Surgery1. เสนอ อาจารย์ภัทรา โต๊ะบุรินทร์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 12. หลังการทำศัลยกรรมตาและการดูแลตนเอง หลังทำศัลยกรรมตา ท่านอาจมีอาการเจ็บบ้างเล็กน้อย อาจมีอาการตึงและระคายตาใน 24-48 ชม . แรก ควรประคบบริเวณแผลผ่าตัดด้วยน้ำแข็ง หลังจากนั้นจึงประคบต่อด้วยน้ำอุ่น อาการบวมต่างๆ จะเริ่มยุบลง อาการเขียวคล้ำรอบตาในบางคนจะเริ่มหายไป ถ้าเป็นการผ่าตัดที่ทำที่เปลือกตาด้านนอก แพทย์จะนัดตัดไหมประมาณ 5-7 วัน หลังจากการผ่าตัด ชั้นตาจะเริ่มเข้าที่ประมาณ 1-3 เดือน ขึ้นอยู่กับการผ่าตัดทำมากน้อยเพียงใด อาจมีตาพร่ามัวบ้าง หรือ ในบางรายเมื่อกระพริบตาจะรู้สึกตึง แต่อาการทุกอย่างจะเริ่มเข้าที่หลัง 2-4 สัปดาห์ งดเว้นการออกกำลังกายสักระยะหนึ่ง อีกทั้งงดเว้นการดื่ม alcohol ซึ่งจะทำให้มีน้ำคั่งที่บริเวณแผล และทำให้ชั้นตายุบบวมช้าลง 13. สิ่งที่ควรรู้ในการทำศัลยกรรม 1 . การทำตาบนตาล่าง ไม่สามารถขจัดรอยดำคล้ำของบริเวณรอบตาได้ 2 . ไม่สามารถขจัดริ้วรอยเล็กๆที่อยู่บนผิวรอบตาได้ 3 . ในบางรายควรร่วมกับการดึงขมับ ( forehead lift ) หรือการดึงหน้า ( facelift ) 4 . ความเข้าใจที่ว่าการทำศัลยกรรมตาบนและตาล่างจะช่วยลดริ้วรอยตีนกา ( crow's feet ) ด้านข้างตาได้นั้นเป็นความเข้าใจที่ผิด ศัลยกรรมตาบน - ตาล่างอาจช่วยลดริ้วรอยตีนกาได้บ้าง แต่ริ้วรอยที่เกิดที่หางตานั้น เกิดจากการหดตัว ( action ) ของกล้ามเนื้อข้างตา 27. - ควรเลือกใช้ลิปสติกที่ได้มาตรฐาน สีอ่อนๆ เป็นธรรมชาติ ไม่ควรใช้ดินสอเขียนตัดขอบปากแรงๆ หรือสีเข้มจัดเกินไป - ควรหมั่นทาลิปมันหรือลิปกลอส เพื่อบำรุงความชุ่มชื้น ให้กับริมฝีปากอย่างสม่ำเสมอ - ควรงดสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาด ริมฝีปากดำคล้ำ ... ทำให้จางลง 29. ศัลยแพทย์จะกรีดผิวหนังบนริมฝีปากส่วนที่เป็นสีชมพู เพื่อสอดไขมันหรือคอลาเจนเข้าไปตลอดตามแนวยาวของริมฝีปาก โดยบาดแผลที่เกิดขึ้นจะอยู่บนริมฝีปากส่วนที่เป็นสีชมพู จึงทำให้มองไม่เห็นบาดแผลเมื่อหายแล้ว ผลข้างเคียงหลังผ่าตัด จะมีอาการบวม และจะค่อย ๆ บรรเทาลง ควรประคบถุงน้ำแข็ง เพื่อช่วยลดอาการบวมของริมฝีปาก ทำความสะอาดบาดแผลด้วย ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เพื่อฆ่าเชื้อโรค หลีกเลี่ยงการยิ้มหรือพูดคุย มาก ๆ และดื่มน้ำโดยใช้หลอดดูด งดรับประทานอาหารที่ร้อนหรือเย็นจัด จนกว่าบาดแผลจะหายดี อย่างไรก็ตาม หากมีอาการเลือดออก หรือแผลติดเชื้อ ให้รีบไปพบศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดทันที เสริมริมฝีปากอูม เสริมรอยยิ้มสวย 49. สะโพกและต้นขา กรรมวิธีที่ใช้ในการทำให้อวัยวะเหล่านี้ กระชับขึ้น คือ โพลิแซกชั่น ( liposaction) ซึ่งจากความเห็น ของ นายคาร์ลิดิช ศัลยแพทย์ ได้ให้ความเห็นว่า ส่วนมากคนไข้ ที่มาทำการรักษาด้วยวิธีการโพลิแซกชั่นนั้น มักไม่เห็นอายุต่ำกว่า 30 ปี เท่าใดนั้น แต่หากจะว่าไปแล้ว การออกกำลังกายควบคุม อาหารเป็นสิ่งที่ดีในการทำให้สะโพกและต้นขามีความกระชับได้ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องทำโพลิแซกชั่น ให้ยุ่งยากเลย ใช้เวลาทำ : ประมาณ 1-4 ชม ขึ้นกับปริมาณไขมันที่ต้องการดูดออก สถานบริการ : ทำที่คลินิก ถ้าต้องดมยาทำที่โรงพยาบาล ก่อนทำ หลังทำ 50. ยาที่ใช้ : ยาชาเฉพาะที่ ถ้าทำตำแหน่งเดียว เช่น หน้าท้อง หรือกระเปาะ ด้านข้างต้นขา ถ้าหากทำพร้อมกันหลายตำแหน่งหรือปริมาณไขมัน ที่เอาออกมาก ก็ใช้การดมยา การเตรียมตัวก่อนทำ : การดูดไขมัน เป็นการเกลารูปร่าง ถ้ามีรูปร่างอ้วนมากและมีความต้องการจะลดน้ำหนักอยู่แล้ว ควรรอจนน้ำหนักใกล้เคียงหรือเข้าที่ และพิจารณาดูดไขมันในส่วนที่ไม่สมดุลกับรูปร่างส่วนอื่น การลดน้ำหนักโดยการควบคุมอาหารและออกกำลังกายก่อนดูดไขมันมีผลดีต่อผลหลังการดูดไขมัน หากใช้ยาชาเฉพาะที่ ไม่มีการเตรียมตัวอื่นเป็นพิเศษ ไม่ต้องอดอาหาร ควรรับประทานอาหารให้ไม่อิ่มเกินไป หากต้องดมยา จะได้ตรวจเช็คร่างกายทั้งระบบเลือด ปอด และ หัวใจ ว่ามีความแข็งแรง พร้อมที่จะดมยา เพื่อความความปลอดภัยในการดมยา และต้อง งดอาหารและน้ำ 6 ชั่วโมงก่อนดมยา ... การดูดไขมัน ( Liposuction Surgery) 51. วิธีการผ่าตัด : การดูดไขมัน แพทย์จะทำเครื่องหมายบนร่างกายในตำแหน่งที่ ต้องการ เพื่อกะจำนวนไขมันที่ต้องเอาออกรวมถึงตำแหน่งที่ต้องแก้ไข เพื่อให้ได้ทรวดทรงที่ต้องการและฉีดยาชาที่ได้เตรียมขึ้น ( เพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น นานขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดไขมัน และช่วยลดปริมาณเลือดที่ออก ) ในบริเวณที่จะดูดไขมัน แพทย์จะทำการดูดไขมันผ่านแผลเล็กๆ ขนาดครึ่งเซนติเมตร และแผลจะซ่อนตามซอกรอยพับของร่างการ เช่นในซอกขาหนีบหรือหลุมสะดือ การดูดไขมันจะใช้เครื่องมือขนาดแตกต่างกัน ดูดไขมันในแต่ละระดับ และสิ้นสุดที่เป็นการดูดปรับละเอียดในระดับตื้นใกล้ผิว เพื่อลดปัญหาผิวเป็นคลื่นไม่สม่ำเสมอ เมื่อได้ทรวดทรงที่ต้องการแล้ว จากนั้นก็ถึงขั้นตอนการเย็บปิดแผลให้เรียบร้อยที่สุดโดยเย็บเพียง 1-2 เข็มต่อจุด เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย การดูดไขมัน ( Liposuction Surgery) 52. แผลผ่าตัด : แผลเป็นเส้นตรงเล็กๆขนาดไม่เกิน 8 มิลลิเมตร ซ่อนอยู่ใน รอยพับตามธรรมชาติ เช่น รอยพับขาหนีบ รอยขาพับบริเวณเข่าใน หลุมของสะดือ โดยมีประมาณ 1-2 แผล ต่อหนึ่งตำแหน่งที่ดูดไขมัน ตัดไหมเมื่อครบ 7 วัน ช่วงพักฟื้น : หากใช้ยาชาเฉพาะที่ หลังทำสามารถทำงานได้ทันที หากใช้การดมยา จะต้องพัก โรงพยาบาล 1 วัน เพื่อการดูแลหลัง ดมยาอย่างเต็มที่ หลังจากฟื้นจากการดมยาดีแล้ว ก็สามารถกลับบ้านได้ การดูดไขมัน ( Liposuction Surgery) 53. การดูแลหลังทำ : เนื่องจากการ ดูดไขมัน นี้ มีบาดแผลเพียงเส้นเล็กๆ ประมาณ ครึ่งเซนติเมตร จึงสามารถทำตัวตามปกติ สามารถอาบน้ำโดนแผล ได้เลย แล้วซับให้แห้ง ควรใช้ผ้ายืดหรือชุดยืดเพื่อรัดบริเวณที่ดูดไขมันไว้ ตลอดเวลาโดยเฉพาะ 48 ชั่วโมงแรก ( ยกเว้นตอนอาบน้ำ ) เพื่อกดให้โพรงที่ เกิดจากการดูดไขมันออกไปยุบติดกัน จะได้หายได้เร็ว ลดอาการบวม เขียว และไม่มีน้ำเหลืองคั่งในโพรง และสามารถใส่ต่ออีก 2 สัปดาห์เพื่อให้ได้ผลดี ขึ้น สามารถทำงานปกติได้ แต่ควรงดการทำงานหรือออกกำลังกายที่รุนแรง ที่มีการขยับของบริเวณที่ทำมาก เพราะจะทำให้โพรงที่เกิดจากการดูดไขมัน ติดกันยาก การดูดไขมัน ( Liposuction Surgery)