บุหรี่
- 6. หลาย ๆ ประเทศจึงได้มีการรณรงค์ด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่จะยับยั้งการ
แพร่กระจายของการสูบบุหรี่ในประชาชนให้ลดน้อยลงองค์การอนามัยโลกได้มี
ความสนใจจัดให้มีการประชุมเรื่องผลของการสูบบุหรี่ต่อสุขภาพ และได้ผล
สรุปว่า”โรคต่าง ๆ ที่เนื่องมาจากการสูบบุหรี่ เป็นสาเหตุสาคัญที่ทาให้เกิด
ความไร้สมรรถภาพและเสียชีวิตลงก่อนกาหนด
- 14. อันตรายที่เกิดจากบุหรี่
1.นิโคติน ในการสูบบุหรี่ 1 มวน จะเสพนิโคตินประมาณ 6-8 มิลิกรัม ซึ่งจะเข้าไปกระตุ้น
และกดการทางานของระบบประสาทส่วนกลาง ทาอันตรายต่อระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ
ระบบไหลเวียนโลหิต และการทางานของหัวใจ หากได้รับนิโคตินในสัดส่วน 1 ม.ก. ต่อน้าหนักตัว 1
ก.ก. อาจทาให้ตายได้
2. น้ามันดิน เป็นน้ามันข้นเหนียวสีน้าตาลไหม้ เกิดจากการเผาไหม้ของมวนบุหรี่ ในบุหรี่
1 มวน จะเกิดน้ามันดิน 20-30 ม.ก. ซึ่งมีสารคาร์ซิโนเจนอันก่อให้เกิดมะเร็งปอด และน้ามันดินก็จะ
ไปอุดตันในถุงลมปอด ทาให้ลดพื้นที่การแลกเปลี่ยนก๊าซในถุงลมปอดเกิดโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรค
ถุงลมโป่งพองตามมา เป็นต้น
- 15. 3. คาร์บอนมอนนอกไซด์ ควันบุหรี่ 1 มวน จะเกิดก๊าซคาร์บอนมอนนอก
ไซด์ 3.2 % ซึ่งจะจับตัวกับเซลล์เม็ดเลือดแดงได้อย่างรวดเร็ว ทาให้เกิดสารคาร์บอกซี
ฮีโมโกลบินในเลือดสูงส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจต้องทางานหนัก เพื่อให้สูบฉีดโลหิตที่มี
ออกซิเจนไปได้มากขึ้น
4. ไนโตรเจนไดออกไซด์ มีในควันบุหรี่มากถึง 250 ส่วนในล้านส่วน เป็น
สารที่ทาลายเยื่อหลอดลมส่วนปลายให้บานและโปร่งพอง ทาให้ร่างกายไอเรื้อรัง หากปล่อยไว้
กลายเป็นโรคปอดได้ ฯลฯ
- 21. เกิดมะเร็งตามอวัยวะส่วนที่สัมผัสควันบุหรี่ตั้งแต่ช่วงปาก ลาคอ กล่องเสียงสายเสียง หลอด
อาหาร โดยเฉพาะมะเร็งปอด ที่พบว่าผู้สูบบุหรี่เป็นกันมาก สารก่อมะเร็งในควันบุหรี่มีหลาย
อย่าง เช่น ทาร์ สารกัมมันตภาพรังสี ที่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายและกระแสเลือดได้นาไปยังส่วน
ต่าง ๆ ของร่างกาย ทาให้เกิดมะเร็งตามอวัยวะอื่นอีก เช่น ตับอ่อน กระเพาะปัสสาวะ ปาก
มดลูก มะเร็งเม็ดเลือดก่อให้เกิดโรคถุงลมโป่งพองเป็นแผลที่กระเพาะอาหารสารระคายเคือง
- 32. 4. อย่าใช้การสูบบุหรี่เป็นเครื่องผ่อนคลายอารมณ์ หรือแก้เหงา ควรใช้วิธีอื่นที่ไม่ก่อให้เกิด
อันตรายต่อร่างกาย เช่น การอ่านหนังสือ ฟังวิทยุ ดนตรี หรือสนใจในกิจกรรมต่าง ๆ
เป็นต้น
5. สาหรับผู้ที่สูบอยู่ ควรพยายามเลิกให้ได้อย่างเด็ดขาด ปฏิบัติตามคาแนะนาเพื่อการเลิกสูบ
บุหรี่ ซึ่งมีบริการตามสถานพยาบาล หรือโรงพยาบาลต่าง ๆ หรือแพทย์
ถ้ายังไม่สามารถจะเลิกได้ ให้ลดจานวนบุหรี่ที่สูบให้น้อยลง
6. พึงระลึกไว้เสมอว่า การสูบบุหรี่ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสุขภาพ สิ้นเปลือง และก่อ
ความราคาญให้แก่ผู้อื่น
- 38. 2.โรคมะเร็ง
2.1 โรคมะเร็งของปอด เป็นโรคที่ทาให้ผู้ป่วยต้องทนทุกข์ทรมานน่าสมเพชเป็น
อย่างมาก การสูบบุหรี่มากและนานจะยิ่งเสี่ยงต่อการป่วยและตายด้วยโรคมะเร็งของปอดมาก
ขึ้นผู้ที่สูบบุหรี่วันละ 1 ซอง (20 มวน) จะตายด้วยโรคนี้ประมาณ 10 เท่า และผู้ที่สูบ
วันละ 2 ซองจะตายประมาณ 20 เท่าของผู้ที่ไม่สูบเลย
2.2 โรคมะเร็งของกล่องเสียง ลาคอ และช่องปาก เกิดจากการระคายเคืองของ
สารพิษคาร์ซิโน เจน ที่อยู่ในควันบุหรี่
2.3 โรคมะเร็งของกระเพาะปัสสาวะ เกิดจากสารพิษคาร์ซิโนเจนบางชนิดที่ถูกขับ
ออกทางปัสสาวะ เช่น บีต้าแนพธีลามีน และอื่น ๆ
- 47. 6. ผลเสียอื่นๆ
6.1 การสูบบุหรี่ ทาให้ตาแห้ง ตามัว ริมฝีปากเขียว ปลายนิ้วมือและเล็บที่ใช้คีบบุหรี่และฟัน
เป็นคราบสีเหลือง คอแห้ง เสียงแหบ ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น และอาจทาให้การได้กลิ่นรับรู้รส
เสียไป
6.2 การสูบบุหรี่อาจทางชักนาไปสู่การเสพสิ่งเสพย์ติดอื่นๆ เช่น กัญชา หรือผงขาว ได้
6.3 การเริ่มลองสูบใหม่ๆ สารนิโคตินจะกระตุ้นสมองและกระเพาะอาหารลาไส้ให้บีบตัว ทาให้
คลื่นไส้ อาเจียน หรือปวดถ่ายอุจจาระได้
- 50. บรรณานุกรม
1. พัน พัน. (13 5 2556). เรียกใช้เมื่อ 22 1 2016 จาก slideshare:
http://www.slideshare.net/Songsak1/ss-17353486
(นันตา, 2013)
2. นางสาว ปัญจรัตน์ นุ้ย นันตา. (4 2 2013). เรียกใช้เมื่อ 22 1 2016
จาก gotoknow: https://www.gotoknow.org/posts/144312