โครงงานคอม3
- 2. • การกรีด หมายถึงการน้าผลผลิตน้ายางออกมาจากต้นยาง ซึ่งเจ้าของสวนยางควร
ศึกษาและวิธีการปฏิบัติอย่างถูกต้อง ซึ่งจะท้าให้ผลผลิตที่มากแบบยั่งยืนไม่ท้าให้
ต้นยางเสียหาย มีอายุการกรีดนาน การเจริญเติบโตของต้นยางดี ขายไม้ได้ราคา
เมื่อโค่นล้มเพื่อปลูกแทนใหม่ ยางพันธุ์ดีที่ให้ผลผลิตสูงจ้าเป็นต้องใช้วิธีการปฏิบัติ
ที่ถูกต้อง
- 3. • จึงจะได้ผลคุ้มค่า การเลือกใช้วิธีการต่างๆ เช่น การเปิดกรีด วิธีการกรีด
ระบบกรีด และมีดกรีดยางที่ถูกต้อง สามารถที่จะรักษาต้นยางเพื่อให้กรีด
ได้นาน แต่หากใช้วิธีการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง นอกจากได้น้ายางน้อยแล้ว
ยังท้าให้ต้นยางเสียหาย เป็นเหตุให้รายได้ของเกษตรกรลดน้อยลงด้วย
โดยการกรีดยางจะต้องยึดหลักที่ว่า เมื่อกรีดแล้วต้องได้น้ายางมาก
เปลือกเสียน้อยที่สุด แล้วยังสามารถกรีดได้นาน 25-30 ปี
- 6. • การกรีดยางด้วยวิธีที่ถูกต้อง จะท้าให้ชาวสวนยางได้รับน้ายางปริมาณมากในแต่ละ
วัน และที่ส้าคัญที่สุด คือ ท้าให้ต้นยางที่โดนกรีดไม่บอบช้าเสียหาย
• ต้นยางที่โดนกรีดอย่างผิดวิธีจะเกิดความเสียหาย ไม่สามารถกรีดซ้าได้ หรือไม่ก็ได้
น้ายางในปริมาณที่น้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายยิ่งนัก เพราะกว่าจะปลูก
ยางพาราให้เจริญเติบโตจนกระทั่งพร้อมจะกรีดได้ ต้องใช้ระยะเวลานานหลายปี
ดังนันเกษตรกรชาวสวนยางทุกท่าน จึงควรให้ความส้าคัญกับวิธีการกรีดยางให้มาก
- 8. • จากการทดสอบพบว่า ถ้ากรีดยางที่เพาะจากเมล็ดที่ระดับความสูงจากโคนต้น 15
เซ็นติเมตร และ 45-60 เซ็นติเมตร ปริมาณน้ายางที่ได้จากการกรีดที่ความสูง
15 ซม. จะมากกว่าประมาณ ครึ่งเท่า
• แต่อย่างไรก็ดีการที่น้ายางออกมาเกินไป จะส่งผลให้ต้นยางเป็นโรคเปลืองแห้ง
หรือ แคระแกรนได้
• ส้าหรับวิธีที่จะทราบได้ว่าต้นยางพาราที่เพาะจากเมล็ดสามารถเริ่มกรีดได้แล้วหรือไม่
ให้วัดความยาวรอบต้นยาง ที่ความสูง 75 เซ็นติเมตร จากพืนดิน หากวัดรอบต้น
ได้ 50 ซม. ก็สามารถเริ่มกรีดยางได้แล้ว
- 9. • 2. ต้นยางที่เพาะจากการติดตา ต้นยางประเภทนี จะมีล้าต้นตังแต่โคนไปจนถึง
ด้านบนเกือบเท่ากัน ความหนาของเปลือกยางที่ระดับความสูงวัดจากพืนในช่วง
ระดับ 90 ถึง 125 เซนติเมตรไม่ต่างกันมาก และก็ให้ปริมาณน้ายางในการกรีดพอ
ๆ กัน
• ชาวสวนยาง สามารถทราบได้ว่าสามารถเริ่มกรีดยางประเภทนีได้แล้ว โดยการวัด
ความสูงจากรอยติดตาที่อยู่บริเวณโคนต้นยางขึนไป 125 เซ็นติเมตร จากนันท้า
การวัดความยาวรอบล้าต้นที่ต้าแหน่งนัน ถ้ามีความยาวมากกว่า 50 เซ็นติเมตร ก็
สามารถเริ่มกรีดยางได้
- 10. • ปลูกยางพารา เริ่มกรีดได้ตอนไหน
• จากข้อมูลข้างต้นจะพบว่า การจะทราบว่าสามารถเริ่มต้นกรีดยางได้เมื่อไร ท้าได้โดย
วัดขนาดล้าต้น ไม่ได้ใช้วิธีนับจ้านวนวันในการปลูกแต่อย่างใด ซึ่งการวัดขนาดล้าต้น
เป็นร้อยเป็นพันต้น วิธีที่ง่ายที่สุด คือ ให้ตัดท่อนไม้ขนาด 75 ซม. หากยางที่ปลูก
เป็นชนิดเพาะด้วยเมล็ด หรือ ตัดท่อนไม้ 125 ซม. หากเป็นต้นยางที่เป็นต้นติดตา
จากนันผูกลวดหรือเชือกยาว 50 ซม. ไว้ที่ปลายไม้
• การวัดขนาดล้าต้นยางว่าพร้อมกรีดแล้วหรือไม่ก็เพียงใช้ไม้ดังกล่าวทาบไปที่ต้นยาง
แล้วใช้ลวดพันรอบต้น ก็จะรู้ว่ามีขนาดถึง 50 เซ็นติเมตรแล้วหรือไม่
- 11. • ต้นยางที่เพาะจากเมล็ด ให้เริ่มกรีดที่ระดับความสูงจากพืน 75 ซม. โดยกรีดจาก
ด้านซ้ายมือของคนกรีดเอียงลงมาทางด้านขวาด้วยมุม 25 องศา ความยาวในการ
กรีด คือ ครึ่งต้น
• ต้นยางติดตา ให้เริ่มกรีดที่ระดับความสูงจากรอยติดตาบริเวณโคนต้น 125
เซ็นติเมตร กรีดจากซ้ายมือของผู้กรีดลงมาทางขวา เอียงท้ามุม 30 องศา
- 13. • เมื่อจะท้าแนวหน้ายางในการเปิดกรีด ก็ใช้ไม้วัดดังกล่าว ตังทาบเข้ากับส่วนสูงของ
ล้าต้น แล้วแนบแผ่นสังกะสีพันวนไปทางด้านซ้ายมือ ใช้มือซ้ายจับปลายสังกะสีไว้
แล้วขีดเส้นตามแนวบนของแผ่นสังกะสี ตังแต่จุดครึ่งต้นของล้าต้น ไปจนสุดสังกะสี
ที่ติดอยู่กับไม้ รอยที่เกิดขึนนี คือ แนวหน้ายางที่จะเปิดกรีดด้วยความยาวครึ่งต้น
ซึ่งมีความสูงและความลาดเอียง ตามที่ก้าหนดไว้อย่างถูกต้อง
• การเปิดกรีดจะท้าในทิศทางเดียวกันหมดทุกต้น รวมทังการกรีดก็จะเหมือนกันทุก
ต้นด้วย
- 15. • หน้าที่ของเยื่อเจริญ คือ เพิ่มเปลือกใหม่ให้งอกมา แทนเปลือกเก่าที่ถูกกรีดทิงไป
ถ้าเยื่อเจริญไม่ได้รับความเสียหาย เปลือกของต้นยางพาราที่งอกขึนใหม่จะเรียบ
สม่้าเสมอ กรีดซ้าอีกได้
• จะเห็นได้ว่าการกรีดต้องอาศัยความช้านาญอย่างมาก ต้องอาศัยการหัดกรีดเป็น
เวลาหลายเดือนเลยทีเดียว กว่าจะเกิดความช้านาญ
• นอกจากกรีดไม่ให้ลึกเกินไปแล้ว จะต้องพยายามกรีดให้เปลือกบางที่สุด ครังละ
ประมาณ 1.5 มิลลิเมตร เดือนหนึ่งๆ กรีดเปลือกออกไม่ควรเกิน 2.5 เซนติเมตร
- 16. • ต้นยางต้นหนึ่งๆ ควรถนอมเปลือกไว้ให้กรีดได้ อย่างน้อย ๓ รอบ โดยใช้เวลากรีดให้ได้กว่า 3๐ ปี ถ้าเปลือก
ยังดีเมื่อต้นยางอายุกว่า15 – 20 ปีแล้ว ยังมีทางที่จะใช้ยาเร่งน้ายาง จะช่วยให้ได้น้ายางเพิ่มมากขึน จะมาก
น้อยเพียงใด ขึนอยู่กับพันธุ์ยางด้วย บางพันธุ์เพิ่มได้อีกเท่าตัว
• ช่วงระยะเวลาในการกรีดยางที่เหมาะสม คือ เช้ามืด ซึ่งมองเห็นเปลือกต้นยางแล้ว ผู้กรีดยางควรกรีดด้วย
ความระมัดระวังไม่รีบร้อนกรีด เพราะอาจท้าให้เกิดความเสียหายกับต้นยางได้
• ในแต่ละวันคนกรีดยาง 1 คน ควรที่จะท้าการกรีดสูงสุด ประมาณ 350 -450 ต้น ไม่ควรเร่งรีบจนเกินก้าลัง
และขาดความปราณีต
- 18. • ข้อควรใส่ใจ คือ อย่าคิดแต่จะกรีดให้ได้น้ายางปริมาณมาก ๆ เพียงอย่างเดียว
เพราะถ้าน้ายางออกมากเกินไป ต้นยางพาราจะเป็นโรคเปลือกแห้งได้ (ไม่มีน้ายา
งออก)
• ผู้กรีดยางควรหมั่นสังเกตว่า ยางต้นใดที่ปริมาณน้ายางลดลง หรือไม่มีน้ายางออก
เลย ต้นใดผิดสังเกตให้ หยุดกรีด แต่ถ้าจ้านวนต้นยางที่ผิดปกติมีมากถึงประมาณ
ร้อยละ 5 ของต้นยางทังสวน ให้เปลี่ยนเป็นกรีดครึ่งรอบต้นทุกวันที่สาม และให้
พักต้นยางที่ทรุดโทรมเสียประมาณ ๖ เดือน แล้วจึงทดลองกรีดต่อไปใหม่
- 20. • จากเกณฑ์ด้านต้น น้ามาแทนค่าสัญลักษณ์ได้โดย
• - s เป็นสัญลักษณ์ความยาวของการกรีดรอบต้น จากซ้ายเอียงลงมาทางขวา การกรีดยางครึ่งรอบต้น จึงเท่ากับ S/2
• - d เป็นสัญลักษณ์ของความบ่อยครังของการกรีด การกรีดวันเว้นวัน หรือกรีดทุกๆ 2 วัน จึงเท่ากับ d/2
• ดังนันเกณฑ์มาตรฐาน “การกรีดยางครึ่งต้นโดยกรีดวันเว้นวัน เป็นการกรีดให้เกิดภาระแก่ต้นยางพอดี 1๐๐%” สามารถ
เขียนเป็นสมการได้ว่า
• S/2 x d/2 = 100%
• จากสมการนีให้ถือว่า ตัวอักษรมีค่าเท่ากับ 1 ทุกตัวอักษร ท้าให้พลิกแพลงระบบกรีดได้ โดยระวังไม่ให้เกิดภาระแก่ต้นยาง
เกินกว่า 1๐๐%
- 22. • แต่หากเจ้าของสวนยางมีปัญหา คือ หาคนงานที่มีความช้านาญในการกรีดได้เพียง
แค่ 10 คน จากการค้านวนข้างต้น ก็สามารถเปลี่ยนระบบการกรีด โดย เปลี่ยน
จากกรีดครึ่งต้น เป็น กรีดรอบต้น แต่กรีดทุก 4 วัน ฉะนัน จึงแบ่งสวนออกเป็น
4 ส่วน เพื่อหมุนเวียนกรีดวันละ 1 ส่วน วันหนึ่งๆ จึงมีสวนที่จะกรีดเพียง 1๐๐
ไร่ และใช้คนงานเพียง 1๐ คนเท่านัน โดยได้ผลผลิตเท่าเดิม
- 23. • อุปกรณ์รองน้ายาง
• อุปกรณ์ในการรองน้ายางมี ดังนี
• - รางรองน้ายาง มีลักษณะเป็นรางเล็กๆ ท้าด้วยสังกะสี ใช้ส้าหรับติดใต้รอยกรีด เพื่อรอง
น้ายางให้ไหลลงถ้วย
• - ลวดวางถ้วยรองน้ายาง เพื่อให้วางถ้วยรอง น้ายางได้สะดวก จะต้องมีลวดท้าเป็นห่วง
ส้าหรับวาง ถ้วยให้ติดกับต้นยางด้วย
- 24. • - ถ้วยรองน้ายาง ควรเป็นวัตถุถาวร เท่าที่ใช้กันอยู่ทั่วไป ใช้ถ้วยดินเผาเคลือบภายใน ขนาดจุ 2
๐๐-5๐๐ ซีซี
• - ถังเก็บน้ายางและถังรวมน้ายาง เมื่อกรีดยางแล้วประมาณ 3 ชั่วโมง น้ายางจะหยุดไหล จึงใช้
ถังหูหิวขนาดที่จะหิวไปได้ เช่น ขนาดจุ 10-15 ลิตร เมื่อเก็บน้ายางเต็มแล้ว ก็เอาไปเทรวมไว้ใน
ถังรวม ซึ่งมีหลายรูป หลายแบบ แล้วแต่ความสะดวกในการขนส่งเป็นสวนๆ ไป
• บางสวนท้าเป็นถังสังกะสี หรืออะลูมิเนียม ให้เหมาะที่จะวางท้ายรถจักรยานหรือรถจักรยานยนต์ได้
และบางรายก็ท้าให้ปากแคบ จะได้ไม่กระฉอก ถ้าสวนยาง ขนาดใหญ่ จะใช้รถยนต์บรรทุกมา
ล้าเลียงเอาไป โดยเทรวมลงในถังใหญ่ ซึ่งมีรูปร่างคล้ายถัง ที่ใช้ในรถยนต์บรรทุกน้ามัน