More Related Content
Similar to พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
Similar to พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์ (20)
More from ธรรมะอินเทรนด์ ธรรมะออนไลน์
More from ธรรมะอินเทรนด์ ธรรมะออนไลน์ (11)
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลศัพท์
- 1. พจนานุกรมพุทธศาสน
ฉบับประมวลศัพท
พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต)
(ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑)
- 2. พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท
© พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต)
ISBN 974-575-029-8
พิมพครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๒๒ จํานวน ๑,๕๐๐ เลม
– งานพระราชทานเพลิงศพ พระครูปลัดสมัย กิตฺติทตฺโต เจาอาวาสพระพิเรนทร
พิมพครั้งที่ ๒ (เพิ่มศัพทและปรับปรุง) พ.ศ. ๒๕๒๗ จํานวน ๙,๔๐๐ เลม
พิมพครั้งที่ ๓ (เพิ่มภาคผนวก) พ.ศ. ๒๕๒๘ จํานวน ๕,๐๐๐ เลม
– พิมพถวายมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดย “ทุนพิมพพจนานุกรมพุทธศาสน”
พิมพครั้งที่ ๔–๙ พ.ศ. ๒๕๓๑–๒๕๔๓ จํานวน ๓๑,๕๐๐ เลม
พิมพครั้งที่ ๑๐ พ.ศ. ๒๕๔๖ (จัดเรียงพิมพใหมดวยระบบคอมพิวเตอร)
ขนาดตัวอักษรธรรมดา ๕,๐๐๐ เลม และขนาดตัวอักษรใหญ ๕,๐๐๐ เลม
พิมพครั้งที่ ๑๑ - มีนาคม ๒๕๕๐ (ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑)
– คณะผูศรัทธารวมกันจัดพิมพเปนธรรมทาน จํานวน ๕,๐๐๐ เลม
พิมพท่ี
- 3. พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท
© พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต)
ISBN 974-575-029-8
พิมพครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๒๒ จํานวน ๑,๕๐๐ เลม
– งานพระราชทานเพลิงศพ พระครูปลัดสมัย กิตฺติทตฺโต เจาอาวาสพระพิเรนทร
พิมพครั้งที่ ๒ (เพิ่มศัพทและปรับปรุง) พ.ศ. ๒๕๒๗ จํานวน ๙,๔๐๐ เลม
พิมพครั้งที่ ๓ (เพิ่มภาคผนวก) พ.ศ. ๒๕๒๘ จํานวน ๕,๐๐๐ เลม
– พิมพถวายมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดย “ทุนพิมพพจนานุกรมพุทธศาสน”
พิมพครั้งที่ ๔–๙ พ.ศ. ๒๕๓๑–๒๕๔๓ จํานวน ๓๑,๕๐๐ เลม
พิมพครั้งที่ ๑๐ พ.ศ. ๒๕๔๖ (จัดเรียงพิมพใหมดวยระบบคอมพิวเตอร)
ขนาดตัวอักษรธรรมดา ๕,๐๐๐ เลม และขนาดตัวอักษรใหญ ๕,๐๐๐ เลม
พิมพครั้งที่ ๑๑ - มีนาคม ๒๕๕๐ มิถุนายน ๒๕๕๑ (ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑)
– คณะผูศรัทธารวมกันจัดพิมพเปนธรรมทาน จํานวน ๕,๐๐๐ เลม
พิมพท่ี
- 4. บันทึก
ในการชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑: ม.ค.-มี.ค. ๒๕๕๐
ก) งานในโครงการ แตชะงัก-หาย
ยอนหลังไปถึง พ.ศ.๒๕๐๖ เมื่อหนังสือ Student’s Thai–Pali–English Dictionary of
Buddhist Terms เลมเล็กๆ เสร็จแลว ผูจัดทําหนังสือนี้ ก็ไดเริ่มงานพจนานุกรมพระพุทธศาสนา
งานคางที่ ๑: เริ่มแรก คิดจะทําพจนานุกรมพระพุทธศาสนาเชิงสารานุกรม ฉบับที่คอนขาง
สมบูรณเลยทีเดียว มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยเขียนแยกเปน ๒ คอลัมน ซาย-พากยไทย
และ ขวา-พากยอังกฤษ เริ่ม ๒๙ ก.ย. ๒๕๐๖ ถึง ๑๒ พ.ย. ๒๕๐๗ จบอักษร “บ” (ยังคางชําระ
บางคํา) ตองเขารับงานที่มหาจุฬาฯ แลวยุงกับงานที่นั่น จนงานพจนานุกรมชะงักแลวหยุดไปเลย
งานคางที่ ๒: เมื่อเห็นวายากจะมีโอกาสทํางานคางนั้นตอ จึงคิดใหมวาจะทําฉบับที่มีเพียงพากย
ไทย อยางยนยอ โดยมีภาษาอังกฤษเฉพาะคําแปลศัพทใสวงเล็บหอยทายไว แลวเริ่มงานใน พ.ศ.-
--- แตงานที่มหาจุฬาฯ มาก พอทําจบ “ต” ก็ตองหยุด (ตนฉบับงานชุดนี้ท้งหมดหายไปแลว)
ั
(ระหวางนั้น ในป ๒๕๑๕ โดยคํานิมนตของทานเจาคุณเทพกิตติโสภณ ครั้งยังเปนพระมหา
สมบูรณ สมฺปณฺโณ ตกลงทําประมวลหมวดธรรมออกมาใชกันไปพลางกอน ทําใหเกิดพจนานุกรม
ุ
พุทธศาสตร [ตอมาเติมคําวา ประมวลธรรม] เสร็จเปนเลม ใน พ.ศ. ๒๕๑๘)
งานคางที่ ๓: ใน พ.ศ.๒๕๑๙ ไปเปนวิทยากรที่ Swarthmore College เมื่อกลับมาในป ๒๕๒๑
ตังใจหยุดงานอืนทังหมดเพือจัดทําสารานุกรมพุทธศาสนา โดยเริมตนใหม ทําเฉพาะพากยภาษาไทย มี
้ ่ ้ ่ ่
ภาษาอังกฤษเพียงคําแปลศัพทในวงเล็บหอยทาย พอใกลสนป ๒๕๒๑ ก็จบ “ก” รวมได ๑๐๕ หนา
ิ้
กระดาษพิมพดีด และขึ้น “ข” ไปไดเล็กนอย แลวหันไปทําคําเกี่ยวกับประวัติเสร็จไปอีก ๘๐ หนา
ตนป ๒๕๒๒ นั้นเอง ศาสตราจารย ดร. ระวี ภาวิไล จะพิมพ พุทธธรรม ไดขอเวลาทานเพื่อ
เขียนเพิ่มเติม แลวการไปบรรยายที่ Harvard University มาแทรก กวาจะเติมและพิมพเสร็จ สิ้น
เวลา ๓ ป งานทําพจนานุกรม-สารานุกรมเปนอันหยุดระงับไป จากนั้น งานดานอื่นเพิ่มขึ้นตลอดมา
ข) งานใหมนอกสาย แตเสร็จ: พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท
๑. ยุคพิมพระบบเกา
ตนป ๒๕๒๒ นั้นแหละ เมื่อเห็นวาคงไมมีโอกาสฟนงานที่คาง ก็นึกถึงหนังสือ ศัพทหลัก
สูตรภาษาไทย (สําหรับวิชาใหมในหลักสูตรนักธรรม) ที่มหาจุฬาฯ พิมพออกมาใน พ.ศ.๒๕๐๓ ซึ่ง
แทบจะยังไมทันไดเผยแพร วิชาใหมนั้นก็ถูกยกเลิกเสีย จึงพบหนังสือชุดนั้นเหลือคางถูกทอดทิ้ง
อยูมากมาย เห็นวา มีขอมูลพอจะทําเปนพจนานุกรมเบื้องตนได อยางนอยหัวศัพทที่มีอยูกจะทุน
็
แรงทุนเวลาในการเก็บศัพทไปไดมาก จึงตกลงทํางานใหมชิ้นที่งายและรวบรัด โดยนําหนังสือชุดนัน ้
ทัง ๓ เลม รวม ๙ ภาค (ศัพท น.ธ.ตรี–โท–เอก ชันละ ๓ วิชา จึงมีชนละ ๓ ภาค) มาจัดเรียงเปน
้ ้ ั้
- 5. ข
พจนานุกรมเบืองตนเลมเดียว พิมพออกมากอน ในงานพระราชทานเพลิงศพทานอาจารยพระครูปลัด
้
สมัย กิตตทตฺโต เรียกชือวา พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับครู นักเรียน นักธรรม (เปลียนเปนชือปจจุบน
ฺิ ่ ่ ่ ั
วา พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท เมือพิมพครังที่ ๒ พ.ศ.๒๕๒๗)
่ ้
หนังสือใหมเลมนีไมเกียวของกับงานทีทามาแลวแตอยางใด งานเกาทีทาคางไวทงหมดถูกพัก
้ ่ ่ํ ่ํ ั้
เก็บเฉยไว เพราะในกรณีนี้ มุงสําหรับผูเ รียนขันตน โดยเฉพาะนักเรียนนักธรรม ตองการเพียงศัพท
้
พื้นๆ และความหมายสั้นๆ งายๆ จึงคงขอมูลสวนใหญไวตามหนังสือศัพทหลักสูตรภาษาไทยนั้น
โดยแกไขปรับปรุงอธิบายเพิ่มหรือเขียนขยายบางเพียงบางคํา และเติมศัพทนักธรรมที่ตกหลนและ
ศัพททั่วไปอันควรรูที่ยังไมมี เขามาบาง รวมแลว เปนขอมูลของเกากับของใหมราวครึ่งตอครึ่ง
หลังจากพิมพออกมาแลว พจนานุกรมเลมนี้ก็มีชะตากรรมที่ขึ้นตอระบบการพิมพยุคนั้น
โดยเฉพาะตนแบบซึ่งอยูในแผนกระดาษที่ตายตัว แทบปรับเปลี่ยนอะไรไมไดเลย การพิมพครั้ง
ตอๆ มา ตองพิมพซ้ําตามตนแบบเดิม ถาจําเปนตองแกไข ก็แกไดเพียง ๔–๕ บรรทัด ยิ่งตอมา
แผนกระดาษตนแบบก็ผุเปอย โดยเฉพาะพจนานุกรมนี้ ตนแบบที่ทําขึ้นใหมในการพิมพครั้งที่ ๒
ไดสูญหายไปตั้งแตพิมพเสร็จ การพิมพตอนั้นมาตองใชวิธีถายภาพจากหนังสือที่พมพครั้งกอนๆ
ิ
แตกระนั้น พจนานุกรมนี้ยังมีศัพทและคําอธิบายที่จะตองเพิ่มอีกมาก เมื่อแกไขของเดิมไม
ได พอถึงป ๒๕๒๘ จะพิมพครั้งที่ ๓ จึงใสสวนเพิ่มเขามาตางหากตอทายเลมเปน “ภาคผนวก” (มี
ศัพทตั้งหรือหัวศัพทเพิ่ม ๑๒๔ ศัพท รวม ๒๔ หนา) จากนั้นมา ก็ไดแคพิมพซ้ําเดิมอยางเดียว
๒. เขาสูยุคขอมูลคอมพิวเตอร
เมือเวลาผานมาถึงยุคคอมพิวเตอร ก็มองเห็นทางวาจะแกไข–ปรับปรุง–เพิมเติมพจนานุกรม
่ ่
นีได แตกตองรอจุดตังตนใหม คือพิมพขอมูลพจนานุกรมในเลมหนังสือ ลงในคอมพิวเตอร
้ ็ ้
แมจะตองใชเวลาและแรงงานมาก ก็มีทานที่สมัครใจเสียสละ ไดพิมพขอมูลหนังสือ
พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ลงในคอมพิวเตอร โดยมิไดนดหมายกัน เทาทีทราบ ๔ ชุด
ั ่
เริมดวยพระมหาเจิม สุวโจ แหงมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ทีทางานอยูหลายปจนเตรียมขอมูล
่ ่ํ
เสร็จแลวมอบมาใหเมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๔๑ แลวก็มีชุดของผูอื่นตามมาอีก
ทังทีมขอมูลในคอมพิวเตอรแลว ผูจดทําเองก็ไมมเี วลาตรวจ เวลาผานมาจนกระทัง รศ. ดร.
้ ่ี ั ่
สมศีล ฌานวังศะ ราชบัณฑิต (มีบตรหญิง–ชาย คือ น.ส.ภาวนา ตังแตยงเปน ด.ญ.ภาวนา ฌานวังศะ
ุ ้ ั
และนองชาย คือ นายปญญา ตังแตยงเปน ด.ช.ปญญา ฌานวังศะ เปนผูชวยพิมพขอมูล) นอกจาก
้ ั
พิมพขอมูลหนังสือลงในคอมพิวเตอรแลว ยังชวยรับภาระในการพิสูจนอักษร (ตรวจปรูฟ) ตลอดเลม
นอกจากตรวจเองแลว ก็ยังหาพระชวยตรวจทานอีก ใหแนใจวาขอมูลใหมในระบบคอมพิวเตอรนี้
ตรงกับขอมูลเดิมในเลมหนังสือ แลวในที่สุด พจนานุกรมนี้ก็พิมพเสร็จออกมาใน พ.ศ. ๒๕๔๖
เนื่องจากผูจัดทําเองยังไมมีเวลาแมแตจะตรวจปรูฟ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวล
ศัพท พิมพครั้งที่ ๑๐ ที่เสร็จออกมาใน พ.ศ. ๒๕๔๖ ซึ่งเปนครั้งแรกที่ใชขอมูลในระบบคอมพิวเตอร
จึงมีหลักการทั่วไปวา ใหคงเนือหาไวอยางเดิมตามฉบับเรียงพิมพเกา ยังไมปรับปรุงหรือเพิมเติม
้ ่
- 6. ค
ค) งานเริ่มเขาทาง: ชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑
๑. ผานไป ๒๘ ป จึงถึงทีชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑
บัดนี้ เวลาผานไป ๒๘ ปแลว นับแตพิมพ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ออก
มาครั้งแรก ใน พ.ศ. ๒๕๒๒ ขอมูลสวนใหญในพจนานุกรมนั้น ยังเปนขอมูลพื้นฐานที่ตั้งใจวาจะ
ชําระ-เพิ่มเติม แตก็ขัดของตลอดมา
ในชวง ๒๔ ปแรก ติดขัดดวยระบบการพิมพไมเอือแลวความบีบคันดานเวลาก็ซาเขาไป สวน
้ ้ ้ํ
ในชวง ๔ ปทชดใกลนี้ ทังทีมขอมูลสะดวกใชอยูในคอมพิวเตอร ก็ตดขัดดวยขาดเวลาและโอกาส
ี่ ิ ้ ่ี ิ
จนมาถึงขึนปใหม ๒๕๕๐ นี้ เมือหาโอกาสปลีกตัวจากวัด พอดีโรคทางเดินหายใจกําเริบขึนอีก
้ ่ ้
คออักเสบลงไปถึงสายเสียง พูดยากลําบาก ตอดวยกลามเนือยึดสายเสียงอักเสบ โรคยืดเยือเกิน ๒ เดือน
้ ้
ไดไปพักรักษาตัวในชนบทนานหนอย เปนโอกาสใหไดเริมงานชําระ-เพิมเติมพจนานุกรม แตในขันนี้
่ ่ ้
เรงทําเฉพาะสวนรีบดวนและสวนทีพบเฉพาะหนาใหเสร็จไปชันหนึงกอน เรียกวา “งานชําระ-เพิม
่ ้ ่ ่
เติม ชวงที่ ๑” คิดวาลุลวงไปไดทหนึง ทีปดงานจัดใหพรอมจะเขาโรงพิมพไดทนกอนโรคจะหาย
ี ่ ่ ั
๒. อะไรมากับ และจะมาตาม การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑
งานชําระ-เพิ่มเติมนี้ คือการทําให พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท มีคุณสมบัติ
เต็มตามความมุงหมาย เพราะหนังสือที่พิมพเรื่อยมานั้น จัดทําขึ้นอยางรวบรัดเพื่อพอใชไปพลาง
กอน เพียงเปนขอมูลพื้นฐานอยางที่กลาวแลว (มีบางบางคําที่มีโอกาสขยายความไปกอนแลว)
เนื่องจากตระหนักวา จะไมมโอกาสทํางานชําระ-เพิ่มเติมอยางตอเนื่องใหเสร็จสิ้นไปในคราว
ี
เดียว จึงกะวาจะแบงงานนี้เปน ๓ ชวง คือ
การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑: แกไขปรับปรุงขอขาดตกบกพรองที่พบเฉพาะหนา โดยเฉพาะ
สวนหลงตาที่บังเอิญพบ และเพิ่มเติมคําศัพทและคําอธิบายที่รีบดวน หรือบังเอิญนึกได
การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๒: อาน-ตรวจตลอดเลม เพื่อจะไดมองเห็นจุดและแงที่จะแกไข-
ปรับปรุง-เพิ่มเติมทั่วทั้งหมด พรอมทั้งเพิ่มเติมคําศัพท ทั้งที่ตนเองเตรียมไวสําหรับงานคางยุคเกา
และบันทึกไวระหวางใชพจนานุกรมนี้ และทีทานผูใชไดมนาใจบันทึกคําซึงคนไมพบแลวรวบรวมสงมา
่ ี ้ํ ่
การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๓: มุงที่การจัดระบบ เพื่อใหสม่ําเสมอ กลมกลืน เปนแบบแผนอัน
เดียวกันและทั่วกัน เชน จะมีคําอาน บอกที่มาในคัมภีร มีที่มาหรือคําเดิมในภาษาบาลีและสันสกฤต
และถาเปนไปได บอกคําแปลภาษาอังกฤษของศัพทตงหรือหัวศัพท พรอมทังแผนทีและภาพประกอบ
ั้ ้ ่
อยางไรก็ดี เมือตกลงยุตงานชวงที่ ๑ วาพอเทานีกอน (๑๖ มี.ค. ๒๕๕๐) พอดีไดอานจดหมาย
่ ิ ้
ของพระมหานิยม สีลสํวโร (เสนารินทร) ที่สงมาตั้งแต ๑๘ พ.ย. ๒๕๔๗ ก็มองเห็นวา ทานแจงคํา
ผิด-ตก ที่สําคัญ แมจะมากแหง ก็ใชเวลาแกไขไมมาก จึงทําใหเสร็จไปดวยในคราวนี้ รวมเพิ่มที่แก
ไขอีกราว ๕๐ แหง อีกทั้งไดเห็นชัดวา ดวยฉันทะของทานเอง พระมหานิยมตรวจพจนานุกรม โดย
เทียบกับเลมเดิมที่เปนตนฉบับไปดวยนี้ ทานใชเวลาอานจริงจังละเอียด จนทําใหคิดวา ในการ
ชําระ-เพิ่มเติมชวงที่ ๒ ที่จะอานแบบตรวจปรูฟตลอดดวยนั้น งานสวนนี้คงเบาลงมาก จะไดมุงไป
- 7. ง
ที่งานเพิ่มเติม-ปรับปรุงทัวไป จึงขออนุโมทนาพระมหานิยม สีลสํวโร ไว ณ ทีน้ี
่ ่
พอจะปดงาน หันมาดูรายการศัพท ๒๘ คํา ทีพระธรรมรักษาแจงมาแต ก.ค.๒๕๒๙ วาไมพบ
่
ในพจนานุกรมฯ เปนศัพทในอรรถกถาชาดกแทบทังนัน เห็นวานาจะทําใหเสร็จไปดวยเลย จึงตัดคํา
้ ้
นอกขอบเขตออกไป ๖ แลวแถมเองอีกราว ๒๐ ใชเวลาคน-เขียนจนเสร็จอีก ๔ วัน (ของพระมหานิยม
ราว ๕๐ ศัพท ทานตรวจใชเวลามากมาย แตเพียงแกคาผิด-ตก ๖.๔๐ ชม. ก็เสร็จ สวนของพระธรรม-
ํ
รักษา แจงทีไมเจอ แมนอยคํา แตตองเขียนเพิมใหม จึงใชเวลามาก) ขออนุโมทนาพระธรรมรักษาดวย
่ ่
๓. การชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ ทําใหมีความเปลี่ยนแปลงอะไร
การชําระ-เพิ่มเติมชวงที่ ๑ นี้ ไดทําให พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท มีศัพท
ตั้งที่เพิ่มขึ้นและที่มีความเปลี่ยนแปลงราว ๓๑๗ หัวศัพท (ไมนับการแกคําผิด-ตก ที่พระมหานิพนธ
ชวยแจงมา อีกราว ๕๐ แหง)
หัวศัพท ที่มีก ารปรับ แก และที่เ พิ่ม ใหม มี ตัวอยา ง ดังนี้
กัป, กัลป กิริยา กิเลสพันหา คงคา คณาจารย เครื่องราง
ชุมนุมเทวดา ตัณหา ๑๐๘ ทักขิณาบถ ทีฆนขสูตร ธรรมราชา ธัญชาติ
นัมมทา บริขาร บุพการ บุพนิมตแหงมรรค
ิ ปกตัตตะ ปปญจะ
ปริตร, ปริตต ปญญา ๓ พรหมจรรย มหานที ๕ มหายาน มาตรา
มานะ ยถากรรม ยมุนา โยนก โวการ (เชน จตุโวการ)
สมานฉันท
สรภู สังคายนา สัจกิริยา สัจจาธิฏฐาน สีหนาท สุตะ
หีนยาน อจิรวดี อธิษฐาน อธิษฐานธรรม อภิสมพุทธคาถา
ั อโศกมหาราช
อาภัพ อายุ อายุสังขาร อาสภิวาจา อุตราบถ อุทยาน
การชําระ-เพิ่มเติมนี้ ทําให พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท มีลักษณะคืบเคลื่อน
เขาไปใกลงานคางที่ ๓ ซึ่งไดหยุดลงเมื่อใกลสิ้นป ๒๕๒๑ เชน คํา “กัป, กัลป” ในการพิมพครั้ง
ที่ ๑๐ พ.ศ. ๒๕๔๖ มีคําอธิบาย ๑๒ บรรทัด แตในฉบับชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ นี้ ขยายเปน
๑๑๓ บรรทัด เมื่อนําไปเทียบกับฉบับงานคางที่ ๓ นั้น (ในการเขียนขยายคราวนี้ ไมไดหันไปดู
งานคางนั้นเลย) ปรากฏวา คําอธิบายในฉบับชําระ-เพิ่มเติม ชวงที่ ๑ นี้ ยังสั้นกวาเกาเกือบครึ่งหนึ่ง
ถาตองการมองใหชัดวางานชําระ-เพิ่มเติมมีลักษณะอยางไร จะดูไดงายที่คําตัวอยางขางบน
นั้น เฉพาะอยางยิ่งคําวา กัป, กัลป; กิเลสพันหา; เครื่องราง; ชาดก; ทักขิณาบถ; นัมมทา; บริขาร;
ปริตร, ปริตต; มานะ; ยถากรรม; สัจกิรยา; อธิษฐาน; อายุ
ิ
บัดนี้ งานชําระ-เพิมเติม ชวงที่ ๑ ไดเสร็จสิ้นแลว โดยกําหนดเอาเองวาเพียงเทานี้ แตงาน
่
ชําระ-เพิมเติม ชวงที่ ๒ และ ๓ ซึ่งรอขางหนา มีมากกวา และไมอาจกําหนดวาจะเสร็จเมื่อใด หาก
่
ไมนิราศ-ไมไดโอกาสจากโรค ก็กลาวไดเพียงวา อยูในความตั้งใจที่จะทําตอไป
พระพรหมคุณาภรณ (ป. อ. ปยุตฺโต)
๑๗ มีนาคม ๒๕๕๐
- 8. คําปรารภ
(ในการพิมพครั้งที่ ๑๐)
เมื่อกลาวถึง พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท หลายทานนึกถึง พจนานุกรมพุทธศาสตร
ฉบับประมวลธรรม ดวย โดยเขาใจวาเปนหนังสือชุดที่มีสองเลมรวมกัน แตแทจริงเปนหนังสือที่เกิดขึ้นตาง
หากกัน ตางคราวตางวาระ และมีความเปนมาที่ทั้งตางหากจากกัน และตางแบบตางลักษณะกัน
ก. ความเปนมา ชวงที่ ๑: งานสําเร็จ แตขยายไมได
พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม เปนหนังสือที่คอยๆ กอตัวขึ้นทีละนอย เริ่มจากหนังสือ
Student’s Thai–Pali–English Dictionary of Buddhist Terms เลมเล็กๆ ที่จัดทําเสร็จใน พ.ศ. ๒๕๐๖
ตอแตนั้นก็ไดปรับปรุง–เพิ่มเติม–ขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ และไดขยายขอบเขตออกไปจนกลายเปนงานที่มี
ลักษณะเปนสารานุกรม
เมื่อเวลาผานไปๆ ก็มองเห็นวางานทําสารานุกรมจะกินเวลายืดเยื้อยาวนานมาก ยิ่งมีงานอื่นแทรกเขา
มาบอยๆ ก็ยิ่งยากที่จะมองเห็นความจบสิ้น ในที่สุดจึงตกลงวาควรทําพจนานุกรมขนาดยอมๆ ขั้นพื้นฐาน
ออกมากอน และไดรวบรวมคัดเลือกหมวดธรรมมาจัดทําคําอธิบายขึ้น ซึ่งไดบรรจบรวมกับหนังสือเลมเล็ก
เดิมที่สืบมาแต พ.ศ. ๒๕๐๖ กลายเปนภาคหนึ่งๆ ใน ๓ ภาคของหนังสือที่รวมเปนเลมเดียวกันอันมีชื่อวา
พจนานุกรมพุทธศาสตร เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๕
กาลลวงมาจนถึง พ.ศ. ๒๕๒๘ พจนานุกรมพุทธศาสตร ซึ่งพิมพครั้งที่ ๔ จึงมีชื่อปจจุบันวา
พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม เพื่อใหเขาคูกับพจนานุกรมอีกเลมหนึ่งที่เปลี่ยนจากชื่อเดิมมา
เปน พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท
ถึงวาระนี้ พจนานุกรมสองเลมนี้จึงเสมือนเปนหนังสือที่รวมกันเปนชุดอันเดียว
พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ที่วานั้น เปนหนังสือที่เกิดขึ้นแบบทั้งเลมฉับพลันทันที
โดยแทรกตัวเขามาใน พ.ศ. ๒๕๒๒ ระหวางที่งานทําพจนานุกรมซึ่งขยายขอบเขตออกไปจนจะเปนสารานุกรม
นั้น กําลังดําเนินอยู
เนื่อ งจากผูรวบรวมเรียบเรียงเห็ นวา งานทําสารานุก รม คงจะกินเวลายืดเยื้อไปอีกนาน และ
พจนานุกรมพุทธศาสตร ทีทาเสร็จไปแลว ก็มเี ฉพาะดานหลักธรรมซึงจัดเรียงตามลําดับหมวดธรรม ควรจะมี
่ํ ่
พจนานุกรมเลมเล็กๆ งายๆ วาดวยพระพุทธศาสนาทั่วๆ ไป แบบเรียงตามลําดับอักษร ทีพอใชประโยชนพนๆ
่ ื้
สําหรับผูเ ลาเรียนในขันตน โดยเฉพาะนักเรียนนักธรรม ออกมากอน
้
พรอมนั้นก็พอดีประจวบเหตุผลอีกอยางหนึ่งมาหนุน คือ ไดเห็นหนังสือ ศัพทหลักสูตรภาษาไทย
สําหรับนักธรรม ชันตรี ชันโท และชันเอก ที่มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยจัดพิมพออกมาใน พ.ศ. ๒๕๐๓
้ ้ ้
เหลืออยูจํานวนมากมาย และดูเหมือนวาไมมีใครเอาใจใส
หนังสือ ศัพทหลักสูตรภาษาไทย ชุดนั้น ทาง มจร. จัดพิมพขึ้นมาเพื่อสนองความตองการของ
นักเรียนนักธรรมที่จะตองสอบวิชาใหมซึ่งเพิ่มเขามาในหลักสูตร คือวิชาภาษาไทย แตแทบจะยังไมทันไดเผย
แพรออกไป วิชาภาษาไทยนั้นก็ไดถูกยกเลิกเสีย หนังสือชุดนั้นจึงถูกทอดทิ้ง
ไดมองเห็นวา หนังสือ ศัพทหลักสูตรภาษาไทย นัน ไมควรจะถูกทิงไปเสียเปลา ถานํามาจัดเรียงใหมในรูป
้ ้
พจนานุกรม ก็จะใชประโยชนได อยางนอยศัพทตงหรือหัวศัพททมอยูกจะทุนแรงทุนเวลาในการเก็บศัพทเปนอันมาก
ั้ ี่ ี ็
- 9. ฉ
โดยนัยนี้ ก็ไดนาหนังสือ ศัพทหลักสูตรภาษาไทย ชุดนันทัง ๙ ภาค (ศัพทสาหรับนักธรรมตรี–โท–เอก
ํ ้ ้ ํ
ชั้นละ ๓ วิชา จึงมีช้นละ ๓ ภาค พิมพรวมเปนชั้นละเลม) มาจัดเรียบเรียงเปนพจนานุกรมเลมเดียว ดังไดเลา
ั
ไวแลวใน “แถลงการจัดทําหนังสือ ประกาศพระคุณ ขอบคุณ และอนุโมทนา (ในการพิมพครั้งที่ ๑)”
ศัพทจํานวนมากทีเดียว ที่งายๆ พื้นๆ และตองการเพียงความหมายสั้นๆ หรือคําอธิบายเพียงเล็ก
นอย ไดคงไวตามเดิมบาง แกไขปรับปรุงบาง สวนศัพทที่ตองการคําอธิบายยาวๆ ก็เขียนขยาย และศัพท
สําหรับการเรียนนักธรรมที่ตกหลนหรือศัพททั่วไปอันควรรูที่ยงไมมี ก็เติมเขามา รวมเปนของเกากับของใหม
ั
ประมาณครึ่งตอครึ่ง จึงเกิดเปนพจนานุกรม ซึงในการพิมพครังแรก พ.ศ. ๒๕๒๒ เรียกชือวา พจนานุกรม
่ ้ ่
พุทธศาสน ฉบับครู นักเรียน นักธรรม
ตอมา ในการพิมพครั้งที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๒๗ พจนานุกรมเลมนั้นไดเปลี่ยนมีชื่ออยางปจจุบันวา
พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท คือหนังสือเลมนี้
เมื่อมีการเผยแพรมากขึ้น ผูขออนุญาตพิมพบางแหงจึงไดนําพจนานุกรมทั้งสองเลมนี้มาจัดรวมกัน
เปนชุด และลาสุดบางทีถึงกับทํากลองใสรวมกัน
แมจะมีประวัติแหงการเกิดขึ้นตางหากกัน แตพจนานุกรมสองเลมนี้ก็มีลกษณะที่เหมือนกันอยางหนึ่ง
ั
คือเปนงานในชวงระหวางที่งานทําพจนานุกรมซึ่งตอเนื่องมาแตเดิมและขยายออกไปจนกลายเปนสารานุกรม
แสดงอาการวาจะเปนเรื่องยืดเยื้อตองรออีกยาวนาน
หลังจากการพิมพลงตัวแลว พจนานุกรมสองเลมนี้ก็มีชะตากรรมอยางเดียวกัน คือขึ้นตอระบบการทํา
ตนแบบและการพิมพยุคกอนนั้น ซึ่งตนแบบอยูในแผนกระดาษที่ตายตัว แกไขและขยับขยายไดยาก ยิ่งเปน
หนังสือขนาดหนาและมีรูปแบบซับซอน ก็แทบปรับเปลี่ยนอะไรไมไดเลย
ดวยเหตุนี้ การพิมพพจนานุกรมสองเลมนั้นในครั้งตอๆ มา จึงตองพิมพซําตามตนแบบเดิม ถาจํา
้
เปนจริงๆ ที่จะตองแกไข ก็แกไดเพียง ๔–๕ บรรทัด ยิ่งเมื่อเวลาผานมานานขึ้น แผนกระดาษตนแบบทั้งหมด
ก็ผุเปอยหรือสูญหายไป (ตนแบบของ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ซึ่งทําขึ้นใหมในการพิมพ
ครั้งที่ ๒ ไดสูญหายไปตั้งแตเมื่อการพิมพครั้งที่ ๒ นั้นเสร็จสิ้นลง) ทําใหการพิมพตอจากนั้นตองใชวิธีถาย
ภาพจากหนังสือที่พิมพครั้งกอนๆ ซึ่งจะไดตัวหนังสือที่เลือนลางลงไปเรื่อยๆ ไดแตรอเวลาที่จะพิมพทําตน
แบบขึ้นใหม โดยจะถือโอกาสเพิ่มเติมดวยพรอมกัน
อยางไรก็ตาม เนื่องจาก พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท นี้ มีศัพทและคําอธิบายที่จะเพิ่ม
มากมาย เมื่อแกไขตนแบบเดิมไมได ก็จึงใสสวนเพิ่มเขามาตางหากตอทายเลมในการพิมพครั้งที่ ๓ พ.ศ.
๒๕๒๘ โดยทําเปน “ภาคผนวก” (มีศัพทต้งหรือหัวศัพทเพิ่ม ๑๒๔ ศัพท รวม ๒๔ หนา ขยายขนาดเลม
ั
หนังสือเฉพาะตัวพจนานุกรมแทๆ ขึ้นเปน ๔๖๖ หนา) ตอแตนั้นมา ก็พิมพซ้ําอยางที่กลาวขางตน
ข. ความเปนมา ชวงที่ ๒: เขายุคใหม มีฐานที่จะกาวตอ
ระหวางรอเวลาที่จะพิมพทําตนแบบใหม พรอมกับเขียนเพิ่มเติม ซึ่งมองไมเห็นวาจะมีโอกาสทําไดเมื่อ
ใด กาลก็ลวงมา จนถึงยุคคอมพิวเตอร
ระบบคอมพิวเตอรไดชวยใหการพิมพเจริญกาวหนาอยางมหัศจรรย ซึ่งแกปญหาสําคัญในการทํา
พจนานุกรมไดทงหมด โดยเฉพาะ
ั้
• การพิมพขอมูลใหมทําไดอยางดีและคลองสะดวก
• รักษาขอมูลใหมนั้นไวไดสมบูรณและยืนนาน โดยมีคุณภาพคงเดิม หรือจะปรับใหดียิ่งขึ้นก็ได
- 10. ช
• ขอมูลใหมที่เก็บไวนั้น จะแกไข–ปรับปรุง–เพิ่มเติม ที่จุดไหนสวนใด อยางไร และเมื่อใด ก็ไดตาม
ปรารถนา
ถึงตอนนี้ ก็เห็นทางที่จะทําใหงานทําพจนานุกรมกาวตอไป แตกตองรอขั้นตอนสําคัญ คือจุดตั้งตน
็
ครั้งใหม ไดแกการพิมพขอมูลพจนานุกรมทั้งหมดในเลมหนังสือลงในคอมพิวเตอร ซึ่งตองใชเวลาและแรง
งานมากทีเดียว
ถามีขอมูลที่พิมพลงในคอมพิวเตอรไวพรอมแลว ถึงจะยังไมมีเวลาที่จะแกไข–ปรับปรุง–เพิ่มเติม ก็
อุนใจได เพราะสามารถเก็บรอไว มีโอกาสเมื่อใด ก็ทาไดเมื่อนั้น แตตองเริ่มขั้นเตรียมขอมูลนั้นใหไดกอน
ํ
ขณะที่ผูรวบรวมเรียบเรียงเองพิมพดีดไมเปน กับทั้งมีงานอื่นพันตัวนุงนัง ไมไดดําเนินการอันใดใน
เรื่องนี้ ก็ไดมีทานที่มีใจรักและทานที่มองเห็นประโยชน ไดพิมพขอมูล พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวล
ศัพท ทั้งหมดของเลมหนังสือลงในคอมพิวเตอร ดวยความสมัครใจของตนเอง โดยมิไดนัดหมาย เทาที่ทราบ/
เทาที่พบ ๔ ราย เปน ๔ ชุด คือ
๑. พระมหาเจิม สุวโจ แหงสถาบันวิจัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ไดเริ่มจัดทํางานนี้ตั้งแตระยะ
ตนๆ ของยุคแหงการพิมพดวยระบบคอมพิวเตอร ซึ่งทั้งอุปกรณและบุคลากรดานนี้ยังไมพรั่งพรอม ใชเวลา
หลายป จนในที่สุด ไดมอบขอมูลที่เตรียมเสร็จแลวแกผูรวบรวมเรียบเรียง เมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๔๑
ขอมูลทีพระมหาเจิม สุวโจ เตรียมไวนี้ ไดจดวางรูปแบบเสร็จแลว รอเพียงงานขันทีจะสงเขาโรงพิมพ
่ ั ้ ่
รวมทังการตรวจครังสุดทาย นับวาพรอมพอสมควร แตผรวบรวมเรียบเรียงก็ไมมเี วลาตรวจ เวลาก็ผานมาเรือยๆ
้ ้ ู ่
๒. รศ. ดร.สมศีล ฌานวังศะ ราชบัณฑิต ไดเตรียมขอมูลพจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท
(พรอมทั้งพจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม) โดยบุตรหญิง–ชาย คือน.ส.ภาวนา ตั้งแตยังเปน
ด.ญ.ภาวนา ฌานวังศะ และนองชาย คือ นายปญญา ตั้งแตยงเปนด.ช.ปญญา ฌานวังศะ ไดชวยกันแบงเบา
ั
ภาระดวยการพิมพขอมูลทังหมดของเลมหนังสือลงในคอมพิวเตอร ภายใตการดูแลของ ดร.สมศีล ฌานวังศะ
้
ซึ่งเปนผูตรวจความเรียบรอยและจัดรูปแบบขอมูลนั้นตามเลมหนังสืออีกทีหนึ่ง
๓. พระไตรปฎก (ในแผน CD – ระบบคอมพิวเตอร) ฉบับสมาคมศิษยเกา มหาจุฬาลงกรณราช-
วิทยาลัย ซึ่งเสร็จออกเผยแพรในชวงตนของ พ.ศ. ๒๕๔๓ ไดขอบรรจุ พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับ
ประมวลธรรม และ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ไวในโปรแกรมดวย ผูจัดทําจึงไดพิมพขอมูล
ทั้งหมดของหนังสือทั้งสองเลมนั้นลงในคอมพิวเตอร แตเนื่องจากเปนขอมูลสําหรับโปรแกรมคอมพิวเตอร จึง
ไมไดจัดรูปแบบเพื่อการตีพิมพอยางเลมหนังสือ
๔. พจนานุกรมพุทธศาสน (ในแผน CD – ระบบคอมพิวเตอร) รุน ๑.๕ (ในโปรแกรมวา พจนานุกรม
พุทธศาสตร Version <1.2>) พ.ศ. ๒๕๔๔ จัดทําโดยคณะวิศวกรรมศาสตรคอมพิวเตอร มหาวิทยาลัยรังสิต
ซึ่งก็ไมไดจัดรูปแบบเพื่อการตีพิมพอยางเลมหนังสือ เพราะเปนขอมูลสําหรับโปรแกรมคอมพิวเตอร
ขอมูลทัง ๔ ชุดนี้ ผูจดทําชุดนันๆ ไดนาศัพทตงและคําอธิบายทังหมดใน “ภาคผนวก” รวม ๒๔ หนา
้ ั ้ ํ ั้ ้
๑๒๔ ศัพท ของฉบับเรียงพิมพระบบเกา มาแทรกเขาในเนือหาหลักของเลมตามลําดับอักษรเสร็จเรียบรอยดวย
้
เมื่อมีชุดขอมูลใหเลือก ก็แนนอนวาจะตองพิจารณาเฉพาะชุดที่จัดรูปแบบไวแลวเพื่อการตีพิมพอยาง
เลมหนังสือ คือชุดที่ ๑ และชุดที่ ๒
แตทั้งที่มีขอมูลนั้นแลว เวลาก็ผานไปๆ โดยผูรวบรวมเรียบเรียงมิไดดําเนินการใดๆ เพราะวาแมจะมี
ขอมูลครบทั้งหมดแลว แตก็ยังมีงานสุดทายในขั้นสงโรงพิมพ โดยเฉพาะการพิสจนอักษร (ตรวจปรูฟ) ตลอด
ู
เลมอีกครั้ง ซึ่งควรเปนภาระของผูรวบรวมเรียบเรียงเอง
- 11. ซ
ถาจะใหผูรวบรวมเรียบเรียงพิสูจนอักษรเองอยางแตกอน การพิมพคงตองรออีกแรมป หรืออาจจะ
หลายป (ยิงมาบัดนี้ เมือตาทังสองเปนโรคตอหินเขาอีก ก็แทบหมดโอกาส) คงตองปลอยใหพิมพครั้งใหมดวยการ
่ ่ ้
ถายภาพจากหนังสือที่พิมพครั้งกอนตอไปอีก
ค. ความเปนมา ชวงที่ ๓: พิมพครั้งใหม ในระบบใหม
การพิมพในระบบใหมคืบหนา เมื่อ ดร.สมศีล ฌานวังศะ ชวยรับภาระขั้นสุดทายในการจัดทําตนแบบ
ใหพรอมที่จะนําเขารับการตีพิมพในโรงพิมพ
ในงานขันสุดทายนี้ สําหรับ พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับประมวลธรรม ซึงจัดเรียงใหมดวยระบบ
้ ่
คอมพิวเตอร และพิมพเปนเลมหนังสือไปแลวเปนครั้งแรก เมื่อกลางป พ.ศ. ๒๕๔๕ นั้นผูรวบรวมเรียบเรียง
ไดอานตนแบบสุดทายกอนยุติ แตเมื่อมาถึง พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ก็เปนเวลาทีผรวบรวม
่ ู
เรียบเรียงประสบปญหาจากโรคตามากแลว รวมทังโรคตอหิน จึงยกภาระในการตรวจปรูฟอานตนแบบแมแต
้
ครั้งยุติให ดร.สมศีล ฌานวังศะ รับดําเนินการทั้งหมด เพียงแตเมือมีขอผิดแปลกนาสงสัยทีใด ก็ไถถามปรึกษา
่ ่
เปนแตละแหงๆ ไป
พอดีวา ผูรับภาระนอกจากมีความละเอียดและทํางานนี้ดวยใจรักแลว ยังเปนผูศึกษาวิจัยเรื่อง
พจนานุกรมเปนพิเศษอีกดวย ยิ่งเมื่อไดคอมพิวเตอรมาเปนเครื่องมือ ก็ยิ่งชวยใหการจัดเรียงพิมพตนแบบ
สามารถดําเนินมาจนหนังสือเสร็จเปนเลมในรูปลักษณที่ปรากฏอยูนี้
พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท พิมพครั้งที่ ๑๐ ซึ่งเปนครั้งแรกที่ใชขอมูลอันไดเตรียมขึ้น
ใหมดวยระบบการพิมพแบบคอมพิวเตอรนี้ โดยหลักการ ไดตกลงวาใหคงเนื้อหาไวอยางเดิมตามฉบับเรียง
พิมพระบบเกา ยังไมปรับปรุงหรือเพิมเติม เนืองจากผูรวบรวมเรียบเรียงยังไมมีเวลาที่จะดําเนินการกับคํา
่ ่
ศัพทมากมายอันควรเพิมและสิงทีควรแกไขปรับปรุงตางๆ ทีบนทึกไวระหวางเวลาทีผานมา และจะรอก็ไมมี
่ ่ ่ ่ั ่
กําหนด (จุดเนนหลักอยูที่การไดฐานขอมูลในระบบคอมพิวเตอร ซึ่งทําใหพรอมและสะดวกที่จะปรับปรุงเพิ่ม
เติมตอไป)
ทังนี้ มีขอยกเวน คือ
้
๑. นําศัพทต้งและคําอธิบายทั้งหมดใน “ภาคผนวก” ของฉบับเรียงพิมพระบบเกา มาแทรกเขาไปใน
ั
เนื้อหาหลักของเลมตามลําดับอักษรของศัพทนั้นๆ (ขอนี้เปนการเปลี่ยนแปลงดานรูปแบบเทานั้น สวนเนื้อหา
ยังคงเดิม)
๒. เนื่องจากมีศัพทตั้ง ๘ คํา ที่ไดปรับปรุงคําอธิบายไวกอนแลว จึงนํามาใสรวมดวย พรอมทั้งถือ
โอกาสแกไขเนื้อความผิดพลาด ๒–๓ แหงที่ผูใชพจนานุกรมฉบับนี้ ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถบางทานไดแจง
เขามานับแตการพิมพครั้งกอนๆ ซึ่งขอขอบคุณ–อนุโมทนาไว ณ ที่นี้ดวย
๓. มีการปรับปรุงเพิ่มเติมปลีกยอยที่พบเห็นนึกไดแลวถือโอกาสทําไปดวยระหวางทํางานขั้นสุดทาย
ในการจัดทําตนแบบใหพรอมกอนจะสงเขารับการตีพิมพในโรงพิมพ กลาวคือ คําอธิบายเล็กนอยในบางแหง
ซึ่งเห็นวาควรจะและพอจะใหเสร็จไปไดในคราวนี้ เฉพาะอยางยิ่ง
• ไดปรับคําอธิบายคําวา ศิลปศาสตร และไดนาคําอธิบายการแบงชวงกาลในพุทธประวัติ คือชุด
ํ
ทูเรนิทาน–อวิทเู รนิทาน–สันติเกนิทาน ชุดปฐมโพธิกาล–มัชฌิมโพธิกาล–ปจฉิมโพธิกาล และชุดปุริมกาล–อปร
กาล มาปรับรวมกันไวที่ศัพทตั้งวา พุทธประวัติ อีกแหงหนึ่งดวย
- 12. ฌ
• ไดแยกความหมายยอยของศัพทตั้งบางคําออกจากกัน เพื่อใหเกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น (เชน คํา
วา พยัญชนะ)
• ไดตัดศัพทต้งบางคําที่เห็นวาไมจําเปนออก (เชน วงศกุล, เทวรูปนาคปรก)
ั
๔. เนื่องจากเดิมนั้น พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท นี้ จัดทําขึ้นโดยมุงเพื่อประโยชนของ
ผูเลาเรียนขั้นตน โดยเฉพาะนักธรรมตรี–โท–เอก ถอยคําใดมีในแบบเรียนนักธรรม ก็ไดรักษาการสะกดตัว
โดยคงไวอยางเดิมตามแบบเรียนเลมนั้นๆ เปนสวนมาก
แตในการพิมพตามระบบใหมครังนี้ เห็นวาควรจะคํานึงถึงคนทัวไป ไมจากัดเฉพาะนักธรรม จึงตกลง
้ ่ ํ
ปรับการสะกดตัวของบางศัพทใหเปนปจจุบน (เชน ปฤษณา แกเปน ปริศนา)
ั
พรอมนัน ตามทีพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ใหหลักไววา คําทีเ่ ปนศัพทธรรมบัญญัติ จะเขียน
้ ่
ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หรือเขียนเต็มรูปอยางเดิมก็ได และในพจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับ
ประมวลศัพท แตเดิมมาเขียนทั้งสองรูป เชน โลกุตตรธรรม–โลกุตรธรรม อริยสัจจ–อริยสัจ สวนในการพิมพ
ตามระบบใหมครังนี้ ถาคํานั้นอยูในขอความอธิบาย ไดปรับเขียนเปนรูปเดียวกันทั้งหมด เชน โลกุตตรธรรม
้
อริยสัจจ ทั้งนี้ เพื่อความสอดคลองกลมกลืนเปนอันเดียวกัน แตผูอานจะนําไปเขียนเองในรูปที่ประสงคก็ได
ตามคําชี้แจงตนเลม
๕. แตเดิมมาหนังสือนี้มุงเพื่อประโยชนแกผูมีความรูพื้นฐานทางธรรมอยูแลว โดยเฉพาะนักเรียน
นักธรรม ซึ่งถือวารูวิธีอานคําบาลีอยูแลว จึงไมไดนึกถึงการที่จะแสดงวิธีอานคําบาลีนั้นไว แตบัดนี้ไดตกลงที่
จะคํานึงถึงผูใชทั่วไป
ดังนัน ในการพิมพครังใหมดวยระบบใหมนี้ จึงไดแสดงวิธอานออกเสียงศัพทตงบางคําเพือเกือกูลแกผู
้ ้ ี ั้ ่ ้
ใชที่ยังไมคุนกับวิธีอานคําที่มาจากภาษาบาลีสันสกฤต เชน สมสีสี [สะ-มะ-สี-สี], โอมสวาท [โอ-มะ-สะ-วาด]
แตเนื่องจากยังเปนทํานองงานแถม จึงทําเทาที่นึกไดหรือพบเฉพาะหนา อาจมีคําศัพททํานองนี้อยูอีกหลายคํา
ที่ยังมิไดแสดงวิธีอานออกเสียงกํากับไว
อยางไรก็ตาม ในการพิมพใหมครังนี้ ไดแทรก “วิธอานคําบาลี” เพิมเขามาดวย เพือใหผใชทวไปทราบ
้ ี ่ ่ ู ั่
หลักพืนฐานทีพอจะนําไปใชเปนแนวทางในการอานไดดวยตนเอง โดย ดร.สมศีล ฌานวังศะ ชวยรับภาระเขียนมา
้ ่
งานขั้นสุดทายที่จะเขาโรงพิมพมีความละเอียด ซึ่งตองใชเวลาและเรี่ยวแรงกําลังมาก ประกอบกับผู
รับภาระมีงานอื่นที่ตองรับผิดชอบอีกหลายดาน นับจากเริ่มงานขั้นสุดทายนี้ จนตนแบบเสร็จเรียบรอยนําสง
โรงพิมพได ก็ใชเวลาไปหลายเดือน
ทั้งนี้เพราะวา งานขั้นสุดทายกอนรับการตีพิมพมิใชเพียงการตรวจความถูกตองของตัวอักษรเทานั้น
นอกจากอานปรูฟตลอดเลม ทวนแลวทวนอีกหลายเที่ยวแลว ไดถอโอกาสแหงการพิมพที่เปนการวางรูปแบบ
ื
ครั้งใหมและมีคอมพิวเตอรเปนอุปกรณน้ี ตรวจทานจัดการเกี่ยวกับความสอดคลองกลมกลืน–สม่ําเสมอ–
ครบถวน โดยเฉพาะในเรืองทีเ่ ปนระบบแบบแผน ใหลงตัวไวเทาที่จะทําได คือ
่
ก) ความสอดคลองกลมกลืน ทั่วๆ ไป ไมวาจะเปนเครื่องหมายวรรคตอน หรือการพิมพคํา–ขนาด
ตัวอักษร–รูปลักษณของตัวอักษร ทั้งคําทั่วไปและคําที่ใชในการอางอิงและอางโยง (เชน ดู เทียบ คูกับ ตรงขามกับ)
ไดพยายามตรวจและแกไขใหสม่ําเสมอกันทุกแหง
ข) ความถูกตองครบถวนทัวถึง อีกหลายอยาง ทียงอาจตกหลนหรือขามไปในการพิมพระบบเกา
่ ่ั
โดยเฉพาะการอางโยง ไดตรวจสอบเทาที่ทาได เชน ตรวจดูใหแนใจวาศัพทตั้งทุกคําที่เปนธรรมขอยอย ได
ํ
อางโยงถึงหมวดธรรมใหญที่ธรรมขอยอยนั้นแยกออกมา
- 13. ญ
ค) ระบบการอางโยง ระหวางศัพทตง ไดจดปรับใหสม่าเสมอชัดเจนและครบถวนยิงขึน เชน
้ั ั ํ ่ ้
• ไดสํารวจคําแสดงการอางโยงที่มีอยู ซึ่งยุติลงเปน ๔ คํา และนอกจากไดปรับขนาดและแบบตัว
อักษรของคําแสดงการอางโยงนั้นใหสม่ําเสมอกันทั่วทั้งหมด กลาวคือ ดู เทียบ คูกับ ตรงขามกับ แลว ยังได
พยายามวางขอยุติในการใชคําเหลานั้นดวยวาจะใชคําไหนในกรณีหรือในขอบเขตใด
ในการนี้ พึงทราบวา คําที่มักมาคูกัน และเปนคําตรงขามกันดวย ในพจนานุกรมนี้ ใชคําอางอิงวา
คูกับ หรือ ตรงขามกับ อยางใดอยางหนึ่ง โดยยังไมถือขอยุติเด็ดขาดลงไป เชนโลกียธรรม คูกับ โลกุตตรธรรม,
สังขตธรรม ตรงขามกับ อสังขตธรรม
• ใชการอางโยง แทนคําอธิบายบางตอนที่ซ้ําซอนเกินจําเปน หรือชวยใหปรับเปลี่ยนคําอธิบายบาง
แหงใหสั้นลง (เชน ตัดคําอธิบายที่ เบญจศีล ออก เนื่องจากซ้ํากับ ศีล ๕ แลวใชการอางโยงแทน)
นอกจากนั้น ยังมีงานแทรกซอนบางอยางที่ใชเวลาเพิ่มขึ้นอีกมากทีเดียวนอกเหนือความคาด
หมาย เชน ทุกครั้งที่มีการแกไขขอมูล ซึ่งทําใหขอความและถอยคําขยับขยายเลือนที่ ตองตรวจดูความถูกตอง
่
เหมาะสมในการตัดแยกคําทายบรรทัด โดยเฉพาะคําศัพทบาลีสนสกฤต เชน ปาฏิโมกข และคําประสม เชน
ั
พระเจา นมสม ถา โมกข เจา หรือ สม เลื่อนแยกออกไปอยูตางบรรทัด ซึงทําใหผดหลักอักขรวิธการเขียนคํา
่ ิ ี
บาลีสนสกฤต หรืออาจชวนใหอานเขาใจผิดในกรณีคําประสม ก็ตองพยายามแกไขใหมาอยูในบรรทัดเดียวกัน
ั
ครบทั้งคํา หรือใชวิธีใสเครื่องหมาย - (ยติภังค) หากเปนคําบาลีสันสกฤตที่พอจะเอื้อใหตัดแยกได เชน กุศล-
ธรรม (ดังในตัวอยางนี้) และการแกไขนี้มกจะสงผลกระทบตอคําอื่นอยูเนืองๆ ทําใหตองตรวจดูใหทั่วซ้ําอีก
ั
อนึ่ง การแกไขดังกลาว ยังสงผลกระทบตอทอดไปถึงการจัดหนาหนังสือโดยรวม ซึ่งพลอยขยับ
เขยื้อนเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากการตัด เพิ่ม หรือเปลี่ยนแปลงขอความนั้น อันจะตองตรวจดูและจัดปรับให
ถูกตองลงตัวดวยทุกครั้งเชนเดียวกัน
การที่งานพิมพ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท กาวมาจนถึงขันสําเร็จเสร็จสินในบัดนี้ จึง
้ ้
หมายถึงการบําเพ็ญอิทธิบาททัง ๔ ของ ดร.สมศีล ฌานวังศะ และบุตรหญิง–บุตรชาย คือ น.ส.ภาวนา ฌานวังศะ
้
และ นายปญญา ฌานวังศะ ซึ่งขออนุโมทนาไว ณ ที่นี้ เปนอยางยิ่ง
พรอมนี้ ขอขอบคุณพระมหาเจิม สุวโจ แหงมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ทีไดอตสาหะ ่ ุ
วิรยะเตรียมฐานขอมูลคอมพิวเตอรชดแรกของ พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท และมอบใหไว แมจะ
ิ ุ
เปนชุดที่มิไดนํามาใชในการพิมพครั้งนี้ ก็ถือวาพระมหาเจิม สุวโจ ไดมีสวนรวมในงานนี้ดวย
อนึง ระหวางทีแกไขทวนทานเพือเตรียมตนแบบสําหรับสงโรงพิมพนี้ พระครูปลัดปฎกวัฒน (อินศร
่ ่ ่
จินตาปฺโ) และพระภิกษุหลายรูปในวัดญาณเวศกวัน ไดอานปรูฟอีกเที่ยวหนึ่ง ชวยใหการพิสูจนอักษรถูก
ฺ
ตองเรียบรอยยิ่งขึ้น จึงขอขอบคุณพระครูปลัดปฎกวัฒนและพระภิกษุทุกรูปที่ชวยงาน ในโอกาสนี้ กระนั้น
ก็ตาม ก็คงยังมีขอผิดพลาดหลงเหลืออยูบาง หากผูใชทานใดไดพบ ก็ขอไดโปรดแจงใหทราบดวย เพื่อชวยให
การพิมพครั้งตอๆ ไปมีความสมบูรณยิ่งขึ้น
หวังวา พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ทีพมพดวยระบบใหมครังนี้ จะเปนอุปกรณอนเกือกูล
่ ิ ้ ั ้
ตอการศึกษา ทีสาเร็จประโยชนไดดยงขึน และเปนปจจัยหนุนใหเกิดธรรมไพบูลย เพื่อประโยชนสขแกพหูชน
่ํ ี ิ่ ้ ุ
ยั่งยืนนานสืบไป
พระธรรมปฎก (ป. อ. ปยุตฺโต)
๒๓ กันยายน ๒๕๔๖
- 14. บันทึกของผูเรียบเรียง
(ในการพิมพครั้งที่ ๒ – พ.ศ. ๒๕๒๗)
๑. หนังสือนีพมพครังแรกเมือ พ.ศ. ๒๕๒๒ ในงานพระราชทานเพลิงศพ พระครูปลัดสมัยกิตตทตฺโต
้ ิ ้ ่ ฺิ
เจาอาวาสวัดพระพิเรนทร มีชื่อวา พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับครู นักเรียน นักธรรม แตในการพิมพครั้งที่ ๒
นี้ ไดเปลี่ยนชื่อใหมวา พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท ทั้งนี้เพราะชื่อเดิมยาวเกินไป เรียกยาก
การที่มีคําสรอยทายชื่อวา ฉบับประมวลศัพท ก็เพื่อปองกันความสับสน โดยทําใหตางออกไปจาก
พจนานุกรมพุทธศาสตร ของผูเรียบเรียงเดียวกัน ซึ่งมีอยูกอน
พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท เปนพจนานุกรมซึ่งรวบรวมและอธิบายคําศัพททั่วไปทุก
ประเภทที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เชน หลักธรรม พระวินัย พิธีกรรม ประวัติบุคคลสําคัญ ตํานาน และ
วรรณคดีที่สําคัญ เปนตน ตางจาก พจนานุกรมพุทธศาสตร (จะขยายชื่อเปน พจนานุกรมพุทธศาสตร ฉบับ
ประมวลธรรม) ที่มุงรวบรวมและอธิบายเฉพาะแตหลักธรรมซึ่งเปนสาระสําคัญของพระพุทธศาสนา
๒. ศัพทที่รวบรวมมาอธิบายในหนังสือนี้ แยกไดเปน ๓ ประเภทใหญๆ คือ
๑) พุทธศาสนประวัติ มีพุทธประวัติเปนแกน รวมถึงสาวกประวัติ ประวัตบคคล สถานที่ และเหตุ
ิุ
การณสําคัญในพระพุทธศาสนา ตลอดจนตํานาน และเรื่องราวที่มาในวรรณคดีตางๆ เฉพาะที่คนทั่วไปควรรู
๒) ธรรม คือหลักคําสอน ทั้งที่มาในพระไตรปฎก และในคัมภีรรนหลังมีอรรถกถาเปนตน รวมไว
ุ
เฉพาะที่ศึกษาเลาเรียนกันตามปกติ และเพิ่มบางหลักที่นาสนใจเปนพิเศษ
๓) วินย หมายถึง พุทธบัญญัตทกากับความประพฤติและความเปนอยูของพระสงฆ และในทีนใหมี
ั ิ ี่ ํ ่ ี้
ความหมายครอบคลุมถึง ขนบธรรมเนียมประเพณี พิธกรรมบางอยางทีไดเปนเครืองยึดเหนียวคุมประสานสังคม
ี ่ ่ ่
ของชาวพุทธไทยสืบตอกันมา
นอกจากนีมศพทเบ็ดเตล็ด เชน คํากวีซงผูกขึนโดยมุงความไพเราะ และคําไทยบางคําทีไมคนแต
้ีั ึ่ ้ ่ ุ
ปรากฏในแบบเรียนพระปริยตธรรม ซึงภิกษุสามเณรจําเปนจะตองรูความหมาย เปนตน
ัิ ่
๓. หนังสือนี้รวมอยูในโครงการสวนตัว ที่จะขยายปรับปรุงกอนการจัดพิมพครั้งที่ ๒ และไดเพิ่มเติม
ปรับปรุงไปบางแลวบางสวน แตตามทีตงใจไวกะวาจะปรับปรุงจริงจังและจัดพิมพภายหลัง พจนานุกรมพุทธศาสตร
่ ั้
(ฉบับประมวลธรรม) ครั้น ดร.สุจินต ทังสุบุตร ติดตอขอพิมพเปนธรรมทานในงานพระราชทานเพลิงศพบิดา
ผูเ ปนบุรพการี จึงเปนเหตุใหการพิมพเปลียนลําดับ กลายเปนวาหนังสือนีจะสําเร็จกอน โดยเบืองแรกตกลงวาจะ
่ ้ ้
พิมพไปตามฉบับเดิมทีสวนใหญยงไมไดปรับปรุง แตปญหาขอยุงยากติดขัดทีทาใหการพิมพลาชา ไดกลายเปน
่ ั ่ํ
เครื่องชวยใหไดโอกาสรีบเรงระดมงานแทรกเพิ่ม ปรับปรุงแขงกันไปกับงานแกไขปญหา จนหนังสือนี้มีเนื้อหา
เกือบจะครบถวนสมบูรณตามความมุงหมาย นับวาเจาภาพงานนี้ไดมีอุปการะมากตอความสําเร็จของงาน
ปรับปรุงหนังสือและตอการชวยใหงานเสร็จสิ้นโดยเร็วไมยืดเยื้อตอไป
อยางไรก็ดี มีผลสืบเนืองบางอยางทีควรทราบไวดวย เพือใหรจกหนังสือนีชดเจนยิงขึน เชน
่ ่ ่ ู ั ้ั ่ ้
ก) ในโครงการปรับปรุงเดิม มีขอพิจารณาอยางหนึงวา จะรวมศัพททแปลกในหนังสือ ปฐมสมโพธิกถา และ
่ ี่
ใน มหาเวสสันดรชาดก เขาดวยหรือไม การพิมพทเี่ รงดวนครังนีไดชวยตัดสินขอพิจารณานั้นใหยุติลงไดทันที
้ ้
คือเปนอันตองตัดออกไปกอน แตการไมรวมศัพทในวรรณคดี ๒ เรื่องนั้นเขามาก็ไมทําใหพจนานุกรมนีเ้ สีย
ความสมบูรณแตอยางใด เพราะศัพทสวนมากใน ปฐมสมโพธิกถา และ มหาเวสสันดรชาดก เปนคํากวีและคํา