SlideShare a Scribd company logo
1 of 1
Download to read offline
Translation of artwork into public knowledge
บระเด็นเรื่องการตีความเริ่มจากคาถามที่ว่า “ใครมีหน้าที่ ‘อ่าน’ และ ‘แบลความ’ งานศิลบะ ? คาถามถัดมา
ภัณฑารักษ์ นักวิจารณ์ศิลบะ นักการศึกษา สามารถถอดรหัสได้มากกว่าที่ ‘ศิลบิน’ คิดได้หรือไม่? สุดท้ายคือ คนทางาน
ฝิฝิธภัณฑ์และหอศิลบ์จะช่วยขยายความชิ้นงานศิลบะเบ็นความรู้สาธารณะได้อย่างไร?
การตีความหมายงานศิลบะสู่สาธารณชนอาจต้องมีบัจจัยหลายอย่างที่จะทาให้งานบระสนความสาเร็จได้
ยกตัวอย่างบระเทศเฝื่อนน้านเราอาจได้มาจากการรันอิทธิฝลของตะวันตกในสมัยอาณานิคมที่มีการสั่งสอนหรือ
ถ่ายทอดแนวคิดเรื่องศิลบะไว้อย่างจริงจัง การอนุรักษ์ศิลบะก็เช่นกันน่าจะได้รันการบลูกผังมาอย่างมาก ดังนั้นบระเทศ
อื่น อย่างบระเทศสิงคโบร์หรือบระเทศมาเลเซียจึงมีการเรียนรู้และความเข้าใจเรื่องศิลบะได้ดีมาก แต่การตีความที่จะ
ถ่ายทอดไบสู่สาธารณชนอาจไม่ใช่เรื่องที่จะทาได้ง่าย เฝราะส่วนใหญ่จะเบ็นการกล่าวเกินจริงไบกว่าปลงานที่เบ็นจริง
หลักการในการตีความงานศิลบะ เริ่มจากคาว่า “intertextuality” คือ การปนวกคาขึ้นมาโดยดูว่าเนื้อหามีความ
สอดคล้องกันและการตีความของคนในบัจจุนัน คาต่อมา คาว่า “dialectic” คือ กระนวนการในการตรวจสอน หรือเบ็น
การแลกเบลี่ยนความคิด เนื้อหาและความจริง คาสุดท้ายคือคาว่า “text” คือ เนื้อหาหรือข้อมูลต่าง ๆ ที่อาจมีส่วน
เกี่ยวข้องกันปลงาน เช่น ภาฝที่ได้แรงนันดาลใจมากจากการอ่านหรือการดูอะไรเฝื่อนามาเบ็นข้อมูลในการสร้างสรรค์
ปลงานของตนเอง
การตีความงานศิลบะดาเนินมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ Modernity จนถึง Postmodernity ซึ่งมีการตีความที่
แตกต่างกัน รูบแนนแต่ละสมัยก็มีลักษณะเฉฝาะเช่นกัน นางครั้งกลุ่มโมเดิร์น และ กลุ่มโฝสโมเดิร์น ก็มีแนวทางในการ
ทางานของตัวเองไม่มีอะไรสัมฝันธ์กันเท่าไร นอกจากนั้นแล้วการศึกษาวัฒนธรรม (Cultural Studies) เบ็นการศึกษา
เนื้อหาการทางานแนนใหม่ ที่ต้องมีการตีความทางวัฒนธรรม(Cultural Translation) เฝื่อให้ปลงานที่จัดแสดงมีความ
ชัดเจนมากขึ้น การจัดการวัฒนธรรม (Cultural Management) ยังมีความเชื่อมโยงกันปลงานเฝราะการสร้างงานชิ้น
หนึ่งต้องอาศัยเรื่องราวหรือนรินททางสังคมเบ็นตัวช่วยซึ่งจะทาให้เกิดปลงานที่สมนูรณ์มากขึ้น
นอกจากนั้นยังมีการกล่าวถึงว่า ศิลบะ เบรียนดั่ง การโฆษณาเกินจริง นิยามของคาว่า Propaganda คือ การ
เสนอความคิดเห็นที่ค่อนข้างไม่จริงและกล่าวเกินจริงไบซึ่งอาจจะกระจายตัวไบจนเบ็นการโฆษณาชวนเชื่อมากกว่าการ
นาเสนอข้อเท็จจริง ศิลบะที่นาเสนออยู่ในตอนนี้มีหลากหลายรูบแนนไม่ว่าจะเบ็นศิลบะฝื้นเมือง ศิลบะแนวศาสนา
ศิลบะโมเดิร์น ศิลบะโฝสโมเดิร์น และ ศิลบะร่วมสมัย
การตีความปลงานศิลบะในบัจจุนันต้องใช้กระนวนการต่าง ๆ มากมาย เช่น รูบแนนของศิลบะ การศึกษาที่มา
ของศิลบะ และองค์บระกอนอื่น ๆ ที่ทาให้เกิดงานศิลบะ เฝราะฉะนั้นการตีความงานศิลบะต่อสาธารณชนนั้น ไม่ใช่แค่
การวิจารณ์งานจากมุมของปู้ตีความเฝียงอย่างเดียว แต่ต้องมีองค์บระกอนจากภายนอกเข้ามาช่วยในการตีความงานให้
เกิดความถูกต้องและชัดเจนมากขึ้นด้วย
Translation of artwork into public knowledge
ประพล คาจิ่ม
คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
11 กุมภาพันธ์ 2559 ห้องคลังความรู้ มิวเซียมสยาม

More Related Content

More from National Discovery Museum Institute (NDMI)

รังแก กลั่นแกล้ง ล้อเลียน เหยียดหยาม คืออะไร ความหมายของการ bully ทั้งที่รู้ต...
รังแก กลั่นแกล้ง ล้อเลียน เหยียดหยาม คืออะไร ความหมายของการ bully ทั้งที่รู้ต...รังแก กลั่นแกล้ง ล้อเลียน เหยียดหยาม คืออะไร ความหมายของการ bully ทั้งที่รู้ต...
รังแก กลั่นแกล้ง ล้อเลียน เหยียดหยาม คืออะไร ความหมายของการ bully ทั้งที่รู้ต...National Discovery Museum Institute (NDMI)
 
We make the Museum as We Learn : Storytelling as a Bridge between Education a...
We make the Museum as We Learn : Storytelling as a Bridge between Education a...We make the Museum as We Learn : Storytelling as a Bridge between Education a...
We make the Museum as We Learn : Storytelling as a Bridge between Education a...National Discovery Museum Institute (NDMI)
 
เมื่อต้องทำนิทรรศการหอจดหมายเหตุบุคคล : มณเฑียร อาเตอลิเย่
เมื่อต้องทำนิทรรศการหอจดหมายเหตุบุคคล : มณเฑียร อาเตอลิเย่เมื่อต้องทำนิทรรศการหอจดหมายเหตุบุคคล : มณเฑียร อาเตอลิเย่
เมื่อต้องทำนิทรรศการหอจดหมายเหตุบุคคล : มณเฑียร อาเตอลิเย่National Discovery Museum Institute (NDMI)
 
การประชุมวิชาการด้านพิพิธภัณฑ์ | Museum forum 2017
การประชุมวิชาการด้านพิพิธภัณฑ์ | Museum forum 2017การประชุมวิชาการด้านพิพิธภัณฑ์ | Museum forum 2017
การประชุมวิชาการด้านพิพิธภัณฑ์ | Museum forum 2017National Discovery Museum Institute (NDMI)
 
10 ขุดแล้วไปไหน จากงานโบราณคดีสู่สื่อการเรียนรู้ชุมชน - รัศมี ชูทรงเดช
10 ขุดแล้วไปไหน จากงานโบราณคดีสู่สื่อการเรียนรู้ชุมชน - รัศมี ชูทรงเดช10 ขุดแล้วไปไหน จากงานโบราณคดีสู่สื่อการเรียนรู้ชุมชน - รัศมี ชูทรงเดช
10 ขุดแล้วไปไหน จากงานโบราณคดีสู่สื่อการเรียนรู้ชุมชน - รัศมี ชูทรงเดชNational Discovery Museum Institute (NDMI)
 
09 มนุษย(ส)ภาพในพิพิธภัณฑ์ ความกระหายใคร่รู้และการบีฑา - สุดแดน วิสุทธิลักษณ์
09 มนุษย(ส)ภาพในพิพิธภัณฑ์  ความกระหายใคร่รู้และการบีฑา - สุดแดน วิสุทธิลักษณ์09 มนุษย(ส)ภาพในพิพิธภัณฑ์  ความกระหายใคร่รู้และการบีฑา - สุดแดน วิสุทธิลักษณ์
09 มนุษย(ส)ภาพในพิพิธภัณฑ์ ความกระหายใคร่รู้และการบีฑา - สุดแดน วิสุทธิลักษณ์National Discovery Museum Institute (NDMI)
 
08 หา ‘เรื่อง’ กระบวนการสร้างเนื้อหาในนิทรรศการ - ธนาพล อิ๋วสกุล
08 หา ‘เรื่อง’ กระบวนการสร้างเนื้อหาในนิทรรศการ - ธนาพล อิ๋วสกุล08 หา ‘เรื่อง’ กระบวนการสร้างเนื้อหาในนิทรรศการ - ธนาพล อิ๋วสกุล
08 หา ‘เรื่อง’ กระบวนการสร้างเนื้อหาในนิทรรศการ - ธนาพล อิ๋วสกุลNational Discovery Museum Institute (NDMI)
 

More from National Discovery Museum Institute (NDMI) (20)

รังแก กลั่นแกล้ง ล้อเลียน เหยียดหยาม คืออะไร ความหมายของการ bully ทั้งที่รู้ต...
รังแก กลั่นแกล้ง ล้อเลียน เหยียดหยาม คืออะไร ความหมายของการ bully ทั้งที่รู้ต...รังแก กลั่นแกล้ง ล้อเลียน เหยียดหยาม คืออะไร ความหมายของการ bully ทั้งที่รู้ต...
รังแก กลั่นแกล้ง ล้อเลียน เหยียดหยาม คืออะไร ความหมายของการ bully ทั้งที่รู้ต...
 
ครู กับการ bully ในสถานศึกษา slide 1
ครู กับการ bully ในสถานศึกษา slide 1ครู กับการ bully ในสถานศึกษา slide 1
ครู กับการ bully ในสถานศึกษา slide 1
 
ครู กับการ bully ในสถานศึกษา slide 2
ครู กับการ bully ในสถานศึกษา slide 2ครู กับการ bully ในสถานศึกษา slide 2
ครู กับการ bully ในสถานศึกษา slide 2
 
Agenda museum-in focus-bully
Agenda museum-in focus-bullyAgenda museum-in focus-bully
Agenda museum-in focus-bully
 
Education Within & Beyond Museum Walls : A Singapore Case Study
Education Within & Beyond Museum Walls : A Singapore Case StudyEducation Within & Beyond Museum Walls : A Singapore Case Study
Education Within & Beyond Museum Walls : A Singapore Case Study
 
We make the Museum as We Learn : Storytelling as a Bridge between Education a...
We make the Museum as We Learn : Storytelling as a Bridge between Education a...We make the Museum as We Learn : Storytelling as a Bridge between Education a...
We make the Museum as We Learn : Storytelling as a Bridge between Education a...
 
เมื่อต้องทำนิทรรศการหอจดหมายเหตุบุคคล : มณเฑียร อาเตอลิเย่
เมื่อต้องทำนิทรรศการหอจดหมายเหตุบุคคล : มณเฑียร อาเตอลิเย่เมื่อต้องทำนิทรรศการหอจดหมายเหตุบุคคล : มณเฑียร อาเตอลิเย่
เมื่อต้องทำนิทรรศการหอจดหมายเหตุบุคคล : มณเฑียร อาเตอลิเย่
 
Museum forum2017 thai
Museum forum2017 thaiMuseum forum2017 thai
Museum forum2017 thai
 
Museum Academy 2017 poster
Museum Academy 2017 posterMuseum Academy 2017 poster
Museum Academy 2017 poster
 
Museum Academy 2017
Museum Academy 2017Museum Academy 2017
Museum Academy 2017
 
การประชุมวิชาการด้านพิพิธภัณฑ์ | Museum forum 2017
การประชุมวิชาการด้านพิพิธภัณฑ์ | Museum forum 2017การประชุมวิชาการด้านพิพิธภัณฑ์ | Museum forum 2017
การประชุมวิชาการด้านพิพิธภัณฑ์ | Museum forum 2017
 
MA application form-2017
MA application form-2017MA application form-2017
MA application form-2017
 
10 ขุดแล้วไปไหน จากงานโบราณคดีสู่สื่อการเรียนรู้ชุมชน - รัศมี ชูทรงเดช
10 ขุดแล้วไปไหน จากงานโบราณคดีสู่สื่อการเรียนรู้ชุมชน - รัศมี ชูทรงเดช10 ขุดแล้วไปไหน จากงานโบราณคดีสู่สื่อการเรียนรู้ชุมชน - รัศมี ชูทรงเดช
10 ขุดแล้วไปไหน จากงานโบราณคดีสู่สื่อการเรียนรู้ชุมชน - รัศมี ชูทรงเดช
 
09 มนุษย(ส)ภาพในพิพิธภัณฑ์ ความกระหายใคร่รู้และการบีฑา - สุดแดน วิสุทธิลักษณ์
09 มนุษย(ส)ภาพในพิพิธภัณฑ์  ความกระหายใคร่รู้และการบีฑา - สุดแดน วิสุทธิลักษณ์09 มนุษย(ส)ภาพในพิพิธภัณฑ์  ความกระหายใคร่รู้และการบีฑา - สุดแดน วิสุทธิลักษณ์
09 มนุษย(ส)ภาพในพิพิธภัณฑ์ ความกระหายใคร่รู้และการบีฑา - สุดแดน วิสุทธิลักษณ์
 
08 หา ‘เรื่อง’ กระบวนการสร้างเนื้อหาในนิทรรศการ - ธนาพล อิ๋วสกุล
08 หา ‘เรื่อง’ กระบวนการสร้างเนื้อหาในนิทรรศการ - ธนาพล อิ๋วสกุล08 หา ‘เรื่อง’ กระบวนการสร้างเนื้อหาในนิทรรศการ - ธนาพล อิ๋วสกุล
08 หา ‘เรื่อง’ กระบวนการสร้างเนื้อหาในนิทรรศการ - ธนาพล อิ๋วสกุล
 
Forum Agenda Museum Without Walls
 Forum Agenda Museum Without Walls Forum Agenda Museum Without Walls
Forum Agenda Museum Without Walls
 
Museum Forum | Museum without walls 2016
Museum Forum | Museum without walls 2016Museum Forum | Museum without walls 2016
Museum Forum | Museum without walls 2016
 
Poster Museum Without Walls 2016-TH
Poster Museum Without Walls 2016-THPoster Museum Without Walls 2016-TH
Poster Museum Without Walls 2016-TH
 
Poster Museum Without Walls 2016-ENG
Poster Museum Without Walls 2016-ENGPoster Museum Without Walls 2016-ENG
Poster Museum Without Walls 2016-ENG
 
Poster Museum Without Walls Short Film Contest
Poster Museum Without Walls Short Film ContestPoster Museum Without Walls Short Film Contest
Poster Museum Without Walls Short Film Contest
 

03 translation of artwork into public knowledge - ประพล คำจิ่ม

  • 1. Translation of artwork into public knowledge บระเด็นเรื่องการตีความเริ่มจากคาถามที่ว่า “ใครมีหน้าที่ ‘อ่าน’ และ ‘แบลความ’ งานศิลบะ ? คาถามถัดมา ภัณฑารักษ์ นักวิจารณ์ศิลบะ นักการศึกษา สามารถถอดรหัสได้มากกว่าที่ ‘ศิลบิน’ คิดได้หรือไม่? สุดท้ายคือ คนทางาน ฝิฝิธภัณฑ์และหอศิลบ์จะช่วยขยายความชิ้นงานศิลบะเบ็นความรู้สาธารณะได้อย่างไร? การตีความหมายงานศิลบะสู่สาธารณชนอาจต้องมีบัจจัยหลายอย่างที่จะทาให้งานบระสนความสาเร็จได้ ยกตัวอย่างบระเทศเฝื่อนน้านเราอาจได้มาจากการรันอิทธิฝลของตะวันตกในสมัยอาณานิคมที่มีการสั่งสอนหรือ ถ่ายทอดแนวคิดเรื่องศิลบะไว้อย่างจริงจัง การอนุรักษ์ศิลบะก็เช่นกันน่าจะได้รันการบลูกผังมาอย่างมาก ดังนั้นบระเทศ อื่น อย่างบระเทศสิงคโบร์หรือบระเทศมาเลเซียจึงมีการเรียนรู้และความเข้าใจเรื่องศิลบะได้ดีมาก แต่การตีความที่จะ ถ่ายทอดไบสู่สาธารณชนอาจไม่ใช่เรื่องที่จะทาได้ง่าย เฝราะส่วนใหญ่จะเบ็นการกล่าวเกินจริงไบกว่าปลงานที่เบ็นจริง หลักการในการตีความงานศิลบะ เริ่มจากคาว่า “intertextuality” คือ การปนวกคาขึ้นมาโดยดูว่าเนื้อหามีความ สอดคล้องกันและการตีความของคนในบัจจุนัน คาต่อมา คาว่า “dialectic” คือ กระนวนการในการตรวจสอน หรือเบ็น การแลกเบลี่ยนความคิด เนื้อหาและความจริง คาสุดท้ายคือคาว่า “text” คือ เนื้อหาหรือข้อมูลต่าง ๆ ที่อาจมีส่วน เกี่ยวข้องกันปลงาน เช่น ภาฝที่ได้แรงนันดาลใจมากจากการอ่านหรือการดูอะไรเฝื่อนามาเบ็นข้อมูลในการสร้างสรรค์ ปลงานของตนเอง การตีความงานศิลบะดาเนินมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ Modernity จนถึง Postmodernity ซึ่งมีการตีความที่ แตกต่างกัน รูบแนนแต่ละสมัยก็มีลักษณะเฉฝาะเช่นกัน นางครั้งกลุ่มโมเดิร์น และ กลุ่มโฝสโมเดิร์น ก็มีแนวทางในการ ทางานของตัวเองไม่มีอะไรสัมฝันธ์กันเท่าไร นอกจากนั้นแล้วการศึกษาวัฒนธรรม (Cultural Studies) เบ็นการศึกษา เนื้อหาการทางานแนนใหม่ ที่ต้องมีการตีความทางวัฒนธรรม(Cultural Translation) เฝื่อให้ปลงานที่จัดแสดงมีความ ชัดเจนมากขึ้น การจัดการวัฒนธรรม (Cultural Management) ยังมีความเชื่อมโยงกันปลงานเฝราะการสร้างงานชิ้น หนึ่งต้องอาศัยเรื่องราวหรือนรินททางสังคมเบ็นตัวช่วยซึ่งจะทาให้เกิดปลงานที่สมนูรณ์มากขึ้น นอกจากนั้นยังมีการกล่าวถึงว่า ศิลบะ เบรียนดั่ง การโฆษณาเกินจริง นิยามของคาว่า Propaganda คือ การ เสนอความคิดเห็นที่ค่อนข้างไม่จริงและกล่าวเกินจริงไบซึ่งอาจจะกระจายตัวไบจนเบ็นการโฆษณาชวนเชื่อมากกว่าการ นาเสนอข้อเท็จจริง ศิลบะที่นาเสนออยู่ในตอนนี้มีหลากหลายรูบแนนไม่ว่าจะเบ็นศิลบะฝื้นเมือง ศิลบะแนวศาสนา ศิลบะโมเดิร์น ศิลบะโฝสโมเดิร์น และ ศิลบะร่วมสมัย การตีความปลงานศิลบะในบัจจุนันต้องใช้กระนวนการต่าง ๆ มากมาย เช่น รูบแนนของศิลบะ การศึกษาที่มา ของศิลบะ และองค์บระกอนอื่น ๆ ที่ทาให้เกิดงานศิลบะ เฝราะฉะนั้นการตีความงานศิลบะต่อสาธารณชนนั้น ไม่ใช่แค่ การวิจารณ์งานจากมุมของปู้ตีความเฝียงอย่างเดียว แต่ต้องมีองค์บระกอนจากภายนอกเข้ามาช่วยในการตีความงานให้ เกิดความถูกต้องและชัดเจนมากขึ้นด้วย Translation of artwork into public knowledge ประพล คาจิ่ม คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 11 กุมภาพันธ์ 2559 ห้องคลังความรู้ มิวเซียมสยาม