Kiro หุ่นยนต์ครูอนุบาล.
- 3. “KIRO" หุ่นยนต์ ครูอนุบาล...จากแด
KIRO จะเปิดโอกาสให้เด็กๆ ในชั้นเรียนอนุบาลได้รับ
ความสนุกสนานจากการโต้ตอบกับหุ่นยนต์ผ่านทางเกมส์ และ
ซอฟต์แวร์เพื่อการศึกษา ซึ่งจะสอดแทรกด้วยพื้นฐานความรู้
ต่างๆ อย่างเช่น ตัวอักษรในภาษาอังกฤษ เด็กๆ จะสามารถ
สนุกกับโปรแกรมต่างๆ ได้ด้วยการสัมผัสหุ่นยนต์ด้วยบัตรไร้
สาย โดยผลจากการทดสอบ ครูในชั้นเรียนบอกว่า KIRO ทำา
ให้เด็กๆ มีความสนใจมากขึ้น อีกทั้งยังมีความคิดทีสร้างสรรค์
กว่าเดิมอีกด้วย รัฐบาลเกาหลีใต้กำาลังมีวิชั่นว่า หากเด็กๆ ที่
เรียนกับหุ่นยนต์แล้วมีพัฒนาการ ตลอดจนขีดความสามารถ
และความคิดสร้างสรรค์ที่ดีขึ้น ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำาหรับ
โครงการ
R-Learning (Robot Learning) ในอนาคต
- 4. ทางสถาบันหุ่นยนต์ยังได้โปรแกรมการทำางานให้ KIRO
ทำาหน้าที่เป็นไกด์ในพิพิธภัณฑ์ และห้องแสดงภาพศิลปะต่างๆ ซึ่ง
น่าจะได้รับความสนใจจากผู้เยี่ยมชมมากยิ่งขึ้น KIRO สามารถ
เคลื่อนที่ได้โดยอัตโนมัติ และหยุดตามบริเวณต่างๆ เพื่อให้ราย
ละเอียดเกี่ยวกับสิ่งของ สถานที่ หรือภาพศิลปะนั้นๆ แทนที่ผู้ชม
จะต้องเปิดอ่านจากหนังสือแนะนำาเล่มเล็กๆ ล่าสุดพิพิธภัณฑ์ต่างๆ
แสดงความสนใจในการนำาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ไปใช้มากมาย
เนื่องจากมันเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ในการชมงาน ทาง
สถาบันมีแผนที่จะทำาตลาดหุ่นยนต์ไปในประเทศต่างๆ อย่างเช่น
จีน สหรัฐฯ และยุโรป ตามกระแสความต้องการหุ่นยนต์บริการที่
กำาลังร้อนแรงอยู่ในตลาดขณะนี้
“KIRO" หุ่นยนต์ ครูอนุบาล...จากแด
- 5. “KIRO" หุ่นยนต์ ครูอนุบาล...จากแด
ข้อดี
1. เป็นการสร้างความสนใจกับเด็กอนุบาลในการกระตุ้นให้
นักเรียนเข้ามาเรียนหนังสือ
2. เป็นการทดลองสินค้าให้มีความน่าเชื่อถือว่าสามารถจะนำาหุ่น
ยนต์ไปใช้ได้จริงทั้งในโรงเรียนและพิพิธภัณฑ์
3. สามารถทำาให้ผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์มีความสะดวกสบายในการรับรู้
ข้อมูลที่ตนเองสนใจอยู่
4. ลดปัญหาการขาดไกด์ประชาสัมพันธ์ของพิพิธภัณฑ์
5. ลดปัญหาการใช้ปริมาณขยะเนื่องจากลดการผลิตสื่อที่เป็นกระ
ดาษมาแนะนำาผลงานศิลปะหรือข้อมูล วัตถุโบราณภายใน
พิพิธภัณฑ์
ข้อเสีย
1. อาจทำาให้คนตกงานเพิ่มมากขึ้นในอนาคตโดยเฉพาะงาน
ภายในพิพิธภัณฑ์เนื่องจากหุ่นยนต์ KIRO อาจจะมีต้นทุนตำ่ากว่า
เมื่อเทียบกับการจ้างคนทำางาน