More Related Content
Similar to ใบงานที่สอง (20)
ใบงานที่สอง
- 2. ความหมายและความสาคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์มีผลกระทบต่อความเจริญก้าวหน้าของสังคม ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านนี้ มีการ
เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงเป็นเรื่องยากที่ประชาชนจะคอยติดตามความก้าวหน้าอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น
การศึกษาเทคโนโลยี ของคอมพิวเตอร์ จึงต้องศึกษาหลักการและเนื้ อหาพื้นฐานเป็นสาคัญ การศึกษาด้าน
วิทยาการคอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งจาเป็นเสมือนกับการศึกษาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ คอมพิวเตอร์ได้
เปลี่ยนแปลง โลกของเราในด้านต่างๆ มากมาย ได้แก่
• 1. สังคมโดยส่วนใหญ่เปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมเป็นสังคมสารสนเทศ
• 2. การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ มักขึ้นอยู่กับข้อมูลซึ่งได้จากระบบคอมพิวเตอร์
• 3. คอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องมือที่สาคัญแทนเครื่องมืออื่นๆ ในอดีต เช่น เครื่องพิมพ์ดีด เครื่อง
คิดเลข เป็นต้น
• 4. คอมพิวเตอร์ถูกใช้ในการออกแบบสถานการณ์หรือปัญหาที่ซับซ้อนต่างๆ
• 5. คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในงานติดต่อสื่อสารของโลกปัจจุบัน
- 3. การ ศึกษาด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีขึ้น เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจในวิทยาการ
คอมพิวเตอร์ และมีความสามารถในการพัฒนาโปรแกรมได้ การจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์จะเป็นสิ่งที่ทา
ให้ผู้เรียน สามารถบรรลุเป้ าหมายนี้ ได้อย่างสมบูรณ์ จุดมุ่งหมายที่สาคัญประการหนึ่งของการเรียน
การส อน คอมพิวเตอร์ ในโรงเรียน คือ การที่ผู้เรียนได้มีโอกาสนาความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ไปใช้
ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเอง ซึ่งวิธีการที่มีประสิทธิภาพ
มากวิธีหนึ่งคือการทาโครงงานคอมพิวเตอร์
โครง งานคอมพิวเตอร์เป็นการใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ในการศึกษา ทดลอง แก้ปัญหา
ต่างๆ เพื่อนาผลงานที่ได้มาประยุกต์ใช้งานจริง หรือเพื่อใช้ช่วยสร้างสื่อเสริมการเรียนการสอนให้มี
ประสิทธิภาพ ยิ่งขึ้น โครงงานคอมพิวเตอร์จึงเป็นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้ผู้เรียนได้เรียน รู้และ
ฝึกทักษะการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งเครื่องมือต่างๆในการแก้ปัญหา รวมทั้งการ
พัฒนาเจตคติในการสร้างผลงาน
- 5. • เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พัฒนาและแสดงความสามารถตามศักยภาพของตนเอง
• ·เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า และเรียนรู้ในเรื่องที่ผู้เรียนสนใจได้ลึกซึ้งกว่าการเรียนในห้อง
ตามปกติ
• ส่งเสริมและพัฒนากระบวนการคิด การแก้ปัญหา การตัดสินใจ รวมทั้งการสื่อสารระหว่างกัน
• กระตุ้นให้ผู้เรียนมีความสนใจในการศึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และมีความสนใจที่จะประกอบ
อาชีพทางด้านนี้
• ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ในทางสร้างสรรค์
• สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนและชุมชน รวมทั้งส่งเสริมให้ชุมชนสนใจคอมพิวเตอร์และ
เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมากขึ้น
• สร้างสานึกและความรับผิดชอบในการศึกษาและพัฒนาระบบด้วยตนเอง
- 8. ขอบข่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบข่ายของโครงงาน มีองค์ประกอบดังนี้
• 1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้าปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลักวิชาการทางทฤษฎี
ตามเนื้ อหาโครงงานนั้นๆหรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว
• 2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเองหรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เป็นภาค
เรียน หรือมากว่าก็ได้แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่
• 3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วยตนเองตาม
ความถนัด สนใจ และความพร้อม
• 4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงานแผนปฏิบัติงานและการแปลผล รายงานผล
ต่ออาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กาหนดไว้
• 5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้งการใช้
จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
- 9. ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
• 1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือเป็นโครงงานที่ใช้
คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาโดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่ง
อาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัดบททบทวนและคาถามคาตอบไว้พร้อมผู้เรียนสามารถเรียนแบบ
รายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การ
สอนซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงาน
ประเภทนี้ สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆโดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้ อหาที่
เข้าใจยากมาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่นการเคลื่อนที่แบบโปรเจ็ก
ไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆที่มีผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สาคัญ
ของประเทศไทยเป็นต้น
- 28. การทดลองทฤษฎี
• ความหมายของโครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
โครงงานประเภทนี้ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการ จาลองการ
ทดลองของสาขาต่างๆซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริง
ได้ เช่น การจุดระเบิดเป็นต้นและเป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวม
ความรู้ หลักการข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆอย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการ
ศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร
สมการ หรือคาอธิบายพร้อมทั้งารจาลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมา
เป็นภาพภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้นซึ่งจะทาให้ผู้เรียนมี
ความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้นการทาโครงงานประเภทนี้ มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมี
ความรู้ในเรื่องนั้นๆเป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี เช่นการ
ทดลองเรื่องการไหลของของเหลวการทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า
และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติเป็นต้น
- 32. การประยุกต์ใช้งาน
• ความหมายโครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
เป็น โครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ ใช้งานจริงใน
ชีวิตประจาวัน โครงงานงานประเภทนี้ จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ซอฟต์แวร์หรือ
อุปกรณ์ ใช้สอยต่างๆ ซึ่งอาจจะสร้างใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้ว
ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ ได้ โครงงานลักษณะนี้ จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความ
ต้องการของผู้ใช้ก่อนแล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้น
ๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้ว
ปรับ ปรุงแก้ ไขให้มีความสมบูรณ์โครงงานประเภทนี้ นักเรียนต้องใช้ความรู้
เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งอาจใช้วิธีทางวิศวกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ในการพัฒนาด้วย