More Related Content
Similar to อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (20)
อุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์
- 2. HUB (ฮับ)
• ฮับ (Hub)
ฮับเป็นอุปกรณ์ที่เห็นได้อย่างเด่นชัดในระบบเครือข่ายที่ใช้โทโปโลยีแบบดาว
ใน ความเป็นจริงจะ ใช้ฮับอย่างแพร่หลายในระบบเครือข่าย 2 ประเภท คือ
10BaseT Ethernet และ Token Ring ซึ่งในระบบ เครือข่ายแต่ละประเภท ฮับ
จะเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อโหนดต่างๆ และทาให้โหนดเหล่านี้สามารถ
ติดต่อสื่อสารกันได้ โดย ทาการติดตั้งฮับไว้ที่ศูนย์กลางของโทโปโลยีแบบดาว
โหนดแต่ละ โหนดที่เข้า มามี ส่วนร่วมในระบบเครือข่ายจะเชื่อมต่อผ่านฮับ และ
จะสื่อสารกันโดยส่งข้อมูลข่าวสารผ่านฮับ เมื่อมอง จากภาย นอกฮับจะมีจุดเชื่อม
ต่อที่เรียกว่า พอร์ต (port) ไว้จานวนหนึ่ง สาหรับให้โหนด หรือ อุปกรณ์ระบบ
เครือข่ายอื่นเชื่อมต่อเข้ามา เมื่อข้อมูลถูกส่งมา จากโหนด ต่างๆ ที่เชื่อมต่ออยู่
กับฮับ ข้อมูลนั้นๆ จะถูกทาสาเนาไปยังพอร์ตต่างๆ เพื่อให้แน่ใจ ว่าฮับจะสามารถ
ส่งกระจาย ข้อมูลไปยังโหนด ทุกตัวได้ นอกจากนี้ฮับยังมีอยู่หลายประเภท คือ
- 3. • Intelligent Hub เป็นฮับที่สามารถจัดการควบคุม บางอย่างกับโหนด ที่เชื่อมต่อ
อยู่ เช่น การอนุญาตให้ผู้บริหารระบบเครือข่ายควบคุมแต่ละพอร์ตได้อย่างอิสระ
ไม่ว่าจะเป็นการสั่งให้ทางาน หรือ หยุด ทางานก็ตาม Intelligent Hub บาง
ประเภท สามารถเฝ้ าติดตาม กิจกรรมของระบบเครือข่ายได้ เช่น ติดตามจานวน
แพ็กเกจที่ส่งผ่าน และการเกิดความ ผิดพลาดขึ้นในแพ็กเกจเหล่านั้น
- Standalone Hub เป็นอุปกรณ์ภายนอกที่เชื่อมต่อ เข้ากับ เครื่อง
คอมพิวเตอร์ เป็นฮับที่พบ เห็นโดยทั่วไป ซึ่งไม่มีความสามารถในการจัดการ มี
เฉพาะความสามารถในการ เชื่อมต่อไปยังฮับ ตัวอื่น เท่านั้น
- Modular Hub เป็นฮับที่สามารถจัดการได้โดยมีลักษณะเป็น การ์ด
สล็อต การ์ดแต่ละ ตัวจะมีการ ทางานเช่นเดียวกับ Standalone Hub 1 ตัว การ
ใช้ฮับ ประเภทนี้ทาให้สามารถขยาย ระบบเครือ ข่ายได้โดยง่าย บางตัวก็สามารถ
สนับสนุน การเชื่อม ต่อกับเครือข่ายได้มากกว่า 1 ประเภท เช่น ใช้ได้กับ ระบบ
เครือข่ายทั้งแบบ Ethernet และ Token Ring
•
- 5. Router
• Routerคืออะไร
Routerคือ อุปกรณ์ที่ทาหน้าที่เชื่อมต่อระบบเครือข่ายอย่างหนึ่ง ซึ่ง
ถ้าแปลความหมายคาว่า Route ก็คือ ถนน นั่นเอง ดังนั้น การเชื่อมต่อ
คอมพิวเตอร์ด้วย Routerทาให้เราสามารถเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ได้
มากกว่าหนึ่งเครื่องในเวลาเดียวกัน ซึ่ง Router นั้นจะมีซอฟต์แวร์ที่ใช้
ในการควบคุมการทางานเรียกว่า InternetworkOperating System
(IOS) และตัว Routerจะมีช่องที่ใช้เสียบต่อสายสัญญาณเรียกว่า Port
LAN ซึ่งโดยทั่วไปมักมี 4 Ports หรือมากกว่า ใน Router1 ตัว
- 6. • หน้าที่หลักของ Router คือการหาเส้นทางในการส่งผ่านข้อมูลที่ดีที่สุด และเป็น
ตัวกลางในการส่งต่อข้อมูลไปยังเครือข่ายอื่น ทั้งนี้Router สามารถเชื่อมโยง
เครือข่ายที่ใช้สื่อสัญญาณหลายแบบแตกต่างกันได้ไม่ว่าจะเป็น Ethernet,
Token Rinkหรือ FDDI ทั้งๆที่ในแต่ละระบบจะมี packet เป็นรูปแบบของตนเอง
ซึ่งแตกต่างกัน โดยโปรโตคอลที่ทางานในระดับบนหรือ Layer 3 ขึ้นไปเช่น IP, IPX
หรือ AppleTalk เมื่อมีการส่งข้อมูลก็จะบรรจุข้อมูลนั้นเป็น packet ในรูปแบบของ
Layer 2 คือ Data LinkLayer เมื่อ Router ได้รับข้อมูลมาก็จะตรวจดูใน packet
เพื่อจะทราบว่าใช้โปรโตคอลแบบใด จากนั้นก็จะตรวจดูเส้นทางส่งข้อมูลจาก
ตาราง Routing Table ว่าจะต้องส่งข้อมูลนี้ไปยังเครือข่ายใดจึงจะต่อไปถึง
ปลายทางได้ แล้วจึงบรรจุข้อมูลลงเป็นPacket ของ Data Link Layer ที่ถูกต้อง
อีกครั้ง เพื่อส่งต่อไปยังเครือข่ายปลายทาง
- 8. Bridge
• บริดจ์ ( Bridge)
• เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมต่อเครือข่ายสองเครือข่ายเข้าด้วยกัน ซึ่งดูแล้วคล้าย
กับเป็นสะพานเชื่อมสองฟากฝั่งเข้าด้วยกัน ด้วยเหตุนี้จึงเรียกอุปกรณ์นี้ว่า “
บริดจ์” ซึ่งแปลว่าสะพาน
• เครือข่ายสองเครือข่ายที่นามาเชื่อมต่อกันจะต้องเป็นเครือข่ายชนิดเดียวกัน และ
ใช้โปรโตคอลในการรับส่งข้อมูลเหมือนกัน เช่น ใช้ในการเชื่อมต่อเครือข่ายตาม
มาตรฐานอีเทอร์เน็ตสองเครือข่ายเข้าด้วยกัน หรือต่อ Token Ring สองเครือข่าย
เข้าด้วยกัน
- 9. • บริดจ์จะมีการทางานในระดับชั้นที่ 2 คือ Data Link Layer ของ โมเดล OSI คือ
มองข้อมูลที่รับส่งกันเป็น packet แล้วเท่านั้น โดยไม่สนใจโปรโตคอลที่ใช้สื่อสาร
บริดจ์จะตรวจสอบข้อมูลที่ส่งโดยพิจารณาจากที่อยู่ของผู้รับปลายทาง ถ้าพบว่า
เป็นเครื่องที่อยู่คนละฟากของเครือข่ายก็จะขยายสัญญาณ (เช่นเดียวกับรีพีต
เตอร์)แล้วจึงค่อยส่งต่อให้ แต่จะไม่สนใจว่าการส่งให้ถึงเครื่องปลายทางจะใช้
เส้นทางใด
• การติดตั้งบริดจ์จะคล้ายกับการติดตั้ง Hub ซึ่งไม่จาเป็นต้องปรับแต่งค่าต่างๆ ที่มี
อยู่ สามารถต่อใช้งานได้ทันที แต่ก็อาจจะกาหนดตัวแปรของค่าที่ใช้ควบคุมบริดจ์
ได้ถ้าต้องการ ซึ่งไม่ยากมากนัก ผู้ดูแลเครือข่ายขนาดเล็กๆ ก็สามารถทาเองได้ ใน
ปัจจุบันระบบเครือข่ายเริ่มนิยมใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า สวิตช์ (switch) ซึ่งทางานใน
ลักษณะเดียวกับบริดจ์นั่นเอง