พ.ร.บ.
- 3. “ ระบบคอมพิวเตอร” หมายความวา อุปกรณหรือชุดอุปกรณของคอมพิวเตอรที่เชื่อมการทํางานเขาดวยกัน โดยไดมีการกําหนดคําสั่งชุดคําสั่งหรือสิ่งอื่นใด และแนวทางปฏิบัติงานใหอุปกรณหรือชุดอุปกรณทําหนาที่ประมวลผลขอมูลโดยอัตโนมัติ “ ขอมูลคอมพิวเตอร ” หมายความวา ขอมูล ขอความ คําสั่ง ชุดคําสั่ง หรือสิ่งอื่นใดบรรดาที่อยูในระบบคอมพิวเตอรในสภาพที่ ระบบคอมพิวเตอร อาจประมวลผลได และใหหมายความรวมถึงข้อมูลอิเล็กทรอนิกสตามกฎหมายวาดวยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกสดวย “ ขอมูลจราจรทางคอมพิวเตอร ” หมายความวา ขอมูลเกี่ยวกับการติดตอสื่อสารของระบบคอมพิวเตอรซึ่งแสดงถึงแหลงกําเนิด ตนทาง ปลายทาง เสนทาง เวลา วันที่ ปริมาณ ระยะเวลา ชนิดของบริการ หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวของกับการ ติดตอสื่อสารของระบบคอมพิวเตอรนั้น
- 4. “ ผูใหบริการ ” หมายความวา ( ๑ ) ผูใหบริการแกบุคคลอื่นในการเขาสูอินเทอรเน็ต หรอใหสามารถติดตอถึงกันโดยประการอื่น โดยผานทางระบบคอมพิวเตอร ทั้งนี้ ไมวาจะเปนการใหบริการในนามของตนเอง หรือในนามหรือเพื่อประโยชนของบุคคลอื่น ( ๒ ) ผูใหบริการเก็บรักษาขอมูลคอมพิวเตอรเพื่อประโยชนของบุคคลอื่น “ ผูใชบริการ”หมายความวา ผูใชบริการของผูใหบริการไมวาตองเสียคาใชบริการหรือไมก็ตาม “ พนักงานเจาหนาที่”หมายความวา ผูซึ่งรัฐมนตรีแตงตั้งใหปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ “ รัฐมนตรี”หมายความวา รัฐมนตรีผูรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
- 5. มาตรา ๕ ผูใดเข้าใช้งานระบบคอมพิวเตอร์โดยเจ้าของไม่ได้อนุญาต โทษจําคุกไมเกินหกเดือนหรือปรับไมเกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ มาตรา ๖ ผูใดเผยแพร่วิธีการลักลอบใช้งานระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น โทษจําคุกไมเกินหนึ่งป หรือปรับไมเกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ มาตรา ๗ ผูใดขโมยข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น โทษจําคุกไมเกินสองปหรือปรับไมเกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจําทั้งปรับ หมวดที่1 ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
- 6. มาตรา ๘ ผูใดดักจับข้อมูลของผู้อื่นในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โทษจําคุกไมเกินสามป หรือปรับไมเกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ มาตรา ๙ ผูใดแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือทำให้ข้อมูล ในระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นเสียหาย โทษจําคุกไมเกินหาป หรือปรับไมเกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ มาตรา ๑๐ ผูใดแก้ไข ดัดแปลง หรือก่อกวนระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นจนเสียหาย โทษจําคุกไมเกินหาป หรือปรับไมเกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ มาตรา ๑๑ ส่งเมล์ให้ผู้อื่นซ้ำๆ หรือก่อกวนผู้อื่นให้เดือดร้อนรำคาญ โทษปรับไมเกินหนึ่งแสนบาท
- 7. มาตรา ๑๒ การกระทำต่อความมั่นคง ( ๑ ) ก่อความเสียหายแก่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปีปรับไม่เกิน 200,000 บาท ( ๒ ) กระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ / เศรษฐกิจ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต มีโทษจำคุกไม่เกินสามถึงสิบห้าปีปรับไม่เกินสองแสน บาท มาตรา ๑๓ การจำหน่าย / เผยแผ่ชุดคำสั่ง มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีปรับไม่เกินสองหมื่นบาท มาตรา ๑๔ การเผยแผ่เนื้อหาอันไม่เหมาะสม มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปีปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
- 8. มาตรา ๑๕ ความรับผิดของ ISP มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปีปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท มาตรา ๑๖ ผูใดนําเขาสูระบบคอมพิวเตอรที่ประชาชนทั่วไปอาจเขาถึงไดซึ่งขอมูล คอมพิวเตอรที่ปรากฏ เปนภาพของผูอื่น และภาพนั้นเปนภาพที่เกิดจากการสรางขึ้นตัด ตอ เติม หรือดัดแปลงดวยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกสหรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้โดยประการที่นาจะทําใหผูอื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือไดรับความอับอาย โทษจําคุกไมเกินสามป หรือปรับไมเกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
- 9. หมวดที่2 พนักงานเจ้าหน้าที่ “ พนักงานเจาหนาที่” หมายความวา ผูมีความรูและความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอรและมีคุณสมบัติตามที่รัฐมนตรีกําหนดโดยรัฐมนตรีจะเปนผูแตงตั้ง มีใชอยูในมาตรา ๑๘ ถึงมาตรา ๓๐
- 10. มาตราสําคัญที่เปน ประเด็นมากที่สุดคือ มาตรา 26 และมาตรา 27 มาตรา 26 บัญญัติใหผูใหบริการตองเก็บขอมูลจราจรคอมพิวเตอรไวไมต่ำกวา 90 วัน แตไมเกิน 1 ป ซึ่งรายละเอียดขอมูลจราจรคอมพิวเตอรที่ตองจัดเก็บจะอยูในประกาศรัฐมนตรี วาการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่กําลังทยอยออกตามหลังการประกาศใชงานกฏหมายฉบับนี้โดยผูใหบริการจะมีภาระหนาที่เก็บขอมูลจราจรเทาที่จําเปน เพื่อใหสามารถระบุตัวผูใช บริการได หากผูใหบริการผูใดไมปฏิบัติ ตองระวางโทษปรับไมเกิน 5 แสนบาท และ มาตรา 27 บัญญัติไวชัดเจนวาหากผูใดไมใหความรวมมือในการปฏิบัติตาม มาตรา 18 หรือ มาตรา 20 หรือไมปฏิบัติตามมาตรา 21 ตองระวางโทษปรับไมเกิน 2 แสนบาท และที่สําคัญตองโทษปรับ รายวันอีก ไมเกินวันละ 5 พันบาท “จนกวาจะปฏิบัติใหถูกตอง”