คอมคอม

1. กิจกรรมที่ 2
หาองค์ความรู้ต่าง

2. ความหมายของโครงงานคอมพิวตตอร์
โครงงานคอมพิวตตอร์ หมายถึง กิจกรรมการตรียนที่นักตรียนมีอิสระในการตลือกศึกษาปัญหาที่ตนตองสนใจ โดย
จะต้องวางแผนการดาตนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม โดยใช้ความรู้ทางกระบวนการวิศวกรรมซอฟต์แวร์ ตครื่อง
คอมพิวตตอร์และอุปกรณ์ที่ตกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน ตรื่องที่นักตรียนสนใจและคิดจะทา
โครงงาน ซึ่งอาจมีผู้ศึกษามาก่อน หรือตป็นตรื่องที่นักพัฒนาโปรแกรมได้ตคยค้นคว้าและพัฒนาแล้ว นักตรียนสามารถ
ทาโครงงานตรื่องดังกล่าวได้ แต่ต้องคิดดัดแปลงแนวทางในการศึกษา การวิตคราะห์ข้อมูล การพัฒนาโปรแกรม หรือ
ศึกษาตพิ่มตติมจากผลงานตดิมที่มีผู้รายงานไว้ จุดมุ่งหมายสาคัญของการทาโครงงานตป็นการตปิดโอกาสให้นักตรียน
ได้รับประสบการณ์ตรงในการใช้ระบบคอมพิวตตอร์แก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่าง ใช้
คอมพิวตตอร์ในการพัฒนาสื่อการตรียนรู้ตพื่อการศึกษา ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่าง พัฒนา
โปรแกรมประยุกต์ต่าง ตลอดจนการพัฒนาตกมคอมพิวตตอร์ ตพื่อฝึกให้นักตรียนตป็นบุคคลที่ใฝ่ตรียนใฝ่รู้ การพัฒนา
ความคิดใหม่ ความมีคุณธรรมจริยธรรม ตอื้อตฟื้อตผื่อแผ่ ให้กับตพื่อนมนุษย์ และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข
ที่มา https://sites.google.com/a/kts.ac.th/it_kts/unit5/subunit5-1

3. ความสาคัญของโครงงานคอมพิวตตอร์
โครงงานคอมพิวตตอร์ คือ ผลงานที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าตามความสนใจ ความถนัดและ
ความสามารถของผู้ตรียน โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ โครงงานจึงตป็นกิจกรรมการตรียนรู้ที่มีการตน้นผู้ตรียน
ตป็นสาคัญ โดยผู้ตรียนจะหาหัวข้อโครงงานที่ตนตองสนใจ รวมทั้งตชื่อมโยงความรู้ต่าง และความรู้ด้าน
คอมพิวตตอร์และตทคโนโลยีสารสนตทศ ตพื่อสร้างผลงานตามความต้องการได้อย่างตหมาะสม โดยมีครูตป็นที่
ปรึกษาและให้คาแนะนาความสามารถที่ตกิดจากการท าโครงงานคอมพิวตตอร์โครงงานคอมพิวตตอร์ตป็น
กิจกรรมการตรียนรู้ที่ทาให้ผู้ตรียนตกิดความสามารถในด้านต่าง ที่สาคัญ 5 ประการดังนี้

4. ความสาคัญของโครงงานคอมพิวตตอร์
1. ความสามารถในการสื่อสาร ตป็นความสามารถที่ตกิดจากการที่นักตรียนตป็นผู้ทาโครงงานต้องนาตสนอผลงาน
ให้ ครูและตพื่อนนักตรียนให้ตข้าใจโครงงานคอมพิวตตอร์ได้อย่างชัดตจน ดังนั้น ผู้ทาโครงงานต้องสื่อสารความคิดในการ
สร้างสรรค์โครงงานด้วยการตขียน หรือด้วยปากตปล่า รวมทั้งตลือกใช้รูปแบบของสื่ออย่างมีประสิทธิภาพตพื่อนาตสนอ
แนวคิดในการจัด โครงงานให้ผู้อื่นได้ตข้าใจ

5. ความสาคัญของโครงงานคอมพิวตตอร์
2. ความสามารถในการคิด ซึ่งผู้ตรียนจะมีการคิดในลักษณะต่าง ดังนี้
2.1 การคิดวิตคราะห์ ตกิดจากการที่ผู้ตรียนต้องวิตคราะห์ปัญหาและแยกแยะสาตหตุว่าตกิดตนื่องจากอะไร
2.2 การคิดสังตคราะห์ ตกิดจากการที่ผู้ตรียนต้องนาความรู้ต่าง ที่ตรียนมา รวมทั้งความรู้จากการค้นหา
ข้อมูล ตพื่อใช้ในการแก้ปัญหาหรือการสร้างสรรค์โครงงาน
2.3 การคิดอย่างสร้างสรรค์ ตกิดจากการที่ผู้ตรียนนาความรู้มาสร้างสรรค์ผลงานใหม่
2.4 การคิดอย่างมีวิจารณญาณ ตกิดจากการที่ผู้ตรียนได้มีการคิดไตร่ตรองว่าควรทาโครงงานใดและไม่ควร
ทาโครงงานใด ตนื่องจากโครงงานที่สร้างขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม ตช่น โครงงานระบบคานวณตลขหวย
สาหรับหาตลขที่คาดว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลจะออกในแต่ละงวด อาจส่งผลกระทบต่อ
สังคม ทาให้คนในสังคมตกิดความหมกมุ่นในกับการใช้ตงินตล่นหวยมากขึ้น

6. ความสาคัญของโครงงานคอมพิวตตอร์
2.5 การคิดอย่างตป็นระบบ ตกิดจากการที่ผู้ตรียนคิดแก้ปัญหาอย่างตป็นขั้นตอน โดยใช้ขั้นตอนในการ
พัฒนาโครงงาน คือ ผู้ตรียนตป็นผู้วางแผนในการศึกษา ค้นคว้า ตก็บรวบรวมข้อมูล พัฒนา หรือประดิษฐ์คิดค้น
ผลงาน รวมทั้งการสรุปผลและการนาตสนอผลการศึกษาค้นคว้าด้วยตนตอง โดยมีผู้สอนและผู้ทรงคุณวุฒิตป็น
ผู้ให้คาปรึกษา

7. ความสาคัญของโครงงานคอมพิวตตอร์
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา ตกิดจากการที่ผู้ตรียนวิตคราะห์ปัญหา ตข้าใจ และอธิบายปัญหาทางด้าน
คอมพิวตตอร์ รวมทั้งประยุกต์ความรู้ ทักษะ และการใช้ตครื่องมือที่ตหมาะสมกับการแก้ไขปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5. ตกิดจากการที่ผู้ตรียนได้นาความรู้และกระบวนการต่าง ไปใช้ในการพัฒนาโครงงาน และนาไป
ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างตหมาะสม รวมถึงการพัฒนาโครงงาน ก่อให้ตกิดการตรียนรู้ด้วยตนตอง อัน
นาไปสู่การตรียนรู้ตลอดชีวิต
6. ความสามารถในการใช้ตทคโนโลยี ตกิดจากการที่ผู้ตรียนสามารถตลือกใช้ตทคโนโลยีสารสนตทศ ในการ
แก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องตหมาะสมและมีคุณธรรม
ที่มา http://www.hs.ac.th/A01%20(2).pdf

8. ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวตตอร์
1. ตป็นกิจกรรมการตรียนให้นักตรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนตองโดยอาศัยหลักวิชาการทาง
ทฤษฎีตามตนื้อหาโครงงานนั้น หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ที่ได้พบตห็นมากแล้ว
2. นักตรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนตอง หรือตป็นกลุ่มโดยใช้ระยะตวลาสั้น ตป็นภาค
ตรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานตล็กหรือใหญ่
ที่มา https://www.gotoknow.org/posts/314100

9. ขอบข่ายของโครงงานคอมพิวตตอร์
3. นักตรียนตป็นผู้พิจารณาริตริ่มสร้างสรรค์ คัดตลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติด้วยตนตองตาม
ความถนัด สนใจ และความพร้อม
4. นักตรียนตป็นผู้ตสนอโครงงาน รายละตอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการแปลผล รายงานผล
ต่ออาจารย์ที่ปรึกษา ตพื่อดาตนินงานร่วมกันให้บรรลุตามจุดหมายที่กาหนดไว้
5. ตป็นโครงงานที่ตหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักตรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้งการ
ใช้จ่ายตงินดาตนินงานด้วย

10. อ้างอิง
https://sites.google.com/a/kts.ac.th/it_kts/unit5/subunit5-1
http://www.hs.ac.th/A01%20(2).pdf
https://www.gotoknow.org/posts/314100