SlideShare a Scribd company logo
4
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ในการจัดทำาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก
(WebBlog) ด้วย Blogger
เรื่องกล้องดิจิตอล คอมแพคนี้ ผู้จัดทำาโครงงานได้ศึกษาเอกสาร
และจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
2.1 ความสำาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์เน็ต
2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อสังคม Social Media
2.3 เว็บบล็อก (WebBlog)
2.1 ความสำาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและ
อินเทอร์เน็ต
1. ด้านการพัฒนาการเมืองการปกครองของประเทศ
2. ด้านสังคม
3. ด้านการคมนาคม
4. ด้านการพัฒนาสาธารณสุข
5. ด้านวงการธุรกิจ
6. ด้านการศึกษา
7. ด้านการบริการสารสนเทศ
8. ด้านวงการบันเทิง
5
2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อสังคม Social Media
2.2.1 ความหมายของ Social Media
สื่อสังคมออนไลน์ที่มีการตอบสนองทางสังคมได้หลาย
ทิศทาง โดยผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต พูดง่ายๆ ก็คือเว็บไซต์ที่
บุคคลบนโลกนี้สามารถมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกันได้นั่นเอง
2.2.2 ประวัติความเป็นมาและพัฒนาการของ
Social Media
ในอดีตโลกมีกาเนินมาประมาณ 4600 ล้านปี เชื่อกันว่า
พัฒนาการตามธรรมชาติทาให้เกิดสิ่งมีชีวิตถือกาเนินบนโลก
ประมาณ 500 ล้านปีที่แล้ว ยุคไดโนเสาร์มีอายุอยู่ในช่วง 200
ล้านปี สิ่งมีชีวิตที่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ ค่อยๆ พัฒนามา คาดคะเนว่า
เมื่อห้าแสนปีที่แล้วมนุษย์สามารถส่งสัญญาณท่าทางสื่อสาร
ระหว่างกันและ พัฒนามาเป็นภาษา มนุษย์สามารถสร้างตัวหนังสือ
และจารึกไว้ตามผนึกถ้า เมื่อประมาณ 5000 ปีที่แล้วกล่าว ได้ว่า
มนุษย์ต้องใช้เวลานานพอสมควรในการพัฒนาตัวหนังสือที่ใช้
แทนภาษาพูด และจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์
สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้ เมื่อประมาณ 5000 ปีที่แล้ว กล่าวได้ว่า
ฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้ เมื่อ
ประมาณ 500 ถึง 800 ปีที่แล้ว เทคโนโลยีเริ่มเข้ามาช่วยในการ
พิมพ์ ทาให้การสื่อสารด้วยข้อความและภาษา เพิ่มขึ้นมาก
เทคโนโลยีพัฒนามาจนถึงการสื่อสารกันโดย ส่งข้อความเป็นเสียง
ทางสายโทรศัพท์ได้ประมาณร้อยกว่า ปีที่แล้ว และเมื่อประมาณห้า
สิบปีที่แล้ว ก็มีการส่งภาพ โทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ทาให้มีการใช้
สารสนเทศในรูปแบบข่าวสารมากขึ้น ในปัจจุบันมีสถานที่วิทยุ
โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ แ ละสื่อต่าง ๆ ที่ใช้ในการกระจ่ายข่าวสาร
มีการแพร่ภาพทางโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเพื่อรายงานเหตุการณ์
สด เห็นได้ชัดว่าเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก บทบาท
ของการพัฒนาเทคโนโลยีรวดเร็วขึ้นเมื่อมีการพัฒนาอุปกรณ์ทาง
ด้านคอมพิวเตอร์และส่วน
2.2.3 ประเภทเว็บไซต์ที่ให้บริการ Social Media
6
ก่อนที่จะพูดถึงประเภทของ Social Media ต่างๆ ขอให้เรา
ทราบว่าทุกประเภทจะมีลักษณะที่ร่วมกันคือการที่ผู้ใช้หรือผู้
บริโภคเป็นคนที่สร้างเนื้อหาดังกล่าวขึ้น หรือที่เรียกว่า Users
Generated Content หรือ Consumer Generated Content
แบ่งได้ประเภทดังนี้
1. Blog – ซึ่งเป็นการลดรูปจากคำาว่า Weblog ซึ่งถือเป็น
ระบบจัดการเนื้อหา (Content Management System: CMS) รูป
แบบหนึ่ง ซึ่งทำาให้ผู้ใช้สามารถเขียนบทความเรียกว่า Post และ
ทำาการเผยแพร่ได้โดยง่าย ไม่ยุ่งยากในการที่จะต้องมานั่งเรียนรู้
ถึงภาษา HTML หรือโปรแกรมทำา web site ทั้งนี้การเรียงของ
เนื้อหาจะเรียงจากเนื้อหาที่มาใหม่สุดก่อน จากนั้นก็ลดหลั่นลงไป
ตามลำาดับของเวลา (Chronological Order) การเกิดของ Blog
เปิดโอกาสให้ใครๆที่มีความสามารถในด้านต่างๆ สามารถเผยแพร่
ความรู้ดังกล่าวด้วยการเขียนได้อย่างเสรี ไม่มีขีดจำากัดเรื่อง
เทคนิคอย่างในอดีตอีกต่อไป ทำาให้เกิด Blog ขึ้นมาจำานวน
มากมาย และเพิ่มเนื้อหาให้กับโลกออนไลน์ได้เป็นจำานวนมหาศาล
อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นอกจากนี้เครื่องมือที่สำาคัญที่ทำาให้เกิด
ลักษณะของ Social คือการเปิดให้เพื่อนๆเข้ามาแสดงความเห็นได้
นั่นเอง ในแง่ของการตลาด Blog อาจจะถูกนำามาใช้ได้ใน 2 รูป
แบบ คือ การที่บริษัทจัดทำา Blog (Corporate Blog) ขึ้นมาเพื่อ
พูดจากับบรรดาลูกค้า และ Blog ที่เขียนจาก Blogger อิสระ ที่มี
ความสามารถเขียนเรื่องที่ตนถนัดและมีผู้ติดตามจำานวนมาก จน
กลายเป็น Marketing Influencer
2. Twitter และ Microblog –อื่นๆ เป็นรูปแบบหนึ่งของ
Blog ที่จำากัดขนาดของการ Post แต่ละครั้งไว้ที่ 140 ตัวอักษร
โดยแรกเริ่มเดิมที ผู้ออกแบบ Twitter ต้องการให้ผู้ใช้เขียนเรื่อง
ราวว่าคุณกำาลังทำาอะไรอยู่ในขณะนี้ (What are you doing?)
แต่กิจการต่างๆกลับนำา Twitter ไปใช้ในทางธุรกิจ ไม่ว่าจะ
เป็นการสร้างการบอกต่อ เพิ่มยอดขาย สร้าง Brand หรือเป็น
เครื่องมือสำาหรับการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) ทั้งนี้เรายัง
สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์บทความใหม่ๆบน
7
Blog ของเราได้ด้วย Twitter นั้นเป็นนิยมขึ้นมากอย่างรวดเร็ว จน
ทำาให้เว็บไซต์ประเภท Social Network ต่างๆ เพิ่ม Feature ที่ให้
ผู้ใช้สามารถบอกได้ว่าตอนนี้กำาลังทำาอะไรกันอยู่ นั้นก็คือการนำา
Microblog เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งด้วยนั้นเอง
3. Social Networking – จากชื่อก็สามารถแปลความหมาย
ได้ว่าเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงเรากับเพื่อนๆจนกลายเป็นสังคม
ทั้งนี้ผู้ใช้จะเริ่มต้นสร้างตัวตนของตนเองขึ้นในส่วนของ Profile
ซึ่งประกกอบด้วยข้อมูลส่วนตัว (Info) รูป (Photo) การจดบันทึก
(Note) หรือการใส่วิดีโอ (Video) และอื่นๆ นอกจากนี้ Social
Networking ยังมีเครื่องมือสำาคัญในการสร้างจำานวนเพื่อนให้มาก
ขึ้น คือ ในส่วนของ Invite Friend และ Find Friend รวมถึงการ
สร้างเพื่อนจากเพื่อนของเพื่อนอีกด้วย นักการตลาดนำา Social
Networking มาใช้ในการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า อาจจะอยู่ในรูป
ของการสร้าง Brand ผ่านเกมส์หรือ Application ต่างๆ หรืออาจ
ใช้เป็นเครื่องมือของ CRM ผ่านทาง Pages และนอกจากนี้ตัว
ลูกค้าเอง หากชื่นชอบในสินค้าหรือบริการ ก็สามารถร่วมกลุ่มกัน
จัดตั้ง Group ขึ้นมาได้ เว็บไซต์ที่มีลักษณะของ Social
Networking มีมากมาย แต่อาจจะแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
ประเภทแรกจะสนใจในการสร้างเครือข่ายระหว่างเพื่อนๆหรือ
ครอบครัว เช่น Facebook, Hi5 หรือ Myspace และอีกประเภท คือ
สนใจในการสร้างเครือข่ายในเชิงธุรกิจ ที่เปิดให้ใส่ Resume และ
ข้อมูลเชิงอาชีพต่างๆ เช่น Linkedin หรือ Plaxo เป็นต้น
4. Media Sharing – เป็นเว็บไซต์ที่เปิดโอกาสให้เรา
สามารถ upload รูปหรือวิดีโอเพื่อแบ่งปันให้กับครอบครัว เพื่อนๆ
หรือแม้กระทั่งเพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณชน นักการตลาด ณ
ปัจจุบันไม่จำาเป็นจะต้องทุ่มทุนในการสร้างหนังโฆษณาที่มีต้นทุน
สูง เราอาจจะใช้กล้องดิจิตอลราคาถูกๆ ถ่ายทอดความคิดเป็นรูป
แบบวิดีโอ จากนั้นนำาขึ้นไปสู่เว็บไซต์ Media Sharing อย่าง
Youtube หากความคิดของเราเป็นที่ชื่นชอบ ก็ทำาให้เกิดการบอก
ต่ออย่างแพร่หลาย หรือกรณีหากกิจการคุณขายสินค้าที่เน้น
ดีไซน์ที่สวยงาม ก็อาจจะถ่ายรูปแล้วนำาขึ้นไปสู่เว็บไซต์อย่าง
8
Flickr เพื่อให้ลูกค้าได้ชม หรืออาจจะใช้เป็นเครื่องมือในการนำา
ชมโรงงาน หรือบรรยากาศในการทำางานของกิจการ เป็นต้น หรือ
อย่างกรณีของ Multiply ที่คนไทยนิยมนำารูปภาพที่ตนเองถ่ายมา
แสดงฝีมือ เหมือนเป็นแกลลอรีส่วนตัว ทำาให้ผู้ว่าจ้างได้เห็นฝีมือ
ก่อนที่จะทำาการจ้าง
5. Social News and Bookmarking – เป็นเว็บไซต์ที่เชื่อม
โยงไปยังบทความหรือเนื้อหาใดในอินเทอร์เน็ต โดยผู้ใช้เป็นผู้ส่ง
และเปิดโอกาสให้คะแนนและทำาการโหวตได้ เป็นเสมือนมหาชน
ช่วยกลั่นกรองว่าบทความหรือเนื้อหาใดนั้นเป็นที่น่าสนใจที่สุด ใน
ส่วนของ Social Bookmarking นั้น เป็นการที่เปิดโอกาสให้คุณ
สามารถทำาการ Bookmark เนื้อหาหรือเว็บไซต์ที่ชื่นชอบ โดยไม่
ขึ้นอยู่กับคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่ง แต่สามารถทำาผ่าน
ออนไลน์ และเนื้อหาในส่วนที่เราทำา Bookmark ไว้นี้ สามารถที่จะ
แบ่งปันให้คนอื่นๆได้ด้วย นักการตลาดจะใช้เป็นเครื่องมือในการ
บอกต่อและสร้างจำานวนคนเข้ามายังที่เว็บไซต์หรือ Campaign
การตลาดที่ต้องการ
6. Online Forums – ถือเป็นรูปแบบของ Social Media ที่
เก่าแก่ที่สุด เป็นเสมือนสถานที่ที่ให้ผู้คนเข้ามาพูดคุยในหัวข้อที่
พวกเขาสนใจ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่อง เพลง หนัง การเมือง กีฬา
สุขภาพ หนังสือ การลงทุน และอื่นๆอีกมากมาย ได้ทำาการแลก
เปลี่ยนความคิดเห็น แสดงข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนถึงการแนะนำา
สินค้าหรือบริการต่างๆ นักการตลาดควนสนใจเนื้อหาที่พูดคุยใน
Forums เหล่านี้ เพราะบางครั้งอาจจะเป็นคำาวิจารณ์เกี่ยวกับตัว
สินค้าและบริการของเรา ซึ่งเราเองสามารถเข้าไปทำาความเข้าใจ
แก้ไขปัญหา ตลอดจนถึงใช้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
เว็บไซต์ประเภท Forums อาจจะเป็นเว็บไซต์ที่เปิดให้แลกเปลี่ยน
ความคิดเห็นกันโดยเฉพาะ หรืออาจจะเป็นส่วนหนึ่งในเว็บไซต์
เนื้อหาต่างๆ จากประเภทของ Social Media ที่กล่าวมาข้างต้น (
อันที่จริงมีมากกว่านี้ แต่ผมเห็นว่ายังไม่ค่อยเป็นที่นิยมในไทยถึง
ไม่ได้กล่าวถึง) จะถูกนักการตลาดนำามาใช้กับสินค้าหรือบริการ
9
ของตนเองในวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป ผมจะได้ลงราย
ละเอียดของแต่ละประเภทในบทต่อๆไป
2.3 เว็บบล็อก (WebBlog)
2.3.1 ความหมายของเว็บบล็อก (WebBlog)
เว็บล็อก (อังกฤษ: weblog) เป็นรูปแบบเว็บไซต์ประเภท
หนึ่ง ซึ่งถูกเขียนขึ้นในลำาดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน ซึ่งจะ
แสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้แรกสุด บล็อกโดยปกติจะประกอบด้วย
ข้อความ ภาพ ลิงก์ ซึ่งบางครั้งจะรวมสื่อต่างๆ ไม่ว่า เพลง หรือ
วิดีโอในหลายรูปแบบได้ จุดที่แตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดย
ปกติคือ บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอ่านข้อมูล สามารถแสดงความคิด
เห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นคนเขียน ซึ่งทำาให้ผู้เขียน
สามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที คำาว่า "บล็อก" ยังใช้เป็นคำากริยา
ได้ซึ่งหมายถึง การเขียนบล็อก และนอกจากนี้ผู้ที่เขียนบล็อกเป็น
อาชีพก็จะถูกเรียกว่า "บล็อกเกอร์" บล็อกเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหา
หลากหลายขึ้นอยู่กับเจ้าของบล็อก โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือ
สื่อสาร การประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่
ผลงาน ในหลายด้านไม่ว่า อาหาร การเมือง เทคโนโลยี หรือข่าว
ปัจจุบัน นอกจากนี้บล็อกที่ถูกเขียนเฉพาะเรื่องส่วนตัวหรือจะเรียก
ว่าไดอารีออนไลน์ ซึ่งไดอารีออนไลน์นี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการ
ใช้บล็อกในปัจจุบัน นอกจากนี้ตามบริษัทเอกชนหลายแห่งได้มี
การจัดทำาบล็อกของทางบริษัทขึ้น เพื่อเสนอแนวความเห็นใหม่
ใหักับลูกค้า โดยมีการเขียนบล็อกออกมาในลักษณะเดียวกับข่าว
สั้น และได้รับการตอบรับจากทางลูกค้าที่แสดงความเห็นตอบกลับ
เข้าไป เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์
2.3.2 ประเภทของเว็บบล็อก
1. แบ่งตามลักษณะของมีเดียที่มีในบล็อกได้แก่
1.1. Linklog บล็อกแบบนี้น่าจะเป็นบล็อกรุ่นแรก ๆ เป็น
บล็อกที่รวมลิ๊งก์ที่เจ้าของบล็อกสนใจเอาไว้ ถ้าคณยังจำาผู้ให้
10
“ ”กำาเนิดคำาว่า บล็อก ที่ชื่อ จอห์น บาจเจอร์ได้ นั่นแหล่ะครับ
robotwisdom.com ของเขาคือตัวอย่างของ linklog นั่นเอง แม้ว่า
จะบล็อกแบบนี้จะเป็นการรวมลิ๊งก์เท่านั้น แต่ก็ไม่เรียงเหมือนว็บ
ไดเร็กทอรี่ เพราะเจ้าของบล็อกจะโพสต์ลิ๊งก์ของเขา 1 – 2 ลิ๊งก์
ต่อโพสต์เท่านั้นครับ ใครที่อยากมีบล็อกเป็นของตนเองแต่ยังนึก
ไม่ออกว่าจะทำาบล็อกแบบไหน linklog น่าจะเป็นการเริ่มต้นการ
ทำาบล็อกได้เป็นอย่างดี
1.2 Photoblog ชื่อก็บอกอยู่แล้วครับว่า Photo บล็อก
ประเภทนี้เน้นในโพสต์ภาพถ่ายที่เจ้าของบล็อกอยากนำาเสนอ และ
มักจะไม่เน้นที่จะเขียนข้อความมากนัก บางบล็อกเรียกได้ว่าภาพ
โดยเจ้าของบล็อกล้วน ๆ เลยครับ
1.3. Vlog ย่อมาจาก Videoblog เป็นบล็อกที่รวมวิดีโอคลิป
ไว้ในบล็อก Vlog เป็นบล็อกที่เรียกได้ว่าเป็นบล็อกที่นิยมทำากัน
มากในอนาคต เพราะการเจริญเติบโตของไฮสปีด อินเตอร์เน็ต
หรือ อินเตอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ ที่ทำาให้การถ่ายทอดเสียง ภาพ
เคลื่อนไหว movie
2. แบ่งตามประเภทเนื้อหา ได้แก่
2.1 บล็อกส่วนตัว(Personal Blog) นำาแสนอความคิดเห็น
กิจวัตรประจำาวันของเจ้าของบล็อกเป็นหลัก
2.2 บล็อกข่าว(News Blog) บล็อกที่นำาเสนอข่าวเป็นหลัก
2.3 บล็อกกลุ่ม(Collaborative Blog) เป็นบล็อกที่เขียนกัน
เป็นกลุ่ม เช่น blognone.com
2.4 บล็อกการเมือง(Politic Blog) ว่าด้วยเรื่องการเมืองล้วน
ๆ
2.5 บล็อกเพื่อสิ่งแวดล้อม(Environment Blog) พูดถึงเรื่อง
ราวของธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อม
2.6 มีเดียบล็อก(Media Blog) เป็นบล็อกที่วิเคราะห์สื่อต่างๆ
สารคดีและสิ่งที่เกี่ยวกับสื่อ เช่น oknation.net/blog/black ของ
สุทธิชัย หยุ่น
2.7 บล็อกบันเทิง(Entertainment Blog) บล็อกที่นำาเสนอ
เรื่องราวบันเทิงทั้งทางจอแก้ว และจอเงิน เรื่องซุบซุดารา กองถ่าย
ฯลฯ
11
2.8 บล็อกเพื่อการศึกษา(Educational Blog) ในโรงเรียน
หรือมหาวิทยาลัยในต่างประเทศมักจะใช้บล็อกเป็นสื่อในการสอน
หรือ แลกเปลี่ยนความคิดกัน
2.9 ติวเตอร์บล็อก(Tutorial Blog) เป็นบล็อกที่นำาเสนอวิธี
การต่าง
3.แบ่งตามรูปแบบของเนื้อหาเฉพาะที่เห็นเด่นชัด
3.1 Filter Blog เป็นบล็อกที่ผู้จัดทำา จะใช้สำาหรับนำาเสนอ
แหล่งข้อมูลที่ตนสนใจ (เว็บเพจหรือเว็บไซต์) โดยปกติมักจะเป็น
ข่าว บทความ หรือความคิดเห็นของบุคคลในวงการที่เผยแพร่ใน
เว็บไซต์ต่าง ๆ อาจเรียกได้ว่า เป็น บล็อก “Bookmark” หรือ มีชื่อ
เฉพาะ ว่า Social Bookmark บล็อกลักษณะนี้ จะนำาเสนอแค่หัวข้อ
เรื่อง และ URL ของเว็บเพจหรือเว็บไซต์ บางทีอาจเพิ่มคำาอธิบาย
เว็บเพจหรือเว็บไซต์นั้น ๆ ได้ด้วย และบางที่อาจจะสามารถเพิ่ม
ความคิดเห็นของผู้จัดทำาบล็อกได้อีกด้วย เป็นเหมือนการกลั่น
กรองข้อมูลให้ทราบว่าเว็บเพจหรือเว็บไซต์ใดกำาลังได้รับความ
นิยม ซึ่งจะเป็นการช่วยจัดลำาดับความน่าเชื่อถือของเว็บเพจหรือ
เว็บไซต์นั้น ๆ ได้เช่นกัน ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้
ได้แก่ http://del.icio.us/ เป็นต้น
3.2 Personal Journal Blog เป็นบล็อกที่ผู้จัดทำา จะใช้
สำาหรับนำาเสนอความคิดเห็นหรือประสบการณ์ของตนเองผ่านข้อ
เขียน โดยอาจจะมีภาพประกอบ หรือมีการเชื่อมโยงออกไปยัง
เว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อให้ข้อมูลดูน่าเชื่อถือหรือมีความน่าสนใจมากยิ่ง
ขึ้น ซึ่งบล็อกลักษณะนี้ เป็นบล็อกตามความเข้าใจของบุคคลทั่วไป
ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่ http://www.exteen.co
m หรือ http://www.blogger.com เป็นต้น
3.3 Photo Blog เป็นบล็อกที่ใช้สำาหรับเก็บภาพ (
ภาพถ่าย, ภาพวาด ฯลฯ) และสามารถใส่รายละเอียดของภาพ ใส่
คำาค้น (tag) ได้ ทำาให้การเก็บภาพเป็นระบบและง่ายต่อการค้นหา
มากขึ้น ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้
ได้แก่ http://www.flickr.com เป็นต้น
3.4 Video Blog หรือ เรียกว่า Vlog เป็นบล็อกที่ใช้สำาหรับ
เก็บวีดิทัศน์ส่วนตัว สามารถใส่รายละเอียดของวีดิทัศน์ ใส่คำาค้น
(tag) ได้ ทำาให้การเก็บวีดิทัศน์เป็นระบบและง่ายต่อการค้นหา
12
มากขึ้น ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่ http://www.aolvideoblo
g.com เป็นต้น
3.5 บล็อกผสม มีลักษณะเป็นบล็อกที่สามารถเก็บข้อมูลต่าง
ๆ ได้หลายประเภท ทั้งเก็บรูปภาพ เก็บเพลง เก็บวีดิโอ เก็บลิงค์
(link) ต่าง ๆ หรือบันทึกประจำาวัน และใส่ปฏิทินรายการงานที่ต้อง
ทำา ฯลฯ ได้ด้วย ปัจจุบันเป็นบริการที่ได้รับความนิยมสูงมาก โดย
มีชื่อเฉพาะด้วย เรียกว่า Social Network Service ซึ่งนอกจากจะ
มีจุดประสงค์เพื่อให้สมาชิกแลกเปลี่ยนข้อมูลต่าง ๆ กันแล้ว ก็ยังมี
จุดประสงค์หลักเพื่อการค้นหาและสะสมเพื่อนจากทั่วโลก
ตัวอย่าง Social NetworkingWebsites ซึ่งให้บริการลักษณะนี้
ได้แก่ http://hi5.com หรือ http://multiply.com หรือ http://sp
aces.live.com เป็นต้น (ซึ่งปัจจุบัน คำาว่า blog ใน Social
Networking Websites นั้นจะกลายเป็นแค่ส่วนที่ใช้เขียน
ข้อความเช่นบันทึกประจำาวันแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น และยังอาจ
ใช้คำาว่า journal แทนคำาว่า blog ด้วย แต่เนื่องจากบริการนี้
เป็นการรวมเอาบล็อกลักษณะต่าง ๆที่เคยมี มาอยู่ในที่เดียว ทำาให้
ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะเพียงแค่เปิดใช้
บริการที่เดียว ก็ได้ใช้บริการครบถ้วน ไม่ต้องเสียเวลาไปสมัครใช้
งานจาก เว็บไซต์หลายที่ให้จดจำายากอีกด้วย)
2.3.3 เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก
www.blogger.com www.exteen.com
www.mapandy.com www.buddythai.com www.imigg.com
www.5iam.com www.blogprathai.com
www.ndesignsblog.com www.idatablog.com
www.inewblog.com www.onblogme.com
www.freeseoblogs.com www.sumhua.com www.diaryi.net
www.istoreblog.com www.skypream.com
www.thailandspace.com www.sungson.com
www.gujaba.com www.sabuyblog.com
www.ugetblog.com www.jaideespace.com
www.maxsiteth.com www.my2blog.com
13
2.3.4 ประวัติของเว็บไซต์ Blogger
ประวัติของบล็อกบล็อก (Blog) “คือ คำาว่า Weblog” ถูกใช้
งานเป็นครั้งแรกโดย Jorn Barger ในเดือนธันวาคม ปี 1997 ต่อ
มามีฝรั่งที่ชอบเรียกสั้นๆ ชื่อนาย Peter Merholz จับมาเรียกย่อ
“เหลือแต่ Blog” แทนในเดือนเมษายน ปีค.ศ.1999 และจนมาถึง
วันที่ 13 มีนาคม ค.ศ.2003 ทาง Oxford English Dictionary จึง
ได้บรรจุคำาว่า blog ในพจนานุกรม แสดงว่าได้รับการยอมรับอย่าง
เป็นทางการ บล็อก (Blog) ขึ้นแท่นศัพท์ยอดฮิต อันดับหนึ่ง ซึ่งถูก
เสาะแสวงหา ความหมาย ทางพจนานุกรมออนไลน์ มากที่สุด
ประจำาปี 2004 สำานักข่าวเอพีรายงานว่า เว็บไซต์ ดิกชั่นนารีหรือ
“พจนานุกรมออนไลน์ เมอร์เรียม- ”เว็บสเตอร์ ได้ประกาศรายชื่อ
คำาศัพท์ซึ่งถูกคลิก เข้าไปค้นหา ความหมายผ่าน ระบบออนไลน์
มากที่สุด 10 “อันดับแรกประจำาปีนี้ ซึ่งอันดับหนึ่งตกเป็นของคำาว่า
”บล็อก (blog) “ ”ซึ่งเป็นคำาย่อของ เว็บ บล็อก (web log)โดยนาย
อาเธอร์ บิคเนล โฆษกสำานักพิมพ์พจนานุกรมฉบับ เมอร์เรียม-เว็บ
“ ”สเตอร์ กล่าวว่า สำานักพิมพ์ได้เตรียมที่จะนำาคำาว่า บล็อก บรรจุลง
ในพจนานุกรมฉบับล่าสุดทั้งที่เป็นเล่มและ ฉบับออนไลน์แล้วแต่
จากความต้องการของผู้ใช้ที่หลั่งไหลเข้ามา ทำาให้เมอร์เรียม-เว็บ
“ ”สเตอร์ตัดสินใจบรรจุคำาว่า บล็อก ลงในเว็บไซต์ในสังกัดบาง
“แห่งไปก่อน โดยให้คำาจำากัดความไว้ว่า เว็บไซต์ที่บรรจุ เรื่องราว
เกี่ยวกับบันทึกส่วนตัวประจำาวัน ซึ่งสะท้อนถึงมุมมอง ความคิดเห็น
ของบุคคล โดยอาจรวมลิงค์เชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ตามความ
”ประสงค์ของเจ้าของเว็บบล็อกเองด้วย โดยทั่วไป คำาศัพท์ที่ถูก
บรรจุลงในพจนานุกรมนั้นจะต้องผ่านการใช้งาน อย่างแพร่หลาย
มาไม่น้อยกว่า 20 ปี ซึ่งหมายความว่าคำาคำานั้นจะต้องถูกนำามาใช้
โดยทั่วไปในระยะเวลาหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันคำาศัพท์ ทาง
เทคโนโลยีรวมไปถึงโรคภัยไข้เจ็บใหม่ๆ อย่างเช่น โรคเอดส์ โรค
ไข้หวัดซาร์ส ถูกบรรจุลงในพจนานุกรมภายในระยะเวลาอันสั้น
14
“ ”คำาว่า บล็อก เริ่มใช้เป็นครั้งแรกๆผ่านทางหน้าหนังสือพิมพ์และ
นิตยสารเมื่อปี 2542 แต่ผู้รวบรวมพจนานุกรมตั้งข้อสังเกตว่าการ
รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และการประชุมใหญ่
ของ พรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันเพื่อรับรองชื่อ ผู้สมัคร
เข้าชิงตำาแหน่งประธานาธิบดีที่ผ่านมา ทำาให้ประชาชนชาว
สหรัฐฯ ผู้ติดตามข่าวสารส่วนใหญ่สนใจ และต้องการทราบความ
หมายที่แท้จริงของคำาดังกล่าว โดยเฉพาะเมื่อคำาศัพท์เหล่านั้น
ปรากฏเป็นข่าวพาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์ทั่วไปนอกเหนือจาก
“ ”คำาว่า บล็อก แล้ว คำาศัพท์ที่ติดอันดับถูกเข้าไปค้นหาความหมาย
สูงสุด 10 “ ”อันดับแรกประจำาปีนี้ได้แก่ อินคัมเบนท์ (incumbent)
ซึ่งหมายถึงผู้อยู่ในตำาแหน่ง, “ ”อิเล็กทอรัล (electoral) หรือคณะ
ผู้เลือกตั้งขณะที่บางคำาเป็นคำาศัพท์ที่เกี่ยวเนื่องกับสงครามในอิรัก
“ ”เช่น สตอร์มส (stroms) ซึ่งมีความหมายว่ าการโจมตีอย่าง
รุนแรง, “อิน- ”เซอร์เจ้นท์ (insurgent) หรือกองกำาลังฝ่ายต่อต้าน
การปกครอง อิรัก, “ ”เฮอร์ริเคน (hurri- cane) ซึ่งหมาย ถึงผลกระ
ทบอย่างรุนแรง, “ ”เพโลตัน (peloton) ที่แปลว่ากองทหารขนาด
เล็ก และซิคาด้า (cicada) ซึ่งความหมายตามรูปศัพท์ แปลว่า
จักจั่น

More Related Content

What's hot

บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2She's Ning
 
บทที่%202[1]
บทที่%202[1]บทที่%202[1]
บทที่%202[1]teeraratWI
 
บทที่2
บทที่2บทที่2
บทที่2dargonbail
 
แบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่างแบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่างKanistha Chudchum
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องKot สุรศักดิ์
 
บทที่2
บทที่2บทที่2
บทที่2
Phiromporn Norachan
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องSupaporn Pakdeemee
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์Sirintip Kongchanta
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องRung Sensabe
 

What's hot (14)

บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
บทที่%202[1]
บทที่%202[1]บทที่%202[1]
บทที่%202[1]
 
บทที่2
บทที่2บทที่2
บทที่2
 
บทที่222222+++
บทที่222222+++บทที่222222+++
บทที่222222+++
 
แบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่างแบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่าง
 
บทที่2
บทที่2บทที่2
บทที่2
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
บทที่2
บทที่2บทที่2
บทที่2
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 

Viewers also liked

หัวข้อโครงงาน
หัวข้อโครงงานหัวข้อโครงงาน
หัวข้อโครงงานApiradeeforyou
 
กล้องดิจิตอล คอมแพค
กล้องดิจิตอล  คอมแพคกล้องดิจิตอล  คอมแพค
กล้องดิจิตอล คอมแพคApiradeeforyou
 
โครงงานโปรเจคเตอร์
โครงงานโปรเจคเตอร์โครงงานโปรเจคเตอร์
โครงงานโปรเจคเตอร์Apiradeeforyou
 
ภาคผนวกDav
ภาคผนวกDavภาคผนวกDav
ภาคผนวกDavApiradeeforyou
 
หัวข้อโครงงาน
หัวข้อโครงงานหัวข้อโครงงาน
หัวข้อโครงงานApiradeeforyou
 
เเบบเสนอโครงร่างเรื่อง Tablet pc ม.5.1
เเบบเสนอโครงร่างเรื่อง Tablet pc ม.5.1เเบบเสนอโครงร่างเรื่อง Tablet pc ม.5.1
เเบบเสนอโครงร่างเรื่อง Tablet pc ม.5.1Apiradeeforyou
 
หัวข้อโครงงาน
หัวข้อโครงงานหัวข้อโครงงาน
หัวข้อโครงงานApiradeeforyou
 

Viewers also liked (19)

บทที่ 4
บทที่ 4บทที่ 4
บทที่ 4
 
หัวข้อโครงงาน
หัวข้อโครงงานหัวข้อโครงงาน
หัวข้อโครงงาน
 
กล้องดิจิตอล คอมแพค
กล้องดิจิตอล  คอมแพคกล้องดิจิตอล  คอมแพค
กล้องดิจิตอล คอมแพค
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 
ปก
ปกปก
ปก
 
ภาคผนวก
ภาคผนวกภาคผนวก
ภาคผนวก
 
โครงงานโปรเจคเตอร์
โครงงานโปรเจคเตอร์โครงงานโปรเจคเตอร์
โครงงานโปรเจคเตอร์
 
ภาคผนวก
ภาคผนวกภาคผนวก
ภาคผนวก
 
ภาคผนวกDav
ภาคผนวกDavภาคผนวกDav
ภาคผนวกDav
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 
ภาคผนวก
ภาคผนวกภาคผนวก
ภาคผนวก
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
หัวข้อโครงงาน
หัวข้อโครงงานหัวข้อโครงงาน
หัวข้อโครงงาน
 
เเบบเสนอโครงร่างเรื่อง Tablet pc ม.5.1
เเบบเสนอโครงร่างเรื่อง Tablet pc ม.5.1เเบบเสนอโครงร่างเรื่อง Tablet pc ม.5.1
เเบบเสนอโครงร่างเรื่อง Tablet pc ม.5.1
 
ภาคผนวก
ภาคผนวกภาคผนวก
ภาคผนวก
 
ปก
ปกปก
ปก
 
หัวข้อโครงงาน
หัวข้อโครงงานหัวข้อโครงงาน
หัวข้อโครงงาน
 

Similar to บทที่ 2

02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องKot สุรศักดิ์
 
แบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่างแบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่างKanistha Chudchum
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง1
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง102 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง1
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง1Thanggwa Taemin
 
บทที่2
บทที่2บทที่2
บทที่2dargonbail
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2teeraratWI
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องWilaiporn Seehawong
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องWilaiporn Seehawong
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องTanyarad Chansawang
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำWilaiporn Seehawong
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องPoonyapat Wongpong
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมรแบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมรM'suKanya MinHyuk
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องPongtep Treeone
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องSirintip Kongchanta
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องChi Cha Pui Fai
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องChi Cha Pui Fai
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้องChi Cha Pui Fai
 

Similar to บทที่ 2 (20)

บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
แบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่างแบบเสนอโครงร่าง
แบบเสนอโครงร่าง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง1
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง102 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง1
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง1
 
บทที่2
บทที่2บทที่2
บทที่2
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
บทที่ 2 ทวีชัย
บทที่ 2 ทวีชัยบทที่ 2 ทวีชัย
บทที่ 2 ทวีชัย
 
01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ01 บทที่ 1-บทนำ
01 บทที่ 1-บทนำ
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมรแบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ ครูสมร
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 

More from Apiradeeforyou

บรรณานุกรม
บรรณานุกรมบรรณานุกรม
บรรณานุกรมApiradeeforyou
 
โครงงานโปรเจคเตอร์
โครงงานโปรเจคเตอร์โครงงานโปรเจคเตอร์
โครงงานโปรเจคเตอร์Apiradeeforyou
 
บรรณานุกรม
บรรณานุกรมบรรณานุกรม
บรรณานุกรมApiradeeforyou
 
หัวข้อโครงงาน
หัวข้อโครงงานหัวข้อโครงงาน
หัวข้อโครงงานApiradeeforyou
 
บรรณานุกรม
บรรณานุกรมบรรณานุกรม
บรรณานุกรมApiradeeforyou
 

More from Apiradeeforyou (20)

ภาคผนวก
ภาคผนวกภาคผนวก
ภาคผนวก
 
ภาคผนวก
ภาคผนวกภาคผนวก
ภาคผนวก
 
ปก
ปกปก
ปก
 
บรรณานุกรม
บรรณานุกรมบรรณานุกรม
บรรณานุกรม
 
ปก
ปกปก
ปก
 
บทที่ 4
บทที่ 4บทที่ 4
บทที่ 4
 
บทที่ 4
บทที่ 4บทที่ 4
บทที่ 4
 
บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 
โครงงานโปรเจคเตอร์
โครงงานโปรเจคเตอร์โครงงานโปรเจคเตอร์
โครงงานโปรเจคเตอร์
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
บทที่1
บทที่1บทที่1
บทที่1
 
ภาคผนวก
ภาคผนวกภาคผนวก
ภาคผนวก
 
บรรณานุกรม
บรรณานุกรมบรรณานุกรม
บรรณานุกรม
 
บทที่ 4
บทที่ 4บทที่ 4
บทที่ 4
 
ปก
ปกปก
ปก
 
หัวข้อโครงงาน
หัวข้อโครงงานหัวข้อโครงงาน
หัวข้อโครงงาน
 
ภาคผนวก
ภาคผนวกภาคผนวก
ภาคผนวก
 
บรรณานุกรม
บรรณานุกรมบรรณานุกรม
บรรณานุกรม
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 

บทที่ 2

  • 1. 4 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง ในการจัดทำาโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย Blogger เรื่องกล้องดิจิตอล คอมแพคนี้ ผู้จัดทำาโครงงานได้ศึกษาเอกสาร และจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้ 2.1 ความสำาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์เน็ต 2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อสังคม Social Media 2.3 เว็บบล็อก (WebBlog) 2.1 ความสำาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและ อินเทอร์เน็ต 1. ด้านการพัฒนาการเมืองการปกครองของประเทศ 2. ด้านสังคม 3. ด้านการคมนาคม 4. ด้านการพัฒนาสาธารณสุข 5. ด้านวงการธุรกิจ 6. ด้านการศึกษา 7. ด้านการบริการสารสนเทศ 8. ด้านวงการบันเทิง
  • 2. 5 2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อสังคม Social Media 2.2.1 ความหมายของ Social Media สื่อสังคมออนไลน์ที่มีการตอบสนองทางสังคมได้หลาย ทิศทาง โดยผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต พูดง่ายๆ ก็คือเว็บไซต์ที่ บุคคลบนโลกนี้สามารถมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกันได้นั่นเอง 2.2.2 ประวัติความเป็นมาและพัฒนาการของ Social Media ในอดีตโลกมีกาเนินมาประมาณ 4600 ล้านปี เชื่อกันว่า พัฒนาการตามธรรมชาติทาให้เกิดสิ่งมีชีวิตถือกาเนินบนโลก ประมาณ 500 ล้านปีที่แล้ว ยุคไดโนเสาร์มีอายุอยู่ในช่วง 200 ล้านปี สิ่งมีชีวิตที่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ ค่อยๆ พัฒนามา คาดคะเนว่า เมื่อห้าแสนปีที่แล้วมนุษย์สามารถส่งสัญญาณท่าทางสื่อสาร ระหว่างกันและ พัฒนามาเป็นภาษา มนุษย์สามารถสร้างตัวหนังสือ และจารึกไว้ตามผนึกถ้า เมื่อประมาณ 5000 ปีที่แล้วกล่าว ได้ว่า มนุษย์ต้องใช้เวลานานพอสมควรในการพัฒนาตัวหนังสือที่ใช้ แทนภาษาพูด และจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์ สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้ เมื่อประมาณ 5000 ปีที่แล้ว กล่าวได้ว่า ฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้ เมื่อ ประมาณ 500 ถึง 800 ปีที่แล้ว เทคโนโลยีเริ่มเข้ามาช่วยในการ พิมพ์ ทาให้การสื่อสารด้วยข้อความและภาษา เพิ่มขึ้นมาก เทคโนโลยีพัฒนามาจนถึงการสื่อสารกันโดย ส่งข้อความเป็นเสียง ทางสายโทรศัพท์ได้ประมาณร้อยกว่า ปีที่แล้ว และเมื่อประมาณห้า สิบปีที่แล้ว ก็มีการส่งภาพ โทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ทาให้มีการใช้ สารสนเทศในรูปแบบข่าวสารมากขึ้น ในปัจจุบันมีสถานที่วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ แ ละสื่อต่าง ๆ ที่ใช้ในการกระจ่ายข่าวสาร มีการแพร่ภาพทางโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเพื่อรายงานเหตุการณ์ สด เห็นได้ชัดว่าเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก บทบาท ของการพัฒนาเทคโนโลยีรวดเร็วขึ้นเมื่อมีการพัฒนาอุปกรณ์ทาง ด้านคอมพิวเตอร์และส่วน 2.2.3 ประเภทเว็บไซต์ที่ให้บริการ Social Media
  • 3. 6 ก่อนที่จะพูดถึงประเภทของ Social Media ต่างๆ ขอให้เรา ทราบว่าทุกประเภทจะมีลักษณะที่ร่วมกันคือการที่ผู้ใช้หรือผู้ บริโภคเป็นคนที่สร้างเนื้อหาดังกล่าวขึ้น หรือที่เรียกว่า Users Generated Content หรือ Consumer Generated Content แบ่งได้ประเภทดังนี้ 1. Blog – ซึ่งเป็นการลดรูปจากคำาว่า Weblog ซึ่งถือเป็น ระบบจัดการเนื้อหา (Content Management System: CMS) รูป แบบหนึ่ง ซึ่งทำาให้ผู้ใช้สามารถเขียนบทความเรียกว่า Post และ ทำาการเผยแพร่ได้โดยง่าย ไม่ยุ่งยากในการที่จะต้องมานั่งเรียนรู้ ถึงภาษา HTML หรือโปรแกรมทำา web site ทั้งนี้การเรียงของ เนื้อหาจะเรียงจากเนื้อหาที่มาใหม่สุดก่อน จากนั้นก็ลดหลั่นลงไป ตามลำาดับของเวลา (Chronological Order) การเกิดของ Blog เปิดโอกาสให้ใครๆที่มีความสามารถในด้านต่างๆ สามารถเผยแพร่ ความรู้ดังกล่าวด้วยการเขียนได้อย่างเสรี ไม่มีขีดจำากัดเรื่อง เทคนิคอย่างในอดีตอีกต่อไป ทำาให้เกิด Blog ขึ้นมาจำานวน มากมาย และเพิ่มเนื้อหาให้กับโลกออนไลน์ได้เป็นจำานวนมหาศาล อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นอกจากนี้เครื่องมือที่สำาคัญที่ทำาให้เกิด ลักษณะของ Social คือการเปิดให้เพื่อนๆเข้ามาแสดงความเห็นได้ นั่นเอง ในแง่ของการตลาด Blog อาจจะถูกนำามาใช้ได้ใน 2 รูป แบบ คือ การที่บริษัทจัดทำา Blog (Corporate Blog) ขึ้นมาเพื่อ พูดจากับบรรดาลูกค้า และ Blog ที่เขียนจาก Blogger อิสระ ที่มี ความสามารถเขียนเรื่องที่ตนถนัดและมีผู้ติดตามจำานวนมาก จน กลายเป็น Marketing Influencer 2. Twitter และ Microblog –อื่นๆ เป็นรูปแบบหนึ่งของ Blog ที่จำากัดขนาดของการ Post แต่ละครั้งไว้ที่ 140 ตัวอักษร โดยแรกเริ่มเดิมที ผู้ออกแบบ Twitter ต้องการให้ผู้ใช้เขียนเรื่อง ราวว่าคุณกำาลังทำาอะไรอยู่ในขณะนี้ (What are you doing?) แต่กิจการต่างๆกลับนำา Twitter ไปใช้ในทางธุรกิจ ไม่ว่าจะ เป็นการสร้างการบอกต่อ เพิ่มยอดขาย สร้าง Brand หรือเป็น เครื่องมือสำาหรับการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) ทั้งนี้เรายัง สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์บทความใหม่ๆบน
  • 4. 7 Blog ของเราได้ด้วย Twitter นั้นเป็นนิยมขึ้นมากอย่างรวดเร็ว จน ทำาให้เว็บไซต์ประเภท Social Network ต่างๆ เพิ่ม Feature ที่ให้ ผู้ใช้สามารถบอกได้ว่าตอนนี้กำาลังทำาอะไรกันอยู่ นั้นก็คือการนำา Microblog เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งด้วยนั้นเอง 3. Social Networking – จากชื่อก็สามารถแปลความหมาย ได้ว่าเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงเรากับเพื่อนๆจนกลายเป็นสังคม ทั้งนี้ผู้ใช้จะเริ่มต้นสร้างตัวตนของตนเองขึ้นในส่วนของ Profile ซึ่งประกกอบด้วยข้อมูลส่วนตัว (Info) รูป (Photo) การจดบันทึก (Note) หรือการใส่วิดีโอ (Video) และอื่นๆ นอกจากนี้ Social Networking ยังมีเครื่องมือสำาคัญในการสร้างจำานวนเพื่อนให้มาก ขึ้น คือ ในส่วนของ Invite Friend และ Find Friend รวมถึงการ สร้างเพื่อนจากเพื่อนของเพื่อนอีกด้วย นักการตลาดนำา Social Networking มาใช้ในการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า อาจจะอยู่ในรูป ของการสร้าง Brand ผ่านเกมส์หรือ Application ต่างๆ หรืออาจ ใช้เป็นเครื่องมือของ CRM ผ่านทาง Pages และนอกจากนี้ตัว ลูกค้าเอง หากชื่นชอบในสินค้าหรือบริการ ก็สามารถร่วมกลุ่มกัน จัดตั้ง Group ขึ้นมาได้ เว็บไซต์ที่มีลักษณะของ Social Networking มีมากมาย แต่อาจจะแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ ประเภทแรกจะสนใจในการสร้างเครือข่ายระหว่างเพื่อนๆหรือ ครอบครัว เช่น Facebook, Hi5 หรือ Myspace และอีกประเภท คือ สนใจในการสร้างเครือข่ายในเชิงธุรกิจ ที่เปิดให้ใส่ Resume และ ข้อมูลเชิงอาชีพต่างๆ เช่น Linkedin หรือ Plaxo เป็นต้น 4. Media Sharing – เป็นเว็บไซต์ที่เปิดโอกาสให้เรา สามารถ upload รูปหรือวิดีโอเพื่อแบ่งปันให้กับครอบครัว เพื่อนๆ หรือแม้กระทั่งเพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณชน นักการตลาด ณ ปัจจุบันไม่จำาเป็นจะต้องทุ่มทุนในการสร้างหนังโฆษณาที่มีต้นทุน สูง เราอาจจะใช้กล้องดิจิตอลราคาถูกๆ ถ่ายทอดความคิดเป็นรูป แบบวิดีโอ จากนั้นนำาขึ้นไปสู่เว็บไซต์ Media Sharing อย่าง Youtube หากความคิดของเราเป็นที่ชื่นชอบ ก็ทำาให้เกิดการบอก ต่ออย่างแพร่หลาย หรือกรณีหากกิจการคุณขายสินค้าที่เน้น ดีไซน์ที่สวยงาม ก็อาจจะถ่ายรูปแล้วนำาขึ้นไปสู่เว็บไซต์อย่าง
  • 5. 8 Flickr เพื่อให้ลูกค้าได้ชม หรืออาจจะใช้เป็นเครื่องมือในการนำา ชมโรงงาน หรือบรรยากาศในการทำางานของกิจการ เป็นต้น หรือ อย่างกรณีของ Multiply ที่คนไทยนิยมนำารูปภาพที่ตนเองถ่ายมา แสดงฝีมือ เหมือนเป็นแกลลอรีส่วนตัว ทำาให้ผู้ว่าจ้างได้เห็นฝีมือ ก่อนที่จะทำาการจ้าง 5. Social News and Bookmarking – เป็นเว็บไซต์ที่เชื่อม โยงไปยังบทความหรือเนื้อหาใดในอินเทอร์เน็ต โดยผู้ใช้เป็นผู้ส่ง และเปิดโอกาสให้คะแนนและทำาการโหวตได้ เป็นเสมือนมหาชน ช่วยกลั่นกรองว่าบทความหรือเนื้อหาใดนั้นเป็นที่น่าสนใจที่สุด ใน ส่วนของ Social Bookmarking นั้น เป็นการที่เปิดโอกาสให้คุณ สามารถทำาการ Bookmark เนื้อหาหรือเว็บไซต์ที่ชื่นชอบ โดยไม่ ขึ้นอยู่กับคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่ง แต่สามารถทำาผ่าน ออนไลน์ และเนื้อหาในส่วนที่เราทำา Bookmark ไว้นี้ สามารถที่จะ แบ่งปันให้คนอื่นๆได้ด้วย นักการตลาดจะใช้เป็นเครื่องมือในการ บอกต่อและสร้างจำานวนคนเข้ามายังที่เว็บไซต์หรือ Campaign การตลาดที่ต้องการ 6. Online Forums – ถือเป็นรูปแบบของ Social Media ที่ เก่าแก่ที่สุด เป็นเสมือนสถานที่ที่ให้ผู้คนเข้ามาพูดคุยในหัวข้อที่ พวกเขาสนใจ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่อง เพลง หนัง การเมือง กีฬา สุขภาพ หนังสือ การลงทุน และอื่นๆอีกมากมาย ได้ทำาการแลก เปลี่ยนความคิดเห็น แสดงข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนถึงการแนะนำา สินค้าหรือบริการต่างๆ นักการตลาดควนสนใจเนื้อหาที่พูดคุยใน Forums เหล่านี้ เพราะบางครั้งอาจจะเป็นคำาวิจารณ์เกี่ยวกับตัว สินค้าและบริการของเรา ซึ่งเราเองสามารถเข้าไปทำาความเข้าใจ แก้ไขปัญหา ตลอดจนถึงใช้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า เว็บไซต์ประเภท Forums อาจจะเป็นเว็บไซต์ที่เปิดให้แลกเปลี่ยน ความคิดเห็นกันโดยเฉพาะ หรืออาจจะเป็นส่วนหนึ่งในเว็บไซต์ เนื้อหาต่างๆ จากประเภทของ Social Media ที่กล่าวมาข้างต้น ( อันที่จริงมีมากกว่านี้ แต่ผมเห็นว่ายังไม่ค่อยเป็นที่นิยมในไทยถึง ไม่ได้กล่าวถึง) จะถูกนักการตลาดนำามาใช้กับสินค้าหรือบริการ
  • 6. 9 ของตนเองในวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป ผมจะได้ลงราย ละเอียดของแต่ละประเภทในบทต่อๆไป 2.3 เว็บบล็อก (WebBlog) 2.3.1 ความหมายของเว็บบล็อก (WebBlog) เว็บล็อก (อังกฤษ: weblog) เป็นรูปแบบเว็บไซต์ประเภท หนึ่ง ซึ่งถูกเขียนขึ้นในลำาดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน ซึ่งจะ แสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้แรกสุด บล็อกโดยปกติจะประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงก์ ซึ่งบางครั้งจะรวมสื่อต่างๆ ไม่ว่า เพลง หรือ วิดีโอในหลายรูปแบบได้ จุดที่แตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดย ปกติคือ บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอ่านข้อมูล สามารถแสดงความคิด เห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นคนเขียน ซึ่งทำาให้ผู้เขียน สามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที คำาว่า "บล็อก" ยังใช้เป็นคำากริยา ได้ซึ่งหมายถึง การเขียนบล็อก และนอกจากนี้ผู้ที่เขียนบล็อกเป็น อาชีพก็จะถูกเรียกว่า "บล็อกเกอร์" บล็อกเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหา หลากหลายขึ้นอยู่กับเจ้าของบล็อก โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือ สื่อสาร การประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ ผลงาน ในหลายด้านไม่ว่า อาหาร การเมือง เทคโนโลยี หรือข่าว ปัจจุบัน นอกจากนี้บล็อกที่ถูกเขียนเฉพาะเรื่องส่วนตัวหรือจะเรียก ว่าไดอารีออนไลน์ ซึ่งไดอารีออนไลน์นี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการ ใช้บล็อกในปัจจุบัน นอกจากนี้ตามบริษัทเอกชนหลายแห่งได้มี การจัดทำาบล็อกของทางบริษัทขึ้น เพื่อเสนอแนวความเห็นใหม่ ใหักับลูกค้า โดยมีการเขียนบล็อกออกมาในลักษณะเดียวกับข่าว สั้น และได้รับการตอบรับจากทางลูกค้าที่แสดงความเห็นตอบกลับ เข้าไป เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ 2.3.2 ประเภทของเว็บบล็อก 1. แบ่งตามลักษณะของมีเดียที่มีในบล็อกได้แก่ 1.1. Linklog บล็อกแบบนี้น่าจะเป็นบล็อกรุ่นแรก ๆ เป็น บล็อกที่รวมลิ๊งก์ที่เจ้าของบล็อกสนใจเอาไว้ ถ้าคณยังจำาผู้ให้
  • 7. 10 “ ”กำาเนิดคำาว่า บล็อก ที่ชื่อ จอห์น บาจเจอร์ได้ นั่นแหล่ะครับ robotwisdom.com ของเขาคือตัวอย่างของ linklog นั่นเอง แม้ว่า จะบล็อกแบบนี้จะเป็นการรวมลิ๊งก์เท่านั้น แต่ก็ไม่เรียงเหมือนว็บ ไดเร็กทอรี่ เพราะเจ้าของบล็อกจะโพสต์ลิ๊งก์ของเขา 1 – 2 ลิ๊งก์ ต่อโพสต์เท่านั้นครับ ใครที่อยากมีบล็อกเป็นของตนเองแต่ยังนึก ไม่ออกว่าจะทำาบล็อกแบบไหน linklog น่าจะเป็นการเริ่มต้นการ ทำาบล็อกได้เป็นอย่างดี 1.2 Photoblog ชื่อก็บอกอยู่แล้วครับว่า Photo บล็อก ประเภทนี้เน้นในโพสต์ภาพถ่ายที่เจ้าของบล็อกอยากนำาเสนอ และ มักจะไม่เน้นที่จะเขียนข้อความมากนัก บางบล็อกเรียกได้ว่าภาพ โดยเจ้าของบล็อกล้วน ๆ เลยครับ 1.3. Vlog ย่อมาจาก Videoblog เป็นบล็อกที่รวมวิดีโอคลิป ไว้ในบล็อก Vlog เป็นบล็อกที่เรียกได้ว่าเป็นบล็อกที่นิยมทำากัน มากในอนาคต เพราะการเจริญเติบโตของไฮสปีด อินเตอร์เน็ต หรือ อินเตอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ ที่ทำาให้การถ่ายทอดเสียง ภาพ เคลื่อนไหว movie 2. แบ่งตามประเภทเนื้อหา ได้แก่ 2.1 บล็อกส่วนตัว(Personal Blog) นำาแสนอความคิดเห็น กิจวัตรประจำาวันของเจ้าของบล็อกเป็นหลัก 2.2 บล็อกข่าว(News Blog) บล็อกที่นำาเสนอข่าวเป็นหลัก 2.3 บล็อกกลุ่ม(Collaborative Blog) เป็นบล็อกที่เขียนกัน เป็นกลุ่ม เช่น blognone.com 2.4 บล็อกการเมือง(Politic Blog) ว่าด้วยเรื่องการเมืองล้วน ๆ 2.5 บล็อกเพื่อสิ่งแวดล้อม(Environment Blog) พูดถึงเรื่อง ราวของธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อม 2.6 มีเดียบล็อก(Media Blog) เป็นบล็อกที่วิเคราะห์สื่อต่างๆ สารคดีและสิ่งที่เกี่ยวกับสื่อ เช่น oknation.net/blog/black ของ สุทธิชัย หยุ่น 2.7 บล็อกบันเทิง(Entertainment Blog) บล็อกที่นำาเสนอ เรื่องราวบันเทิงทั้งทางจอแก้ว และจอเงิน เรื่องซุบซุดารา กองถ่าย ฯลฯ
  • 8. 11 2.8 บล็อกเพื่อการศึกษา(Educational Blog) ในโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยในต่างประเทศมักจะใช้บล็อกเป็นสื่อในการสอน หรือ แลกเปลี่ยนความคิดกัน 2.9 ติวเตอร์บล็อก(Tutorial Blog) เป็นบล็อกที่นำาเสนอวิธี การต่าง 3.แบ่งตามรูปแบบของเนื้อหาเฉพาะที่เห็นเด่นชัด 3.1 Filter Blog เป็นบล็อกที่ผู้จัดทำา จะใช้สำาหรับนำาเสนอ แหล่งข้อมูลที่ตนสนใจ (เว็บเพจหรือเว็บไซต์) โดยปกติมักจะเป็น ข่าว บทความ หรือความคิดเห็นของบุคคลในวงการที่เผยแพร่ใน เว็บไซต์ต่าง ๆ อาจเรียกได้ว่า เป็น บล็อก “Bookmark” หรือ มีชื่อ เฉพาะ ว่า Social Bookmark บล็อกลักษณะนี้ จะนำาเสนอแค่หัวข้อ เรื่อง และ URL ของเว็บเพจหรือเว็บไซต์ บางทีอาจเพิ่มคำาอธิบาย เว็บเพจหรือเว็บไซต์นั้น ๆ ได้ด้วย และบางที่อาจจะสามารถเพิ่ม ความคิดเห็นของผู้จัดทำาบล็อกได้อีกด้วย เป็นเหมือนการกลั่น กรองข้อมูลให้ทราบว่าเว็บเพจหรือเว็บไซต์ใดกำาลังได้รับความ นิยม ซึ่งจะเป็นการช่วยจัดลำาดับความน่าเชื่อถือของเว็บเพจหรือ เว็บไซต์นั้น ๆ ได้เช่นกัน ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ ได้แก่ http://del.icio.us/ เป็นต้น 3.2 Personal Journal Blog เป็นบล็อกที่ผู้จัดทำา จะใช้ สำาหรับนำาเสนอความคิดเห็นหรือประสบการณ์ของตนเองผ่านข้อ เขียน โดยอาจจะมีภาพประกอบ หรือมีการเชื่อมโยงออกไปยัง เว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อให้ข้อมูลดูน่าเชื่อถือหรือมีความน่าสนใจมากยิ่ง ขึ้น ซึ่งบล็อกลักษณะนี้ เป็นบล็อกตามความเข้าใจของบุคคลทั่วไป ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่ http://www.exteen.co m หรือ http://www.blogger.com เป็นต้น 3.3 Photo Blog เป็นบล็อกที่ใช้สำาหรับเก็บภาพ ( ภาพถ่าย, ภาพวาด ฯลฯ) และสามารถใส่รายละเอียดของภาพ ใส่ คำาค้น (tag) ได้ ทำาให้การเก็บภาพเป็นระบบและง่ายต่อการค้นหา มากขึ้น ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ ได้แก่ http://www.flickr.com เป็นต้น 3.4 Video Blog หรือ เรียกว่า Vlog เป็นบล็อกที่ใช้สำาหรับ เก็บวีดิทัศน์ส่วนตัว สามารถใส่รายละเอียดของวีดิทัศน์ ใส่คำาค้น (tag) ได้ ทำาให้การเก็บวีดิทัศน์เป็นระบบและง่ายต่อการค้นหา
  • 9. 12 มากขึ้น ตัวอย่างบล็อกลักษณะนี้ได้แก่ http://www.aolvideoblo g.com เป็นต้น 3.5 บล็อกผสม มีลักษณะเป็นบล็อกที่สามารถเก็บข้อมูลต่าง ๆ ได้หลายประเภท ทั้งเก็บรูปภาพ เก็บเพลง เก็บวีดิโอ เก็บลิงค์ (link) ต่าง ๆ หรือบันทึกประจำาวัน และใส่ปฏิทินรายการงานที่ต้อง ทำา ฯลฯ ได้ด้วย ปัจจุบันเป็นบริการที่ได้รับความนิยมสูงมาก โดย มีชื่อเฉพาะด้วย เรียกว่า Social Network Service ซึ่งนอกจากจะ มีจุดประสงค์เพื่อให้สมาชิกแลกเปลี่ยนข้อมูลต่าง ๆ กันแล้ว ก็ยังมี จุดประสงค์หลักเพื่อการค้นหาและสะสมเพื่อนจากทั่วโลก ตัวอย่าง Social NetworkingWebsites ซึ่งให้บริการลักษณะนี้ ได้แก่ http://hi5.com หรือ http://multiply.com หรือ http://sp aces.live.com เป็นต้น (ซึ่งปัจจุบัน คำาว่า blog ใน Social Networking Websites นั้นจะกลายเป็นแค่ส่วนที่ใช้เขียน ข้อความเช่นบันทึกประจำาวันแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น และยังอาจ ใช้คำาว่า journal แทนคำาว่า blog ด้วย แต่เนื่องจากบริการนี้ เป็นการรวมเอาบล็อกลักษณะต่าง ๆที่เคยมี มาอยู่ในที่เดียว ทำาให้ ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะเพียงแค่เปิดใช้ บริการที่เดียว ก็ได้ใช้บริการครบถ้วน ไม่ต้องเสียเวลาไปสมัครใช้ งานจาก เว็บไซต์หลายที่ให้จดจำายากอีกด้วย) 2.3.3 เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก www.blogger.com www.exteen.com www.mapandy.com www.buddythai.com www.imigg.com www.5iam.com www.blogprathai.com www.ndesignsblog.com www.idatablog.com www.inewblog.com www.onblogme.com www.freeseoblogs.com www.sumhua.com www.diaryi.net www.istoreblog.com www.skypream.com www.thailandspace.com www.sungson.com www.gujaba.com www.sabuyblog.com www.ugetblog.com www.jaideespace.com www.maxsiteth.com www.my2blog.com
  • 10. 13 2.3.4 ประวัติของเว็บไซต์ Blogger ประวัติของบล็อกบล็อก (Blog) “คือ คำาว่า Weblog” ถูกใช้ งานเป็นครั้งแรกโดย Jorn Barger ในเดือนธันวาคม ปี 1997 ต่อ มามีฝรั่งที่ชอบเรียกสั้นๆ ชื่อนาย Peter Merholz จับมาเรียกย่อ “เหลือแต่ Blog” แทนในเดือนเมษายน ปีค.ศ.1999 และจนมาถึง วันที่ 13 มีนาคม ค.ศ.2003 ทาง Oxford English Dictionary จึง ได้บรรจุคำาว่า blog ในพจนานุกรม แสดงว่าได้รับการยอมรับอย่าง เป็นทางการ บล็อก (Blog) ขึ้นแท่นศัพท์ยอดฮิต อันดับหนึ่ง ซึ่งถูก เสาะแสวงหา ความหมาย ทางพจนานุกรมออนไลน์ มากที่สุด ประจำาปี 2004 สำานักข่าวเอพีรายงานว่า เว็บไซต์ ดิกชั่นนารีหรือ “พจนานุกรมออนไลน์ เมอร์เรียม- ”เว็บสเตอร์ ได้ประกาศรายชื่อ คำาศัพท์ซึ่งถูกคลิก เข้าไปค้นหา ความหมายผ่าน ระบบออนไลน์ มากที่สุด 10 “อันดับแรกประจำาปีนี้ ซึ่งอันดับหนึ่งตกเป็นของคำาว่า ”บล็อก (blog) “ ”ซึ่งเป็นคำาย่อของ เว็บ บล็อก (web log)โดยนาย อาเธอร์ บิคเนล โฆษกสำานักพิมพ์พจนานุกรมฉบับ เมอร์เรียม-เว็บ “ ”สเตอร์ กล่าวว่า สำานักพิมพ์ได้เตรียมที่จะนำาคำาว่า บล็อก บรรจุลง ในพจนานุกรมฉบับล่าสุดทั้งที่เป็นเล่มและ ฉบับออนไลน์แล้วแต่ จากความต้องการของผู้ใช้ที่หลั่งไหลเข้ามา ทำาให้เมอร์เรียม-เว็บ “ ”สเตอร์ตัดสินใจบรรจุคำาว่า บล็อก ลงในเว็บไซต์ในสังกัดบาง “แห่งไปก่อน โดยให้คำาจำากัดความไว้ว่า เว็บไซต์ที่บรรจุ เรื่องราว เกี่ยวกับบันทึกส่วนตัวประจำาวัน ซึ่งสะท้อนถึงมุมมอง ความคิดเห็น ของบุคคล โดยอาจรวมลิงค์เชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ตามความ ”ประสงค์ของเจ้าของเว็บบล็อกเองด้วย โดยทั่วไป คำาศัพท์ที่ถูก บรรจุลงในพจนานุกรมนั้นจะต้องผ่านการใช้งาน อย่างแพร่หลาย มาไม่น้อยกว่า 20 ปี ซึ่งหมายความว่าคำาคำานั้นจะต้องถูกนำามาใช้ โดยทั่วไปในระยะเวลาหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันคำาศัพท์ ทาง เทคโนโลยีรวมไปถึงโรคภัยไข้เจ็บใหม่ๆ อย่างเช่น โรคเอดส์ โรค ไข้หวัดซาร์ส ถูกบรรจุลงในพจนานุกรมภายในระยะเวลาอันสั้น
  • 11. 14 “ ”คำาว่า บล็อก เริ่มใช้เป็นครั้งแรกๆผ่านทางหน้าหนังสือพิมพ์และ นิตยสารเมื่อปี 2542 แต่ผู้รวบรวมพจนานุกรมตั้งข้อสังเกตว่าการ รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และการประชุมใหญ่ ของ พรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันเพื่อรับรองชื่อ ผู้สมัคร เข้าชิงตำาแหน่งประธานาธิบดีที่ผ่านมา ทำาให้ประชาชนชาว สหรัฐฯ ผู้ติดตามข่าวสารส่วนใหญ่สนใจ และต้องการทราบความ หมายที่แท้จริงของคำาดังกล่าว โดยเฉพาะเมื่อคำาศัพท์เหล่านั้น ปรากฏเป็นข่าวพาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์ทั่วไปนอกเหนือจาก “ ”คำาว่า บล็อก แล้ว คำาศัพท์ที่ติดอันดับถูกเข้าไปค้นหาความหมาย สูงสุด 10 “ ”อันดับแรกประจำาปีนี้ได้แก่ อินคัมเบนท์ (incumbent) ซึ่งหมายถึงผู้อยู่ในตำาแหน่ง, “ ”อิเล็กทอรัล (electoral) หรือคณะ ผู้เลือกตั้งขณะที่บางคำาเป็นคำาศัพท์ที่เกี่ยวเนื่องกับสงครามในอิรัก “ ”เช่น สตอร์มส (stroms) ซึ่งมีความหมายว่ าการโจมตีอย่าง รุนแรง, “อิน- ”เซอร์เจ้นท์ (insurgent) หรือกองกำาลังฝ่ายต่อต้าน การปกครอง อิรัก, “ ”เฮอร์ริเคน (hurri- cane) ซึ่งหมาย ถึงผลกระ ทบอย่างรุนแรง, “ ”เพโลตัน (peloton) ที่แปลว่ากองทหารขนาด เล็ก และซิคาด้า (cicada) ซึ่งความหมายตามรูปศัพท์ แปลว่า จักจั่น