2. 2
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
อินเตอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ต(Internet) คือ เครือข่ายนานาชาติ ที่เกิดจากเครือข่ายขนาดเล็กมากมาย รวมเป็น
เครือข่ายเดียวทั้งโลก หรือเครือข่ายสื่อสาร ซึ่งเชื่อมโยงระหว่างคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ที่ต้องการ
เข้ามาในเครือข่าย สาหรับคาว่า internet หากแยกศัพท์จะได้มา 2 คา คือ คาว่า Inter และ
คาว่า net ซึ่ง Inter หมายถึงระหว่าง หรือท่ามกลาง และคาว่า Net มาจากคาว่า Network
หรือเครือข่าย เมื่อนาความหมายของทั้ง 2 คามารวมกัน จึงแปลว่า การเชื่อมต่อกันระหว่าง
เครือข่าย IP (Internet protocal) Addressคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อกันใน internet
ต้องมี IP ประจาเครื่อง ซึ่งIP นี้มีผู้รับผิดชอบคือ IANA (Internet assigned number
authority) ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางที่ควบคุมดูแล IPV4 ทั่วโลก เป็น Public address ที่ไม่ซ้า
กันเลยในโลกใบนี้ การดูแลจะแยกออกไปตามภูมิภาคต่าง ๆ สาหรับทวีปเอเชียคือ APNIC
(Asia pacific network information center) แต่การขอIP address ตรง ๆ จาก APNIC
ดูจะไม่เหมาะนัก เพราะเครื่องคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ เชื่อมต่อด้วย Router ซึ่งทาหน้าที่บอก
เส้นทาง ถ้าท่านมีเครือข่ายของตนเองที่ต้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ก็ควรขอ IP address
จาก ISP (Internet Service Provider) เพื่อขอเชื่อมต่อเครือข่ายผ่าน ISP และผู้ให้บริการก็
จะคิดค่าใช้จ่ายในการเชื่อมต่อตามความเร็วที่ท่านต้องการ เรียกว่า Bandwidth เช่น
2 Mbps แต่ถ้าท่านอยู่ตามบ้าน และใช้สายโทรศัพท์พื้นฐาน ก็จะได้ความเร็วในปัจจุบันไม่เกิน
56 Kbps ซึ่งเป็น speed ของMODEM ในปัจจุบันทIP address คือเลข 4 ชุด หรือ
4 Byte เช่น 203.158.197.2 หรือ 202.29.78.12 เป็นต้น
3. 3
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
อินเตอร์เน็ต
แต่ถ้าเป็นสถาบันการศึกษาโดยทั่วไปจะได้ IP มา 1Class C เพื่อแจกจ่ายให้กับ Host ใน
องค์กรได้ใช้ IP จริงได้ถึง 254 เครื่อง เช่น 203.159.197.0 ถึง 203.159.197.255 แต่ IP แรก
และ IP สุดท้ายจะไม่ถูกนามาใช้ จึงเหลือ IP ให้ใช้ได้จริงเพียง 254 หมายเลข
1 Class C หมายถึง Subnet mask เป็น 255.255.255.0 และแจก IP จริงในองค์กรได้
สูงสุด 254
1 Class B หมายถึง Subnet mask เป็น 255.255.0.0 และแจก IP จริงในองค์กรได้สูงสุด
66,534
1 Class A หมายถึง Subnet mask เป็น 255.0.0.0 และแจก IP จริงในองค์กรได้สูงสุด
16,777,214
9. 9
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
โปรโตคอล : กติกาของอินเทอร์เน็ต
การทางานต่างๆ ในอินเทอร์เน็ตจะสอดคล้องกันได้ก็ต้องมีกติกาที่ทุกเครื่อง ทุกโปรแกรม รับรู้
และทาตามเป็นแบบหรือมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ซึ่งบนอินเทอร์เน็ตมีกติกาเหล่านี้มากมายสาหรับแต่
ละเรื่อง เรียกว่า “โปรโตคอล” (Protocol)
โปรโตคอล
10. 10
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
TCP/IP
TCP/IP กับ IP Address
เป็นกติกาหลักในการรับส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ข้อมูลทุกรูปแบบไม่ว่าจากโปรแกรมโดก็ต้อง
แปลงให้อยู่ในมาตรฐานของ TCP/IP เสียก่อนจึงจะรับส่งได้กติกานี้กาหนดวิธี ขั้นตอนในการรับส่ง
ข้อมูล และตรวจสอบความถูกต้องอย่างรัดกุม
ส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้ ก็คือ การเรียกชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต่อกับอินเทอร์เน็ต ซึ่งทาง
เทคนิคเรียกว่า “ที่อยู่ IP” หรือ IP address เป็นตัวเลขล้วน ๆ 4 ชุด แต่ละชุดมีค่าระหว่าง 0-255 คั่น
ด้วยจุด เช่น 202.56.159.90 หรือ 203.107.136.7 เป็นต้อน ซึ่งจะตั้งชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ได้นับ
พันล้านเครื่องโดยไม่ซ้ากัน
11. 11
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
โดเมน
Domain Name (โดเมน) คือ ชื่อเว็บไซต์ (www.yourdomain.com) ที่ท่านสามารถเป็น
เจ้าของ ซึ่งจะต้องไม่ซ้ากับคนอื่น เพื่อการเรียกหาเว็บไซต์ที่ต้องการ "ชื่อเว็บไซต์" คือ สิ่ง
แรกที่แสดง หรือ ประกาศความมีตัวตนบนอินเตอร์เน็ตให้คนทั่วไปได้รู้จัก สามารถมีได้ชื่อ
เดียวในโลกเท่านั้น เช่น www.gict.co.th เมื่อผู้ใช้กรอกชื่อลงไปในช่อง Address ของ
Internet Explorer ก็จะส่งชื่อไปร้องถามจากเครื่องแปลชื่อ โดเมน (Domain Name
Server) และได้รับกลับมาเป็นไอพีแอดเดรส (Internet Protocol) แล้วส่งคาร้องไปให้กับ
เครื่องปลายทางตามไอพีแอดเดรส และได้ข้อมูลกลับมาตามรูปแบบที่ร้องขอไป
12. 12
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
DNS
ประวัติความเป็นมาของระบบ DNS
ในช่วงศตวรรษที่ 90 ในขณะที่การใช้งานอีเมลล์เริ่มเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย จานวนเครือข่ายที่เชื่อมต่อ
มายังเครือข่าย ARPA NET ได้เพิ่มจานวนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทาให้บริการเครือข่ายแบบรวมศูนย์ของ
SRI ( The NIC ) เริ่มประสบปัญหาในการจัดการระบบฐานข้อมูลซึ่งใช้ในการอ้างอิงถึงโฮสท์ที่เชื่อมต่อมา
จากเครือข่ายอิสระต่างๆ ที่มีโครงสร้างการทางานที่แตกต่างกัน โดยในขณะนั้น การเพิ่มรายชื่อโฮสท์แต่
ละเครื่องเข้ามาในเครือข่าย ARPA NET จาเป็นต้องส่งข้อมูลโดยการ FTP เข้ามาปรับปรุงข้อมูลในไฟล์
Host Table ที่ SRI เป็นผู้ดูแล ซึ่งจะมีการปรับปรุงข้อมูลเพียงสัปดาห์ละ 2 ครั้งเท่านั้น ทาให้การจัดการ
ข้อมูลมีความล่าช้าและไม่ยืดหยุ่น นอกจากนี้เครือข่ายต่างๆ ที่เข้ามาเชื่อมต่อต่างก็ต้องการอิสระในการ
จัดการบริหารระบบของตนเองจึงเกิดแนวความคิดที่กระจายความรับผิดชอบในการจัดระบบนี้ออกไป โดย
แบ่งการจัดพื่นที่ของโลกเสมือนนี้ออกเป็นส่วนๆ โดยกาหนดให้โฮสท์แต่ละเครื่องอยู่ภายใต้ขอบเขตพื้นที่
ใดพื้นที่หนึ่งที่ได้แบ่งเอาไว้ โดยแต่ละพื้นที่สามารถแบ่งออกเป็นพ้นที่ที่เล็กลงได้อย่างไม่จากัด ซึ่งพื้นที่
แต่ละส่วน ก็ถูกอ้างไปยังพื้นที่ที่ใหญ่กว่าเป็นลาดับชั้นขึ้นไป เพื่อให้สามารถระบุตาแหน่งอ้างอิงของโฮสท์
แต่ละเครื่องที่อยู่ภายใต้ขอบเขตของแต่ละพื้นที่ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว โดยพื้นที่เสมือนแต่ละส่วนถูก
เรียกว่า “ โดเมน” (Domain) และเรียกการอ้างระบบอ้างอิงเป็นลาดับชั้นด้วยชื่อของแต่ละพื้นที่หรือ
โดเมนนี้ว่า “ ระบบชื่อโดเมน ” ( Domain Name System) ส่วนพื้นที่ทั้งหมดของโลกเสมือนที่
ประกอบด้วยพื้นที่ย่อยๆจานวนมากนี้ จะเรียกว่า “Domain Name Space”
13. 13
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
DNSคืออะไร ระบบ Domain Name System (DNS) นี้เป็นระบบจัดการแปลงชื่อไปเป็นหมายเลข IP
address โดยมีโครงสร้างฐานข้อมูลแบบลาดับชั้นเพื่อใช้เก็บข้อมูลที่เรียกค้นได้อย่างรวดเร็ว
nกลไกหลักของระบบ DNS คือ ทาหน้าที่แปลงข้อมูลชื่อและหมายเลข IP address หรือทากลับกันได้
นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันเพิ่มเติมอื่นๆ อีก เช่น แจ้งชื่อของอีเมล์เซิร์ฟเวอร์ใน domain ที่รับผิดชอบด้วย
ในระบบ DNS จะมีการกาหนด name space ที่มีกฎเกณฑ์อย่างชัดเจน มีกลไกการเก็บข้อมูลเป็น
ฐานข้อมูลแบบกระจาย ทางานในลักษณะของไคลเอนต์เซิร์ฟเวอร์ (Client/Server)
การทางานของระบบ DNS
การทางานของระบบชื่อโดเมนนั้น เริ่มต้นจากเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งทาหน้าที่เป็น DNS Server ซึ่ง
ทางานด้วยซอฟแวร์พิเศษชื่อว่า BIND ที่ทาหน้าที่ในการรับส่งข้อมูลระหว่าง DNS Server แต่ละ
เครื่องผ่าน DNS Photocal เมื่อมีคาร้องขอให้สืบค้นหมายเลข ไอพี อย่างไรก็ตาม คาตอบที่ DNS
Server จะมีให้ก็ต่อคาร้องหนึ่งๆนั้นขันกับว่า DNS Server นั้นเป็น DNS Server ประเภทใด ซึ่ง
สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ
1. Name Server
2. Resolver
การตั้งชื่อให้ DNS ต้องเป็นไปตามกฏนี้
ใช้ได้เฉพาะตัวอักษรละติน (ASCII character set) ใน RFC 1035 ระบุว่าสัญลักษณ์ที่ใช้ได้ใน
โดเมนเนม คือ
(1) ตัวอักษร a ถึง z (case insensitive - ไม่สนใจพิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่)
(2) เลข 0 ถึง 9
(3) เครื่องหมายยติภังค์ (-)
DNS
14. 14
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
website
Web (ใยแมงมุม) และ Site(โครงข่าย) หรือเรียกว่า "โครงข่ายในแมงมุม" ซึ่งหมายถึง กลุ่มของเว็บ
เพจที่เกี่ยวข้องและสัมพันธ์กัน ประกอบไปด้วย เว็บเอกสาร(Web Documents) และสื่อประสมต่าง ๆ
เช่น ภาพ เสียง ข้อความ เป็นต้น ซึ่งอาจเรียกเอกสารต่าง ๆ เหล่านี้ว่า เว็บเพจ (Web Page) และเรียก
เว็บหน้าแรกของแต่ละเว็บไซต์ว่า โฮมเพจ (Home Page) หรืออาจกล่าวได้ว่า เว็บไซต์ก็คือเว็บเพจ
อย่างน้อยสองหน้าที่มีลิงก์ (Links) เชื่อมต่อถึงกัน
โฮมเพจ (Home Page) คือ หน้าแรกที่เข้าสู่เว็บไซต์นั้น ๆ
เว็บเพจ (Web Page) คือ หน้าแต่ละหน้าที่มีการเชื่อมโยงถึงกัน
16. 16
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
HTML
ความเป็นมาของ HTML เริ่มขึ้นเมื่อปี 1980 เมื่อ Tim Berners Lee เสนอต้นแบบสาหรับนักวิจัย
ใน CERN เพื่อแลกเปลี่ยนเอกสาร ข้อมูลด้านการวิจัย โดยใช้ชื่อว่า Enquire ในปี 1990 เค้าได้
เขียนโปรแกรมเบราเซอร์ และทดลองรันบนเซิฟเวอร์ที่เค้าพัฒนาขึ้น HTML ได้รับการรู้จักจาก
HTMLTagซึ่งมีอยู่18Tagในปี1991
HTML ถูกพัฒนาจาก SGML และ Tim ก็คิดเสมือนว่า HTML เป็นโปรแกรมย่อยของ SGML อยู่
ในตอนนั้น ต่อมาในปี 1996 เพื่อกาหนดมาตรฐานให้ตรงกัน W3C World Wide Web
Consortium จึงเป็นผู้กาหนดสเปกทั้งหมดของ HTML และปี 1999 HTML 4.01 ก็ถือกาเนิดขึ้น
โดยมี HTML 5 ซึ่งเป็น Web Hypertext Application ถูกพัฒนาต่อมาในปี 2004 นอกจากนี้ยังมี
การพัฒนาไปเป็น XHTML ซึ่ง คือ Extended HTML ซึ่งมีความสามารถและมาตรฐานที่รัดกุมกว่า
อีกด้วย โดยอยู่ภายใต้การควบคุมของ W3C (World Wide Web Consortium)
17. 17
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
รู้จักกับ e-mail
Electronic mail หรือ E-mail (อีเมล์) เป็นการรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ในแบบเดียวกับ
จดหมายทั่วไปคือส่งแล้วข้อมูลที่ส่งนั้นจะไปกองรอไว้ เมื่อผู้รับว่างจึงจะเข้ามาเปิดอ่าน โดยไม่
จาเป็นต้องมีการโต้ตอนกันทันทีอีเมล์เป็นรูปแบบการสื่อสารที่ใช้กันแพร่หลายบนอินเทอร์เน็ตมานาน
แล้ว (เน็ตเวิร์กในองค์กรก็อาจมีอีเมล์ภายในใช้เช่นกัน) โปรแกรมที่ใช้รับส่งอีเมล์จะถูกรับส่งผ่าน
เครื่องที่ให้บริการรับส่งเมล์ ซึ่งเรียกว่า “เมล์เซิร์ฟเวอร์” (mail server)
ในองค์กรที่มีระบบอีเมล์ใช้เป้นของตนเอง ผู้ดูแลระบบจะจัดที่อยู่อีเมล์หรือ E-mail address ให้
ใช้เป็นการเฉพาะสาหรับหน่วยงานนั้น ๆ นอกจากนั้นเรายังสามารถขออีเมล์แอดเดรสจาก ISP ที่ใช้
บริการอยู่ได้เช่นกัน หรือขอจากเว็บไซต์ที่ให้บริหารอีเมล์ฟรี เช่น hotmail.com, gmail.com เป็นต้น
รูปแบบของ E-mail address
ในการส่งอีเมล์นี้ เราจะต้องรู้ที่อยู่ของผู้รับว่าจะส่งไปที่ชื่อไหน ซึ่งเรียกว่า “ตู้จดหมาย” หรือ
mailbox และต่างกันไปตามแต่ละคน แต่จะอยู่ในรูปแบบใกล้เคียงกันคือ ชื่อผู้ใช้@ชื่อโดเมนหรือชื่อ
หน่วยงาน ดังตัวอย่างนี้
จะเห็นว่าอีเมล์แอดเดรสนี้จะอ้างถึงเมล์บ็อกซ์บนเครื่องที่เราตั้งไว้โดยเฉพาะ ซึ่งอาจเป็นของ
ISP ที่เราใช้หรือของหน่วยงาน/สถาบันการศึกษาที่เราสังกัด และจะโหลดมาอ่านที่เครื่องเราได้ เรียก
อีกอย่างว่า “ป็อปเมล์” (POP คือ Post Office Protocol เป็นมาตรฐานของโปรแกรมที่ทาหน้าที่ดาวน์
โหลดอีเมล์มาอ่านในเครื่องของเรา)
18. 18
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
รูปแบบ e-mail
address
E-mail address : ที่อยู่การส่ง E-mail
<user name> @ domain name
sakda@kku.ac.th
ต้องไม่มี ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่, เว้นวรรค
มีส่วนประกอบ 3 ส่วน
Username : ชื่อผู้ใช้
เครื่องหมาย : @ เรียกว่า assign อ่านออกเสียงว่า “at”
domain name : ชื่อสถานีรับ-ส่ง E-mail
19. 19
Document Name
Your Company Name (C) Copyright (Print Date) All Rights Reserved
การรับและส่ง
อีเมล
การรับ-ส่งอีเมล หมายถึง การติดต่อสื่อสารด้วยตัวหนังสือแบบใหม่ แทนจดหมายบนกระดาษ
แต่ใช้วิธีการส่งข้อความ ในรูปของสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ จากเครื่องคอมพิวเตอร์หนึ่งไปยัง
ผู้รับอีกเครื่องหนึ่ง ปัจจุบันอีเมล หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นบริการอินเทอร์เน็ตที่ผู้มีคน
นิยมใช้มากที่สุด เพราะสามารถติดต่อรับส่ง ข้อมูลระหว่างกันได้อย่างรวดเร็ว