More Related Content
Similar to Organization Boss (20)
Organization Boss
- 2. หลาย ๆ ท่านคงคงเคยได้ยินสำนวนฝรั่งที่ว่า “ People Organization But Leave Their Boss” ที่มาของสำนวนนี้เกิดจากหลาย ๆ องค์กร ที่พยายามสรรหาบุคลากรเก่งๆ เข้ามาสู่องค์กร แต่ไม่สามารถที่จะรักษาคนเหล่านั้นไว้ได้
- 3. ส่วนใหญ่เรามักเข้าใจว่าการดึงดูด และรักษาคนให้อยู่ทำงานกับองค์กรนั้น ขึ้นอยู่กับเงินหรือค่าตอบแทนที่น่าพึงพอใจ แต่หากถามว่าเงินคือตัวแปรสำคัญอย่างเดียวหรือไม่ คำตอบคือ “ ไม่ใช่ ” เพราะการจากไปของพนักงานมาจากหลายสาเหตุ
- 4. การที่จะค้นหาตำตอบที่แท้จริงว่า พนักงานลาออกจากองค์กรเพราะเหตุใด ต้องอาศัยระยะเวลาตรวจสอบอย่างใกล้ชิด เพราะแค่การสัมภาษณ์ตอนลาออก ( Exit Interview) และเหตุผลที่เขียนในใบลาออกเพียงอย่างเดียว คงไม่ใช่คำตอบที่แท้จริง เพราะคำตอบที่พนักงานส่วนใหญ่ตอบ คือ “ ไปเรียนต่อ ไปช่วยงานที่บ้าน ได้งานใหม่ ” ล้วนแต่เป็นคำตอบเดิม ๆ ที่อาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้
- 6. จากการพูดคุยกับผู้จัดการหรือหัวหน้างานในหลากหลายองค์กร พบว่าไม่ได้มีการเตรียมความให้กับผู้ที่จะขึ้นมาเป็นหัวหน้างานเท่าที่ควรนัก ส่วนใหญ่มักเลื่อนจากตำแหน่งพนักงานให้มาเป็นหัวหน้าโดยอาศัยเกณฑ์ Technical Skill มากกว่า People Skill หรือมักเลื่อนตำแหน่งจากชิ้นงานมากกว่าการบริหารจัดการคน ความเชื่อเหล่านี้ไม่ถูกต้อง เพราะหัวหน้าที่ดีต้องมี People Skill ประกอบด้วย แต่องค์กรมักมองข้ามข้อนี้ไป มีเพียงไม่กี่องค์กรเท่านั้นที่มีการพัฒนาเรื่อง People Skill ให้กับ คนที่จะขึ้นมาเป็นหัวหน้า บางองค์กรเลวร้ายกว่านั้นคือไม่มีการพัฒนา People Skill ให้กับคนที่จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าเลย จนทำให้เกิดปัญหาเรื้อรังและส่งผลให้คนดี คนเก่งในองค์กรต้องหลีกหนีหัวหน้างานเหล่านั้นไปเอง
- 7. Marshall Goldsmith ( Executive Coaching ) ได้บรรยายหัวข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับภาวะผู้นำ และทิ้งข้อคิดไว้เตือนสติหัวหน้างานทั้งหลายว่า ” What got you here, won’t get you there” หมายความว่า “ วิธีการที่ท่านใช้ในอดีตและทำให้ท่านประสบความสำเร็จในวันนี้ อาจไม่ใช่วิธีการที่ท่านจะนำไปใช้เพื่อสร้างความสำเร็จในอนาคต ”
- 8. Peter Drucker ปรมาจารย์ด้านภาวะผู้นำ กล่าวไว้ว่า “ พวกเราใช้เวลามากมายในการสอนหัวหน้าว่า พวกเขาควรต้องทำอะไรเพิ่มเติมที่จะเป็นหัวหน้าที่ดี แต่เราไม่ได้ให้เวลามากพอที่จะบอกหัวหน้าว่า พวกเขาควรหยุดทำอะไรเพื่อที่เป็นหัวหน้าที่ดี ” หัวหน้าจำนวนกว่าครึ่งที่ผมเคยเจอ ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพิ่มเติม ถ้าเพียงพวกเขารู้จักที่จะหยุดทำอะไรสักอย่างหนึ่งที่ไม่ควรทำ พวกเขาจะเป็นหัวหน้าที่ดีขึ้นได้ในทันที
- 9. 1. รับปากแล้วไม่ทำ หรือรับปากในสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ด้วยอำนาจหรือหน้าที่ของตนคนเดียว เช่น รับปากจะขึ้นเงินเดือนให้ หรือจะให้โบนัสต้นปี หรือปรับเลื่อนตำแหน่งให้เพื่อรั้งให้ลูกน้องทำงานให้ต่อไป เป็นต้น เพราะจะทำให้ลูกน้องเสียความรู้สึก เสื่อมศรัทธานับถือในเรื่องที่รับปากแล้วทำไม่ได้ อาจทำให้ลูกน้องหมดกำลังในการทำงาน สิ่งที่หัวหน้าควรหยุดทำ 5 อย่าง
- 10. 2. รับชอบแต่ไม่รับผิด ไม่กางปีกปกป้องลูกน้อง ดร . เสรี วงษ์มณฑา เคยกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การเป็นหัวหน้าที่ดีคือการรู้จักที่จะใช้มือ ใช้หัว และใช้หน้า หมายถึงการเป็นหัวหน้าต้องรู้จักที่จะใช้มือในการลงมือทำให้ลูกน้องได้เห็น ใช้หัวเพื่อสร้างสรรค์ความคิดใหม่ ไม่ใช่คอยจับผิดลูกน้อง และที่สำคัญใช้หน้าเพื่อใช้เอาไว้ยืดหน้ารับความผิดแทนลูกน้อง อย่างคำโบราณว่า “ รับหน้า ” ไม่ใช่ทุกอย่างบอกว่า ไม่รู้ มอบหมายให้ลูกน้องทำแล้ว ลูกน้องเป็นคนทำ แล้วจะเรียกว่าหัวหน้าได้อย่างไร สิ่งที่หัวหน้าควรหยุดทำ 5 อย่าง
- 11. 3. ตัดสินโดยไม่ฟังความคิดเห็นของผู้อื่น หรือไม่อธิบายเหตุผลใดๆ เป็นการตัดสินใจโดยยึดความคิดของตนเองเป็นหลัก อย่าบังคับลูกน้องทำในสิ่งที่เขาลำบากใจ ควรฟังเหตุผลส่วนตัวของลูกน้องบ้างหรือเมื่อตัดสินใจออกมาเบื้องต้นแล้วบอกว่ามันเป็น “ นโยบาย ” ซึ่งการอธิบายแค่นี้ไม่สามารถให้ลูกน้องเข้าใจได้กลับยิ่งจะทำให้เขารู้สึกไม่ดีต่อองค์กรมากขึ้นไปอีก สิ่งที่หัวหน้าควรหยุดทำ 5 อย่าง
- 12. 4. พูดจาไม่ให้เกียรติลูกน้อง หัวหน้างานจำนวนหนึ่งมักมีความคิดว่าตัวเองมีความสนิทสนมกับลูกน้องเป็นอย่างดี จึงไม่จำเป็นต้องระวังคำพูดมากนัก โดยเฉพาะลูกน้องที่ทำงานด้วยกันมานานยิ่งสนิท คิดไปเองว่าลูกน้องคงรู้จักนิสัยของตนดีอยู่แล้ว ทำให้หัวหน้าหลายๆคน ไม่ระวังคำพูดและปฏิบัติกับลูกน้องโดยไม่ให้เกียรติกับลูกน้องอยู่บ่อย ๆ สิ่งที่หัวหน้าควรหยุดทำ 5 อย่าง
- 13. 5. ตำหนิลูกน้องต่อหน้าธารกำนัล หัวหน้าจำนวนมากไม่ไว้หน้าลูกน้อง ถ้าลูกน้องทำพลาดก็จะตำหนิกันตรงนั้นเลย พูดเสียงดังในสิ่งที่เป็นปมด้อยและความผิดพลาดของลูกน้องต่อหน้าพนักงานแผนกอื่น ทำให้ลูกน้องรู้สึกอายและไม่อยากทำให้งาน และที่สำคัญไม่เคยชมลูกน้อง นัยว่ากลัว ลูกน้องเหลิงอะไรทำนองนั้น สิ่งที่หัวหน้าควรหยุดทำ 5 อย่าง
- 14. อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญ คือ ความเสมอภาคเท่าเทียม ความเป็นกลางและความยุติธรรม การให้สิทธิพิเศษกับลูกน้องคนใดคนหนี่งจนทำให้เห็นความแตกต่าง เช่น ลูกน้องบางคนทำดีและทำหน้าที่ของตัวเองไม่มีข้อบกพร่อง ส่วนอีกคนทำผิดระเบียบบ่อยครั้ง แต่ได้รับผลงานและผลตอบแทนเท่ากันหรือดีกว่า ทำให้ลูกน้องอีกคนที่ทำดีอยู่แล้วไม่มีกำลังใจในการทำงานและเสียความรู้สึกได้ คุณควรจะเป็นหัวหน้าที่มีความยุติธรรมมากกว่านี้ ไม่ควรเอาความรู้สึกส่วนตัวมาตัดสินมากเกินไป