2. face book คืออะไร เป็นเว็บไซท์ที่คุณสามารถสร้างหน้าโปรไฟล์ facebook หรือข้อมูลของคุณเอง และนำไปเชื่อมโยงกับ หน้าโปรไฟล์ face book ของคนอื่นๆ เพื่อให้คุณสามารถมีปฎิสัมพันธ์กับคนเหล่านั้นได้ ส่วนจะทำอะไรได้บ้างนั้นก็ขึ้นอยู่กับบริการของเว็บแต่ละห้อง เช่นเข้าไปดูรูปของเพื่อน เขียนไดอารี่ให้คนอื่นเข้ามาอ่าน ส่งข้อความส่วนตัว เขียนข้อความลงบนพื้นที่ในหน้าของเพื่อน ฟังเพลง

3. ส่งเพลงให้กัน ท้าดวลเกมส์ ฯลฯ ซึ่งคุณสามารถส่งข้อความพูดคุยกับเพื่อนตัวต่อตัว หรือจะส่งข้อความหาเพื่อนกลุ่มใหญ่ในครั้งเดียวก็ทำได้ทั้งนั้น โดยไม่จำเป็นต้องมานั่งรอเพื่อนของเราออนไลน์พร้อมกันเพื่อจะพูดคุย เหมือนอย่างโปรแกรมพวก msn ใต่างประเทศ ความยิ่งใหญ่ของ face book มีมากกว่า Hi5 เสียอีก แต่ในประเทศไทยของเรา Hi5 ยังครองความเป็นที่นิยมในหมู่คนไทย

4. มาร์กคิดค้นสร้างเครือข่ายภายในรั้วมหาวิทยาลัยโดยให้นักศึกษาที่สนใจสามารถเข้ามาอัพเดตและแบ่งปันข้อมูลส่วนตัวและรูปภาพได้ จนได้รับความนิยมมากขึ้น จากภายในมหาวิทยาลัยกระจายสู่มหาวิทยาลัยชั้นนำอื่นๆ และขยายกลุ่มขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันมีผู้สนใจจากทั่วโลกเข้าลงทะเบียนใช้งานมากกว่า 24 ล้านคน เฉลี่ยมีผู้ลงทะเบียนใหม่กว่า 100,000 รายต่อวันปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่แพโลแอลโทรัฐแคลิฟอร์เนีย

5. ประวัติ facebook " เฟซบุ๊ก " ( Facebook) เปิดตัวในปี พ . ศ . 2547 โดย " มาร์ก ซักเกอร์ เบิร์ก " ซึ่งขณะนั้นเป็นนักศึกษาหนุ่มน้อยวัยแค่ 20 ปี จากมหาวิทยาลัยชื่อดัง " ฮาร์วาร์ด เขาร่วมมือกับเพื่อนอีก 2 คนซึ่งชื่อเฟซบุ๊กนี้มาจากชื่อเรียก “เฟซบุ๊ก” ที่มักจะเป็นหนังสือแจกสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยในช่วงเริ่มเรียนปีแรก ซึ่งมีภาพและชื่อของเพื่อนที่เรียนด้วยกันเพื่อไว้สำหรับจดจำชื่อคนอื่น

6. Hi5 and Face Book ความเหมือนที่แตกต่าง Face book และ Hi5 มีความเป็น Social Network เหมือนกัน คือ ผู้คนสามารถเข้ามาทำความรู้จัก โดยสามารถเลือกได้ว่าต้องการรู้จักกับใคร หรืออยากที่จะเป็นเพื่อนกับใคร ซึ่งการสื่อสารระบบนี้จะสามารถเชื่อมโยงผู้คนเข้าไว้ด้วยกันได้ ทั้ง 2 เว็บไซต์มีความแตกต่างกันที่ตัวแอพพลิเคชั่นและการใช้งาน โดย Face book จะเน้นในเรื่องของแอพพลิเคชั่น และการใช้งานที่ดูเป็นทางการมากกว่า

7. ขณะที่ Hi5 มีลูกเล่นด้านการตกแต่งที่มากกว่า ซึ่งถือว่าเด่นคนละด้าน และคงไม่สามารถฟันธงได้ว่า อย่างไหนดีกว่ากัน เพราะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลความโดดเด่นของ Face book คือ ผู้ใช้งานต้องใช้ชื่อจริง และ E-mail เดียวกันในการลงทะเบียน และในขณะนี้ Face book ได้กำลังพัฒนาตนเองให้กลายเป็น “ แพลตฟอร์ม ” ซึ่งหมายความว่าสามารถให้นักพัฒนานำแอพพลิเคชั่นมาใช้บนแพลตฟอร์มของ Face book ได้

8. ดังนั้นใครก็ตามที่สามารถสร้างเครื่องมือ Software หรือแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ก็จะสามารถใช้งานบนเครือข่ายนี้ได้เช่นกัน เนื่องจาก Face book นั้นใช้ฟังก์ชั่น API และนอกจากความบันเทิงในรูปแบบต่างๆ แล้ว Face book ยังเน้นการสร้างชุมชน online เพื่อทำธุรกิจ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งจูงใจสำหรับนักลงทุนซึ่งจะสามารถดำเนินธุรกิจต่างๆ ทาง Face book ได้ ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะสามารถขยายธุรกิจให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น

9. Skin ของ Face book นั้น ไม่สามารถเปลี่ยนได้ แต่มีข้อดีคือ มีโทนสีที่สว่าง ทำให้ผู้ใช้ทุกช่วงอายุ สามารถอ่านได้อย่างสบายตา Face book นั้นมีแอพพลิเคชั่นที่หลากหลาย เช่น คำถามทายใจ หรือ แฟลชเกม ที่สามารถเล่นพร้อมกับผู้ติดต่ออื่นๆได้ นอกจากนี้ เกมใน Face book สามารถฝากข้อความถึงผู้เล่นอื่นได้อีกด้วย

10. Face book การใช้งานค่อนข้างซับซ้อนมากกว่า Hi5 เนื่องจากรูปแบบของ Face book จะค่อนข้างมีความแตกต่างกับ Hi5 ค่อนข้างมาก เพราะ Face book สามารถฝากข้อความถึงผู้ติดต่อได้หลายทาง นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถ Chat ผ่าน Face book โดยไม่ต้องใช้โปรแกรมสำหรับสนทนา และ Face book ยังสามารถอัพเดตข้อมูลได้ว่าว่าผู้ใช้ในเครือข่ายของเรา ได้ใช้ Application อะไรบ้าง และรู้สึกอย่างไรกับ Application นั้น

11. วิธีใช้งาน face book สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเป็นสมาชิกเลย 1. คลิกเข้าไปที่ www.facebook.com

12. 2. หลังจากที่เราคลิกเข้าไปที่ www.facebook.com ก็จะปรากฎหน้าแรกของเว็บให้เรากรอกรายละเอียดในหน้าแรก เพื่อสมัครสมาชิก ( แนะนำให้กรอกข้อมูลตามความเป็นจริง และโดยเฉพาะ E-mail เพราจะต้องมีการยืนยันการใช้งานผ่าน E-amil ด้วย )

13. 3. เมื่อกรอกข้อมูลครบทุกช่องเสร็จเรียบร้อยแล้วกดปุ่ม " ลงทะเบียน " ถ้าเป็นภาษาอังกฤษคือ " Sign Up"

14. 4. หลังจากที่เราลงทะเบียนเสร็จก็จะทำตามขั้นตอนต่างๆ ที่หน้าจอ พิมพ์ข้อความตามตัวอย่างเพื่อยืนยันการลงทะเบียนจากนั้นคลิกลงทะเบียน

15. 5. หลังจากที่เราสมัครสมาชิก face book แล้วเราต้องทำการยืนยันรหัสของเราโดยที่ระบบจะทำการส่ง E-mail ไปให้คุณตามที่ได้กรอกในขั้นตอนสมัคร และให้คุณเปิดและคลิกลิงค์ ยืนยันการรับ E-mail ด้วย ( ถ้าไม่ได้รับ mail ใน Inbox ให้ลองตรวจสอบในโฟลเดอร์ Junk Mail

16. ด้วยตรงนี้คุณสามารถปิดหน้าเฟซบุ๊คไปก่อนได้ แล้วกลับไปเช็คอีเมล์ จะพบอีเมล์ที่มีหัวข้อว่า Face book Registration Confirmation ถ้าไม่เห็นก็ลองดูในพวก junk folder ดู ซึ่งพอเปิดเข้าไปก็จะพบกับข้อความพร้อมกับลิงค์ที่ให้คุณคลิกเพื่อเป็นการ ยืนยันตัวตนของคุณ พร้อมกับพาคุณย้อนกลับมาที่หน้า face book โดยอัตโนมัติ

17. 6. ตรงนี้เราสามารถปิดหน้าเฟซบุ๊คไปก่อนได้ พอเปิดเข้าไปก็จะพบกับข้อความพร้อมกับลิงค์ที่ให้คุณคลิกเพื่อเป็นการ ยืนยันตัวตนของคุณ พร้อมกับพาคุณย้อนกลับมาที่หน้า face book โดยอัตโนมัติ

18. 7. หลังจากที่เราคลิกลงทะเบียนและทำการยืนยันการสมัครเสร็จจะมีขั้นตอนและข้อมูลต่างๆมาให้เรากรอกหน้าต่างนี้สำหรับให้เราเพิ่มเพื่อนที่อยู่ใน MSN มาไว้ใน face book เราสามารถเลือกที่จะเพิ่มเพื่อนคนไหนก็ได้หรือว่าจะข้ามขั้นตอนนี้ไปก่อนโดยคลิกที่ข้ามขั้นตอนนี้

19. 8. หลังจากที่เราเพิ่มเพื่อนเสร็จแล้วก็เป็นขั้นตอนของการกรอกประวัติส่วนตัวโดยจะให้เรากรอกรายละเอียดเกี่ยวกับการศึกษาของเราแต่ถ้าเรายังไม่อยากกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเราก็สามารถเลือกคลิกข้าม

20. 9. หลังจากที่เรากรอกข้อมูลส่วนตัวของเราหรือคลิกข้ามก็จะปรากฏหน้าต่างสำหรับเพิ่มเพื่อนทั่วๆไปเราสามารถเลือกที่จะเพิ่มเพื่อนได้ตามใจชอบหรืออาจจะคลิกข้ามขั้นตอนนี้ไปก่อน

21. 10. ขั้นตอนสุดท้ายเป็นการตั้งค่ารูปภาพของ face book เราสามารถเลือกรูปได้จากหลากหลายที่เช่นรูปจากกล้องของเราหรือว่าจากแฟ้มข้อมูลของเราที่มีอยู่ในเครื่อง

22. 11. หลังจากที่เราทำตามขั้นตอนที่ทั้งหมด 3 ขั้นตอนแล้วก็เป็นอันว่าเราสมัครสมาชิก face book เสร็จเรียบร้อยแล้ว สำหรับข้อมูลที่เรายังกรอกไม่ครบเราสามารถทำการเข้าไปแก้ไขได้เลย

23. 1. เราสามารถใช้เว็บเหล่านี้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารข้อความต่างๆ ไม่ว่าของตนเองหรือขององค์กรออกไปยังคนกลุ่มหนึ่ง โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายทางด้านการตลาดแต่อย่างใด 2. นอกจากจะเป็นสื่อในการส่งข้อความแล้ว เรายังสามารถใช้เว็บสังคมออนไลน์เป็นที่ที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับองค์กรที่เราทำงาน เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่เราใช้ หรือเกี่ยวกับการเมือง ประโยชน์ของ face book

24. 3. เป็นเว็บที่นิยมกันทั่วโลกทำให้เราสามารถมีการแลกเปลี่ยนสื่อสารภาษาและวัฒนธรรมที่หลากหลาย 4. เป็นเว็บที่เป็นกลไกในการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข่าวสารดีๆ เกี่ยวกับองค์กรของตนเองไปยังบุคคลต่างๆ รอบๆ ตัวเรา

25. 5. บางองค์กรยังใช้ เป็นเครื่องมือในการตอบคำถาม หรือข้อข้องใจของลูกค้าเกี่ยวกับข้อร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้าและบริการต่างๆ โดยจะมีพนักงานคนหนึ่งทำหน้าที่ในการติดตามข่าวสารหรือข้อร้องเรียน และชี้แจงข้อมูล ข้อเท็จจริงต่างๆ

26. ประวัติผู้จัดทำ นางสาวรัตติกร เทพวงค์ ชื่อเล่น วิว อายุ 19 ปี หน้าที่ในการทำงาน หาข้อมูลในการทำงาน และเรียบเรียงข้อมูล

27. ประวัติผู้จัดทำ นางสาวอนุธิดา อิ่นติ๊บ ชื่อเล่น นาย อายุ 20 ปี หน้าที่ในการทำงาน หาข้อมูล และจัดทำ power point

28. ประวัติผู้จัดทำ นางสาวกฤติกา กิจจานนท์ ชื่อเล่น บี อายุ 19 ปี หน้าที่ในการทำงาน หาข้อมูลในการทำงาน และเรียบเรียงข้อมูล