Download to read offline
2557 โครงงาน(kr)
- 1. 1 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6 ปีการศึกษา 2557 ชื่อโครงงาน แพ็กกระเป๋าเที่ยวเกาหลี(ใต้) ชื่อผู้ทาโครงงาน 1. นางสาววัชรินทร์ โพธิ์ประสิทธิ์ เลขที่ 13 ชั้น ม.6 ห้อง 4 2. นางสาวชณัฏภัคน์ สุดโสม เลขที่ 41 ชั้น ม.6 ห้อง 4 ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2 ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ สมาชิกในกลุ่ม 1.นางสาววัชรินทร์ โพธิ์ประสิทธิ์ เลขที่13 2 .นางสาวชณัฏภัคน์ สุดโสม เลขที่ 41 คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้ ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) แพ็กกระเป๋าเที่ยวเกาหลี(ใต้) ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Preparing to travel in Korea ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ชื่อผู้ทาโครงงาน 1. นางสาววัชรินทร์ โพธิ์ประสิทธิ์ 2. นางสาวชณัฏภัคน์ สุดโสม ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ชื่อที่ปรึกษาร่วม - ระยะเวลาดาเนินงาน รวมทั้งสิ้น 2 สัปดาห์ ที่มาและความสาคัญของโครงงาน ในยุคปัจจุบัน ยุคที่การสื่อสารเป็นไปอย่างอิสระไร้พรมแดน รวดเร็วหลากหลายและไม่มีเส้นแบ่งของ สังคมและวัฒนธรรม เช่นเดียวกับสื่อมัลติมีเดียต่างๆ ที่เราสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นและหลากหลายขึ้นกว่าเดิม ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ว่าจะวัยไหนเพศไหน ก็ล้วนแล้วแต่ต้องเสพสื่อเหล่านี้ทั้งสิ้น เราใช้สื่อเหล่านี้ในการเรียนรู้ เข้าใจ และหาความสุขจากมัน และในบางครั้งสิ่งที่เราศึกษาจากสื่อก็เป็นวัฒนธรรมความรู้ความเข้าใจที่แปลกใหม่จาก หลากหลายสังคมเชื้อชาติหลายประเทศ จะเห็นได้ว่าวัฒธรรมต่างๆของประเทศเกาหลี มีอิทธิพลอย่างมากต่อสังคมไทยในปัจจุบันโดยเฉพาะ อย่างยิ่งในกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเห็นได้ชัดจากกระแสนิยมในกลุ่มวัยรุ่นที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการแต่งกาย ความงาม การบริโภคอาหาร ภาพยนตร์และแนวเพลงแบบเคป๊อบ ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นกระแสจากวัฒนธรรม เกาหลีทั้งสิ้น ซึ่งส่งผ่านมาทางสื่อมัลติมีเดียต่างๆ เช่น ภาพยนตร์ และเพลงมายังกลุ่มประชาชนในประเทศไทย และวัฒนธรรมเกาหลีก็ดูเหมือนจะเป็นที่นิยมและเติบโตขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย อันจะเห็นได้ว่าขณะนี้มีร้านอาหารแบบ เกาหลีเปิดใหม่มากขึ้น โฆษณาผลิตภัณฑ์ต่างๆก็นิยมใช้นักแสดงนักร้องเกาหลีเป็นพรีเซ็นเตอร์ ภาพยนตร์อย่าง ซีรี่เกาหลีและแนวเพลงกับท่าเต้นแบบเคป๊อบก็กาลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ยังไม่นับรวมถึงตลาด ผลิตภัณฑ์เครื่องสาอางเกาหลี วัฒนธรรมการแต่งกาย เสื้อผ้าและทรงผมจากเกาหลีที่ในปัจจุบันถือว่าเป็นตลาดที่ โตและได้รับความนิยมสูงมาก เรียกได้ว่าในประเทศไทยทุกวันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักวัฒนธรรมแบบเกาหลีแน่นอน ซึ่งแน่นอนว่าตัวการสาคัญที่นาพาวัฒนธรรมและค่านิยมเหล่านี้เข้ามานี้มาก็คือประชากรไทยที่เสพสื่อมัลติมีเดีย
- 3. 3 และชื่นชอบในวัฒนธรรมประเพณีของประเทศเกาหลีทั้งสิ้น ซึ่งก็เป็นผลดีต่อภาคธุรกิจในหลายๆด้าน เช่นธุรกิจ อาหาร ภาพยนตร์ การท่องเที่ยว และเครื่องสาอางที่เกี่ยวข้องหรือมาจากเกาหลีเติบโตขึ้นมากในเวลาอันรวดเร็ว ประเทศเกาหลีนับเป็นประเทศหนึ่งในแถบเอเชียที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากๆ ทั้งวิวทิวทัศน์ก็สวยงาม อากาศก็เย็นสบาย และที่สาคัญคืออัตราการแลกเปลี่ยนเงินของไทยต่อเกาหลีก็ถือว่าไม่แพงมากนักหากเทียบกับ ประเทศอื่นๆในเอเชียที่มีความโดเด่นใกล้เคียงกัน นักท่องเที่ยวไทยหัวใจเกาหลีจึงนิยมเดินทางไปเที่ยวประเทศ เกาหลีกันมาก เพราะนอกจากมีความชื่นชอบในวัฒนธรรมประเพณีของเกาหลีแล้ว ปัจจัยการเดินทางอื่นๆก็เอื้อ ให้ไปเยือนยังเกาหลีเสียทุกๆสิ่ง ดังนั้นจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันคนไทยก็นิยมไปเที่ยวเกาหลีกันมากขึ้นมีทั้งแบบไป กลุ่มไปคู่ ไปกับครอบครัวหรือไปกับทัวร์ แต่ไม่ว่าจะไปแบบไหนทุกๆคนล้วนแล้วแต่ต้องมีสถานที่ในใจหรือสิ่งที่ อยากจะทาเมื่อไปถึงอย่างแน่นอน และการเตรียมตัวก่อนการไปท่องเที่ยวต่างประเทศที่ดีนั้นก็ควรต้องวางแผน ให้ดีเสียก่อน ตั้งแต่ฤดูการช่วงเวลาที่ไปท่องเที่ยวของประเทศนั้นๆ สภาพอากาศขณะนั้นต้องจัดเตรียมเครื่องแต่ง กายให้เหมาะสม ยารักษาโรคที่จาเป็น วัฒนธรรมอาหาร อัตราค่าเงิน ร ระบบการคมนาคมการเดินทางต่างๆ สถานที่ท่องเที่ยวและขนบธรรมเนียมประเพณีของประเทศนั้นๆ ซึ่งเราควรมีความรู้เพื่อเตรียมพร้อมไว้ก่อนการ ท่องเที่ยวทั้งสิ้น เราจึงควรสืบค้นหาข้อมูลในหัวข้องต่างๆนี้จากแหล่งความรู้เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น อินเทอร์เน็ต หนังสือ หรือผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์เป็นต้น ด้วยความนิยมในการท่องเที่ยวประเทศเกาหลีนี้เอง ทาให้ผู้จัดทาอยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการ รวบรวมความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศเกาหลี สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่เป็นที่นิยม ประเพณีที่น่าสนใจ ให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวไทยหัวใจเกาหลีที่มีจานวนมากขึ้นในปัจจุบัน ให้ได้ศึกษาไว้เป็นความรู้พื้นฐานเบื้องต้น และจะได้นาไปวางแผนการท่องเที่ยวได้ต่อไป ส่วนผู้ที่ไม่ได้ไปท่องเที่ยวจริงๆที่ประเทศเกาหลี ก็สามารถนา ความรู้เหล่านี้ใช้เป็นความรู้ติดตัวไว้ได้ และจะได้เข้าใจในประเทศเกาหลีมากยิ่งขึ้นไปด้วย วัตถุประสงค์ 1.ศึกษาเกี่ยวกับสถานที่เที่ยวต่างๆในเกาหลี 2.เพื่อเป็นแนวทางให้กับคนที่อยากไปเที่ยวเกาหลี จะได้ไม่หลง 3.เป็นทางเลือกให้กับคนที่จะเที่ยว แต่ไม่รู้ควรจะเริ่มจากที่ไหน หรือสถานที่เที่ยวที่ใกล้กันมีส่วนไหนบ้าง 4.เพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยรู้ทาง 5.เพื่อสนองความต้องการของตัวเอง ซึ่งอยากจะลองเที่ยวเกาหลี 6.ลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จาเป็น เช่น ค่าเดินทางในบางส่วนซึ่งสามารถที่จะเดินเท้าได้ 6.เพื่อแนะนาคนที่อยากจะลองไปในที่นั้นๆ แต่ไม่รู้ว่าควรทาอย่างไรเมื่ออยู่ที่นั้นแล้ว ขอบเขตโครงงาน ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นที่ควรรู้ของประเทศเกาหลี รวบรวมข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวเฉพาะที่มีชื่อเสียงหรือได้รับความ นิยม โดยข้อมูลเหล่านี้จะเป็นความรู้เพียงเบื้องต้นเท่านั้น
- 4. 4 หลักการและทฤษฎี ประเทศเกาหลี ตั้งอยู่บนคาบสมุทรเกาหลี ระหว่างทะเลตะวันออ(EastSea) ใกล้ๆกับญี่ปุ่นกับทะเลเหลือง (Yellow Sea) ถูกแบ่งออกเป็นสอง ส่วนที่บริเวณเส้นขนานที่ 38 โดยมีเขตปลอดทหาร (Demilitarized Zone : DMZ) หรือพันมุนจอม (Panmunjeom) คั่นกลางไว้ด้านเหนือปกครองด้วยระบบคอมมิวนิสต์คือเกาหลีเหนือ โดยมีรัสเซียหนุนหลัง ส่วนด้านล่างปกครองด้วยระบบประชาธิปไตยโดยมีสหรัฐอเมริกาเข้ามามีบทบาทช่วยเหลือ นั่นคือเกาหลีใต้ เกาหลีใต้มีพื้นที่ 99,500 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาซึ่งมีถึงร้อยละ 70 ดังนั้น แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติของเกาหลีจึงมีมากมาย คนเกาหลีเองนิยมไปปีนเขากันในวันหยุดวันเสาร์ อาทิตย์ด้วย เกาหลีใต้มีประชากรประมาณ49 ล้านคน โดย 1 ใน 4 ของประชาการทั้งประเทศจะเข้ามาอาศัยและทางานใน กรุงโซลซึ่งเป็นเมืองหลวง สภาพภูมิอากาศ เกาหลีอยู่ในเขตอบอุ่นซึ่งมีอยู่ 4 ฤดูกาลใน 1 ปี - ฤดูใบไม้ผลิ เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม - เดือนพฤษภาคมอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 7 ถึง 13 องศาเซลเซียส - ฤดูร้อน ปลายเดือนมิถุนายน - เดือนกันยายนอุณหภูมิอยู่ระหว่าง25 ถึง 35 องศาเซลเซียส - ฤดูใบไม้ร่วง ปลายเดือนกันยายน - เดือนพฤศจิกายนอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 5 ถึง 15 องศาเซลเซียส - ฤดูหนาว เดือนธันวาคม - กลางเดือนมีนาคมอุณหภูมิอยู่ระหว่าง -10 ถึง 5 องศาเซลเซียส เวลา ประเทศเกาหลี เร็วกว่าประเทศไทย2 ชั่วโมง ภาษา ประชากรใช้ภาษาเกาหลีเป็นภาษาหลัก ส่วนภาษาอังกฤษสามารถใช้ได้กับประชากรส่วนน้อย เงินตราและบัตรเครดิต สกุลเงินของเกาหลีคือ วอน โดยสัญลักษณ์ "W" เหรียญกษาปณ์แบ่งออกเป็น1, 5, 10, 50, 100 และ 500 วอน ธนบัตรมี 1000, 5000 และ 10,000 วอน อัตราแลกเปลี่ยน อยู่ที่ประมาณ1,200 วอน ต่อ 1 เหรียญสหรัฐ ถ้านามา เทียบกับเงินบาทไทย 1 วอนจะมีค่าเท่ากับ0.030 บาท (อัตราตามธนาคารกรุงเทพ ณ วันที่07 เม.ย. 2553) การแลก เงินสามารถแลกได้ที่สนามบินเมืองไทยในวันเดินทาง(หากต้องการแลกที่สนามบินเกาหลีหรือ โรงแรมที่เกาหลีใต้ ต้องใช้เงินยูเอสดอลล่าร์ ($US) แลกเท่านั้น) เงินบาทไทย ใช้ที่เกาหลีไม่ได้และไม่มีที่รับแลกเปลี่ยน ถ้ามีเงินยูเอ สดอลล่าร์ นาไปแลกที่เกาหลี จะได้ราคาค่อนข้างดี บัตรเครดิต บัตรเครดิตสากลทุกชนิด ใช้ในตามร้านใหญ่ๆได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวงเงินที่ได้รับอนุมัติจากทางธนาคาร และแต่ละร้านนั้น ๆว่ารับบัตรเครดิตชนิดใด อาจจะถูกเรียกเก็บค่าบริการการใช้บัตรเพิ่ม ระบบไฟฟ้ า ระบบไฟฟ้าในเกาหลีใช้ไฟ 220 โวลต์ (เหมือนประเทศไทย) เป็นปลั๊กกลม2 หรือ 3 ขา (มีสายดิน) ฉะนั้นท่านที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น กล้องวิดีโอ โทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องเป่าผมควรมีปลั๊กแบบใช้ได้ทั่วโลกติดตัว ไปด้วย เพื่อความสะดวกของท่านกรุณาเตรียม ฟิล์มถ่ายรูป, แบตเตอร์รี่ ไปให้เพียงพอจากประเทศไทย
- 5. 5 สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ พระราชวังเคียงบก หอคอยโซลหมู่บ้านนัมซานกลฮันอก โรงละครแห่งชาติ ตลาดนัมแดมุน ตลาดทงแดมุน หมู่บ้านพื้นเมืองเกาหลี ป้อมฮวาซอง เอเวอร์แลนด์ อุทยานแห่งชาติเขา ซอรักซาน สถานเล่นสกียงเพียง (หุบเขามังกร) พิพิธภัณฑ์แท็ดดีแบร์ เกาะนามิ เทศกาลสาคัญ 1.เทศกาลภาพยนตร์เมืองปูซาน ตั้งแต่เดือน ก.ย.-ต.ค. ของทุกปี ผู้ที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์ต้องไม่พลาดเทศกาลหนังที่เมืองปูซานที่โรงละคร Nampo-dongและเวทีกลางแจ้งบริเวณอ่าว Suyeongman ในเทศกาลนี้ คุณจะได้ชมภาพยนตร์กว่า200 เรื่องจาก 60 ประเทศ รวมถึงหนังสารคดี และภาพยนตร์เคลื่อนไหวต่างๆ ปูซานหรือพูซานเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของเกาหลีรองจากกรุงโซล มีประชากรเกือบ 4 ล้านคน ตั้งอยู่บนทิศตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเกาหลีใต้และเป็นเมืองท่าหลักสาหรับการขนส่งสินค้าไปต่างประเทศ เช่นเดียวกับเป็นท่าเรือเฟอร์รี่ที่ขนส่งผู้โดยสารไปยังประเทศญี่ปุ่นและเกาะเจจู (เชจู) 2.เทศกาลดอกไม้บาน (ช่วงฤดูใบไม้ผลิ) - Jeju Canola Flower Festival ดอกยูแชเป็นดอกไม้ที่เหมือนเป็น สัญลักษณ์ของเกาะเชจูซึ่งในฤดูใบไม้ผลิจะออกดอกสีเหลืองบานสะพรั่งไปทั่ว ทั้งเกาะ เทศกาลดอกยูแชจึงถือเป็นเทศกาลหนึ่งที่โด่งดังมากของเกาะเชจูและมี ผู้คนทั้งคนเกาหลีเองและชาวต่างชาติเดินทางมาชมเทศกาลนี้โดยเฉพาะ - Yeongchwisan Azalea Festival งานนี้จัดที่เขายองชวี ตั้งอยู่ในเมืองยอซู โดยในฤดูใบไม้ผลิ เขาแห่งนี้จะกลายเป็นเหมือนทะเลสีชมพูด้วยดอกอะซาเลีย (ดอกกุหลาบพันปี) สาหรับในปีนี้เทศกาลดอกอะซาเลียได้ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่22 จากสถานีขนส่งเมืองยอซู สามารถนั่งรถบัสสาย 52 ไปลงที่วัดฮึงกุกซา - Ttangkkeut Maehwa Festival ดอกแมฮวา หรือ ดอกบ๊วย มักออกดอก เต็มที่ในช่วงปลายฤดูหนาวจนถึงต้นฤดูใบไม้ผลิ สาหรับงานนี้จัดขึ้นที่ไร่ดอกบ๊วย โบแฮ ที่เมืองแฮนัม ในงานมีกิจกรรมมากมายหลายอย่าง เช่น การเพนท์หน้า การประกวดภาพถ่ายดอกแมฮวา การแสดงพื้นบ้านเกาหลี เป็นต้น - Uiseong Sansuyu Flower Festival ดอกซานซูยู หรือ ต้นดอกวูด เป็นต้นไม้ที่มีดอกสีเหลือง พบในประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นต้นไม้ ที่นามาทาเป็นยาได้สาหรับงานเทศกาลดอกซานซูยูจัดขึ้นที่หมู่บ้านซานซูยู เมืองอึยซอง เปิดให้เข้าชมงานตั้งแต่ช่วงเช้าถึงกลางคืน โดยเฉพาะในตอนค่า นั้น จะมีการเปิดไฟเป็นแสงสีต่างๆ ยิ่งทาให้ดอกซานซูยูดูสวยงามมากขึ้น - Jeju Cherry Blossom Festival ดอกเชอรี่ เป็นดอกไม้สีชมพู มองเผินๆ ดู คล้ายดอกซากูระ หลายๆ คนจึงมักเรียกว่า"ซากูระเกาหลี"โดยบริเวณเมืองซอวีโป
- 6. 6 เกาะเชจู และ บริเวณสนามกีฬาของเกาะเชจูจะมีดอกเชอรี่บานเต็มไปหมดซึ่งดอกเชอรี่ที่เกาะเชจูนั้นถือว่าเป็น ดอกเชอรี่ที่มีดอกใหญ่และดูสวยงามมากที่สุด และจะบานเต็มที่ในช่วงวันที่ 4-6เมษายนของปีนี้ 3.เทศกาลโคลนโพเรียง (Boryong Mud festival) (ช่วงฤดูร้อน) เทศกาลโคลนโพเรียง เป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงเทศกาลหนึ่งของเกาหลี ทุกปีจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุม โลกเดินทางมาร่วมในเทศกาลด้วยเมืองโพเรียงเป็นเมืองที่มีภูมิประเทศอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรทั้งภูเขาและ ชายหาด ซึ่งไม่เพียงเป็นชายหาดที่ว่ายน้าเล่นได้เท่านั้นแต่ยังเป็นแหล่งโคลนชั้นดี ที่เมื่อ ปี 1996 ได้มีนักวิจัยเกาหลีจากหลายสถาบันค้นพบคุณค่าแร่ธาตุมากมายในโคลนโพเรียง ที่อุดมด้วยธาตุเจอร์มาเนียมและองค์ประกอบอื่นๆซึ่งมีประสิทธิภาพในการบาบัดผิวให้ กระชับสดใสขึ้นและจากัดสิ่งอุดตันตามรูขุมขนจึงเริ่มมีการนาโคลนมาทาเป็น เครื่องสาอาง เพื่อเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในปี 1998 จึงได้จัดงานเทศกาล โคลนโพเรียงขึ้นเป็นครั้งแรก พร้อมด้วยกิจกรรมสนุกสนานนานาและในปี 2004 เทศกาลโคลนโพเรียงยังได้รับรางวัลเทศกาลด้านวัฒนธรรมและบันเทิงยอดนิยมของ เกาหลีด้วย ซึ่งนอกจากการพอกโคลนที่เป็นที่นิยมในเทศกาลแล้วยังมีกิจกรรมอื่นๆ อาทิ การเล่นสไลเดอร์บนโคลน การเล่นถังโคลนยักษ์และโปรแกรมที่เต็มไปด้วยความ สนุกสนาน และการแข่งขันต่างๆรวมทั้งกิจกรรมและเกมชิงรางวัลมากมาย 4.เทศกาลระบาหน้ากากนานาชาติอันดอง (Andong International Mask Dance festival) (ช่วงฤดูใบไม้ร่วง) เทศกาลระบาหน้ากากนานาชาติอันดองจัดขึ้นริมแม่น้าในหมู่บ้านมีการแสดงระบาหน้ากากฮาโฮเป็นจุดเด่นรวมถึง ระบาหน้ากากของเกาหลีและของต่างประเทศและละครฮาโฮเบียวซินกุต ทัลลอรี (Hahoe Byeolsingut Tallori) ละครราหน้าการนักบวชซึ่งได้มีการเล่นมากว่า500 ปีในหมู่บ้านฮาโฮ ซึ่งสวดขอพรเทวดาผู้พิทักษ์ให้มีสุขภาพดี และสันติสุขในชุมชน เพิ่มเติมสีสันด้วยคาถากถางอันเผ็ดร้อนต่อบรรดาชนชั้นสูงที่ทุจริตและพระที่กระทาผิดหรือ พระที่ฟุ่มเฟือย 5.เทศกาลตกปลาน้าแข็ง (Icefish festival) (ช่วงฤดูหนาว) เทศกาลตกปลาน้าแข็ง เป็นเทศกาลที่สร้างความคึกคักให้กับเกาหลีในช่วงฤดูหนาวอย่างมากหากคุณไปจะได้เปิด ประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับชีวิตโดยเทศกาลตกปลาน้าแข็งที่เกาหลีใต้มีจัดอยู่2 แห่งคือ Inje Ice Fishing Festiva เทศกาลตกปลาน้าแข็งเมืองอินเจ เป็นเทศกาลที่มีจัดกันมาอย่างต่อเนื่องยาวนานหลายสิบปีของเมืองอินเจ โดยสถานที่จัดงานจะใช้พื้นที่ในเขื่อนที่ห้อมล้อมด้วยภูเขาทรงสวยของทะเลสาบโซยัง(Soyang) ในเขตภูเขานัน ซอรัก อุทยานแห่งชาติโซรักซาน ส่วนปลาที่นิยมตกกันในงานเทศกาลตกปลาน้าแข็งเมืองอินเจเป็นหลาบิงงอหรือ ปลานางฟ้าตัวเล็กใสตกมาแล้วจิ้มทั้งตัวลงในซอสพริกเกาหลีเอาเข้าปากได้ทันที แบบกินสด ๆ นอกจากจะ สามารถตกปลาได้ฟรีแล้วยังมีเครื่องเล่นไว้ให้บริการพร้อมสรรพ ไม่ว่าจะเป็นรถหนอนหิมะสีสด รถโฟร์วีลที่พา ผู้โดยสารดริฟบนหิมะอย่างเมามันหรือเอทีวีคันจิ๋วที่สามารถขับตะลุยบนน้าแข็งได้เองนอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการ แข่งขันสุนัขลากเลื่อนเชิงแชมป์เกาหลี โบว์ลิ่งคนและไอซ์ฟุตบอล และภายในงานเทศกาลยังจัดโซนต่างๆ ให้ นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมอีก
- 7. 7 ********************************************** 10 อันดับเมืองสุดฮิต ของเกาหลีใต้ อันดับ1– กรุงโซล เมืองเศรษฐกิจหลักและเมืองหลวงของประเทศ กรุงโซลเป็นอย่างหลอมรวมของวัฒนธรรม ยุคสมัยเก่าเช่นวัดโบราณ และสมัยใหม่อย่างตึกสูง โรงแรม เขตเศรษฐกิจเข้าด้วยกันเพราะแบบนี้คุณจะเห็นตึกสูง รวมทั้งวัดต่างๆรวมอยู่ในชุมชนเดียวกัน กรุงโซลนี้ยังมีสถานที่ต่างๆอีกมากมายให้ได้ไปเที่ยวกันหากมาเที่ยว กันเองลองหาร้านอาหารข้างทางอร่อยกิน , เที่ยวห้างหรู หรือแม้แต่ไปเที่ยวผับ - ตึก N Seoul Tower ที่อยู่บนภูเขาของกรุงโซลนั้นเดินทางไปไม่ยาก และเป็นสถานที่ที่ห้ามพลาดเป็นอัน ขาด เพราะเป็นจุดชมวิวสาคัญมองเห็นได้รอบเมืองแถมเลยออกไปยังจังหวัดอื่นด้วยซ้า - Changdeokgungปราสาทที่สวยงามสุดๆตามแบบของเกาหลี ที่ได้รับอิทธิพลสถาปัติแบบจีน อันดับ2 – เกาะเจจู เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่กาลังเป็นที่นิยมทั้งในหมู่คนเกาหลีและชาวต่างชาติ มี สถานที่เหมาะๆสาหรับคู่รักมากมาย ยกตัวอย่างเช่น นั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นลงสุดโรแมนติก ริมชายหาดแสนสวยไม่ เพียงเท่านี้ที่เกาะเจจูยังมีภูเขาHalla ที่เป็นจุดที่สูงที่สุดของประเทศเกาหลี ที่นักท่องเที่ยวสามารถไต่เขาขึ้นไปชม ความงดงามของทะเลสาป Baeknok ได้ด้วยที่เกาะเจจูนี้คุณยังจะได้สัมผัสกับชีวิตการล่าสัตว์น้าของนักดาน้าหญิง ซึ่งเป็นวิถีชีวิตที่แปลกเพราะธรรมดาต้องเป็นผู้ชายที่เป็นคนหาปลาแต่นี่เป็นเพศหญิงแทนอีกอย่างที่แปลกจนคน พูดถึงอยู่บ่อยๆก็คือรูปปั้นประหลาด คล้ายๆครึ่งเห็นครึ่งคนแก่ที่กระจายอยู่รอบๆเกาะเจจูแห่งนี้ อันดับ3 – เมืองบูซาน เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเมืองบูซาน มักจะ เยี่ยมชมวัด Beomeosa ที่ตั้งอยู่ในป่าล้อมรอบด้วยหุบเขา ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นที่นิยมมากและดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็น จานวนมากในทุกๆปี นอกจากนั้นเมืองบูซานยังขึ้นชื่อมากในกิจกรรมการปีนเขา แถมในเรื่องของการช็อปปิ้ง สถานบันเทิงต่างๆยังไม่มีแพ้กรุงโซลเลย
- 8. 8 อันดับ4 อินช็อน เมืองอินช็อนเป็นอีกเมืองที่กาลังก้าวกระโดดในทุกๆด้านทั้งในด้านศิลปะ วัฒนธรรมและด้าน เศรษฐกิจ เห็นได้จากตึกสูงขึ้นกันเยอะมากในช่วงห้าปีที่ผ่านมาและที่สาคัญในปี 2014 เมือง Incheonยังจะ กลายเป็นเมืองศูนย์กลางเจ้าภาพAsian Game 2014 ซึ่งจะดูดหลายได้มหาศาลเข้าประเทศอีกด้วยนอกจากนั้นเมือง Incheon ยังมีแหล่งช็อปปิ้งเก๋ๆ ให้เลือกเดินเลือกช็อปกันที่เขต Bupyeong ซึ่งไม่ไกลนักจะมี China Townซึ่งเป็น China Town ที่เดียวของประเทศเกาหลีด้วย หากคุณไปเที่ยวเกาหลีคุณสามารถใช้เวลาเกือบทั้งวันให้หมดไปกับ การเลือกเดินเลือกซื้อของจากที่นี่เลยแหละ และถ้าเหน็ดเหนื่อยจากการเที่ยวการช็อปคุณสามารถนั่งเรือเฟอรี่ไปที่ เกาะใกล้ๆกับเมือง เพื่อชมทะเลสาปเมือง Incheonได้ด้วย อันดับ5 – โซกวิโพ เมืองโซกวิโพ (Seogwipo) อยู่ทางตอนใต้ของเกาะเจจู มีโรงแบบเก๋ๆ, ผาหินสวยๆ, ชายหาด ยอดฮิต รวมไปถึงน้าตกสุดตระการตาเมืองชายหาดแห่งนี้มีกิจกรรมทางทะเลให้ทามากมาย เช่น ดาน้า, ทัวร์เรือดา น้า แถมยังมีร้านอาหารหลายแห่งที่มีพ่อครัวที่มีฝีมือเป็นเลิศในการทาอาหารทะเล และ อาหารพื้นเมืองแสนอร่อย นอกจากนั้นหากเข้าไปในตัวเมืองยังมี วัด พิพิธภัณฑ์สวนสนุกรวมทั้ง สวนพฤกษชาติให้เข้าชมอีกด้วยหากอยาก ไปดูสนามฟุตบอลที่เคยใช้แข่งขันฟุตบอลโลกก็สามารถเข้าชมได้เช่นกัน อันดับ6 – Yeosu แต่ก่อนนั้นไม่ค่อยมีผู้คนสนใจที่จะมาเที่ยวที่นี่มากนักแต่หลังจากที่ได้ถูกเลือกให้เป็นเมือง เจ้าภาพของงาน World Expo 2013เมือง Yeosuก็ได้กลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวและทัวร์ต่างๆมากมายที่จะ มาลงที่นี่ เมือง Yeosu ซึ่งเป็นเมืองชายหาด ซึ่งยังมีความสวยงามตามแบบฉบับชนบทของเกาหลีอยู่ถึงแม้ว่าความ เจริญจะรุกคืบเข้ามาทาลายความเป็นธรรมชาติไปมากกว่าแต่ก่อนก็ตาม สถานที่ท่องเที่ยวที่สาคัญของ Yeosuก็มี เรือเต่าที่เคยใช้ทาศึกชนะทัพเรือญี่ปุ่นมาแล้ว (ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากของคนเกาหลี), หาดทรายดาที่ เป็นผลมาจากปล่องภูเขาไฟ ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมเป็นอย่างมาก, ตลาดอาหารทะเลสดยังเป็น ที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้อีกด้วย
- 9. 9 อันดับ7 – Gangneungชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ Gangneung นั้นสวยกว่าที่อื่นเป็นไหนๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ Jeongdongjin ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ขึ้นชื่อเพราะว่ามีจุดที่พระอาทิตย์ขึ้นลงที่สวยที่สุดในประเทศเกาหลีเลยก็ว่าได้ ตั้งอยู่ห่างไม่ไกลนัก ประมาณ18 กิโลเมตรจากทางอตอนตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองGangneung นอกจากนี้ตัว เมือง Gangneungเองยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย หาดทรายและพิพิธภัณฑ์ของที่นี่รับรองว่าไม่แพ้ที่ไหนๆใน เกาหลีใต้แน่นอน สวน Tongil มีเรือรบและเรือดาน้าที่ทาให้เด็กๆที่มาท่องเที่ยวได้ร้องว้าวอย่างแน่นอน ส่วนคุณ ผู้ใหญ่ที่ชอบศิลปะและสถาปัตยกรรม Hallas Art World เป็นจุดที่มีศิลปะและสถานปัตร่วมสมัยที่ขึ้นชื่อระดับโลก ให้ไปเยี่ยมชมอีกด้วย อันดับ8 – จอนจู จอนจูเป็นเมืองที่เป็นสวรรค์ของนักชิมตัวยงเมืองแห่งนี้โด่งดังมาจากร้านอาหารต่างๆในเมือง จน UNESCO ประกาศให้เมืองจอนจูได้รับรางวัลเมืองที่มีความสร้างสรรค์ในศาสตร์การทาอาหารการได้มาเยือน เมืองจอนจูแห่งนี้ หากอยากสัมผัสรสชาติของเมืองเต็มๆ ก็ไม่มีอะไรมากนอกจากอาหารที่ขึ้นชื่อของเมืองจอนจูมี มากมายจนนับไม่ถ้วน แต่ที่นิยมก็คือBibimbap และ Kongnamul gukbap เมื่ออิ่มแล้วคุณอาจจะปีนขึ้นเขาไปดูส ถาปัตโปราณสวยๆที่ทางเกาะจอนจูรักษาไว้เป็นอย่างดีคือOmokdae และ Imokdae หรือจะเข้าชมสนามแข่งขัน ฟุตบอลโลกก็เป็นความคิดที่ไม่เลวเลยทีเดียวนอกจากนี้ในปลายเดือนเมษาทุกๆปี ยังมีเทศกาลภาพยนต์Jeonju InternationalFilm Festival เป็นเวลา 1 สัปดาห์ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ราว 50,000 คนต่อปีเลยทีเดียว อันดับ9 – เมือง Changwon Changwonเป็นสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติและผู้ที่ชอบชมนกนานาพันธุ์จนเมื่อ เร็วๆนี้ประกาศให้มีเทศกาลชมนก3 วัน ประจาปีอีกด้วยซึ่งนกจากทั่วโลกจะอพยพผ่านมาทางนี้ทุกๆปี ซึ่งสวน Junam Wetlands เป็นสถานที่ที่เหมาะมากกับการชมนก หลายพัน สายพันธุ์บินไปมาจนคุณอาจจะตาลายใกล้ๆกับ เมือง Changwon ยังมีโชว์Musical Fountain ที่ Yongji Lake ซึ่งน่าไปเยี่ยมชมพอๆกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Gyeongnam เมือง Changwon มีบ่อน้าพุร้อนที่มีความร้อนมาจากภูเขาไฟ ตั้งอยู่หลายจุดรอบเมืองซึ่งหากคุณอยากพักผ่อนด้วย การแช่น้าอุ่นสบายๆคุณสามารถหาบ่อน้าพุร้อนได้ตามโรงแรมและสปารอบๆตัวเมือง Changwon
- 10. 10 อันดับ10 – เมืองJeongseon เมืองหุบเขาที่มีกลิ่นอายของบรรยากาศสมัยก่อนJeonseon ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ในหุบ เขา ตั้งอยู่ที่เขตกางวอน มีแหล่งท่องเที่ยวสาคัญคือตลาด5 วัน ที่นี่มีสมุนไพรธรรมชาติ นานาชนิดที่หาได้เฉพาะ ในประเทศเกาหลีขายให้นักท่องเที่ยวและคนเกาหลีเองด้วยความเป็นอยู่แบบสมัยก่อน จึงทาให้คนที่เมือง Jeongseonแห่งนี้มีน้าอกน้าใจดี และเป็นมิตรอย่างมากกับนักท่องเที่ยวและถ้าหากอยากได้บรรยากาและความทรง จาดีๆจากที่นี่ คุณต้องมานั่งเสื่อจิบไวร์เกาหลี(มอกโกลี) กินบะหมี่ โกโดงชิกิ รับรองว่าคุณจะไม่ลืมเมืองนี้เลยซึ่ง เมืองนี้เป็นเมืองแนะนาเป็นอย่างยิ่งถ้าคุณมาเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง วิธีดาเนินงาน แนวทางการดาเนินงาน ศึกษาข้อมูลผ่านทางอินเทอร์เน็ต นามาวิเคราะห์และคัดเลือกสรุปเนื้อหาร่วมกัน แล้วร่างโครงงาน จากนั้น ดาเนินงานตามร่างโครงงานที่วางไว้ เสนอความคิดเห็นของผู้จัดทาที่มีต่องาน เพื่อปรับปรุงงานในขั้นสุดท้าย เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ 1.คอมพิวเตอร์ 2.อินเทอร์เน็ต งบประมาณ 100 บาท ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน ลาดับ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 0 1 1 12 1 3 1 4 1 5 16 17 1 คิดหัวข้อโครงงาน / น.ส.ชณัฏภัคน์ 2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล / น.ส.วัชรินทร์ 3 จัดทาโครงร่างงาน / ร่วมกัน 4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน / ร่วมกัน 5 ปรับปรุงทดสอบ ร่วมกัน 6 การทาเอกสารรายงาน / น.ส.วัชรินทร์ 7 ประเมินผลงาน / น.ส.ชณัฏภัคน์ 8 นาเสนอโครงงาน
- 11. 11 ผลที่คาดว่าจะได้รับ ผู้ที่สนใจและผู้ที่พบเห็นสามารถนาความรู้จากข้อมูลที่รวบรวมไว้ข้างต้นนี้ ไปใช้ประโยชน์ต่อไปได้ไม่มากก็ น้อย และทาให้ผู้อ่านผู้จัดทาได้รู้จักประเทศเกาหลีมากขึ้น เกิดความประทับใจในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆด้วย สถานที่ดาเนินการ 1.โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย 2.บ้านของผู้จัดทา กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง - สาระเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร - สาระสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม แหล่งอ้างอิง http://amazingthaisea.com http://www.tourtooktee.com http://www.thaitravelcenter.com http://www.dek-d.com