More Related Content
Similar to Computer1234 (20)
Computer1234
- 1. ลักษณะเด่นของคอมพิวเตอร์
เครื่องคอมพิวเตอร์ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้มีจุดเด่น 4 ประการ เพื่อทดแทนข้อจากัดของมนุษย์
เรียกว่า 4 S special ดังนี้
1. หน่วยเก็บ(Storage)
ความสามารถในการเก็บข้อมูลจานวนมากและเป็นเวลานานนับเป็นจุดเด่นทางโครงสร้าง
และเป็นหัวใจของการทางานแบบอัตโนมัติของเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งเป็นตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพ
ของคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องด้วย
2. ความเร็ว (Speed)
ความสามารถในการประมวลผลข้อมูล(ProcessingSpeed)โดยใช้เวลาน้อยเป็นจุดเด่นทางโครงสร้างที่
ผู้ใช้ทั่วไปมีส่วนเกี่ยวข้องน้อยที่สุดเป็นตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สาคัญส่วนหนึ่ง
เช่นกัน
3. ความเป็นอัตโนมัติ (Self Acting)
ความสามารถในการประมวลผลข้อมูลตามลาดับขั้นตอนได้อย่างถูกต้องและต่อเนื่องอย่างอัตโนมัติ
โดยมนุษย์มีส่วนเกี่ยวข้องเฉพาะในขั้นตอนการกาหนดโปรแกรมคาสั่งและข้อมูลก่อนการประมวลผล
เท่านั้น
4. ความน่าเชื่อถือ (Sure)
ความสามารถในการประมวลผลให้เกิดผลลัพธ์ที่ถูกต้องความน่าเชื่อถือนับเป็นสิ่งสาคัญที่สุดในการ
ทางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ความสามารถนี้เกี่ยวข้องกับโปรแกรมคาสั่งและข้อมูลที่มนุษย์กาหนดให้
กับเครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรงกล่าวคือหากมนุษย์ป้อนข้อมูลที่ไม่ถูกต้องให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ก็ย่อ
มได้ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้องด้วยเช่นกัน
- 3. เครื่องหมุนทดลองเวลาคูณเลข
-เครื่องคานวณจองปาสคาลใช้การหมุนของฟันเฟืองเช่นกันเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการบวกเลข
-
เครื่องคานวณของไลบ์นีช ได้ทาการปรับปรุงเครื่องคานวณของปาสคาลโดยมีการปรับใหม่ให้สามารถ
คูณและหารได้อีกด้วย
- เครื่องทอผ้าของแจคการ์ด ได้พัฒนาเป็นเครื่องทอผ้าให้ควบคุมลวดลายที่ต้องการแบบอัตโนมัติ
-
เครื่อง Different Engine เป็นเครื่องคานวณต้นแบบที่คานวณในงานที่ซับซ้อนมากๆ
- เครื่อง
Analytical Engine
ใช้แนวคิดของการแจกการ์ดที่เอาบัตรเจาะรูมาช่วยควบคุมลวดลายการทอผ้าให้ได้ตามที่ต้องการ
ยุคเครื่องจักรกลระบบอิเลคทรอนิกส์
- Tablating Machine เป็นระบบสามะโนประชากรของประเทศสหรัฐ
- ABC Atanasoff-Berry-Computer
เป็นเครื่องมือประมวลผลที่ใช้ระบบการทางานของหลอด
สุญญากาศ
-เครื่องColossusเป็นเครื่องถอดรหัสลับของฝ่ายทหารเยอรมันที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารในสงครามโลก
ครั้งที่ 2
- เครื่อง Mark I หรือ IBM Automatic Sequence Controlled Calculator
ยุคคอมพิวเตอร์อิเลคทรอนิกส์
- ENIAC เป็นเครื่องคานวณวิถีกระสุนปืนใหญ่แต่ใช้งานยุ่งยาก เพราะต้องป้อนคาสั่งใหม่ทุกครั้ง
-
EDSACเป็นชุดคาสั่งซึ่งไว้ทางานภายในได้เองโดยมีการเขียนชุดคาสั่งการทางานแบ่งออกเป็น
ส่วนย่
อยๆเเรียกว่าsubroutinesเพื่อช่วยในการทางาน
-EDVACเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ตามแนวสถาปัตยกรรมของนิวแมน
- UNIVAC
ถือว่าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นแรกที่ใช้ในเชิงธุรกิจ
เครื่องคอมพิวเตอร์ยุคทรานซิสเตอร์
- 4.
- IBM 1620 มีการนามาใช้ในเมืองไทยครั้งแรกที่ภาควิชาสถิติ และการบัญชีมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์
- IBM 1404 สานักงานแห่งชาตินามาใช้งานด้านสามะโนประชากร
เครื่องคอมพิวเตอร์ยุคทรานซิสเตอร์ (Transistor)
ยุคนี้อยู่ระหว่าง พ.ศ. 2502 - 2506 เครื่องคอมพิวเตอร์ยุคนี้ใช้ทรานซิสเตอร์ (transistor)
เป็นองค์ประกอบหลักของวงจรไฟฟ้าแทนหลอดสุญญกาศโดยผู้ที่คิดค้นทรานซิสเตอร์คือนักวิทยาศาส
ตร์สามคนของห้องปฏิบัติการเบลล์ (Bell Laboratories) แห่งสหรัฐอเมริกา ได้แก่บาร์ดีน (J.Bardeen)
แบรทเทน(H.W.Brattain)และชอคเลย์(W.Shockley)การใช้ทรานซิสเตอร์ในการผลิตคอมพิวเตอร์แทน
หลอดสุญญกาศทาให้ตัวคอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลงกว่าเดิมมากโดยทรานซิสเตอร์ที่พัฒนาขึ้นเป็นครั้งแ
รกมีขนาด1ใน100ของหลอดสูญญากาศเท่านั้นนอกจากขนาดเล็กแล้วยังมีคุณสมบัติที่ดีอีกหลายประกา
รคือไม่เปลืองกระแสไฟฟ้าไม่ต้องใช้เวลาอุ่นเครื่องเมื่อแรกเปิดเครื่องทาให้เครื่องคอมพิวเตอร์มีประสิท
ธิภาพและความเร็วเพิ่มขึ้น จนกระทั่งสามารถบวกจานวน จานวนได้ในเวลาประมาณหนึ่งในล้านวินาที
(microsecond) โดยที่ทรานซิสเตอร์เป็นปัจจัยในการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ที่สาคัญยิ่ง
จึงทาให้นักวิทยาศาสตร์ทั้งสามคนได้รับรางวัลโนเบล
ครื่องคอมพิวเตอร์ยุคแผงวงจรรวม(IC)
เครื่องคอมพิวเตอร์ในยุคต่อมาได้รับการพัฒนาให ้มีขีดความสามารถที่ดีขึ้น
เรื่อยๆแต่การผลิตเครื่องโดยใช ้ทรานซิสเตอร์แยกเป็ นตัวๆทาให ้ต ้นทุนในการผลิตสูง
มากต่อมาจึงได้มีการเปลี่ยนมาใช ้แผงวงจรรวมหรือที่เรียกว่าIC(Integrated
Curcuit) ที่ประกอบด ้วยทรานซิสเตอร์นับพันตัวรวมกันขึ้นในปี ค.ศ.1965
เครื่องคอมพิวเตอร์ยุคแผงวงจรรวมขนาดใหญ่ (LSIและVLSI)
เครื่องคอมพิวเตอร์ยุคแผงวงจรรวมขนาดใหญ่(LSI และLVSI) ในยุคนี้คือปลายศตวรรษ
1970มีการนาไมโครโปรเซสเซอร์(microprocessor)ซึ่งเป็นวงจรรวมขนาดใหญ่ที่ผลิตโดยอา
ศัยเทคโนโลยีที่เรียกว่าLSI (Large Scale Integrated) และVLSI (Very Large Scale
- 6. 2.ด้านความบันเทิง
เป็นการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อความสนุกสนานบันเทิง เช่นเล่นเกมฟังเพลงชมภาพยนต์
3.ด้านการเงิน การธนาคาร
ใช้ในการเบิก ถอนเงินผ่านเครื่องATMการโอนเงินด้วยระบบด้วยอัตโนมัติโดยโอนเงินจากที่หนึ่งไป
ยังอีกที่หนึ่งโดยผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การดูข้อมูลตลาดหุ้นการทากราฟแสดงยอดขาย
4.ด้านการสื่อสารและคมนาคม
ใช้ในการติดต่อสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ต สื่อสารถ่ายทอดผ่านดาวเทียมการติดต่อสื่อสารผ่านโทรศัพท์
การคมนาคมทางเรือ เครื่องบินและรถไฟฟ้า
5.ด้านศิลปะและการออกแบบ
เป็นการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการวาดรูปการ์ตูนออกแบบงานและการสร้างภาพกราฟิกหรือการตกแต่ง
ภาพในคอมพิวเตอร์
6.ด้านการแพทย์์์์
ปัจจุบันมีการนาคอมพิวเตอร์มาช่วยงานด้านการแพทย์หลายด้านเช่น การเก็บประวัติคนไข้
การใช้ทดลองประกอบการวินิจฉันของแพทย์ใช้ในการตรวจเลือก ตรวจปัสสาวะ
การผ่าตัดหัวใจการตรวจสอบห้องพักผู้ป่วยว่าว่างหรือไม่ การควบคุมแสงเลเซอร์การเอ็กซ์เรย์
การตรวจคลื่อนสมองคลื่นหัวใจ
7.ด้านวิทยาศาสตร์และเคมี
ใช้ในการวิเคราะห์สูตรทางเคมีการคานวณสูตรทางวิทยาศาสตร์การค้นคว้าทดลองในห้องวิทยาศาสตร์
การคานวณเกี่ยวกับระบบสุริยะจักรวาลและการเกิดปรากฏการณ์เกี่ยวกับดวงดาวต่างๆ
คอมพิวเตอร์ในสถานศึกษา
- 7. ปัจจุบันตามสถานศึกษาต่างๆ ได้มีการนาคอมพิวเตอร์มาใช้ในการเรียนการสอนอย่างมากมาย
รวมทั้งใช้คอมพิวเตอร์ในงานบริหารของโรงเรียน เช่น การจัดทาประวัตินักเรียน ประวัติครูอาจารย์
การคัดคะแนนสอบ การจัดทาตารางสอน ใช้คอมพิวเตอร์ ในงานห้องสมุด การจัดทาตารางสอ น
เป็นต้นตัวอย่างในการประยุกต์ด้านการศึกษาเช่นโปรแกรมรายงานการลงทะเบียนเรียนโปรแกรมตรวจ
ข้อสอบเป็นต้น
คอมพิวเตอร์ในงานวิศวกรรม
คอมพิวเตอร์สามารถจะทางานในด้านวิศวกรรมได้ตั้งแต่ขั้นตอนการลอกเขียนแบบ
จนกระทั่งถึงการออกแบบโครงสร้างของสถาปัตยกรรมต่างๆ ต ลอดจน ช่วยคานวณโครงสร้าง
ช่วยในการวางแผน และควบคุมการสร้าง
คอมพิวเตอร์ในงานวิทยาศาสตร์
คอมพิวเตอร์สามารถทางานร่วมกับเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ เช่น เครื่องมือวิเคราะห์สารเคมี
เครื่องมือการทดลองต่างๆ แม้กระทั่งการเดินทางของยานอวกาศต่างๆ การถ่ายพื้นผิวโลกบนดาวอังคาร
เป็นต้น
คอมพิวเตอร์ในงานธุรกิจ
คอมพิวเตอร์สามารถจัดเก็บข้อมูลได้มากมาย มีความรวดเร็ว และถูกต้อง
ทาให้สามารถได้ข้อมูลที่ช่วยให้สามารถตัดสินใจในการ ดาเนินธุรกิจ
ตลอดจนงานทางด้านเอกสารงานพิมพ์ต่างๆ เป็นต้น
คอมพิวเตอร์ในงานธนาคาร
ในแวดวงธนาคารนับได้ว่าคอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีบทบาทมากที่สุด เพราะธนาคารจะมีการนาข้อมูล <
Transaction > เป็นประจะทุกวัน การหาอัตราดอกเบี้ยต่างๆ นอกจากนี้การใช้บริการ ATM
ซึ่งลูกค้าสามารถฝากถอนเงินได้จากเครื่องอัตโนมัติ ซึ่งมาให้สะดวกแก่ผู้ใช้บริการเป็นอย่างยิ่ง
และเป็นที่นิยมแพร่หลายในปัจจุบัน
คอมพิวเตอร์ในร้านค้าปลีก
ปัจจุบันเห็นได้ว่า ได้มีธุรกิจร้านค้าปลีกหรือที่เรียกว่า " เฟรนไซน์" เป็นจานวนมาก
ได้มีการนาคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในการ ให้บริการลูกค้า เช่น ให้บริการชาระ ค่าน้า - ไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์
เป็นต้นจะเห็นได้ว่ามีการonlineระหว่างร้านค้าเหล่านั้นกับหน่วยงานนั้นๆเพื่อสามารถตัดยอดบัญชีได้เ
ป็นต้น
คอมพิวเตอร์ในวงการแพทย์
- 8. คอมพิวเตอร์ได้ถูกนามาใช้ในการเก็บประวัติของคนไข้ ควบคุมการรับ และจ่ายยา
ตลอดจนยังอยู่ในอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ เช่น เครื่องมือผ่าตัด บันทึกการเต้นของหัวใจ
ตรวจคลื่นสมอง และด้านการหาตาแหน่งของอวัยวะก่อนการผ่าตัด เป็นต้น
คอมพิวเตอร์ในการคมนาคมและการสื่อสาร
ในยุคปัจจุบันเราเรียกว่าเป็นยุคที่เป็นการสื่อสารแบบไร้พรมแดนจะเห็นได้ว่ามีการสื่อสารในรูปแบบ
ต่างๆในเครือข่ายสาธาระณะที่เรียกว่าเครือข่ายอินเทอร์เน็ตซึ่งสามารถที่จะสื่อสารกับทุกคนได้ทั่วมุม
โลก โดยผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์นี้ และยังมีโปรแกรมที่สามารถจะใช้ในการพูดคุยกันได้
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยกันใช้คุยกันหรือจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์สื่อสารกับเครื่องโทรศัพ
ท์ที่บ ์้านหรือที่ทางานหรือแม้กระทั่งการส่งpagerในปัจจุบันสามารถส่งทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์ไปยั
งเครื่องลูกได้
คอมพิวเตอร์ในงานด้านอุตสาหกรรม
ในวงการอุตสาหกรรมนับได้ว่าคอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากตั้งแต่การวางแผนการ
ผลิตกาหนดเวลาการผลิตจนกระทั่งถึงการผลิตสินค้าควบคุมระบบการผลิตทั้งหมดในรายงานทางอุตส
าหกรรมได้มีการนาคอมพิวเตอร์มาใช้ในการควบคุมการ ทางานของเครื่องจักร เช่น การเจาะ ตัด ไส
กลึง
เป็นต้นตลอดจนโรงงานผลิตรถยนต์ก็จะใช้หุ่นยนต์คอมพิวเตอร์ในการทาสีพ่นสีรวมถึงการประกอบน
รถยนต์
คอมพิวเตอร์ในวงราชการ
คอมพิวเตอร์ถูกนามาใช้ในงานทะเบียนราษฏร์ ช่วยในการนับคะแนนการ เลือกตั้ง
และการประกาศผลเลือกตั้ง การคิดภาษีอากร การเก็บข้อมูล สถิติสัมมโนประชากร
การเก็บเงินค่าไฟฟ้า น้าประปา ค่าใช้โทรศัพท์ เป็นต้น
ประเภทของคอมพิวเตอร์แบ่งตามลักษณะของข้อมูล ได้ 3ประเภทคือ
1. อนาลอกคอมพิวเตอร์ (Analog Computer)
2. ดิจิทัลคอมพิวเตอร์ (Digital Computer)
3. ไฮบริดคอมพิวเตอร์ (Hybrid Computer)
- 9. คอมพิวเตอร์ยุคใหม่
การใช้คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันมีแนวโน้มที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และนามาใช้กับงานที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
จากที่แต่เดิมบางหน่วยงานเอาคอมพิวเตอร์เ เพื่อมาช่วยสาหรับงานประมวลผลเล็กๆเท่านั้น เช่น
งานการจัดพิมพ์เอกสารหรืองานสานักงาน ซึ่งยังไม่ค่อยสนับสนุนไนเรื่องของการเชื่อมโยงกันเป็นเครื
อข่ายมากนัก แต่ปัจจุบันได้พัฒนาให้สามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างทั่วถึง
เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องซึ่งสามารถโอนถ่ายข้อมูลถึงกันได้อย่างรวดเร็วภายใต้ระบบการสื่อสาร
ที่ดีขึ้น
เดสก์ท็อป(Desktop)
เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดตั้งโต๊ะที่ใช้ในสานักงานหรือตามบ้านทั่วไป นิยมใช้สาหรับการประมวลผล
เช่น พิมพ์รายงาน ดูหนัง ท่องอินเทอร์เน็ตหรือเล่นเกม เป็นต้น
ตัวเครื่องและจอภาพสามารถจัดวางเพื่อทางานบนโต๊ะอย่างสบายซึ่งปัจจุบันจะมีการผลิตที่เน้นให้มีควา
มสวยงาม น่าใช้มากยิ่งขึ้น และได้รับความนิยมในการใช้งานมากเนื่องจากมีราคาที่ถูกลง
โน้ตบุ๊ค (Notebook)
คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คนั้นที่คุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับเครื่องพีซี แต่จะมีขนาดเล็กและบางลง
มีน้าหนักเบาสามารถพกพาได้สะดวกมากขึ้น และข้อแตกต่างอีกประการหนึ่งคือ
โน้ตบุ๊คจะมีแบตเตอรี่ไว้ใช้สาหรับการทางานด้วย ที่สาคัญคือราคาถูกลงกว่าเมื่อก่อนนี้มาก
แต่ก็ยังถือว่ามีราคาแพงกว่าเครื่องพีซีธรรมดาอยู่
ดี
เดสก์โน้ต
(Desknote)
เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาอีกแบบหนึ่งที่คล้ายๆกับเครื่องโน้ตบุ๊ค