1. ข้อสอบเอ็นทรานซ์ สังคม มีนาคม 2546
1) มนุษย์สามารถสร้างระบบความสัมพันธ์ทางสังคมที่ซับซ้อนใด้เพราะเหตุใด
1. มนุษย์มีระบบการแต่งกายที่แบ่งแยกหน้าที่หลายด้าน
2. มนุษย์มีขนาดของมันสมองใหญ่กว่าสัตย์อื่น
3. มนุษย์มีภาวะการเป็นทารกมากกว่าสัตว์อื่น
4. มนุษย์มีลาตัวตั้งตรงทาให้มีมืออิสระ 2 มือ
2 ) ข้อใดเป็นตัวอย่างของวัฒนธรรมที่ไม่ใช่วัตถุ
1. นารีเรียนได้เกรด 4 พ่อจึงซื้อโทรศัพท์มือถือให้เป็นรางวัล
2. คุณยายนิ่มทาพินัยกรรมยกที่ดินให้วัดเป็นสาธารณะกุศล
3. สารวยขายข้าวได้ราคาดี จึงซื้อรถอีแต๋นไว้ใช้งาน
4. บังอรสวมแหวนหมั้นที่คู่หมั้นซื้อให้ที่นิ้วนางซ้าย
3 ) กลุ่มคนกลุ่มใดไม่ถือว่าเป็นสังคม
1. ผีตองเหลือง
2. ชาวสลัมในเมือง
3. คนต่างด้าว
4. ผู้คนที่ติดอยู่บนเกาะ
4 ) พฤติกรรมในข้อใดคือตัวอย่างของบทบาท
1. สมควรไปเรียนอย่างสม่าเสมอเพราะครูสอนสนุก
2. สมศักดิ์ขายพวงมาลัยตอนเย็นเพื่อแบ่งเบาภาระของพ่อแม่
3. สมชายได้รับเลือกเป็นพนักงานตัวอย่างเพราะมีความรับผิดชอบสูง
4. สมหมายพยายามค้นคว้าหาความรู้เพื่อเตรียมสอบสัมภาษณ์เข้าทางาน

2. 5 ) สถาบันศาสนาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมในแง่ใด
1. มีพิธีกรรมที่ศาสนิกชนต้องถือปฏิบัติ
2. เป็นส่วนสาคัญส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของคน
3. มีถาวรวัตถุต่างๆ ที่ลักษณะเฉพาะของตนเอง
4. มีระบบความเชื่อเกี่ยวกับมนุษย์ธรรมชาติและจักรวาล
6 ) ข้อใดมีลักษณะเป็นสถานภาพที่ติดตัวมามากที่สุด
1. พี่ของพ่อ
2. แม่ตัวอย่าง
3. คนทรงเจ้า
4. พ่อบุญธรรม
7 ) ตัวอย่างใดสะท้อนความสัมพันธ์แบบทุติยภูมิ
1. นักเรียนโรงเรียนเดียวกัน
2. พ่อค้ากับลูกค้าประจา
3. แม่สามีกับลูกสะใภ้
4. กระเป๋ ารถเมล์กับคนขับ
8 ) ข้อใดคือพื้นฐานวัฒนธรรมดั้งเดิมของไทย
1. กสิกรรมที่ราบลุ่มแม่น้า
2. พระพุทธศาสนา
3. ศาสนาพราหมณ์
4. การติดต่อค้าขายกับสังคมอื่น

3. 9 ) ข้อใดถูกต้องที่สุด
1. การเปลี่ยนแปลงทางสังคมเป็นการเปลี่ยนแปลงทั้งสังคม ส่วนการเปลี่ยนแปลงทาง
วัฒนธรรมอาจเปลี่ยนแปลงเพียงบางส่วนของสังคม
2. การเปลี่ยนแปลงทางสังคมเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบแผนความสัมพันธ์ระหว่างคนใน
สังคม ส่วนการ เปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมเป็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านระบบคิดของคน
ในสังคม
3. การเปลี่ยนแปลงทางสังคมเป็นการเปลี่ยนแปลงความมีระเบียบของคนในสังคม ส่วนการ
เปลี่ยนแปลง ทางวัฒนธรรมเป็นการเปลี่ยนแปลงรสนิยมของคนในสังคม
4. การเปลี่ยนแปลงทางสังคมเป็นการเสียระเบียบของสังคม ส่วนการเปลี่ยนแปลงทาง
วัฒนธรรมเป็น การสูญเสียขนบประเพณีอันดีงามของสังคม
10 ) อริยมรรคเกี่ยวข้องกับไตรสิกขาที่ว่าด้วยปัญญา
1. สัมมาทิฐิ
2. สัมมาสติ
3. สัมมาวายามะ
4. สัมมากัมมันตะ
11 ) หลักศรัทธาของพระเจ้าศาสนาอิสลามมีความหมายว่าอย่างไร
1. พระอัลลอฮเป็นพระเจ้าผู้สร้างและผู้ลิขิต
2. เอกภาพของมุสลิมขึ้นอยู่กับการนับถือ
3. พระอัลลอฮทรงเป็นพระเจ้าพระองค์เดียว
4. พระเจ้าบัญชาให้ศรัทธาในพระมูฮัมมัดเพียงองค์เดียว
12 ) ตามหลักศาสนาคริสต์ความศรัทธาในพระเจ้าแสดงออกในรูปแบบใดมากที่สุด
1. การสารภาพบาป
2. การไปโบสถ์เป็นประจา
3. การสวดภาวนาต่อพระเจ้า
4. การมีความรักในเพื่อนมนุษย์

4. 13 ) คาว่า "กาม" ในปุรุษรถะ มีความหมายว่าอย่างไร
1. ความใคร่ในกามารมณ์ซึ่งควรละให้ได้
2. ความรักซึ่งเป็นสายสัมพันธ์ของมนุษย์
3. กิเลสทั้งหลายของมวลมนุษย์
4. การหาความสุขในชีวิตครอบครัวตามแนวทางศาสนา
14 ) ข้อใดมีลักษณะของระบอบการเมืองการปกครองแบบเผด็จการน้อยที่สุด
1. รัฐสังคมนิยม
2. ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
3. ลัทธิฟาสซิสต์
4. ลัทธิคอมมิวนิสต์
15 ) การปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภามีหลักการที่สาคัญตามข้อใด
1. ประธานาธิบดีและนายยกรัฐมลตรีมีส่วนร่วมกันใช้อานาจบริหาร
2. ประธานาธิบดีและรัฐสภาได้รับการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน
3. รัฐสภาและคระรัฐมนตรีมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด
4. เป็นการใช้ระบบการแยกอานาจระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่าบริหาร และฝ่ายตุลาการ
16 ) รูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยใกล้เคียงกับประเทศไดมากที่สุด
1. บรูไน
2. สิงคโปร์
3. ลาว
4. เกาหลีใต้

5. 17 ) การปกครองที่ให้อานาจนิติบัญญัติ อานาจบริหาร และอานาจตุลาการเป็นอิสระเพื่อถ่วงดุลกัน คือ การ
ปกครองประชาธิปไตยแบบใด
1. รัฐสภา
2. กึ่งรัฐสภา
3. ประธานาธิบดี
4. กึ่งประธานาธิบดี
19 ) ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
1. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีจานวน 500 คน
2. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตมีจานวน 400 คน
3. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งมีวาระการดารงตาแหน่ง 4 ปี
4. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ไปเป็นรัฐมนตรีไม่ต้องออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทน
ราษฎร
20 ) องค์กรใดที่ทาหน้าที่ควบคุมและดาเนินการจัดให้มีการออกเสียงประชามติตามที่กฎหมายกาหนด
1. ศาลรัฐธรรมนูญ
2. กระทรวงมหาดไทย
3. รัฐมนตรี
4. อธิบดี
21 ) ความมุ่งหวังที่สาคัญที่สุดของนักการเมืองคือข้อใด
1. การได้เป็นผู้บริหารประเทศ
2. ข้อใดมิใช่ลักษณะสาคัญของกฎหมาย
3. การรักษาผลประโยชน์ของนักการเมือง
4. การได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

6. 22 ) ข้อใดมิใช่ลักษณะสาคัญของกฎหมาย
1. จะต้องมีสภาพบังคับ
2. จะต้องมีกระบวนการในการจัดทากฎหมาย
3. จะต้องมีผลบังคับเป็นการทั่วไป
4. จะต้องมีประสิทธิภาพในการบังคับได้มากว่ากลไกลอื่น
23 ) ลิขสิทธิ์ได้มาเมื่อใด
1. แจ้งข้อมูลที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา
2. ขอหนังสือรับรองจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา
3. จดทะเบียนกับกรมทรัพย์สิมนทางปัญญา
4. สร้างสรรค์งานขึ้นด้วยตัวเอง
24 ) ข้อใดเป็นความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์
1. ยักยอกทรัพย์สินของผู้อื่นแล้ววิ่งหนี
2. ลักทรัพย์ของผู้อื่นแล้ววิ่งหนี
3. ลักทรัพย์ของผู้อื่นโดยการฉกฉวยเอาซึ่งหน้า
4. ชิงทรัพย์ของผู้อื่นจนได้ทรัพย์ของผู้นั้นไป
25 ) ข้อใดเป็นอานาจของศาลปกครอง
1. ทาหน้าที่ในการวินิจฉัยการใช้อานาจของคณะรัฐมนตรี
2. ทาหน้าที่ในการวินิจฉัยข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างเอกชนและนิติบุคคล
3. ทาหน้าที่ในการวินิจฉัยข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างเอกชนองค์กรนิติบุคคลตามกฎหมาย
มหาชน
4. ทาหน้าที่ในการวินิจฉัยข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างเอกชนกับรัฐภายใต้กฎหมายอาญาซึ่ง
เป็นกฎหมายมหาชน

7. 26 ) นายดาขายรถยนต์ให้นายแดงโดยโอนรถให้เป็นชื่อนายแดง แต่ยังไม่ได้ส่งมอบรถให้นายแดง ในวัน
เดียวกันนายดาได้ขายรถและมอบรถคันเดียวกันให้นายขาว ดังนี้ใครมีสิทธิเป็นเจ้าของ
1. นายดา เพราะนายแดงและนายขาวยังไม่ได้ชาระราคา
2. นายแดง เพราะได้รับการโอนชื่อแล้ว
3. นายขาว เพราะได้รับรถยนต์มาอยู่ในความครอบครอง
4. นายแดงหรือนายขาว แล้วแต่จะตกลงกัน
27 ) การสืบสวนและการสอบสวนในคดีอาญาต่างกันอย่างไร
1. การสืบสวนคือการจัดหาพยานหลักฐานตามความผิดที่ได้มีการกล่าวหา การสอบสวนคือ
การสอบพยานและข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานเพื่อหารายละเอียดแห่งความผิด
2. การสอบสวนคือการแสวงหาข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานเพื่อทราบรายละเอียดแห่ง
ความผิด การสอบสวนคือการรวบรวมพยานหลักฐานในความผิดที่ได้มีการกล่าวหา
3. การสืบสวนและสอบสวนเป็นอานาจของเจ้าหน้าที่ของตารวจ
4. การสืบสวนเป็นอานาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตาตรวจ การสอบสวนเป็นอานาจหน้าที่ของ
พนักงานอัยการ
28 ) เพราะเหตูใดภูเขาหินปูนจึงมียอดเขาหยักแหลม
1. เพราะหินปูนมีการแตกหักได้ง่าย
2. เพราะหินปูนละลายน้าได้ง่าย
3. เพราะหินปูนมีโครงสร้างโปร่งจึงทรุดตัวง่าย
4. เพราะโครงสร้างภูเขาหินปูนมักมีหินแกรนิตแทรกอยู่

8. 29 ) ข้อใดกล่าวถึงแม่น้าเจ้าพระยาได้ถูกต้อง
1. แม่น้าปิง วัง ยม และน่านไหลมาบรรจบกันที่ตาบลปากน้าโพ อาเภอเมือง จังหวัด
นครสวรรค์ กลายเป็นแม่น้าเจ้าพระยา
2. แม่น้าปิงไหลไปบรรจบกับแม่นาวัง แล้วไหลไปรวมกับแม่น้ายมและแม่น้าน่านที่อาเภอ
เมือง จังหวัดนครสวรรค์ กลายเป็นแม่น้าเจ้าพระยา
3. แม่น้าปิงไหลไปลงแม่น้าวัง และไหลไปรวมกับแม่น้าน่านที่อาเภอปากน้าโพ จังหวัด
นครสวรรค์ กลายเป็นแม่น้าเจ้าพระยา
4. แม่น้าปิงแม่น้าน่านไหลมาบรรจบที่กันระหว่างตาบลแควใหญ่กับตาบลปากน้าโพ อาเภอ
เมือง จังหวัดนครสวรรค์ กลายเป็นแม่น้าเจ้าพระยา
30 ) ข้อใดไม่ใช่ความจริงเกี่ยวกับแม่น้าโขง
1. ไหลผ่านทะเลสาบเขมร เป็นแหล่งปลาน้าจืดที่สาคัญแห่งหนึ่งของภูมิภาคนี้
2. ไหลออกทะเลที่ประเทศเวียดนาม สร้างดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้า
3. สามเหลี่ยมทองคาเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้าโขงและแม่น้ารวก
4. เป็นแหล่งอาศัยตามธรรมชาติของปลาบึกซึ่งมีแห่งเดียวในโลก
31 ) เพราะเหตุใดพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือจึงมีปริมาณน้าฝนมากกว่าทางตะวันตกของภาค
1. มีระยะทางอยู่ใกล้ทะเลมากกว่า
2. ได้รับอิทธิพลจากพายุหมุนเขตร้อน
3. ได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
4. มีเทือกเขาในประเทศลาวเป็นแนวปะทะลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
32 ) การที่ฝนตกหนัก ลมแรง บางครั้งมีฟ้าผ่าและลูกเห็บตก เกิดเป็นบริเวณแคบๆ ในระยะสั้น เป็นลักษณะ
ของพายุฝนฤดูใด
1. พายุฝนดีเปรสชัน- ต้นฤดูฝน
2. พายุโซนร้อน - ปลายฤดูฝน
3. พายุฝนคะนอง - ฤดูร้อน
4. พายุหมุนเขตร้อน-ช่วงเปลี่ยนฤดู

9. 33 ) ข้อใดถูกต้องสาหรับลักษณะภูมิประเทศที่เกิดจากแม่น้าและเหมาะสาหรับกิจกรรมใด
1. มีทะเลสาบรูปแอก แม่นาโค้งตวัด เหมาะแก่การตั้งถิ่นฐาน
2. ลานตะพักลาน้า มีระดับสูงกว่าที่ราบน้าท่วมถึง เหมาะสาหรับปลูกข้าว
3. ดินดอนสามเหลี่ยม พบบริเวณที่แม่น้าไหลออกทะเล เหมาะสาหรับเยงกุ้งกุลาดา
4. ที่ราบน้าท่วมถึง เป็นที่สะสมของวัสดุน้าพาทุกขนาด เหมาะแก่การยกร่องปลูกไม้ผล
34 ) เพราะเหตุใดลมตะเภาจึงพัดไปตามแนวลุ่มแม่น้าเจ้าพระยา
1. เนื่องจากมีศูนย์ความกดอากาศต่าเกิดขึ้นในที่ราบภาคกลาง ความกดอากาศสูงเกิดขึ้นใน
อ่าวไทย
2. เนื่องจากมีศูนย์ความกดอากาศสูงเกิดขึ้นในที่ราบภาคกลาง ความกดอากาศต่าเกิดขึ้นใน
อ่าวไทย
3. เป็นลมก่อนมรสุมฤดูร้อนที่พัดไปตามอิทธิพลของมรสุมฤดูร้อน
4. แม่น้าเจ้าพระยามีความกดอากาศต่าตามแนวแม่น้า ลมจึงพัดตามแนวความกดอากาศต่านั้น
35 ) เหตุใดอุณหภูมิในรอบปีของภาคเหนือจึงแตกต่างกันมาก
1. อากาศโปร่งแจ่มใส พื้นดินคายความร้อนได้เร็ว
2. อิทธิพลจากมหาสมุทรเข้าถึงได้น้อย
3. ป่าไม้ส่วนมากเป็นป่าเบญจพรรณ ดูดซับความร้อนได้เร็ว
4. พื้นที่เป็นภูเขาสูง ฤดูหนาวจึงมีอุณหภูมิต่า
36 ) เขาหินปูที่พบในภาคเหนือและภาคตะวันตกมีความสาคัญทางเศรษฐกิจอย่างไร
1. เป็นแหล่งวัตถุดิบอุตสาหกรรมก่อสร้าง และเป็นแหล่งท่องเที่ยว
2. เป็นบริเวณที่มีอากาศดี เหมาะสาหรับการนันทนาการ
3. เป็นเขตที่มีแร่โลหะต่างๆ เหมาะสาหรับการตั้งโรงงาน
4. เป็นเขตแร่รัตนชาติ ทาเกิดอุตสาหกรรมอัญมณี

10. 37 ) ปัญหาชะล้างพังทลายของดินจะเกิดรุนแรงในบริเวณที่มีสภาพการใช้ที่ดินลักษณะใด
1. การทาสวนยางบริเวณที่ดอนภาคใต้
2. การทาไร่ยาสูบบริเวณที่สูงภาคเหนือ
3. การทานาบริเวณที่ราบเชิงเขาภาคตะวันตก
4. การทาสวนมังคุดบริเวณที่เนินภาคตะวันออก
38 ) ข้อใดไม่ถูกต้อง
1. ที่ราบแคบๆ ภาคเหนือเกิดจากการักเซาะและทับถม ทาให้ที่ดินอุดมสมบูรณ์
2. ที่ราบลุ่มแม่น้าภาคกลางอุดมสมบูรณ์จากตะกอนน้าพามาเหมาะแก่การเกษตร
3. ลุ่มน้าชี-มูลภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นแหล่งเกษตรกรรมที่สามารถเลี้ยงดุคนเป็นจานวน
มากตั้งแต่อดีต
4. ที่ราบชายฝั่งทะเลภาคใต้อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรแร่ธาตุ จึงมีการตั้งถิ่นฐานสืบต่อกัน
มาถึงปัจจุบัน
39 ) ข้อใดไม่ใช่การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม
1. นายมีใช้ควายเหล็กไถนาแทนการใช้ควาย
2. องค์การบริหารส่วนตาบลอนุมัติให้สร้างฝายทดน้า
3. กลุ่มสหกรณ์การเกษตรร่มวกันใช้กระสอบทรายกันน้าท่วม
4. นายจิมมี่ ยังส์ กาลังซ่อมเครื่องจักรในนิคมอุตสาหกรรมบางพลี
40 ) ข้อใดเป็นเทคโนโลยีที่ประสิทธิภาพที่สุดในการตรวจติดตามภาวะโลกร้อนทั่วโลก
1. ตั้งสถานีวัดอุณหภูมิให้ครอบคลุมทั่วโลก
2. ตรวจสอบอุณหภูมิจากสถานีอุตุนิยมวิทยาที่มีอยู่ทั่วโลก
3. ตรวจสอบอุณหภูมิจากระบบตรวจอากาศที่สนามบินทั่วโลก
4. วิเคราะห์ข้อมูลจากดาวเทียมสาตรวจทรัพยากรซึ่งโคจรอยู่รอบโลก

11. 41 ) ข้อใดอธิบายความหมายของความขาดแคลนในทางเศรษฐศาสตร์ได้ดีที่สุด
1. การที่สังคมไม่สามารถผลิตสินค้าได้ตรงกับความต้องการที่มีอยู่
2. การสังคมไม่สามารถผลิตสินค้าได้เพียงพอกับความต้องการที่มีอยู่
3. การที่สังคมไม่สามารถนาทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ได้หมด
4. การที่สังคมไม่สามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
42 ) ข้อใดไม่รวมอยู่ในปัจจัยการผลิตประเภทที่ดิน
1. น้ามันปิโตรเลียม
2. โรงเรือนเลี้ยงไก่
3. ลมฝนและพายุ
4. ป่าโกงกาง
43 ) กิจกรรมใดไม่ใช่การผลิต
1. นาย ก. ขึ้นชกมวยหารายได้ตามเวทีต่างๆ
2. นาย ข. เป็นนายหน้าขายกรมธรรม์ประกันภัย
3. นาย ค. ร้องเพลงทุกวัน เพื่อหวังเป็นนักร้องอาชีพ
4. นาย ง. ตั้งโต๊ะรับซื้อฉลากกินแบ่งที่ถูกรางวัล
44 ) ข้อใดเป็นไปตามกฎของอุปสงค์
1. เมื่อผู้บริโภคมีความต้องการสินค้ามากขึ้น ผู้ผลิตจะต้องผลิตสินค้าออกจาหน่ายเพิ่มขึ้น
2. เมื่อภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น ผู้บริโภคจะใช้จ่ายดีขึ้น
3. เมื่อผู้บริโภคมีรายได้เพิ่มขึ้น จะมีความต้องการบริโภคสินค้าที่มีคุณภาพดีขึ้น
4. เมื่อราคาสินค้าลดลง ผู้บริโภคจะซื้อสินค้าในปริมาณที่มากขึ้น

12. 45 ) ข้อใดเป็นเหตุผลที่ทาให้รับบาลเข้ามาควบคุมราคาขายสินค้า ก.
1. เพราะต้องการให้ราคาขายต่ากว่าราคาดุลยภาพ
2. เพราะต้องการให้ต้นทุนการผลิตสินค้า ก. ลดลง
3. เพราะต้องการลดอุปสงค์สินค้า ก. ในตลาด .
4. เพราะต้องการให้เกิดความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานของสินค้า ก
46 ) ข้อใดแสดงว่าอานาจซื้อของเงินบาทสูงขึ้น
1. เงิน 30 บาท เดิมซื้อไข่ได้ 15 ฟอง ปัจจุบัน 45 บาท ซื้อไข่ได้15 ฟอง
2. เงิน 45 บาท เดิมซื้อไข่ได้ 15 ฟอง ปัจจุบัน 60 บาท ซื้อไข่ได้30 ฟอง
3. เงิน 60 บาท เดิมซื้อไข่ได้ 15 ฟอง ปัจจุบัน 45 บาท ซื้อไข่ได้9 ฟอง
4. เงิน 75 บาท เดิมซื้อไข่ได้ 15 ฟอง ปัจจุบัน 50 บาท ซื้อไข่ได้10 ฟอง
47 ) สาขาของบริษัทญี่ปุ่นแห่งหนึ่งประกอบธุรกิจในประเทศไทยมีกาไรในรอบปีที่แล้าจานวน 10 ล้าน
บาท วึ่งยังมิได้มีการดอนให้บริษัทแม่ กาไรดังกล่าวจะรวมอยู่ในรายการใด
1. ผลิตภัณฑ์ในประเทศ(GDP)ของประเทศไทย
2. ผลิตภัณฑ์ประชาชาติ(GNP)ของประเทศไทย
3. ผลิตภัณฑ์ในประเทศ(GNP)ของประเทศญี่ปุ่น
4. ผลิตภัณฑ์ประชาชาติ(GNP)ของประเทศญี่ปุ่น
48 ) ข้อใดลดการขาดดุลของบัญชีเดินสะพัดได้
1. การส่งเสริมการจ้างงานในประเทศแทนการใช้แรงงานจากต่างประเทศ
2. ขึ้นภาษีสินค้าเข้าที่เป็นวัตถุดิบสาหรับการผลิตสินค้าส่งออก
3. ส่งเสริมเทศกาลการท่องเที่ยวในเทศกาลต่างๆ
4. ชักชวนให้ชาวต่างประเทศเข้ามาซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น

13. 49 ) ก่อนปี 2539 คนไทยนิยมกู้เงินจากต่างประเทศกันมาก แม้ว่าจะต้องจ่ายดอกเบี้ยให้กับต่างประเทศก็
ตามพฤติกรรมดังกล่าวจะก่อให้เกิดสถานการณ์ในข้อใด
1. บัญชีเดินสะพดขาดดุล
2. บัญชีเงินโอนเกินดุล
3. บัญชีทุนเกินดุล
4. ดุลการชาระเงินขาดดุล
50 ) ข้อใดแสดงว่าเงินบาทแข็งค่าเมือเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา
1. เงิน 1 บาทแลกเงินดอลลาร์ได้จานวนน้อยลง
2. เงิน 1 ดอลลาร์แลกจานวนเงินบาทได้มากขึ้น
3. ใช้เงินบาทจานวนน้อยลงในการแลกเงิน 1 ดอลลาร์
4. ใช้เงินบาทจานวนมากขึ้นในการแลกเงิน 1 ดอลลาร์