More Related Content
More from jamiezaa123 (14)
โครงงาน
- 1. โครงงานคอมพิวเตอร์เผยแพร่ออนไลน์
เรืÉอง ระบบปฏิบัติการ (Operating System)
จัดทำโดย
1. นางสาว นฤมล สระบัว เลขทีÉ 13 ชัÊน พณ. 1/15
2. นางสาว ปริยมาศ นาสวน เลขทีÉ 15 ชัÊน พณ. 1/15
3. นางสาว ปรียาภรณ์ แสนปาก เลขทีÉ 16 ชัÊน พณ. 1/15
อาจารย์ทีÉปรึกษา
คุณครู ธิดารัตน์ พลพันธ์สิงห์
วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น
สังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษาขอนแก่น
- 2. โครงงานเรืÉอง ระบบปฏิบัติการ (operating System)
ประเภทโครงงาน โครงงานคอมพิวเตอร์เผยแพร่ความรู้ออนไลน์
ระดับชัÊน ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ปี 1
โดย นางสาว นฤมล สระบัว
นางสาว ปริยมาศ นาสวน
นางาสาว ปรียาภรณ์ แสนปาก
สถานศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น
สังกัด สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษาขอนแก่น
ครูทีÉปรึกษา คุณครู ธิดารัตน์ พลพันธ์สิงห์
ปีการศึกษา 2557
บทคัดย่อ
โครงงานคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เพืÉอศึกษาเรืÉอง ระบบปฏิบัติการจัดทำขึÊนโดยมีวัตถุประสงค์
1)เพืÉอเผยแพร่ความรู้ผ่านสืÉอออนไลน์เรืÉอง ระบบปฏิบัติการ 2) เพืÉอให้เป็นสืÉอในการศึกษาให้กับผู้ทีÉสนใจ
เรืÉอง ระบบปฏิบัติการ การเผยแพร่ความรู้ออนไลน์ใช้โปรแกรมในการดำเนินงาน ดังนีÊ โปรแกรม Microsoft Word,
โปรแกรม Mozilla Firefox, G-Mail / Blogger.
ผลการเผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรืÉอง ระบบปฏิบัติการ โครงงานประกอบด้วย ผลการประเมินของการ
เผยแพร่ความรู้ออนไลน์เพืÉอการศึกษาเรืÉอง ระบบปฏิบัติการ
กิตติกรรมประกาศ
- 4. บทคัดย่อ A
กิตติกรรมประกาศ B
สารบัญ (หน้า) C
สารบัญ (ต่อ) D
บททีÉ 1 บทนำ 1
-ทีÉมาและความสำคัญ 1
-วัตถุประสงค์ 2
-ขอบเขตการศึกษา 2
-ประโยชน์ทีÉคาดว่าจะได้รับ 2
บททีÉ 2 เอกสารทีÉเกีÉยวข้อง 3
-ความหมายของระบบปฏิบัติการ 3
-ประเภทของระบบปฏิบัติการ 4
-ระบบปฏิบัติการทีÉใช้ในปัจจุบัน 5
-หน้าทีÉของระบบปฏิบัติการ 6
บททีÉ 3 อุปกรณ์และวิธีการดำเนินการศึกษา 8
-วัสดุอุปกรณ์และเครืÉองมือทีÉใช้ในการดำเนินงาน 8
-ขัÊนตอนการดำเนินงาน 8
บททีÉ 4 ผลการศึกษาและอภิปรายผลการศึกษา 9
บททีÉ 5 สรุปผล / ข้อเสนอแนะ 11
-สรุปการเผยแพร่ความรู้ออนไลน์ 11
- 6. บททีÉ 1
บทนำ
การจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์เผยแพร่ความรู้ออนไลน์เรืÉอง ระบบปฏิบัติการ (operating System)มีบทนำ
ดังนีÊ
ทีÉมาและความสำคัญ
ถ้ามีรถยนต์อยู่แต่ขับรถยนต์ไม่เป็น รถยนต์คันดังกล่าวก็จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย คอมพิวเตอร์ก็
เช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะมีเครืÉองคอมพิวเตอร์ทีÉมีประสิทธิภาพมากเพียงใดก็ตาม ถ้าหากเครืÉองคอมพิวเตอร์ดังกล่าวไม่
มีระบบปฏิบัติการคอยควบคุมการทำงาน ซึÉงเปรียบได้กับรถยนต์ทีÉไม่มีคนขับ เครืÉองคอมพิวเตอร์ดังกล่าวก็จะไม่มี
ประโยชน์เลย ดังนัÊนระบบปฏิบัติการจึงมีความสำคัญเปรียบเสมือนกับคนขับรถยนต์ทีÉจะต้องคอยควบคุมรถให้
เดินทางไปถึงทีÉหมายอย่างถูกต้อง และปลอดภัย ระบบปฏิบัติการก็จะต้องควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ให้
ทำงานตามทีÉต้องการ เพืÉอให้ได้ผลลัพธ์ทีÉถูกต้อง
ในปัจจุบันระบบปฏิบัติการไม่ได้นำมาใช้งานกับคอมพิวเตอร์เท่านัÊน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์สมัยใหม่ต่าง ๆ
เช่น โทรศัพท์เคลืÉอนทีÉ เครืÉองเล่นเกม หรือแม้กระทังÉเครืÉองซักผ้า ก็มีระบบปฏิบัติการในการควบคุมการทำงาน
เช่นกัน แต่จะเป็นระบบปฏิบัติการทีÉออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์นัÊน ๆ โดยเฉพาะ
ระบบปฏิบัติการมีหน้าทีÉหลัก ๆ คือ การจัดสรรทรัพยากรในเครืÉองคอมพิวเตอร์ เพืÉอให้บริการซอฟต์แวร์
ประยุกต์ ในเรืÉองการรับส่งและจัดเก็บข้อมูลกับฮาร์ดแวร์ เช่น การส่งข้อมูลภาพไปแสดงผลทีÉจอภาพ การส่งข้อมูล
ไปเก็บหรืออ่านจากฮาร์ดดิสก์ การรับส่งข้อมูลในระบบเครือข่าย การส่งสัญญาณเสียงไปออกลำโพง หรือจัดสรร
พืÊนทีÉในหน่วยความจำ ตามทีÉซอฟต์แวร์ประยุกต์ร้องขอ รวมทัÊงทำหน้าทีÉจัดสรรเวลาการใช้หน่วยประมวลผล
กลาง ในกรณีทีÉอนุญาตให้ซอฟต์แวร์ประยุกต์หลายๆ ตัวทำงานพร้อมๆ กัน
ระบบปฏิบัติการ ช่วยให้ตัวซอฟต์แวร์ประยุกต์ ไม่ต้องจัดการเรืÉองเหล่านัÊนด้วยตนเอง เพียงแค่เรียกใช้บริการ
จากระบบปฏิบัติการก็พอ ทำให้พัฒนาซอฟต์แวร์ประยุกต์ได้ง่ายขึÊน
- 7. วัตถุประสงค์
1. เพืÉอเผยแพร่ความรู้ออนไลน์เรืÉอง ระบบปฏิบัติการ (operating System)
2. เพืÉอใช้เป็นสืÉอในการศึกษา และผู้ทีÉสนใจเรืÉอง ระบบปฏิบัติการ (operating System)
ขอบเขตการศึกษา
1. ขอบเขตด้านเนืÊอหาเรืÉอง ระบบปฏิบัติการ (operating System) ซึÉงประกอบด้วย การสมัคร G-Mail ,
การสมัคร Blogger, รูปภาพ Blogger.
2. โปรแกรมทีÉใช้ในการดำเนิน ได้แก่
- โปรแกรม G-Mail.
- โปรแกรม Blogger.
- โปรแกรม Google Chrome.
ประโยชน์ทีÉคาดว่าจะได้รับ
1. ได้เรียนรู้และเผยแพร่ความรู้ออนไลน์ทีÉสามารถใช้ศึกษาและค้นคว้า
2. ได้จริงได้นำเอาเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
3. สามารถนำความรู้ทีÉได้รับจากการศึกษาเรืÉอง ระบบปฏิบัติการ (operating System)ไปใช้ในการศึกษาได้
- 8. บททีÉ 2
เอกสารทีÉเกีÉยวข้อง
การจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์เผยแพร่ความรู้ออนไลน์เรืÉอง ระบบปฏิบัติการ (operating System)มีเอกสาร
ทีÉเกีÉยวข้อง ดังนีÊ
1. ความหมายของระบบปฏิบัติการ (operating System)
2. ประเภทของระบบปฏิบัติการ
3. ระบบปฏิบัติการทีÉใช้ในปัจจุบัน
4. หน้าทีÉของระบบปฏิบัติการ
ความหมายของระบบปฏิบัติการ(operating System)
ระบบปฏิบัติการ หมายถึง ชุดของโปรแกรมทีÉอยู่ระหว่างฮาร์ดแวร์แลซอฟต์แวร์ประยุกต์ มีหน้าทีÉในการ
ควบคุมการปฏิบัติงานของฮาร์ดแวร์และสนับสนุนคำสังÉสำหรับควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์ประยุกต์ ตัวอย่าง
ของซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการทีÉนิยมใช้ในปัจจุบัน เช่น MS - DOS , UNIX , Windows 95 , และ Mac System 7 เป็น
ต้น ระบบปฏิบัติงานมีหน้าทีÉหลัก ๆ คือ
1. จัดส่วนประกอบต่าง ๆ ของระบบคอมพิวเตอร์ เช่น หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจำทีÉเก็บข้อมูล
สำรองและเครืÉองพิมพ์
2. จัดการงานในส่วนของการติดต่อกับผู้ใช้
3. ให้บริการโปรแกรมประยุกต์อืÉน เช่น การรับข้อมูล และการแสดงผล เป็นต้น ปกติแล้วโปรแกรม
ประยุกต์จะถูกเรียกให้เริÉมต้นทำงานผ่านระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการทำงานอยู่เบืÊองหลังการทำงานของผู้ใช้ โดยเฉพาะระบบปฏิบัติการบนเครืÉองเมนเฟรมหรือ
เครืÉองทีÉมีขนาดใหญ่ก็ย่อมมีการทำงานทีÉซับซ้อนมากขึÊน เพราะต้องดูแลการทำงานหลายอย่างจากผู้ใช้หลายคนพร้อม
กัน
ในปัจจุบันนีÊ ระบบปฏิบัติการบนเครืÉองไมโครคอมพิวเตอร์ทีÉได้รับความนิยม จะแยกตามฮาร์ดแวร์ทีÉใช้งาน
ได้เป็น 2 ระบบ คือระบบปฏิบัติการทีÉทำงานบนเครืÉอง ไอบีเอ็มพีซี (IBM personal Computer) หรือ เลียนแบบ
ไอบีเอ็มพีซี (IBM PC Compatible) และระบบปฏิบัติการทีÉทำงานบนเครืÉองแมคอินทอช (Macintosh) โดยปกติแล้ว
โปรแกรมประยุกต์ใด ๆ จะสามารถทำงานบนระบบปฏิบัติการตัวใดตัวหนึÉงเท่านัÊน เช่น โปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด
ทีÉถูกออกแบบมาให้ทำงานบนเครืÉองไอบีเอ็มพีซี ก็จะไม่สามารถนำไปใช้งานบนเครืÉองแมคอินทอช เพราะเครืÉอง
ไอบีเอ็มพีซี จะนิยมใช้ระบบปฏิบัติการของไมโครซอฟต์ทีÉเรียกว่าเอ็มเอสดอส (MS - DOS)หรืออาจใช้ระบบทีÉใหม่
- 9. กว่าคือไมโครซอฟต์วินโดว์ (Microsoft Windows) หรือระบบปฏิบัติการแบบเปิดในตระกูลยูนิกซ์ เช่น SCO UNIX
หรือ LINUX ในขณะทีÉเครืÉองแมคอินทอชใช้ระบบปฏิบัติการทีÉเรียกว่าแมคอินทอชซิสเต็มเซเว่น (Macintosh System
7) ซึÉงออกแบบโดยบริษัทแอปเปิล การทีÉเครืÉองสองชนิดใช้ระบบปฏิบัติการต่างกัน เนืÉองมาจากมีหน่วยประมวลผล
กลางไม่เหมือนกัน ผู้ทีÉจะผลิตซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์จะต้องเลือกทีÉจะผลิตซอฟต์แวร์ให้ใช้บนระบบใดระบบหนึÉง
หรือถ้าจะให้ใช้ได้บนระบบปฏิบัติการทัÊงสองชนิดก็ต้องพัฒนาซอฟต์แวร์ขึÊนมาสองชุด
โดยมากแล้วผู้ใช้เครืÉองคอมพิวเตอร์จะไม่สนใจว่าจะใช้ระบบปฏิบัติการใด แต่จะเลือกซอฟต์แวร์ประยุกต์ทีÉ
สามารถทำงานให้ได้ประโยชน์สูงสุดตามต้องการ แล้วจึงพิจารณาว่าซอฟต์แวร์นัÊนทำงานบนระบบปฏิบัติการชนิด
ใด แต่ผู้ใช้บางกลุ่มก็เจาะจงเลือกใช้ระบบปฏิบัติการเอ็มเอสดอส เพราะมีซอฟต์แวร์ประยุกต์ให้เลือกใช้ได้มากมาย
และผู้ใช้บางกลุ่มก็ต้องการใช้เครืÉองแมคอินทอช เพราะมีระบบโต้ตอบผู้ใช้ทีÉได้ง่ายและสวยงาม
1. ระบบปฏิบัติการเอ็มเอสดอส(MS-DOS)
ผู้ใช้เครืÉองคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันนีÊมักจะมีฮาร์ดดิสก์ติดอยู่ด้วยเสมอ เมืÉอผู้ใช้เปิดเครืÉองคอมพิวเตอร์
ระบบปฏิบัติการก็จะถูกเรียกจากฮาร์ดดิสก์มาไว้ในหน่วยความจำของเครืÉองเพืÉอเตรียมทีÉจะใช้งานได้ทันทีทีÉต้องการ
ขัÊนตอนทีÉย้ายระบบปฏิบัติการเข้าสู่หน่วยความจำของเครืÉองนัÊนเรียกว่าการบูตระบบ (booting) หรือ บูตแสตป
(bootstrap) ซึÉงมีขัÊนตอนคือเมืÉอเปิดสวิทช์เครืÉองคอมพิวเตอร์ขึÊน โปรแกรมเล็ก ๆ ทีÉอยู่ในหน่วยความจำรอม (ROM)
จะเรียกเอาส่วนประกอบพืÊนฐานทีÉจำเป็นของระบบปฏิบัติการจากฮาร์ดดิสก์เข้ามาไว้ในหน่วยความจำหลัก ซึÉงจะได้
ผลลัพธ์บนจอภาพเป็น
C >หรือ C: >โดยทีÉหมายถึงดิสก์ไดร์ฟทีÉทำงานอยู่ และเครืÉองหมาย>หมายถึงการเตรียมพร้อมทีÉจะทำงาน (prompt)
จากนัÊนผู้ใช้ก็จะสามารถพิมพ์คำสังÉของเอ็มเอสดอสได้ทันที
ประเภทของระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการทีÉใช้กันโดยทัวÉไปในปัจจุบัน อาจนำเอาไปใช้ได้กับคอมพิวเตอร์หลากหลายชนิด ตัÊงแต่
เครืÉองคอมพิวเตอร์ระดับใหญ่จนถึงอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็ก อาจแบ่งได้ออกเป็น 3ชนิดคือ
- ระบบปฏิบัติการแบบเดีÉยว (stand-alone OS) เป็นระบบปฏิบัติการทีÉมุ่งเน้นและให้บริการสำหรับผู้ใช้เพียง
คนเดียว (เจ้าของเครืÉองนัÊนๆ) นิยมใช้สำหรับรับเครืÉองคอมพิวเตอร์ทีÉประมวลผลและทำงานแบบทัวÉไป เช่น เครืÉอง
คอมพิวเตอร์หรือสำนักงาน ซึÉงจะถูกติดตัÊงระบบปฏิบัติการนีÊไว้ใช้รองรับการทำงานบางอย่าง เช่น พิมพ์รายงาน ดู
หนังหรือเชืÉอมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต เป็นต้น ปัจจุบันพัฒนาให้มีคุณสมบัติทีÉเป็นเครืÉองลูกข่ายเพืÉอขอรับบริการ จาก
เครืÉองแม่ข่ายได้ด้วย
- 10. - ระบบปฏิบัติการแบบเครือข่าย (network OS) เป็นระบบการทีÉมุ่งเน้นและบริการสำหรับผู้ใช้หลายๆคน
(multi-user) นิยมใช้สำหรับงานให้บริการและประมวลผลข้อมูลสำหรับเครือข่ายโดยเฉพาะ มักพบเห็นได้กับการ
นำไปใช้ในองค์กรธุรกิจทัวÉไป เครืÉองคอมพิวเตอร์ทีÉติดตัÊงระบบปฏิบัติการเหล่านีÊจะเรียกว่า เครืÉอง sever ซึÉงเป็น
เสมือนเครืÉองแม่ข่ายทีÉให้บริการข้อมูลต่างๆ ทีÉจำเป็นสำหรับผู้ใช้นันÉเอง
- ระบบปฏิบัติการแบบฝัง (embedded OS) เป็นระบบปฏิบัติการทีÉพบเห็นได้ในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพา
ขนาดเล็ก เช่น พีดีเอ หรือSmart phone บางรุ่น สามารถช่วยในการทำงานของอุปกรณ์แบบไม่ประจำทีÉเหล่านีÊได้เป็น
อย่างดี เกิดขึÊนมาหลังสุดพร้อมๆกับทีÉอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพาเหล่านีÊได้รับความนิยมมากขึÊน บางระบบมี
คุณสมบัติทีÉใกล้เคียงกับระบบปฏิบัติการแบบเดีÉยวด้วย เช่น รองรับการทำงานทัวÉไป ดูหนัง ฟังเพลงหรือเชืÉอมต่อ
อินเทอร์เน็ตได้
ระบบปฏิบัติการทีÉใช้ในปัจจุบัน
ระบบปฏิบัติการ หรือทีÉเรียกย่อๆ ว่า โอเอส (Operating System : OS) เป็นซอฟต์แวร์ใช้ในการดูแลระบบ
คอมพิวเตอร์เครืÉองคอมพิวเตอร์ทุกเครืÉองจะต้องมีซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการนีÊระบบปฏิบัติการทีÉนิยมใช้กันมากและ
เป็นทีÉรู้จักกันดีเช่น ดอส วินโดวส์ ยูนิกซ์ ลีนุกซ์ และแมคอินทอช เป็นต้น
1) ดอส (Disk Operating System : DOS) เป็นซอฟต์แวร์จัดระบบงานทีÉพัฒนามานานแล้ว การใช้งานจึงใช้
คำสังÉเป็นตัวอักษร ดอสเป็นซอฟต์แวร์ทีÉรู้จักกันดีในหมู่ผู้ใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ในอดีต ปัจจุบันระบบปฏิบัติการ
ดอสนัÊนมีการใช้งานน้อยมาก
2) วินโดวส์ (Windows) เป็นระบบปฏิบัติการทีÉพัฒนาต่อจากดอส โดยให้ผู้ใช้สามารถสังÉงานได้จากเมาส์
มากขึÊนแทนการใช้แผงแป้นอักขระเพียงอย่างเดียวนอกจากนีÊระบบปฏิบัติการวินโดวส์ยังสามารถทำงานหลายงาน
พร้อมกันได้ โดยงานแต่ละงานจะอยู่ในกรอบช่องหน้าต่างบนจอภาพ การใช้งานเน้นรูปแบบกราฟิก ผู้ใช้งาน
สามารถใช้เมาส์เลืÉอนตัวชีÊเพืÉอเลือกตำแหน่งทีÉปรากฏบนจอภาพ ทำให้ใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ง่าย ระบบปฏิบัติการ
วินโดวส์จึงได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน
3) ยูนิกซ์ (Unix) เป็นระบบปฏิบัติการทีÉพัฒนามาตัÊงแต่ครัÊงใช้กับเครืÉองมินิคอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบัติการ
ยูนิกซ์เป็นระบบปฏิบัติการทีÉเป็นเทคโนโลยีแบบเปิด (open system) ซึÉงเป็นแนวคิดทีÉผู้ใช้ไม่ต้องผูกติดกับระบบใด
ระบบหนึÉงหรือใช้อุปกรณ์ทีÉมียีหÉ้อเดียวกัน ยูนิกซ์ยังถูกออกแบบมาเพืÉอตอบสนองการใช้งานในลักษณะทีÉมีผู้ใช้ได้
หลายคนในเวลาเดียวกันทีÉเรียกว่า ระบบหลายผู้ใช้ (multiusers) และสามารถทำงานได้หลายๆ งานในเวลาเดียวกันใน
ลักษณะทีÉเรียกว่า ระบบหลายภารกิจ (multitasking) ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์จึงนิยมใช้กับเครืÉองทีÉเชืÉอมโยงเป็น
เครือข่ายเพืÉอใช้งานร่วมกันหลายๆ เครืÉองพร้อมกัน
- 11. 4) ลีนุกซ์ (linux) เป็นระบบปฏิบัติการทีÉพัฒนามาจากระบบยูนิกซ์ เป็นระบบซึÉงมีการแจกจ่ายโปรแกรม
ต้นฉบับให้นักพัฒนาช่วยกันพัฒนาคุณสมบัติของระบบปฏิบัติการ ระบบปฏิบัติการลีนุกซ์เป็นทีÉนิยมกันมากขึÊนใน
ปัจจุบัน เนืÉองจากมีโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ ทีÉทำงานบนระบบลีนุกซ์จำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิงÉโปรแกรมใน
กลุ่มของกูส์นิว (GNU) และสิÉงทีÉสำคัญทีÉสุดก็คือระบบลีนุกซ์เป็นระบบปฏิบัติการประเภทแจกฟรี (Free Ware) ผู้ใช้
สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
5) แมคอินทอช (macintosh) เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับเครืÉองไมโครคอมพิวเตอร์ แมคอินทอช ส่วนมากนำไปใช้
งานด้านกราฟิก ออกแบบและจัดแต่งเอกสาร นิยมใช้ในสำนักพิมพ์ต่างๆ นอกจากระบบปฏิบัติการทีÉกล่าวมาแล้วยัง
มีระบบปฏิบัติการอีกมาก เช่นระบบปฏิบัติการทีÉใช้ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพืÉอให้คอมพิวเตอร์ทำงานร่วมกันเป็น
ระบบ เช่น ระบบปฏิบัติการเน็ตแวร์ นอกจากนีÊยังมีระบบปฏิบัติการทีÉใช้งานเฉพาะกับเครืÉองคอมพิวเตอร์ทีÉสร้าง
ขึÊนมาเพืÉองานใดงานหนึÉงโดยเฉพาะ ซึÉงส่วนใหญ่จะใช้ในห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ในสถาบันการศึกษา
หน้าทีÉของระบบปฏิบัติการ
หน้าทีÉของระบบปฏิบัติการ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
หน้าทีÉหลัก คือ จัดการทรัพยากรต่าง ๆ ภายในระบบ ได้แก่ หน่วยประมวลผล หน่วยความจำ อุปกรณ์
อินพุต–เอาท์พุต อุปกรณ์สืÉอสาร และข้อมูล
หน้าทีÉรอง ประกอบด้วยเป็นตัวกลางระหว่างฮาร์ดแวร์กับผู้ใช้ (User Interface)เพืÉอให้ผู้ใช้สามารถควบคุม
การทำงานของฮาร์ดแวร์ได้ ซึÉงการติดต่อระหว่างฮาร์ดแวร์กับผู้ใช้อาจอยู่ในรูปของตัวอักษร หรือรูปภาพ (Graphic
User Interface : GUI)
ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ฮาร์ดแวร์ร่วมกันได้ ในองค์กรส่วนใหญ่จะมีผู้ใช้คอมพิวเตอร์มากกว่า 1 คนขึÊนไป
และจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์บางอย่างร่วมกัน เช่น เครืÉองพิมพ์ อุปกรณ์เก็บข้อมูล เป็นต้น
ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ข้อมูลร่วมกัน ระบบปฏิบัติการจะอนุญาตให้ผู้ใช้แต่ละคนมีสิทธิÍใช้ข้อมูลนัÊน ๆ และ
ช่วยจัดคิวของผู้ใช้ในการเข้าถึงข้อมูล เพืÉอให้ข้อมูลมีความถูกต้องแม่นยำ
แก้ไขปัญหาการทำงาของระบบ ในการทำงานของคอมพิวเตอร์บางครัÊงอาจเกิดความผิดพลาดในขณะทีÉ
ทำงานอยู่ ระบบปฏิบัติการจะทำการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เพือÉให้ระบบมีเสถียรภาพอยู่เสมอ
ช่วยให้หน่วยอินพุท-เอาท์พุตทำงานได้คล่องตัวในการติดต่อระหว่างคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อินพุต และ
เอาท์พุตต่าง ๆ ต้องอาศัยระบบปฏิบัติการ เพืÉอให้ระบบต่าง ๆ ทำงานได้ถูกต้องและสอดคล้องกัน
คำนวณทรัพยากรทีÉใช้ไป ในการทำงานคอมพิวเตอร์นัÊนเราต้องใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ทีÉจำเป็นต่อระบบ
ระบบปฏิบัติการจะช่วยคำนวณทรัพยากรทีÉได้ใช้ไปแล้ว เพืÉอให้ผู้ใช้ ใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ได้อย่างคุ้มค่ามากทีÉสุด
ช่วยให้ระบบทำงานเป็นแบบขนาน ระบบปฏิบัติการจะแบ่งการทำงานเป็นส่วน ๆ เรียกว่าโปรเซส
(Process)ซึÉงจะทำให้การทำงานเสร็จเร็วยิงÉขึÊนจัดการโครงสร้างของข้อมูลทีÉจัดเก็บไว้ภายในเครืÉองคอมพิวเตอร์
เพืÉอให้มีความปลอดภัยต่อข้อมูล และมีการเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็ว
- 13. บททีÉ 3
อุปกรณ์และวิธีการดำเนินการศึกษา
การจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์เผยแพร่ความรู้ออนไลน์เรืÉอง ระบบปฏิบัติการ (operating System)มีอุปกรณ์
และวิธีการดำเนินการศึกษา
1.วัสดุอุปกรณ์และเครืÉองมือทีÉจะใช้ในการดำเนินงาน
1.1 เครืÉองคอมพิวเตอร์ พร้อมเชืÉอมต่อระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
1.2 โปรแกรมทีÉใช้ในการดำเนิน ได้แก่
- โปรแกรม G-Mail.
- โปรแกรม Blogger.
- โปรแกรม Google Chrome.
2.ขัÊนตอนการดำเนินงาน
1.1 คิดหาหัวข้อเพืÉอนำเสนออาจารย์ทีÉปรึกษา
1.2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูลหัวข้อทีÉคณะผู้จัดทำสนใจเรืÉอง ระบบปฏิบัติการ (operating System) ศึกษา
เพิÉมเติมในเว็บไซต์ต่างๆ และจัดเก็บข้อมูลเพืÉอจัดทำเนืÊอหาต่อไป
1.3 ศึกษาจากการ โปรแกรม Google Chrome และเว็บไซต์ต่างๆ ทีÉเสนอการสมัคร G-Mail และสร้าง
Blogger.
1.4 จัดทำเค้าโครงโครงงานคอมพิวเตอร์เพืÉอนำเสนออาจารย์ทีÉปรึกษา
1.5 จัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์เผยแพร่ความรู้ออนไลน์เรืÉองระบบปฏิบัติการ(operating System)
1.6 นำเสนอรายงานความก้าวหน้าให้ครูทีÉปรึกษาโครงงานได้ตรวจสอบ ซึÉงครูทีÉปรึกษาจะให้ข้อเสนอแนะ
ต่างๆ เพืÉอให้จัดทำเนืÊอหาและการนำเสนอทีÉน่าสนใจ ทัÊงนีÊเมืÉอได้รับคำแนะนำก็นำมาปรับปรุงแก้ไข ให้เป็นทีÉ
น่าสนใจยิงÉขึÊน
1.7 จัดทำเอกสารโครงงานคอมพิวเตอร์
1.8 ประเมินผลงานโดยครูทีÉปรึกษาประเมินผลงานและให้เพืÉอนผู้ทีÉสนใจร่วมประเมิน
บททีÉ 4
- 14. ผลการศึกษาและอภิปรายศึกษา
การจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์เผยแพร่ความรู้ออนไลน์เรืÉอง ระบบปฏิบัติการ (operating System)มีผล
การศึกษาและอภิปรายศึกษา ดังนีÊ
ในการศึกษาโครงงานครัÊงนีÊเป็นการศึกษาวิจัยเชิงสำรวจเพือÉศึกษา “ความพึงพอใจในการเผยแพร่บทความรู้
ออนไลน์ เรืÉอง ระบบปฏิบัติการ (operating System)” ซึÉงประกอบไปด้วย
1. วิชา ระบบปฏิบัติการเบืÊองต้น (2204-2002)
2. วิชา โปรแกรมประมวลผลคำ (2204-2108)
3. วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพืÉองานอาชีพ (2201-2001)
รวม 3 รายวิชาดังกล่าว โดยการบูรณาการร่วมกัน เป็นการนำเสนอผลการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ ผลการ
ประเมินได้จากเก็บข้อมูลจากกลุ่มนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ห้อง พณ.1/15 ผู้จัดทำขอนำเสนอผลงาน
รวม BlogSpotทุกชัÊนเรียน ระดับ ปวช. 1 แผนกสาขาคอมพิวเตอร์ ของครู ธิดารัตน์ ผลพันธ์สิงห์
http://kvcthidarat.blogspot.com/ซึÉงรวมทุก BlogSpot ในระดับชัÊน ปวช. 1 แผนกสาขาคอมพิวเตอร์ ผู้จัดทำได้จัดทำ
BlogSpotเพืÉอเผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เรืÉอง ระบบปฏิบัติการ (operating
System)http://www.zermookmik.blogspot.com/การวิเคราะห์ข้อมูลโดยจำแนกรายละเอียด โดยวิธีการศึกษาข้อมูล
ดังนีÊ
BlogSpot ของครู ธิดารัตน์ พลพันธ์สิงห์ รวมทุก BlogSpot ของนักเรียน ระดับ ปวช. 1 แผนก
คอมพิวเตอร์
- 16. บททีÉ 5
สรุปผลและข้อเสนอแนะ
การจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์เผยแพร่ความรู้ออนไลน์เรืÉอง ระบบปฏิบัติการ (operating System)มีสรุปผล
และข้อเสนอแนะ ดังนีÊ
5.1 สรุปการเผยแพร่ความรู้ออนไลน์
คณะผู้จัดทำได้เผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เพืÉอการศึกษาเรืÉอง ระบบปฏิบัติการ (operating System) ซึÉงมี
รายละเอียด ดังนีÊ
5.1.1 บทความเรืÉอง ระบบปฏิบัติการ (operating System)
5.2 การทดสอบการเผยแพร่ความรู้ออนไลน์
ในการทดสอบการเผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เพืÉอการศึกษาเรืÉอง ระบบปฏิบัติการ (operating System) คณะ
ผู้จัดทำได้ใช้วิธีการทดสอบ โดยการโพสต์ใน BlogSpot เป็นการเผยแพร่ความรู้ออนไลน์ มีข้อผิดพลาดเล็กน้อยใน
การแปลง File
จากการทดสอบ พบว่า BlogSpot ทีÉมีบทความเรืÉอง ระบบปฏิบัติการ (operating System) ทีÉเผยแพร่เพืÉอ
การศึกษาสามารถนำมาใช้ได้จริง และครบถ้วนตามวัตถุประสงค์
5.3 อุปสรรคในการทำโครงงาน
ในการทดสอบการเผยแพร่ความรู้ออนไลน์ เพืÉอการศึกษาเรืÉอง ระบบปฏิบัติการ (operating System) พบ
ปัญหาต่างๆ ดังนีÊ
5.3.1 การแปลง File จาก Microsoft Word เป็น Pdf file ต้องปรับขนาดตัวอักษรเอง ตัวอักษรอาจไม่เท่ากัน
ต้องมาจัดเนืÊอหาให้น่าสนใจอย่างเดิม
5.4 ข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนาต่อ
5.4.1 ควรศึกษาเพิÉมเติมจากเว็บไซต์ต่างๆ และเพิÉมเนืÊอหาให้มากมายหลากหลายกว่านีÊ
5.4.2 ควรเพิÉมแบบทดสอบ หรือ แบบการประเมิน
