More Related Content
Similar to หน่วยความจำสำรอง
Similar to หน่วยความจำสำรอง (20)
More from Supaksorn Tatongjai
More from Supaksorn Tatongjai (20)
หน่วยความจำสำรอง
- 2. หน่วยความจาสารอง (Secondary Storage)
หน่วยความจาสารองคือ อุปกรณ์ที่ทาหน้าที่ในการเก็บบันทึกข้อมูลและ
โปรแกรมต่างๆแบบถาวร ได้แก่ฮาร์ดดิสก์ ฟล็อปปี้ดิสก์ แผ่นซีดีรอม ฯลฯโดยถ้าเป็น
ข้อมูลที่มีขนาดเล็กและต้องการเคลื่อนย้ายไฟล์ไปที่คอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ก็ใช้ฟล็อป
ปี้ดิสก์แต่ถ้าเป็นข้อมูลที่มีขนาดใหญ่มากๆ ก็จะเก็บลงในฮาร์ดดิสก์ หรือแผ่นซีดีรอม
ซึ่งข้อมูลที่เก็บในฟล็อปปี้ดิสก์หรือฮาร์ดดิสก์เราสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้และ
บันทึกลงไปใหม่ได้ส่วนแผ่นซีดีรอมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้
- 3. ฟล็อปปี้ดิสก์ (Floppy Disk)
หรือที่นิยมเรียกว่า แผ่นดิสก์ หรือ ดิสเกตต์ (diskette) ฟล็อปปี้ดิสก์เป็นอุปกรณ์เก่าแก่ที่มีมานานับสิบปี ตั้งแต่ก่อนยุค
ของพีซี สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1971 เพื่อใช้กับเครื่อง System/370 ของบริษัทไอบีเอ็ม (IBM) สร้างเริ่มจากขนาด 8 นิ้ว
กลายมาเป็น 5.25 นิ้ว และในที่สุดก็มาหยุดอยู่ที่ 3.5 นิ้ว ความจุก็ได้เพิ่มจากไม่กี่ร้อยกิโลไบต์มาเป็น 1.44 และ 2.88 เมกะไบต์ใน
ปัจจุบัน สมัยก่อนโปรแกรมมีขนาดไม่ใหญ่นัก ใช้เนื้อที่จุภายในดิสก์ไม่กี่กิโลไบต์ แต่ปัจจุบันข้อมูลมีปริมาณมากขึ้นพร้อม ๆ กับ
เทคโนโลยีมัลติมีเดีย ทาให้ความจุของดิสก์ไม่เพียงพอกับความต้องการในปัจจุบัน
- 4. ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk)
ฮาร์ดดิสก์ หรือ จานบันทึกแบบแข็ง คือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่บรรจุข้อมูลแบบไม่ลบเลือน
ฮาร์ดดิสก์ที่มีกลไกแบบปัจจุบันถูกประดิษฐ์ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2499โดยนักประดิษฐ์ยุคบุกเบิกแห่งบริษัทไอบีเอ็ม โดยมีความจุ
เริ่มแรกที่ 100 กิโลไบต์ มีขนาด 20 นิ้ว ในปี พ.ศ.2523 ฮาร์ดดิสก์ยังเป็นสิ่งที่หายากและราคาแพงมาก แต่หลังจากนั้น
ฮาร์ดดิสก์กลายเป็นมาตรฐานของพีซีและราคาถูกลงมาก
มีลักษณะเป็นจานแม่เหล็กหลายแผ่นวางซ้อนกัน โดยอาจมีจานวนแผ่น 3-11 แผ่น ซึ่งจะไม่เรียกว่าดิสก์ แต่จะเรียกว่า
แพลตเตอร์ (Platter) แทน ซึ่งแต่ละแพลตเตอร์จะสามารถเก็บข้อมูลได้ทั้งสองด้าน เนื่องจากแพลตเตอร์ผลิตจากสารจาพวก
โลหะหรือแก้วบางชนิด จึงไม่สามารถงอไปงอมาได้ เหมือนกับฟล็อปปี้ดิสก์ ทาให้ต้องมีโลหะปิดไว้ทุกด้านเพื่อป้ องกันการ
กระทบกระเทือน ฮาร์ดดิสก์จึงสามารถเก็บข้อมูลได้เป็นจานวนมาก แล้วแต่ความจุของแต่ละรุ่น
- 5. CD (Compact Disk)
CD (Compact Disk) เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลสารองที่ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
ลักษณะหนึ่งที่สาคัญของ CD คือจะถูกอ่านด้วยเครื่องอ่าน CD (CD - Rom Drive) ที่มีความเร็วที่แตกต่างกันออกไป ความเร็วใน
การอ่านซีดีจะเขียนอยู่ในรูปของตัวคูณ (x) เช่น เครื่องอ่านซีดี ขนาด 24x ,32x, 52x เป็นต้น ปัจจุบันซีดีแต่ละแผ่นสามารถจุข้อมูล
ได้ประมาณ
700 MB ซีดี สามารถแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ
- CD - Rom (Compact Disk Read - Only Memory) มีลักษณะคล้ายกับซีดีเพลง หรือ ซีดีที่ขายกันอยู่ทั่วไป
คาว่า read - onlyหมายถึง อ่านได้เพียงอย่างเดียว ผู้ใช้ไม่สามารถแก้ไขหรือลบข้อมูลในแผ่นซีดีได้
- CD - R (Compact Disk Recordable ) เป็น ซีดีที่สามารถเขียน บันทึก หรือ write ข้อมูลได้ครั้งเดียว และสามารถอ่านข้อมูล
ได้หลายครั้งแต่ไม่สามารถลบข้อมูลที่อยู่ใน CD - R ได้
- CD - RW (Compact Disk Rewriteable หรือ Erasable Optical Disk) ซีดีประเภทนี้คล้ายกับ
- 6. DVD (Digital Versatile Disk)
DVD (Digital Versatile Disk) เป็นแผ่นข้อมูลแบบบันทึกด้วยแสง (Optical DisK) ที่ใช้บันทึกข้อมูลต่างๆ เช่น ภาพยนตร์ โดยให้
คุณภาพของภาพและเสียงที่ดี ดีวีดีถูกพัฒนามาใช้แทนซีดีรอม โดยใช้แผ่นที่มีขนาดเดียวกัน (เส้นผ่าศูนย์กลาง 12 เซนติเมตร) แต่ว่า
ใช้การบันทึกข้อมูลที่แตกต่างกัน และความละเอียดในการบันทึกที่หนาแน่นกว่า เดิมทีดีวีดีมาจากชื่อย่อว่า digital video disc แต่ใน
ภายหลังผู้ผลิตบางรายเห็นว่าควรเปลี่ยนชื่อเป็น Digital Versatile Diskปัจจุบันตามคานิยามอย่างเป็นทางการแล้ว DVD ไม่ได้ย่อมา
จากชื่อเต็มแต่อย่างใด เครื่องเขียนแผ่นดีวีดี (DVD Writer) คือ เครื่องสาหรับการบันทึกข้อมูลลงบนแผ่นดีวีดี
ในการบันทึก DVD แต่ละชนิดนั้นไม่สามารถใช้งานข้ามชนิดได้ คือไม่สามารถใช้งานข้ามไดร์ฟได้เช่น DVD-RW ไม่สามารถ
ใช้งานในเครื่องบันทึก DVD+RW ได้ต้องเขียนกับเครื่องบันทึก DVD-RW เท่านั้นส่วนการอ่านข้อมูลใน DVD นั้น สามารถอ่าน
กับเครื่องไหนก็ได้ เช่น DVD+RW สามารถอ่านกับเครื่องเล่น DVD-RW ได้ส่วน DVD-RAM เดี๋ยวนี้ไม่นิยมใช้แล้ว
- 7. แฟลชไดรฟ์ (Flash Drive)
แฟลชไดรฟ์ หรือ ยูเอสบีไดรฟ์ เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์สาหรับเก็บข้อมูลโดยใช้หน่วยความจาแบบแฟลช ทางานร่วมกับ
ยูเอสบี 1.1 หรือ 2.0 มีลักษณะเล็ก น้าหนักเบาเป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่ไม่ต้องมีตัวขับเคลื่อน (Drive) สามารถพกพาไปไหนได้
โดยต่อเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย Port USB ปัจจุบันความจุของไดร์ฟมีตั้งแต่ 8, 16, 32, 64, 128 จนถึง 1024 เมกะ
ไบต์ ทั้งนี้ยังมีไดร์ฟลักษณะเดียวกัน ในปัจจุบัน (พ.ศ. 2549) บางรุ่นมีความจุสูงถึง16 GB โดยทั่วไปไดรฟ์ จะทางานได้ในหลาย
ระบบปฏิบัติการซึ่งรวมถึง วินโดวส์98/ME/2000/XP แมคอินทอช ลินุกซ์ และยูนิกซ์ แฟลชไดรฟ์ รู้จักกันในชื่อต่างๆ รวมถึง
“ทัมบ์ไดรฟ์ ” “คีย์ไดรฟ์ ” “จัมป์ ไดรฟ์ ” และชื่อเรียกอื่น โดยขึ้นอยู่กับผู้ผลิต
- 8. เทคโนโลยี Blu-Ray
บลูเรย์ดิสค์ (Blu-ray Disc) หรือ บีดี (BD) คือรูปแบบของแผ่นออพติคอลสาหรับบันทึกข้อมูลความละเอียดสูง ชื่อของบลูเรย์มา
จาก ช่วงความยาวคลื่นที่ใช้ในระบบบลูเรย์ ที่ 405 nm ของเลเซอร์สี "ฟ้า" ซึ่งทาให้สามารถทาให้เก็บข้อมูลได้มากกว่าดีวีดี ที่มี
ขนาดแผ่นเท่ากัน โดยดีวีดีใช้เลเซอร์สีแดงความยาวคลื่น 650nm
ความจุของบลูเรย์ดิสค์
ซึ่งปกติแผ่นบลูเรย์นั้นจะมีลักษณะคล้ายกับแผ่น ซีดี/ดีวีดี โดยแผ่นบลูเรย์จะมีลักษณะแบบหน้าเดียว และสองหน้า โดยแต่ละ
หน้าสามารถรองรับได้มากถึง 2 เลเยอร์ อาทิ แผ่น BD-R (SL) หมายถึง Blu-Ray Disc ROM แบบ Single Layer แบบหน้าเดียว มี
ความจุ 25 GB แผ่น BD-R (DL) หมายถึง Blu-Ray Disc ROM แบบ Double Layer แบบหน้าเดียว มีความจุ 50 GB แผ่น BD-R
(2DL) หมายถึง Blu-Ray Disc ROM แบบ Double Layer แบบสองหน้า มีความจุ 100 GB โดยปี 2013 สามารถลิต BD-XL ซึ่งมี
ขนาดมากกว่า 100 GB ไปที่ 128 GB ได้แล้ว
- 9. เทคโนโลยี HD-DVD
เอชดีดีวีดี (HD DVD - High Definition DVD หรือ High Density DVD) เป็นแผ่นข้อมูลแบบบันทึกด้วยแสง (optical disc) ที่ใช้
บันทึกวิดีโอความละเอียดสูง (high definition) หรือข้อมูลชนิดอื่นๆ ก็ได้HD DVD มีลักษณะใกล้เคียงกับ Blu-ray ซึ่งเป็นแผ่น
บันทึกข้อมูลคู่แข่ง โดยใช้ขนาดแผ่นเท่ากับซีดีรอม (เส้นผ่านศูนย์กลาง 12 ซม.) HD DVD ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทขนาด
ใหญ่ในอุตสาหกรรมหลายบริษัท เช่น โตชิบา, NEC, ซันโย, ไมโครซอฟท์ และอินเทล รวมถึงบริษัทภาพยนตร์อย่าง Universal
Studios โตชิบายังได้ออกวางขายเครื่องเล่นแผ่น HD DVD เครื่องแรกเมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2549
ในปี พ.ศ. 2551 บริษัทผู้ผลิตในอุตสาหกรรมเริ่มถอนการสนับสนุนต่อระบบนี้ โดยในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ โตชิบาได้ประกาศ
อย่างเป็นทางการว่าจะหยุดพัฒนา ผลิต และจาหน่ายเครื่องเล่นและบันทึก HD DVD และจะหันไปสนับสนุนระบบคู่แข่ง คือ บลู
เรย์ของโซนีแทน และกลุ่มผู้สนับสนุนได้ยกเลิกอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 มีนาคม
- 10. Floptical Disk
เป็นการนาเทคโนโลยีด้านแสงเข้ามาช่วยในการบันทึกข้อมูล แต่ไม่ได้ใช้แสงโดยตรง ลักษณะ Floptical disk จะมี
รูปร่างเหมือนฟล็อปปี้ดิสก์ขนาด 3.5 นิ้วทุกประการ แต่มีความจุมากขึ้นเป็น 120 เมกะไบต์ทีเดียว และตัวไดรว์ยังใช้อ่านเขียน
ข้อมูลแผ่นดิสก์ธรรมดาได้ด้วย ชื่อทางการค้าของ Floptical Drive ที่เป็นที่รู้จักกันได้แก่ SuperDisk จาก
บริษัท Imation
หลักการของ Floptical Drive
อาศัยการบันทึกข้อมูลด้วยสนามแม่เหล็กเหมือนฟล็อปปี้ดิสก์ธรรมดา แต่ใช้กลไกการอ่านที่เรียกว่า optical
servo (หรือบางทีเรียกว่า Laser servo)หรือวงจรเลื่อนตาแหน่งหัวอ่านควบคุมด้วยแสง ทาให้สามารถเลื่อนหัวอ่าน/
เขียนได้ตรงกับแทรคที่มีความหนาแน่นกว่าดิสเก็ตธรรมดามาก เช่น ในดิสก์ธรรมดามี 80 แทรค 2480 sector แต่ใน
Floptical disk จะมี ถึง 1,736 แทรค 245,760 sector ทาให้ได้ความจุรวมถึง 120 เมกะไบต์ต่อแผ่น Floptical
disk หมุนด้วยความเร็ว 720 รอบต่อนาที และมีอัตรารับส่งข้อมูล ประมาณ 3.2-5.4 เมกะบิตต่อวินาที
- 11. ZIP drive
ใช้เทคโนโลยีคล้ายกับ Floptical Diskแต่รูปแบบต่างกันไป เช่น Zip Drive จากIomega ที่ออกมา
ก่อน Superdisk แต่ได้รับความนิยมมากพอสมควร Zip Drive มีทั้งรุ่นที่ต่อกับParallel port,USB
port และแบบ SCSI และได้เพิ่มความจุจาก 100 เป็น 250 เมกะไบต์Iomega ยังได้ผลิต Jaz Drive ที่มี
ลักษณะเหมือนฮาร์ดดิสก์ถอดได้ โดยจะมีตัวไดรว์เป็นระบบSCSI เท่านั้น และมีแผ่นบรรจุข้อมูลขนาด 1 GB และ 2
GB นิยมใช้สาหรับการสารองข้อมูลย้ายไปมา เนื่องจากมีความเร็วน้อยกว่าฮาร์ดดิสก์ และยังมีราคาแพง
กว่า Zip หรือ Superdisk มาก
- 12. เทปแบ็คอัพ ( Tape Backup )
เป็นอุปกรณ์สาหรับการ Backup ข้อมูลโดยเฉพาะ interface ส่วนใหญ่ เป็นแบบ SCISI II, Ultra SCISI ซึ่งเหมาะกับการสารอง
ข้อมูลขนาดใหญ่มาก ๆ ขนาดระดับ 10-100 GB โดยส่วนใหญ่จะใช้สารองข้อมูลในหน่วยงาน บริษัท ต่าง ๆ เพราะว่าผู้ใช้
โดยทั่วไปคงไม่มีความจาเป็นถึงกับต้องการสารองข้อมูลที่ใหญ่ ขนาดนั้น เพราะราคาเครื่องเริ่มต้นค่อนข้างสูงพอสมควร แต่ราคา
ของตัว Tape ที่นามา Backup นั้นราคาต่อขนาดแล้วค่อนข้างต่ากว่าสื่อสารองข้อมูลแบบอื่น ๆ เพราะฉะนั้น Tape backup นี้ยังคง
ไดัรับความนิยมในการนามาใช้สารองข้อมูล ขนาดใหญ่ ๆ
- 13. เทปแม่เหล็ก (magnetic tape)
เป็นอุปกรณ์ที่มีการใช้กันมานานแล้ว ลักษณะของเทปเป็นแถบสายพลาสติก เคลือบด้วยสารแม่เหล็กเหมือนเทป
บันทึกเสียง เทปแม่เหล็กใช้สาหรับเก็บข้อมูลจานวนมาก มีการจัดเก็บและเรียกค้นข้อมูลแบบเป็นลาดับ เพราะฉะนั้นการเข้าถึงก็
จะเป็นแบบการเข้าถึงโดยลาดับ (sequential access) เช่น ถ้าต้องการหาข้อมูลที่อยู่ในลาดับที่ 5 บนเทป เราจะต้อง
อ่านข้อมูลลาดับต้นๆ ก่อนจนถึงข้อมูลที่เราต้องการ ส่วนการประยุกต์นั้นเน้นสาหรับใช้สารองข้อมูลเพื่อความมั่นใจ เช่น ถ้า
ฮาร์ดดิสก์เสียหาย ข้อมูลในฮาร์ดดิสก์อาจสูญหายได้ จึงจาเป็นต้องเก็บสารองข้อมูลไว้
- 14. การ์ดเมมโมรี ( Memory Card )
เป็นสื่อจัดเก็บข้อมูลประเภทหน่วยความจาสารองแบบ flash memory ประเภทหนึ่ง ซึ่งผู้ใช้สามารถบันทึกข้อมูลลง
ไปได้โดยที่ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ ข้อมูลไม่มีการสูญหายเมื่อปิดสวิตซ์ มีความเร็วสูงในการขนถ่ายเคลื่อนย้ายข้อมูล ส่วนที่ใช้บันทึก
ข้อมูลของเมมโมรี่การ์ดจะเป็นชิป ซึ่งเรียกว่า solid state chips ซึ่งใช้กระบวนการทางไฟฟ้ าในการบันทึกข้อมูล และมี
ตัวควบคุมการอ่านและเขียนในตัว
การ์ดเมมโมรี ( Memory Card ) พัฒนาขึ้นเพื่อนาไปใช้กับอุปกรณ์เทคโนโลยีแบบต่างๆ เช่น กล้องดิจิทัล
คอมพิวเตอร์มือถือ โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
- 16. รายชื่อผู้จัดทา
1.นาย ธาราพงศ์ ใจดี ม.4.7 เลขที่ 8
2.นางสาว ธัญวรัตน์ ทองรุ่ง ม.4.7 เลขที่ 14
3.นาย วีรภัทร สอนอาจ ม.4.7 เลขที่ 27
4.นางสาว ชนิดา พลายด้วง ม.4.7 เลขที่ 32
5.นางสาว วรัญญา เรือนสุภา ม.4.7 เลขที่ 33
6.นางสาว จิรัชสุดา กาชัย ม.4.7 เลขที่ 35
7.นางสาว ฐิตาพร กิติยศ ม.4.7 เลขที่ 37
8.นาย ปฏิภาณ จอมราชคม ม.4.7 เลขที่ 45
9.นาย ศุภกฤต ขวัญจริง ม.4.7 เลขที่ 46
10.นาย เกียรติศักดิ์ สุประการ ม.4.7 เลขที่ 49