สำนักงำนสถิติแห่งชำติ. 2556)
พิ จ ำ ร ณ ำ ใ น แ ต่ ล ะ ภู มิ ภ ำ ค ข อ ง โ ล ก พ บ ว่ ำ
ยุโรปเป็นภูมิภำคที่มีสัดส่วนของประชำกรสูงอำยุมำกที่สุดในโลก
โด ยเฉ พ ำะป ระ เท ศอิต ำลี ก รีซ เยอร มนี สวิสเซ อร์แลน ด์
ประเท ศเห ล่ำนี้ มีอัตรำเจ ริญพัน ธุ์รวมต่ำกว่ำระดับท ด แท น
มี อั ต ร ำ ต ำ ย ข อ ง ป ร ะ ช ำ ก ร ค่ อ น ข้ ำ ง ต่ ำ
ในขณะที่แอฟริกำเป็นภูมิภำคที่มีโครงสร้ำงของประชำกรวัยเด็กมำ
ก ก ว่ ำ ป ร ะ ช ำ ก ร วั ย สู ง อ ำ ยุ
มีอัตรำเจริญพันธุ์รวมและอัตรำตำยของประชำกรค่อนข้ำงสูง
ประชำกรมีอำยุขัยเฉลี่ยต่ำ (ศูนย์อนำมัยที่ 5 นครรำชสีมำ. 2555)
อ ง ค ์ก ำ ร ส ห ป ร ะ ช ำ ช ำ ต ิ ( UN) ไ ด ้น ิย ำ ม ว ่ำ
ประเทศใดมีประชำกรอำยุ 60 ปีขึ้นไป เป็นสัดส่วนเกิน 10%
2
ห รืออ ำยุ 65 ปีขึ้ น ไ ป เกิน 7% ข องป ร ะ ช ำก ร ทั้งป ร ะเท ศ
ถือว่ำประเท ศนั้นได้ก้ำวเข้ำสู่สังคมผู้สูงอำยุ (Aging Society)
แ ล ะ จ ะ เป็ น สั งค ม ผู้ สู งอ ำ ยุ โ ด ย ส ม บู ร ณ์ (Aged Society)
เมื่อสัดส่วนประชำกรอำยุ 60 ปีขึ้นไปเพิ่มเป็น 20% และอำยุ 65
ปีขึ้นไป เพิ่มเป็น 14% โดยประเทศไทย ได้นิยำมคำว่ำ “ผู้สูงอำยุ”
ไว้ใน พระรำชบัญญัติผู้สูงอำยุ พ.ศ. 2546 ว่ำหมำยถึง “ผู้ที่มีอำยุ
60 ปีขึ้นไป” (กรมอนำมัย. 2556)
ข ณ ะ นี้ โล ก ก้ ำวเข้ ำสู่สั งค มผู้ สู งอำยุ เรี ยบ ร้อ ยแ ล้ ว
เนื่องจ ำก ป ระ ชำก รผู้สูงที่ มีอำยุ 65 ปีขึ้น ไป เกิน ร้อยละ 7
ข ณ ะ ที่ จ ำก ข้ อมู ล ข องส ถ ำบั น วิ จัย ป ร ะ ช ำก ร แล ะ สั งค ม
มหำวิทยำลัยมหิดล ในปี 2555 พบว่ำโลกมีประชำกรจำนวน 7,058
ล้ำนค น มีผู้สูงอำยุที่มีอำยุ 65 ปีขึ้น ไป จำนวน 565 ล้ำน ค น
คิดเป็นร้อยละ 8 ขณะที่ผู้สูงอำยุของประเทศไทยมีอำยุ 65 ปีขึ้นไป
มีมำกถึงร้อยละ 12.59 ซึ่งถือว่ำมำกที่สุดใน ประเท ศอำเซียน
(กรมอนำมัย. 2556)
ประชำกรในประเทศอำเซียนปัจจุบันก็ได้เข้ำสู่สังคมสูงวัยแล้
วเช่นเดียวกัน (ร้อยละ 7) และในอีกประมำณ 27 ปีข้ำงหน้ำ คือ
พ .ศ. 2583 อำเซียน จะเริ่มเข้ำสู่ “สังคมสูงวัยระดับ สุด ยอด ”
เมื่อเปรียบเทียบประชำกรสูงวัยในแต่ละประเทศ พ บว่ำ ใน ปี
2556ประเทศสิงคโปร์แก่ที่สุดในอำเซียน (12%) รองลงมำคือ ไทย
(11%) และเวียด น ำม (7%) และค ำด ป ร ะมำณ ว่ำ ใน อีก 27
ปี ข้ ำ ง ห น้ ำ คื อ พ . ศ . 2583
ทั้ ง ส ำ ม ป ร ะ เท ศ ก็ จ ะ เข้ ำ สู่ สั ง ค ม สู ง วั ย ร ะ ดั บ สุ ด ย อ ด
ส ำ ห รั บ ป ร ะ เท ศ บ รู ไ น กั ม พู ช ำ ล ำ ว แ ล ะ ฟิ ลิ ป ปิ น ส์
ถือไ ด้ว่ำยั งเป็นป ระเท ศที่มีสัด ส่วน ผู้สูงอำยุน้อยใน ปัจ จุบัน
3
ซึ่งจัดอยู่ในก ลุ่มประเท ศเด็ก ในข ณ ะที่ประเทศอินโดนีเซีย
เ มี ย น ม ำ ร์ แ ล ะ ม ำ เ ล เ ซี ย
จัดเป็นประเทศที่กำลังเข้ำสู่สังคมสูงวัยในปัจจุบัน อย่ำงไรก็ตำม
ในอีกไม่ถึง10 ปีข้ำงหน้ำทั้งสำมประเทศนี้จะเข้ำสู่สังคมสูงวัยอย่ำงเ
ต็ ม ตั ว แ ล ะ ใ ช้ เ ว ล ำ อี ก เ พี ย ง ไ ม่ เ กิ น 17 ปี
จะเข้ำสู่สังคมสูงวัยอย่ำงสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2583 (กรมอนำมัย.
2556)
สำหรับประเทศไทยมีประชำกรผู้สูงอำยุเป็นอันดับที่ 19
ของโลก และจำกกำรศึกษำประชำกรที่มีอำยุ 60 ปีขึ้นไป พบว่ำ
อัตรำส่วนของผู้สูงอำยุเพิ่มขึ้นอย่ำงต่อเนื่อง จำกร้อยละ 8.11 ในปี
พ .ศ . 2538 เ พิ่ ม ขึ้ น ร้ อ ย ล ะ 9.19 ใ น ปี พ .ศ . 2543
และ คำด ว่ำจ ะเพิ่มสูงขึ้น เป็น ร้อยละ 15.28 ใ น ปี พ .ศ. 2563
(สำนักส่งเสริมสุขภำพ, 2556)
ประเทศไทยได้เริ่มเข้ำสู่สังคมผู้สูงอำยุ (Aging Society)
ตั้ ง แ ต่ พ .ศ .2 5 4 7 ป ร ะ เท ศ ไ ท ย มี ป ร ะ ช ำ ก ร อ ำ ยุ 6 0
ปีขึ้นไปต่อประชำกรทั้งหมดทุกช่วงอำยุ คิดเป็นร้อยละ 10.18 ทั้งนี้
ไ ด้ มี ก ำ ร ค ำ ด ป ร ะ ม ำ ณ กั น ไ ว้ ว่ ำ
ประเท ศไทยจะกลำยเป็น สังคมผู้สูงอำยุโดยสมบูรณ์ (Aged
Society) ใ น ปี พ .ศ . 2 5 7 0 ค น ไ ท ย เกื อ บ 1 ใ น 4
เป็ น ผู้ สู ง อ ำ ยุ แ ล ะ ป ร ะ ช ำ ก ร ร ว ม มี แ น ว โ น้ ม ล ด ล ง
ส่ ว น ป ร ะ ช ำ ก ร สู ง วั ย ต้ น มี แ น ว โ น้ ม ล ด ล ง
ขณะที่ประชำกรสูงอำยุที่ช่วยเหลือตัวเองได้และช่วยเหลือตัวเองไม่
ได้มีแน วโน้มเพิ่มขึ้ น และมีสัด ส่วน เป็น ห ญิ งมำก ก ว่ำชำย
ภ ำค ต ะ วั น อ อ ก เฉี ย ง เห นื อ มี จ ำน ว น ผู้ สู ง อ ำยุ ม ำก ที่ สุ ด
ขณะที่กรุงเทพมหำนครจะมีจำนวนผู้สูงอำยุเพิ่มขึ้นอย่ำงรวดเร็ว
(สำนักส่งเสริมสุขภำพ, 2556)
4
ผ ล ก ร ะ ท บ จ ำ ก ก ำ ร เ ป็ น สั ง ค ม ผู้ สู ง อ ำ ยุ
ภำระพึ่งพิงมีแนวโน้มสูงขึ้นส่งผลให้วัยแรงงำนมีภำระในกำรดูแลป
ร ะ ช ำ ก ร วั ย เ ด็ ก แ ล ะ วั ย สู ง อ ำ ยุ เ พิ่ ม ม ำ ก ขึ้ น
ภำระค่ำใช้จ่ำยของภำครัฐและภำคครัวเรือนในกำรดูแลผู้สูงอำยุจะเ
พิ่มสูงขึ้น ก ระท บต่อฐำน ะทำงกำรเงินกำรค ลังข องประเท ศ
รูปแบบของกำรเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นส่งผลต่อ
กำรจัด บ ริก ำร ด้ำน สุข ภำพ ทั้งใน เชิงป ริมำณ และคุณ ภำพ
กำรผลิตสินค้ำและบริกำรพื้นฐำนจะต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้สำมำรถ
ต อ บ ส น อ ง ค ว ำ ม ต้ อ ง ก ำ ร ข อ ง ผู้ สู ง อ ำ ยุ ใ ห้ ม ำ ก ขึ้ น
ประเทศไทยที่เป็นสังคมผู้สูงอำยุจะขำดแคลนแรงงำนซึ่งส่งผลให้มี
ก ำ ร เ ค ลื่ อ น ย้ ำ ย แ ร ง ง ำ น อ ย่ ำ ง เ ส รี ม ำ ก ขึ้ น
(สำนักงำนคณะกรรมกำรพัฒนำกำรเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ.
2552)
สถำนกำรณ์โรคเรื้อรังของผู้สูงอำยุมีสำเหตุจำกพฤติกรรมกำ
ร ด ำ ร ง ชี วิ ต
ถึงแม้ควำมก้ำวหน้ำทำงวิทยำศำสตร์กำรแพทย์และสำธำรณสุขและ
กำรกระจำยบริกำรสำธำรณสุขที่กว้ำงขวำงครอบคลุมในทุกพื้นที่
จะส่งผลให้ผู้สูงอำยุโดยรวมมีสุขภำพที่ดีและมีอำยุยืนยำวขึ้นแต่จำ
กพฤติกรรมกำรดำรงชีวิตและพฤติกรรมกำรบริโภคไม่เหมำะสม
ส่งผลทำให้ผู้สูงอำยุมีแนวโน้มกำรเจ็บป่วยด้วยโรคควำมดันโลหิตสู
งและโรคเบำหวำน ซึ่งเป็นโรคเรื้อรังที่ป้องกันได้เพิ่มมำกขึ้น
โ ด ย ใ น ช่ ว ง 10 ก ว่ ำ ปี ที่ ผ่ ำ น ม ำ
พบว่ำผู้สูงอำยุมีกำรเจ็บป่วยด้วยโรคควำมดันโลหิตสูงเพิ่มจำกร้อยล
ะ 25.0 ใ น ปี 2537 เ ป็ น ร้ อ ย ล ะ 31.7 ใ น ปี 2550
แล ะ โร ค เบ ำห ว ำน เพิ่ มจ ำก ร้อ ย ละ 5.0 เป็ น ร้ อย ล ะ 13.3
ใ น ช่ ว ง เ ว ล ำ เ ดี ย ว กั น
สำหรับโรคหัวใจถึงแม้จะมีแนวโน้มลดลงแต่ยังคงมีอัตรำที่ค่อนข้ำง
สู ง คื อ ร้ อ ย ล ะ 7 ข อ ง ผู้ สู ง อ ำ ยุ
5
แ ล ะ ส่ ว น ใ ห ญ่ จ ะ ป่ ว ย ด้ ว ย โร ค เรื้ อ รั ง ม ำก ก ว่ ำ 1 โร ค
นอกจำกนี้เมื่อพิจำรณำพฤติกรรมที่ส่งเสริมกำรมีสุขภำพที่ดีของผู้สู
ง อ ำ ยุ พ บ ว่ ำ ผู้ สู ง อ ำ ยุ เ พี ย ง ร้ อ ย ล ะ
41.2เท่ำนั้นที่มีกำรออกกำลังกำยเป็นประจำและร้อยละ 63.1
ที่ รั บ ป ร ะ ท ำ น ผั ก ส ด แ ล ะ ผ ล ไ ม้ เ ป็ น ป ร ะ จ ำ
(สำนักงำนคณะกรรมกำรพัฒนำกำรเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ.
2552)
เนื่องจำกปัจจุบันวิถีกำรดำเนินชีวิตของชุมชนชนบทและชุม
ชนเมืองมีควำมแตกต่ำงกัน จึงทำให้พบโรคเรื้อรังในผู้สูงอำยุ
ใ น ชุ ม ช น เ มื อ ง ม ำ ก ก ว่ ำ ชุ ม ช น ช น บ ท
ทั้งนี้เนื่องจำกพฤติกรรมของผู้สูงอำยุในชุมชนเมืองมีควำมเสี่ยงต่อโ
รคเรื้อรัง เช่น เบำหวำน ควำมดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคมะเร็ง
โรคภูมิแพ้ เป็นต้น ซึ่งรวมไปถึงพฤติกรรมกำรบริโภคอำหำรรสจัด
ก ำ ร บ ริ โ ภ ค อ ำ ห ำ ร fast food
อ ำ ห ำ ร ถุ ง ที่ ป รุ ง ส ำ เ ร็ จ ซึ่ ง อ ำ จ มี สิ่ ง ป น เ ปื้ อ น
ซึ่งต่ำงจำกชุมชนชนบทที่มักจะเก็บผักปลอดสำรพิษริมรั้วมำรับประ
ท ำ น กั บ น้ ำ พ ริ ก แ ล ะ มั ก รั บ ป ร ะ ท ำ น เ นื้ อ ป ล ำ
กำรออกกำลังกำยพบว่ำผู้สูงอำยุในเมืองส่วนใหญ่มักจะไม่ออกกำลั
ง ก ำ ย มี พ ฤ ติ ก ร ร ม เ ก็ บ ตั ว อ ยู่ แ ต่ บ้ ำ น
ซึ่งต่ำงจำกผู้สูงอำยุในชนบทที่ชอบเดินเล่นไปหำเพื่อนบ้ำนบริเวณ
ใ ก ล้เคี ยงและ ใ น ช น บ ท มัก จ ะ มีงำน อ ดิเร ก ม ำก ก ว่ำ เช่ น
ก ำ ร ถั ก ท อ ผ้ ำไ ห ม ก ำ ร เลี้ ย ง ห ม่ อ น จั ก ร ส ำ น เป็ น ต้ น
จึงทำให้ผู้สูงอำยุในชนบทไม่มีควำมเครียดเท่ำกับผู้สูงอำยุในชุมช
นเมืองที่มีควำมเค รียด จำกก ำรปรับ ตัวห ลังจำก อำยุเก ษียณ
ทำให้ผู้สูงอำยุต้องอยู่บ้ำน ไม่ได้ท ำงำน (กรมอนำมัย. 2556)
ในกำรแก้ปัญหำโรคเรื้อรังจึงมีควำมจำเป็นอย่ำงยิ่งที่จะได้รับกำรพั
ฒนำพฤติกรรมของผู้สูงอำยุในชุมชนเมืองผู้วิจัยจึงสนใจที่จะศึกษำ
ใ น ช ม ร ม ผู้ สู ง อ ำ ยุ ตั ก สิ ล ำ น ค ร
6
ซึ่ ง เ ป็ น ป ร ะ ช ำ ก ร ตั ว แ ท น ข อ ง ชุ ม ช น เ มื อ ง
ทั้งนี้เพื่อเป็นแนวทำงในกำรพัฒนำพฤติกรรมสุขภำพในชุมชนชนบ
ทต่อไป
จ ำ ก ส ถ ำ น ก ำ ร ณ์ จ ำ น ว น ป ร ะ ช ำ ก ร ผู้ สู ง อ ำ ยุ
จังหวัดมหำสำรคำม พบว่ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจำก 91,543 คน ในปี
พ . ศ . 2555 เ ป็ น 92,457 ใ น ปี 2556
แนวโน้มสถำนกำรณ์ป่วยด้วยโรคเรื้อรังเพิ่มขึ้นทุกปี จำก 21,578
ค น ใ น ปี พ .ศ . 2555 เป็ น 22,574 ค น ใ น ปี พ .ศ . 2556
จ ำก ส ถ ำน ก ำร ณ์ ข้ อมู ล ก ำร ต ร ว จ สุ ข ภ ำพ ข อ งผู้ สู งอำ ยุ
ในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร เทศบำลเมืองจังหวัดมหำสำรคำม
ในปี พ.ศ. 2556 ซึ่งมีจำนวนผู้สูงอำยุในชมรมทั้งหมด 450 คน
โดยมีผู้สูงอำยุที่ผ่ำนกำรตรวจสุขภำพจำนวนทั้งสิ้น 442 คน พบว่ำ
มีผู้สูงอำยุที่อยู่ในกลุ่มป่วย 139 รำย คิดเป็น ร้อยละ 31.4 5
โด ยป่วยด้วยโร ค เบ ำห วำน 43 รำย คิ ด เป็น ร้อยละ 30.93
ป่วยด้วยโรคควำมดันโลหิตสูง 52 รำย คิด เป็น ร้อยละ37.41
ป่วยด้วยโรคเบำหวำนและควำมดันโลหิตสูง 20 รำย คิดเป็นร้อยละ
14.39 และป่วยด้วยโรค อื่น ๆ 24 รำย คิด เป็น ร้อยละ 17.27
พบกลุ่มเสี่ยง 97 รำย คิดเป็นร้อยละ 21.94 พบกลุ่มปกติ 206 รำย
คิ ด เ ป็ น ร้ อ ย ล ะ 46.61 ( ก ลุ่ ม ง ำ น เว ช ก ร ร ม สั ง ค ม
โรงพยำบำลมหำสำรคำม, 2556)
จ ำ ก ค ว ำ ม เป็ น ม ำ แ ล ะ ส ภ ำ พ ปั ญ ห ำ ดั ง ก ล่ ำ ว
ผู้วิจัยจึงมีควำมสนใจที่จะศึกษำพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเองข
องผู้สูงอำยุใน ชมรมตักสิลำน คร เทศบ ำลเมืองมหำสำรค ำม
โดยผู้วิจัย ได้นำรูป แบบ PRECEDE Framework Model ของ
Green and Kreuter (1980)
ซึ่งใช้ศึกษำและอธิบ ำยพ ฤติก รรมสุขภำพ ข องบุคค ลมำใ ช้
7
เป็นแนวทำงในกำรศึกษำพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเองของผู้สูง
อ ำ ยุ ใ น ช ม ร ม ผู้ สู ง อ ำ ยุ ตั ก สิ ล ำ น ค ร
จึงมีควำมสำคัญและจำเป็นเพื่อให้ได้ข้อมูลพื้นฐำนที่เป็นประโยชน์ใ
นก ำรวำงแผน และก ำห นด นโยบำย วำงแผน งำน และกลวิธี
ในกำรพัฒนำพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเองของผู้สูงอำยุ
ตำมหลัก 5อ.ของกรมอนำมัย ให้มีสุขภำพอนำมัยที่สมบูรณ์แข็งแรง
อันจะนำไปสู่กำรมีสุขภำวะที่ดีและส่งผลต่อกำรมีคุณภำพชีวิตที่ดีต่อ
ไป
1.2 คำถำมกำรศึกษำ
1. พ ฤ ติก รร มก ำรดูแลสุข ภำพ ต น เองข องผู้สูงอำยุ
ในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร เทศบำลเมืองมหำสำรคำมเป็นอย่ำงไร
2.
ปัจจัยใดที่มีผลต่อพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเองของผู้สูงอำยุ
ในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร เทศบำลเมืองมหำสำรคำม
1.3 วัตถุประสงค์กำรศึกษำ
วัตถุประสงค์ทั่วไป
เพื่อศึกษำปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเองของผู้สูง
อำยุ ในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร เทศบำลเมืองมหำสำรคำม
วัตถุประสงค์เฉพำะ
8
1.
เพื่อศึกษำปัจจัยทำงชีวสังคมของผู้สูงอำยุในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำน
คร เทศบำลเมืองมหำสำรคำม
2.
เพื่อศึกษำพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเองของผู้สูงอำยุ
ในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร เทศบำลเมืองมหำสำรคำม
3. เพื่อศึกษำปัจจัยนำ
ปัจจัยเอื้อและปัจจัยเสริมของผู้สูงอำยุในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร
เทศบำลเมืองมหำสำรคำม
4. เพื่อศึกษำควำมสัมพันธ์ของปัจจัยนำ ปัจจัยเอื้อ
และปัจจัยเสริมกับพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเองของผู้สูงอำยุใน
ชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร เทศบำลเมืองมหำสำรคำม
1.4 สมมุติฐำนกำรศึกษำ
1.
ปัจจัยทำงชีวสังคมมีควำมสัมพันธ์กับพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเ
องของผู้สูงอำยุตำมหลัก5อ. ในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร
เทศบำลเมืองมหำสำรคำม
2.
ปัจจัยนำมีควำมสัมพันธ์กับพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเองของผู้สู
งอำยุ ในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร เทศบำลเมืองมหำสำรคำม
3.
ปัจจัยเอื้อมีควำมสัมพันธ์กับพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเองของผู้
สูงอำยุ ในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร เทศบำลเมืองมหำสำรคำม
4.
ปัจจัยเสริมมีควำมสัมพันธ์กับพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเองของ
ผู้สูงอำยุ ในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร เทศบำลเมืองมหำสำรคำม
9
1.5 ขอบเขตกำรศึกษำ
กำรศึกษำวิจัยในครั้งนี้ เป็นกำรศึกษำเชิ งพ รรณ น ำ
( Descriptive Study)
ได้ศึกษำเกี่ยวกับกำรดูแลสุขภำพตนเองของผู้สูงอำยุตำมหลัก5อ.
ประชำกรที่ศึกษำในครั้งนี้เป็นผู้สูงอำยุในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร
เ ท ศ บ ำ ล เ มื อ ง ม ห ำ ส ำ ร ค ำ ม จ ำ น ว น 450
ค น จ ำ น ว น ก ลุ่ ม ตั ว อ ย่ ำ ง ทั้ ง ห ม ด 206 ค น
ผู้สูงอำยุทั้งเพ ศชำยและเพ ศห ญิ งที่มีตั้งแต่อำยุ 60ปีขึ้น ไ ป
ใน ชมร มผู้สูงอำยุตั ก สิลำน ค ร เท ศบ ำลเมืองมห ำสำร ค ำม
ระยะเวลำในกำรเก็บข้อมูลระหว่ำงเดือนตุลำคมถึงเดือนพฤศจิกำยน
พ.ศ. 2556
1.6 ตัวแปรในกำรศึกษำ
ตัวแปรต้น ประกอบด้วย
1. ปัจจัยทำงชีวสังคม ได้แก่ เพศ อำยุ สถำนภำพสมรส
รำยได้ ที่อยู่อำศัย อำชีพ ระดับกำรศึกษำ กำรพักอำศัย
กำรตรวจร่ำงกำย 1 ปีที่ผ่ำนมำ โรคประจำตัว
2. ปัจจัยนำ ได้แก่ ควำมรู้ เจตคติ
3. ปัจจัยเอื้อ ได้แก่ กำรเข้ำถึงกำรบริกำรสุขภำพ
กำรรับรู้กำรส่งเสริมในชมรมผู้สูงอำยุ
4. ปัจจัยเสริม ได้แก่
กำรสนับสนุนจำกบุคลำกรทำงกำรแพทย์และบุคคลในครอบครัวหรื
อบุคคลใกล้ชิด กำรได้รับข่ำวสำรจำกสื่อต่ำงๆ
ตัวแปรตำม
10
คือ พ ฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตน เองของผู้สูงอำยุ
ในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร เทศบำลเมืองมหำสำรคำม ตำมหลัก 5
อ. ได้แก่ อำหำร ออกกำลังกำย อำรมณ์ อดิเรก และอนำมัย
1.7 นิยำมศัพท์เฉพำะในกำรศึกษำ
ปั จ จั ย น ำ ห ม ำ ย ถึ ง
ปัจจัยภำยในตัวบุคคลที่เป็นปัจจัยพื้นฐำนและก่อให้เกิดแรงจูงใจใน
ก ำ ร แ ส ด ง พ ฤ ติ ก ร ร ม ข อ ง บุ ค ค ล ไ ด้ แ ก่
ควำมรู้เกี่ยวกับกำรดูแลสุขภำพ เจตคติกำรดูแลสุขภำพ
ปั จ จั ย เ อื้ อ ห ม ำ ย ถึ ง
สิ่งเอื้อต่อกำรปฏิบัติกิจกรรมกำรดูแลสุขภำพให้ง่ำยขึ้น ซึ่งได้แก่
ก ำ ร เ ข้ ำ ถึ ง ก ำ ร บ ริ ก ำ ร สุ ข ภ ำ พ
กำรรับรู้พฤติกรรมกำรส่งเสริมพฤติกรรมสุขภำพในชมรมผู้สูงอำยุ
ปั จ จั ย เ ส ริ ม ห ม ำ ย ถึ ง
ปัจจัยภำยนอกที่เป็นแรงเสริมหรือแรงกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมกำรดู
แ ล สุ ข ภ ำ พ ป ร ะ ก อ บ ด้ ว ย
กำรสนับสนุนจำกบุคลำกรทำงกำรแพทย์และบุคคลในครอบครัวหรื
อบุคคลใกล้ชิด กำรได้รับข่ำวสำรจำกสื่อต่ำงๆ
ปัจจัยทำงชีวสังคม หมำยถึง ลักษณะพื้นฐำนของบุคคล
ที่กำหนดไว้ดังนี้ คือ เพศ อำยุ สถำนภำพสมรส รำยได้ ที่อยู่อำศัย
อำชีพ ระดับกำรศึกษำ สถำนที่พักอำศัย ผู้ที่พักอำศัยอยู่ด้วย
ภำวะสุขภำพ
พ ฤ ติ ก ร ร มก ำร ดู แลสุ ข ภ ำพ ต ำมห ลัก 5อ. ห มำยถึ ง
กำรแสดงออกหรือกำรกระทำของผู้สูงอำยุในกำรเลือกรับประทำนอ
ำหำรที่มีประโยชน์ (อ.อำหำร) กำรออกกำลังกำยอย่ำงเหมำะสม
(อ.ออ ก ก ำลั งก ำย) ก ำร มีอ ำร ม ณ์ ที่ แ จ่ม ใ ส (อ .อำร ม ณ์ )
ก ำ ร เ ลื อ ก ง ำ น อ ดิ เ ร ก ที่ ท ำ แ ล้ ว มี ค ว ำ ม สุ ข
(อ.อดิเรก)และกำรหมั่นตรวจสุขภำพและดูแลสุขภำพร่ำงกำยอยู่เสม
อ (อ.อนำมัย)
11
ผู้ สู งอ ำ ยุ ห ม ำ ย ถึ ง ผู้ ที่ มี อ ำยุ ตั้ งแ ต่ 60 ปี ขึ้ น ไ ป
ทั้ ง เ พ ศ ช ำ ย แ ล ะ เ พ ศ ห ญิ ง
โดยกำรนับอำยุเป็นปีเต็มและเป็น ผู้ที่สำมำรถพูดคุยได้รู้เรื่อง
โต้ตอบได้ด้วยตนเอง ไม่เป็นผู้พิกำร
ชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำน คร เท ศบำลเมืองมหำสำรคำม
ห ม ำ ย ถึ ง ก ลุ่ ม ผู้ สู ง อ ำ ยุ ที่ ม ำ ร ว ม ตั ว กั น
โดยมีจุดมุ่งหมำยที่จะช่วยพัฒนำผู้สูงอำยุทั้งทำงด้ำนร่ำงกำย
อำรมณ์ และสังคมร่วมกัน
1.8 ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ
1.
ทรำบถึงปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเองของผู้สูงอ
ำยุ ในชมรมผู้สูงอำยุ
ตักสิลำนคร เทศบำลเมืองมหำสำรคำม
2.
นำผลกำรศึกษำที่ได้ไปวำงแผนเพื่อกำหนดนโยบำยในกำรดำเนินง
ำนส่งเสริมสุขภำพของผู้สูงอำยุและพัฒนำกำรจัดรูปแบบในกำรดำเ
นินงำนด้ำนสุขภำพในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร
เทศบำลเมืองมหำสำรคำม
3. ใช้เป็นแนวทำงในกำรศึกษำค้นคว้ำเพิ่มเติม
เพื่อพัฒนำควำมรู้
แนวทำงกำรปฏิบัติงำนและงำนวิจัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องต่อไป

More Related Content

Similar to บทที่1

วิชาการพยาบาลผู้สูงอายุ
วิชาการพยาบาลผู้สูงอายุ วิชาการพยาบาลผู้สูงอายุ
วิชาการพยาบาลผู้สูงอายุ
pueniiz
 
แนวทางการใช้หลักพุทธธรรมของผู้สูงวัย
แนวทางการใช้หลักพุทธธรรมของผู้สูงวัยแนวทางการใช้หลักพุทธธรรมของผู้สูงวัย
แนวทางการใช้หลักพุทธธรรมของผู้สูงวัย
Padvee Academy
 
ผลกระทบสังคมวัฒนธรรมต่อประเทศไทยในการเป็นประชาคมอาเซียน
ผลกระทบสังคมวัฒนธรรมต่อประเทศไทยในการเป็นประชาคมอาเซียนผลกระทบสังคมวัฒนธรรมต่อประเทศไทยในการเป็นประชาคมอาเซียน
ผลกระทบสังคมวัฒนธรรมต่อประเทศไทยในการเป็นประชาคมอาเซียน
Taraya Srivilas
 
ระบบบริการปฐมภูมิหมออนามัย
ระบบบริการปฐมภูมิหมออนามัยระบบบริการปฐมภูมิหมออนามัย
ระบบบริการปฐมภูมิหมออนามัย
Chuchai Sornchumni
 
สวัสดิการผู้สูงอายุ
สวัสดิการผู้สูงอายุสวัสดิการผู้สูงอายุ
สวัสดิการผู้สูงอายุ
primpatcha
 
ออกกำลังกาย ใจ1-189
ออกกำลังกาย ใจ1-189ออกกำลังกาย ใจ1-189
ออกกำลังกาย ใจ1-189
Raveewin Bannsuan
 
วิชาการพยาบาลผู้สูงอายุ (1)
วิชาการพยาบาลผู้สูงอายุ (1)วิชาการพยาบาลผู้สูงอายุ (1)
วิชาการพยาบาลผู้สูงอายุ (1)
pueniiz
 
แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์กองทุนหลักประกันสุขภา1
แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์กองทุนหลักประกันสุขภา1แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์กองทุนหลักประกันสุขภา1
แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์กองทุนหลักประกันสุขภา1
Thanom Sak
 

Similar to บทที่1 (20)

THAILAND consumer trend
 THAILAND  consumer trend   THAILAND  consumer trend
THAILAND consumer trend
 
ABC.pdf
ABC.pdfABC.pdf
ABC.pdf
 
ABC.pdf
ABC.pdfABC.pdf
ABC.pdf
 
ผู้ใหญ่ปอย --ประวัติศาสตร์ฉบับย่อของลัทธิเสรีนิยมใหม่ เชื่อมโยง
ผู้ใหญ่ปอย --ประวัติศาสตร์ฉบับย่อของลัทธิเสรีนิยมใหม่ เชื่อมโยงผู้ใหญ่ปอย --ประวัติศาสตร์ฉบับย่อของลัทธิเสรีนิยมใหม่ เชื่อมโยง
ผู้ใหญ่ปอย --ประวัติศาสตร์ฉบับย่อของลัทธิเสรีนิยมใหม่ เชื่อมโยง
 
คู่มือมาตรฐานคลินิกผู้สูงอายุคุณภาพ
คู่มือมาตรฐานคลินิกผู้สูงอายุคุณภาพ คู่มือมาตรฐานคลินิกผู้สูงอายุคุณภาพ
คู่มือมาตรฐานคลินิกผู้สูงอายุคุณภาพ
 
วิชาการพยาบาลผู้สูงอายุ
วิชาการพยาบาลผู้สูงอายุ วิชาการพยาบาลผู้สูงอายุ
วิชาการพยาบาลผู้สูงอายุ
 
เบญจศีล
เบญจศีลเบญจศีล
เบญจศีล
 
แนวทางการใช้หลักพุทธธรรมของผู้สูงวัย
แนวทางการใช้หลักพุทธธรรมของผู้สูงวัยแนวทางการใช้หลักพุทธธรรมของผู้สูงวัย
แนวทางการใช้หลักพุทธธรรมของผู้สูงวัย
 
ผลกระทบสังคมวัฒนธรรมต่อประเทศไทยในการเป็นประชาคมอาเซียน
ผลกระทบสังคมวัฒนธรรมต่อประเทศไทยในการเป็นประชาคมอาเซียนผลกระทบสังคมวัฒนธรรมต่อประเทศไทยในการเป็นประชาคมอาเซียน
ผลกระทบสังคมวัฒนธรรมต่อประเทศไทยในการเป็นประชาคมอาเซียน
 
พระปกเกล้า20170527
พระปกเกล้า20170527พระปกเกล้า20170527
พระปกเกล้า20170527
 
อยากสุขภาพดีต้องมี 3อ. สำหรับวัยสูงอายุ
อยากสุขภาพดีต้องมี 3อ. สำหรับวัยสูงอายุอยากสุขภาพดีต้องมี 3อ. สำหรับวัยสูงอายุ
อยากสุขภาพดีต้องมี 3อ. สำหรับวัยสูงอายุ
 
ระบบบริการปฐมภูมิหมออนามัย
ระบบบริการปฐมภูมิหมออนามัยระบบบริการปฐมภูมิหมออนามัย
ระบบบริการปฐมภูมิหมออนามัย
 
สวัสดิการผู้สูงอายุ
สวัสดิการผู้สูงอายุสวัสดิการผู้สูงอายุ
สวัสดิการผู้สูงอายุ
 
Fast food
Fast foodFast food
Fast food
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
ออกกำลังกาย ใจ1-189
ออกกำลังกาย ใจ1-189ออกกำลังกาย ใจ1-189
ออกกำลังกาย ใจ1-189
 
Ummoa101
Ummoa101Ummoa101
Ummoa101
 
เบญจศีล
เบญจศีลเบญจศีล
เบญจศีล
 
วิชาการพยาบาลผู้สูงอายุ (1)
วิชาการพยาบาลผู้สูงอายุ (1)วิชาการพยาบาลผู้สูงอายุ (1)
วิชาการพยาบาลผู้สูงอายุ (1)
 
แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์กองทุนหลักประกันสุขภา1
แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์กองทุนหลักประกันสุขภา1แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์กองทุนหลักประกันสุขภา1
แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์กองทุนหลักประกันสุขภา1
 

บทที่1

  • 1. บทที่ 1 บทนำ 1.1 ควำมเป็นมำและควำมสำคัญของปัญหำ จำกสถำนกำรณ์ประชำกรที่กำลังได้รับควำมสนใจในสังคมโ ล ก ปั จ จุ บั น คงจะหนีไม่พ้นเรื่องโครงสร้ำงประชำกรที่กำลังมีกำรเปลี่ยนแปลงอ ย่ ำ ง ต่ อ เนื่ อ ง เข้ ำ สู่ "สั ง ค ม ผู้ สู ง อ ำ ยุ " ( Aging Society) โด ย ป ร ะ ช ำก ร โ ล ก มี แ น ว โน้ ม เพิ่ ม ขึ้ น ใ น ปี พ .ศ .2 5 4 3 มีจำนวนประชำกรโลกทั้งหมด 6,500 ล้ำนคน มีประชำกรผู้สูงอำยุ 390 ล้ ำ น ค น แ ล ะ ค ำ ด ก ำ ร ณ์ ว่ ำ ใ น ปี พ .ศ . 2 5 6 8 จ ะ มี ป ร ะ ช ำ ก ร โ ล ก ทั้ ง สิ้ น 8 , 2 0 0 ล้ำนคนและในจำนวนนี้จะเป็นประชำกรผู้สูงอำยุจำนวน 1,100 ล้ำนคน (สำนักงำนสถิติแห่งชำติ. 2556) พิ จ ำ ร ณ ำ ใ น แ ต่ ล ะ ภู มิ ภ ำ ค ข อ ง โ ล ก พ บ ว่ ำ ยุโรปเป็นภูมิภำคที่มีสัดส่วนของประชำกรสูงอำยุมำกที่สุดในโลก โด ยเฉ พ ำะป ระ เท ศอิต ำลี ก รีซ เยอร มนี สวิสเซ อร์แลน ด์ ประเท ศเห ล่ำนี้ มีอัตรำเจ ริญพัน ธุ์รวมต่ำกว่ำระดับท ด แท น มี อั ต ร ำ ต ำ ย ข อ ง ป ร ะ ช ำ ก ร ค่ อ น ข้ ำ ง ต่ ำ ในขณะที่แอฟริกำเป็นภูมิภำคที่มีโครงสร้ำงของประชำกรวัยเด็กมำ ก ก ว่ ำ ป ร ะ ช ำ ก ร วั ย สู ง อ ำ ยุ มีอัตรำเจริญพันธุ์รวมและอัตรำตำยของประชำกรค่อนข้ำงสูง ประชำกรมีอำยุขัยเฉลี่ยต่ำ (ศูนย์อนำมัยที่ 5 นครรำชสีมำ. 2555) อ ง ค ์ก ำ ร ส ห ป ร ะ ช ำ ช ำ ต ิ ( UN) ไ ด ้น ิย ำ ม ว ่ำ ประเทศใดมีประชำกรอำยุ 60 ปีขึ้นไป เป็นสัดส่วนเกิน 10%
  • 2. 2 ห รืออ ำยุ 65 ปีขึ้ น ไ ป เกิน 7% ข องป ร ะ ช ำก ร ทั้งป ร ะเท ศ ถือว่ำประเท ศนั้นได้ก้ำวเข้ำสู่สังคมผู้สูงอำยุ (Aging Society) แ ล ะ จ ะ เป็ น สั งค ม ผู้ สู งอ ำ ยุ โ ด ย ส ม บู ร ณ์ (Aged Society) เมื่อสัดส่วนประชำกรอำยุ 60 ปีขึ้นไปเพิ่มเป็น 20% และอำยุ 65 ปีขึ้นไป เพิ่มเป็น 14% โดยประเทศไทย ได้นิยำมคำว่ำ “ผู้สูงอำยุ” ไว้ใน พระรำชบัญญัติผู้สูงอำยุ พ.ศ. 2546 ว่ำหมำยถึง “ผู้ที่มีอำยุ 60 ปีขึ้นไป” (กรมอนำมัย. 2556) ข ณ ะ นี้ โล ก ก้ ำวเข้ ำสู่สั งค มผู้ สู งอำยุ เรี ยบ ร้อ ยแ ล้ ว เนื่องจ ำก ป ระ ชำก รผู้สูงที่ มีอำยุ 65 ปีขึ้น ไป เกิน ร้อยละ 7 ข ณ ะ ที่ จ ำก ข้ อมู ล ข องส ถ ำบั น วิ จัย ป ร ะ ช ำก ร แล ะ สั งค ม มหำวิทยำลัยมหิดล ในปี 2555 พบว่ำโลกมีประชำกรจำนวน 7,058 ล้ำนค น มีผู้สูงอำยุที่มีอำยุ 65 ปีขึ้น ไป จำนวน 565 ล้ำน ค น คิดเป็นร้อยละ 8 ขณะที่ผู้สูงอำยุของประเทศไทยมีอำยุ 65 ปีขึ้นไป มีมำกถึงร้อยละ 12.59 ซึ่งถือว่ำมำกที่สุดใน ประเท ศอำเซียน (กรมอนำมัย. 2556) ประชำกรในประเทศอำเซียนปัจจุบันก็ได้เข้ำสู่สังคมสูงวัยแล้ วเช่นเดียวกัน (ร้อยละ 7) และในอีกประมำณ 27 ปีข้ำงหน้ำ คือ พ .ศ. 2583 อำเซียน จะเริ่มเข้ำสู่ “สังคมสูงวัยระดับ สุด ยอด ” เมื่อเปรียบเทียบประชำกรสูงวัยในแต่ละประเทศ พ บว่ำ ใน ปี 2556ประเทศสิงคโปร์แก่ที่สุดในอำเซียน (12%) รองลงมำคือ ไทย (11%) และเวียด น ำม (7%) และค ำด ป ร ะมำณ ว่ำ ใน อีก 27 ปี ข้ ำ ง ห น้ ำ คื อ พ . ศ . 2583 ทั้ ง ส ำ ม ป ร ะ เท ศ ก็ จ ะ เข้ ำ สู่ สั ง ค ม สู ง วั ย ร ะ ดั บ สุ ด ย อ ด ส ำ ห รั บ ป ร ะ เท ศ บ รู ไ น กั ม พู ช ำ ล ำ ว แ ล ะ ฟิ ลิ ป ปิ น ส์ ถือไ ด้ว่ำยั งเป็นป ระเท ศที่มีสัด ส่วน ผู้สูงอำยุน้อยใน ปัจ จุบัน
  • 3. 3 ซึ่งจัดอยู่ในก ลุ่มประเท ศเด็ก ในข ณ ะที่ประเทศอินโดนีเซีย เ มี ย น ม ำ ร์ แ ล ะ ม ำ เ ล เ ซี ย จัดเป็นประเทศที่กำลังเข้ำสู่สังคมสูงวัยในปัจจุบัน อย่ำงไรก็ตำม ในอีกไม่ถึง10 ปีข้ำงหน้ำทั้งสำมประเทศนี้จะเข้ำสู่สังคมสูงวัยอย่ำงเ ต็ ม ตั ว แ ล ะ ใ ช้ เ ว ล ำ อี ก เ พี ย ง ไ ม่ เ กิ น 17 ปี จะเข้ำสู่สังคมสูงวัยอย่ำงสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2583 (กรมอนำมัย. 2556) สำหรับประเทศไทยมีประชำกรผู้สูงอำยุเป็นอันดับที่ 19 ของโลก และจำกกำรศึกษำประชำกรที่มีอำยุ 60 ปีขึ้นไป พบว่ำ อัตรำส่วนของผู้สูงอำยุเพิ่มขึ้นอย่ำงต่อเนื่อง จำกร้อยละ 8.11 ในปี พ .ศ . 2538 เ พิ่ ม ขึ้ น ร้ อ ย ล ะ 9.19 ใ น ปี พ .ศ . 2543 และ คำด ว่ำจ ะเพิ่มสูงขึ้น เป็น ร้อยละ 15.28 ใ น ปี พ .ศ. 2563 (สำนักส่งเสริมสุขภำพ, 2556) ประเทศไทยได้เริ่มเข้ำสู่สังคมผู้สูงอำยุ (Aging Society) ตั้ ง แ ต่ พ .ศ .2 5 4 7 ป ร ะ เท ศ ไ ท ย มี ป ร ะ ช ำ ก ร อ ำ ยุ 6 0 ปีขึ้นไปต่อประชำกรทั้งหมดทุกช่วงอำยุ คิดเป็นร้อยละ 10.18 ทั้งนี้ ไ ด้ มี ก ำ ร ค ำ ด ป ร ะ ม ำ ณ กั น ไ ว้ ว่ ำ ประเท ศไทยจะกลำยเป็น สังคมผู้สูงอำยุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) ใ น ปี พ .ศ . 2 5 7 0 ค น ไ ท ย เกื อ บ 1 ใ น 4 เป็ น ผู้ สู ง อ ำ ยุ แ ล ะ ป ร ะ ช ำ ก ร ร ว ม มี แ น ว โ น้ ม ล ด ล ง ส่ ว น ป ร ะ ช ำ ก ร สู ง วั ย ต้ น มี แ น ว โ น้ ม ล ด ล ง ขณะที่ประชำกรสูงอำยุที่ช่วยเหลือตัวเองได้และช่วยเหลือตัวเองไม่ ได้มีแน วโน้มเพิ่มขึ้ น และมีสัด ส่วน เป็น ห ญิ งมำก ก ว่ำชำย ภ ำค ต ะ วั น อ อ ก เฉี ย ง เห นื อ มี จ ำน ว น ผู้ สู ง อ ำยุ ม ำก ที่ สุ ด ขณะที่กรุงเทพมหำนครจะมีจำนวนผู้สูงอำยุเพิ่มขึ้นอย่ำงรวดเร็ว (สำนักส่งเสริมสุขภำพ, 2556)
  • 4. 4 ผ ล ก ร ะ ท บ จ ำ ก ก ำ ร เ ป็ น สั ง ค ม ผู้ สู ง อ ำ ยุ ภำระพึ่งพิงมีแนวโน้มสูงขึ้นส่งผลให้วัยแรงงำนมีภำระในกำรดูแลป ร ะ ช ำ ก ร วั ย เ ด็ ก แ ล ะ วั ย สู ง อ ำ ยุ เ พิ่ ม ม ำ ก ขึ้ น ภำระค่ำใช้จ่ำยของภำครัฐและภำคครัวเรือนในกำรดูแลผู้สูงอำยุจะเ พิ่มสูงขึ้น ก ระท บต่อฐำน ะทำงกำรเงินกำรค ลังข องประเท ศ รูปแบบของกำรเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นส่งผลต่อ กำรจัด บ ริก ำร ด้ำน สุข ภำพ ทั้งใน เชิงป ริมำณ และคุณ ภำพ กำรผลิตสินค้ำและบริกำรพื้นฐำนจะต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้สำมำรถ ต อ บ ส น อ ง ค ว ำ ม ต้ อ ง ก ำ ร ข อ ง ผู้ สู ง อ ำ ยุ ใ ห้ ม ำ ก ขึ้ น ประเทศไทยที่เป็นสังคมผู้สูงอำยุจะขำดแคลนแรงงำนซึ่งส่งผลให้มี ก ำ ร เ ค ลื่ อ น ย้ ำ ย แ ร ง ง ำ น อ ย่ ำ ง เ ส รี ม ำ ก ขึ้ น (สำนักงำนคณะกรรมกำรพัฒนำกำรเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ. 2552) สถำนกำรณ์โรคเรื้อรังของผู้สูงอำยุมีสำเหตุจำกพฤติกรรมกำ ร ด ำ ร ง ชี วิ ต ถึงแม้ควำมก้ำวหน้ำทำงวิทยำศำสตร์กำรแพทย์และสำธำรณสุขและ กำรกระจำยบริกำรสำธำรณสุขที่กว้ำงขวำงครอบคลุมในทุกพื้นที่ จะส่งผลให้ผู้สูงอำยุโดยรวมมีสุขภำพที่ดีและมีอำยุยืนยำวขึ้นแต่จำ กพฤติกรรมกำรดำรงชีวิตและพฤติกรรมกำรบริโภคไม่เหมำะสม ส่งผลทำให้ผู้สูงอำยุมีแนวโน้มกำรเจ็บป่วยด้วยโรคควำมดันโลหิตสู งและโรคเบำหวำน ซึ่งเป็นโรคเรื้อรังที่ป้องกันได้เพิ่มมำกขึ้น โ ด ย ใ น ช่ ว ง 10 ก ว่ ำ ปี ที่ ผ่ ำ น ม ำ พบว่ำผู้สูงอำยุมีกำรเจ็บป่วยด้วยโรคควำมดันโลหิตสูงเพิ่มจำกร้อยล ะ 25.0 ใ น ปี 2537 เ ป็ น ร้ อ ย ล ะ 31.7 ใ น ปี 2550 แล ะ โร ค เบ ำห ว ำน เพิ่ มจ ำก ร้อ ย ละ 5.0 เป็ น ร้ อย ล ะ 13.3 ใ น ช่ ว ง เ ว ล ำ เ ดี ย ว กั น สำหรับโรคหัวใจถึงแม้จะมีแนวโน้มลดลงแต่ยังคงมีอัตรำที่ค่อนข้ำง สู ง คื อ ร้ อ ย ล ะ 7 ข อ ง ผู้ สู ง อ ำ ยุ
  • 5. 5 แ ล ะ ส่ ว น ใ ห ญ่ จ ะ ป่ ว ย ด้ ว ย โร ค เรื้ อ รั ง ม ำก ก ว่ ำ 1 โร ค นอกจำกนี้เมื่อพิจำรณำพฤติกรรมที่ส่งเสริมกำรมีสุขภำพที่ดีของผู้สู ง อ ำ ยุ พ บ ว่ ำ ผู้ สู ง อ ำ ยุ เ พี ย ง ร้ อ ย ล ะ 41.2เท่ำนั้นที่มีกำรออกกำลังกำยเป็นประจำและร้อยละ 63.1 ที่ รั บ ป ร ะ ท ำ น ผั ก ส ด แ ล ะ ผ ล ไ ม้ เ ป็ น ป ร ะ จ ำ (สำนักงำนคณะกรรมกำรพัฒนำกำรเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ. 2552) เนื่องจำกปัจจุบันวิถีกำรดำเนินชีวิตของชุมชนชนบทและชุม ชนเมืองมีควำมแตกต่ำงกัน จึงทำให้พบโรคเรื้อรังในผู้สูงอำยุ ใ น ชุ ม ช น เ มื อ ง ม ำ ก ก ว่ ำ ชุ ม ช น ช น บ ท ทั้งนี้เนื่องจำกพฤติกรรมของผู้สูงอำยุในชุมชนเมืองมีควำมเสี่ยงต่อโ รคเรื้อรัง เช่น เบำหวำน ควำมดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคภูมิแพ้ เป็นต้น ซึ่งรวมไปถึงพฤติกรรมกำรบริโภคอำหำรรสจัด ก ำ ร บ ริ โ ภ ค อ ำ ห ำ ร fast food อ ำ ห ำ ร ถุ ง ที่ ป รุ ง ส ำ เ ร็ จ ซึ่ ง อ ำ จ มี สิ่ ง ป น เ ปื้ อ น ซึ่งต่ำงจำกชุมชนชนบทที่มักจะเก็บผักปลอดสำรพิษริมรั้วมำรับประ ท ำ น กั บ น้ ำ พ ริ ก แ ล ะ มั ก รั บ ป ร ะ ท ำ น เ นื้ อ ป ล ำ กำรออกกำลังกำยพบว่ำผู้สูงอำยุในเมืองส่วนใหญ่มักจะไม่ออกกำลั ง ก ำ ย มี พ ฤ ติ ก ร ร ม เ ก็ บ ตั ว อ ยู่ แ ต่ บ้ ำ น ซึ่งต่ำงจำกผู้สูงอำยุในชนบทที่ชอบเดินเล่นไปหำเพื่อนบ้ำนบริเวณ ใ ก ล้เคี ยงและ ใ น ช น บ ท มัก จ ะ มีงำน อ ดิเร ก ม ำก ก ว่ำ เช่ น ก ำ ร ถั ก ท อ ผ้ ำไ ห ม ก ำ ร เลี้ ย ง ห ม่ อ น จั ก ร ส ำ น เป็ น ต้ น จึงทำให้ผู้สูงอำยุในชนบทไม่มีควำมเครียดเท่ำกับผู้สูงอำยุในชุมช นเมืองที่มีควำมเค รียด จำกก ำรปรับ ตัวห ลังจำก อำยุเก ษียณ ทำให้ผู้สูงอำยุต้องอยู่บ้ำน ไม่ได้ท ำงำน (กรมอนำมัย. 2556) ในกำรแก้ปัญหำโรคเรื้อรังจึงมีควำมจำเป็นอย่ำงยิ่งที่จะได้รับกำรพั ฒนำพฤติกรรมของผู้สูงอำยุในชุมชนเมืองผู้วิจัยจึงสนใจที่จะศึกษำ ใ น ช ม ร ม ผู้ สู ง อ ำ ยุ ตั ก สิ ล ำ น ค ร
  • 6. 6 ซึ่ ง เ ป็ น ป ร ะ ช ำ ก ร ตั ว แ ท น ข อ ง ชุ ม ช น เ มื อ ง ทั้งนี้เพื่อเป็นแนวทำงในกำรพัฒนำพฤติกรรมสุขภำพในชุมชนชนบ ทต่อไป จ ำ ก ส ถ ำ น ก ำ ร ณ์ จ ำ น ว น ป ร ะ ช ำ ก ร ผู้ สู ง อ ำ ยุ จังหวัดมหำสำรคำม พบว่ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจำก 91,543 คน ในปี พ . ศ . 2555 เ ป็ น 92,457 ใ น ปี 2556 แนวโน้มสถำนกำรณ์ป่วยด้วยโรคเรื้อรังเพิ่มขึ้นทุกปี จำก 21,578 ค น ใ น ปี พ .ศ . 2555 เป็ น 22,574 ค น ใ น ปี พ .ศ . 2556 จ ำก ส ถ ำน ก ำร ณ์ ข้ อมู ล ก ำร ต ร ว จ สุ ข ภ ำพ ข อ งผู้ สู งอำ ยุ ในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร เทศบำลเมืองจังหวัดมหำสำรคำม ในปี พ.ศ. 2556 ซึ่งมีจำนวนผู้สูงอำยุในชมรมทั้งหมด 450 คน โดยมีผู้สูงอำยุที่ผ่ำนกำรตรวจสุขภำพจำนวนทั้งสิ้น 442 คน พบว่ำ มีผู้สูงอำยุที่อยู่ในกลุ่มป่วย 139 รำย คิดเป็น ร้อยละ 31.4 5 โด ยป่วยด้วยโร ค เบ ำห วำน 43 รำย คิ ด เป็น ร้อยละ 30.93 ป่วยด้วยโรคควำมดันโลหิตสูง 52 รำย คิด เป็น ร้อยละ37.41 ป่วยด้วยโรคเบำหวำนและควำมดันโลหิตสูง 20 รำย คิดเป็นร้อยละ 14.39 และป่วยด้วยโรค อื่น ๆ 24 รำย คิด เป็น ร้อยละ 17.27 พบกลุ่มเสี่ยง 97 รำย คิดเป็นร้อยละ 21.94 พบกลุ่มปกติ 206 รำย คิ ด เ ป็ น ร้ อ ย ล ะ 46.61 ( ก ลุ่ ม ง ำ น เว ช ก ร ร ม สั ง ค ม โรงพยำบำลมหำสำรคำม, 2556) จ ำ ก ค ว ำ ม เป็ น ม ำ แ ล ะ ส ภ ำ พ ปั ญ ห ำ ดั ง ก ล่ ำ ว ผู้วิจัยจึงมีควำมสนใจที่จะศึกษำพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเองข องผู้สูงอำยุใน ชมรมตักสิลำน คร เทศบ ำลเมืองมหำสำรค ำม โดยผู้วิจัย ได้นำรูป แบบ PRECEDE Framework Model ของ Green and Kreuter (1980) ซึ่งใช้ศึกษำและอธิบ ำยพ ฤติก รรมสุขภำพ ข องบุคค ลมำใ ช้
  • 7. 7 เป็นแนวทำงในกำรศึกษำพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเองของผู้สูง อ ำ ยุ ใ น ช ม ร ม ผู้ สู ง อ ำ ยุ ตั ก สิ ล ำ น ค ร จึงมีควำมสำคัญและจำเป็นเพื่อให้ได้ข้อมูลพื้นฐำนที่เป็นประโยชน์ใ นก ำรวำงแผน และก ำห นด นโยบำย วำงแผน งำน และกลวิธี ในกำรพัฒนำพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเองของผู้สูงอำยุ ตำมหลัก 5อ.ของกรมอนำมัย ให้มีสุขภำพอนำมัยที่สมบูรณ์แข็งแรง อันจะนำไปสู่กำรมีสุขภำวะที่ดีและส่งผลต่อกำรมีคุณภำพชีวิตที่ดีต่อ ไป 1.2 คำถำมกำรศึกษำ 1. พ ฤ ติก รร มก ำรดูแลสุข ภำพ ต น เองข องผู้สูงอำยุ ในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร เทศบำลเมืองมหำสำรคำมเป็นอย่ำงไร 2. ปัจจัยใดที่มีผลต่อพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเองของผู้สูงอำยุ ในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร เทศบำลเมืองมหำสำรคำม 1.3 วัตถุประสงค์กำรศึกษำ วัตถุประสงค์ทั่วไป เพื่อศึกษำปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเองของผู้สูง อำยุ ในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร เทศบำลเมืองมหำสำรคำม วัตถุประสงค์เฉพำะ
  • 8. 8 1. เพื่อศึกษำปัจจัยทำงชีวสังคมของผู้สูงอำยุในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำน คร เทศบำลเมืองมหำสำรคำม 2. เพื่อศึกษำพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเองของผู้สูงอำยุ ในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร เทศบำลเมืองมหำสำรคำม 3. เพื่อศึกษำปัจจัยนำ ปัจจัยเอื้อและปัจจัยเสริมของผู้สูงอำยุในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร เทศบำลเมืองมหำสำรคำม 4. เพื่อศึกษำควำมสัมพันธ์ของปัจจัยนำ ปัจจัยเอื้อ และปัจจัยเสริมกับพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเองของผู้สูงอำยุใน ชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร เทศบำลเมืองมหำสำรคำม 1.4 สมมุติฐำนกำรศึกษำ 1. ปัจจัยทำงชีวสังคมมีควำมสัมพันธ์กับพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเ องของผู้สูงอำยุตำมหลัก5อ. ในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร เทศบำลเมืองมหำสำรคำม 2. ปัจจัยนำมีควำมสัมพันธ์กับพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเองของผู้สู งอำยุ ในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร เทศบำลเมืองมหำสำรคำม 3. ปัจจัยเอื้อมีควำมสัมพันธ์กับพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเองของผู้ สูงอำยุ ในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร เทศบำลเมืองมหำสำรคำม 4. ปัจจัยเสริมมีควำมสัมพันธ์กับพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเองของ ผู้สูงอำยุ ในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร เทศบำลเมืองมหำสำรคำม
  • 9. 9 1.5 ขอบเขตกำรศึกษำ กำรศึกษำวิจัยในครั้งนี้ เป็นกำรศึกษำเชิ งพ รรณ น ำ ( Descriptive Study) ได้ศึกษำเกี่ยวกับกำรดูแลสุขภำพตนเองของผู้สูงอำยุตำมหลัก5อ. ประชำกรที่ศึกษำในครั้งนี้เป็นผู้สูงอำยุในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร เ ท ศ บ ำ ล เ มื อ ง ม ห ำ ส ำ ร ค ำ ม จ ำ น ว น 450 ค น จ ำ น ว น ก ลุ่ ม ตั ว อ ย่ ำ ง ทั้ ง ห ม ด 206 ค น ผู้สูงอำยุทั้งเพ ศชำยและเพ ศห ญิ งที่มีตั้งแต่อำยุ 60ปีขึ้น ไ ป ใน ชมร มผู้สูงอำยุตั ก สิลำน ค ร เท ศบ ำลเมืองมห ำสำร ค ำม ระยะเวลำในกำรเก็บข้อมูลระหว่ำงเดือนตุลำคมถึงเดือนพฤศจิกำยน พ.ศ. 2556 1.6 ตัวแปรในกำรศึกษำ ตัวแปรต้น ประกอบด้วย 1. ปัจจัยทำงชีวสังคม ได้แก่ เพศ อำยุ สถำนภำพสมรส รำยได้ ที่อยู่อำศัย อำชีพ ระดับกำรศึกษำ กำรพักอำศัย กำรตรวจร่ำงกำย 1 ปีที่ผ่ำนมำ โรคประจำตัว 2. ปัจจัยนำ ได้แก่ ควำมรู้ เจตคติ 3. ปัจจัยเอื้อ ได้แก่ กำรเข้ำถึงกำรบริกำรสุขภำพ กำรรับรู้กำรส่งเสริมในชมรมผู้สูงอำยุ 4. ปัจจัยเสริม ได้แก่ กำรสนับสนุนจำกบุคลำกรทำงกำรแพทย์และบุคคลในครอบครัวหรื อบุคคลใกล้ชิด กำรได้รับข่ำวสำรจำกสื่อต่ำงๆ ตัวแปรตำม
  • 10. 10 คือ พ ฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตน เองของผู้สูงอำยุ ในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร เทศบำลเมืองมหำสำรคำม ตำมหลัก 5 อ. ได้แก่ อำหำร ออกกำลังกำย อำรมณ์ อดิเรก และอนำมัย 1.7 นิยำมศัพท์เฉพำะในกำรศึกษำ ปั จ จั ย น ำ ห ม ำ ย ถึ ง ปัจจัยภำยในตัวบุคคลที่เป็นปัจจัยพื้นฐำนและก่อให้เกิดแรงจูงใจใน ก ำ ร แ ส ด ง พ ฤ ติ ก ร ร ม ข อ ง บุ ค ค ล ไ ด้ แ ก่ ควำมรู้เกี่ยวกับกำรดูแลสุขภำพ เจตคติกำรดูแลสุขภำพ ปั จ จั ย เ อื้ อ ห ม ำ ย ถึ ง สิ่งเอื้อต่อกำรปฏิบัติกิจกรรมกำรดูแลสุขภำพให้ง่ำยขึ้น ซึ่งได้แก่ ก ำ ร เ ข้ ำ ถึ ง ก ำ ร บ ริ ก ำ ร สุ ข ภ ำ พ กำรรับรู้พฤติกรรมกำรส่งเสริมพฤติกรรมสุขภำพในชมรมผู้สูงอำยุ ปั จ จั ย เ ส ริ ม ห ม ำ ย ถึ ง ปัจจัยภำยนอกที่เป็นแรงเสริมหรือแรงกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมกำรดู แ ล สุ ข ภ ำ พ ป ร ะ ก อ บ ด้ ว ย กำรสนับสนุนจำกบุคลำกรทำงกำรแพทย์และบุคคลในครอบครัวหรื อบุคคลใกล้ชิด กำรได้รับข่ำวสำรจำกสื่อต่ำงๆ ปัจจัยทำงชีวสังคม หมำยถึง ลักษณะพื้นฐำนของบุคคล ที่กำหนดไว้ดังนี้ คือ เพศ อำยุ สถำนภำพสมรส รำยได้ ที่อยู่อำศัย อำชีพ ระดับกำรศึกษำ สถำนที่พักอำศัย ผู้ที่พักอำศัยอยู่ด้วย ภำวะสุขภำพ พ ฤ ติ ก ร ร มก ำร ดู แลสุ ข ภ ำพ ต ำมห ลัก 5อ. ห มำยถึ ง กำรแสดงออกหรือกำรกระทำของผู้สูงอำยุในกำรเลือกรับประทำนอ ำหำรที่มีประโยชน์ (อ.อำหำร) กำรออกกำลังกำยอย่ำงเหมำะสม (อ.ออ ก ก ำลั งก ำย) ก ำร มีอ ำร ม ณ์ ที่ แ จ่ม ใ ส (อ .อำร ม ณ์ ) ก ำ ร เ ลื อ ก ง ำ น อ ดิ เ ร ก ที่ ท ำ แ ล้ ว มี ค ว ำ ม สุ ข (อ.อดิเรก)และกำรหมั่นตรวจสุขภำพและดูแลสุขภำพร่ำงกำยอยู่เสม อ (อ.อนำมัย)
  • 11. 11 ผู้ สู งอ ำ ยุ ห ม ำ ย ถึ ง ผู้ ที่ มี อ ำยุ ตั้ งแ ต่ 60 ปี ขึ้ น ไ ป ทั้ ง เ พ ศ ช ำ ย แ ล ะ เ พ ศ ห ญิ ง โดยกำรนับอำยุเป็นปีเต็มและเป็น ผู้ที่สำมำรถพูดคุยได้รู้เรื่อง โต้ตอบได้ด้วยตนเอง ไม่เป็นผู้พิกำร ชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำน คร เท ศบำลเมืองมหำสำรคำม ห ม ำ ย ถึ ง ก ลุ่ ม ผู้ สู ง อ ำ ยุ ที่ ม ำ ร ว ม ตั ว กั น โดยมีจุดมุ่งหมำยที่จะช่วยพัฒนำผู้สูงอำยุทั้งทำงด้ำนร่ำงกำย อำรมณ์ และสังคมร่วมกัน 1.8 ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ 1. ทรำบถึงปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมกำรดูแลสุขภำพตนเองของผู้สูงอ ำยุ ในชมรมผู้สูงอำยุ ตักสิลำนคร เทศบำลเมืองมหำสำรคำม 2. นำผลกำรศึกษำที่ได้ไปวำงแผนเพื่อกำหนดนโยบำยในกำรดำเนินง ำนส่งเสริมสุขภำพของผู้สูงอำยุและพัฒนำกำรจัดรูปแบบในกำรดำเ นินงำนด้ำนสุขภำพในชมรมผู้สูงอำยุตักสิลำนคร เทศบำลเมืองมหำสำรคำม 3. ใช้เป็นแนวทำงในกำรศึกษำค้นคว้ำเพิ่มเติม เพื่อพัฒนำควำมรู้ แนวทำงกำรปฏิบัติงำนและงำนวิจัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องต่อไป