More Related Content
Similar to Global warming 31 37
Similar to Global warming 31 37 (17)
Global warming 31 37
- 11. กระบวนการแปรรูปอุตสาหกรรม เช่น เครื่องทาความเย็นในตู้เย็น
เครื่องปรับอากาศ โฟม กระป๋องสเปรย์ สารดับเพลิง ปล่อย ก๊าซที่มี
สารประกอบคลอโรฟลูโอโรคาร์บอน (Chlorofluorocarbon- CFCs) และ
อุตสาหกรรมที่ใช้กรดไนตริกในขบวนการผลิต
- 22. ประหยัดพลังงานให้ตู้เย็น ด้วยการใช้อย่างฉลาด ไม่นาอาหารร้อนเข้าตู้เย็น
ทันที ควรรอให้เย็นก่อน หลีกเลี่ยงการนาถุงพลาสติกใส่ของในตู้เย็น เพราะ
จะทาให้ตู้เย็นจ่ายความเย็นได้ไม่ทั่วถึงอาหาร ควรย้ายตู้เย็นออกจากห้องที่
ใช้เครื่องปรับอากาศ และอย่าลืมละลายน้าแข็งที่เกาะในตู้เย็นเป็นประจา
เพราะตู้เย็นจะกินไฟมากขึ้นเมื่อมีน้าแข็งเกาะ ควรทาความสะอาดตู้เย็นทุก
สัปดาห์
- 25. รถยนต์ส่วนตัวจอดไว้ที่บ้านบ้างก็ได้ แล้วออกมาขี่จักรยาน ใช้รถโดยสาร
ประจาทาง หรือเดินเมื่อต้อง ไปทากิจกรรม หรือธุระใกล้ๆ บ้าน เพราะการ
ขับรถยนต์น้อยลง หมายถึงการใช้น้ามันลดลง และลดการปล่อย
คาร์บอนไดออกไซด์ด้วย เพราะน้ามันทุกๆ 3.785 ลิตร (1 แกลลอน) ที่
ประหยัดได้ จะลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ ประมาณ 9 กิโลกรัมเลยนะ
- 29. บ้านใกล้กันไปด้วยกันสิ ร่วมกันประหยัดน้ามันแบบ Car Pool ช่วย
ประหยัดน้ามันและยังเป็นการลดจานวนรถติดบนถนนช่วยลดการปล่อย
คาร์บอนไดออกไซด์ทางอ้อม แถมที่สาคัญ ยังได้เพื่อนใหม่ด้วยนะเออ (แต่
อย่าเล่นโทรศัพท์ขณะขับรถนะครับ โดนจับปรับไม่รู้นะ)
- 33. เป็นที่ทราบกันในกลางทศวรรษที่ 18 ว่าก๊าซบางชนิดในชั้นบรรยากาศของโลก เช่น คาร์บอนไดออกไซด์
นั้น กักเก็บความร้อนและรักษาความอบอุ่นของโลกเอาไว้ ในต้นศตวรรษที่ 20 นักวิทยาศาสตร์ชาวสวีเดนชื่อ Svante
Arrhenius ผลักดันแนวคิดที่ว่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์จากฝีมือมนุษย์จะทาให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นในที่สุด เขา
ไม่เห็นว่านั่นเป็นเรื่องเลวร้าย และนักวิทยาศาสตร์ส่วนมากลังเลว่ามนุษย์สามารถเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลได้เร็ว
พอที่จะสร้างผลกระทบที่สังเกตเห็นได้จริงๆ หรือ
ถึงแม้ความคิดที่ว่ามนุษยชาติอาจทาให้อุณหภูมิทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นได้ถูกนาเสนอเมื่อมากกว่า 1 ทศวรรษมาแล้ว แต่ไม่
นานมานี้เองที่นักวิทยาศาสตร์สามารถยืนยันสิ่งนี้ได้อย่างมั่นใจ ข้อมูลดิบถูกรวบรวมจากทั่วโลก เทคโนโลยีได้รับการ
พัฒนาเพื่อช่วยให้เราวิเคราะห์ข้อมูลดิบเหล่านั้นได้ และต้องใช้ความก้าวหน้าขั้นพื้นฐานของวิชาฟิสิกส์และสาขาวิชา
อื่นๆ ก่อนที่เราจะเข้าใจเรื่องนี้ได้ สิ่งที่เรารู้ตอนนี้เกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศต้องยกความดีให้นักวิจัยที่ทุ่มเทมาหลายต่อ
หลายรุ่น
นอกจากนี้ ในปัจจุบันเรายังสามารถเฝ้าสังเกตภาวะโลกร้อนที่มีสาเหตุจากมนุษย์ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากเราได้ปล่อย
คาร์บอนไดออกไซต์ปริมาณสูงขึ้นมากเข้าสู่ระบบภูมิอากาศในทศวรรษที่ผ่านมา จนทาให้ปัจจุบันสามารถมองเห็น
ผลกระทบของภาวะโลกร้อนได้อย่างชัดเจน โดยส่งผลกระทบต่อประชาชนและระบบนิเวศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์
โรงงาน และ โรงไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นล้วนเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศรวดเร็วกว่าที่จะเป็นไปได้ในอดีต และกาลังทาให้เกิด
ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดมากขึ้น
การวัดอุณหภูมิของโลก
เพื่อให้เห็นภาพว่าโลกร้อนมากเพียงใด จะต้องมีมาตราวัดจากทั่วโลก เพราะโลกทั้งใบไม่ได้ร้อนขึ้นในอัตราเดียวกัน
อันที่จริงแล้ว บางส่วนของโลกอาจเย็นลงด้วยซ้าในขณะที่โลกโดยรวมกาลังร้อนขึ้น นอกจากนี้ ยังจาเป็นต้องอ่านค่า
อุณหภูมิจากทั่วโลกในชั่วระยะเวลาหนึ่งเพื่อให้เห็นภาพในระยะยาวที่ถูกต้อง นักวิจัยต้องเดินทางไปยังสุดมุมโลก จึง
ค้นพบวิธีที่จะ "ย้อนเวลากลับไป" เพื่อทาให้ความเป็นมาของอุณหภูมิทั่วโลกปรากฏชัดขึ้นมา แหล่งที่มาของข้อมูล
อุณหภูมิในอดีตบางแหล่ง ได้แก่
- 34. • บันทึกทางประวัติศาสตร์ เช่น บันทึกเหตุการณ์ของเรือ บันทึกประจาวันของชาวไร่ชาวนา และ บทความหนังสือพิมพ์ เมื่อ
ประเมินอย่างรอบคอบแล้ว สิ่งเหล่านี้สามารถให้ข้อมูลที่มีคุณค่าทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ
• บันทึกส่วนตัวและความเป็นมาจากการบอกเล่า เป็นข้อมูลอันมีประโยชน์ทั้งจากคนรุ่นเก่าและชนพื้นเมือง ผู้ซึ่งต้องพึ่งพา
ธรรมชาติในการอยู่รอดเสมอ ดังนั้นจึงเป็นผู้เฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงของทศวรรษที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี
• การวัดค่าโดยตรง (เช่น ใช้เทอร์โมมิเตอร์) วิธีนี้เกิดขึ้นเมื่อเพียง 300 ปีที่แล้ว และใช้กันน้อยจนเมื่อ 150 ปีที่แล้ว นอกจากนี้
ชนิดของเทอร์โมมิเตอร์ที่แตกต่างกันและความผันแปรอื่นๆ ต้องถูกนามาพิจารณา
• ข้อมูลที่รวบรวมโดยบอลลูนและดาวเทียม มีประโยชน์มาก แต่เพิ่งมีขึ้นในพ.ศ. 2522
• ความหนาของวงปีต้นไม้ ความกว้างและความหนาแน่นแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพการเจริญเติบโต
• ตะกอนนอนก้นทะเลและทะเลสาบ ตะกอนหลายพันล้านตันทับถมเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี ซากฟอสซิลขนาดเล็กและสารเคมีที่ถูกกัก
เก็บไว้เป็นชั้นๆ ในรูปของตะกอนสามารถใช้ในการทานายสภาพภูมิอากาศในอดีตได้
• โครงปะการัง อุณหภูมิของน้าที่ปะการังเจริญเติบโตสามารถวัดได้จากชิ้นส่วนโลหะ ออกซิเจน และ ไอโซโทปของออกซิเจน
ในโครงปะการัง
• ละอองฟอสซิล ต้นไม้แต่ละต้นมีละอองเกสรรูปร่างที่ต่างกัน เมื่อรู้ว่าต้นไม้ชนิดใดในซากฟอสซิลเจริญเติบโตในช่วงเวลา
หนึ่งจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สรุปได้ว่าสภาพภูมิอากาศในช่วงเวลานั้นเป็นอย่างไร
• แกนน้าแข็ง เมื่อผ่านไปหลายทศวรรษหิมะที่ตกบนภูเขาสูงและและน้าแข็งที่ปกคลุมขั้วโลกนั้นอัดรวมกันและกลายเป็น
น้าแข็งอัดแน่น ฝุ่นและฟองอากาศที่ถูกกักเก็บในน้าแข็งนี้ให้ข้อมูลทางสภาพภูมิอากาศที่มีค่า ตัวอย่างเช่น อากาศที่ถูกกัก
เก็บไว้ในก้อนน้าแข็งนี้ทาหน้าที่เป็นบันทึกของความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซต์ในระยะหนึ่งพันปี
• การสังเกตการละลายของน้าแข็ง อัตราของการลดลงของธารน้าแข็ง อากาศที่อุ่นขึ้นจนทาให้ดินเยือกแข็งละลาย น้าแข็งที่
ปกคลุมขั้วโลกที่หดหาย และ น้าแข็งในทะเลอาร์กติกที่ลดน้อยลง เป็นตัวบ่งชี้ของภาวะโลกร้อนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
สิ่งสาคัญ คือ ไม่ควรพิจารณาแหล่งข้อมูลดิบอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น แต่พิจารณาร่วมกัน ซึ่งจะทาให้เกิดภาพทาง
วิทยาศาสตร์ของโลกที่กาลังร้อนขึ้นที่น่าเชื่อถือ ซึ่งภาพนี้ตรงกับข้อมูลก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้น