คราบสกปรกที่เผลอไม่ได้ถ้าไม่เคลือบแก้ว เวลาที่เราใช้รถ การมีรอยเปื้อน เกิดความสกปรกกับรถเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก เพราะรถที่ใช้งานยังไงก็ต้องเจอกับสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัว นี่ถือเป็นเรื่องธรรมดา และไม่สามารถจะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีรอยเปื้อนบางอย่างที่เราไม่สามารถที่จะชะล่าใจได้ เพราะหากปล่อยไว้มันสามารถลงไปทำลายชั้นสีแท้ของรถให้เสียหายได้เลยทีเดียว เว้นแต่ว่า เราได้เอารถไปทำ เคลือบแก้ว มาแล้ว เพราะ รถเคลือบแก้ว จะมีชั้นฟิล์มใสหุ้มสีรถอยู่อีกชั้น รถยนต์เคลือบแก้ว จึงไม่ต้องกังวลเรื่องคราบสกปรกมากเกินไป https://albatroscarcare.com/2016/11/24/glass-coating_014/

1. คราบสกปรกที่เผลอไม่ได้ถ้ายังไม่ได้เคลือบแก้ว
เวลาที่เราใช้รถ การมีรอยเปื้อน เกิดความสกปรกกับรถเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก เพราะรถที่ใช้งานยังไงก็ต้องเจอกับ
สภาพแวดล้อมรอบๆ ตัว นี่ถือเป็นเรื่องธรรมดา และไม่สามารถจะป้ องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีรอย
เปื้อนบางอย่างที่เราไม่สามารถที่จะชะล่าใจได้ เพราะหากปล่อยไว้มันสามารถลงไปทําลายชั้นสีแท้ของรถให้เสียหายได้
เลยทีเดียว เว้นแต่ว่า เราได้เอารถไปทํา เคลือบแก้ว มาแล้ว เพราะ รถเคลือบแก้ว จะมีชั้นฟิล์มใสหุ้มสีรถอยู่อีกชั้น รถยนต์
เคลือบแก้ว จึงไม่ต้องกังวลเรื่องคราบสกปรกมากเกินไป
คราบสกปรกที่ต้องรีบจัดการ ถ้ารถยังไม่ได้ทํา เคลือบแก้ว
1. มูลนก อันนี้ถือเป็นสิ่งที่ชะล่าใจไม่ได้เด็ดขาดจริงๆ เพราะมันไม่เพียงแต่ดูแล้วน่าเกลียดและเป็นไปได้ว่าจะมีเชื้อ
โรคปะปนมากับมูลของนกที่ถ่ายรดลงบนรถของเราเท่านั้น ในกรณีที่เราปล่อยทิ้งเอาไว้นาน มูลนกจะทํา
ปฏิกิริยาในการกัดกร่อน มันสามารถทําลายชั้นสีแท้ของรถให้เกิดความเสียหาย หากทิ้งไว้นาน ต่อให้ล้างออกจน
สะอาด มันก็จะเกิดรอยด่างที่ขัดไม่ออก เพราะมันไม่ใช่รอยเปื้อนภายนอก แต่เป็นรอยด่างที่เกิดจากสีแท้ของรถ
ถูกทําลาย หากว่ารถไม่ได้ เคลือบแก้ว เมื่อโดนแล้วควรรีบล้างออกให้สะอาดทันที
2. ยางไม้ เวลาที่เราไปจอดรถใต้ร่มไม้ เป็นไปได้ว่าบางครั้งอาจจะมียางไม้หยดลงมาโดนรถของเราได้เช่นกัน เป็น
เรื่องธรรมชาติ แต่ปล่อยเอาไว้ไม่ได้ แต่ปัญหาที่เกิดจากยางไม้จะดีกว่ามูลนกอยู่หน่อยตรงที่มันไม่ได้กัดกร่อนสี
รถอย่างรุนแรง แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่หากปล่อยไว้นานมันจะแห้งแข็งและติดกับสีรถ เอาออกยากมาก ตอนที่เรา
จะเอาออกนี่แหละที่อาจจะต้องใช้แรงขัดถู (บางรายถึงขั้นใช้ของแข็งแงะเขี่ย) ทําให้เกิดรอยเสียหายที่สีรถได้
ดังนั้นเจอแล้วรีบล้างออก

2. 3. รอยเปื้อนนํ้ามันเชื้อเพลิง อันนี้เป็นหนึ่งในรอยเปื้อนที่ถูกเพิกเฉยชะล่าใจมากที่สุด แต่ตัวนี้แหละที่เป็นอันตราย
ต่อสีรถมาก เพราะนํ้ามันเชื้อเพลิงคือตัวทําละลายชั้นดี เมื่อมันไปเกาะอยู่ที่ผิวสีรถ มันสามารถละลายชั้นสีให้
กลายเป็นสภาพด้านๆ และซีดจางได้ ดังนั้นเมื่อเกิดรอยเปื้อนขึ้นควรรีบทําความสะอาดอย่างเร่งด่วน
รอยเปื้อน 3 ชนิดนี้เป็นเรื่องที่ทําให้หลายคนต้องเสียความรู้สึกมากแล้วนักต่อนัก เพราะว่าชะล่าใจ คิดว่าเป็นเรื่อง
เล็กน้อย แต่จริงๆ แล้วเป็นรอยเปื้อนที่ทิ้งไว้นานจะเกิดปัญหากับสีรถแน่นอน เว้นแต่ว่า รถของเราได้ผ่านการทํา เคลือบ
แก้ว มาแล้ว ซึ่งจะสามารถป้ องกันความเสียหายไม่ให้รุนแรงได้เป็นอย่างดี