งานคอม
- 1. บทที่ 5 อินเทอร์เน็ต
5.1 อินเทอร์ เน็ต
5.1.1 ความหมายของอินเทอร์ เน็ต อินเทอร์เน็ต (Internet) เป็ นเครื อข่ายขนาดใหญ่เชื่อมต่อ
คอมพิวเตอร์ขององค์กรธุ รกิจ หน่วยงานของรัฐบาล สถานศึกษา ตลอดจนเชื่อมโยง
คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลไว้ดวยกัน้
ทาให้ขอมูล สารสนเทศ สิ นค้า และบริ การที่นาเสนอผ่านเครื อข่ายคอมพิวเตอร์หรื ออุปกรณ์
้
อื่นๆ จากที่ต่างๆไม่วาจะเป็ นบ้าน สานักงาน โรงเรี ยน ชายทะเล หรื อร้านอาหารทัวโลก
่ ่
5.1.2 โครงสร้ างพืนฐานของอินเทอร์ เน็ต ประกอบด้วยเครื อข่ายระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค
้
ระดับชาติ และระดับนานาชาติที่เชื่อมโยงเข้าด้วยกัน
5.1.3 การเข้ าถึงอินเทอร์ เน็ต ผูใช้ที่เป็ นคนทางาน นักเรี ยน หรื อนักศึกษา มักจะเข้า
้
อินเทอร์เน็ตผ่านเครื อข่ายของหน่วยงาน โรงเรี ยนหรื อมหาวิทยาลัย ซึ่งเชื่อมต่อเข้ากับ
อินเทอร์เน็ตความเร็วสู ง ขณะที่ผใช้ทวไปอาจใช้วธีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยใช้โมเด็มผ่าน
ู ้ ั่ ิ
สายโทรศัพท์ซ่ ึงเป็ นอินเทอร์เน็ตความเร็วต่า หรื ออาจเชื่อมต่อผ่านบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต
· ผูให้บริ การอินเทอร์เน็ต หรื อไอเอสพี ให้บริ การการเชื่อมต่อเข้าสู่ อินเทอร์เน็ตเข้าสู่ ผใช้ โดย
้ ู้
อาจคิดค่าบริ การเป็ นรายเดือน
- 2. 5.1.4 การติดต่ อสื่ อสารบนอินเทอร์ เน็ต คอมพิวเตอร์ที่ติดต่อสื่ อสารระหว่างกันบนอินเทอร์เน็ต
มีคุณลักษณะแตกต่างกัน การที่อินเทอร์เน็ตสามารถเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ที่มีความแตดต่างกัน
ให้สามารถทางานร่ วมกันได้ เนื่องจากใช้โพโทรคอลเดียวกันในการสื่ อสารที่เรี ยกว่า ทีซีพี/ไอพี
่
เลขที่อยูไอพี
่
เครื่ องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกันอยูบนอินเทอร์เน็ต จะมีหมายเลขอ้างอิงในการติดต่อสื่ อสาร
่
เรี ยกว่า เลขที่อยูไอพีหรื อไอพีแอดเดรส ซึ่งจะต้องไม่ซ้ ากันเลย โดยไอพีแอดเดรสประกอบด้วย
เลข 4 ชุด ซึ่งแยกกันด้วยเครื่ องหมายจุด
ระบบชื่อโดเมน
่ ่
เนื่องจากเลขที่อยูไอพีอยูในรู ปของชุดตัวเลขซึ่งยากต่อการจดจาและอ้างอิงระหว่าลการใช้งาน
่ ่
ดังนั้นจึงกาหนดให้มีระบบชื่อโมเดม ซึ่งแปลงเลขที่อยูไอพีให้เป็ นชื่อโมเดมที่อยูในรู ปชื่อย่อ
ภาษาอังกฤษหลายส่ วนคันด้วนเครื่ องหมายจุด
่
5.2 เวิลด์ ไวด์ เว็บ
เวิลด์ไวด์เว็บ หรื อเรี ยกสั้นๆว่า เว็บ เป็ นการให้บริ การข้อมูลแบบไฮเปอร์เท็กซ์ ที่ประกอบด้วย
ู่
เอกสารจานวนมากที่มีการเชื่อมโยงกัน ซึ่งเป็ นแหล่งของข้อมูลขนาดใหญ่ท่ีผใช่อินเทอร์เน็ต
สามารถเข้าถึงผ่านโพรโทคอลที่เรี ยกว่าเอชทีทีพี
· เว็บเพจ เป็ นหน้าเอกสารที่เขียนขึ้นในรู ปแบบภาษาเอชทีเอ็มแอล ซึ่งสามารถเชื่อมโยงไปยัง
่
เอกสารหน้าอื่นได้ โดยเรี ยกดูผานเว็บเบราว์เซอร์
· เว็บไซต์ เป็ นกลุ่มของเว็บเพจที่มีความเกี่ยวข้องกันและอยูภายใต้ช่ือโดเมนเดียวกัน
่
· เว็บเซิร์ฟเวอร์ เป็ นเครื่ องคอมพิวเตอร์ที่ให้บริ การเว็บเพจ เมื่อผูใช้ร้องขอเว็บเพจผ่านเว็บ
้
เบราว์เซอร์ โดยใช้ยอาร์แอล
ู
5.2.1 การเรียกดูเว็บ เว็บเบราว์เซอร์ เป็ นโปรแกรมใช้สาหรับแสดงเว็บเพจเดียวกันหรื อเว็บเพจ
อื่นผ่านการเชื่อมโยงหลายมิติ หรื อไฮเปอร์ลิงค์ เรี ยกสั้นๆว่า ลิงค์
- 3. 5.2.2 ทีอยู่เว็บ ในการอ้างอิงตาแหน่งของแหล่งข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตที่ผใช้ร้องขอ
่ ู้
· โพรโทคอล ใช้สาหรับระบุมาตรฐานที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านเว็บ
· ชื่อโดเมน ใช้สาหรับระบุชื่อโดเมนของเว็บเซิร์ฟเวอร์ของผูให้บริ การข้อมูล
้
· เส้นทางเข้าถึงไฟล์ ใช้สาหรับระบุตาแหน่งของไฟล์จากเว็บเซิร์ฟเวอร์
· ชื่อข้อมูล ชื่อไฟล์ร้องขอ
5.2.3 การค้ นหาผ่ านเว็บ
· โปรแกรมค้นหา หรื อเสิ ร์ชเอนจิน ใช้สาหรับค้นหาเว็บเพจที่ตองการโดยระบุคาหลักหรื อคา
้
สาคัญ เพื่อนาไปค้นในฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งรวบรวมเว็บเพจต่างๆผลลัพธ์ที่ได้จะเป็ น
รายการเว็บเพจที่ประกอบด้วยคาหลักที่ระบุ ช่วยให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลทุกประเภท
หลากหลายรู ปแบบ เพื่อศึกษาหรื อเพื่อความบันเทิงได้อย่างรวดเร็ว
· ตัวดาเนินการในการค้นหา เพื่อให้การค้นหาข้อมูลด้วยโปรแกรมค้นหาเป็ นไปอย่างมี
ประสิ ทธิภาพ ผูใช้สามารถใช้ตวดาเนินการในการค้นหาประกอบกับคาหลัก จะช่วยให้ได้
้ ั
ผลลัพธ์ในการค้นหาที่ดียงขึ้น
ิ่
5.2.4 เว็บ1.0 และเว็บ 2.0
เว็บ 1.0 เป็ นเว็บในยุคแรกเริ่ มที่มีลกษณะให้ขอมูลแบบทางเดียว ผูใช้ทวไปเข้าถึงเว็บเพจ
ั ้ ้ ั่
ในฐานะผูบริ โภคข้อมูลและสารสนเทศตามที่ผสร้างได้ให้รายละเอียดไว้เพียงอย่างเดียวไม่ค่อย
้ ู้
มีการปรับปรุ งข้อมูลให้ทนสมัย และมีรูปแบบการใช้งานไม่หลากหลาย
ั
ต่อมามีการพัฒนาเทคโนโลยีที่สนับสนุนการใช้งานบนอินเตอร์เน็ต ทาให้ผใช้ทวไป ู ้ ่ั
สามารถเป็ นส่ วนหนึ่งของผูให้ขอมูลในรู ปแบบต่างๆที่ปรากฏบนเว็บเพจ เช่น การโพสต์
้ ้
ข้อความ รู ปภาพ วีดิทศน์ ความคิดเห็น การจัดอันดับ ความแตกต่างที่พบได้เหล่านี้ จึงมีการเรี ยก
ั
่
เว็บประเภทนี้วาเว็บ 2.0
ลักษณะเด่นที่พบในเว็บ 2.0 ที่แตกต่างจากในเว็บ 1.0 เช่น มีการสร้างเครื อข่ายทางสังคม
ผ่านเว็บไซต์ มีการพัฒนาความร่ วมมือแบบออนไลน์
- 4. 5.3 บริการบนอินเตอร์ เน็ต
บริ การบนอินเตอร์เน็ต เป็ นบริ การที่ตอบสนองความต้องการในด้านการสื่ อสารของผูใช้ใน ้
รู ปแบบต่างๆ ในปั จจุบนมีการใช้อินเตอร์เน็ตผ่านช่องทางในการแบ่งปันความคิด ข้อมูล สาร
ั
สนเทศ รวมถึงความรู ้ โดยอาศัยเครื่ องมือ เทคโนโลยีหรื อบริ การต่างๆบนอินเตอร์เน็ต
5.3.1 ไปรษณีย์อเิ ล็กทรอนิกส์ หรือ อีเมล (e-mail) เป็ นบริ การรับส่ งจดหมายในรู ปแบบ
อิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับความนิยมจากผูใช้ โดยส่ งได้ท้ งข้อความ และไฟล์ต่างๆ
้ ั
มารยาทของการสื่ อสารผ่ านอีเมล
1. ใช้หวเรื่ องที่สรุ ปสาระสาคัญของเนื้อหาในอีเมล
ั
2. เขียนเนื้อหาให้มีสาระในการสื่ อสารให้ชดเจน
ั
3. เขียนข้อความให้กระชับ ไม่เยินเย้อ เหมาะสมกับกาลเทศะ
่
4. ใช้ bcc ในการระบุผรับ เมื่อส่ งข้อความถึงผูรับจานวนมาก เพื่อป้ องกันความเป็ นส่ วนตัว
ู้ ้
5. อย่าใช้อกษรภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่ ซึ่ งแสดงถึงการตะโกน
ั
6. จัดระเบียบข้อความเป็ นย่อหน้าเพื่อสะดวกต่อการอ่าน
7. ใช้ภาษาที่เหมาะสมและตัวสะกดที่ถูกต้อง
8. ใช้การตอบกลับ แทนการเขียน ข้อความใหม่ เพื่อให้สามารถติดตามเรื่ องราวของอีเมลที่
เกี่ยวข้องกันได้สะดวก
9. ใช้การตอบกลับไปยังทุกคนเมื่อจาเป็ น
10. ใช้อกษรย่อ หรื อสัญรู ปอารมณ์ท่ีไม่ฟุ่มเฟื อยจนเกินไป
ั
5.3.2 การสื่ อสารในเวลาจริง
ั ่
เป็ นการสื่ อสารระหว่างบุคคลที่สามารถโต้ตอบกลับได้ทนทีผานเครื อข่ายการสื่ อสาร
ตัวอย่างการสื่ อสารในเวลาจริ ง เช่น การแชท ห้องคุย ฯลฯ
· แชท เป็ นการสนทนาผ่านอินเตอร์เน็ตระหว่าง 2 คน หรื อ ระหว่างกลุ่มบุคคล
· ห้องคุย เป็ นการสนทนาที่ผใช้สามารถเลือกประเภทของหัวข้อที่สนใจซึ่งแบ่งไว้เป็ นห้องต่างๆ
ู้
เพื่อพูดคุยกันระหว่างบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม การสนทนารู ปแบบนี้อานวยความสะดวกและช่วย
ประหยัดเวลาในการสื่ อสารข้อความไปยังบุคคลต่างๆ
- 5. 5.3.3 เว็บไซต์ เครือข่ ายทางสั งคม
เป็ นชุมชนออนไลน์ที่สมาชิกในชุมชนมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันโดยมีเป้ าหมายในการเป็ น
จุดเชื่อมโยงระหว่างผูใช้โดยอาจเชื่อมโยงผ่านกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งที่ผใช้มีความสนใจ
้ ู้
ตัวอย่างเว็บไซต์ทางสังคม เช่น facebook ,myspace,Linkedin,hi5 และGotoKnow
5.3.4 บล็อก
เป็ นระบบการบันทึกข้อมูลลาดับเหตุการณ์ในแต่ละวัน ประสบการณ์ความคิดของผูเ้ ขียน
บล็อกผ่านเว็บไซต์ คาว่า “บล็อก” มาจากคาว่า “เว็บบล็อก” เนื่องจากข้อมูลที่ปรากฏมีลกษณะ ั
เป็ นการบันทึกข้อมูลผ่านเว็บที่มีการระบุวนเวลารวมถึงผูบนทึกข้อมูลแต่ละหัวข้อไว้ หัวข้อ
ั ้ ั
ข้อมูลหรื อความเห็นที่ถูกนาเสนอในบล็อกอาจจัดทาโดยบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่เป็ นเจ้าของ
บล็อก หรื อบุคคลที่มีความสนใจร่ วมกัน
5.3.5 ไมโครบล็อก
เป็ นบล็อกที่มีการแสดงหัวข้อและความคิดเห็นที่กระชับ กะทัดรัดผูใช้ที่เป็ นสมาชิก
้
สามารถเลือกหัวข้อจากบล็อกอื่นให้ปรากฏในไมโครบล็อกของตนเอง
5.3.6 วิกิ
เป็ นรู ปแบบการเผยแพร่ ขอมูลที่บุคคลต่างๆซึ่งเป็ นผูมีความรู ้ความชานาญเฉพาะเรื่ อง
้ ้
สามารถเป็ นส่ วนร่ วมในการเป็ นผูให้ขอมูลใหม่ หรื อเป็ นผูปรับปรุ งที่มีอยูเ่ ดิมให้ถูกต้องและ
้ ้ ้
สมบูรณ์ยงขึ้น รายละเอียดของข้อมูลที่เผยแพรก่อให้เกิดประโยชน์กบบุคคลทัวไป หรื อกลุ่ม
ิ่ ั ่
บุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกันในเรื่ องใดเรื่ องหนึ่ง
5.3.7 อาร์ เอสเอส
เป็ นเทคโนโลยีที่ใช้สาหรับเผยแพร่ ขอมูลที่ถูกปรับปรุ งให้ทนสมัยอยูเ่ ป็ นประจาได้แบบ
้ ั
อัตโนมัติโดยผูใช้ตองขอรับบริ การ ผูใช้ไม่ตองเข้าไปยังเว็บไซต์ที่สนใจต่างๆโดยตรง ซึ่งแต่ละ
้ ้ ้ ้
เว็บไซต์อาจมีความถี่ในการปรับปรุ งข้อมูลที่แตกต่างกันไปผูใช้สามารถรับข้อมูลที่มีการ
้
ให้บริ การเผยแพร่ แบบอัตโนมัติน้ ี โดยคลิกที่ปุ่มที่ปรากฏบนหน้าเว็บ คอนเทนท์ แอกกรี เกเตอร์
ทาหน้าที่คอยติดตามการปรับปรุ งข้อมูลที่ได้ขอมูลที่ให้บริ การไว้ ทาให้ผใช้สามารถเชื่อมโยง
้ ู้
ไปยังข้อมูลที่เผยแพร่ ได้มีการปรับปรุ งให้ทนสมัยได้โดยตรง ช่วยประหยัดเวลาในการเข้าถึง
ั
ข้อมูล
- 6. 5.3.8 พาณิชย์ อเิ ล็กทรอนิกส์
เป็ นการทาธุ รกิจซื้อขาย หรื อแลกเปลี่ยนสิ นค้าและบริ การบนอินเตอร์เน็ต โดยใช้เว็บไซต์
เป็ นสื่ อในการนาเสนอสิ นค้าและบริ การต่างๆรวมถึงการติดต่อกันระหว่างผูซ้ือและผูขาย ทาให้
้ ้
ผูเ้ ข้าใช้บริ การจากทุกที่ทุกประเทศ สามารถเข้าถึงร้านค้าได้ง่ายตลอด 24ชัวโมง ตัวอย่างเช่น
่
ร้านขายหนังสื อบนอินเตอร์เน็ตสามารถนาเสนอรายการและตัวอย่างหนังสื อบนเว็บได้
5.4 โปรแกรมทีไม่ พงประสงค์
่ ึ
่
ขณะใช้งานอินเตอร์เน็ต มักมีโปรแกรมที่ไม่พึงประสงค์แฝงมากับข้อมูลที่อยูบนเครื อข่าย
คอมพิวเตอร์ โปรแกรมลักษณะนี้ เรี ยกว่า มัลแวร์ malware
· ั ้
ไวรัส เป็ นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ท่ีเขียนขึ้นเพื่อสร้างความราคาญให้กบผูใช้งานและอาจ
ร้ายแรงถึงขั้นทาลายระบบคอมพิวเตอร์ให้เสี ยหายทั้งระบบ
· เวิร์ม เป็ นโปรแกรมแปลกปลอมที่สามารถคัดลอกตัวเองแล้วส่ งไปยังเครื่ องคอมพิวเตอร์อ่ืนๆ
ได้ทนที โดยอาศัยการเจาะผ่านช่องโหว่ของเครื อข่ายคอมพิวเตอร์
ั
· ม้าโทรจัน เป็ นโปรแกรมแปลกปลอมที่ผานเข้าสู่ ระบบคอมพิวเตอร์โดยการแอบแฝงตัวเองว่า
่
เป็ นโปรแกรมอื่น
· สปายแวร์ เป็ นโปรแกรมที่ออกแบบมาให้คอยติดตาม บันทึกข้อมูลส่ วนบุคคล รายงานข้อมูล
การใช้งานของผูใช้แต่ละคนบนอินเตอร์เน็ต หรื อทาการเปลี่ยนการตั้งค่าของโปรแกรม
้
เบราว์เซอร์ใหม่ ซึ่งก่อให้เกิดความราคาญและทาให้ประสิ ทธิภาพการทางานของคอมพิวเตอร์ชา ้
ลง
· แอดแวร์ เป็ นโปรแกรมแอบแฝงที่เมื่อโปรแกรมได้รับการดาวน์โหลดหรื อมีการติดตั้งใน
เครื่ องคอมพิวเตอร์เรี ยบร้อยแล้ว จะแสดงหน้าต่างป๊ อปอัพที่มีการโฆษณาสิ นค้าออกมาเป็ น
ระยะๆโดยอัตโนมัติ
· ั ้
สแปม เป็ นการใช้ระบบส่ งอีเมลในการส่ งข้อความที่ไม่พึงประสงค์ ให้กบผูใช้เป็ นจานวนมาก
สแปมที่พบบ่อยคือ การส่ งข้อความโฆษณาสิ นค้า บริ การ ท่องเที่ยวชักชวนประกอยอาชีพที่มี
รายได้สูง ผ่านระบบอีเมลที่ เรี ยกว่า เมลขยะ
- 7. 5.5 ผลกระทบจากการใช้ งานอินเตอร์ เน็ต
บริ การบนอินเตอร์เน็ตมีการพัฒนาให้มีรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย ผูใช้สามารถเข้าถึง
้
อินเตอร์เน็ตได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมจากสังคมแบบเดิมที่เกิด
จากการรวมตัวของกลุ่มบุคคลที่มีความใกล้ชิดกันในเชิงภูมิศาสตร์ เพื่อสร้างความสัมพันธ์
ระหว่างกันเป็ นสังคมใหม่ที่เรี ยกว่า สังคมโลกไซเบอร์ ซึ่งเป็ นสังคมเสมือนที่เกิดจากการรวมตัว
กันของกลุ่มบุคคลที่มีความสนใจ
เนื่องจากสมาชิกของโลกไซเบอร์สามารถสร้างตัวตนใหม่ที่มีบุคลิก นิสัย รู ปลักษณ์ หรื อ
แม้แต่อายุที่แตกต่างกันไป จึงอาจใช้อินเตอร์เน็ตในทางที่ผดทาให้เกิดปัญหาในด้านต่างๆ เช่น
ิ
1. ปัญหาสุ ขภาพและความสัมพันธ์ทางสังคม
ผูใช้งานอินเตอร์เน็ตติดต่อกันเป็ นเวลานานมากเกินไปอาจก่อให้เกิดปัญหาโรคติดอินเตอร์เน็ต
้
ซึ่งเป็ นอาการทางจิตประเภทหนึ่ง มีอาการที่ตองสงสัย เช่น มีความต้องการใช้อินเตอร์เน็ต
้
ต่อเนื่องเป็ นเวลานานมากขึ้นเรื่ อยๆ รู ้สึกหงุดหงิด หดหู่ กระวนกระวายเมื่อใช้อินเตอร์เน็ต
น้อยลง คิดว่าเมื่อได้ใช้อินเตอร์เน็ตแล้วจะทาให้ดีข้ ึน
2. ปัญหาอาชญากรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
· เจาะระบบรักษาความปลอดภัย ให้สามารถเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อกระทาการใดๆกับ
ระบบคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ หรื อข้อมูลในทางที่มิชอบ อาจทาให้เกิดการเสี ยหานในเชิงธุรกิจ
· ขโมยข้อมูลส่ วนบุคคล โดยการใช้ช่องทางการสื่ อสารหรื ออินเทอร์เน็ต เช่น การแชท การ
โทรศัพท์ ในการได้มาซึ่งข้อมูลส่ วนตัวของบุคคล โดยการปลอมแปลงเป็ นผูดูแลระบบ ้
วิธีการหลอกลวงเพื่อเจตนาขโมยข้อมูลส่ วนตัวอีกวิธีหนึ่ง คือ การส่ งอีเมลถึงผูรับที่มีขอความ
้ ้
เช่น รหัสผ่าน ข้อมูลทางการเงิน ไปใช้ในการเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นโดยมิชอบ
· เผยแพร่ ภาพอนาจาร การเผยแพร่ ภาพอนาจารต่างๆโดยวิธีการที่หลากหลาย
- 8. 3. ปัญหาการล่อลวงในสังคม
จากการที่ผใช้งานอินเทอร์เน็ตบางคน สร้างขึ้นมาใหม่ในการติดต่อสนทนากับผูอื่นโดยให้
ู้ ้
ข้อมูลที่เป็ นเท็จ เช่น เพศ อายุ ภาพถ่าย และอาชีพ เพื่อล่อลวงให้คู่สนทนาสนใจตัวใหม่ตน
บัญญัติ 10 ประการในการใช้ งานคอมพิวเตอร์
1. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทาร้ายผูอื่น
้
2. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์รบกวนผูอื่น ้
3. ต้องไม่เปิ ดดูไฟล์ของผูอื่นก่อนได้รับอนุญาต
้
4. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ในการโจรกรรมข้อมูล ข่าวสาร
5. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานเท็จ
6. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ในการคัดลอกหรื อใช้โปรแกรมที่มีลิขสิ ทธิ์โดยไม่ได้รับการ
อนุญาต
7. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ในการละเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์โดยที่ตนเองไม่มีสิทธิ์
8. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อนาเอาผลงานของผูอื่นมาเป็ นของตนเอง
้
9. ต้องคานึงถึงผลกระทบที่เกิดจากโปรแกรมที่ตวเองพัฒนาขึ้น
ั
10. ต้องใช้คอมพิวเตอร์ โดยเคารพกฎ ระเบียบ กติกา และมารยาทของสังคมนั้น