1. บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑. เพื่อศึกษาสาเหตุการละลายตัวของน้้าแข็ง
๒. เพื่อศึกษาผลกระทบต่อโลกเมื่อน้้าแข็งละลาย ๓. เพื่อศึกษาหาวิธีการป้องกันไม่ให้น้้าแข็งละลายเพิ่มมาก
ขึ้น ๔. เพื่อศึกษาหาปริมาณน้้าแข็งที่ละลายในแต่ละปีของโลก ๕. เพื่อศึกษาว่านักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ ๖/๔ มีความกระตือรือร้นที่จะช่วยกันลดการละลายของน้้าแข็งอย่างไร กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖/๔ จ้านวน ๕๔ คน โดยได้การท้าแบบสอบถามที่ได้แจกไปเพื่อลงความเห็น เครื่องมือที่
ใช้ประกอบด้วยแบบสอบถามว่า “อยากทราบว่านักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕/๔ จะท้าอย่างไรถ้าน้้าแข็งขั้ว
โลกละลายหมดและน้้าท่วมโลกขึ้นมาจริงๆ ” วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติแสดงผลเป็นร้อยละของจ้านวน
นักเรียนทั้งหมด ผลการศึกษาพบว่า
ผลการศึกษาทุกวันนี้ทะเลน้้าแข็งในฤดูร้อนลดลงเหลือเพียงแค่เศษน้้าแข็งในปี ค.ศ. ๒๐๐๗
ทะเลน้้าแข็งละลายเหลือเพียง ๔ ล้านตารางกิโลเมตร และในฤดูร้อนปีนี้ยิ่งเหลือน้อยลงกว่าที่เคย และอาจ
เหลือปริมาณน้อยกว่า ๓ ล้านตารางกิโลเมตร คาดว่าในฤดูร้อนปีค.ศ. ๒๐๑๕ หรือ ๒๐๑๖ คงจะไม่เหลือ
น้้าแข็งอีกต่อไป ปัจจุบันนี้เมื่อแล่นเรือไปยัง อาร์กติกผ่านทางช่องแคบแบร์ริง แทนที่จะพบกับทางเดินเรือ
เพียงไม่กี่ไมล์ก่อนที่จะปะทะกับภูเขาน้้าแข็งนั้น ก็กลับพบทะเลเปิดกว้างอยู่เบื้องหน้า โดยมีเพียงน้้าแข็ง
เหลืออยู่ไม่กี่ไมล์หลงเหลืออยู่ที่ขั้วโลกเหนือหากมองจากห้วงอวกาศก็จะพบว่าส่วนเหนือสุดของโลกดูเป็นสีน้้า
เงินเข้ามาแทนที่ สีขาว
นับตั้งแต่ปี ค.ศ.๑๙๙๒ เป็นต้นมา แผ่นน้้าแข็งขั้วโลกหลอมละลายเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง ๓ เท่า แผ่น
น้้าแข็งที่ละลายกลายเป็นน้้าจากเกาะกรีนแลนด์ และแอนตาร์กติก หรือขั้วโลกใต้ ได้เพิ่มระดับน้้าทะเลทั่วโลก
ปีละ ๑ มิลลิเมตร นับตั้งแต่ปี ค.ศ.๑๙๙๒ จนถึงปัจจุบันเพิ่มขึ้นประมาณครึ่งนิ้ว ซึ่งน้้าจากพื้นที่ ๒ ส่วนนี้
เป็นตัวการ ๑ ใน ๕ ของระดับน้้าที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก การศึกษาก่อนหน้านี้ยังไม่เป็นที่แน่นอนนัก บางฝ่ายบอกว่า
แผ่นน้้าแข็งได้เพิ่มปริมาณมากกว่าสูญเสียด้วยซ้้า แต่การศึกษาครั้งนี้เป็นที่ยอมรับว่าถูกต้องที่สุดแล้ว โดยหาก
ไม่นับแอนตาร์กติกฝั่งตะวันออก แผ่นน้้าแข็ง ๒ ส่วนที่ระบุนี้ก้าลังละลายในอัตราที่น่าตกใจ โดยเฉพาะบนเกาะ
กรีนแลนด์ แม้จะมีขนาดไม่ใหญ่นัก ทว่ามีอัตราละลายจากปีละ ๕๕,๐๐๐ ตันในยุค ๑๙๙๐ มาอยู่ที่
๒๙๐,๐๐๐ ตันในปีล่าสุด ผลกระทบที่เกิดขึ้นเมื่อแผ่นน้้าแข็งในหน้าร้อนในมหาสมุทรอาร์กติกนั้นลดลงเร็วกว่า
ที่เคยคาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้ถึง ๕๐ เปอร์เซ็นต์ ผลก็คือ ต่อไปในอีกแค่ ๒-๓ ปี ในหน้าร้อน แผ่นน้้าแข็งใน
ทะเลอาร์กติกจะไม่หลงเหลือให้เห็นอีกต่อไป ผลกระทบนั้นมีทั้งทางดีและทางร้าย แต่ดูเหมือนผลกระทบ
ในทางลบจะมีมหาศาลกว่ามาก เพราะในขณะที่พื้นที่ทะเลในมหาสมุทรอาร์กติก เปิดกว้างออกส่งผลให้แหล่ง
ทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่เคยพบเห็นกันมาก่อน สามารถเข้าถึงได้ ก็จะมีคนแห่กันเข้าไปส้ารวจหาตั้งแต่ฝูงปลา
เรื่อยไปจนถึงน้้ามันและสินแร่ต่างๆ เส้นทางเดินเรือใหม่ๆ ก็จะเกิดขึ้นได้ตามมา ข้อมูลของครายโอแซท -๒
แสดงให้เห็นว่า แผ่นน้้าแข็งอาร์กติกไม่เพียงมีขนาดลดลงเร็วมากเท่านั้น ยังบางลงเร็วอย่างยิ่งพร้อมๆ กันไปอีก
ด้วย ตัวอย่างเช่น พื้นที่ทางเหนือของแคนาดากับกรีนแลนด์ ที่เมื่อ ๑๐ ปีก่อนแผ่นน้้าแข็งบริเวณนั้นจะหนา
ระหว่าง ๕-๖ เมตรในหน้าร้อน ตอนนี้ความหนากลับลดลงเหลือเพียง ๑-๓ เมตรเท่านั้นเอง

2. มหาสมุทรของโลกนั้นกว้างใหญ่ไพศาล ต้องใช้น้้าแข็งละลายถึง ๑๐ ล้านล้านตัน เพื่อที่จะท้าให้ระดับน้้าทะเล
เพิ่มขึ้น ๑ นิ้ว หรือ ๒.๕ เซนติเมตร ซึ่งนับจากปี ค.ศ.๑๙๙๒ เป็นต้นมา น้้าแข็งจากทั้ง ๒ ขั้วโลกละลายไป
ประมาณ ๕ ล้านล้านตัน เพิ่มระดับน้้าทะเลขึ้นครึ่งนิ้ว หรือประมาณ ๑.๒๕ เซนติเมตร หากน้้าแข็งทั้ง
แอนตาร์กติกละลายหมด จะเพิ่มระดับน้้าทะเลขึ้น ๖๐ เมตร ส่วนกรีนแลนด์หากละลายหมด
จะเพิ่มระดับน้้าทะเล ๗ เมตร กว่าจะถึงวันนั้นคงใช้เวลานาน แต่มนุษย์ในยุคนั้นจะรับมือกับหายนะอย่างไร
หรือจะมีเผ่าพันธุ์หลงเหลือเพื่ออยู่รับมือหรือไม่ ค้าตอบอยู่ที่หัวใจและพฤติกรรมของมนุษย์ปัจจุบัน
ดังนั้นทางกลุ่มจึงได้ศึกษาเรื่องน้้าแข็งขั้วโลกละลาย ภัยร้ายของโลกขึ้น