SlideShare a Scribd company logo
1 of 604
Download to read offline
พจนานุกรมพุทธศาสน
   ฉบับประมวลศัพท




พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต)




    (ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑)
พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท
© พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต)
ISBN 974-575-029-8


พิมพครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๒๒ จํานวน ๑,๕๐๐ เลม
– งานพระราชทานเพลิงศพ พระครูปลัดสมัย กิตฺติทตฺโต เจาอาวาสพระพิเรนทร
พิมพครั้งที่ ๒ (เพิ่มศัพทและปรับปรุง) พ.ศ. ๒๕๒๗ จํานวน ๙,๔๐๐ เลม
พิมพครั้งที่ ๓ (เพิ่มภาคผนวก) พ.ศ. ๒๕๒๘ จํานวน ๕,๐๐๐ เลม
– พิมพถวายมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดย “ทุนพิมพพจนานุกรมพุทธศาสน”
พิมพครั้งที่ ๔–๙ พ.ศ. ๒๕๓๑–๒๕๔๓ จํานวน ๓๑,๕๐๐ เลม
พิมพครั้งที่ ๑๐ พ.ศ. ๒๕๔๖ (จัดเรียงพิมพใหมดวยระบบคอมพิวเตอร)
  ขนาดตัวอักษรธรรมดา ๕,๐๐๐ เลม และขนาดตัวอักษรใหญ ๕,๐๐๐ เลม
พิมพครั้งที่ ๑๑ - มีนาคม ๒๕๕๐ (ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑)
– คณะผูศรัทธารวมกันจัดพิมพเปนธรรมทาน จํานวน ๕,๐๐๐ เลม




พิมพท่ี
พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท
© พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต)
ISBN 974-575-029-8


พิมพครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๒๒ จํานวน ๑,๕๐๐ เลม
– งานพระราชทานเพลิงศพ พระครูปลัดสมัย กิตฺติทตฺโต เจาอาวาสพระพิเรนทร
พิมพครั้งที่ ๒ (เพิ่มศัพทและปรับปรุง) พ.ศ. ๒๕๒๗ จํานวน ๙,๔๐๐ เลม
พิมพครั้งที่ ๓ (เพิ่มภาคผนวก) พ.ศ. ๒๕๒๘ จํานวน ๕,๐๐๐ เลม
– พิมพถวายมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดย “ทุนพิมพพจนานุกรมพุทธศาสน”
พิมพครั้งที่ ๔–๙ พ.ศ. ๒๕๓๑–๒๕๔๓ จํานวน ๓๑,๕๐๐ เลม
พิมพครั้งที่ ๑๐ พ.ศ. ๒๕๔๖ (จัดเรียงพิมพใหมดวยระบบคอมพิวเตอร)
  ขนาดตัวอักษรธรรมดา ๕,๐๐๐ เลม และขนาดตัวอักษรใหญ ๕,๐๐๐ เลม
พิมพครั้งที่ ๑๑ - มีนาคม ๒๕๕๐ มิถุนายน ๒๕๕๑ (ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑)
– คณะผูศรัทธารวมกันจัดพิมพเปนธรรมทาน จํานวน ๕,๐๐๐ เลม




พิมพท่ี
บันทึก
                 ในการชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑: ม.ค.-มี.ค. ๒๕๕๐
ก) งานในโครงการ แตชะงัก-หาย
        ยอนหลังไปถึง พ.ศ.๒๕๐๖ เมื่อหนังสือ Student’s Thai–Pali–English Dictionary of
Buddhist Terms เลมเล็กๆ เสร็จแลว ผูจัดทําหนังสือนี้ ก็ไดเริ่มงานพจนานุกรมพระพุทธศาสนา
งานคางที่ ๑: เริ่มแรก คิดจะทําพจนานุกรมพระพุทธศาสนาเชิงสารานุกรม ฉบับที่คอนขาง
สมบูรณเลยทีเดียว มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยเขียนแยกเปน ๒ คอลัมน ซาย-พากยไทย
และ ขวา-พากยอังกฤษ เริ่ม ๒๙ ก.ย. ๒๕๐๖ ถึง ๑๒ พ.ย. ๒๕๐๗ จบอักษร “บ” (ยังคางชําระ
บางคํา) ตองเขารับงานที่มหาจุฬาฯ แลวยุงกับงานที่นั่น จนงานพจนานุกรมชะงักแลวหยุดไปเลย
งานคางที่ ๒: เมื่อเห็นวายากจะมีโอกาสทํางานคางนั้นตอ จึงคิดใหมวาจะทําฉบับที่มีเพียงพากย
ไทย อยางยนยอ โดยมีภาษาอังกฤษเฉพาะคําแปลศัพทใสวงเล็บหอยทายไว แลวเริ่มงานใน พ.ศ.-
--- แตงานที่มหาจุฬาฯ มาก พอทําจบ “ต” ก็ตองหยุด (ตนฉบับงานชุดนี้ท้งหมดหายไปแลว)
                                                                       ั
        (ระหวางนั้น ในป ๒๕๑๕ โดยคํานิมนตของทานเจาคุณเทพกิตติโสภณ ครั้งยังเปนพระมหา
สมบูรณ สมฺปณฺโณ ตกลงทําประมวลหมวดธรรมออกมาใชกันไปพลางกอน ทําใหเกิดพจนานุกรม
               ุ
พุทธศาสตร [ตอมาเติมคําวา ประมวลธรรม] เสร็จเปนเลม ใน พ.ศ. ๒๕๑๘)
งานคางที่ ๓: ใน พ.ศ.๒๕๑๙ ไปเปนวิทยากรที่ Swarthmore College เมื่อกลับมาในป ๒๕๒๑
ตังใจหยุดงานอืนทังหมดเพือจัดทําสารานุกรมพุทธศาสนา โดยเริมตนใหม ทําเฉพาะพากยภาษาไทย มี
  ้              ่ ้       ่                                 ่
ภาษาอังกฤษเพียงคําแปลศัพทในวงเล็บหอยทาย พอใกลสนป ๒๕๒๑ ก็จบ “ก” รวมได ๑๐๕ หนา
                                                         ิ้
กระดาษพิมพดีด และขึ้น “ข” ไปไดเล็กนอย แลวหันไปทําคําเกี่ยวกับประวัติเสร็จไปอีก ๘๐ หนา
        ตนป ๒๕๒๒ นั้นเอง ศาสตราจารย ดร. ระวี ภาวิไล จะพิมพ พุทธธรรม ไดขอเวลาทานเพื่อ
เขียนเพิ่มเติม แลวการไปบรรยายที่ Harvard University มาแทรก กวาจะเติมและพิมพเสร็จ สิ้น
เวลา ๓ ป งานทําพจนานุกรม-สารานุกรมเปนอันหยุดระงับไป จากนั้น งานดานอื่นเพิ่มขึ้นตลอดมา
ข) งานใหมนอกสาย แตเสร็จ: พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท
๑. ยุคพิมพระบบเกา
        ตนป ๒๕๒๒ นั้นแหละ เมื่อเห็นวาคงไมมีโอกาสฟนงานที่คาง ก็นึกถึงหนังสือ ศัพทหลัก
สูตรภาษาไทย (สําหรับวิชาใหมในหลักสูตรนักธรรม) ที่มหาจุฬาฯ พิมพออกมาใน พ.ศ.๒๕๐๓ ซึ่ง
แทบจะยังไมทันไดเผยแพร วิชาใหมนั้นก็ถูกยกเลิกเสีย จึงพบหนังสือชุดนั้นเหลือคางถูกทอดทิ้ง
อยูมากมาย เห็นวา มีขอมูลพอจะทําเปนพจนานุกรมเบื้องตนได อยางนอยหัวศัพทที่มีอยูกจะทุน
                                                                                       ็
แรงทุนเวลาในการเก็บศัพทไปไดมาก จึงตกลงทํางานใหมชิ้นที่งายและรวบรัด โดยนําหนังสือชุดนัน ้
ทัง ๓ เลม รวม ๙ ภาค (ศัพท น.ธ.ตรี–โท–เอก ชันละ ๓ วิชา จึงมีชนละ ๓ ภาค) มาจัดเรียงเปน
  ้                                            ้                 ั้
ข

พจนานุกรมเบืองตนเลมเดียว พิมพออกมากอน ในงานพระราชทานเพลิงศพทานอาจารยพระครูปลัด
                ้
สมัย กิตตทตฺโต เรียกชือวา พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับครู นักเรียน นักธรรม (เปลียนเปนชือปจจุบน
          ฺิ              ่                                                        ่            ่   ั
วา พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท เมือพิมพครังที่ ๒ พ.ศ.๒๕๒๗)
                                                    ่     ้
         หนังสือใหมเลมนีไมเกียวของกับงานทีทามาแลวแตอยางใด งานเกาทีทาคางไวทงหมดถูกพัก
                            ้ ่                  ่ํ                           ่ํ         ั้
เก็บเฉยไว เพราะในกรณีนี้ มุงสําหรับผูเ รียนขันตน โดยเฉพาะนักเรียนนักธรรม ตองการเพียงศัพท
                                                ้
พื้นๆ และความหมายสั้นๆ งายๆ จึงคงขอมูลสวนใหญไวตามหนังสือศัพทหลักสูตรภาษาไทยนั้น
โดยแกไขปรับปรุงอธิบายเพิ่มหรือเขียนขยายบางเพียงบางคํา และเติมศัพทนักธรรมที่ตกหลนและ
ศัพททั่วไปอันควรรูที่ยังไมมี เขามาบาง รวมแลว เปนขอมูลของเกากับของใหมราวครึ่งตอครึ่ง
         หลังจากพิมพออกมาแลว พจนานุกรมเลมนี้ก็มีชะตากรรมที่ขึ้นตอระบบการพิมพยุคนั้น
โดยเฉพาะตนแบบซึ่งอยูในแผนกระดาษที่ตายตัว แทบปรับเปลี่ยนอะไรไมไดเลย การพิมพครั้ง
ตอๆ มา ตองพิมพซ้ําตามตนแบบเดิม ถาจําเปนตองแกไข ก็แกไดเพียง ๔–๕ บรรทัด ยิ่งตอมา
แผนกระดาษตนแบบก็ผุเปอย โดยเฉพาะพจนานุกรมนี้ ตนแบบที่ทําขึ้นใหมในการพิมพครั้งที่ ๒
ไดสูญหายไปตั้งแตพิมพเสร็จ การพิมพตอนั้นมาตองใชวิธีถายภาพจากหนังสือที่พมพครั้งกอนๆ
                                                                                     ิ
         แตกระนั้น พจนานุกรมนี้ยังมีศัพทและคําอธิบายที่จะตองเพิ่มอีกมาก เมื่อแกไขของเดิมไม
ได พอถึงป ๒๕๒๘ จะพิมพครั้งที่ ๓ จึงใสสวนเพิ่มเขามาตางหากตอทายเลมเปน “ภาคผนวก” (มี
ศัพทตั้งหรือหัวศัพทเพิ่ม ๑๒๔ ศัพท รวม ๒๔ หนา) จากนั้นมา ก็ไดแคพิมพซ้ําเดิมอยางเดียว
๒. เขาสูยุคขอมูลคอมพิวเตอร
         เมือเวลาผานมาถึงยุคคอมพิวเตอร ก็มองเห็นทางวาจะแกไข–ปรับปรุง–เพิมเติมพจนานุกรม
            ่                                                                    ่
นีได แตกตองรอจุดตังตนใหม คือพิมพขอมูลพจนานุกรมในเลมหนังสือ ลงในคอมพิวเตอร
  ้         ็          ้                   
         แมจะตองใชเวลาและแรงงานมาก ก็มีทานที่สมัครใจเสียสละ ไดพิมพขอมูลหนังสือ
พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ลงในคอมพิวเตอร โดยมิไดนดหมายกัน เทาทีทราบ ๔ ชุด
                                                                       ั                    ่
เริมดวยพระมหาเจิม สุวโจ แหงมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ทีทางานอยูหลายปจนเตรียมขอมูล
    ่                                                              ่ํ       
เสร็จแลวมอบมาใหเมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๔๑ แลวก็มีชุดของผูอื่นตามมาอีก
         ทังทีมขอมูลในคอมพิวเตอรแลว ผูจดทําเองก็ไมมเี วลาตรวจ เวลาผานมาจนกระทัง รศ. ดร.
           ้ ่ี                              ั                                              ่
สมศีล ฌานวังศะ ราชบัณฑิต (มีบตรหญิง–ชาย คือ น.ส.ภาวนา ตังแตยงเปน ด.ญ.ภาวนา ฌานวังศะ
                                     ุ                           ้ ั
และนองชาย คือ นายปญญา ตังแตยงเปน ด.ช.ปญญา ฌานวังศะ เปนผูชวยพิมพขอมูล) นอกจาก
                                    ้ ั                                              
พิมพขอมูลหนังสือลงในคอมพิวเตอรแลว ยังชวยรับภาระในการพิสูจนอักษร (ตรวจปรูฟ) ตลอดเลม
       
นอกจากตรวจเองแลว ก็ยังหาพระชวยตรวจทานอีก ใหแนใจวาขอมูลใหมในระบบคอมพิวเตอรนี้
ตรงกับขอมูลเดิมในเลมหนังสือ แลวในที่สุด พจนานุกรมนี้ก็พิมพเสร็จออกมาใน พ.ศ. ๒๕๔๖
         เนื่องจากผูจัดทําเองยังไมมีเวลาแมแตจะตรวจปรูฟ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวล
ศัพท พิมพครั้งที่ ๑๐ ที่เสร็จออกมาใน พ.ศ. ๒๕๔๖ ซึ่งเปนครั้งแรกที่ใชขอมูลในระบบคอมพิวเตอร
จึงมีหลักการทั่วไปวา ใหคงเนือหาไวอยางเดิมตามฉบับเรียงพิมพเกา ยังไมปรับปรุงหรือเพิมเติม
                                  ้                                                               ่
ค

ค) งานเริ่มเขาทาง: ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑
๑. ผานไป ๒๘ ป จึงถึงทีชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑
         บัดนี้ เวลาผานไป ๒๘ ปแลว นับแตพิมพ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ออก
มาครั้งแรก ใน พ.ศ. ๒๕๒๒ ขอมูลสวนใหญในพจนานุกรมนั้น ยังเปนขอมูลพื้นฐานที่ตั้งใจวาจะ
ชําระ-เพิ่มเติม แตก็ขัดของตลอดมา
         ในชวง ๒๔ ปแรก ติดขัดดวยระบบการพิมพไมเอือแลวความบีบคันดานเวลาก็ซาเขาไป สวน
                                                               ้              ้         ้ํ
ในชวง ๔ ปทชดใกลนี้ ทังทีมขอมูลสะดวกใชอยูในคอมพิวเตอร ก็ตดขัดดวยขาดเวลาและโอกาส
                ี่ ิ        ้ ่ี                                      ิ
         จนมาถึงขึนปใหม ๒๕๕๐ นี้ เมือหาโอกาสปลีกตัวจากวัด พอดีโรคทางเดินหายใจกําเริบขึนอีก
                     ้                      ่                                                 ้
คออักเสบลงไปถึงสายเสียง พูดยากลําบาก ตอดวยกลามเนือยึดสายเสียงอักเสบ โรคยืดเยือเกิน ๒ เดือน
                                                             ้                        ้
ไดไปพักรักษาตัวในชนบทนานหนอย เปนโอกาสใหไดเริมงานชําระ-เพิมเติมพจนานุกรม แตในขันนี้
                                                           ่              ่                     ้
เรงทําเฉพาะสวนรีบดวนและสวนทีพบเฉพาะหนาใหเสร็จไปชันหนึงกอน เรียกวา “งานชําระ-เพิม
                                        ่                        ้ ่                              ่
เติม ชวงที่ ๑” คิดวาลุลวงไปไดทหนึง ทีปดงานจัดใหพรอมจะเขาโรงพิมพไดทนกอนโรคจะหาย
                                     ี ่ ่                                      ั
๒. อะไรมากับ และจะมาตาม การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑
         งานชําระ-เพิ่มเติมนี้ คือการทําให พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท มีคุณสมบัติ
เต็มตามความมุงหมาย เพราะหนังสือที่พิมพเรื่อยมานั้น จัดทําขึ้นอยางรวบรัดเพื่อพอใชไปพลาง
กอน เพียงเปนขอมูลพื้นฐานอยางที่กลาวแลว (มีบางบางคําที่มีโอกาสขยายความไปกอนแลว)
         เนื่องจากตระหนักวา จะไมมโอกาสทํางานชําระ-เพิ่มเติมอยางตอเนื่องใหเสร็จสิ้นไปในคราว
                                          ี
เดียว จึงกะวาจะแบงงานนี้เปน ๓ ชวง คือ
         การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑: แกไขปรับปรุงขอขาดตกบกพรองที่พบเฉพาะหนา โดยเฉพาะ
สวนหลงตาที่บังเอิญพบ และเพิ่มเติมคําศัพทและคําอธิบายที่รีบดวน หรือบังเอิญนึกได
         การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๒: อาน-ตรวจตลอดเลม เพื่อจะไดมองเห็นจุดและแงที่จะแกไข-
ปรับปรุง-เพิ่มเติมทั่วทั้งหมด พรอมทั้งเพิ่มเติมคําศัพท ทั้งที่ตนเองเตรียมไวสําหรับงานคางยุคเกา
และบันทึกไวระหวางใชพจนานุกรมนี้ และทีทานผูใชไดมนาใจบันทึกคําซึงคนไมพบแลวรวบรวมสงมา
                                                ่       ี ้ํ              ่
         การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๓: มุงที่การจัดระบบ เพื่อใหสม่ําเสมอ กลมกลืน เปนแบบแผนอัน
เดียวกันและทั่วกัน เชน จะมีคําอาน บอกที่มาในคัมภีร มีที่มาหรือคําเดิมในภาษาบาลีและสันสกฤต
และถาเปนไปได บอกคําแปลภาษาอังกฤษของศัพทตงหรือหัวศัพท พรอมทังแผนทีและภาพประกอบ
                                                       ั้                       ้   ่
         อยางไรก็ดี เมือตกลงยุตงานชวงที่ ๑ วาพอเทานีกอน (๑๖ มี.ค. ๒๕๕๐) พอดีไดอานจดหมาย
                        ่           ิ                     ้                               
ของพระมหานิยม สีลสํวโร (เสนารินทร) ที่สงมาตั้งแต ๑๘ พ.ย. ๒๕๔๗ ก็มองเห็นวา ทานแจงคํา
ผิด-ตก ที่สําคัญ แมจะมากแหง ก็ใชเวลาแกไขไมมาก จึงทําใหเสร็จไปดวยในคราวนี้ รวมเพิ่มที่แก
ไขอีกราว ๕๐ แหง อีกทั้งไดเห็นชัดวา ดวยฉันทะของทานเอง พระมหานิยมตรวจพจนานุกรม โดย
เทียบกับเลมเดิมที่เปนตนฉบับไปดวยนี้ ทานใชเวลาอานจริงจังละเอียด จนทําใหคิดวา ในการ
ชําระ-เพิ่มเติมชวงที่ ๒ ที่จะอานแบบตรวจปรูฟตลอดดวยนั้น งานสวนนี้คงเบาลงมาก จะไดมุงไป
ง

ที่งานเพิ่มเติม-ปรับปรุงทัวไป จึงขออนุโมทนาพระมหานิยม สีลสํวโร ไว ณ ทีน้ี
                              ่                                             ่
           พอจะปดงาน หันมาดูรายการศัพท ๒๘ คํา ทีพระธรรมรักษาแจงมาแต ก.ค.๒๕๒๙ วาไมพบ
                                                         ่
ในพจนานุกรมฯ เปนศัพทในอรรถกถาชาดกแทบทังนัน เห็นวานาจะทําใหเสร็จไปดวยเลย จึงตัดคํา
                                                       ้ ้
นอกขอบเขตออกไป ๖ แลวแถมเองอีกราว ๒๐ ใชเวลาคน-เขียนจนเสร็จอีก ๔ วัน (ของพระมหานิยม
ราว ๕๐ ศัพท ทานตรวจใชเวลามากมาย แตเพียงแกคาผิด-ตก ๖.๔๐ ชม. ก็เสร็จ สวนของพระธรรม-
                                                           ํ
รักษา แจงทีไมเจอ แมนอยคํา แตตองเขียนเพิมใหม จึงใชเวลามาก) ขออนุโมทนาพระธรรมรักษาดวย
                ่                               ่
๓. การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ ทําใหมีความเปลี่ยนแปลงอะไร
           การชําระ-เพิ่มเติมชวงที่ ๑ นี้ ไดทําให พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท มีศัพท
ตั้งที่เพิ่มขึ้นและที่มีความเปลี่ยนแปลงราว ๓๑๗ หัวศัพท (ไมนับการแกคําผิด-ตก ที่พระมหานิพนธ
ชวยแจงมา อีกราว ๕๐ แหง)
           หัวศัพท ที่มีก ารปรับ แก และที่เ พิ่ม ใหม มี ตัวอยา ง ดังนี้
กัป, กัลป      กิริยา        กิเลสพันหา    คงคา              คณาจารย               เครื่องราง
ชุมนุมเทวดา     ตัณหา ๑๐๘     ทักขิณาบถ      ทีฆนขสูตร         ธรรมราชา               ธัญชาติ
นัมมทา          บริขาร        บุพการ         บุพนิมตแหงมรรค
                                                   ิ           ปกตัตตะ                ปปญจะ
ปริตร, ปริตต   ปญญา ๓       พรหมจรรย      มหานที ๕          มหายาน                 มาตรา
มานะ            ยถากรรม       ยมุนา          โยนก              โวการ (เชน จตุโวการ)
                                                                                     สมานฉันท
สรภู            สังคายนา      สัจกิริยา      สัจจาธิฏฐาน       สีหนาท                 สุตะ
หีนยาน          อจิรวดี       อธิษฐาน        อธิษฐานธรรม       อภิสมพุทธคาถา
                                                                   ั                  อโศกมหาราช
อาภัพ           อายุ          อายุสังขาร     อาสภิวาจา         อุตราบถ                อุทยาน
        การชําระ-เพิ่มเติมนี้ ทําให พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท มีลักษณะคืบเคลื่อน
เขาไปใกลงานคางที่ ๓ ซึ่งไดหยุดลงเมื่อใกลสิ้นป ๒๕๒๑ เชน คํา “กัป, กัลป” ในการพิมพครั้ง
ที่ ๑๐ พ.ศ. ๒๕๔๖ มีคําอธิบาย ๑๒ บรรทัด แตในฉบับชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ นี้ ขยายเปน
๑๑๓ บรรทัด เมื่อนําไปเทียบกับฉบับงานคางที่ ๓ นั้น (ในการเขียนขยายคราวนี้ ไมไดหันไปดู
งานคางนั้นเลย) ปรากฏวา คําอธิบายในฉบับชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ นี้ ยังสั้นกวาเกาเกือบครึ่งหนึ่ง
        ถาตองการมองใหชัดวางานชําระ-เพิ่มเติมมีลักษณะอยางไร จะดูไดงายที่คําตัวอยางขางบน
นั้น เฉพาะอยางยิ่งคําวา กัป, กัลป; กิเลสพันหา; เครื่องราง; ชาดก; ทักขิณาบถ; นัมมทา; บริขาร;
ปริตร, ปริตต; มานะ; ยถากรรม; สัจกิรยา; อธิษฐาน; อายุ
                                         ิ
        บัดนี้ งานชําระ-เพิมเติม ชวงที่ ๑ ไดเสร็จสิ้นแลว โดยกําหนดเอาเองวาเพียงเทานี้ แตงาน
                           ่
ชําระ-เพิมเติม ชวงที่ ๒ และ ๓ ซึ่งรอขางหนา มีมากกวา และไมอาจกําหนดวาจะเสร็จเมื่อใด หาก
         ่
ไมนิราศ-ไมไดโอกาสจากโรค ก็กลาวไดเพียงวา อยูในความตั้งใจที่จะทําตอไป
                                                พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต)
                                                           ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๐
คําปรารภ
                                          (ในการพิมพครั้งที่ ๑๐)
       เมื่อกลาวถึง พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท หลายทานนึกถึง พจนานุกรมพุทธศาสตร
ฉบับประมวลธรรม ดวย โดยเขาใจวาเปนหนังสือชุดที่มีสองเลมรวมกัน แตแทจริงเปนหนังสือที่เกิดขึ้นตาง
หากกัน ตางคราวตางวาระ และมีความเปนมาที่ทั้งตางหากจากกัน และตางแบบตางลักษณะกัน
ก. ความเปนมา ชวงที่ ๑: งานสําเร็จ แตขยายไมได
          พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม เปนหนังสือที่คอยๆ กอตัวขึ้นทีละนอย เริ่มจากหนังสือ
Student’s Thai–Pali–English Dictionary of Buddhist Terms เลมเล็กๆ ที่จัดทําเสร็จใน พ.ศ. ๒๕๐๖
ตอแตนั้นก็ไดปรับปรุง–เพิ่มเติม–ขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ และไดขยายขอบเขตออกไปจนกลายเปนงานที่มี
ลักษณะเปนสารานุกรม
          เมื่อเวลาผานไปๆ ก็มองเห็นวางานทําสารานุกรมจะกินเวลายืดเยื้อยาวนานมาก ยิ่งมีงานอื่นแทรกเขา
มาบอยๆ ก็ยิ่งยากที่จะมองเห็นความจบสิ้น ในที่สุดจึงตกลงวาควรทําพจนานุกรมขนาดยอมๆ ขั้นพื้นฐาน
ออกมากอน และไดรวบรวมคัดเลือกหมวดธรรมมาจัดทําคําอธิบายขึ้น ซึ่งไดบรรจบรวมกับหนังสือเลมเล็ก
เดิมที่สืบมาแต พ.ศ. ๒๕๐๖ กลายเปนภาคหนึ่งๆ ใน ๓ ภาคของหนังสือที่รวมเปนเลมเดียวกันอันมีชื่อวา
พจนานุกรมพุทธศาสตร เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๕
          กาลลวงมาจนถึง พ.ศ. ๒๕๒๘ พจนานุกรมพุทธศาสตร ซึ่งพิมพครั้งที่ ๔ จึงมีชื่อปจจุบันวา
พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม เพื่อใหเขาคูกับพจนานุกรมอีกเลมหนึ่งที่เปลี่ยนจากชื่อเดิมมา
เปน พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท
          ถึงวาระนี้ พจนานุกรมสองเลมนี้จึงเสมือนเปนหนังสือที่รวมกันเปนชุดอันเดียว
          พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ที่วานั้น เปนหนังสือที่เกิดขึ้นแบบทั้งเลมฉับพลันทันที
โดยแทรกตัวเขามาใน พ.ศ. ๒๕๒๒ ระหวางที่งานทําพจนานุกรมซึ่งขยายขอบเขตออกไปจนจะเปนสารานุกรม
นั้น กําลังดําเนินอยู
          เนื่อ งจากผูรวบรวมเรียบเรียงเห็ นวา งานทําสารานุก รม คงจะกินเวลายืดเยื้อไปอีกนาน และ
พจนานุกรมพุทธศาสตร ทีทาเสร็จไปแลว ก็มเี ฉพาะดานหลักธรรมซึงจัดเรียงตามลําดับหมวดธรรม ควรจะมี
                               ่ํ                                  ่
พจนานุกรมเลมเล็กๆ งายๆ วาดวยพระพุทธศาสนาทั่วๆ ไป แบบเรียงตามลําดับอักษร ทีพอใชประโยชนพนๆ
                                                                                        ่                ื้
สําหรับผูเ ลาเรียนในขันตน โดยเฉพาะนักเรียนนักธรรม ออกมากอน
                        ้
          พรอมนั้นก็พอดีประจวบเหตุผลอีกอยางหนึ่งมาหนุน คือ ไดเห็นหนังสือ ศัพทหลักสูตรภาษาไทย
สําหรับนักธรรม ชันตรี ชันโท และชันเอก ที่มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยจัดพิมพออกมาใน พ.ศ. ๒๕๐๓
                     ้       ้         ้
เหลืออยูจํานวนมากมาย และดูเหมือนวาไมมีใครเอาใจใส
          หนังสือ ศัพทหลักสูตรภาษาไทย ชุดนั้น ทาง มจร. จัดพิมพขึ้นมาเพื่อสนองความตองการของ
นักเรียนนักธรรมที่จะตองสอบวิชาใหมซึ่งเพิ่มเขามาในหลักสูตร คือวิชาภาษาไทย แตแทบจะยังไมทันไดเผย
แพรออกไป วิชาภาษาไทยนั้นก็ไดถูกยกเลิกเสีย หนังสือชุดนั้นจึงถูกทอดทิ้ง
          ไดมองเห็นวา หนังสือ ศัพทหลักสูตรภาษาไทย นัน ไมควรจะถูกทิงไปเสียเปลา ถานํามาจัดเรียงใหมในรูป
                                                       ้              ้
พจนานุกรม ก็จะใชประโยชนได อยางนอยศัพทตงหรือหัวศัพททมอยูกจะทุนแรงทุนเวลาในการเก็บศัพทเปนอันมาก
                                               ั้          ี่ ี  ็        
ฉ

          โดยนัยนี้ ก็ไดนาหนังสือ ศัพทหลักสูตรภาษาไทย ชุดนันทัง ๙ ภาค (ศัพทสาหรับนักธรรมตรี–โท–เอก
                          ํ                                    ้ ้                ํ
ชั้นละ ๓ วิชา จึงมีช้นละ ๓ ภาค พิมพรวมเปนชั้นละเลม) มาจัดเรียบเรียงเปนพจนานุกรมเลมเดียว ดังไดเลา
                      ั
ไวแลวใน “แถลงการจัดทําหนังสือ ประกาศพระคุณ ขอบคุณ และอนุโมทนา (ในการพิมพครั้งที่ ๑)”
          ศัพทจํานวนมากทีเดียว ที่งายๆ พื้นๆ และตองการเพียงความหมายสั้นๆ หรือคําอธิบายเพียงเล็ก
นอย ไดคงไวตามเดิมบาง แกไขปรับปรุงบาง สวนศัพทที่ตองการคําอธิบายยาวๆ ก็เขียนขยาย และศัพท
สําหรับการเรียนนักธรรมที่ตกหลนหรือศัพททั่วไปอันควรรูที่ยงไมมี ก็เติมเขามา รวมเปนของเกากับของใหม
                                                             ั
ประมาณครึ่งตอครึ่ง จึงเกิดเปนพจนานุกรม ซึงในการพิมพครังแรก พ.ศ. ๒๕๒๒ เรียกชือวา พจนานุกรม
                                                ่               ้                         ่
พุทธศาสน ฉบับครู นักเรียน นักธรรม
          ตอมา ในการพิมพครั้งที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๒๗ พจนานุกรมเลมนั้นไดเปลี่ยนมีชื่ออยางปจจุบันวา
พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท คือหนังสือเลมนี้
          เมื่อมีการเผยแพรมากขึ้น ผูขออนุญาตพิมพบางแหงจึงไดนําพจนานุกรมทั้งสองเลมนี้มาจัดรวมกัน
เปนชุด และลาสุดบางทีถึงกับทํากลองใสรวมกัน
          แมจะมีประวัติแหงการเกิดขึ้นตางหากกัน แตพจนานุกรมสองเลมนี้ก็มีลกษณะที่เหมือนกันอยางหนึ่ง
                                                                               ั
คือเปนงานในชวงระหวางที่งานทําพจนานุกรมซึ่งตอเนื่องมาแตเดิมและขยายออกไปจนกลายเปนสารานุกรม
แสดงอาการวาจะเปนเรื่องยืดเยื้อตองรออีกยาวนาน
          หลังจากการพิมพลงตัวแลว พจนานุกรมสองเลมนี้ก็มีชะตากรรมอยางเดียวกัน คือขึ้นตอระบบการทํา
ตนแบบและการพิมพยุคกอนนั้น ซึ่งตนแบบอยูในแผนกระดาษที่ตายตัว แกไขและขยับขยายไดยาก ยิ่งเปน
หนังสือขนาดหนาและมีรูปแบบซับซอน ก็แทบปรับเปลี่ยนอะไรไมไดเลย
          ดวยเหตุนี้ การพิมพพจนานุกรมสองเลมนั้นในครั้งตอๆ มา จึงตองพิมพซําตามตนแบบเดิม ถาจํา
                                                                                    ้
เปนจริงๆ ที่จะตองแกไข ก็แกไดเพียง ๔–๕ บรรทัด ยิ่งเมื่อเวลาผานมานานขึ้น แผนกระดาษตนแบบทั้งหมด
ก็ผุเปอยหรือสูญหายไป (ตนแบบของ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ซึ่งทําขึ้นใหมในการพิมพ
ครั้งที่ ๒ ไดสูญหายไปตั้งแตเมื่อการพิมพครั้งที่ ๒ นั้นเสร็จสิ้นลง) ทําใหการพิมพตอจากนั้นตองใชวิธีถาย
ภาพจากหนังสือที่พิมพครั้งกอนๆ ซึ่งจะไดตัวหนังสือที่เลือนลางลงไปเรื่อยๆ ไดแตรอเวลาที่จะพิมพทําตน
แบบขึ้นใหม โดยจะถือโอกาสเพิ่มเติมดวยพรอมกัน
          อยางไรก็ตาม เนื่องจาก พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท นี้ มีศัพทและคําอธิบายที่จะเพิ่ม
มากมาย เมื่อแกไขตนแบบเดิมไมได ก็จึงใสสวนเพิ่มเขามาตางหากตอทายเลมในการพิมพครั้งที่ ๓ พ.ศ.
๒๕๒๘ โดยทําเปน “ภาคผนวก” (มีศัพทต้งหรือหัวศัพทเพิ่ม ๑๒๔ ศัพท รวม ๒๔ หนา ขยายขนาดเลม
                                             ั
หนังสือเฉพาะตัวพจนานุกรมแทๆ ขึ้นเปน ๔๖๖ หนา) ตอแตนั้นมา ก็พิมพซ้ําอยางที่กลาวขางตน

ข. ความเปนมา ชวงที่ ๒: เขายุคใหม มีฐานที่จะกาวตอ
       ระหวางรอเวลาที่จะพิมพทําตนแบบใหม พรอมกับเขียนเพิ่มเติม ซึ่งมองไมเห็นวาจะมีโอกาสทําไดเมื่อ
ใด กาลก็ลวงมา จนถึงยุคคอมพิวเตอร
       ระบบคอมพิวเตอรไดชวยใหการพิมพเจริญกาวหนาอยางมหัศจรรย ซึ่งแกปญหาสําคัญในการทํา
พจนานุกรมไดทงหมด โดยเฉพาะ
              ั้
       • การพิมพขอมูลใหมทําไดอยางดีและคลองสะดวก
       • รักษาขอมูลใหมนั้นไวไดสมบูรณและยืนนาน โดยมีคุณภาพคงเดิม หรือจะปรับใหดียิ่งขึ้นก็ได
ช

           • ขอมูลใหมที่เก็บไวนั้น จะแกไข–ปรับปรุง–เพิ่มเติม ที่จุดไหนสวนใด อยางไร และเมื่อใด ก็ไดตาม
ปรารถนา
           ถึงตอนนี้ ก็เห็นทางที่จะทําใหงานทําพจนานุกรมกาวตอไป แตกตองรอขั้นตอนสําคัญ คือจุดตั้งตน
                                                                             ็
ครั้งใหม ไดแกการพิมพขอมูลพจนานุกรมทั้งหมดในเลมหนังสือลงในคอมพิวเตอร ซึ่งตองใชเวลาและแรง
งานมากทีเดียว
           ถามีขอมูลที่พิมพลงในคอมพิวเตอรไวพรอมแลว ถึงจะยังไมมีเวลาที่จะแกไข–ปรับปรุง–เพิ่มเติม ก็
อุนใจได เพราะสามารถเก็บรอไว มีโอกาสเมื่อใด ก็ทาไดเมื่อนั้น แตตองเริ่มขั้นเตรียมขอมูลนั้นใหไดกอน
                                                       ํ
           ขณะที่ผูรวบรวมเรียบเรียงเองพิมพดีดไมเปน กับทั้งมีงานอื่นพันตัวนุงนัง ไมไดดําเนินการอันใดใน
เรื่องนี้ ก็ไดมีทานที่มีใจรักและทานที่มองเห็นประโยชน ไดพิมพขอมูล พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวล
ศัพท ทั้งหมดของเลมหนังสือลงในคอมพิวเตอร ดวยความสมัครใจของตนเอง โดยมิไดนัดหมาย เทาที่ทราบ/
เทาที่พบ ๔ ราย เปน ๔ ชุด คือ
           ๑. พระมหาเจิม สุวโจ แหงสถาบันวิจัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ไดเริ่มจัดทํางานนี้ตั้งแตระยะ
ตนๆ ของยุคแหงการพิมพดวยระบบคอมพิวเตอร ซึ่งทั้งอุปกรณและบุคลากรดานนี้ยังไมพรั่งพรอม ใชเวลา
                                  
หลายป จนในที่สุด ไดมอบขอมูลที่เตรียมเสร็จแลวแกผูรวบรวมเรียบเรียง เมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๔๑
           ขอมูลทีพระมหาเจิม สุวโจ เตรียมไวนี้ ไดจดวางรูปแบบเสร็จแลว รอเพียงงานขันทีจะสงเขาโรงพิมพ
                     ่                                   ั                                 ้ ่
รวมทังการตรวจครังสุดทาย นับวาพรอมพอสมควร แตผรวบรวมเรียบเรียงก็ไมมเี วลาตรวจ เวลาก็ผานมาเรือยๆ
       ้                 ้                                    ู                                        ่
           ๒. รศ. ดร.สมศีล ฌานวังศะ ราชบัณฑิต ไดเตรียมขอมูลพจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท
(พรอมทั้งพจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม) โดยบุตรหญิง–ชาย คือน.ส.ภาวนา ตั้งแตยังเปน
ด.ญ.ภาวนา ฌานวังศะ และนองชาย คือ นายปญญา ตั้งแตยงเปนด.ช.ปญญา ฌานวังศะ ไดชวยกันแบงเบา
                                                                   ั
ภาระดวยการพิมพขอมูลทังหมดของเลมหนังสือลงในคอมพิวเตอร ภายใตการดูแลของ ดร.สมศีล ฌานวังศะ
                            ้
ซึ่งเปนผูตรวจความเรียบรอยและจัดรูปแบบขอมูลนั้นตามเลมหนังสืออีกทีหนึ่ง
           ๓. พระไตรปฎก (ในแผน CD – ระบบคอมพิวเตอร) ฉบับสมาคมศิษยเกา มหาจุฬาลงกรณราช-
วิทยาลัย ซึ่งเสร็จออกเผยแพรในชวงตนของ พ.ศ. ๒๕๔๓ ไดขอบรรจุ พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับ
ประมวลธรรม และ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ไวในโปรแกรมดวย ผูจัดทําจึงไดพิมพขอมูล
ทั้งหมดของหนังสือทั้งสองเลมนั้นลงในคอมพิวเตอร แตเนื่องจากเปนขอมูลสําหรับโปรแกรมคอมพิวเตอร จึง
ไมไดจัดรูปแบบเพื่อการตีพิมพอยางเลมหนังสือ
           ๔. พจนานุกรมพุทธศาสน (ในแผน CD – ระบบคอมพิวเตอร) รุน ๑.๕ (ในโปรแกรมวา พจนานุกรม
พุทธศาสตร Version <1.2>) พ.ศ. ๒๕๔๔ จัดทําโดยคณะวิศวกรรมศาสตรคอมพิวเตอร มหาวิทยาลัยรังสิต
ซึ่งก็ไมไดจัดรูปแบบเพื่อการตีพิมพอยางเลมหนังสือ เพราะเปนขอมูลสําหรับโปรแกรมคอมพิวเตอร
           ขอมูลทัง ๔ ชุดนี้ ผูจดทําชุดนันๆ ไดนาศัพทตงและคําอธิบายทังหมดใน “ภาคผนวก” รวม ๒๔ หนา
                       ้          ั        ้      ํ       ั้             ้
๑๒๔ ศัพท ของฉบับเรียงพิมพระบบเกา มาแทรกเขาในเนือหาหลักของเลมตามลําดับอักษรเสร็จเรียบรอยดวย
                                                                 ้
           เมื่อมีชุดขอมูลใหเลือก ก็แนนอนวาจะตองพิจารณาเฉพาะชุดที่จัดรูปแบบไวแลวเพื่อการตีพิมพอยาง
เลมหนังสือ คือชุดที่ ๑ และชุดที่ ๒
           แตทั้งที่มีขอมูลนั้นแลว เวลาก็ผานไปๆ โดยผูรวบรวมเรียบเรียงมิไดดําเนินการใดๆ เพราะวาแมจะมี
ขอมูลครบทั้งหมดแลว แตก็ยังมีงานสุดทายในขั้นสงโรงพิมพ โดยเฉพาะการพิสจนอักษร (ตรวจปรูฟ) ตลอด
                                                                                  ู
เลมอีกครั้ง ซึ่งควรเปนภาระของผูรวบรวมเรียบเรียงเอง
ซ

        ถาจะใหผูรวบรวมเรียบเรียงพิสูจนอักษรเองอยางแตกอน การพิมพคงตองรออีกแรมป หรืออาจจะ
หลายป (ยิงมาบัดนี้ เมือตาทังสองเปนโรคตอหินเขาอีก ก็แทบหมดโอกาส) คงตองปลอยใหพิมพครั้งใหมดวยการ
          ่            ่ ้
ถายภาพจากหนังสือที่พิมพครั้งกอนตอไปอีก

ค. ความเปนมา ชวงที่ ๓: พิมพครั้งใหม ในระบบใหม
          การพิมพในระบบใหมคืบหนา เมื่อ ดร.สมศีล ฌานวังศะ ชวยรับภาระขั้นสุดทายในการจัดทําตนแบบ
ใหพรอมที่จะนําเขารับการตีพิมพในโรงพิมพ
          ในงานขันสุดทายนี้ สําหรับ พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม ซึงจัดเรียงใหมดวยระบบ
                    ้                                                                 ่          
คอมพิวเตอร และพิมพเปนเลมหนังสือไปแลวเปนครั้งแรก เมื่อกลางป พ.ศ. ๒๕๔๕ นั้นผูรวบรวมเรียบเรียง
ไดอานตนแบบสุดทายกอนยุติ แตเมื่อมาถึง พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ก็เปนเวลาทีผรวบรวม
                                                                                               ่ ู
เรียบเรียงประสบปญหาจากโรคตามากแลว รวมทังโรคตอหิน จึงยกภาระในการตรวจปรูฟอานตนแบบแมแต
                                                    ้
ครั้งยุติให ดร.สมศีล ฌานวังศะ รับดําเนินการทั้งหมด เพียงแตเมือมีขอผิดแปลกนาสงสัยทีใด ก็ไถถามปรึกษา
                                                                  ่                     ่
เปนแตละแหงๆ ไป
          พอดีวา ผูรับภาระนอกจากมีความละเอียดและทํางานนี้ดวยใจรักแลว ยังเปนผูศึกษาวิจัยเรื่อง
พจนานุกรมเปนพิเศษอีกดวย ยิ่งเมื่อไดคอมพิวเตอรมาเปนเครื่องมือ ก็ยิ่งชวยใหการจัดเรียงพิมพตนแบบ
สามารถดําเนินมาจนหนังสือเสร็จเปนเลมในรูปลักษณที่ปรากฏอยูนี้
          พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท พิมพครั้งที่ ๑๐ ซึ่งเปนครั้งแรกที่ใชขอมูลอันไดเตรียมขึ้น
ใหมดวยระบบการพิมพแบบคอมพิวเตอรนี้ โดยหลักการ ไดตกลงวาใหคงเนื้อหาไวอยางเดิมตามฉบับเรียง
พิมพระบบเกา ยังไมปรับปรุงหรือเพิมเติม เนืองจากผูรวบรวมเรียบเรียงยังไมมีเวลาที่จะดําเนินการกับคํา
                                       ่          ่
ศัพทมากมายอันควรเพิมและสิงทีควรแกไขปรับปรุงตางๆ ทีบนทึกไวระหวางเวลาทีผานมา และจะรอก็ไมมี
                          ่      ่ ่                           ่ั                  ่
กําหนด (จุดเนนหลักอยูที่การไดฐานขอมูลในระบบคอมพิวเตอร ซึ่งทําใหพรอมและสะดวกที่จะปรับปรุงเพิ่ม
เติมตอไป)
          ทังนี้ มีขอยกเวน คือ
            ้         
          ๑. นําศัพทต้งและคําอธิบายทั้งหมดใน “ภาคผนวก” ของฉบับเรียงพิมพระบบเกา มาแทรกเขาไปใน
                        ั
เนื้อหาหลักของเลมตามลําดับอักษรของศัพทนั้นๆ (ขอนี้เปนการเปลี่ยนแปลงดานรูปแบบเทานั้น สวนเนื้อหา
ยังคงเดิม)
          ๒. เนื่องจากมีศัพทตั้ง ๘ คํา ที่ไดปรับปรุงคําอธิบายไวกอนแลว จึงนํามาใสรวมดวย พรอมทั้งถือ
โอกาสแกไขเนื้อความผิดพลาด ๒–๓ แหงที่ผูใชพจนานุกรมฉบับนี้ ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถบางทานไดแจง
เขามานับแตการพิมพครั้งกอนๆ ซึ่งขอขอบคุณ–อนุโมทนาไว ณ ที่นี้ดวย
          ๓. มีการปรับปรุงเพิ่มเติมปลีกยอยที่พบเห็นนึกไดแลวถือโอกาสทําไปดวยระหวางทํางานขั้นสุดทาย
ในการจัดทําตนแบบใหพรอมกอนจะสงเขารับการตีพิมพในโรงพิมพ กลาวคือ คําอธิบายเล็กนอยในบางแหง
ซึ่งเห็นวาควรจะและพอจะใหเสร็จไปไดในคราวนี้ เฉพาะอยางยิ่ง
              • ไดปรับคําอธิบายคําวา ศิลปศาสตร และไดนาคําอธิบายการแบงชวงกาลในพุทธประวัติ คือชุด
                                                             ํ
ทูเรนิทาน–อวิทเู รนิทาน–สันติเกนิทาน ชุดปฐมโพธิกาล–มัชฌิมโพธิกาล–ปจฉิมโพธิกาล และชุดปุริมกาล–อปร
กาล มาปรับรวมกันไวที่ศัพทตั้งวา พุทธประวัติ อีกแหงหนึ่งดวย
ฌ

                • ไดแยกความหมายยอยของศัพทตั้งบางคําออกจากกัน เพื่อใหเกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น (เชน คํา
วา พยัญชนะ)
                • ไดตัดศัพทต้งบางคําที่เห็นวาไมจําเปนออก (เชน วงศกุล, เทวรูปนาคปรก)
                                  ั
           ๔. เนื่องจากเดิมนั้น พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท นี้ จัดทําขึ้นโดยมุงเพื่อประโยชนของ
ผูเลาเรียนขั้นตน โดยเฉพาะนักธรรมตรี–โท–เอก ถอยคําใดมีในแบบเรียนนักธรรม ก็ไดรักษาการสะกดตัว
โดยคงไวอยางเดิมตามแบบเรียนเลมนั้นๆ เปนสวนมาก
           แตในการพิมพตามระบบใหมครังนี้ เห็นวาควรจะคํานึงถึงคนทัวไป ไมจากัดเฉพาะนักธรรม จึงตกลง
                                              ้                           ่        ํ
ปรับการสะกดตัวของบางศัพทใหเปนปจจุบน (เชน ปฤษณา แกเปน ปริศนา)
                                                  ั
           พรอมนัน ตามทีพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ใหหลักไววา คําทีเ่ ปนศัพทธรรมบัญญัติ จะเขียน
                     ้        ่                                             
ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หรือเขียนเต็มรูปอยางเดิมก็ได และในพจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับ
ประมวลศัพท แตเดิมมาเขียนทั้งสองรูป เชน โลกุตตรธรรม–โลกุตรธรรม อริยสัจจ–อริยสัจ สวนในการพิมพ
ตามระบบใหมครังนี้ ถาคํานั้นอยูในขอความอธิบาย ไดปรับเขียนเปนรูปเดียวกันทั้งหมด เชน โลกุตตรธรรม
                       ้
อริยสัจจ ทั้งนี้ เพื่อความสอดคลองกลมกลืนเปนอันเดียวกัน แตผูอานจะนําไปเขียนเองในรูปที่ประสงคก็ได
ตามคําชี้แจงตนเลม
           ๕. แตเดิมมาหนังสือนี้มุงเพื่อประโยชนแกผูมีความรูพื้นฐานทางธรรมอยูแลว โดยเฉพาะนักเรียน
นักธรรม ซึ่งถือวารูวิธีอานคําบาลีอยูแลว จึงไมไดนึกถึงการที่จะแสดงวิธีอานคําบาลีนั้นไว แตบัดนี้ไดตกลงที่
จะคํานึงถึงผูใชทั่วไป
           ดังนัน ในการพิมพครังใหมดวยระบบใหมนี้ จึงไดแสดงวิธอานออกเสียงศัพทตงบางคําเพือเกือกูลแกผู
                ้                   ้                                ี                  ั้        ่ ้
ใชที่ยังไมคุนกับวิธีอานคําที่มาจากภาษาบาลีสันสกฤต เชน สมสีสี [สะ-มะ-สี-สี], โอมสวาท [โอ-มะ-สะ-วาด]
แตเนื่องจากยังเปนทํานองงานแถม จึงทําเทาที่นึกไดหรือพบเฉพาะหนา อาจมีคําศัพททํานองนี้อยูอีกหลายคํา
ที่ยังมิไดแสดงวิธีอานออกเสียงกํากับไว
           อยางไรก็ตาม ในการพิมพใหมครังนี้ ไดแทรก “วิธอานคําบาลี” เพิมเขามาดวย เพือใหผใชทวไปทราบ
                                                ้              ี              ่               ่ ู ั่
หลักพืนฐานทีพอจะนําไปใชเปนแนวทางในการอานไดดวยตนเอง โดย ดร.สมศีล ฌานวังศะ ชวยรับภาระเขียนมา
         ้         ่                                       
           งานขั้นสุดทายที่จะเขาโรงพิมพมีความละเอียด ซึ่งตองใชเวลาและเรี่ยวแรงกําลังมาก ประกอบกับผู
รับภาระมีงานอื่นที่ตองรับผิดชอบอีกหลายดาน นับจากเริ่มงานขั้นสุดทายนี้ จนตนแบบเสร็จเรียบรอยนําสง
โรงพิมพได ก็ใชเวลาไปหลายเดือน
           ทั้งนี้เพราะวา งานขั้นสุดทายกอนรับการตีพิมพมิใชเพียงการตรวจความถูกตองของตัวอักษรเทานั้น
นอกจากอานปรูฟตลอดเลม ทวนแลวทวนอีกหลายเที่ยวแลว ไดถอโอกาสแหงการพิมพที่เปนการวางรูปแบบ
                                                                       ื
ครั้งใหมและมีคอมพิวเตอรเปนอุปกรณน้ี ตรวจทานจัดการเกี่ยวกับความสอดคลองกลมกลืน–สม่ําเสมอ–
ครบถวน โดยเฉพาะในเรืองทีเ่ ปนระบบแบบแผน ใหลงตัวไวเทาที่จะทําได คือ
                                ่
           ก) ความสอดคลองกลมกลืน ทั่วๆ ไป ไมวาจะเปนเครื่องหมายวรรคตอน หรือการพิมพคํา–ขนาด
ตัวอักษร–รูปลักษณของตัวอักษร ทั้งคําทั่วไปและคําที่ใชในการอางอิงและอางโยง (เชน ดู เทียบ คูกับ ตรงขามกับ)
ไดพยายามตรวจและแกไขใหสม่ําเสมอกันทุกแหง
           ข) ความถูกตองครบถวนทัวถึง อีกหลายอยาง ทียงอาจตกหลนหรือขามไปในการพิมพระบบเกา
                                          ่                        ่ั
โดยเฉพาะการอางโยง ไดตรวจสอบเทาที่ทาได เชน ตรวจดูใหแนใจวาศัพทตั้งทุกคําที่เปนธรรมขอยอย ได
                                                    ํ
อางโยงถึงหมวดธรรมใหญที่ธรรมขอยอยนั้นแยกออกมา
ญ

           ค) ระบบการอางโยง ระหวางศัพทตง ไดจดปรับใหสม่าเสมอชัดเจนและครบถวนยิงขึน เชน
                                                 ้ั ั              ํ                         ่ ้
                • ไดสํารวจคําแสดงการอางโยงที่มีอยู ซึ่งยุติลงเปน ๔ คํา และนอกจากไดปรับขนาดและแบบตัว
อักษรของคําแสดงการอางโยงนั้นใหสม่ําเสมอกันทั่วทั้งหมด กลาวคือ ดู เทียบ คูกับ ตรงขามกับ แลว ยังได
พยายามวางขอยุติในการใชคําเหลานั้นดวยวาจะใชคําไหนในกรณีหรือในขอบเขตใด
                ในการนี้ พึงทราบวา คําที่มักมาคูกัน และเปนคําตรงขามกันดวย ในพจนานุกรมนี้ ใชคําอางอิงวา
คูกับ หรือ ตรงขามกับ อยางใดอยางหนึ่ง โดยยังไมถือขอยุติเด็ดขาดลงไป เชนโลกียธรรม คูกับ โลกุตตรธรรม,
สังขตธรรม ตรงขามกับ อสังขตธรรม
                • ใชการอางโยง แทนคําอธิบายบางตอนที่ซ้ําซอนเกินจําเปน หรือชวยใหปรับเปลี่ยนคําอธิบายบาง
แหงใหสั้นลง (เชน ตัดคําอธิบายที่ เบญจศีล ออก เนื่องจากซ้ํากับ ศีล ๕ แลวใชการอางโยงแทน)
                นอกจากนั้น ยังมีงานแทรกซอนบางอยางที่ใชเวลาเพิ่มขึ้นอีกมากทีเดียวนอกเหนือความคาด
หมาย เชน ทุกครั้งที่มีการแกไขขอมูล ซึ่งทําใหขอความและถอยคําขยับขยายเลือนที่ ตองตรวจดูความถูกตอง
                                                                                ่
เหมาะสมในการตัดแยกคําทายบรรทัด โดยเฉพาะคําศัพทบาลีสนสกฤต เชน ปาฏิโมกข และคําประสม เชน
                                                                     ั
พระเจา นมสม ถา โมกข เจา หรือ สม เลื่อนแยกออกไปอยูตางบรรทัด ซึงทําใหผดหลักอักขรวิธการเขียนคํา
                                                                           ่           ิ         ี
บาลีสนสกฤต หรืออาจชวนใหอานเขาใจผิดในกรณีคําประสม ก็ตองพยายามแกไขใหมาอยูในบรรทัดเดียวกัน
         ั                        
ครบทั้งคํา หรือใชวิธีใสเครื่องหมาย - (ยติภังค) หากเปนคําบาลีสันสกฤตที่พอจะเอื้อใหตัดแยกได เชน กุศล-
ธรรม (ดังในตัวอยางนี้) และการแกไขนี้มกจะสงผลกระทบตอคําอื่นอยูเนืองๆ ทําใหตองตรวจดูใหทั่วซ้ําอีก
                                               ั                                           
           อนึ่ง การแกไขดังกลาว ยังสงผลกระทบตอทอดไปถึงการจัดหนาหนังสือโดยรวม ซึ่งพลอยขยับ
เขยื้อนเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากการตัด เพิ่ม หรือเปลี่ยนแปลงขอความนั้น อันจะตองตรวจดูและจัดปรับให
ถูกตองลงตัวดวยทุกครั้งเชนเดียวกัน
           การที่งานพิมพ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท กาวมาจนถึงขันสําเร็จเสร็จสินในบัดนี้ จึง
                                                                                       ้         ้
หมายถึงการบําเพ็ญอิทธิบาททัง ๔ ของ ดร.สมศีล ฌานวังศะ และบุตรหญิง–บุตรชาย คือ น.ส.ภาวนา ฌานวังศะ
                                ้
และ นายปญญา ฌานวังศะ ซึ่งขออนุโมทนาไว ณ ที่นี้ เปนอยางยิ่ง
           พรอมนี้ ขอขอบคุณพระมหาเจิม สุวโจ แหงมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ทีไดอตสาหะ        ่ ุ
วิรยะเตรียมฐานขอมูลคอมพิวเตอรชดแรกของ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท และมอบใหไว แมจะ
     ิ                                 ุ
เปนชุดที่มิไดนํามาใชในการพิมพครั้งนี้ ก็ถือวาพระมหาเจิม สุวโจ ไดมีสวนรวมในงานนี้ดวย
           อนึง ระหวางทีแกไขทวนทานเพือเตรียมตนแบบสําหรับสงโรงพิมพนี้ พระครูปลัดปฎกวัฒน (อินศร
              ่             ่                ่
จินตาปฺโ) และพระภิกษุหลายรูปในวัดญาณเวศกวัน ไดอานปรูฟอีกเที่ยวหนึ่ง ชวยใหการพิสูจนอักษรถูก
       ฺ
ตองเรียบรอยยิ่งขึ้น จึงขอขอบคุณพระครูปลัดปฎกวัฒนและพระภิกษุทุกรูปที่ชวยงาน ในโอกาสนี้ กระนั้น
                                                                                   
ก็ตาม ก็คงยังมีขอผิดพลาดหลงเหลืออยูบาง หากผูใชทานใดไดพบ ก็ขอไดโปรดแจงใหทราบดวย เพื่อชวยให
การพิมพครั้งตอๆ ไปมีความสมบูรณยิ่งขึ้น
           หวังวา พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ทีพมพดวยระบบใหมครังนี้ จะเปนอุปกรณอนเกือกูล
                                                                ่ ิ                 ้                   ั ้
ตอการศึกษา ทีสาเร็จประโยชนไดดยงขึน และเปนปจจัยหนุนใหเกิดธรรมไพบูลย เพื่อประโยชนสขแกพหูชน
                   ่ํ                 ี ิ่ ้                                                         ุ
ยั่งยืนนานสืบไป
                                              พระธรรมปฎก (ป. อ. ปยุตฺโต)
                                                   ๒๓ กันยายน ๒๕๔๖
บันทึกของผูเรียบเรียง
                                   (ในการพิมพครั้งที่ ๒ – พ.ศ. ๒๕๒๗)

           ๑. หนังสือนีพมพครังแรกเมือ พ.ศ. ๒๕๒๒ ในงานพระราชทานเพลิงศพ พระครูปลัดสมัยกิตตทตฺโต
                        ้ ิ ้          ่                                                                 ฺิ
เจาอาวาสวัดพระพิเรนทร มีชื่อวา พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับครู นักเรียน นักธรรม แตในการพิมพครั้งที่ ๒
นี้ ไดเปลี่ยนชื่อใหมวา พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ทั้งนี้เพราะชื่อเดิมยาวเกินไป เรียกยาก
           การที่มีคําสรอยทายชื่อวา ฉบับประมวลศัพท ก็เพื่อปองกันความสับสน โดยทําใหตางออกไปจาก
พจนานุกรมพุทธศาสตร ของผูเรียบเรียงเดียวกัน ซึ่งมีอยูกอน
           พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท เปนพจนานุกรมซึ่งรวบรวมและอธิบายคําศัพททั่วไปทุก
ประเภทที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เชน หลักธรรม พระวินัย พิธีกรรม ประวัติบุคคลสําคัญ ตํานาน และ
วรรณคดีที่สําคัญ เปนตน ตางจาก พจนานุกรมพุทธศาสตร (จะขยายชื่อเปน พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับ
ประมวลธรรม) ที่มุงรวบรวมและอธิบายเฉพาะแตหลักธรรมซึ่งเปนสาระสําคัญของพระพุทธศาสนา
           ๒. ศัพทที่รวบรวมมาอธิบายในหนังสือนี้ แยกไดเปน ๓ ประเภทใหญๆ คือ
               ๑) พุทธศาสนประวัติ มีพุทธประวัติเปนแกน รวมถึงสาวกประวัติ ประวัตบคคล สถานที่ และเหตุ
                                                                                             ิุ
การณสําคัญในพระพุทธศาสนา ตลอดจนตํานาน และเรื่องราวที่มาในวรรณคดีตางๆ เฉพาะที่คนทั่วไปควรรู
               ๒) ธรรม คือหลักคําสอน ทั้งที่มาในพระไตรปฎก และในคัมภีรรนหลังมีอรรถกถาเปนตน รวมไว
                                                                                     ุ
เฉพาะที่ศึกษาเลาเรียนกันตามปกติ และเพิ่มบางหลักที่นาสนใจเปนพิเศษ
               ๓) วินย หมายถึง พุทธบัญญัตทกากับความประพฤติและความเปนอยูของพระสงฆ และในทีนใหมี
                      ั                               ิ ี่ ํ                                             ่ ี้
ความหมายครอบคลุมถึง ขนบธรรมเนียมประเพณี พิธกรรมบางอยางทีไดเปนเครืองยึดเหนียวคุมประสานสังคม
                                                               ี              ่         ่        ่
ของชาวพุทธไทยสืบตอกันมา
               นอกจากนีมศพทเบ็ดเตล็ด เชน คํากวีซงผูกขึนโดยมุงความไพเราะ และคําไทยบางคําทีไมคนแต
                           ้ีั                               ึ่ ้                                      ่ ุ
ปรากฏในแบบเรียนพระปริยตธรรม ซึงภิกษุสามเณรจําเปนจะตองรูความหมาย เปนตน
                               ัิ         ่                               
           ๓. หนังสือนี้รวมอยูในโครงการสวนตัว ที่จะขยายปรับปรุงกอนการจัดพิมพครั้งที่ ๒ และไดเพิ่มเติม
ปรับปรุงไปบางแลวบางสวน แตตามทีตงใจไวกะวาจะปรับปรุงจริงจังและจัดพิมพภายหลัง พจนานุกรมพุทธศาสตร
                                         ่ ั้
(ฉบับประมวลธรรม) ครั้น ดร.สุจินต ทังสุบุตร ติดตอขอพิมพเปนธรรมทานในงานพระราชทานเพลิงศพบิดา
ผูเ ปนบุรพการี จึงเปนเหตุใหการพิมพเปลียนลําดับ กลายเปนวาหนังสือนีจะสําเร็จกอน โดยเบืองแรกตกลงวาจะ
                                                  ่                             ้                     ้
พิมพไปตามฉบับเดิมทีสวนใหญยงไมไดปรับปรุง แตปญหาขอยุงยากติดขัดทีทาใหการพิมพลาชา ไดกลายเปน
                          ่         ั                                             ่ํ             
เครื่องชวยใหไดโอกาสรีบเรงระดมงานแทรกเพิ่ม ปรับปรุงแขงกันไปกับงานแกไขปญหา จนหนังสือนี้มีเนื้อหา
เกือบจะครบถวนสมบูรณตามความมุงหมาย นับวาเจาภาพงานนี้ไดมีอุปการะมากตอความสําเร็จของงาน
ปรับปรุงหนังสือและตอการชวยใหงานเสร็จสิ้นโดยเร็วไมยืดเยื้อตอไป
           อยางไรก็ดี มีผลสืบเนืองบางอยางทีควรทราบไวดวย เพือใหรจกหนังสือนีชดเจนยิงขึน เชน
                                  ่                 ่                 ่ ู ั             ้ั    ่ ้
           ก) ในโครงการปรับปรุงเดิม มีขอพิจารณาอยางหนึงวา จะรวมศัพททแปลกในหนังสือ ปฐมสมโพธิกถา และ
                                                                  ่              ี่
ใน มหาเวสสันดรชาดก เขาดวยหรือไม การพิมพทเี่ รงดวนครังนีไดชวยตัดสินขอพิจารณานั้นใหยุติลงไดทันที
                                                                       ้ ้ 
คือเปนอันตองตัดออกไปกอน แตการไมรวมศัพทในวรรณคดี ๒ เรื่องนั้นเขามาก็ไมทําใหพจนานุกรมนีเ้ สีย
ความสมบูรณแตอยางใด เพราะศัพทสวนมากใน ปฐมสมโพธิกถา และ มหาเวสสันดรชาดก เปนคํากวีและคํา
                                                
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์

More Related Content

What's hot

2 19+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๑
2 19+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๑2 19+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๑
2 19+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๑Tongsamut vorasan
 
นาม (วัดมหาธาตุ)
นาม (วัดมหาธาตุ)นาม (วัดมหาธาตุ)
นาม (วัดมหาธาตุ)Prasit Koeiklang
 
1 02+บาลีไวยกรณ์+วจีวิภาคที่+2+นามและอัพพยศัพท์
1 02+บาลีไวยกรณ์+วจีวิภาคที่+2+นามและอัพพยศัพท์1 02+บาลีไวยกรณ์+วจีวิภาคที่+2+นามและอัพพยศัพท์
1 02+บาลีไวยกรณ์+วจีวิภาคที่+2+นามและอัพพยศัพท์Tongsamut vorasan
 
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+21 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2Tongsamut vorasan
 
3 33+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๗
3 33+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๗3 33+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๗
3 33+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๗Tongsamut vorasan
 
ไวยากรณ์เบื้องต้น วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์
ไวยากรณ์เบื้องต้น วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ไวยากรณ์เบื้องต้น วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์
ไวยากรณ์เบื้องต้น วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์Prasit Koeiklang
 
1 14+ประมวลปัญหาและเฉลายบาลีไวยาการณ์+(สำหรับเปรียญธรรมตรี)
1 14+ประมวลปัญหาและเฉลายบาลีไวยาการณ์+(สำหรับเปรียญธรรมตรี)1 14+ประมวลปัญหาและเฉลายบาลีไวยาการณ์+(สำหรับเปรียญธรรมตรี)
1 14+ประมวลปัญหาและเฉลายบาลีไวยาการณ์+(สำหรับเปรียญธรรมตรี)Tongsamut vorasan
 

What's hot (11)

2 19+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๑
2 19+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๑2 19+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๑
2 19+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๑
 
นาม (วัดมหาธาตุ)
นาม (วัดมหาธาตุ)นาม (วัดมหาธาตุ)
นาม (วัดมหาธาตุ)
 
1 02+บาลีไวยกรณ์+วจีวิภาคที่+2+นามและอัพพยศัพท์
1 02+บาลีไวยกรณ์+วจีวิภาคที่+2+นามและอัพพยศัพท์1 02+บาลีไวยกรณ์+วจีวิภาคที่+2+นามและอัพพยศัพท์
1 02+บาลีไวยกรณ์+วจีวิภาคที่+2+นามและอัพพยศัพท์
 
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+21 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
 
3 33+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๗
3 33+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๗3 33+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๗
3 33+พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๗
 
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรมพจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม
 
แปลบาลีเป็นไทย แปลไทยเป็นบาลี
แปลบาลีเป็นไทย แปลไทยเป็นบาลีแปลบาลีเป็นไทย แปลไทยเป็นบาลี
แปลบาลีเป็นไทย แปลไทยเป็นบาลี
 
-------------- --- 3
 -------------- --- 3 -------------- --- 3
-------------- --- 3
 
ไวยากรณ์เบื้องต้น วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์
ไวยากรณ์เบื้องต้น วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ไวยากรณ์เบื้องต้น วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์
ไวยากรณ์เบื้องต้น วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์
 
โคลงโลกนิติ
โคลงโลกนิติโคลงโลกนิติ
โคลงโลกนิติ
 
1 14+ประมวลปัญหาและเฉลายบาลีไวยาการณ์+(สำหรับเปรียญธรรมตรี)
1 14+ประมวลปัญหาและเฉลายบาลีไวยาการณ์+(สำหรับเปรียญธรรมตรี)1 14+ประมวลปัญหาและเฉลายบาลีไวยาการณ์+(สำหรับเปรียญธรรมตรี)
1 14+ประมวลปัญหาและเฉลายบาลีไวยาการณ์+(สำหรับเปรียญธรรมตรี)
 

Similar to พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ธรรมนูญชีวิต
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)   ธรรมนูญชีวิตพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)   ธรรมนูญชีวิต
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ธรรมนูญชีวิตTongsamut vorasan
 
นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52panneem
 
นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52panneem
 
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+21 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2Wataustin Austin
 
บาลี 13 80
บาลี 13 80บาลี 13 80
บาลี 13 80Rose Banioki
 
บาลี 23 80
บาลี 23 80บาลี 23 80
บาลี 23 80Rose Banioki
 
2 22++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๔
2 22++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๔2 22++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๔
2 22++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๔Tongsamut vorasan
 
บาลี 22 80
บาลี 22 80บาลี 22 80
บาลี 22 80Rose Banioki
 
3 39อันตรคาถาธรรมบทแปล
3 39อันตรคาถาธรรมบทแปล3 39อันตรคาถาธรรมบทแปล
3 39อันตรคาถาธรรมบทแปลTongsamut vorasan
 
บาลี 39 80
บาลี 39 80บาลี 39 80
บาลี 39 80Rose Banioki
 
3 39อันตรคาถาธรรมบทแปล
3 39อันตรคาถาธรรมบทแปล3 39อันตรคาถาธรรมบทแปล
3 39อันตรคาถาธรรมบทแปลWataustin Austin
 
3 39อันตรคาถาธรรมบทแปล
3 39อันตรคาถาธรรมบทแปล3 39อันตรคาถาธรรมบทแปล
3 39อันตรคาถาธรรมบทแปลTongsamut vorasan
 
3 32++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๖
3 32++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๖3 32++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๖
3 32++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๖Wataustin Austin
 
3 32++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๖
3 32++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๖3 32++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๖
3 32++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๖Tongsamut vorasan
 
3 32++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๖
3 32++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๖3 32++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๖
3 32++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๖Tongsamut vorasan
 

Similar to พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์ (20)

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ธรรมนูญชีวิต
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)   ธรรมนูญชีวิตพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)   ธรรมนูญชีวิต
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ธรรมนูญชีวิต
 
นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52
 
นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52นิราศพระบาท1 52
นิราศพระบาท1 52
 
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
 
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+21 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
 
บาลี 13 80
บาลี 13 80บาลี 13 80
บาลี 13 80
 
บาลี 23 80
บาลี 23 80บาลี 23 80
บาลี 23 80
 
Upenthrawichianchan
UpenthrawichianchanUpenthrawichianchan
Upenthrawichianchan
 
2 22++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๔
2 22++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๔2 22++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๔
2 22++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๔
 
บาลี 22 80
บาลี 22 80บาลี 22 80
บาลี 22 80
 
ฉันทลักษณะ
ฉันทลักษณะฉันทลักษณะ
ฉันทลักษณะ
 
พุทธธรรม (ฉบับปรับขยาย)
พุทธธรรม (ฉบับปรับขยาย)พุทธธรรม (ฉบับปรับขยาย)
พุทธธรรม (ฉบับปรับขยาย)
 
บาลีเสริม ๑๐ Pdf
บาลีเสริม ๑๐ Pdfบาลีเสริม ๑๐ Pdf
บาลีเสริม ๑๐ Pdf
 
3 39อันตรคาถาธรรมบทแปล
3 39อันตรคาถาธรรมบทแปล3 39อันตรคาถาธรรมบทแปล
3 39อันตรคาถาธรรมบทแปล
 
บาลี 39 80
บาลี 39 80บาลี 39 80
บาลี 39 80
 
3 39อันตรคาถาธรรมบทแปล
3 39อันตรคาถาธรรมบทแปล3 39อันตรคาถาธรรมบทแปล
3 39อันตรคาถาธรรมบทแปล
 
3 39อันตรคาถาธรรมบทแปล
3 39อันตรคาถาธรรมบทแปล3 39อันตรคาถาธรรมบทแปล
3 39อันตรคาถาธรรมบทแปล
 
3 32++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๖
3 32++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๖3 32++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๖
3 32++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๖
 
3 32++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๖
3 32++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๖3 32++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๖
3 32++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๖
 
3 32++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๖
3 32++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๖3 32++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๖
3 32++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๖
 

More from ธรรมะอินเทรนด์ ธรรมะออนไลน์

More from ธรรมะอินเทรนด์ ธรรมะออนไลน์ (11)

ปฎิบัติธรรมอย่างไรให้ได้ผล
ปฎิบัติธรรมอย่างไรให้ได้ผลปฎิบัติธรรมอย่างไรให้ได้ผล
ปฎิบัติธรรมอย่างไรให้ได้ผล
 
พุทธอุทาน
พุทธอุทานพุทธอุทาน
พุทธอุทาน
 
สถานการณ์พุทธศาสนา พลิกหายนะเป็นพัฒนา
สถานการณ์พุทธศาสนา พลิกหายนะเป็นพัฒนาสถานการณ์พุทธศาสนา พลิกหายนะเป็นพัฒนา
สถานการณ์พุทธศาสนา พลิกหายนะเป็นพัฒนา
 
ธรรมดาของตาเห็นธรรม
ธรรมดาของตาเห็นธรรมธรรมดาของตาเห็นธรรม
ธรรมดาของตาเห็นธรรม
 
กระแสพระนิพพาน
กระแสพระนิพพานกระแสพระนิพพาน
กระแสพระนิพพาน
 
คำพ่อ คำแม่
คำพ่อ คำแม่คำพ่อ คำแม่
คำพ่อ คำแม่
 
ตรงกันข้าม
ตรงกันข้ามตรงกันข้าม
ตรงกันข้าม
 
Goodstory
GoodstoryGoodstory
Goodstory
 
มงคลชีวิต ๓๘ ประการ
มงคลชีวิต ๓๘ ประการมงคลชีวิต ๓๘ ประการ
มงคลชีวิต ๓๘ ประการ
 
ถ้าเราทุกคนตระหนักว่าเราเป็นคนไทย
ถ้าเราทุกคนตระหนักว่าเราเป็นคนไทยถ้าเราทุกคนตระหนักว่าเราเป็นคนไทย
ถ้าเราทุกคนตระหนักว่าเราเป็นคนไทย
 
บทสวดมนต์ข้ามปี เริ่มต้นดี ชีวิตดี ในปีใหม่
บทสวดมนต์ข้ามปี เริ่มต้นดี ชีวิตดี ในปีใหม่บทสวดมนต์ข้ามปี เริ่มต้นดี ชีวิตดี ในปีใหม่
บทสวดมนต์ข้ามปี เริ่มต้นดี ชีวิตดี ในปีใหม่
 

พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์

  • 1. พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) (ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑)
  • 2. พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท © พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ISBN 974-575-029-8 พิมพครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๒๒ จํานวน ๑,๕๐๐ เลม – งานพระราชทานเพลิงศพ พระครูปลัดสมัย กิตฺติทตฺโต เจาอาวาสพระพิเรนทร พิมพครั้งที่ ๒ (เพิ่มศัพทและปรับปรุง) พ.ศ. ๒๕๒๗ จํานวน ๙,๔๐๐ เลม พิมพครั้งที่ ๓ (เพิ่มภาคผนวก) พ.ศ. ๒๕๒๘ จํานวน ๕,๐๐๐ เลม – พิมพถวายมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดย “ทุนพิมพพจนานุกรมพุทธศาสน” พิมพครั้งที่ ๔–๙ พ.ศ. ๒๕๓๑–๒๕๔๓ จํานวน ๓๑,๕๐๐ เลม พิมพครั้งที่ ๑๐ พ.ศ. ๒๕๔๖ (จัดเรียงพิมพใหมดวยระบบคอมพิวเตอร) ขนาดตัวอักษรธรรมดา ๕,๐๐๐ เลม และขนาดตัวอักษรใหญ ๕,๐๐๐ เลม พิมพครั้งที่ ๑๑ - มีนาคม ๒๕๕๐ (ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑) – คณะผูศรัทธารวมกันจัดพิมพเปนธรรมทาน จํานวน ๕,๐๐๐ เลม พิมพท่ี
  • 3. พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท © พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ISBN 974-575-029-8 พิมพครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๒๒ จํานวน ๑,๕๐๐ เลม – งานพระราชทานเพลิงศพ พระครูปลัดสมัย กิตฺติทตฺโต เจาอาวาสพระพิเรนทร พิมพครั้งที่ ๒ (เพิ่มศัพทและปรับปรุง) พ.ศ. ๒๕๒๗ จํานวน ๙,๔๐๐ เลม พิมพครั้งที่ ๓ (เพิ่มภาคผนวก) พ.ศ. ๒๕๒๘ จํานวน ๕,๐๐๐ เลม – พิมพถวายมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดย “ทุนพิมพพจนานุกรมพุทธศาสน” พิมพครั้งที่ ๔–๙ พ.ศ. ๒๕๓๑–๒๕๔๓ จํานวน ๓๑,๕๐๐ เลม พิมพครั้งที่ ๑๐ พ.ศ. ๒๕๔๖ (จัดเรียงพิมพใหมดวยระบบคอมพิวเตอร) ขนาดตัวอักษรธรรมดา ๕,๐๐๐ เลม และขนาดตัวอักษรใหญ ๕,๐๐๐ เลม พิมพครั้งที่ ๑๑ - มีนาคม ๒๕๕๐ มิถุนายน ๒๕๕๑ (ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑) – คณะผูศรัทธารวมกันจัดพิมพเปนธรรมทาน จํานวน ๕,๐๐๐ เลม พิมพท่ี
  • 4. บันทึก ในการชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑: ม.ค.-มี.ค. ๒๕๕๐ ก) งานในโครงการ แตชะงัก-หาย ยอนหลังไปถึง พ.ศ.๒๕๐๖ เมื่อหนังสือ Student’s Thai–Pali–English Dictionary of Buddhist Terms เลมเล็กๆ เสร็จแลว ผูจัดทําหนังสือนี้ ก็ไดเริ่มงานพจนานุกรมพระพุทธศาสนา งานคางที่ ๑: เริ่มแรก คิดจะทําพจนานุกรมพระพุทธศาสนาเชิงสารานุกรม ฉบับที่คอนขาง สมบูรณเลยทีเดียว มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยเขียนแยกเปน ๒ คอลัมน ซาย-พากยไทย และ ขวา-พากยอังกฤษ เริ่ม ๒๙ ก.ย. ๒๕๐๖ ถึง ๑๒ พ.ย. ๒๕๐๗ จบอักษร “บ” (ยังคางชําระ บางคํา) ตองเขารับงานที่มหาจุฬาฯ แลวยุงกับงานที่นั่น จนงานพจนานุกรมชะงักแลวหยุดไปเลย งานคางที่ ๒: เมื่อเห็นวายากจะมีโอกาสทํางานคางนั้นตอ จึงคิดใหมวาจะทําฉบับที่มีเพียงพากย ไทย อยางยนยอ โดยมีภาษาอังกฤษเฉพาะคําแปลศัพทใสวงเล็บหอยทายไว แลวเริ่มงานใน พ.ศ.- --- แตงานที่มหาจุฬาฯ มาก พอทําจบ “ต” ก็ตองหยุด (ตนฉบับงานชุดนี้ท้งหมดหายไปแลว) ั (ระหวางนั้น ในป ๒๕๑๕ โดยคํานิมนตของทานเจาคุณเทพกิตติโสภณ ครั้งยังเปนพระมหา สมบูรณ สมฺปณฺโณ ตกลงทําประมวลหมวดธรรมออกมาใชกันไปพลางกอน ทําใหเกิดพจนานุกรม ุ พุทธศาสตร [ตอมาเติมคําวา ประมวลธรรม] เสร็จเปนเลม ใน พ.ศ. ๒๕๑๘) งานคางที่ ๓: ใน พ.ศ.๒๕๑๙ ไปเปนวิทยากรที่ Swarthmore College เมื่อกลับมาในป ๒๕๒๑ ตังใจหยุดงานอืนทังหมดเพือจัดทําสารานุกรมพุทธศาสนา โดยเริมตนใหม ทําเฉพาะพากยภาษาไทย มี ้ ่ ้ ่ ่ ภาษาอังกฤษเพียงคําแปลศัพทในวงเล็บหอยทาย พอใกลสนป ๒๕๒๑ ก็จบ “ก” รวมได ๑๐๕ หนา ิ้ กระดาษพิมพดีด และขึ้น “ข” ไปไดเล็กนอย แลวหันไปทําคําเกี่ยวกับประวัติเสร็จไปอีก ๘๐ หนา ตนป ๒๕๒๒ นั้นเอง ศาสตราจารย ดร. ระวี ภาวิไล จะพิมพ พุทธธรรม ไดขอเวลาทานเพื่อ เขียนเพิ่มเติม แลวการไปบรรยายที่ Harvard University มาแทรก กวาจะเติมและพิมพเสร็จ สิ้น เวลา ๓ ป งานทําพจนานุกรม-สารานุกรมเปนอันหยุดระงับไป จากนั้น งานดานอื่นเพิ่มขึ้นตลอดมา ข) งานใหมนอกสาย แตเสร็จ: พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ๑. ยุคพิมพระบบเกา ตนป ๒๕๒๒ นั้นแหละ เมื่อเห็นวาคงไมมีโอกาสฟนงานที่คาง ก็นึกถึงหนังสือ ศัพทหลัก สูตรภาษาไทย (สําหรับวิชาใหมในหลักสูตรนักธรรม) ที่มหาจุฬาฯ พิมพออกมาใน พ.ศ.๒๕๐๓ ซึ่ง แทบจะยังไมทันไดเผยแพร วิชาใหมนั้นก็ถูกยกเลิกเสีย จึงพบหนังสือชุดนั้นเหลือคางถูกทอดทิ้ง อยูมากมาย เห็นวา มีขอมูลพอจะทําเปนพจนานุกรมเบื้องตนได อยางนอยหัวศัพทที่มีอยูกจะทุน ็ แรงทุนเวลาในการเก็บศัพทไปไดมาก จึงตกลงทํางานใหมชิ้นที่งายและรวบรัด โดยนําหนังสือชุดนัน ้ ทัง ๓ เลม รวม ๙ ภาค (ศัพท น.ธ.ตรี–โท–เอก ชันละ ๓ วิชา จึงมีชนละ ๓ ภาค) มาจัดเรียงเปน ้ ้ ั้
  • 5. ข พจนานุกรมเบืองตนเลมเดียว พิมพออกมากอน ในงานพระราชทานเพลิงศพทานอาจารยพระครูปลัด ้ สมัย กิตตทตฺโต เรียกชือวา พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับครู นักเรียน นักธรรม (เปลียนเปนชือปจจุบน ฺิ ่ ่ ่ ั วา พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท เมือพิมพครังที่ ๒ พ.ศ.๒๕๒๗) ่ ้ หนังสือใหมเลมนีไมเกียวของกับงานทีทามาแลวแตอยางใด งานเกาทีทาคางไวทงหมดถูกพัก ้ ่ ่ํ ่ํ ั้ เก็บเฉยไว เพราะในกรณีนี้ มุงสําหรับผูเ รียนขันตน โดยเฉพาะนักเรียนนักธรรม ตองการเพียงศัพท  ้ พื้นๆ และความหมายสั้นๆ งายๆ จึงคงขอมูลสวนใหญไวตามหนังสือศัพทหลักสูตรภาษาไทยนั้น โดยแกไขปรับปรุงอธิบายเพิ่มหรือเขียนขยายบางเพียงบางคํา และเติมศัพทนักธรรมที่ตกหลนและ ศัพททั่วไปอันควรรูที่ยังไมมี เขามาบาง รวมแลว เปนขอมูลของเกากับของใหมราวครึ่งตอครึ่ง หลังจากพิมพออกมาแลว พจนานุกรมเลมนี้ก็มีชะตากรรมที่ขึ้นตอระบบการพิมพยุคนั้น โดยเฉพาะตนแบบซึ่งอยูในแผนกระดาษที่ตายตัว แทบปรับเปลี่ยนอะไรไมไดเลย การพิมพครั้ง ตอๆ มา ตองพิมพซ้ําตามตนแบบเดิม ถาจําเปนตองแกไข ก็แกไดเพียง ๔–๕ บรรทัด ยิ่งตอมา แผนกระดาษตนแบบก็ผุเปอย โดยเฉพาะพจนานุกรมนี้ ตนแบบที่ทําขึ้นใหมในการพิมพครั้งที่ ๒ ไดสูญหายไปตั้งแตพิมพเสร็จ การพิมพตอนั้นมาตองใชวิธีถายภาพจากหนังสือที่พมพครั้งกอนๆ ิ แตกระนั้น พจนานุกรมนี้ยังมีศัพทและคําอธิบายที่จะตองเพิ่มอีกมาก เมื่อแกไขของเดิมไม ได พอถึงป ๒๕๒๘ จะพิมพครั้งที่ ๓ จึงใสสวนเพิ่มเขามาตางหากตอทายเลมเปน “ภาคผนวก” (มี ศัพทตั้งหรือหัวศัพทเพิ่ม ๑๒๔ ศัพท รวม ๒๔ หนา) จากนั้นมา ก็ไดแคพิมพซ้ําเดิมอยางเดียว ๒. เขาสูยุคขอมูลคอมพิวเตอร เมือเวลาผานมาถึงยุคคอมพิวเตอร ก็มองเห็นทางวาจะแกไข–ปรับปรุง–เพิมเติมพจนานุกรม ่ ่ นีได แตกตองรอจุดตังตนใหม คือพิมพขอมูลพจนานุกรมในเลมหนังสือ ลงในคอมพิวเตอร ้ ็ ้  แมจะตองใชเวลาและแรงงานมาก ก็มีทานที่สมัครใจเสียสละ ไดพิมพขอมูลหนังสือ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ลงในคอมพิวเตอร โดยมิไดนดหมายกัน เทาทีทราบ ๔ ชุด ั ่ เริมดวยพระมหาเจิม สุวโจ แหงมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ทีทางานอยูหลายปจนเตรียมขอมูล ่ ่ํ  เสร็จแลวมอบมาใหเมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๔๑ แลวก็มีชุดของผูอื่นตามมาอีก ทังทีมขอมูลในคอมพิวเตอรแลว ผูจดทําเองก็ไมมเี วลาตรวจ เวลาผานมาจนกระทัง รศ. ดร. ้ ่ี ั ่ สมศีล ฌานวังศะ ราชบัณฑิต (มีบตรหญิง–ชาย คือ น.ส.ภาวนา ตังแตยงเปน ด.ญ.ภาวนา ฌานวังศะ ุ ้ ั และนองชาย คือ นายปญญา ตังแตยงเปน ด.ช.ปญญา ฌานวังศะ เปนผูชวยพิมพขอมูล) นอกจาก ้ ั   พิมพขอมูลหนังสือลงในคอมพิวเตอรแลว ยังชวยรับภาระในการพิสูจนอักษร (ตรวจปรูฟ) ตลอดเลม  นอกจากตรวจเองแลว ก็ยังหาพระชวยตรวจทานอีก ใหแนใจวาขอมูลใหมในระบบคอมพิวเตอรนี้ ตรงกับขอมูลเดิมในเลมหนังสือ แลวในที่สุด พจนานุกรมนี้ก็พิมพเสร็จออกมาใน พ.ศ. ๒๕๔๖ เนื่องจากผูจัดทําเองยังไมมีเวลาแมแตจะตรวจปรูฟ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวล ศัพท พิมพครั้งที่ ๑๐ ที่เสร็จออกมาใน พ.ศ. ๒๕๔๖ ซึ่งเปนครั้งแรกที่ใชขอมูลในระบบคอมพิวเตอร จึงมีหลักการทั่วไปวา ใหคงเนือหาไวอยางเดิมตามฉบับเรียงพิมพเกา ยังไมปรับปรุงหรือเพิมเติม ้ ่
  • 6. ค ค) งานเริ่มเขาทาง: ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ ๑. ผานไป ๒๘ ป จึงถึงทีชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ บัดนี้ เวลาผานไป ๒๘ ปแลว นับแตพิมพ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ออก มาครั้งแรก ใน พ.ศ. ๒๕๒๒ ขอมูลสวนใหญในพจนานุกรมนั้น ยังเปนขอมูลพื้นฐานที่ตั้งใจวาจะ ชําระ-เพิ่มเติม แตก็ขัดของตลอดมา ในชวง ๒๔ ปแรก ติดขัดดวยระบบการพิมพไมเอือแลวความบีบคันดานเวลาก็ซาเขาไป สวน ้ ้ ้ํ ในชวง ๔ ปทชดใกลนี้ ทังทีมขอมูลสะดวกใชอยูในคอมพิวเตอร ก็ตดขัดดวยขาดเวลาและโอกาส ี่ ิ ้ ่ี  ิ จนมาถึงขึนปใหม ๒๕๕๐ นี้ เมือหาโอกาสปลีกตัวจากวัด พอดีโรคทางเดินหายใจกําเริบขึนอีก ้ ่ ้ คออักเสบลงไปถึงสายเสียง พูดยากลําบาก ตอดวยกลามเนือยึดสายเสียงอักเสบ โรคยืดเยือเกิน ๒ เดือน ้ ้ ไดไปพักรักษาตัวในชนบทนานหนอย เปนโอกาสใหไดเริมงานชําระ-เพิมเติมพจนานุกรม แตในขันนี้ ่ ่ ้ เรงทําเฉพาะสวนรีบดวนและสวนทีพบเฉพาะหนาใหเสร็จไปชันหนึงกอน เรียกวา “งานชําระ-เพิม ่ ้ ่ ่ เติม ชวงที่ ๑” คิดวาลุลวงไปไดทหนึง ทีปดงานจัดใหพรอมจะเขาโรงพิมพไดทนกอนโรคจะหาย  ี ่ ่ ั ๒. อะไรมากับ และจะมาตาม การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ งานชําระ-เพิ่มเติมนี้ คือการทําให พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท มีคุณสมบัติ เต็มตามความมุงหมาย เพราะหนังสือที่พิมพเรื่อยมานั้น จัดทําขึ้นอยางรวบรัดเพื่อพอใชไปพลาง กอน เพียงเปนขอมูลพื้นฐานอยางที่กลาวแลว (มีบางบางคําที่มีโอกาสขยายความไปกอนแลว) เนื่องจากตระหนักวา จะไมมโอกาสทํางานชําระ-เพิ่มเติมอยางตอเนื่องใหเสร็จสิ้นไปในคราว ี เดียว จึงกะวาจะแบงงานนี้เปน ๓ ชวง คือ การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑: แกไขปรับปรุงขอขาดตกบกพรองที่พบเฉพาะหนา โดยเฉพาะ สวนหลงตาที่บังเอิญพบ และเพิ่มเติมคําศัพทและคําอธิบายที่รีบดวน หรือบังเอิญนึกได การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๒: อาน-ตรวจตลอดเลม เพื่อจะไดมองเห็นจุดและแงที่จะแกไข- ปรับปรุง-เพิ่มเติมทั่วทั้งหมด พรอมทั้งเพิ่มเติมคําศัพท ทั้งที่ตนเองเตรียมไวสําหรับงานคางยุคเกา และบันทึกไวระหวางใชพจนานุกรมนี้ และทีทานผูใชไดมนาใจบันทึกคําซึงคนไมพบแลวรวบรวมสงมา ่  ี ้ํ ่ การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๓: มุงที่การจัดระบบ เพื่อใหสม่ําเสมอ กลมกลืน เปนแบบแผนอัน เดียวกันและทั่วกัน เชน จะมีคําอาน บอกที่มาในคัมภีร มีที่มาหรือคําเดิมในภาษาบาลีและสันสกฤต และถาเปนไปได บอกคําแปลภาษาอังกฤษของศัพทตงหรือหัวศัพท พรอมทังแผนทีและภาพประกอบ ั้ ้ ่ อยางไรก็ดี เมือตกลงยุตงานชวงที่ ๑ วาพอเทานีกอน (๑๖ มี.ค. ๒๕๕๐) พอดีไดอานจดหมาย ่ ิ ้  ของพระมหานิยม สีลสํวโร (เสนารินทร) ที่สงมาตั้งแต ๑๘ พ.ย. ๒๕๔๗ ก็มองเห็นวา ทานแจงคํา ผิด-ตก ที่สําคัญ แมจะมากแหง ก็ใชเวลาแกไขไมมาก จึงทําใหเสร็จไปดวยในคราวนี้ รวมเพิ่มที่แก ไขอีกราว ๕๐ แหง อีกทั้งไดเห็นชัดวา ดวยฉันทะของทานเอง พระมหานิยมตรวจพจนานุกรม โดย เทียบกับเลมเดิมที่เปนตนฉบับไปดวยนี้ ทานใชเวลาอานจริงจังละเอียด จนทําใหคิดวา ในการ ชําระ-เพิ่มเติมชวงที่ ๒ ที่จะอานแบบตรวจปรูฟตลอดดวยนั้น งานสวนนี้คงเบาลงมาก จะไดมุงไป
  • 7. ง ที่งานเพิ่มเติม-ปรับปรุงทัวไป จึงขออนุโมทนาพระมหานิยม สีลสํวโร ไว ณ ทีน้ี ่ ่ พอจะปดงาน หันมาดูรายการศัพท ๒๘ คํา ทีพระธรรมรักษาแจงมาแต ก.ค.๒๕๒๙ วาไมพบ ่ ในพจนานุกรมฯ เปนศัพทในอรรถกถาชาดกแทบทังนัน เห็นวานาจะทําใหเสร็จไปดวยเลย จึงตัดคํา ้ ้ นอกขอบเขตออกไป ๖ แลวแถมเองอีกราว ๒๐ ใชเวลาคน-เขียนจนเสร็จอีก ๔ วัน (ของพระมหานิยม ราว ๕๐ ศัพท ทานตรวจใชเวลามากมาย แตเพียงแกคาผิด-ตก ๖.๔๐ ชม. ก็เสร็จ สวนของพระธรรม- ํ รักษา แจงทีไมเจอ แมนอยคํา แตตองเขียนเพิมใหม จึงใชเวลามาก) ขออนุโมทนาพระธรรมรักษาดวย ่   ่ ๓. การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ ทําใหมีความเปลี่ยนแปลงอะไร การชําระ-เพิ่มเติมชวงที่ ๑ นี้ ไดทําให พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท มีศัพท ตั้งที่เพิ่มขึ้นและที่มีความเปลี่ยนแปลงราว ๓๑๗ หัวศัพท (ไมนับการแกคําผิด-ตก ที่พระมหานิพนธ ชวยแจงมา อีกราว ๕๐ แหง) หัวศัพท ที่มีก ารปรับ แก และที่เ พิ่ม ใหม มี ตัวอยา ง ดังนี้ กัป, กัลป กิริยา กิเลสพันหา คงคา คณาจารย เครื่องราง ชุมนุมเทวดา ตัณหา ๑๐๘ ทักขิณาบถ ทีฆนขสูตร ธรรมราชา ธัญชาติ นัมมทา บริขาร บุพการ บุพนิมตแหงมรรค ิ ปกตัตตะ ปปญจะ ปริตร, ปริตต ปญญา ๓ พรหมจรรย มหานที ๕ มหายาน มาตรา มานะ ยถากรรม ยมุนา โยนก โวการ (เชน จตุโวการ)  สมานฉันท สรภู สังคายนา สัจกิริยา สัจจาธิฏฐาน สีหนาท สุตะ หีนยาน อจิรวดี อธิษฐาน อธิษฐานธรรม อภิสมพุทธคาถา ั อโศกมหาราช อาภัพ อายุ อายุสังขาร อาสภิวาจา อุตราบถ อุทยาน การชําระ-เพิ่มเติมนี้ ทําให พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท มีลักษณะคืบเคลื่อน เขาไปใกลงานคางที่ ๓ ซึ่งไดหยุดลงเมื่อใกลสิ้นป ๒๕๒๑ เชน คํา “กัป, กัลป” ในการพิมพครั้ง ที่ ๑๐ พ.ศ. ๒๕๔๖ มีคําอธิบาย ๑๒ บรรทัด แตในฉบับชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ นี้ ขยายเปน ๑๑๓ บรรทัด เมื่อนําไปเทียบกับฉบับงานคางที่ ๓ นั้น (ในการเขียนขยายคราวนี้ ไมไดหันไปดู งานคางนั้นเลย) ปรากฏวา คําอธิบายในฉบับชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ นี้ ยังสั้นกวาเกาเกือบครึ่งหนึ่ง ถาตองการมองใหชัดวางานชําระ-เพิ่มเติมมีลักษณะอยางไร จะดูไดงายที่คําตัวอยางขางบน นั้น เฉพาะอยางยิ่งคําวา กัป, กัลป; กิเลสพันหา; เครื่องราง; ชาดก; ทักขิณาบถ; นัมมทา; บริขาร; ปริตร, ปริตต; มานะ; ยถากรรม; สัจกิรยา; อธิษฐาน; อายุ ิ บัดนี้ งานชําระ-เพิมเติม ชวงที่ ๑ ไดเสร็จสิ้นแลว โดยกําหนดเอาเองวาเพียงเทานี้ แตงาน ่ ชําระ-เพิมเติม ชวงที่ ๒ และ ๓ ซึ่งรอขางหนา มีมากกวา และไมอาจกําหนดวาจะเสร็จเมื่อใด หาก ่ ไมนิราศ-ไมไดโอกาสจากโรค ก็กลาวไดเพียงวา อยูในความตั้งใจที่จะทําตอไป พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต) ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๐
  • 8. คําปรารภ (ในการพิมพครั้งที่ ๑๐) เมื่อกลาวถึง พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท หลายทานนึกถึง พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม ดวย โดยเขาใจวาเปนหนังสือชุดที่มีสองเลมรวมกัน แตแทจริงเปนหนังสือที่เกิดขึ้นตาง หากกัน ตางคราวตางวาระ และมีความเปนมาที่ทั้งตางหากจากกัน และตางแบบตางลักษณะกัน ก. ความเปนมา ชวงที่ ๑: งานสําเร็จ แตขยายไมได พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม เปนหนังสือที่คอยๆ กอตัวขึ้นทีละนอย เริ่มจากหนังสือ Student’s Thai–Pali–English Dictionary of Buddhist Terms เลมเล็กๆ ที่จัดทําเสร็จใน พ.ศ. ๒๕๐๖ ตอแตนั้นก็ไดปรับปรุง–เพิ่มเติม–ขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ และไดขยายขอบเขตออกไปจนกลายเปนงานที่มี ลักษณะเปนสารานุกรม เมื่อเวลาผานไปๆ ก็มองเห็นวางานทําสารานุกรมจะกินเวลายืดเยื้อยาวนานมาก ยิ่งมีงานอื่นแทรกเขา มาบอยๆ ก็ยิ่งยากที่จะมองเห็นความจบสิ้น ในที่สุดจึงตกลงวาควรทําพจนานุกรมขนาดยอมๆ ขั้นพื้นฐาน ออกมากอน และไดรวบรวมคัดเลือกหมวดธรรมมาจัดทําคําอธิบายขึ้น ซึ่งไดบรรจบรวมกับหนังสือเลมเล็ก เดิมที่สืบมาแต พ.ศ. ๒๕๐๖ กลายเปนภาคหนึ่งๆ ใน ๓ ภาคของหนังสือที่รวมเปนเลมเดียวกันอันมีชื่อวา พจนานุกรมพุทธศาสตร เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๕ กาลลวงมาจนถึง พ.ศ. ๒๕๒๘ พจนานุกรมพุทธศาสตร ซึ่งพิมพครั้งที่ ๔ จึงมีชื่อปจจุบันวา พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม เพื่อใหเขาคูกับพจนานุกรมอีกเลมหนึ่งที่เปลี่ยนจากชื่อเดิมมา เปน พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ถึงวาระนี้ พจนานุกรมสองเลมนี้จึงเสมือนเปนหนังสือที่รวมกันเปนชุดอันเดียว พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ที่วานั้น เปนหนังสือที่เกิดขึ้นแบบทั้งเลมฉับพลันทันที โดยแทรกตัวเขามาใน พ.ศ. ๒๕๒๒ ระหวางที่งานทําพจนานุกรมซึ่งขยายขอบเขตออกไปจนจะเปนสารานุกรม นั้น กําลังดําเนินอยู เนื่อ งจากผูรวบรวมเรียบเรียงเห็ นวา งานทําสารานุก รม คงจะกินเวลายืดเยื้อไปอีกนาน และ พจนานุกรมพุทธศาสตร ทีทาเสร็จไปแลว ก็มเี ฉพาะดานหลักธรรมซึงจัดเรียงตามลําดับหมวดธรรม ควรจะมี ่ํ ่ พจนานุกรมเลมเล็กๆ งายๆ วาดวยพระพุทธศาสนาทั่วๆ ไป แบบเรียงตามลําดับอักษร ทีพอใชประโยชนพนๆ ่ ื้ สําหรับผูเ ลาเรียนในขันตน โดยเฉพาะนักเรียนนักธรรม ออกมากอน ้ พรอมนั้นก็พอดีประจวบเหตุผลอีกอยางหนึ่งมาหนุน คือ ไดเห็นหนังสือ ศัพทหลักสูตรภาษาไทย สําหรับนักธรรม ชันตรี ชันโท และชันเอก ที่มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยจัดพิมพออกมาใน พ.ศ. ๒๕๐๓ ้ ้ ้ เหลืออยูจํานวนมากมาย และดูเหมือนวาไมมีใครเอาใจใส หนังสือ ศัพทหลักสูตรภาษาไทย ชุดนั้น ทาง มจร. จัดพิมพขึ้นมาเพื่อสนองความตองการของ นักเรียนนักธรรมที่จะตองสอบวิชาใหมซึ่งเพิ่มเขามาในหลักสูตร คือวิชาภาษาไทย แตแทบจะยังไมทันไดเผย แพรออกไป วิชาภาษาไทยนั้นก็ไดถูกยกเลิกเสีย หนังสือชุดนั้นจึงถูกทอดทิ้ง ไดมองเห็นวา หนังสือ ศัพทหลักสูตรภาษาไทย นัน ไมควรจะถูกทิงไปเสียเปลา ถานํามาจัดเรียงใหมในรูป ้ ้ พจนานุกรม ก็จะใชประโยชนได อยางนอยศัพทตงหรือหัวศัพททมอยูกจะทุนแรงทุนเวลาในการเก็บศัพทเปนอันมาก ั้ ี่ ี  ็  
  • 9. โดยนัยนี้ ก็ไดนาหนังสือ ศัพทหลักสูตรภาษาไทย ชุดนันทัง ๙ ภาค (ศัพทสาหรับนักธรรมตรี–โท–เอก ํ ้ ้ ํ ชั้นละ ๓ วิชา จึงมีช้นละ ๓ ภาค พิมพรวมเปนชั้นละเลม) มาจัดเรียบเรียงเปนพจนานุกรมเลมเดียว ดังไดเลา ั ไวแลวใน “แถลงการจัดทําหนังสือ ประกาศพระคุณ ขอบคุณ และอนุโมทนา (ในการพิมพครั้งที่ ๑)” ศัพทจํานวนมากทีเดียว ที่งายๆ พื้นๆ และตองการเพียงความหมายสั้นๆ หรือคําอธิบายเพียงเล็ก นอย ไดคงไวตามเดิมบาง แกไขปรับปรุงบาง สวนศัพทที่ตองการคําอธิบายยาวๆ ก็เขียนขยาย และศัพท สําหรับการเรียนนักธรรมที่ตกหลนหรือศัพททั่วไปอันควรรูที่ยงไมมี ก็เติมเขามา รวมเปนของเกากับของใหม ั ประมาณครึ่งตอครึ่ง จึงเกิดเปนพจนานุกรม ซึงในการพิมพครังแรก พ.ศ. ๒๕๒๒ เรียกชือวา พจนานุกรม ่ ้ ่ พุทธศาสน ฉบับครู นักเรียน นักธรรม ตอมา ในการพิมพครั้งที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๒๗ พจนานุกรมเลมนั้นไดเปลี่ยนมีชื่ออยางปจจุบันวา พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท คือหนังสือเลมนี้ เมื่อมีการเผยแพรมากขึ้น ผูขออนุญาตพิมพบางแหงจึงไดนําพจนานุกรมทั้งสองเลมนี้มาจัดรวมกัน เปนชุด และลาสุดบางทีถึงกับทํากลองใสรวมกัน แมจะมีประวัติแหงการเกิดขึ้นตางหากกัน แตพจนานุกรมสองเลมนี้ก็มีลกษณะที่เหมือนกันอยางหนึ่ง ั คือเปนงานในชวงระหวางที่งานทําพจนานุกรมซึ่งตอเนื่องมาแตเดิมและขยายออกไปจนกลายเปนสารานุกรม แสดงอาการวาจะเปนเรื่องยืดเยื้อตองรออีกยาวนาน หลังจากการพิมพลงตัวแลว พจนานุกรมสองเลมนี้ก็มีชะตากรรมอยางเดียวกัน คือขึ้นตอระบบการทํา ตนแบบและการพิมพยุคกอนนั้น ซึ่งตนแบบอยูในแผนกระดาษที่ตายตัว แกไขและขยับขยายไดยาก ยิ่งเปน หนังสือขนาดหนาและมีรูปแบบซับซอน ก็แทบปรับเปลี่ยนอะไรไมไดเลย ดวยเหตุนี้ การพิมพพจนานุกรมสองเลมนั้นในครั้งตอๆ มา จึงตองพิมพซําตามตนแบบเดิม ถาจํา ้ เปนจริงๆ ที่จะตองแกไข ก็แกไดเพียง ๔–๕ บรรทัด ยิ่งเมื่อเวลาผานมานานขึ้น แผนกระดาษตนแบบทั้งหมด ก็ผุเปอยหรือสูญหายไป (ตนแบบของ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ซึ่งทําขึ้นใหมในการพิมพ ครั้งที่ ๒ ไดสูญหายไปตั้งแตเมื่อการพิมพครั้งที่ ๒ นั้นเสร็จสิ้นลง) ทําใหการพิมพตอจากนั้นตองใชวิธีถาย ภาพจากหนังสือที่พิมพครั้งกอนๆ ซึ่งจะไดตัวหนังสือที่เลือนลางลงไปเรื่อยๆ ไดแตรอเวลาที่จะพิมพทําตน แบบขึ้นใหม โดยจะถือโอกาสเพิ่มเติมดวยพรอมกัน อยางไรก็ตาม เนื่องจาก พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท นี้ มีศัพทและคําอธิบายที่จะเพิ่ม มากมาย เมื่อแกไขตนแบบเดิมไมได ก็จึงใสสวนเพิ่มเขามาตางหากตอทายเลมในการพิมพครั้งที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๒๘ โดยทําเปน “ภาคผนวก” (มีศัพทต้งหรือหัวศัพทเพิ่ม ๑๒๔ ศัพท รวม ๒๔ หนา ขยายขนาดเลม ั หนังสือเฉพาะตัวพจนานุกรมแทๆ ขึ้นเปน ๔๖๖ หนา) ตอแตนั้นมา ก็พิมพซ้ําอยางที่กลาวขางตน ข. ความเปนมา ชวงที่ ๒: เขายุคใหม มีฐานที่จะกาวตอ ระหวางรอเวลาที่จะพิมพทําตนแบบใหม พรอมกับเขียนเพิ่มเติม ซึ่งมองไมเห็นวาจะมีโอกาสทําไดเมื่อ ใด กาลก็ลวงมา จนถึงยุคคอมพิวเตอร ระบบคอมพิวเตอรไดชวยใหการพิมพเจริญกาวหนาอยางมหัศจรรย ซึ่งแกปญหาสําคัญในการทํา พจนานุกรมไดทงหมด โดยเฉพาะ ั้ • การพิมพขอมูลใหมทําไดอยางดีและคลองสะดวก • รักษาขอมูลใหมนั้นไวไดสมบูรณและยืนนาน โดยมีคุณภาพคงเดิม หรือจะปรับใหดียิ่งขึ้นก็ได
  • 10. • ขอมูลใหมที่เก็บไวนั้น จะแกไข–ปรับปรุง–เพิ่มเติม ที่จุดไหนสวนใด อยางไร และเมื่อใด ก็ไดตาม ปรารถนา ถึงตอนนี้ ก็เห็นทางที่จะทําใหงานทําพจนานุกรมกาวตอไป แตกตองรอขั้นตอนสําคัญ คือจุดตั้งตน ็ ครั้งใหม ไดแกการพิมพขอมูลพจนานุกรมทั้งหมดในเลมหนังสือลงในคอมพิวเตอร ซึ่งตองใชเวลาและแรง งานมากทีเดียว ถามีขอมูลที่พิมพลงในคอมพิวเตอรไวพรอมแลว ถึงจะยังไมมีเวลาที่จะแกไข–ปรับปรุง–เพิ่มเติม ก็ อุนใจได เพราะสามารถเก็บรอไว มีโอกาสเมื่อใด ก็ทาไดเมื่อนั้น แตตองเริ่มขั้นเตรียมขอมูลนั้นใหไดกอน ํ ขณะที่ผูรวบรวมเรียบเรียงเองพิมพดีดไมเปน กับทั้งมีงานอื่นพันตัวนุงนัง ไมไดดําเนินการอันใดใน เรื่องนี้ ก็ไดมีทานที่มีใจรักและทานที่มองเห็นประโยชน ไดพิมพขอมูล พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวล ศัพท ทั้งหมดของเลมหนังสือลงในคอมพิวเตอร ดวยความสมัครใจของตนเอง โดยมิไดนัดหมาย เทาที่ทราบ/ เทาที่พบ ๔ ราย เปน ๔ ชุด คือ ๑. พระมหาเจิม สุวโจ แหงสถาบันวิจัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ไดเริ่มจัดทํางานนี้ตั้งแตระยะ ตนๆ ของยุคแหงการพิมพดวยระบบคอมพิวเตอร ซึ่งทั้งอุปกรณและบุคลากรดานนี้ยังไมพรั่งพรอม ใชเวลา  หลายป จนในที่สุด ไดมอบขอมูลที่เตรียมเสร็จแลวแกผูรวบรวมเรียบเรียง เมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๔๑ ขอมูลทีพระมหาเจิม สุวโจ เตรียมไวนี้ ไดจดวางรูปแบบเสร็จแลว รอเพียงงานขันทีจะสงเขาโรงพิมพ ่ ั ้ ่ รวมทังการตรวจครังสุดทาย นับวาพรอมพอสมควร แตผรวบรวมเรียบเรียงก็ไมมเี วลาตรวจ เวลาก็ผานมาเรือยๆ ้ ้ ู  ่ ๒. รศ. ดร.สมศีล ฌานวังศะ ราชบัณฑิต ไดเตรียมขอมูลพจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท (พรอมทั้งพจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม) โดยบุตรหญิง–ชาย คือน.ส.ภาวนา ตั้งแตยังเปน ด.ญ.ภาวนา ฌานวังศะ และนองชาย คือ นายปญญา ตั้งแตยงเปนด.ช.ปญญา ฌานวังศะ ไดชวยกันแบงเบา ั ภาระดวยการพิมพขอมูลทังหมดของเลมหนังสือลงในคอมพิวเตอร ภายใตการดูแลของ ดร.สมศีล ฌานวังศะ  ้ ซึ่งเปนผูตรวจความเรียบรอยและจัดรูปแบบขอมูลนั้นตามเลมหนังสืออีกทีหนึ่ง ๓. พระไตรปฎก (ในแผน CD – ระบบคอมพิวเตอร) ฉบับสมาคมศิษยเกา มหาจุฬาลงกรณราช- วิทยาลัย ซึ่งเสร็จออกเผยแพรในชวงตนของ พ.ศ. ๒๕๔๓ ไดขอบรรจุ พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับ ประมวลธรรม และ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ไวในโปรแกรมดวย ผูจัดทําจึงไดพิมพขอมูล ทั้งหมดของหนังสือทั้งสองเลมนั้นลงในคอมพิวเตอร แตเนื่องจากเปนขอมูลสําหรับโปรแกรมคอมพิวเตอร จึง ไมไดจัดรูปแบบเพื่อการตีพิมพอยางเลมหนังสือ ๔. พจนานุกรมพุทธศาสน (ในแผน CD – ระบบคอมพิวเตอร) รุน ๑.๕ (ในโปรแกรมวา พจนานุกรม พุทธศาสตร Version <1.2>) พ.ศ. ๒๕๔๔ จัดทําโดยคณะวิศวกรรมศาสตรคอมพิวเตอร มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งก็ไมไดจัดรูปแบบเพื่อการตีพิมพอยางเลมหนังสือ เพราะเปนขอมูลสําหรับโปรแกรมคอมพิวเตอร ขอมูลทัง ๔ ชุดนี้ ผูจดทําชุดนันๆ ไดนาศัพทตงและคําอธิบายทังหมดใน “ภาคผนวก” รวม ๒๔ หนา ้ ั ้ ํ ั้ ้ ๑๒๔ ศัพท ของฉบับเรียงพิมพระบบเกา มาแทรกเขาในเนือหาหลักของเลมตามลําดับอักษรเสร็จเรียบรอยดวย ้ เมื่อมีชุดขอมูลใหเลือก ก็แนนอนวาจะตองพิจารณาเฉพาะชุดที่จัดรูปแบบไวแลวเพื่อการตีพิมพอยาง เลมหนังสือ คือชุดที่ ๑ และชุดที่ ๒ แตทั้งที่มีขอมูลนั้นแลว เวลาก็ผานไปๆ โดยผูรวบรวมเรียบเรียงมิไดดําเนินการใดๆ เพราะวาแมจะมี ขอมูลครบทั้งหมดแลว แตก็ยังมีงานสุดทายในขั้นสงโรงพิมพ โดยเฉพาะการพิสจนอักษร (ตรวจปรูฟ) ตลอด ู เลมอีกครั้ง ซึ่งควรเปนภาระของผูรวบรวมเรียบเรียงเอง
  • 11. ถาจะใหผูรวบรวมเรียบเรียงพิสูจนอักษรเองอยางแตกอน การพิมพคงตองรออีกแรมป หรืออาจจะ หลายป (ยิงมาบัดนี้ เมือตาทังสองเปนโรคตอหินเขาอีก ก็แทบหมดโอกาส) คงตองปลอยใหพิมพครั้งใหมดวยการ ่ ่ ้ ถายภาพจากหนังสือที่พิมพครั้งกอนตอไปอีก ค. ความเปนมา ชวงที่ ๓: พิมพครั้งใหม ในระบบใหม การพิมพในระบบใหมคืบหนา เมื่อ ดร.สมศีล ฌานวังศะ ชวยรับภาระขั้นสุดทายในการจัดทําตนแบบ ใหพรอมที่จะนําเขารับการตีพิมพในโรงพิมพ ในงานขันสุดทายนี้ สําหรับ พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม ซึงจัดเรียงใหมดวยระบบ ้ ่  คอมพิวเตอร และพิมพเปนเลมหนังสือไปแลวเปนครั้งแรก เมื่อกลางป พ.ศ. ๒๕๔๕ นั้นผูรวบรวมเรียบเรียง ไดอานตนแบบสุดทายกอนยุติ แตเมื่อมาถึง พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ก็เปนเวลาทีผรวบรวม ่ ู เรียบเรียงประสบปญหาจากโรคตามากแลว รวมทังโรคตอหิน จึงยกภาระในการตรวจปรูฟอานตนแบบแมแต ้ ครั้งยุติให ดร.สมศีล ฌานวังศะ รับดําเนินการทั้งหมด เพียงแตเมือมีขอผิดแปลกนาสงสัยทีใด ก็ไถถามปรึกษา ่  ่ เปนแตละแหงๆ ไป พอดีวา ผูรับภาระนอกจากมีความละเอียดและทํางานนี้ดวยใจรักแลว ยังเปนผูศึกษาวิจัยเรื่อง พจนานุกรมเปนพิเศษอีกดวย ยิ่งเมื่อไดคอมพิวเตอรมาเปนเครื่องมือ ก็ยิ่งชวยใหการจัดเรียงพิมพตนแบบ สามารถดําเนินมาจนหนังสือเสร็จเปนเลมในรูปลักษณที่ปรากฏอยูนี้ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท พิมพครั้งที่ ๑๐ ซึ่งเปนครั้งแรกที่ใชขอมูลอันไดเตรียมขึ้น ใหมดวยระบบการพิมพแบบคอมพิวเตอรนี้ โดยหลักการ ไดตกลงวาใหคงเนื้อหาไวอยางเดิมตามฉบับเรียง พิมพระบบเกา ยังไมปรับปรุงหรือเพิมเติม เนืองจากผูรวบรวมเรียบเรียงยังไมมีเวลาที่จะดําเนินการกับคํา ่ ่ ศัพทมากมายอันควรเพิมและสิงทีควรแกไขปรับปรุงตางๆ ทีบนทึกไวระหวางเวลาทีผานมา และจะรอก็ไมมี ่ ่ ่ ่ั ่ กําหนด (จุดเนนหลักอยูที่การไดฐานขอมูลในระบบคอมพิวเตอร ซึ่งทําใหพรอมและสะดวกที่จะปรับปรุงเพิ่ม เติมตอไป) ทังนี้ มีขอยกเวน คือ ้  ๑. นําศัพทต้งและคําอธิบายทั้งหมดใน “ภาคผนวก” ของฉบับเรียงพิมพระบบเกา มาแทรกเขาไปใน ั เนื้อหาหลักของเลมตามลําดับอักษรของศัพทนั้นๆ (ขอนี้เปนการเปลี่ยนแปลงดานรูปแบบเทานั้น สวนเนื้อหา ยังคงเดิม) ๒. เนื่องจากมีศัพทตั้ง ๘ คํา ที่ไดปรับปรุงคําอธิบายไวกอนแลว จึงนํามาใสรวมดวย พรอมทั้งถือ โอกาสแกไขเนื้อความผิดพลาด ๒–๓ แหงที่ผูใชพจนานุกรมฉบับนี้ ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถบางทานไดแจง เขามานับแตการพิมพครั้งกอนๆ ซึ่งขอขอบคุณ–อนุโมทนาไว ณ ที่นี้ดวย ๓. มีการปรับปรุงเพิ่มเติมปลีกยอยที่พบเห็นนึกไดแลวถือโอกาสทําไปดวยระหวางทํางานขั้นสุดทาย ในการจัดทําตนแบบใหพรอมกอนจะสงเขารับการตีพิมพในโรงพิมพ กลาวคือ คําอธิบายเล็กนอยในบางแหง ซึ่งเห็นวาควรจะและพอจะใหเสร็จไปไดในคราวนี้ เฉพาะอยางยิ่ง • ไดปรับคําอธิบายคําวา ศิลปศาสตร และไดนาคําอธิบายการแบงชวงกาลในพุทธประวัติ คือชุด ํ ทูเรนิทาน–อวิทเู รนิทาน–สันติเกนิทาน ชุดปฐมโพธิกาล–มัชฌิมโพธิกาล–ปจฉิมโพธิกาล และชุดปุริมกาล–อปร กาล มาปรับรวมกันไวที่ศัพทตั้งวา พุทธประวัติ อีกแหงหนึ่งดวย
  • 12. • ไดแยกความหมายยอยของศัพทตั้งบางคําออกจากกัน เพื่อใหเกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น (เชน คํา วา พยัญชนะ) • ไดตัดศัพทต้งบางคําที่เห็นวาไมจําเปนออก (เชน วงศกุล, เทวรูปนาคปรก) ั ๔. เนื่องจากเดิมนั้น พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท นี้ จัดทําขึ้นโดยมุงเพื่อประโยชนของ ผูเลาเรียนขั้นตน โดยเฉพาะนักธรรมตรี–โท–เอก ถอยคําใดมีในแบบเรียนนักธรรม ก็ไดรักษาการสะกดตัว โดยคงไวอยางเดิมตามแบบเรียนเลมนั้นๆ เปนสวนมาก แตในการพิมพตามระบบใหมครังนี้ เห็นวาควรจะคํานึงถึงคนทัวไป ไมจากัดเฉพาะนักธรรม จึงตกลง ้ ่ ํ ปรับการสะกดตัวของบางศัพทใหเปนปจจุบน (เชน ปฤษณา แกเปน ปริศนา) ั พรอมนัน ตามทีพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ใหหลักไววา คําทีเ่ ปนศัพทธรรมบัญญัติ จะเขียน ้ ่  ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หรือเขียนเต็มรูปอยางเดิมก็ได และในพจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับ ประมวลศัพท แตเดิมมาเขียนทั้งสองรูป เชน โลกุตตรธรรม–โลกุตรธรรม อริยสัจจ–อริยสัจ สวนในการพิมพ ตามระบบใหมครังนี้ ถาคํานั้นอยูในขอความอธิบาย ไดปรับเขียนเปนรูปเดียวกันทั้งหมด เชน โลกุตตรธรรม ้ อริยสัจจ ทั้งนี้ เพื่อความสอดคลองกลมกลืนเปนอันเดียวกัน แตผูอานจะนําไปเขียนเองในรูปที่ประสงคก็ได ตามคําชี้แจงตนเลม ๕. แตเดิมมาหนังสือนี้มุงเพื่อประโยชนแกผูมีความรูพื้นฐานทางธรรมอยูแลว โดยเฉพาะนักเรียน นักธรรม ซึ่งถือวารูวิธีอานคําบาลีอยูแลว จึงไมไดนึกถึงการที่จะแสดงวิธีอานคําบาลีนั้นไว แตบัดนี้ไดตกลงที่ จะคํานึงถึงผูใชทั่วไป ดังนัน ในการพิมพครังใหมดวยระบบใหมนี้ จึงไดแสดงวิธอานออกเสียงศัพทตงบางคําเพือเกือกูลแกผู ้ ้  ี ั้ ่ ้ ใชที่ยังไมคุนกับวิธีอานคําที่มาจากภาษาบาลีสันสกฤต เชน สมสีสี [สะ-มะ-สี-สี], โอมสวาท [โอ-มะ-สะ-วาด] แตเนื่องจากยังเปนทํานองงานแถม จึงทําเทาที่นึกไดหรือพบเฉพาะหนา อาจมีคําศัพททํานองนี้อยูอีกหลายคํา ที่ยังมิไดแสดงวิธีอานออกเสียงกํากับไว อยางไรก็ตาม ในการพิมพใหมครังนี้ ไดแทรก “วิธอานคําบาลี” เพิมเขามาดวย เพือใหผใชทวไปทราบ ้ ี ่ ่ ู ั่ หลักพืนฐานทีพอจะนําไปใชเปนแนวทางในการอานไดดวยตนเอง โดย ดร.สมศีล ฌานวังศะ ชวยรับภาระเขียนมา ้ ่  งานขั้นสุดทายที่จะเขาโรงพิมพมีความละเอียด ซึ่งตองใชเวลาและเรี่ยวแรงกําลังมาก ประกอบกับผู รับภาระมีงานอื่นที่ตองรับผิดชอบอีกหลายดาน นับจากเริ่มงานขั้นสุดทายนี้ จนตนแบบเสร็จเรียบรอยนําสง โรงพิมพได ก็ใชเวลาไปหลายเดือน ทั้งนี้เพราะวา งานขั้นสุดทายกอนรับการตีพิมพมิใชเพียงการตรวจความถูกตองของตัวอักษรเทานั้น นอกจากอานปรูฟตลอดเลม ทวนแลวทวนอีกหลายเที่ยวแลว ไดถอโอกาสแหงการพิมพที่เปนการวางรูปแบบ ื ครั้งใหมและมีคอมพิวเตอรเปนอุปกรณน้ี ตรวจทานจัดการเกี่ยวกับความสอดคลองกลมกลืน–สม่ําเสมอ– ครบถวน โดยเฉพาะในเรืองทีเ่ ปนระบบแบบแผน ใหลงตัวไวเทาที่จะทําได คือ ่ ก) ความสอดคลองกลมกลืน ทั่วๆ ไป ไมวาจะเปนเครื่องหมายวรรคตอน หรือการพิมพคํา–ขนาด ตัวอักษร–รูปลักษณของตัวอักษร ทั้งคําทั่วไปและคําที่ใชในการอางอิงและอางโยง (เชน ดู เทียบ คูกับ ตรงขามกับ) ไดพยายามตรวจและแกไขใหสม่ําเสมอกันทุกแหง ข) ความถูกตองครบถวนทัวถึง อีกหลายอยาง ทียงอาจตกหลนหรือขามไปในการพิมพระบบเกา ่ ่ั โดยเฉพาะการอางโยง ไดตรวจสอบเทาที่ทาได เชน ตรวจดูใหแนใจวาศัพทตั้งทุกคําที่เปนธรรมขอยอย ได ํ อางโยงถึงหมวดธรรมใหญที่ธรรมขอยอยนั้นแยกออกมา
  • 13. ค) ระบบการอางโยง ระหวางศัพทตง ไดจดปรับใหสม่าเสมอชัดเจนและครบถวนยิงขึน เชน ้ั ั ํ ่ ้ • ไดสํารวจคําแสดงการอางโยงที่มีอยู ซึ่งยุติลงเปน ๔ คํา และนอกจากไดปรับขนาดและแบบตัว อักษรของคําแสดงการอางโยงนั้นใหสม่ําเสมอกันทั่วทั้งหมด กลาวคือ ดู เทียบ คูกับ ตรงขามกับ แลว ยังได พยายามวางขอยุติในการใชคําเหลานั้นดวยวาจะใชคําไหนในกรณีหรือในขอบเขตใด ในการนี้ พึงทราบวา คําที่มักมาคูกัน และเปนคําตรงขามกันดวย ในพจนานุกรมนี้ ใชคําอางอิงวา คูกับ หรือ ตรงขามกับ อยางใดอยางหนึ่ง โดยยังไมถือขอยุติเด็ดขาดลงไป เชนโลกียธรรม คูกับ โลกุตตรธรรม, สังขตธรรม ตรงขามกับ อสังขตธรรม • ใชการอางโยง แทนคําอธิบายบางตอนที่ซ้ําซอนเกินจําเปน หรือชวยใหปรับเปลี่ยนคําอธิบายบาง แหงใหสั้นลง (เชน ตัดคําอธิบายที่ เบญจศีล ออก เนื่องจากซ้ํากับ ศีล ๕ แลวใชการอางโยงแทน) นอกจากนั้น ยังมีงานแทรกซอนบางอยางที่ใชเวลาเพิ่มขึ้นอีกมากทีเดียวนอกเหนือความคาด หมาย เชน ทุกครั้งที่มีการแกไขขอมูล ซึ่งทําใหขอความและถอยคําขยับขยายเลือนที่ ตองตรวจดูความถูกตอง  ่ เหมาะสมในการตัดแยกคําทายบรรทัด โดยเฉพาะคําศัพทบาลีสนสกฤต เชน ปาฏิโมกข และคําประสม เชน ั พระเจา นมสม ถา โมกข เจา หรือ สม เลื่อนแยกออกไปอยูตางบรรทัด ซึงทําใหผดหลักอักขรวิธการเขียนคํา  ่ ิ ี บาลีสนสกฤต หรืออาจชวนใหอานเขาใจผิดในกรณีคําประสม ก็ตองพยายามแกไขใหมาอยูในบรรทัดเดียวกัน ั  ครบทั้งคํา หรือใชวิธีใสเครื่องหมาย - (ยติภังค) หากเปนคําบาลีสันสกฤตที่พอจะเอื้อใหตัดแยกได เชน กุศล- ธรรม (ดังในตัวอยางนี้) และการแกไขนี้มกจะสงผลกระทบตอคําอื่นอยูเนืองๆ ทําใหตองตรวจดูใหทั่วซ้ําอีก ั  อนึ่ง การแกไขดังกลาว ยังสงผลกระทบตอทอดไปถึงการจัดหนาหนังสือโดยรวม ซึ่งพลอยขยับ เขยื้อนเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากการตัด เพิ่ม หรือเปลี่ยนแปลงขอความนั้น อันจะตองตรวจดูและจัดปรับให ถูกตองลงตัวดวยทุกครั้งเชนเดียวกัน การที่งานพิมพ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท กาวมาจนถึงขันสําเร็จเสร็จสินในบัดนี้ จึง ้ ้ หมายถึงการบําเพ็ญอิทธิบาททัง ๔ ของ ดร.สมศีล ฌานวังศะ และบุตรหญิง–บุตรชาย คือ น.ส.ภาวนา ฌานวังศะ ้ และ นายปญญา ฌานวังศะ ซึ่งขออนุโมทนาไว ณ ที่นี้ เปนอยางยิ่ง พรอมนี้ ขอขอบคุณพระมหาเจิม สุวโจ แหงมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ทีไดอตสาหะ ่ ุ วิรยะเตรียมฐานขอมูลคอมพิวเตอรชดแรกของ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท และมอบใหไว แมจะ ิ ุ เปนชุดที่มิไดนํามาใชในการพิมพครั้งนี้ ก็ถือวาพระมหาเจิม สุวโจ ไดมีสวนรวมในงานนี้ดวย อนึง ระหวางทีแกไขทวนทานเพือเตรียมตนแบบสําหรับสงโรงพิมพนี้ พระครูปลัดปฎกวัฒน (อินศร ่ ่ ่ จินตาปฺโ) และพระภิกษุหลายรูปในวัดญาณเวศกวัน ไดอานปรูฟอีกเที่ยวหนึ่ง ชวยใหการพิสูจนอักษรถูก ฺ ตองเรียบรอยยิ่งขึ้น จึงขอขอบคุณพระครูปลัดปฎกวัฒนและพระภิกษุทุกรูปที่ชวยงาน ในโอกาสนี้ กระนั้น  ก็ตาม ก็คงยังมีขอผิดพลาดหลงเหลืออยูบาง หากผูใชทานใดไดพบ ก็ขอไดโปรดแจงใหทราบดวย เพื่อชวยให การพิมพครั้งตอๆ ไปมีความสมบูรณยิ่งขึ้น หวังวา พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ทีพมพดวยระบบใหมครังนี้ จะเปนอุปกรณอนเกือกูล ่ ิ  ้ ั ้ ตอการศึกษา ทีสาเร็จประโยชนไดดยงขึน และเปนปจจัยหนุนใหเกิดธรรมไพบูลย เพื่อประโยชนสขแกพหูชน ่ํ ี ิ่ ้ ุ ยั่งยืนนานสืบไป พระธรรมปฎก (ป. อ. ปยุตฺโต) ๒๓ กันยายน ๒๕๔๖
  • 14. บันทึกของผูเรียบเรียง (ในการพิมพครั้งที่ ๒ – พ.ศ. ๒๕๒๗) ๑. หนังสือนีพมพครังแรกเมือ พ.ศ. ๒๕๒๒ ในงานพระราชทานเพลิงศพ พระครูปลัดสมัยกิตตทตฺโต ้ ิ ้ ่ ฺิ เจาอาวาสวัดพระพิเรนทร มีชื่อวา พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับครู นักเรียน นักธรรม แตในการพิมพครั้งที่ ๒ นี้ ไดเปลี่ยนชื่อใหมวา พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ทั้งนี้เพราะชื่อเดิมยาวเกินไป เรียกยาก การที่มีคําสรอยทายชื่อวา ฉบับประมวลศัพท ก็เพื่อปองกันความสับสน โดยทําใหตางออกไปจาก พจนานุกรมพุทธศาสตร ของผูเรียบเรียงเดียวกัน ซึ่งมีอยูกอน พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท เปนพจนานุกรมซึ่งรวบรวมและอธิบายคําศัพททั่วไปทุก ประเภทที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เชน หลักธรรม พระวินัย พิธีกรรม ประวัติบุคคลสําคัญ ตํานาน และ วรรณคดีที่สําคัญ เปนตน ตางจาก พจนานุกรมพุทธศาสตร (จะขยายชื่อเปน พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับ ประมวลธรรม) ที่มุงรวบรวมและอธิบายเฉพาะแตหลักธรรมซึ่งเปนสาระสําคัญของพระพุทธศาสนา ๒. ศัพทที่รวบรวมมาอธิบายในหนังสือนี้ แยกไดเปน ๓ ประเภทใหญๆ คือ ๑) พุทธศาสนประวัติ มีพุทธประวัติเปนแกน รวมถึงสาวกประวัติ ประวัตบคคล สถานที่ และเหตุ ิุ การณสําคัญในพระพุทธศาสนา ตลอดจนตํานาน และเรื่องราวที่มาในวรรณคดีตางๆ เฉพาะที่คนทั่วไปควรรู ๒) ธรรม คือหลักคําสอน ทั้งที่มาในพระไตรปฎก และในคัมภีรรนหลังมีอรรถกถาเปนตน รวมไว ุ เฉพาะที่ศึกษาเลาเรียนกันตามปกติ และเพิ่มบางหลักที่นาสนใจเปนพิเศษ ๓) วินย หมายถึง พุทธบัญญัตทกากับความประพฤติและความเปนอยูของพระสงฆ และในทีนใหมี ั ิ ี่ ํ  ่ ี้ ความหมายครอบคลุมถึง ขนบธรรมเนียมประเพณี พิธกรรมบางอยางทีไดเปนเครืองยึดเหนียวคุมประสานสังคม ี ่ ่ ่ ของชาวพุทธไทยสืบตอกันมา นอกจากนีมศพทเบ็ดเตล็ด เชน คํากวีซงผูกขึนโดยมุงความไพเราะ และคําไทยบางคําทีไมคนแต ้ีั ึ่ ้  ่ ุ ปรากฏในแบบเรียนพระปริยตธรรม ซึงภิกษุสามเณรจําเปนจะตองรูความหมาย เปนตน ัิ ่  ๓. หนังสือนี้รวมอยูในโครงการสวนตัว ที่จะขยายปรับปรุงกอนการจัดพิมพครั้งที่ ๒ และไดเพิ่มเติม ปรับปรุงไปบางแลวบางสวน แตตามทีตงใจไวกะวาจะปรับปรุงจริงจังและจัดพิมพภายหลัง พจนานุกรมพุทธศาสตร ่ ั้ (ฉบับประมวลธรรม) ครั้น ดร.สุจินต ทังสุบุตร ติดตอขอพิมพเปนธรรมทานในงานพระราชทานเพลิงศพบิดา ผูเ ปนบุรพการี จึงเปนเหตุใหการพิมพเปลียนลําดับ กลายเปนวาหนังสือนีจะสําเร็จกอน โดยเบืองแรกตกลงวาจะ ่ ้ ้ พิมพไปตามฉบับเดิมทีสวนใหญยงไมไดปรับปรุง แตปญหาขอยุงยากติดขัดทีทาใหการพิมพลาชา ไดกลายเปน ่ ั   ่ํ  เครื่องชวยใหไดโอกาสรีบเรงระดมงานแทรกเพิ่ม ปรับปรุงแขงกันไปกับงานแกไขปญหา จนหนังสือนี้มีเนื้อหา เกือบจะครบถวนสมบูรณตามความมุงหมาย นับวาเจาภาพงานนี้ไดมีอุปการะมากตอความสําเร็จของงาน ปรับปรุงหนังสือและตอการชวยใหงานเสร็จสิ้นโดยเร็วไมยืดเยื้อตอไป อยางไรก็ดี มีผลสืบเนืองบางอยางทีควรทราบไวดวย เพือใหรจกหนังสือนีชดเจนยิงขึน เชน ่ ่  ่ ู ั ้ั ่ ้ ก) ในโครงการปรับปรุงเดิม มีขอพิจารณาอยางหนึงวา จะรวมศัพททแปลกในหนังสือ ปฐมสมโพธิกถา และ  ่ ี่ ใน มหาเวสสันดรชาดก เขาดวยหรือไม การพิมพทเี่ รงดวนครังนีไดชวยตัดสินขอพิจารณานั้นใหยุติลงไดทันที ้ ้  คือเปนอันตองตัดออกไปกอน แตการไมรวมศัพทในวรรณคดี ๒ เรื่องนั้นเขามาก็ไมทําใหพจนานุกรมนีเ้ สีย ความสมบูรณแตอยางใด เพราะศัพทสวนมากใน ปฐมสมโพธิกถา และ มหาเวสสันดรชาดก เปนคํากวีและคํา 