1. คาวินิจฉัยสั่งการคณะกรรมการการเลือกตั้ง
เรื่อง การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตาบลนาพูน เขตเลือกตั้งที่ 9
อาเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่
กกต. ได้รับรายงานการสืบสวนสอบสวน กรณี ผู้ร้องที่ 1 และที่ 2 ยื่นคาร้องว่าการเลือกตั้ง ส.อบต.นาพูน เขตเลือกตั้งที่ 9 อ.วังชิ้น จ.แพร่ เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 56 มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม เนื่องจาก ผู้ร้องที่ 1 และที่ 2 ได้กระทาการอันฝ่าฝืนพ.ร.บ.การเลือกตั้งส.ถ./ผ.ถ. 2545 ม.57 กล่าวคือ เมื่อต้นเดือน ก.ย. 56 ผู้ถูกร้องทั้งสองได้ให้เพื่อนซึ่งมีความสนิทสนมกันให้เงินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเขตเลือกตั้งที่ 9 หมู่ที่ 9 ต.นาพูน คนละ 500 บาท เพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้ถูกร้องทั้งสอง เหตุเกิดที่หมู่ที่ 9 ต.นาพูน อ.วังชิ้น จ.แพร่
ข้อเท็จจริงจากการสืบสวนสอบสวนได้ความว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 56 ผู้ถูกร้องคนที่ 1 ในฐานะ ประธานกลุ่มแปรรูปอาหาร ได้รับเงินสนับสนุนกลุ่มแปรรูปอาหาร จากศูนย์พัฒนาสังคม หน่วยที่ 39 จ.แพร่ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จานวน 36,000 บาท ตามโครงการ “รู้ปัญหา ร่วมพัฒนาในพื้นที่ เคาะประตูรู้ปัญหา พาคนไทยยิ้มได้เหมือนเดิม” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับความ เป็นอยู่ของประชาชนกลุ่มเป้าหมายให้มีรายได้พอเพียงต่อการดารงชีวิตและลดความเหลื่อมล้า ต่อมาผู้ถูกร้องที่ 1 ในฐานะประธานกลุ่มแปรรูปอาหาร ได้เชิญสมาชิกประชุมซึ่งที่ประชุมได้มีมติจัดสรรเงินให้แก่คณะกรรมการแปรรูป อาหาร จานวน 12 คน คนละ 1,000 บาท และสมาชิกกลุ่มแปรรูปอาหาร จานวน 28 คน คนละ 500 บาท เป็นเงิน 14,000 บาท ส่วนที่เหลือ 10,000 บาท คณะกรรมการเก็บไว้บริหารกลุ่ม โดยมอบหมายให้รองประธานกลุ่มแปรรูป อาหารเป็นผู้ดาเนินการจัดสรรและแจกจ่ายเงินดังกล่าว ในส่วนผู้ถูกร้องที่ 2 ก็เป็นสมาชิกกลุ่มแปรรูปอาหารอยู่ด้วย และได้รับเงินจานวน 500 บาท ด้วย การจัดสรรเงินดังกล่าวเป็นการทาตามขั้นตอนปกติให้บรรลุวัตถุประสงค์ของ โครงการ มิได้เป็นการจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้ร้องทั้งสองตามที่มีการกล่าวหาแต่อย่างใด กรณี ฟังไม่ได้มีการกระทาฝ่าฝืนกฎหมายตามคาร้อง
กกต. จึงมีคาสั่งให้ยกคาร้อง